|
ถนนสายนี้..สีเขียว(6)
แต่งองค์ทรงเครื่อง เมื่อข้าพเจ้าไปร่วมปั่นจักรยานกับชมรมฯใหม่ๆ ด้วยความที่ยังตื่นเต้นเลยมัวแต่สาละวนอยู่กับตัวเอง คอยระวังหน้าระแวงหลังไม่ให้แว้บไปชนใคร ก็ขี่กันเป็นขบวนใหญ่มันง่ายเสียเมื่อไหร่ล่ะ มือต้องนิ่งอย่าสั่น ใจต้องไม่หวั่นไหวว่อกแว่ก ประสาททุกส่วนต้องเตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ เบรคต้องเบรค ไม่ใช่ถลาเข้าไปหา เป็นได้มีอันล้มกันระเนนเป็นรางระนาดทีเดียวเชียว พออะไรๆเริ่มเข้าที่เข้าทาง ข้าพเจ้าถึงเริ่มสังเกตนักปั่นรอบๆข้างแต่ละคน บางคนแต่งตัวแบบนักจักรยานเต็มยศ สวมเสื้อรัดๆ มีกระเป๋าไว้ใส่ของข้างหลัง กางเกงผ้ามันทรงลีบติดขาดูตลกๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายใส่ยิ่งดูน่าเกลียดมากกว่า ใส่ถุงมือและหมวกกันน็อกครบชุด
ถ้าจ้างให้ใส่ก็ไม่เอาล่ะ เพื่อนๆเห็นมันคงว่าเว่อร์แน่ๆ แต่ต่อมาข้าพเจ้าถึงยอมรับเอาบางอย่างมาใช้เพราะเห็นว่ามันจำเป็นต้องใช้ เช่น ถุงมือ ส่วนหมวกกันน็อกกับกางเกงนั้นค่อยว่าเป็นกรณีไป ที่ยังไม่ใส่แน่ๆ คือ เสื้อจักรยาน... มันแพงนะคุณ ไม่ใช่ตัวละร้อยสองร้อย ใส่เสื้อยืดดีกว่า ไม่ต้องลงทุนมากมาย ว่ากันเรื่องประโยชน์ของถุงมือ ข้าพเจ้ารู้คุณของมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ขี่จักรยานไปบางปูแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้ไปหาซื้อ
พอหนที่ไปภูชี้ฟ้าก็ไม่มีตังค์ซื้ออีก ดีว่าข้าพเจ้าไม่บอบช้ำเท่าไรนัก แต่เพื่อนร่วมทางคนหนึ่งถึงกับมือพองจนแตก ร้อนถึงข้าพเจ้า--พยาบาลฝ่ามือพิฆาตต้องทำแผลให้ เรียกน้ำตาคนเจ็บได้หลายกระป๋อง ถุงมือนี้นอกจากจะช่วยให้จับแฮนด์จักรยานได้มั่นและลดการเสียดสีของฝ่ามือแล้ว มันยังช่วยลดบาดแผลที่จะเกิดจากการล้มได้เป็นอย่างดี คุณบินหลาเคยเขียนบอกไว้ในหนังสือ‘หลังอาน’ว่า ถุงมือช่วยให้เขาจับปลาหมอได้สะดวก ข้าพเจ้าขอแถมอีกนิดว่ามันช่วยโหนกิ่งไม้ตอนที่เข้าไปเดินป่าได้ดีเช่นกัน ถุงมือคุณภาพดีราคาก็ย่อมสูงเป็นธรรมดา แต่ข้าพเจ้าไม่ใช่คนรวยถึงจะได้ซื้อถุงมือคู่ละห้าหกร้อยมาใส่ กว่าจะซื้อได้ก็เลือกและคิดอยู่นาน(ถึงได้ขี่จักรยานแบบไร้ถุงมือไปสองทริป) สุดท้ายก็ได้ถุงมือขนาดเหมาะใจและเหมาะมือ สนนราคาสองร้อยกว่าบาท นับว่าใช้ได้ดีทีเดียว เคยไปลองถุงมือหนังแบบที่พวกวินมอเตอร์ไซด์เขาใช้กันราคาหกสิบบาท แต่แข็งกระโด๊กแถมอบร้อนอีกต่างหาก เลยตัดใจเสียเพิ่มอีกหน่อยแต่ใช้ได้ดีก็ยังคุ้มค่ากว่า ถัดจากถุงมือก็คือถุงแขน ประโยชน์ของมันเอาไว้ช่วยกันแดดแทนการสวมเสื้อแขนยาวที่แสนจะร้อนอบอ้าว ถ้าใส่ถุงนี่จะดีกว่ากันเยอะ พอแดดร้อนก็สวมถุงแขนดึงขึ้นไปจนถึงใต้ชายแขนเสื้อ พอพักเข้าร่มก็ถลกรูดมันลงมากองที่ข้อมือ เป็นการช่วยระบายความร้อนในตัวได้ดี จะหาซื้อตามร้านก็พอมีแต่ราคาก็ไม่ถูกนัก ข้าพเจ้าเห็นบางคนเอาผ้าลายสก๊อตสีแดงมาเย็บใส่เองก็ดูดี แต่ก็ไม่มีเวลาจะไปหาซื้อผ้ามาตัด เลยหาเอาของใกล้ๆตัวนี่แหละ ก็ใช้การได้ไม่เลว ครั้งที่ไปขี่จักรยานเลียบคลองประปา มีคนทักว่าข้าพเจ้าใส่เสื้อสองตัวอย่างนี้ไม่ร้อนหรือ ทีแรกก็งง ก็ข้าพเจ้าใส่เสื้อตัวเดียวนี่หว่าแล้วทำไมเขาถึงว่าเช่นนั้น พอสำรวจตัวเองอีกทีก็เลยถึงบางอ้อ... ไอ้แขนยาวๆที่เขาเข้าใจว่าเป็นเสื้อนั้น จริงๆแล้วมันคือถุงแขนที่ข้าพเจ้าไปเลาะเอาแขนเสื้อเก่าที่ไม่ใส่แล้วมาเย็บยางยืดใส่ที่ขอบด้านบน ส่วนด้านล่างที่เป็นขอบแขนจั๊มของเดิมก็ปล่อยไว้ พอสวมมันก็เลยดูเหมือนว่าใส่เสื้ออีกหนึ่งตัว เป็นยังไงล่ะ มีของรีไซเคิลใช้โดยไม่ต้องเปลืองตังค์แถมยังหลอกคนอื่นได้อีก ความคิดนี้แจกฟรี ไม่สงวนลิขสิทธิ์... จากแขนก็มาที่เสื้อกับกางเกง เขาว่านักจักรยานก็เหมือนนักกีฬา ชุดของนักปั่นจักรยานก็ต้องมีแบบเฉพาะ คงทำนองเดียวกับชุดว่ายน้ำ ควรทำจากเนื้อผ้าที่เบาสบาย ระบายอากาศได้ดีและแห้งเร็ว ทรงเสื้อก็ควรพอดีกับลำตัว ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้ต้านลม ที่ด้านหลังยังทำเป็นช่องเล็กๆไว้ใส่ของจิปาถะเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ ทุกอย่างล้วนแต่ออกแบบมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยทั้งสิ้น ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นดีด้วยแต่ยังทำใจให้ใส่ไม่ได้ เหตุผลหนึ่งนั้นคือเรื่องราคาที่แพงหูฉี่ แรกๆที่เสือภูเขายังไม่เป็นที่รู้จัก เสื้อที่มีขายมักจะเป็นของนำเข้า ราคาก็เหยียบหลักพัน ต่อมาถึงได้มีคนไทยเริ่มทำขายบ้างโดยราคาก็ถูกลงมาหน่อย แต่ก็ยังไม่กล้าใส่ ด้วยว่าสีสันของเสื้อมันช่างตัดกับสีผิวของข้าพเจ้าราวฟ้ากับเหว แม้จะเข้าใจว่าเขาต้องการให้เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้คนรอบข้างให้คอยระวังว่ายังมีคนขี่จักรยานอยู่ตรงนี้นะ อย่าโฉบเข้ามาเชียวล่ะ แต่ข้าพเจ้าก็ยังรู้สึกละอายต่อฟ้าดินอยู่ดี
กางเกงจักรยานอีกอย่าง ที่ดูแล้วคล้ายๆกับกางเกงที่เขาใส่เต้นแอโรบิกแค่เพิ่มหนังเย็บรองไว้ตรงก้นเท่านั้นเอง แต่บางคนว่าใส่แล้วดูตลกยิ่งถ้าเป็นผู้ชายจะออกไปทางเซ็กซี่หน่อยๆ ซึ่งได้ยิน อ.ธงชัยเรียกในภายหลังว่า กางเกงเป้าตุ่ย... ประโยชน์ของเจ้าหนังแผ่นนี้เขาเอาไว้ลดการเสียดสีและแรงกระแทกจากการขี่จักรยาน ซึ่งข้าพเจ้าตัดสินใจซื้อมันมาด้วยเล็งเห็นประโยชน์ของมันในข้อนี้ดีเมื่อได้บทเรียนจากทริปบางปู โดยยึดเอาพุทธภาษิตเป็นที่ตั้งว่า พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ...นั้นแล แต่เมื่อประสบการณ์สอนให้ก้นมีความด้านยิ่งขึ้น กางเกงจักรยานจึงลดบทบาทลงไว้แค่ทริปที่ต้องไปในทางกันดารหรือขี่ทางไกล ขณะที่เสื้อยืดกางเกงยีนกลับมีบทบาทเข้ามาแทนที่มากขึ้นเมื่อข้าพเจ้าขี่จักรยานบนถนนในกรุงเทพ เพราะไม่ต้องการจะเป็นจุดเด่นให้ใครสังเกต แต่อยากทำให้คนอื่นเห็นว่าคนธรรมดาก็ขี่จักรยานบนถนนได้เหมือนกัน เพราะข้าพเจ้าเป็นแค่ ‘คนขี่จักรยาน’ ไม่ใช่นักจักรยาน..
อ่านต่อ
|
Last Update : 3 กันยายน 2552 | |
15:50:38 น. |
|
| |
|
|
Location :
|
|
|
|
|
|
|
|