สวัสดีค่าสาวๆเอารีวิวสกินแคร์มาฝากกันอีกแล้ว รอบนี้เชื่อว่าเป็นสกินแคร์ที่สาวๆหลายคนรู้จัก เคยใช้ หรือสนใจกันอยู่แน่ๆเลย เพราะเป็นสกินแคร์ชื่อดังซึ่งก็คือ >>>> SK-II Facial Treatment Essence หรือ Miracle Water หรืออีกหนึ่งชื่อที่ชอบเรียกกันคือ น้ำป้าเจี๊ยบ นั่นเองจ้า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ SK-II ที่เรารู้จักกันดีก็คือ Pitera™ (Saccharomycopsis ferment filtrate) ซึ่งได้จากกระบวนการหมักบ่มยีสต์สายพันธุ์พิเศษหนึ่งเดียวของ SK-II อย่างที่เราได้เห็นกันในโฆษณาที่มือของหญิงชราในโรงบ่มสาเกนุ่มราวและเนียนเรียบราวกับผิวเด็กนั่นแหละจ้า
สำหรับการทดลองใช้ครั้งนี้ทรายลองใช้ตัว Facial Treatment Essence อันเป็นตัวเด่นที่สุดของ SK-II เพราะเป็นตัวที่มีส่วนผสมของ Pitera™ มากที่สุดถึง 90% โดยทรายคลีนหน้าตามปกติ หลังจากนั้นเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ แล้วตามด้วยตัว Facial Treatment Essence และปิดท้ายตัวมอยซ์เจอร์ไรเซอร์และอายครีม ทำแบบนี้เช้าเย็นแต่ตอนเช้าจะทาด้วยกันแดดตามทุกครั้งโดยทดลองแบบนี้มาร่วมหนึ่งเดือนตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ซึ่งคุณสมบัติของตัวนี้จะช่วยให้เกิดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเป็นไปตามวงจรธรรมชาติ 28 วัน ครบตามกำหนดเวลาจึงขอนำประสบการณ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของทรายมาแบ่งปันให้ชมกันจ้า ^^
-------------------------------------------------------------------------------
SK-II
Facial Treatment Essence
ผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิวหน้า
คำอธิบายผลิตภัณฑ์ :
Miracle Water (มิราเคิล วอเทอร์) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ SK-II ที่มีส่วนผสมของ SK-II Pitera มากกว่า 90% ช่วยในกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวให้เป็นไปตามวงจรธรรมชาติ 28 วัน, ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียน, ช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ช่วยฟื้นฟูผิว, ช่วยรักษาสมดุลของการผลิตน้ำมันในผิว, รักษาระดับของค่า pH ในผิวให้เหมาะสม, ช่วยลดอาการระคายเคือง อักเสบอันเนื่องจากการสัมผัสแสงแดด เหมาะสำหรับทุกประเภทผิวที่ต้องการให้ผิวสุขภาพดี สวยงาม หรือผู้ที่มีปัญหาผิวเกี่ยวกับจุดด่างดำ มีริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ
ลักษณะผลิตภัณฑ์ และคุณประโยชน์
เป็นโลชั่นบำรุงผิวชนิดพิเศษ ด้วยสูตรส่วนผสมของ SK-II Pitera ที่มีมากกว่า 90% ช่วยในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
ทำให้ผิวกระจ่างใส
ทำให้ผิวชุ่มชื้น
ทำให้ผิวมีสุขภาพดี
ควบคุมสมดุลค่า PH ของผิว
ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์
ปราศจากสีและน้ำหอม
ส่วนผสม : Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera), Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid
ขนาดและราคา : 75ml 2,800 บาท / 150ml 4,300 บาท / 215 ml 5,300 บาท (ขวดที่ทรายใช้ขนาด 75ml จ้าใช้สองคนทาเช้าเย็นมาหนึ่งเดือนพร่องไปประมาณ 2/5 ของขวดจ้า ^^)
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : โลชั่นบำรุงผิวบรรจุมาในขวดแก้วเนื้อหนาเคลือบขุ่น มีฝาปิดเป็นฝาเกลียวสีเงิน ดังนั้นเพื่อเซฟประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จึงควรเก็บไว้ในที่พ้นแสงแดดนะจ๊ะ เนื้อโลชั่นเป็นน้ำใสกิ๊งราวกับน้ำเปล่า มีกลิ่นของน้ำยีสต์หมักเฉพาะตัว และไม่มีการใส่น้ำหอมแต่อย่างใดซึ่งอันนี้ถูกใจทรายเพราะทรายเป็นคนไม่ค่อยถูกกับน้ำหอมนักจะเวียนหัวได้ง่าย แต่ถ้าคนไม่ชินกับกลิ่นเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์อาจจะไปทดลองที่เคาท์เตอร์ก่อนก็ได้จ้า
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หลังจากล้างหน้าและเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อมแก่การบำรุงแล้วทรายก็ตามด้วยน้ำป้าเจี๊ยบตัวนี้ ซึ่งตามข้างกล่องอธิบายวิธีการใช้มาสองแบบคือใช้หยดใส่สำลีแล้วแตะกระชับให้ทั่วใบหน้า หรือ ใช้เทใส่มือแล้วกดซับเบาๆให้ทั่วใบหน้า ซึ่งทรายทดลองใช้มาสองแบบสรุปประทับใจการทาแบบหลังมากกว่าคือใช้มือทาโดยทรายจะกดๆตบๆเบาๆให้เนื้อโลชั่นซึมเข้าผิว ลักษณะของเนื้อโลชั่นเป็นน้ำ ขอย้ำว่าน้ำจริงๆเนื้อสัมผัสเหมือนน้ำเปล่าคือไม่มีความเหนียวเหนอะหนะหรือมีความข้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อทาเข้าไปบนผิวมันจึงซึมในทันทีค่ะ กลิ่นจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของน้ำหมักยีสต์ที่เมื่อทาไปบนผิวจะเหลือกลิ่นติดผิวเล็กน้อย แต่เมื่อใช้ทุกวันทรายก็ชินกับกลิ่นของเค้าจ้ามันเป็นกลิ่นอ่อนๆไม่ได้ฉุนแต่อย่างใด หลังจากที่โลชั่นซึมผิวจนหมดลองลูบในหน้าดูหน้าจะแห้งเรียบลื่นแต่จะให้ความรู้สึกเหมือนมีชั้นฟิลม์บางๆเคลือบอยู่ ไม่มีความเหนียวความมันเลยแม้แต่น้อยดังนั้นคนที่รู้สึกว่าตัวเองผิวมันไม่ชอบความรู้สึกหนักผิวตัวนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยจ้า จับผิวหลังทาจะนุ่มๆแต่สำหรับทรายที่ผิวค่อนข้างแห้งถึงแห้งมากจึงต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ทับอีกหนึ่งชั้นเพิ่มเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวค่ะ
ผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ : สำหรับหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสำหรับทรายจุดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของความเรียบเนียนของผิวบริเวณแก้มที่ข้างแนวจมูกว่าดูเนียนขึ้น ที่สังเกตเห็นตรงจุดนั้นคือเมื่อทาครีมบำรุงครบเซตพร้อมกันแดดเมื่อแต่งหน้าเมคอัพมันติดง่ายขึ้นและทนขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วคนผิวแห้งจะเกิดอาการเมคอัพไม่ติดผิวได้ง่าย ส่วนในเรื่องความกระจ่างใสนั้นในช่วงหนึ่งเดือนที่ใช้เป็นช่วงที่ผิวอยู่ในภาวะปกติไม่ได้คล้ำหรือหมองกว่าปกติ สำหรับทรายที่เป็นคนดูแลผิวมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมออาจจะดูไม่เห็นความกระจ่างใสที่มากขึ้นชัดเจนนักแต่เมื่อผิวดูเรียบเนียนขึ้นนั้นก็ช่วยให้หน้าดูเฟรชขึ้นและดูเคลียร์ขึ้นจ้า
-------------------------------------------------------------------------------
สรุปผลโดยรวมสำหรับสกินแคร์ตัวนี้ ทรายว่าเหมาะมากๆสำหรับคนที่ขาดการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องเพราะทรายแอบให้คุณแฟนใช้ SK-II Facial Treatment Essence ไปพร้อมๆกัน ซึ่งให้ผลที่ไวมากสำหรับผิวที่ขาดการดูแล เห็นผลได้รวดเร็วในเวลาไม่นาน แต่สำหรับคนที่บำรุงผิวอย่างเต็มสตรีมทุกวันการเพิ่มตัวโลชั่นนี้เข้าไปอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนว่าจะให้การตอบสนองต่อส่วนผสมหลัก Pitera™ ที่มีเฉพาะใน SK-II ได้ดีเพียงใด จากที่เห็นคือคนที่ใช้แล้วถูกกับผิวผิวจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่คนที่เกิดอาการแพ้ก็มีบ้างตามปกติของสกินแคร์ ดังนั้นจึงแนะนำว่าให้ไปทดลองก่อนจะดีที่สุดจ้า ในระดับความพอใจของทรายถือเป็นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวแลดูละเอียดและเรียบเนียนขึ้นจ้า ส่วนรายละเอียดผลิตภัณฑ์อื่นๆของ SK-II สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่ www.sk-ii.co.th จ้า ^^
การทดลองและประสบการณ์ที่ทรายนำมาแชร์ทั้งหมดเป็นความรู้สึกส่วนตัวของทรายแต่เพียงผู้เดียวดังนั้นจึงขอให้ทุกคนใช้การรีวิวของทรายเป็นหนึ่งในข้อมูลสำหรับการเลือกซื้อสินค้านะจ๊า พื้นฐานผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ปัจจัยแวดล้อม การใช้ชีวิต อาหารการกินที่ต่างกัน ย่อมมีผลต่อผลลัพธ์ของการใช้สกินแคร์ที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเราเองจะตอบได้ดีที่สุดว่าสิ่งไหนเราใช้แล้วรู้สึกว่าเหมาะกับเราจ้า ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้านะค๊า สำหรับรีวิวนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณนะค๊า ^^