เนื้อเย็นฟักทองบด

ฟักทองมีสารอาหาร ที่สามารถกระตุ้น การหลั่งของอินซูลิน สามารถป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคตับและไตได้ นอกจากนี้ยังช่วย เสริมสมรรถภาพของตับ และไตให้ทำงานดีขึ้น ฟักทองยังมีสรรพคุณ ช่วยทำให้กระเพาะอุ่น ลดการอักเสบ และช่วยบรรเทาปวดได้
เครื่องปรุง
(รับประทาน 4 คน)  

ฟักทองเนื้อดีนึ่งสุกบดละเอียด
1 1/2
ถ้วยตวง

นมสด
2
ช้อนโต๊ะ

เนย
1
ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ
1
หัว

เห็ดฟางตูมๆ ล้างสะอาดหั่นเหมือนหอมใหญ่
8
ดอก

แป้งมัน
1/2
ช้อนโต๊ะ

น้ำเกรวี่ (ถ้าไม่มี ใช้รสดีรสเนื้อ 1/4 ช้อนชา ผสมน้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ)
2
ช้อนโต๊ะ

เกลือ
1
ช้อนชา

พริกไทยป่นสำหรับโรย
1/2
ช้อนชา

เนื้อเย็นสับ (เนื้อวัว)
1
ถ้วยตวง

อายิโนะโมะโต๊ะ
1/2
ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำฟักทองใส่ชามผสม 3/4 ถ้วยตวง ใส่เนย 1/2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา ชิมรสตามชอบ ตักใส่ที่บีบหน้าเค้กเป็นคำๆ ใส่จานที่จะเสิร์ฟไว้ แบ่งเป็น 4 ที่
2. นำกระทะตั้งไฟ นำเนยที่เหลือใส่ พอเนยละลาย ใส่หอมลงผัดให้นุ่ม ใส่เนื้อเย็น เห็ด ฟักทองที่เหลือใส่ พอเนยละลาย ใส่หอมลงผัดให้นุ่ม ใส่เนื้อเย็น เห็ด ฟักทองที่เหลือผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำเกรวี่ และนมสด ผัดให้เข้ากัน แล้วจึงโรยแป้งลงให้หมด คนอย่าให้เป็นลูก
3. ตักเนื้อเป็นคำๆ วางลงในจานฟักทอง ที่จัดไว้ในข้อ 1 ประดับด้วยต้นหอม จับใบให้ฟู จานละ 2 ช่อ ประดับด้วยพริกแดงหั่นเฉลบเอาเม็ดออก 3 ชิ้น รับประทานกับน้ำชาหรือกาแฟ

หมายเหตุ

1. เนื้อเย็น คือ เนื้อวัวที่อบแล้ว รับประทานไม่หมดค้างคืนไว้ นำมาสับละเอียด ถ้าไม่มีให้นำเนื้อประมาณ 3 ขีด แล่ให้เป็นแผ่นบางๆ เคล้าซอสปรุงรส เกลือ พริกไทย แป้งสาลี นำไปทอดให้เหลือง เติมน้ำลงอบ ให้สุดด้วยไฟรุมๆ จนเปื่อย น้ำที่ติดอยู่ที่ก้นหม้อเรียก "น้ำเกรวี่" หรือก็คือ น้ำที่เหลือจากการอบเนื้อ นั่นเอง
2. หากไม่ทานเนื้อ จะใช้หมูหรือไก่ก็ได้


^ back to top