Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ต้นงิ้ว...(ไม่เกี่ยวกับกระทะทองแดง)













วันนี้..ก่อนที่จะคิดว่าจะอัพบล็อกเรื่องอะไรดีน๊า..
ก็บังเอิญได้ฟังเปลงนี้.."ต้นงิ้วริมทาง"

เลยปิ๊งๆๆ มีเรื่องให้หามาลงบล็อกแล้วคับ


อยากรู้จริงๆว่า..ต้นงิ้ว ที่คนเจ้าชู้ กลัวนักกลัวหนานี่ เอาไว้ให้ปีนอย่างเดียวเลยหรอ

มันไม่มีประโยชน์อย่างอื่นอีกหรือ..!!


ไปหาข้อมูลมา...โห...มีอีกหลายอย่างที่ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน...


เชิญผู้ที่สนใจ..หรือผู้ที่จะศึกษาเกี่ยวกับต้นงิ้วอย่างกระจ่าง...(คนเช้าชู้ ขอแนะนำอย่างยิ่ง) ฮ่าๆ

มาอ่านกันเลยคร๊าบ



-------------------



โบราณเปรียบเทียบหญิงมากชู้หลายผัว ว่าเป็นนางกากี ซึ่งมีเค้าเรื่องมาจาก ‘กากาติชาดก’ ว่า

พระโพธิสัตว์ครั้งเกิดเป็นพระราชาผู้ครองเมืองพาราณสี

มีพระเทวีนามว่า ‘กากาติ’ ซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง

วันหนึ่งมีพญาครุฑชื่อว่า ‘ท้าวเวนไตรย’ แปลงร่างเป็นมนุษย์มาเล่นสกา (การพนันชนิดหนึ่ง) กับพระราชา ท้าวเวนไตรย เห็นพระนางกากาติ ก็เกิดความรักใคร่ จึงแอบพาหนีไปอยู่ที่วิมานฉิมพลีซึ่งเป็นที่อยู่ของตน

เมื่อพระราชาทราบเรื่องจึงมีรับสั่งให้คนธรรพ์ชื่อ ‘กุเวร’ นำพระเทวีกลับมา

กุเวรได้ไปแอบซุ่มอยู่ในดงตะไคร้ข้างสระ พอพญาครุฑบินไปจากสระก็แอบกระโดดเกาะปีกไปจนถึงวิมานฉิมพลี

แล้วแอบได้เสียกับพระเทวีที่วิมานนั้น จากนั้นก็เกาะปีกพญาครุฑกลับมาเมืองพาราณสีอีก

วันหนึ่งขณะที่พญาครุฑเล่นสกาอยู่กับพระราชา คนธรรพ์ก็ขับร้องเป็นเพลงว่า

“คนรักของเราอยู่ ณ ที่แห่งใด กลิ่นของนางยังหอมฟุ้งมาที่แห่งนั้น ใจของเรายินดีในนางใด นางนั้นชื่อกากาติ อยู่ไกลจากที่นี้” พญาครุฑพอได้ฟังแล้วสะดุ้งจึงถามกลับไปว่า

“ท่านข้ามทะเลมหาสมุทรทั้ง 7 แห่ง ไปได้อย่างไร แล้วขึ้นวิมานฉิมพลีได้อย่างไร”

คำตอบที่ได้คือ “เราข้ามทะเลมหาสมุทรทั้ง 7 แห่งได้ ก็เพราะท่าน ขึ้นวิมานฉิมพลีได้ก็เพราะท่านอีกนั่นแหละ”

เมื่อพญาครุฑได้ทราบความจริงจึงกล่าวติเตียนตัวเองว่ามีร่างการใหญ่โตเสียเปล่า แต่ไม่มีความคิด


จึงเป็นพาหนะให้ชายชู้ของเมีย

ดังนั้นจึงได้นำพระเทวีกากาติ มาคืนพระราชา และไม่กลับมาเล่นสกากับมนุษย์อีกเลย





วิมานฉิมพลีของพญาครุฑ ก็คือ “ต้นงิ้ว” ซึ่งเรียกในภาษาบาลีว่า “สิมพลี” นั่นเอง!!!





..งิ้ว..

ชื่ออื่นๆ : บักจี้ (จีน), งิ้วปง, งิ้วปงแดง, สะเน?มระกา (ชอง-จันทบุรี), งิ้วแดง(กาญจนบุรี), งิ้วบ้าน (ทั่วไป)

ชื่อสามัญ : Kapok Tree, Cotton Tree, Red Cotton Tree, Silk Cotton Tree, Shaving Brus

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gossampinus Malabarica (DC.) Merr. วงศ์ : BOMBACAEAE


เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูงราว 15-20 เมตร เรือนยอดทรงกลมแผ่กว้าง ลำต้นปลายตรง เปลือกสีน้ำตาล อมเทา มีหนามแหลมคมทั่วทั้งลำต้น


ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อย 5-7 ใบ ใบรูปรี ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา ดอกมีสีส้มแดง แดงเหลือง หรือขาว

มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ออกเป็นช่ออยู่ตามปลายกิ่ง ช่อหนึ่งๆมีดอกราว 3-5 ดอก
มีกลิ่นหอมและร่วงง่าย ออกดอกราวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์

ส่วนผลมีลักษณะกลมรี เปลือกแข็ง ภายในผลมีเมล็ดกลมสีดำ มากมาย ซึ่งมีปุยสีขาวหุ้มห่ออยู่ เมื่อแก่จัดผลหรือฝักนี้จะแตกออก


ประโยชน์ของงิ้วมีมากมาย เช่น เนื้อไม้ เป็นไม้เนื้ออ่อน จึงนำมาทำดินสอ ไม้จิ้มฟัน เยื่อกระดาษ, เปลือก ใช้ทำเส้นใย เชือก , น้ำมันจากเมล็ดใช้ปรุงอาหาร ทำสบู่ และปุยสีขาวยัดหมอนและที่นอน เช่นเดียวกับนุ่น


ส่วนสรรพคุณทางยาพื้นบ้านหรือยาสมุนไพรนั้นก็มีไม่น้อย อาทิ เปลือก ใช้สมานแผลแก้ท้องร่วง กระเพาะอาหารอักเสบ ดอก ใช้แก้ไข้ ท้องร่วง บิด แผลฝีหนอง ห้ามเลือด ฟกช้ำบวม อักเสบ แก้คัน แก้กระหายน้ำ ยางใช้ห้ามเลือด ราก ใช้สมานแผล แก้แผลในกระเพาะอาหาร บำรุงกำลัง ฯลฯ










ในพระสูตรที่ว่าด้วย ‘เทวทูตสูตร’ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงให้เห็นถึงมหานรก ที่มีการลงโทษคนที่กระทำความชั่ว อย่างน่าสะพรึงกลัว ก็ได้กล่าวถึงต้นงิ้วไว้ในความตอนหนึ่งว่า


“ดูกรภิกษุทั้งหลายและนรกเถ้ารึงนั้นมีปางงิ้วใหญ่ประกอบอยู่รอบด้าน ต้นสูงชะลูดขึ้นไปโยชน์หนึ่ง มีหนามยาว 16 องค์คุลี มีไฟติดทั่วลุกโพลง โชติช่วง เหล่านายนิรยบาลจะบังคับให้สัตว์นั้นขึ้นๆ ลง ๆ ที่ต้นงิ้วนั้น สัตว์นั้นย่อมเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบอยู่ที่ ต้นงิ้วนั้น และยังไม่ตาย ตราบเท่าบาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นสุด ฯ”


และใน ‘นารทชาดก’ ได้พูดถึงเรื่องต้นงิ้วดังนี้ “...ต้นงิ้วสูงเทียมเมฆ เต็มไปด้วยหนามเหล็กคมกริบ กระหายเลือดคน หญิงผู้ประพฤติล่วงสามี และชายผู้หากระทำชู้ภรรยาผู้อื่น ถูกนายนิรยบาลผู้ทำตามสั่งของพระยายม ถือหอกไล่ทิ่มแทง ให้ขึ้นต้นงิ้วนั้น...”


รู้จักต้นงิ้วกันอย่างนี้แล้วไม่รู้ว่ายังจะมีใครอยากปีนอีกหรือป่าว













เป็นยาบำรุง-แก้ท้องร่วง-ลดอาการบวมอักเสบ



ถ้าจะพูดถึงต้นงิ้ว ทุกคนก็คงจะนึกถึงกระทะทองแดงควบคู่ไปด้วย ตามที่คนโบราณเล่าขานกันมาว่าถ้าเกิดทำผิดหรือทำชั่วแล้วจะต้องปีนต้นงิ้ว แต่ปัจจุบันนี้ต้นไม้ที่น่ากลัวนี้สามารถที่จะทำประโยชน์ให้กับมนุษย์เราได้มากมาย แล้วแต่ว่าจะใช้เป็นหรือไม่



ลักษณะของต้นงิ้วเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ยอดแผ่พุ่มกว้างตามต้นจะมีหนามแหลม รูปกรวย ใบสีเขียวยาว จัดอยู่ในประเภทใบรวม ใบนุ่น ปลายใบแหลม ดอกออกเป็นช่อ ตามต้นปลายกิ่ง สีแดงส้ม กลีบเลี้ยงหนา ดอกใหญ่และดกมาก เมื่อเวลาออกดอกจะผลักใบ จึงทำให้ดูแดงไปทั้งต้น เมื่อดอกโรยจะมีผลรีๆปลายแหลม ออกดอกในฤดูแล้งประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด





ในบางพื้นที่ชอบเก็บดอกและตากแห้ง สามารถเก็บไว้ประกอบอาหารได้เป็นเวลานานๆ ที่นิยมมากเช่นทำน้ำขนมจีนนำเงี้ยวในภาคเหนือ ทำเป็นแกงเรียกว่า แกงดอกงิ้ว ลวกจิ้มน้ำพริก แกงส้ม ดอกงิ้วชุบแป้งทอด แต่ต้องแยกระหว่างกลีบดอกและเกสรออก หรือทำเป็นขนมถือว่าเป็นอาหารบำรุงสุขภาพชั้นยอดเพราะมีแคลเซียมสูง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกควบคู่กับการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย







นอกจากจะนำดอกมาประกอบอาหารแล้วส่วนต่างๆ ของต้นงิ้วก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้เหมือนกัน เช่น



- รากสามารถทำเป็นยาบำรุงกำลังและทำให้อาเจียนเพราะมีโปรตีนและไขมันมาก



- เกสรตัวผู้แห้ง นำมาแต่งสีในแกงส้มหรือแกงกะหรี่ให้มีสีเข้มขึ้น



- ดอกแห้งตำผสมน้ำทาระงับปวดแก้ท้องร่วงธรรมดา บิด ต้มน้ำกิน



- เส้นใยของฝักงิ้วใช้ทำนุ่นยัดหมอน



- ผลอ่อนนำมาทำเป็นผักสดจิ้มกินกับน้ำพริกหรือส้มตำ



- เปลือกนำมาฟั่นเป็นเชือก เปลือกอ่อนนำมาตากแห้งบดเป็นผงเป็นบำรุง ขับน้ำเหลือง เลือดลมไหลเวียนดี เป็นยากระตุ้นทางเพศ กระเพาะอาหารอักเสบ



- ใบและยอดอ่อนตำพอกใช้รักษาฝี ฟกช้ำดำเขียว อาการบวมอักเสบ



งิ้วที่หลายคนคิดกันว่าเป็นต้นไม้ที่น่ากลัว ซึ่งเป็นความเชื่อแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน แต่ต่อไปนี้คงจะรู้แล้วว่าสามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์จริงๆ ทั้งประกอบอาหาร ของใช้ เป็นยาสมุนไพรรักษาอาการต่างๆ ได้ดีแล้วยังสามารถเก็บไว้ได้นานด้วย






อ้อ...อันนี้แถมแล้วกันคับ อิอิอิ

ไปเก็บเรื่องขำขันมาได้เรื่องนึงเหมือนกัน...




เรื่อง ไม่ยุติธรรม


ไอ้หนุ่มไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน..พอผัวเขารู้เข้า ไอ้หนุ่มก็ถูกยิงตาย

ในการพิพากษาในนรก....!
มัจจุราช--- เจ้าเป็นชู้ สมสู่กับเมียชาวบ้าน.. ถูกลงโทษปีนต้นงิ้วเป็น
เวลา10 ปีนรก... เจ้าจะยอมรับหรือไม่

ไอ้หนุ่ม--- ยอมครับ.. จากนั้นไอ้ป็อปก็ถูกยมทูตพาตัวไปปีนต้นงิ้ว..

ขณะที่กำลังเริ่มปีนอยู่นั้น ไอ้หนุ่มก็แหงนไปเห็นหนุ่ม 4 คนกำลังรุมโทรม
หญิงนางหนึ่งอยู่ข้างๆ ต้นงิ้ว..ด้วยความสงสัย ไอ้หนุ่มจึงหันไปถามยมทูต..

ไอ้หนุ่ม--- ท่านยมทูตครับ..พวกนั้นเขาทำผิดอะไร ถึงมีโทษเช่นนั้นครับ

ยมทูต--- อ๋อ! ความผิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านน่ะ.

ไอ้หนุ่ม--- โอ้โห..งั้นก็ไม่ยุติธรรมสิครับ..ทำไมผมถึงต้องปีนต้นงิ้วด้วยล่ะ.
แต่ พวกนั้น. โห! สบายเลย..ผมขอเปลี่ยนเป็นแบบนั้นดีกว่า..

ยมทูต--- เอ๊ย! ไม่ได้ มันผิดระเบียบ..

ไอ้หนุ่ม--- ถ้าไม่ได้..อืม! เดี๋ยวผมจะไปฟ้องท่านมัจจุราช.. แล้วท่านจะหนาว

ยมทูต--- เออๆๆ..ข้ายอมเอ็งแล้ว..

พลางท่านยมทูตหันไปพูดกับหนุ่มพวกนั้น..

ยมทูต--- เอ๊ยๆ..พวกเอ็ง
เลิกข่มขืนนางนั่นได้แล้ว..เอานางนั่นไปปีนต้นงิ้ว

แล้วพวกเอ็งมารุมข่มขืนไอ้นี่แทน..มันขอข้าว่ะ ผั๊บผ่าสิ.!


ไอ้หนุ่ม--- ????




ฮ่าๆๆๆๆ

-------------------------------



อ่านมาตั้งนาน..ผมเพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่า...

ภาษาบาลี "สิมพลี" ที่เราเรียกเพี้ยนมาเป็น"ฉิมพลี" แปลว่า "ต้นงิ้ว" !!!

และคำว่า"เวนไตรย"...แท้จริงเป็นชื่อของ "พญาครุฑ" นี่เอง ฮี่ๆๆๆ



เห็นมั๊ยๆๆครับว่า...ต้นงิ้ว(Kapok Tree)ไม่ค่อยจะน่ากลัวอย่างที่คิด...

ขนาด"ดอก"มัน...คนเรา..ยังเอามาชุบแป้งทอดทานซะเลย..


เฮ้อ


เมื่อต้นงิ้วถูกลดความน่ากลัวลงไปซะแล้ว...ยังไงก็กลัวเวรกรรมกันมั่งนะครับ

ยิ่งสมัยนี้...เวรกรรมติด High Speed นะคร๊าบ





ปล. ขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพเดิม ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ



















Create Date : 23 มกราคม 2551
Last Update : 23 มกราคม 2551 0:00:21 น. 9 comments
Counter : 10448 Pageviews.

 
เกิดมาก็หลายปีเพิ่งจะเห็นต้นงี้วก็คราวนี้หล่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะฮันนี่ที่นำมาฝากกันชม เยี่ยมไปเลยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:0:10:21 น.  

 
ด้วยความคิดถึงนะครับ เลยส่ง Tag 70 ข้อมาให้ ค่อยๆ ตอบไปนะครับ ไม่ต้องรีบ เหตุผลที่ส่งมาให้ เค้าไปอ่านใน Tag ข้อที่ 69 นะครับ


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:1:23:43 น.  

 
เง้อ
น่ากลัว
จะไม่ทำบาป
อีกแล้วค่ะ


โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:4:34:39 น.  

 
ต้นงิ้วเป็นอย่างงี้นี่เอง เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกเป็นครั้งแรก ขอบคุณค่ะที่เอามาแบ่งปันกัน


โดย: Suessapple วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:4:36:22 น.  

 
เพิ่งเคยเห็นต้นจริงๆก็บล๊อกนี้แหละค่ะ เป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์เยอะดีนะคะ


โดย: Pook_nana วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:12:46:31 น.  

 
ดีมากขอบคุณที่ให้ความรู้


โดย: มาดาม K IP: 124.120.144.4 วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:15:04:53 น.  

 
เคยทำน้ำเงี้ยวกินไปแล้ว

แต่ไม่เคยรูัจักต้นมันเลย

เพิ่งจะทราบก็นี่แหล่ะค่ะ

ต้นมันน่ากลัวจัง แต่ดอกแห้งมันทำแกงอร่อยดี






ขอบคุณนะคะ สำหรับข้อมูลที่นำเสนอ


โดย: ป้า (ลักกี้ ) วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:20:13:22 น.  

 
เห็นดอกงิ้วแล้วอยากกินขนมจีนน้ำเงี้ยวจังคะ
พึ่งรู้นะค่ะว่ามันมีประโยชน์หลายอย่าง
โดยเฉพาะเอาไว้ให้คนเจ้าชู้ปีน
เข้ามาทักทายค่ะ


โดย: มดทิพย์ วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:22:45:18 น.  

 
เวรกรรมมันมีจริงแน่ๆ ไปแย่งแฟนคนอื่นเรารู้สึกว่ามันสนุก แต่ถ้าวันหนึ่งเค้ามาแย้งคนที่เรารักที่สุด แล้วคิดว่าเราจะทำใจได้มั้ย


โดย: ืNeng IP: 117.47.127.20 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:10:52:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.