
|
 |
แกงเจ้าเต่าเป็นแกงโบราณ
ลักษณะคล้าย แกงเลียงนพเก้า มีรสเปรี้ยวจากใบมะขามอ่อน ใช้ปลาดุกเป็นเนื้อแกง
สมัยก่อนคาดว่า ใช้เนื้อเต่าแกง และในการปรุงแกงเจ้าเต่า จะต้องใส่
ใบแมงลัก ซึ่งเป็นพื้ชที่มีคุณค่า ทางโภชนาการสูง ใบแมงลัก ในส่วนที่รับประทานได้
100 กรัม ให้วิตามินเอ 590 หน่วย แคลเซียม 194 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส
42 มิลลิกรัม แร่เหล็ก 3.8 มิลลิกรัม |
 |
เครื่องปรุง
(รับประทาน 4 คน) |
|
|
|
ปลาดุกขนาดพอรับประทาน |
3 |
ตัว |
|
ใบแมงลัก |
1 |
ถ้วยตวง |
|
น้ำมะขามเปียกคั้นข้น |
2 |
ช้อนโต๊ะ |
|
น้ำเปล่า |
4 |
ถ้วยตวง |
|
ใบมะขามอ่อน |
1 |
ถ้วยตวง |
|
น้ำปลาดี |
2 |
ช้อนโต๊ะ |
|
อายิโนะโมะโต๊ะ |
1/2 |
ช้อนชา |
วิธีทำ
1. ขุดเมือกปลาดุกให้หมด ตัดหัวปลาเอาไส้ออก และตัดหางยาว 3 นิ้ว
ทั้ง 3 ตัว นำไปต้มให้สุก และนำไปโขลกกับน้ำพริกแกง ส่วนตัวปลาให้แล่เอาก้างออก
ตัดออกเป็น 2 ชิ้น เนื้อปลานำมาหั่นแบบแกงพักไว้
2. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่ก้างปลาต้มให้สุก กรองใช้แต่น้ำเป็นน้ำซุป
3. นำน้ำต้มปลาใส่หม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่น้ำพริกลงคนให้กระจาย ถ้าข้นมากให้เติมน้ำพอเดือด
ใส่ปลาดุกที่หั่นไว้ ลงในหม้อจนเดือดพล่าน อย่าคน จึงใส่ใบแมงลัก ใช้ทัพพีกดให้จม
ในน้ำแกงให้ทั่ว ยกลง รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ และเนื้อเค็มแดดเดียว
เครื่องปรุงพริกแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่สีแดง |
11 |
เม็ด |
|
ข่าหั่นฝอย |
1 |
ช้อนชา |
|
หอมแดงซอย |
5 |
หัว |
|
เกลือ |
1/2 |
ช้อนชา |
|
เนื้อหางปลาดุกต้ม ที่แกะเนื้อออกแล้ว |
|
|
|
ตะไคร้หั่นฝอย |
2 |
ช้อนโต๊ะ |
|
กระชาย |
3 |
ราก |
|
กระเทียมปอกซอยหยาบๆ |
10 |
กลีบ |
|
กะปิ |
1/2 |
ช้อนโต๊ะ หรือ 2 ช้อนชา |
วิธีทำพริกแกง
1. นำพริกแห้งสีแดงมาผ่าเอาเม็ดออก จากนั้นนำมาล้างน้ำบีบให้แห้ง
2. นำกระชายมาขูด ล้างให้สะอาดแล้วหั่นตามขวางบางๆ
3. โขลกพริกแห้ง ตะไคร้ ข่า กระชาย หอมแดง กระเทียม เกลือ กะปิรวมกัน
จากนั้นจึงใส่ หางปลาต้ม โขลกให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
^ back to top |