กันยายน 2561

 
 
 
 
 
 
1
2
8
9
15
16
22
23
26
28
29
30
 
 
All Blog
รู้จักโรคกรดไหลย้อน



acid01

กรดไหลย้อนเป็นโรคหนึ่งที่เกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหาร ซึ่งมักจะเกิดได้ง่ายกับทุกคน และสร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากทีเดียว โดยโรคนี้อาจดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนก็จะทำให้อาการรุนแรงได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับโรคกรดไหลย้อนให้มากขึ้น เพื่อป้องกันและเตรียมตัวรับมือเมื่อเกิดอาการนั่นเอง โดยเฉพาะในบุคคลที่เสี่ยง เช่น คนอ้วนและหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น

โรคกรดไหลย้อนคืออะไร ?

กรดไหลย้อนคือโรคที่เกิดจากการที่มีกรดออกมาในขณะย่อยอาหารมากเกินไป เมื่ออาหารที่ย่อยแล้วถูกบีบลงไปในลำไส้ จึงทำให้กรดส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการแสบแน่นในทรวงอก และรู้สึกได้ถึงรสเปรี้ยว แสบในคอ ซึ่งใช้เวลานานกว่าอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงไป หรืออาจต้องรับประทานยาลดกรดไหลย้อนร่วมด้วย

สาเหตุ

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน มี 2 สาเหตุหลักด้วยกัน คือ ความผิดปกติของกระเพาะอาหาร และปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน ซึ่งมีดังนี้

1.สาเหตุจากกระเพาะอาหารผิดปกติ

2.สาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ โรคอ้วน  การตั้งครรภ์  การสูบบุหรี่  ความเครียด 

อาการของโรคกรดไหลย้อน

อาการของโรคกรดไหลย้อน นอกจากแสบร้อนทรวงอกแล้วก็จะมีอาการอื่น ๆ ที่ต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาการของโรคกรดไหลย้อนส่วนใหญ่ที่สังเกตได้ มีดังนี้

  • เกิดอาการขย้อนอาหารและเรอจนน้ำย่อยขึ้นมาสัมผัสที่คอ ทำให้รู้สึกถึงรสเปรี้ยวและแสบบริเวณคอหอย หรืออาจมีรสขม ๆ ของน้ำดีด้วย นอกจากนี้การหายใจก็อาจมีกลิ่นออกมาเช่นกัน
  • จุกแน่นยอดอกคลื่นไส้ ให้ความรู้สึกเหมือนอาหารไม่ย่อยและมีอาการเรอบ่อย ๆ
  • มีอาการไอบ่อย ๆ และรู้สึกเหมือนมีเสมหะอยู่ในคอ โดยอาการแบบนี้เกิดจากการที่กรดไหลย้อนอย่างรุนแรง โดยกรดไหลย้อนขึ้นมาถึงปากและคอหอยนั่นเอง
  • รู้สึกขมคอ เจ็บคอ และมีเสียงแหบพร่าเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า หรืออาจมีอาการไอเรื้อรัง เปรี้ยวปาก และเรอบ่อย ๆ ร่วมด้วย ซึ่งก็อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากทีเดียว
  • ในบางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อน โดยจะมีอาการอาเจียนเป็นเลือด กลืนอาหารลำบาก ไอเรื้อรังปอดอักเสบ และที่ร้ายแรงสุดก็คือ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกล่องเสียงได้นั่นเอง

วิธีรักษาโรคกรดไหลย้อน

เมื่อเกิดโรคกรดไหลย้อนแล้วจะต้องรักษาโรคอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ จนก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานยิ่งขึ้น ซึ่งการรักษาโรคกรดไหลย้อนสามารถรักษาได้หลายวิธี ดังนี้

  1. รับประทานยาลดกรด

เนื่องจากโรคกรดไหลย้อนมักจะมีอาการกำเริบบ่อย ๆ จึงต้องรับประทานยาลดกรด ซึ่งอาจรับประทานตามแพทย์สั่งหรือซื้อมารับประทานเองก็

  1. ผ่าตัด

การรักษาด้วยการผ่าตัดจะใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นให้หายได้ ซึ่งวิธีนี้ก็มีความเสี่ยงมากพอสมควร

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

สำหรับผู้ป่วยแบบเรื้อรังที่มักจะมีอาการกรดไหลย้อนบ่อย ๆ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการกำเริบ โดยสามารถทำได้ดังนี้

ใส่ใจเรื่องอาหารให้มากขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทุกชนิดที่เสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อน เช่น อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มคาเฟอีน น้ำอัดลม กระเทียม และหัวหอม เป็นต้น โดยอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากเกินไป และทำลายระบบกระเพาะอาหารให้เสื่อมสภาพอีกด้วย

ผ่อนคลายความเครียด พยายามผ่อนคลายความเครียด และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะได้เป็นอย่างดี

ควบคุมน้ำหนักอยู่เสมอ โดยเฉพาะในคนอ้วน ควรหมั่นออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม เมื่อน้ำหนักลด ความดันในกระเพาะอาหารก็จะลดลงไปด้วย และส่งผลดีต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมหรืออิริยาบถบางอย่าง ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบหรือการก้มหยิบของหลังจากเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ ควรยืนหรือนั่งตัวตรงอย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อรอให้อาหารย่อยผ่านกระเพาะอาหารเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญไม่ควรออกกำลังกายในช่วงนี้ด้วย เพราะจะทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายเช่นกัน

ควรรับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากเกินไป  และการดื่มน้ำในระหว่างรับประทานอาหารจะช่วยเจือจางกรดในกระเพาะได้เป็นอย่างดี

  1. บรรเทาอาการด้วยสมุนไพร

สมุนไพรบางชนิดสามารถบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ทุเลาลงได้ และมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย โดยสมุนไพรที่สามารถนำมาแก้อาการกรดไหลย้อนได้ มีดังนี้

ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการขับน้ำดี แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยลดการตกค้างของอาหารในกระเพาะและลำไส้ จึงป้องกันและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้อย่างดีเยี่ยม โดยส่วนใหญ่จะรับประทานในรูปของแคปซูลหรือแบบผงสำเร็จรูป

ย่านาง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการกรดไหลย้อนโดยตรง 

กะเพรา สมุนไพรที่แค่นำมาต้มดื่มก็สามารถบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ดี โดยให้นำกะเพรา 1 กำมาต้มกับน้ำประมาณ 2-3 ลิตร ด้วยไฟปานกลาง 20 นาที ดื่มหลังอาหาร 1 แก้ว

ขึ้นฉ่าย สมุนไพรที่นอกจากจะช่วยลดกรดไหลย้อนแล้ว ก็มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบแดงว่ามีประโยชน์แล้ว กระเจี๊ยบเขียวก็มีประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน โดยสามารถนำมาต้มในน้ำเกลือแล้วใช้รับประทานแก้อาการกรดไหลย้อนได้ดี

วิธีการจัดการกับอาการแสบร้อนกลางหน้าอก

คุณสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้ด้วยตนเอง เช่น การปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและอาหารที่รับประทาน

นี่คือบางตัวอย่างที่เราอยากแนะนำ

  • อย่าเข้านอนในขณะที่ท้องยังอิ่มควรรออย่างน้อย 3 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารหรือขนมมื้อสุดท้ายก่อนที่จะเข้านอน เพราะจะช่วยให้ระดับของกรดลดลงก่อนที่ร่างกายจะอยู่ในท่าที่เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอกขึ้นมาได้ง่าย
  • นอนหัวสูงขึ้นการนอนหัวสูงจะช่วยป้องกันการเกิดกรดไหลย้อนระหว่างคืน
  • เลิกบุหรี่สารนิโคตินสามารถทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเปิดปิดระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาะอาหาร และป้องกันอาหารที่มีสภาพเป็นกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหารอ่อนแอลง
  • ใส่เสื้อผ้าที่สบายตัวการใส่เสื้อผ้ารัดรูปจะบีบร่างกายส่วนกลาง และทำให้สารในกระเพาะไหลขึ้นด้านบน
  • ลดน้ำหนักการลดน้ำหนักสามารถช่วยลดอาการได้ หากคุณมีน้ำหนักเกินเกณฑ์
  • เคี้ยวหมากฝรั่งการเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยลดอาการแสบร้อนได้ชั่วคราวจากการกระตุ้นการสร้างน้ำลาย ซึ่งจะช่วยเจือจางและล้างกรดจากกระเพาะออก
  • ดื่มน้ำอุ่นการดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพรหลังอาหารสามารถช่วยเจือจางและล้างกรดจากกระเพาะอาหารออกไปได้

วิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อนทำได้อย่างไร ?

นี่เป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณทำตามแล้วจะป้องกันอาการกรดไหลย้อนได้

  1. รับประทานให้น้อยลงแต่บ่อยขึ้น

กระเพาะอาหารที่เต็มแน่นจะมีแรงกดเป็นพิเศษต่อหูรูดกระเพาะอาหารส่วนล่าง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่อาหารบางส่วนจะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร

  1. จำกัดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นความเป็นกรด

รับประทานอาหารที่แทบจะไม่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้บ่อย

  1. ไม่รับประทานอาหารภายในเวลาสองถึงสามชั่วโมงก่อนเข้านอน

การนอนลงด้วยกระเพาะที่เต็มแน่นจะทำให้อาหารในกระเพาะกดเบียดหูรูดทางเดินอาหารส่วนล่าง เพิ่มโอกาสที่กรดจะไหลย้อนขึ้นไปได้

  1. ยกหัวสูงขึ้นไม่กี่นิ้วขณะนอนหลับ

การนอนหงายราบจะกดอาหารในกระเพาะของคุณกับหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง หากหัวอยู่สูงกว่ากระเพาะอาหาร แรงโน้มถ่วงจะช่วยลดแรงกดดังกล่าวได้ คุณสามารถยกหัวสูงได้หลายวิธี อาจวางก้อนอิฐ หิน หรืออะไรก็ตามที่แข็งแรงมั่นคงรองขาเตียงฝั่งหัวนอน หรืออาจใช้หมอนรูปลิ่มหนุนหัวให้สูงขึ้น

  1. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม

ความอ้วนจะเพิ่มแรงกดในช่องท้อง ซึ่งจะบีบให้อาหารในกระเพาะกลับไปในหลอดอาหาร จากสถิติแล้วประมาณ 35% ของผู้ที่มีน้ำหนักเกินจะมีอาการกรดไหลย้อน ข่าวดีคือสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว การลดน้ำหนักลงเพียงสิบเปอร์เซ็นต์จะช่วยให้อาการกรดไหลย้อนดีขึ้นได้

  1. ไม่สวมเข็มขัดหรือเสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณเอว

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่รัดแน่นบริเวณท้องจะกดเบียดกระเพาะอาหาร บีบอาหารสวนขึ้นไปที่หูรูดอาหารส่วนล่างและเป็นเหตุให้อาหารไหลท้นกลับไปในหลอดอาหาร เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สามารถทำให้เกิดปัญหานี้ ได้แก่ เข็มขัดที่รัดแน่นและชุดชั้นในกระชับสัดส่วน

  1. อย่าสูบบุหรี่

นิโคตินทำให้หูรูดของหลอดอาหารคลายตัว และการสูบบุหรี่ยังกระตุ้นการสร้างกรดในกระเพาะอาหารอีกด้วย

  1. อย่าดื่มแอลกอฮอล์

หากคุณยังต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ใช้วิธีต่อไป

  1. ผ่อนคลาย

แม้ว่าความเครียดจะไม่ได้สัมพันธ์กับอาการกรดไหลย้อนโดยตรง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าความเครียดนำไปสู่พฤติกรรมที่กระตุ้นอาการกรดไหลย้อนได้ ทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อผ่อนคลายความเครียด และลดโอกาสการเกิดกรดไหลย้อนที่เกี่ยวกับความเครียด

  1. จดบันทึกอาการกรดไหลย้อน

จดบันทึกว่าอะไรกระตุ้นอาการกรดไหลย้อน ความรุนแรงของอาการในแต่ละครั้ง ร่างกายตอบสนองอย่างไร และอะไรทำให้ดีขึ้น ขึ้นตอนต่อไปคือนำข้อมูลเหล่านี้ไปพบแพทย์เพื่อที่ทั้งคุณและแพทย์จะได้ร่วมกันตัดสินใจว่าควรปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันอย่างไร และการรักษาแบบใดที่จะบรรเทาอาการได้ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก : honestdocs.co

ขอบคุณรูปจาก : michaelkoeplinmd.com

ดูบทความดีๆได้ที่ : //www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline  ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  Thaihomeonline.com หรือ Line@ : thaihomeonline - ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน 

คลิกเลย : https://www.thaihomeonline.com




Create Date : 20 กันยายน 2561
Last Update : 20 กันยายน 2561 16:42:41 น.
Counter : 575 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3757202
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]