*_* A TrUe FrIeNd Is OnE SoUL In TwO BoDiEs *_*
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
ถึงคราวแบคทีเรียอาละวาด




ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช.
จากสถานการณ์การระบาดของ โรคกาฬโรคปอด
ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้คร่าชีวิต
ผู้ป่วยไปแล้ว 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นชายวัย 37 ปี
อาศัยอยู่ที่เมืองจื่อเคอถาน ในมณฑลชิงไห่
ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ผู้เสียชีวิตรายที่สองคือ
ชายวัย 32 ปี มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ เป็นเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตรายแรก
ผู้เสียชีวิตรายที่สาม เป็นชายวัย 64 ปี ที่อยู่ในเมืองเดียวกัน
นอกจากนี้รายงานล่าสุดยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้วอีก 10 คน
ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกับ
กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่ทำคนตายมาแล้วในยุโรป
ถึง 25 ล้านคน โดยขณะนี้ทางกระทรวง
สาธารณสุขของจีนได้มีคำสั่งให้ปิดเมืองจื่อเคอถาน
และพื้นที่ใกล้เคียง ห้ามติดต่อกับโลกภายนอกอย่างเด็ดขาดแล้ว
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยได้ออกมาเตือนประชาชน
ไม่ให้ตื่นตระหนก เพราะการแพร่ระบาดของโรคยังเป็นในหมู่คน
จำนวนน้อยไม่ลุกลามข้ามประเทศ แต่เพื่อเตรียมความพร้อม
ในการรับมือและป้องกันตนเองจากโรค
จึงควรมาทำความรู้จักกับโรค “กาฬโรค”กัน


กาฬโรค (Plague) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียรูปแท่ง
ชื่อ เยอร์ซิเนีย เพสติส( Yersinia pestis) ผู้พบเชื้อครั้งแรก พบใน
พ.ศ. 2437 โดย Yersin & Hitasato เดิมแบคทีเรียสปีชีส์นี้ จัดอยู่ใน
จีนัส Pasteurella ในปี พ.ศ. 2487 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Yersinia ตาม
ชื่อผู้พบเชื้อคนแรก และปี พ.ศ. 2497 โดยกาฬโรคเป็นโรคติดต่อที่
มีอันตรายร้ายแรงที่สุด หากมีการเกิดโรคนี้ต้องแจ้งความตาม
พระราชบัญญัติป้องกันโรคติดต่อ พ.ศ.2523




กาฬโรคมีกี่ชนิด
กาฬโรคมี 3 ชนิด คือ

1. ชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เป็นชนิดที่อ่อนที่สุด และพบบ่อยที่สุด
มีอาการคือ บริเวณต่อม
น้ำเหลืองที่อักเสบนั้นจะบวมแดงและนิ่ม เวลากดจะเจ็บ
ตำแหน่งที่พบได้แก่ ข้างคอ ขาหนีบ รักแร้ อาจมี
ไข้ร่วมด้วย ถ้าไม่รักษาจะกลายเป็นชนิดที่ 2 คือ
เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดแบคทีเรีย Yersinia pestis


2. ชนิดเชื้อในกระแสเลือด มักจะลุกลามจากชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
มีอาการคือ มีไข้สูงความดันเลือดต่ำ ช็อก หัวใจเต้นเร็ว
กระสับกระส่าย เพ้อ หมดสติ เลือดออกในอวัยวะต่างๆ
เสียชีวิตภายใน 3-5 วัน หรือภายในไม่กี่ชั่วโมง


3. ชนิดกาฬโรคปอด อาจเกิดตามหลังจาก 2 ชนิดแรก หรือติดเชื้อจากคนไอจามรดกัน มีอาการคือ ปอดบวม ไอเป็นน้ำ เสมหะไม่เหนียว
ต่อมาจะมีเลือดปน อ่อนเพลีย มีไข้เหมือนกับ 2 ชนิดแรก หาก
ไม่ได้รับการรักษา จะตายเร็วมากภายใน 1-3 วัน
นอกจากนี้ อาจเป็นชนิดเล็กน้อยเหมือนอาการเจ็บป่วยทั่วไป
เช่น มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ไอเหมือนเจ็บคอ หรือหวัดทั่วไป


การติดต่อของโรค
1.ติดต่อทางผิวหนัง กาฬโรคเป็นโรคติดต่อที่มีสัตว์ฟันแทะจำพวกหนู กระแต กระรอก และกระต่าย เป็นพาหะนำโรค
สัตว์ที่พบมักเป็นโรคบ่อยได้แก่ หนู ประเภท Rattus
โดยมีหมัดเป็นพาหะ มักเป็นพวก Xenopsylla cheopis
ที่พบเกิดการระบาดในคนบ่อยๆ เชื้อสามารถอยู่ในตัวหมัดได้เป็นเดือน
ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม
เมื่อหมัดหนูดูดเลือดจากตัวหนู หรือสัตว์ฟันแทะอื่นๆ ที่มี
เชื้อกาฬโรคอยู่ในตัวของสัตว์นั้นแล้วมากัดคน เชื้อจะเข้าทางบาดแผล
อีกกรณีคือคนที่มีบาดแผลไปสัมผัสกับหนูที่มีเชื้อโรค


2. ติดต่อทางการหายใจ ติดต่อทางการหายใจ โดยคนสูดเอาละอองเชื้อโรค(ไอ จาม เสมหะ)จากผู้ที่เป็นโรค หรือจากหนู หรือจากหมัดหนู
สูดเข้าไป กลายเป็นกาฬโรคชนิดที่ติดเชื้อทางกระแสเลือด
หรือกาฬโรคปอดชนิดนี้รุนแรงและเสียชีวิตได้ง่าย
ภาพจำลองการติดต่อของโรคกาฬโรค




ประวัติการระบาด
ในอดีตมีการระบาดใหญ่ของกาฬโรคเกิดขึ้น 3 ครั้ง

การระบาดครั้งแรก
ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า

Plague of justinian


การระบาดเริ่มจากประเทศอียิปต์ไปสู่ทวีปยุโรป โดยเฉพาะที่กรุงคอนส
แตนติโนเปิล มีคนตายวันละหมื่นคน มีการระบาดติดต่อกัน
เป็นระยะเวลาประมาณ 50 ปี มีคนตายหลายล้านคน

การระบาดครั้งที่สอง คือในคริสต์ศตวรรษที่ 14
เรียกการระบาดครั้งนั้นว่า The Black Death (กาฬมรณะ)
โดยเริ่มต้นจากตอนใต้ของประเทศอินเดียและ
จีน ผ่านประเทศอียิปต์เข้าสู่ประเทศในยุโรป มีการระบาดในอิตาลี
เมื่อปี พ.ศ.1889 เรียกว่า "Great Mortality" และมีการระบาดเป็น
ระยะตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 15, 16, 17 ในปี พ.ศ. 2208 เกิดการระบาด
ใหญ่ที่กรุงลอนดอน มีคนตายเป็นจำนวนประมาณ 60,000 คน
จากประชากร 450,000 คน เรียกว่า The Great Plague of London
การระบาดในยุโรปครั้งนั้นมีประชากรประมาณ 25 ล้านคน
ต้องตายด้วยโรคนี้

การระบาดครั้งที่สาม เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก ปี พ.ศ. 2439
มีการระบาดเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ ฮาไวอี อารเบีย
เปอร์เชีย เตอร์กี อียิปต์ และแอฟริกาตะวันตก เข้ารัสเชียและ
ในทวีปยุโรป เข้าสู่อเมริกาเหนือ และเม็กซิโก มีรายงานระหว่าง
ปี พ.ศ. 2443-2444 ในภาคตะวันออกของจีน
มีคนตายประมาณ 60,000 คน ปี พ.ศ. 2453-2454
ที่แมนจูเลีย มีคนตายประมาณ 10,000 คน ต่อมามี
รายงานการระบาดที่รัฐแคลิฟอเนียและประเทศ


ประวัติการระบาดในประเทศไทย
นายแพทย์ เอช แคมเบล ไฮเอ็ด เจ้ากรมแพทย์สุขาภิบาล
(Principal Medical Officer of Bangkok City) ได้รายงานการกาฬโรค
ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2447 ว่า
โรคได้เกิดขึ้นที่บริเวณตึกแดงและตึกขาวซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้า
จังหวัดธนบุรี เป็นที่อยู่ของพ่อค้าชาวอินเดีย
แล้วระบาดเข้ามาฝั่งพระนคร จากนั้นกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ
ที่มีการติดต่อค้าขายกับกรุงเทพฯ โดยทางบก ทางเรือและทางรถไฟ
ไม่มีสถิติจำนวนผู้ป่วยตายที่แน่นอน รายงานปรากฏก่อนปี
พ.ศ. 2456 ที่จังหวัดนครปฐม มีคนตาย 300 คน ครั้งสุดท้าย
เมื่อปี พ.ศ. 2495 มีรายงานผู้ป่วย 2 รายตาย 1 ราย ที่ตลาดตาคลี
จากนั้นไม่มีรายงานกาฬโรคเกิดขึ้นในประเทศไทยจนปัจจุบันนี้


การรักษา
ผู้ป่วยกาฬโรคต้องรักษาโดยแยกห้อง เพื่อมิให้เชื้อแพร่กระจาย
ซึ่งยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษากาฬโรค

ได้แก่ 1.สเตรปโตมัยซิน 2.คลอแรมเฟนิคอล
3.เตตราซัยคลีน 4.โคไตรม็อกซาโซล

ภาพตำนานการระบาดของกาฬโรคในยุโรปยุคกลาง
บุคลากรที่ทำการรักษาต้องมีความระมัดระวังอย่างเคร่งครัด
ด้านการป้องกันการติดเชื้อ โดยสวมถุงมือ ปิดปาก จมูก
และควรทำลายเชื้อจากเลือด น้ำเหลืองและหนองของผู้ป่วย
เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อ


การป้องกันตนเองจากกาฬโรค
1. สำหรับผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นกาฬโรค หรือหนูที่สงสัยว่าตาย
จากกาฬโรค ต้องกินยาเตตราซัยคลีนวันละ 1 กรัม
(แคปซูลละ 250มิลลิกรัม กินครั้งละ 1 แคปซูล 4 เวลา หลังอาหาร)
เป็นเวลา 7 วัน

2. การป้องกันส่วนบุคคล เช่น ใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ใช้หลายๆ ชั้น
สวมถุงมือยาง สวมแว่นตาให้มิดชิด

3. กำจัดหนู กำจัดหมัด จัดที่อยู่อาศัยให้เรียบร้อย ถูกสุขลักษณะ



เรียบเรียงข้อมูลจาก
ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค กระทรวงสาธารณสุข
//webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_nih/ez.mm_main.asp
20 ถาม – ตอบ เรื่อง...กาฬโรค โดย พญ.กนกลดา บาลี,
นพ.อำนาจ บาลี
//www.doctor.or.th/taxonomy/term/4929


แหล่งอ้างอิงข้อมูลภาพ
แบคทีเรีย Yersinia pestis : webs.wichita.edu - the learning company
ภาพวงจรการติดต่อของโรค :webs. health.stateuniversity.com
ภาพตำนานการระบาดของกาฬโรคในยุโรปยุคกลาง : webs.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new
ภาพการป้องกันตนเอง : webs. //visitbulgaria.info





Create Date : 14 สิงหาคม 2552
Last Update : 14 สิงหาคม 2552 6:45:30 น. 3 comments
Counter : 2895 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับความรุ้ดีๆครับ

หวังว่าคงไม่ทำให้สถานการณ์บ้านเราหนักไปกว่านี้


โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:7:19:01 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



สวัสดีวันพระค่ะ มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะมาถึงนะคะ
ว่ากันว่าเมื่อมนุษย์ทำบาปมากขึ้น จะมีโรคร้ายแรงมาเบียดเบียนนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:11:20:26 น.  

 
ยินดีคับ เด็กผู้ชายเตะบอลตอนกลางคืน??

หรอออออ " หอมกี้ " ว่าแต่สอนเค้าลงเพลงหน่อยจิ??




โดย: ZZU@farsai วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:20:01:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ZZU@farsai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




*_* ShaRinG BeYoNd BoRdEr *_*


" ไม่ต้องเชื่อ..... แต่

.....ค้นพบได้ด้วยตัวเอง "


" ไม่ต้องเชื่อ.....แต่ต้องทำ

เป็นการไตร่ตรองด้วยเหตุผล "


~มิพานพบฤารู้จัก มิพูดคุยฤารู้ใจ~


" You " came with lonely wind.

That brought along sadness.

I came with a grain of sand.

That bought lonesome to

scatter over the sky.

When the wind blew.

The wave brought sand to shore.

A grain of sand then dreamed that

It would have been sparkle

at the horizon like stars.

But a grain of sand could only dream.

Staring at the stars quietly

with uncertainly through a cold night.

The wind waved goodbye,

left the worthless and

sand staring at the stars.

When the stars moved,

~Heart

Was

Lonely

In

TearS~

Pimp My Profile
Friends' blogs
[Add ZZU@farsai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.