หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ
30127 ดอกไม้หายไปไหน?





ห้องขว้างไข่ใต้ตึกขวาง
00ขัดใจก็อยากขวาง.....ขวางไม่ได้ก็หันมาขว้างไข่
หุบเขาคนโฉด, ห้องขว้างไข่ใต้ตึกขวาง, ดอกไม้หายไปไหน (วันป๊อปปี้)
zOOmzerO, Violent Valley, Where have all the flowers gone?



ดอกไม้หายไปไหน?


๓ กุมภาพันธ์ คือวันทหารผ่านศึก
ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญพระบรมราโชวาท
เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
ดังความว่า....

"ทหารผ่านศึกเป็นผู้มีเกียรติ เพราะได้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว
แม้กระทั่งเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อบ้านเมืองและส่วนรวม
ขอให้ภูมิใจและตั้งใจรักษาเกียรติอันแท้จริง ที่มีอยู่นั้นไว้ทุกเมื่อ"

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ความจริงแล้ว entry นี้ควรจะไปอยู่ในห้องถนนหมื่นไมล์
เพราะเป็นเรื่องของวันสำคัญ ชื่อหัวเรื่องตอนแรกก็คือ Poppy Day 3 Feb - วันป๊อปปี้เดย์
แรกเริ่มนั้น ผมทำเป็น draft เก็บเอาไว้ในห้องโน้น (ประมาณวันที่ 10 ม.ค.)
แต่มาเปลี่ยนข้อความเกือบครึ่ง ก็ตอนที่เห็นข่าวของเฮติ (เมื่อวันที่ 15 ม.ค.)
ผมเกิดความสับสนและคิดนอกกรอบมากมาย
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแผ่นดินไหว หรือเรื่องการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากสิ่งก่อสร้าง
นี่แหละถึงว่า มันนอกกรอบ เสียนี้กระไร
ผมเลยต้องเปลี่ยนชื่อเรื่อง เปลี่ยนเพลงประกอบ
และเขียนอย่างทีใจคิด ณ วันนี้ (27 ม.ค.)
อ้อ..พอดีมีน้องสาวส่งเมล์เศร้าๆมาให้อ่านตอนเช้าอีกอัน
เลยนำเอาเรื่องนี้มาวางไว้ในห้องนี้ซะเลย


ทหารผ่านศึกก็คือทหารกล้าที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ
ใครไม่มีจิตสำนึก ใครนึกอะไรไม่ออก
ก็ขอให้นึกถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ
ดอกไม้ประจำวันทหารผ่านศึกมีชื่อว่า ดอกป๊อปปี้
แล้วใครไม่รู้ว่า ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ชื่อว่า โรงพยาบาลทหารผ่านศึก (รพ.ผศ.) บ้าง?

องค์การทหารผ่านศึกมีมาตั้งแต่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๑ หลังการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ดอกป๊อปปี้ถูกประดิษฐ์และนำออกมาขายมาตั้งแต่สมัยท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร
ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรีและยังเป็นจอมพลคนหนึ่งของไทย จอมพลถนอม กิตติขจร
ขณะนั้นท่านผู้หญิงกำลังทำงานเป็นประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก
ซึ่งการใช้ดอกป๊อปปี้นั้น ก็มาจากความคิดของนายพลเอิร์ล ออฟ เฮก
นายพลในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑

เรื่องที่มาของวันอันสำคัญนี้
หรือเรื่องที่ดอกป๊อปปี้ได้มาเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันนี้
หรือเรื่อง ป๊อปปี้ นั้นหมายถึงอะไรมากกว่านี้หรือไม่?
ท่านคงหาอ่านได้ไม่ยากในโลกอินเตอร์เน็ท
ดังนั้นผมจึงไม่ขอเขียนอะไรมากมายเกี่ยวกับประวัติต่างๆ
เพราะอย่างไรก็คงไม่สามารถเขียนให้ดีได้เท่าผู้รู้

ปัจจุบันนี้....
การขายดอกป๊อปปี้เป็นกิจกรรมที่เราทำกันมาอย่างต่อเนื่อง
ผมเองก็มองเห็นด้านดีของกิจกรรมนี้ เพราะเท่ากับเป็นการให้เกียรติพวกเขา
และเป็นการร่วมกันทำกิจกรรมดีๆ และยังเป็นการกุศลอีกด้วย
แต่นิสัยคนใจมาร ก็อดคิดไม่ได้ว่า พวกดาราเขาจริงใจกับเรื่องนี้หรือเปล่า
เพราะว่าคนที่มาช่วยขายดอกไม้ก็ล้วนแต่เป็นดาราที่กำลังเป็นดาวรุ่ง
ส่วนดาราปกติๆ ทั่วๆไป ท่านยังคงช่วยเขาอยู่ หรือว่าปลดระวางไปตามกาลเวลา

แต่ที่ผมสงสัยและกังวลมาโดยตลอดก็คือว่า
ทำไมคนดีๆหลายท่านต้องมาเหน็ดเหนื่อย
เพื่อหารายได้ให้ครอบครัวทหารผ่านศึกซึ่งเป็นกลุ่มคนที่สำคัญของประเทศ
ถ้าพวกเขาสมควรได้รับการช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะเป็นด้านการให้บริการหรือเงินช่วยเหลือ
แล้วทำไม ทำไม ทำไม
ผู้หลักผู้ใหญ่ถึงไม่เพิ่มงบประมาณให้พวกเขาและครอบครัว
ทำไมถึงไม่จัดสรรเงินมาช่วยเหลือพวกเขาให้มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย
ทำไมไม่สร้างตึกใหม่ๆทันสมัยให้กับพวกเขา
ปัจจุบันรพ.ผศ.มีเตียงถึง 300 เตียง หรือยังครับท่าน?

เวลาเห็นยอดเงินที่คนไทยบริจาคให้คนต่างชาติ ทำไมเราช่วยเขาได้เป็นร้อยล้าน
ผมไม่ได้มาห้ามการบริจาค
ไม่ได้อยากห้ามการเอาเงินไปให้ประเทศนั้นหรอกนะ
พวกเขาสูญเสียกันอย่างน่าสงสาร
แต่เราเป็นคนไทยนะ
ทหารของเราก็รบเพื่อประเทศไทยนะ

ทำไมประเทศเราไม่กำหนดให้ปีใดเป็นปีหนึ่ง
เป็นปีที่รณรงค์ลดการทำสงคราม
เป็นปีที่เราหาทุนมาสร้างสถานพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อทหารกล้าของเรา
อยากให้ผู้นำประเทศลองหาทางลดการสู้รบกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั้งในประเทศและพวกผู้ร้ายสากล
แต่หาใช่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่ายๆ
เราคงไม่ปล่อยให้เขาเดินข้ามชายแดนอย่างง่ายๆ
ผมว่าเรายังมีวิธีทางการทูตที่เจ้าหน้าที่ของเราก็มีความรู้และความสามารถมากมายหลายท่าน
เรายังสามารถเปลี่ยนความคิดเรื่องการสู้รบ
โดยเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามค้าขาย(ไม่ใช่ขายอาวุธสงครามนะ)
หาช่องทางการร่วมการลงทุน การพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน
จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมไปถึงเรื่องยานขนส่งทางอากาศ ฯ

หากเหล่าทหารหาญ เปรียบเหมือนมวลดอกไม้
สงครามก็ได้ทำลายดอกไม้เหล่านี้ไปมากมาย
ผมไม่อยากเห็นข่าวการเสียสละชีวิตของทหารของเราอย่างรายวัน
โดยเฉพาะการปกป้องพื้นที่ของประเทศไทยจากคนไทยด้วยกันเอง
ไทยฆ่าไทย
ใครได้อะไร
สุดท้ายก็เจ็บปวด เจ็บแค้นกัน ไม่มีที่สิ้นสุด

วันนี้ใครจะออกไปทำกิจกรรมสาธารณกุศลอะไรๆ
ท่านก็ทำตามใจท่านเถิด ผมไม่ขวาง
แต่ผมจะขอขว้างไข่ใส่คนที่ไม่ยอมคิดจะช่วยเหลือทหารกล้าเหล่านี้ต่างหาก

จอมมารขอยืนขว้างไข่ใส่กำแพงอยู่ตรงนี้
เพราะทุกครั้งที่เห็นดอกป๊อปปี้แล้ว
ทำให้นึกถึงแต่หยาดน้ำตาของพ่อแม่ บุตรและภรรยา
ของคนวัยหนุ่มที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
เพราะงานที่ต้องเสียสละชีวิตให้กับคนเป็นล้านๆคน


zOOmzERo2009




rev.30127 กรุณาอย่ามองหาดอกป๊อปปี้ใน entry นี้
rev.30128 ลองใช้บริการของ Mp3-Codes.com เพราะเห็นบ้านอาหมวยใช้แบบนี้อยู่




Create Date : 27 มกราคม 2553
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:37:17 น. 66 comments
Counter : 2254 Pageviews.

 


โดย: zoomzero วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:11:48:05 น.  

 
แน่นอน เราไม่ควรมองข้าม ผู้ที่เสียสละในการเป็นรั้วของชาติ เพื่อปกป้องบ้านเมือง
อิอิ จำได้แม่น วันทหารผ่านศึก จะใกล้ๆกับวันเกิดของเรา บางปีก็ตรงกับวันพิเศษของเรา ดอกไม้ประจำวันทหารผ่านศึก คือดอกป๊อปปี้ สีแดง ที่เราช่วยซื้อทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ขอสดุดีทหารกล้าทุกนายที่เสียสละเพื่อชาติ ฮืมมม! ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางรัฐบาลหรือผู้ใหญ่ทางบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง จะหันมาให้ความสนใจ ใส่ใจ นายทหาร กล้าของเราให้มากกว่านี้


โดย: นกสีขาว IP: 79.66.1.120 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:7:13:16 น.  

 
To นกสีขาว
สวัสดีน้องแอน
ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ ตั้งแต่ปลดพี่ออกจากตำแหน่งบ่างช่างยุอาวุโส 555
เป็นอย่างไรบ้าง หายปวดท้องหรือยัง? อากาศที่ยูเคเป็นยังไง? หนาวมากมั๊ย?
ที่ประเทศไทย อากาศแปลกๆ เหมือนจะหนาว เหมือนจะฝน แล้วก็ร้อนเปรี้ยงๆ
ฝนตกมาเมื่อวานก่อนโน้น ก็แรงดีเหลือเกิน เหมือนว่าเทวดาตั้งอกตั้งใจช่วยกันฉีดน้ำลงมา
พี่ก็ดีใจ ได้ประหยัดเวลารดน้ำต้นไม้ไปได้ 1 วัน เซฟเงินไปได้ 5 บาทกว่าๆ

เดือนหน้าเป็นเดือนเกิดแล้วซินะ
อวยพรกันก่อนเลยมั๊ย เอาแบบพรีเปด(pre-paid)ดีมั๊ย
หรือจะรอให้ผ่านวันก่อนแล้วค่อยมาแอ็คติ้ง ขอโทษที่มาช้า
อือ..เอาเป็นว่า วันนี้ยังไม่ให้ศีลให้พรหรอกเพราะยังไม่มีศีลจะให้
ช่วงนี้จิตใจมันไม่สงบยังไงๆ บอกไม่ถูก
มีเรื่องไม่สบายใจเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน
ประมาณว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจ้ากรรมนายเวรเขาจัดให้หนะ

เมื่อวานรถก็สตาร์ทไม่ติด หิวข้าวก็หิว กว่าจะหารถมาพ่วงไฟ เล่นเอาเหงื่อหยด
พอไปที่ร้านแบตเตอรี่ ก็ตามฟอร์ม มันยกเปลี่ยนใหม่ให้ทันที ลูกใหม่เอี่ยมอ่อง
ฟังมันอธิบายแล้วก็งงว่า แบ็ตเก่าไม่เก็บไฟ เขาเอาเครื่องอะไรมาตรวจวัดไฟให้ดู
พอดับเครื่องตัวเลขมันก็ค่อยลดลงจาก 15 โวล์ทลงมาเป็น 12.2 โวลท์
แล้วพอเอาแบตใหม่ใส่ไป (ลูกละสามพันสาม แพงมาก) ก็ไม่เห็นเขาเอาเครื่องอันนั้น
มาวัดไฟให้ดูเลย ถ้าตัวเลขมันลดลงในอัตราเหมือนแบตเก่าของเรา ก็คงมีเรื่องได้ด่ากันแน่
ซึ่งพวกมืออาชีพอย่างพวกเขา ก็คงไม่โง่เอาอะไรมาวัดให้เกิดปัญหาทีหลังแน่นอน
แต่ก็มาคิดว่า แบตอันนี้ใช้มาเกือบ 2 ปี (ซื้อมา 14-2-51 วันวาเลนไทน์ ซะด้วย)
อายุมันก็คงไม่ต่างกับเจ้าของรถ ไม่อยากเสี่ยงเอาอันเก่าไปวิ่ง
เดี๋ยวสตาร์ทไม่ติดอีก อาจจะต้องจ้างรถมายก
ยิ่งไปตายคาโรงแรมม่านรูด หรืออาบอบนวด มีหวังหัวแบะแน่ๆ
คราวนี้หละเสียเงินฟรีๆ อีกหลายพันเลย
เสียเงินไม่ว่า กลัวว่าจะถึงขั้่นพิการนะซิ หุหุ

คุณนายกลับมา
พอเล่าให้เขาฟัง
ดันเหมือนคนพูดกันคนละภาษา คุยกันไม่รู้เรื่อง
นายท่านบอกว่าพี่หาเรื่องเปลี่ยนใหม่เอง
เพราะว่าถ้าสตาร์ทออกจากบ้านได้ก็แปลว่ามันไม่เสีย
ซึ่งจริงๆกว่าจะให้มันวิ่งออกไปได้ก็สตาร์ทตั้งหลายนาน
พอไปจอดทำธุระ มันก็หมดแรงสตาร์ทไปเลย
เดือนนี้คุณนายโดนค่าซ่อมบ้านไปคงยังไม่หายมึน
แต่แปลกตรงที่แกทำเหมือนพี่ทำผิดที่อาศัยอยู่บ้านแก
แล้วทำให้หลังคาบ้านแกรั่ว รั้วบ้านแกพัง สงสัยเราเป็นตัวซวยกระมัง
เซ็งตรงที่คุณท่านถามว่า ตกลงมันจะไม่รั่วอีกแล้วใช่มั๊ย
ถ้ารั่วอีก ฉันจะด่าเธอ เธอต้องรับผิดชอบ
ฮ้า...ตรูไม่ได้เป็นช่างก่อสร้างซะกะหน่อย
เงินก็ไม่ได้ ดันให้เรามาอยู่ข้างคนงานได้ยังไงฟระ?

เฮ้อ...ตอนต้นปี ได้ไปทำบุญก็แล้ว ก็ยังไม่เบาลงเลย
สงสัยต้องเปลี่ยนศาสดา ศาสนา
หาแบบว่า พวกบูชาเทพด้วยการฆ่าแพะสดๆกันไปเลย

พี่ขอให้น้องแอนดูแลตัวเองบ้างนะ พักผ่อนให้เพียงพอ
รีบๆกลับมาแต่งงานแต่งการเสียทีนะ
เดี๋ยวว่าที่เจ้าบ่าวจะก่อคดีอีก รีบมาควบคุมด่วน 555

Ref: นกสีขาว AnnEng DeepPink FF 14 93


โดย: zoomzero วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:8:30:30 น.  

 
เชิดชูวีรบุรษของชาติ....เป็นความจำเป็น

เท่าๆกับ

เหยียบย่ำ ประจานด่า ไอ้สารเลวทำลายชาติ

...

.

ในเมืองจีน มีอนุสาวรีย์งักฮุยให้คนไหว้

กับฉินไคว่ให้คนถุยน้ำลายรด


โดย: Dingtech วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:8:49:07 น.  

 
To Dingtech
สวัสดีครับคุณดิ่ง
เข้าไปอ่านบล็อกของคุณแล้ว
เนื้อหาเข้มข้นมาก มีทั้งศิลป์และสาระล้นปรี่
ผิดกับบล๊ิอกของผมเลยนะ

เรื่องเชิดชูวีรบุรุษที่เป็นนักรบของไทย เราก็มีหลายที่นะครับ
แต่อาจจะมีน้อย เพราะคนไทยชอบสร้างอนุสาวรีย์ให้แต่พระมหากษัตริย์กันเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งเราต้องเรียกว่า พระบรมราชานุสาวรีย์ ซึ่งผมเห็นว่าวัตถุประสงค์ในการสร้าง
น่าจะมาจากพระราชกรณียกิจและความเสียสละหลายๆอย่างของพระองค์มากกว่าการรบอย่างเดียว
พระมหากษัตริย์ในอดีตของไทยจะต้องทรงเป็นนักรบกันเป็นส่วนใหญ่
เลยกลายเป็นว่าพระราชานุสาวรีย์ของวีรบุรุษทหารไปด้วย

ทีนี้เรามามองระดับคนที่ไม่ได้เป็นพระมหากษัตริย์กันดูบ้าง
สำหรับประเภทอนุสาวรีย์ที่เป็นรูปปั้นคนเป็นกลุ่ม หรือมีหลายๆคน
ก็เห็นจะมีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สนามเป้า กทม.,
อนุสาวรีย์บางระจัน สิงห์บุรี,
อนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว วัดวิเศษชัยชาญ อ่างทอง ฯ
แต่ถ้าเป็นอนุสาวรีย์ที่ไม่มีรูปปั้น คือ ทำเป็นเหมือนสถูป หรือหอเก็บอัฐิ ที่มีความสวยงาม
ผมก็เห็นจะมีแต่ที่ อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1
อยู่ตรงสนามหลวง(ด้านทิศเหนือ) คนผ่านไปมาเยอะแยะ แต่ถ้าไม่ใช่ทหาร มักจะไม่ทราบกัน,
หรืออีกทีก็ อนุสาวรีย์หลักสี่(เรียกว่า อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ),
อนุสาวรีย์พลร่มป่าหวาย ลพบุรี,
อนุสาวรีย์นาวิกโยธิน อ่าวนาวิกโยธิน สัตหีบ ชลบุรี,
อนุสาวรีย์ปราบฮ้อ หนองคาย,
.... ฯ

ส่วนรูปปั้นเดี่ยวๆ ของวีรชนที่เป็นทหาร แบบมองเห็นเป็นคนเต็มตัว
เท่าที่ผมนึกออกก็ ได้แก่
อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก อุตรดิตถ์,
อนุสาวรีย์เจ้าพระยาบดินเดชา วัดสามปลื้ม,
อนุสาวรีย์ยุวชนทหาร (ต้นกำเนิดนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด) สะพานท่านางสังข์ ชุมพร,
เป็นต้น ฯ

และไหนๆไปหาข้อมูลพวกนี้มาแล้ว
ก็ขอจดบันทึกอนุสาวรีย์ระดับ พระอนุสาวรีย์ เอาไว้ด้วยเลย ได้แก่
พระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ (กองทัพอากาศ) กทม.
พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
และเรือรบหลวงชุมพร จ.ชุมพร,
พระอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม อุดรธานี,
... ฯ

ถ้าเป็นหญิงที่ออกรบ ซึ่งไม่ได้เป็นทหาร แต่ก็สามารถนำทหารออกไปต่อสู้ได้ ก็ได้แก่
ย่าโม ท้าวสุรนารี โคราช-นครราชสีมา
คุณหญิงมุกและคุณหญิงจันทร์ ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร ภูเก็ต
และขอนับวีรสตรีอีกท่านหนึ่งของไทย เอาไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งถือว่า สูงศักดิ์มาก นั่นก็คือ
พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย อยุธยา ซึ่งถึงจะไม่ได้เป็นกษัตริย์นักรบชาย
แต่ก็เป็นพระบรมศานุวงศ์ระดับสูงฝ่ายหญิงองค์เดียวที่โดดเด่นสำหรับสร้างพระคุณในเรื่องการป้องกันบ้านเมือง

สำหรับอนุสาวรีย์ที่ไม่ได้เรียกว่าอนุสาวรีย์ ก็มีนะครับ เช่น
วงเวียน 22 กรกฎาคม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารไทยที่ได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
เจดีย์ทหารนิรนาม วัดสนามชัย สุพรรณบุรี (เขาว่าถ้าใครไปลบหลู่สถานที่ ไม่รอดซักกะราย)

ขอจดบันทึกอีกเรื่อง
กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (2399 - 2467)
ทรงเป็นพระราชโอรสของร.4 พระนามเดิม พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่
ทรงเป็นต้นราชสกุล ทองใหญ่
ทรงรับถ่ายทอดความสามารถด้านดาราศาสตร์ต่อจากพระราชบิดา
ทรงสามารถคำนวนสุริยุปราคาในวันที่ 6 เม.ย. 2418 ได้อย่างแม่นยำ
และคนนี้แหละครับที่ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่มณฑลฝ่ายเหนือ
ทรงตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวน (บ้านหมากแข้ง แถวหนองคาย) ในสมัย ร.5
เป็นผู้ยกทัพปราบพวกจีนฮ้อที่ชอบปล้นสะดมคนไทย-ลาว ได้สำเร็จราบคาบ ในปี พ.ศ. 2429
และยังทรงอยู่ในเหตุการณ์การต่อต้านของฝรั่งเศสที่ลักไก่เข้ายึดแคว้นสิบสองจุไทยอย่างมั่วนิ่ม
แต่เนื่องจากฝรั่งเศสใช้นโยบายความรุนแรงและเล่ห์การเจรจา
ไทยเลยต้องจำใจยินยอมลงนามสนธิสัญญารับรองสิทธิของฝรั่งเศสเหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง
และมีผลให้กองทัพไทยต้องถอยออกมาอีก 25 กม.จากตลิ่งแม่น้ำโขง
จึงเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การสร้างเมืองอุดรธานีไปด้วย
เรื่องของกรมหลวงปรัจักษ์ฯยังเกี่ยวข้องกับเรื่อง คดีพญาระกา ที่วงการศาลมักจะมีผู้ทราบเรื่องนี้
แต่คงไม่เหมาะกับการเอามาเล่า ณ ตรงนี้
หากแต่ว่าวันไหนเกิดมีเรื่องที่ต้องอ้างถึงคำว่า อารมณ์ พวกพ้อง ศักดิ์ศรี และศาล คงจะเอามาคุยให้ฟัง

เรื่องนี้การเสียดินแดน
พออ่านประวัติศาสตร์คราวใด
แล้วอยากต่อยหน้าคนฝรั่งเศส (ตอนที่เขาเมาหนะ จะได้สู้เราไม่ได้)
กับอยากทุบรถเปอร์โยต์ ซีตรอง ซะจริงๆ
มีที่ไหน คนเกิดในซีกโลกตะวันตก แต่มาอ้างการปกครองในซีกโลกตะวันออก
เอาทหารมายิ่งคนไทยตายเป็นใบไม้ร่วงด้วยปืนไฟ
แล้วคนไทยยังเรียงหน้าไปซื้อสินค้าจากประเทศเขา ราวกับเป็นของจากสวรรค์
เห็นคนถือกระเป๋าหลุยส์แล้ว ผมทำใจไม่ได้
อยากจะร้องไห้ให้กระดูกปู่ย่าตายาย


ยังมีอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารหาญบางแห่ง
สร้างได้สำเร็จโดยไม่ได้ของบประมาณจากหลวงเลยก็มี (หลังจากรอมาหลายสิบปี)
จึงจะเห็นได้ว่า สำหรับประเทศที่เราอาศัยอยู่นี้
ผู้เสียสละในสายอาชีพนักรบ กำลังขาดความเอาใจใส่อย่างจริงจัง
มีคนใจแคบมองว่า อยากไปรับจ้างรบเอง ไม่ใช่การเสียสละ
เงินเดือนก็มี สวัสดิการก็ได้ มีที่กิน ที่พัก จะเอาอะไรอีก
นี่แหละคนที่คิดได้แบบนี้ ควรจะเอามาอยู่ที่หุบเขาฯของกระผมมากๆ
ดังนั้นเรื่องสถานพยาบาล, อุปกรณ์การแพทย์, เรือเร็วขนย้ายทหารบาดเจ็บ, ฮอฯกู้ภัย, ...ฯ
ของเหล่านี้ ผมเลยต้องหาไข่ หามาขว้างกำแพงต่อไป

Ref: Dingtech HotPink FF 69 B4



โดย: zoomzero วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:13:49:03 น.  

 
เห็นด้วยเกือบทุกอย่าง.....

การเรียนประวัติศาสตร์ไทยในระบบการศึกษายังขาดการเรียนแบบวิเคราะห์วิจารณ์
อาจขาดแคลนครูอาจารย์ที่สามารถกระมัง

ก็อยากสรุปสั้นๆว่า ประวัติศาสตร์มีไว้ให้จำเป็นบทเรียน เพื่อสร้างปัจจุบันและวางอนาคต

ผมยังเห็นว่าชาตินิยมจำเป็น แต่มิใช่หลงคลั่งชาติ !


โดย: Dingtech วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:14:29:59 น.  

 
To Dingtech
คุณดิ่ง ครับ
ตกลงเห็นด้วยเกือบทุกอย่าง....หรือครับ
มีเรื่องไหน ไม่เห็นด้วย?
แบบนี้เขียนตามภาษาปากหรือเอาจริงกันแน่
อย่านะ...มีเคืองๆ 555
แต่ก็ดี จะได้มีคนมาอ่านบล๊อกเราเพิ่มขึ้น
แล้วบอกว่าเราไม่เข้าท่าตรงไหน
จะได้นำไปพัฒนาอย่างยั่งยืน อิอิ

ผมเองนั้นเห็นด้วยกับคุณเรื่อง ชาตินิยม
เอาเป็นว่า 100% เลย
ตามประวัติศาสตร์ของไทยที่ผ่านมา
มีทั้งแบบเขียนให้สวย เขียนให้ดูดี
เขียนแบบผู้ชนะ เขียนแบบผู้ขาวสะอาด
เขียนตามเหตุการณ์จริง เขียนให้ค้นหาความจริง(เพิ่มเติม)
เขียนแบบเกรงใจ หรือเขียนให้สงสัย
... ฯ
ผมว่ายุค ร.5 นี่แหละ น่าศึกษาประวัติศาสตร์มากที่สุด
เพราะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการถูกกระแสคลื่นวัฒนธรรมระดับสึนามิจากพวกตะวันตก
ถ้าลองศึกษาอย่างใช้เหตุผล จะเห็นว่าพระองค์ทรงอยากให้คนไทยรับรู้ว่าคนต่างชาติเป็นอย่างไร
กินอยู่ พูดจาสื่อสาร แต่งกาย การศึกษา เครื่องมือเครื่องใช้ ฯ เป็นอย่างไร
มิได้ทรงอยากให้คนไทยมายกย่องว่าประเสริฐกว่าของชาติตนเองเลย
ทรงไม่ได้อยากให้พวกเราแปลงกายเป็นคนต่างชาติ
แล้วโยนศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ของเราทิ้งไป
คนไทยที่ไม่รู้แม้กระทั่งผ้าถุงผ้าขาวม้าเขานุ่งกันอย่างไร? เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง?
ผมว่าน่าจะลองไปตลาดแล้ว ซื้อเอามาลองนุ่งดูนะ
มันอาจจะไม่ช่วยอะไรได้มาก แต่ดีกว่าลืมเลือนมันไปเลยนะจ๊ะ

เรื่องอาจารย์สังคมหรืออาจารย์ประวัติศาสตร์ขาดแคลน
ผมก็ว่า ผมเป็นผู้น้อยนะ คิดอะไรไม่ได้เป็นแบบบูรณาการ หรือมีสาระหรอก
สมมติให้ผมเลือกเรียนครู แล้วถามผมว่าจะเลือกเรียนเป็นครูด้านไหน
ผมก็คงจะเลือก ครูสอนภาษาอังกฤษ อันดับแรก
และถ้าไม่ได้ คือไม่รับหรือผมเรียนไม่ไหว ตัวเลือกถัดไปก็คงเป็น คณิตศาสตร์
แล้วก็ต่อๆไปที่ ชีวะ เคมี ฟิสิกส์
ส่วนพวก ภาษาไทย ผมคงไม่กล้าเสี่ยง เพราะผมว่ายาก
และยิ่งหมวดสังคมศึกษา ผมคงไม่คิดจะเอาดีทางด้านนี้ เพราะเสียเวลาท่องจำมากมาย
ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีวัยรุ่น วัยอุดมศึกษา ของไทย กี่ท่าน
ที่คิดเหมือนผม แต่ผมเชื่อว่า คงคิดแบบผมเยอะ
เพราะถ้าไม่เป็นครูประจำ เราก็ไปสอนตามสำนักติวก็ได้ หางานไม่ยาก
ใครๆก็อยากพูดภาษาต่างประเทศให้ได้คล่องๆ โรงเรียนสอนเสริมมีเยอะแยะไปหมด
แต่สำหรับครูสังคม
จะมีเด็กทีไหนอยากติววิชานี้กันบ้าง

ส่วนประวัติศาสตร์ที่คุณบอกว่า มีไว้ให้จำเป็นบทเรียน
ผมนี่แหละที่ไม่เคยจำได้
และมักจะมีเรื่องถกเถียงกับคนที่เขาเชื่อเรื่องประวัติศาสตร์อย่างที่เชื่อสนิท
อย่่างไปดูหนังเกียวกับประวัติศาสตร์ของไทยที่ดังๆ ฉายได้เงินเป็นร้อยล้านบาทนั้น
ผมก็มีข้อแคลงใจอยู่หลายจุด เช่น เรื่องการยิงเป้าหมายข้ามผิวน้ำ
คุยกันใครก็โดนเขาด่าว่าไม่รักชาติทุกที
ผมก็เถียงว่าคนละประเด็น รักชาตินั้นก็รัก
แต่ไม่เชื่อว่า เหตุการณ์จะตรงตามที่บันทึก
และถ้าเป็นจริง คงต้องใช้คำอื่นแทนคำว่า ..แม่น
นี่ไง พอมาถึงตรงนี้ก็วางมวยกันทุกที 555

Ref: Dingtech HotPink FF 69 B4



โดย: zoomzero วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:15:33:47 น.  

 
หึ หึ ที่ใช้คำว่าเกือบนี่ตั้งใจเลยหละ...
ก๊อแค่ล้อหยิก คนเราเห็นด้วย 100%นี่มันอิมพอสซิเบิ้ล ตรรกะง่ายเนอะ

ความจริงเรื่องท้าวสุรนารีที่เคยถูกเซ็นเซอร์ก็อยู่ในข่ายวิเคราะห์วิจารณ์อย่างที่ว่านะแหละ
จะว่าลึกว่าตื้นเป็นภาษาปาก หรือภาษาเขียน ก็ต้องไตร่ตรองหาความเหมาะสมอีกที

ยากก็ตรงนี้หละ ไผสิเห็นคือกันเหมิ๋ดหละแม่ะ





โดย: Dingtech วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:17:12:01 น.  

 


หวัดดีค่ะเฮีย
มินมาขอพักเหนี่อยที่นี่อ่ะ มาฟังเพลงแป๊ปนึงค่ะ
ไม่รู้วันนี้ มันวันไร ไปนู่นไปนี่ ยิ่งกว่าแท๊กซี่มิเตอร์อีกอ่ะค่ะ
นี่เป็นเหตุผลนึง ที่มินเคยบอกว่า เบื่อ ขี้เกียจขับรถอ่ะค่ะ
อ้ะ..เฮียลองดูนะ ถ้าเป็นเฮียจะหมดแรงจนเกือบหมดลมไม๊
เที่ยง รีบแจ้นออกจากบริษัทฯ (อยู่แถว ๆ เซ็นทรัลลาดพร้าว) ไป สสวท. อยู่แถว ๆ ท้องฟ้าจำลองโน่น บ่าย 2 กว่า ๆ กลับมา ปตท.วิภาวดี
3 โมงครึ่งออกจาก ปตท. ไป เอไอเอส ที่ชินวัตร 1 ออกจากชินวัตร เกือบห้าโมงกลับบ้าน
เพิ่งมาถึงหอบแฮก ๆ แทนที่จะพัก ดันเปิดคอมพ์เข้ามาคุยกับเฮียก่อน ด้วยความคิดถึง
ดูมันทำจิ แล้วงี๊ไม่เหนื่อยได้ไงอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ช่วง 8 โมงเช้าถึงเที่ยง ไม่ได้เงยหน้าจากกองเอกสารและคอมพ์เลยค่ะ โทรมือถือเข้ามายังต้องส่งให้เด็กรับไปก่อนอ่ะ..
ดีว่าในรถมินเนี่ย ขนมเสบียงเพียบ ไม่ได้ทานข้าวก็ไม่เป็นไร หยิบขนมจุ๊บจิ๊บทานไปเรื่อยอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
อืม..จริงด้วยค่ะเฮีย มินเพิ่งสังเกตุ ตอนนี้ไปไหนเห็นแต่ดอกป๊อปปี้สีแดง จริง ๆ ด้วย
เร็วเหมือนกันเน๊อะ จำได้ว่าปีที่แล้วซื้อมา 20 ดอก
หลังจากแจก ๆ เขาไป เหลือก็เอามาใส่แจกันเล็ก ๆ มาถึงปีนี้สีก็จะจาง ๆ ไปพอดี ได้ฤกษ์ซื้อของใหม่มาเปลี่ยนซะทีอ่ะ
เมื่อ 2-3 วันผ่านมา มินก็ได้รับ fw เมล์อันนึง จากคนที่เคยเป็นทหารแล้วได้ลงไปอยู่ใน 3 จว. ภาคใต้
อ่านแล้ว ทั้งเห็นใจ ทั้งสงสารและเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ที่นั่นจริง ๆ เลยค่ะ
พวกเราเนี่ยสบายแค่ไหนที่มีคนส่วนหนึ่ง ยอมเสียสละเพื่อพวกเรา มินว่าอาไร ๆ ที่พวกเราสามารถช่วยได้ตามกำลังของแต่ละคน
พวกเราก็ต้องช่วยกันแบบให้ถือเป็นหน้าที่เลยนะมินว่า ก็พวกเขามีหน้าที่ดูแลปกป้องพวกเรา
พวกเราที่อยู่ข้างหลัง ก็ต้องมีหน้าที่ส่งบำรุงกำลัง ทั้งขวัญกำลังใจและทรัพย์สินเท่าที่พวกเราจะสามารถช่วยได้ไปให้เค้านะมินว่า
เฮียสังเกตุไม๊ ทหารพวกนี้มีแต่คนฐานะปานกลาง และคนจน ๆ ทั้งนั้น
คนรวย หรือเศรษฐี เขาไม่ยอมให้ลูกหลานมาเป็นทหารเกณฑ์ หรือ ทหารรับจ้างหรอก...
วันนี้ ว่าจะมาอ้อนแบบอยู่ในโหมดซึ้งซะหน่อย มาเจอเรื่องนี้แล้ว อ้อนไม่ออก...อ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. โชคดีที่มินไม่มีปัญญาซื้อหลุยส์ วิตตอง มาถือ...เฮ๊อ..รอดไป...ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:18:38:13 น.  

 
เฮียคะ..
มินชอบภาพดอกไม้กับผู้หญิงข้างบนจังเลยค่ะ
มันเว๊บอาไรเหรอคะ นู๋ อ่านไม่ทันอ่ะ
บอกกันมั่งน๊า..ชอบพวกภาพสวย ๆ อ่ะค่ะ


โดย: มินทิวา วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:18:52:18 น.  

 
To มินทิวา
อาหมวยเล็ก
ชอบภาพนี้เหรอ....แหม...ดีใจนิดหนึ่ง....จะได้มั๊ยนี่



นี่...แปลว่า มองตัวหนังสือไม่ทันเหรอ แก่แล้วนะ
เขาเขียนว่า //cafe.daum.net/loveyou3040
เฮียลองเข้าไปแล้ว ต้องถึงกับ อึ่ง ทึ่ง กรี๊ด
กว่าจะให้ระบบมันคุยดีๆด้วย
เจ้าโปรแกรมแดจังกึมมันทักทายอะไรอ่านไม่ค่อยเข้าใจ
เลยต้องยอม (allow) ติดตั้งคำสั่งอะไรต่อมิอะไรตามใจโปรแกรมไป 2-3 อัน
ที่นี้ก็เข้าได้
ไปๆมาๆเลยได้ฟังวิทยุเกาหลีใต้อีกด้วย อเมสซิ่งจริงๆ

ภาพนี้
สงสัยจะเป็นภาพประเภท Flash หรือพวกไฟล์นามสกุล swf ซึ่งเฮียก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก
จำไม่ได้แล้วว่าเอามาจากไหน น่าจะเป็นคนใน Bloggang นี่แหละ
ตอนนั้นลอง search หา entry ว่า ของแต่งบล็อก แล้วก็เข้าไปแฮ็ฟออกมาเก็บไว้
ไฟล์ที่แสดงนี้ชื่อ //img43.imageshack.us/img43/42/35423424.swf
ใช้คำสั่ง img src=.... เฉยๆมันไม่ออกนะ ต้องใส่คำสั่ง embed ตามด้วยอะไรอีกเยอะแยะไปหมด
เอาไว้จำได้ว่าไปจิ๊กมาจากไหนจะมาบอกหลังไมค์อีกทีนะ
ตอนนี้ก็ คลิ๊กขวา เอาไฟล์นี้ไปเก็บก่อนได้เลย
จะได้เป็นแบบภาพนิ่งนะครับ

แต่ถ้าเอา link ของ imageshack นี้ใส่ในช่องค้นหา url (มุมซ้ายบนของจอ)
ใส่คำว่า //img43.imageshack.us/img43/42/35423424.swf
แล้วกด Enter ก็จะได้ภาพนี้เต็มจอ

เดี๋ยวนะ
สรุปก็คือ คนๆนี้เขาคงรู้วิธี save ภาพ swf แล้วเอาไปฝากใน ImageShack.us
แล้วเขาก็เอาภาพพร้อมโค้ดมาแจกให้คนใน bloggang นำไปใช้
ขอไปกินยาแก้ "อัลไซเมอร์" ก่อนนะ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:10:52:46 น.  

 
To Dingtech
คุณดิ่ง

ธรรมดาคนเราก็ไม่มีวันเห็นเหมือนกัน 100% ได้หรอก
อันนี้เห็นด้วย 100%
เอ้า...ชักยังไง ในตรรกะอันนี้
เวลาทำสัญญากัน เขาก็ว่าผมเห็นด้วย 100% แล้วก็เซ็นชื่อกัน
เวลาคนรักกัน ก็มักจะบอกว่า ผมเห็นด้วยกับคุณนะที่รัก เอาเป็นว่า 1000% (หนึ่งพัน) เลย
โดยเฉพาะเรื่องศรัทธาในศาสดา ศาสนา พระเป็นเจ้า เทพผู้พิทักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
มักจะมีบางคนเชื่อ 100% ใครอย่ามาขวางหรือขัดใจหละ มีเรื่องแน่
แต่คนที่พูดสุภาพว่าเห็นด้วยๆๆๆ
แต่ข้างในไม่เห็นด้วยอันนี้น่ากลัวกว่าคนที่เห็นด้วยเกือบ 100% นะ ว่ามั๊ย
จบเรื่องเห็นด้วยไม่เห็นด้วยดีกว่า ชักจะยืดยาว
เดี๋ยวอ่านไม่เข้าทาง จะเกิดมวยรุ่นใหญ่แถวนี้ 555



มาดูข่าวเกี่ยวกับทหารวันนี้ซิ
ผมเพิ่งจะเรียกร้องให้หาซื้ออะไรมาช่วยให้ทหาร-ตำรวจ ไม่ต้องเสียชีวิตไปหยกๆ
ไม่ว่าก่อนหรือหลังจากการเจอเรื่องบาดเจ็บ

ใจผมหนะอยากได้เสื้อเกราะกับฮอฯประสิทธิภาพดีๆ เอาไว้ขนย้ายผู้บาดเจ็บ
และหนึ่งในนั้นก็ยังคืดถึงเครื่องค้นหาระเบิด
ผมก็ว่าจำเป็นเหมือนกันนะ เพราะภาคใต้มีระเบิดแทบทุกวัน
แล้ววันนี้ GT200 ก็เป็นข่าวจนได้
เรื่องนี้กลายเป็นว่า
หลวงท่านจ่ายเงินเป็นร้อยล้านพันล้านเพื่อซื้อของมาช่วยชีวิตทหารหาญ
แต่ไหง เงินนั้นกลับกลายเป็นซื้ออะไรมาก็ไม่รู้
บริษัทที่ขายก็หลบๆซ่อน
นักข่าวไปคุยก็หลบหน้าหลบตา
ทำไมเจ้าของบริษัทไม่ออกมาให้ข่าวปกป้องสินค้าของตัวเอง
ของอะไรนี่ ไม่ต้องใส่ถ่าน
ไม่มีใส่วงจรไฟฟ้า ทำงานด้วยไฟ(ฟ้าสถิต)จากมนุษย์
เหลือเชื่อที่มันทำงานได้
และช่วยชีวิตคนมาได้แล้วด้วย
แต่จะจริงหรือ?
นักวิทยาศาสตร์ยังเกาหัวแกรกๆ
โอ้ย...น้ำตาจะไหล



Ref: Dingtech HotPink FF 69 B4


โดย: zoomzero วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:12:13:09 น.  

 
หวัดดีครับ

คุณจอมมารนี่ทำงานเนี้ยบจังเลยนะ (ชมจริงๆนะ ไม่นิยมเลีย) เห็นใส่ Ref พร้อมโค้ดอย่างมีระบบ สมเป็นครูอาจารย์จริงๆ (เดาเอา) ผมทำเป็นแต่เละๆเทะๆ ชอบทฤษฎีไร้ระบบ เอามันเข้าว่า พอจะหาอะไร...ลืมแล่ว

เรื่องยุทธปัจจัยเกินปัญญาผมครับ นอกฟิลด์ละกัน แต่ถ้าให้ช่วยด่าพวกจอมแดกจอมงาบนี่ เอาอยู่แล้ว ขอให้ไอ้พวกนรกจกเปรตเศษมนุษย์คุดทะราดเหล่านี้อย่าได้ตายดี ตายแล้วให้จมธรณีอยู่ใต้เถรเทวทัต! แฮ่...



โดย: Dingtech วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:17:02:34 น.  

 
To มินทิวา
อ้าว...ลืม เอาใจใส่เรื่องเหนื่อยล้าของอาหมวยเล็กไปเลย

ขอโทษที
เอ้..ขอโทษ ภาษาจีนว่าอะไรนะ?
รู้แต่ว่าขอบคุณ นี่ต้องพูดว่า กำเสี่ย กำเสี่ย หรือ กำของดีของเสี่ย ก็ไม่รู้
แล้วทำไมต้องมากำตรงนั้นของเสี่ยเค้าด้วย วุ๊ยส์ ต้องขึ้น น.13 ไปถึง น.30
เออ...ว่าไปแล้ว ก็ไม่ค่อยได้ยินอาแป๊ะหรือาม่า เขาพูดว่า ขอโทษ ในภาษาจีนเลย

เดี๋ยวนะ...ขอโทรฯไปถามเพื่อนก่อน
อ๋อ...เขาบอกว่า ตุ้ย ปู้ ฉี แปลว่า ขอโทษหลายๆครั้ง ขอโทษอย่างแรง ฯ
แล้วตามมารยาท คนที่ฟังก็ต้องรีบตอบว่า บู เค้อ ฉี (หรือ ปู้เข่อฉี) แปลว่า ไม่เป็นไร = Never Mind
เจ้ขายน้ำเต้าหู้เข็นรถผ่านมาหน้าบ้าน เลยถามซักหน่อย
อ้าว ได้คำมาใหม่อีก คือ
ขอโทษ คนแต้จิ๋ว พูดว่า ตุ้ย อึ่ม จู๋ (ตอนแรกฟังเป็น ตู อิ่ม จู๋ ว๊ายได้ยินมาแบบนั้นจริงๆฮ้า)
ส่วนคำว่า ไม่เป็นไร พูดว่า บ่อ เซียง กัง (และมักจะตามด้วยคำว่า กากี่นั้ง = คนกันเอง)

เขาว่าคนจีน เจรจาค้าขาย เขามีธรรมเนียมพูดจาภาษาสุภาพกัน น่าสนใจ
แต่คนไทยกลับหาว่าคนจีนพูดจาไม่สุภาพ โหวกเหวก เสียงดัง
อันนั้นก็ต้องดูด้วยว่าคนจีนแบบไหน และเขากำลังทำอะไร
ค้าขายในตลาดสด กับ ค้าขายในร้านใบชา ร้านทอง เขาก็พูดเสียงดังไม่เท่ากันหรอก
จริงๆแล้ว เฮียก็เกลียดคนไทยที่ใช้คำดูถูกคนจีนนะ
ทั้งๆที่คำที่เรียกจิกกดกันนั้นมันก็แปลว่า หนึ่ง หรือคุณอาผู้ชาย ในภาษาไทย
แต่คนไทยบางคนก็สามารถเอามาเหยียดหยามคนเอเชียด้วยกันได้
เฮ้อ...นี่แหละ เฮียถึงโยนกระบี่ทิ้งที่ยอดเขามังกรหลับ
แล้วกระโดดข้ามหน้าผาใจระทม
ตีลังกา 3 รอบกลางอากาศ ใช้วิชาบุปผาลอยลม
ก็มาลงแลนดิ้งในหุบเขาคนโฉดแห่งนี้ (โม้ซะ...555)

อ้อ...สำหรับคนที่ไม่ยอมแต่งงาน
ทำตัวเป็นสาวโสดอยู่ได้
เฮียก็มีคำพูดฝากมาให้ก็ คือ บ่อนั้งไอ่ 无人爱 (没人要)
555

เรื่อง FW ทหารเสียชีวิตที่ภาคใต้
เฮียเห็นรูปมาบ้างเหมือนกัน ตอนอ่านหนังสือคมเสธ.แดง ภาค4 กระมัง
ไม่เป็นเสื้อสีอะไรหรอกนะ พอดีอยากรู้เรื่องปล้นปืน
และเรื่องทำไมวัยรุ่นมุสลิมถึงต้องทำแบบนั้น
มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะที่มาที่ไปมันเริ่มต้นมานาน 3 ช่วงอายุคนแล้วหละ
ใครจะว่าอะไร ใครจะเถียงว่าไม่จริง เรื่องคนไทยดูถูกคนมุสลิม
เฮียนี่แหละตัวเห้...ตัวหนึ่งเลยหละ
สมัยเรียนมัธยมต้น เฮียมีเพื่อนเป็นชาวมุสลิม นามสกุล "บุญมาเลิศ"
ไม่รู้ว่าผีในนรกตัวไหนมาสิงเฮีย หรือทุกวันนี้ผีตัวนั้นยังสิงอยู่ที่เฮียหรือเปล่า? ก็ไม่รู้
ในตอนกลางวัน เฮียจะแกล้งเอาอาหารที่เพื่อนคนนี้เขาละเว้นการทาน ตามคำสอนของศาสดาของเขา
แต่คนพุทธอย่างเราๆทานกันได้
เฮียก็จะแกล้งเอาเนื้อหมู ทำท่าจะเอาไปใส่จานอาหารของเพื่อนคนนี้
ซึ่งก็กะว่าจะทำเล่นๆ เพราะว่ากลัวเขาเอาไปฟ้องคุณครู ก็ทำแบบนี้เกือบทุกวัน
เพื่อนก็ย้ายที่นั่งหนีไปทุกที
แต่ก็มีวันหนึ่ง เฮียทำพลาด หมูหลุดมือ เนื้อหมูหล่นลงในจานอาหารเขา
เขาก็โกรธ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเฮีย
เขากลับลุกขึ้นเดินไปซื้อข้าวราดแกงมาทานใหม่อีกจาน
(มาคิดดูถ้าเขาได้เงินมาทานอาหารพอดี แล้วเขาจะทำอย่างไร ต้องอดข้าววันนั้นหรือไง?)
เพื่อนๆมันรุมด่าเฮียซะยังกับท่านสมภารสวดมนต์ 7 ตำนาน 3 รอบ
อีก 2-3 วันต่อมา
เฮียถึงกล้าเข้าไปขอโทษเขา ตอนทำก็กล้า แต่ตอนที่ต้องกล้ากลับกลัว
ตอนนั้นไม่รู้ว่าสำนึกผิดได้ หรือกลัวสังคมด่าประณามก็ไม่รู้นะ
รู้ว่าตอนเป็นวัยเด็กมันอึดอัดมาก ถ้าไม่มีคนคบ (ทุกวันนี้ก็ไม่มีคนคบอยู่ดี)
เฮียว่าไม่น่าจะมาจากจิตฝ่ายดีหรอก
เพราะทุกวันนี้จิตฝ่ายดีของเฮียมันอยู่ที่ไหน เฮียยังหาไม่เจอเลย

เพื่อนคนนี้ต่างหากที่มีจิตฝ่ายดี
เขาเป็นคนที่ใจดีมีน้ำใจนะ เขาบอกว่าไม่เป็นไร
แต่ขอร้องว่าอย่างแกล้งเขาเรื่องนี้อีกเลย เขาเองก็ไม่ชอบ รำคาญมาก
ถึงแม้ว่าจะโดนคนพุทธล้อมาตั้งแต่เกิด แต่มันใช่ว่าจะต้องจำใจชิน
เขาก็บอกว่ามันก็โกรธนิดๆเหมือนกัน
เฮียก็แอบแอ๊คแมน บอกให้เพื่อนต่อยหน้าเฮียได้ 1 ที
เพื่อนมันก็ยิ้ม เฮียเลยรีบจับไม้จับมือแสดงความเป็นมิตร
(ก่อนที่มันจะเปลี่ยนใจ ขอชกหน้าเฮียเอาคืน 555)
ก็เลยกลายเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่วันนั้น
ตอนหลังเขาไปเรียนหนังสือและทำงานช่วยคนไทยที่ไปเรียนที่อียิปต์
ท่านดำรง พุฒตาล ยังเคยเอาเขาออกรายการทีวีสมัยพาเที่ยวดูปิรามิดที่ไคโร เลย
555 รู้จักท่านดำรง อดีต ส.ว. หรือเปล่า สงสัยเกิดไม่ทันหนังสือคู่สร้างคู่สม
หรือว่าไม่ชอบอ่าน หรืออ่านไม่ได้ กระมัง 555
ปัจจุบันไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้ได้ปักหลักอยู่ที่โน่น
หรือกลับมาสอนภาษาอาหรับที่เมืองไทย
เพราะเขาเคยสัญญากับพ่อของเขาว่า
จะเรียนภาษาอาหรับให้ได้เป็นถึงครูบาอาจารย์ให้ได้
คิดดูซิ ขนาดเฮียคนเดียวยังสามารถสร้างรอยร้าวให้คนพุทธกับมุสลิมได้เลย
แล้วถ้าเป็นระดับข้าราชการ หรือนักการเมือง กับชาวบ้านหละ

อาหมวยรู้มั๊ยว่า เมื่อ 100 ปีก่อน ชาวบ้านมุสลิมทางใต้ทำอาชีพประมง
ไม่เคยมีใครเป็นเจ้าของชายหาด
แผ่นดินไทยเป็นของพ่อหลวงทั้งหมด คนไทยถึงรักกัน
พวกเขาก็อยู่อาศัยจอดเรือกันที่ชายหาด กินนอน ปลูกกระท่อม มีครอบครัวอยู่ริมน้ำ
คุณจะเกิดที่ไหนก็ได้ แค่เอาเรือมาจอด แล้วก็ทำมาหากินในประเทศนี้ได้เลย
บรรพบุรุษของเราไม่เคยแยกคนดีคนชั่วโดยเอาศาสนาของเขาเป็นเครื่องวัด
เราไม่เคยแยกเชื้่อชาติ ไม่เข้าข่มเหง ตราบใดที่เขาไม่ยกกองทัพมาฆ่าคนไทยในปฐพีไทย

แต่ทุกวันนี้ พวกคนพื้นเมือง คนพื้นที่เดิม
เขาน้อยคนนักจะมีสิทธิ์ยืนหายใจตรงชายหาดได้ตลอด 24 ชม.
ใครไปนอนเล่นที่ชายหาด เอาอวนมาซ่อม
เอาเรือมาจอด ขนถ่ายสินค้า โดยไม่ดูพื้นที่ให้ดี
พวกนายทุนมันเอาตำรวจมาลากคอเข้าคุกหมด
ถูกต้องแล้วครับ ชายหาดมีเจ้าของ ทะเลมีเจ้าของ ท้องฟ้ามีเจ้าของ
ใครเป็นเจ้าของ?
ก็คนรวยรุ่นใหม่ไง คนนอกพื้นที่ คนต่างศาสนา คนต่างภาษา ฯ
เจ้าหน้าที่พูดภาษาอะไร ยาวีหรือภาษากลาง
เจรจาอธิบายกันรู้เรื่องหรือไม่
สุดท้ายก็ใช้กฏหมู่ สังหารหมู่ การแก้แค้นก็เกิดขึ้นมา
นี่เป็นแค่มุมมองเล็กของเฮียเท่านั้นนะ
อาจจะไม่ถูกตามความจริงเท่าไหร่
เรื่องความขัดแย้งระหว่างคนไทยกับคนไทยนั้น มันเขียนเป็นรายงานได้หมื่นๆหน้า
ปัญหาอยู่ที่ว่า รู้แล้วได้อะไร รู้ไปทำไม
เราอยู่แบบเห็นแก่ตัวดีกว่า อยู่ในหุบเขาคนโฉดดีกว่า
เพราะเวลาส่องกระจกทีไร เราก็เห็นตัวเราคนเดียวทุกที หุหุ


อ้าว...น้องหมวยเล็กอุตส่าห์มาอ้อน
เฮียกลับเล่าเรื่องน้ำหมากกระฉอกเสียได้
เอาเป็นว่า นั่งฟังเพลงไป
อ่านนิยายบัลลาดไทยๆไปก็แล้วกัน

เสาร์อาทิตย์ ช่วยคิดถึงกันบ้าง
จรู๊ป จรู๊ป

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:18:35:45 น.  

 
หวัดดีค่า

พี่ซูมคิดนอกกรอบดีจริง ๆ ค่ะ ถึงวันทหารผ่านศึกก็จะเห็นกิจกรรมที่เป็นหลักเป็นฐาน ก็ขายดอกป๊อปปี้นี่แหละ คงเป็นกิจวัตรประจำปีไปแล้ว รัฐบาลน่าจะช่วยเหลือทหารผ่านศึกให้มากกว่าที่เป็นอยู่ พวกเราเป็นประชาชนคงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเวลาเห็นดอกป๊อปปี้ก็จะซื้อทุกครั้งเท่านั้นแหละค่ะ

ขอคุยต่อจากเม้นท์ในบล๊อคที่แล้ว ไม่ได้ดูหนังโรงมาหลายปีเหมือนกันค่ะ จะห้าปีได้แล้วมั้ง นอกจากจะเป็นหนังใหญ่จริง ๆ ถึงนึกอยากเข้าโรงหนัง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปสักที ก็เพราะขี้เกียจนั่นแหละค่ะ หลัง ๆ มานี่จะติดทีวีไม่ก็ซื้อดีวีดีมาดูมากกว่า

ทีวีรุ่นที่ต้องหมุนช่องด้วยมือก็ยังได้ทันใช้อยู่น้า สมัยนั้นตีกะพี่แย่งดูทีวีกันประจำ ฟังพี่ซูมพูดถึงคนถือรีโมทแล้ว นึกถึงตอนที่ท่านนายกให้สัมภาษณ์ในรายการของวูดดี้ พอถูกถามว่าอยู่ที่บ้านส่วนใหญ่ใครเป็นคนครองรีโมท ท่านนายกตอบได้ฮาแล้วก็น่ารักมากว่า ใครถือรีโมทไม่สำคัญหรอก ถ้้าภริยาอยากดูช่องอื่นก็ต้องกดตามคำสั่ง (ฮ่า ฮ่า ฮ่า )

ฟังจากที่เล่าเรื่องประหยัดน้ำแล้วซูฮกให้เลยค่ะ คุณพี่เป็นคนคิดถี่ถ้วนมากกกกกก อยากจะเอาอย่างมั่งแต่คิดไม่เป็นระบบขนาดนั้น ถ้าคิดแบบนี้กันเยอะ ๆ ประเทศไทยคงประหยัดทรัพยากรน้ำได้ตรึม ดูท่าคุณพี่จะเป็นพ่อบ้านที่ดีถึงดีที่ซู้ด ทำงานบ้านเป็นหลายอย่าง ทั้งซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ชอบทำทั้งสามอย่างเหมือนกัน แม่สอนให้ทำมาตั้งแต่เด็กเลย โดยเฉพาะล้างจาน แต่ต้องล้างด้วยมือนะ เวลาอารมณ์ไม่ดีแล้วได้ล้างจานจะช่วยได้เยอะ แบบว่าล้างจานล้างใจไง เก๋ม่ะ

ขอบคุณที่แก้สีกล่องเม้นท์ให้นะคะ พิมพ์แล้วตัวหนังสือเป็นสีดำก็อ่านได้สบายตาดีค่ะ ชอบใช้เบราเซอร์ของหมาย่างมากกว่ายี่ห้ออื่น คอมเป็นแมค ลองลงโปรแกรมของ IE แล้วไม่ได้ค่ะ


โดย: haiku วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:20:21:20 น.  

 
To Haiku
สวัสดีคะน้องไฮก์

เรื่องผู้ครอบครองรีโมทในบ้าน
แบบที่ท่านนายกพูดมาก็ฮาดีนะ เป็นความจริงที่จริงแท้
อันนั้น ผู้มีบารมีได้มีอำนาจเหนือกว่าผู้ครอบครองเสียอีก เออ..มือที่มองไม่เห็น 555

อย่างวันนี้ ตอนนี้ คุณผู้ครอบครองรีโมทนั่งจองและจ้องช่อง 3 ด้วยความรีแหลกส์เริงรื่น
พี่ไม่อยากดูละครเรื่องนี้ เลยหนีออกจากห้องมา
เพราะไม่ชอบเรื่องคนล้างแค้นกันขนาดจะเอาให้ตายกันไปเลย
มีการโกหก มีการรักลูกแบบลำเอียง ถึงจะดราม่าดี สะท้อนอะไรได้มากแค่ไหน
และแม้ว่าจะเดาได้ว่า สุดท้ายนางเอกก็จะเข้าใจพระเอกและลงเอยกัน
มีครอบครัวกันไป Happy Ending
แล้วมีด้วยหรือคนที่เคยโกหก คนที่เคยเกลียดกัน จะสามารถมีครอบครัวได้แบบนี้จริงๆ
พี่อึดอัดเวลาดู คิดว่ามันเป็นนิยายมากเกินไป (เลยแอบหนีมาเปิดคอมฯ)
คุณนายถามว่าทำอะไร พี่ก็บอกว่าอ่านข่าว
เสียงถามว่าข่าวอะไรสำคัญมากนักหรือ?
พี่ก็ตอบไปว่า เผื่อเขา "ปะติวัด" กัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องออกไปไหน 555
ก็เมื่อวานก็มีรถถังออกมาวิ่งเล่นให้หุ้นตก กราวรวด น่าจะต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีเสียหละมั๊ง
ที่ไหนได้ 555 เราเข้ามาเล่น blog ต่างหาก
(ที่บ้านมีทีวี 3 เครื่อง ดูได้แยกอิสระจากกันหมด แต่คุณนายไม่ยอมให้เปิด 2-3 เครื่องพร้อมกัน งงมั๊ย)

เรื่องทำงานบ้าน เรื่องประหยัดน้ำ
555 อย่าเพิ่งเชื่ออะไรมา พี่แค่เขียนให้ดูดีมีความสง่า ไปงั๊นๆแหละ
เจ้าเครื่องกรองน้ำแบบ RO มันเอาน้ำทิ้งเยอะมาก
เลยต้องหาถังใบใหญ่ๆมาเก็บน้ำทิ้งของมัน
คนที่ขายเครื่องกรองน้ำแบบปกติ มักจะโจมตีเรื่องการสูญเสียน้ำ
แต่ปัญหามีเอาไว้ให้เราแก้ ไม่ได้ให้กลุ้ม จริงหรือเปล่า?
เราก็เอาน้ำทิ้งมาใช้ก่อนที่จะทิ้งไปจริงๆ
แต่พี่ชอบตรงที่น้ำดื่มจากเครื่องนี้มันสะอาดมาก แทบเป็น H2O ของห้อง Lab เลยนะ
ตอนนี้พี่กลัวเป็นโรคนิ่วมากกว่ากลัวขาดสารอาหาร
หุ่นอย่างพี่หนะ อดอาหาร 7 วัน ยังไม่เป็นอะไรเลย สารอาหารยังล้นเหลือ
แค่เอาขาหน้าตัวเองมาลวกน้ำร้อนก็แทะกินได้แล้ว หุหุ
พวกงานบ้านนี่ทำมาตั้งแต่เด็กๆเพราะเป็นพี่ชายคนโต
รอเกี่ยงน้องไม่ได้ มิเช่นนั้นจะโดนไม่เรียว ควั๊บๆ จ๊ากส์
ส่วนคุณนายเขาเป็นภูมิแพ้ โดนฝุ่นผง โดนน้ำยาล้างจาน หรืออะไรก็จะเป็นผื่นขึ้นทั้งตัว
เลยเป็นบุญของเขาตั้งแต่เกิดเลยว่า ไม่ต้องทำความสะอาดอะไร
วันๆแค่ซักฟอกสามีกับลูกๆก็พอ ใครตอบไม่เคลียร์มีเคือง 555

พี่เห็น entry ใหม่ของคุณไฮกุแล้ว เป็นเรื่องพระพุทธรูป
ทำให้นึกได้ว่าป้าวีก็คงจะไปเอามาแล้วเหมือนกัน
เอาไว้ต้องลองถามดู ว่าของป้าวีสวยมั๊ย
ตอนนั้นพี่ก็อยากได้นะ แต่ขออธิษฐานแล้ว ก็ถูก lottery ได้เงินมาแค่ 8 พัน
ก็เลยคิดว่าคงไม่ตรงกับนิสัยหรือจิตวิญญาณของเรา (โห เขียนซะ เหมือนบรรลุธรรมเลย อ้าฮ้า)
คงเป็นเพราะวันนั้นโลภมากอยากได้เงินเป็นหมื่นๆ (จากการเล่นการพนัน 555)
ไม่อยากควักเงินอีก 2 พันสมทบ เลยเอาเงินฝากบัญชีการศึกษาให้คุณหนูไปซะเลย
อีกอย่าง ทุกวันนี้ บ้านนี้มีห้องพระ ที่รกมาก
หิ้งพระที่บ้านนี้ มีพระพุทธรูปและพระเครื่อง ล้นแล้วล้นอีก ขนาดเอาไปแจกงานศพยังเหลือกลับมา
ตอนนี้ต้องแบ่งกำแพง 4 ด้านของห้หองพระ ออกเป็นโซน เอ บี ซี ดี
โซนเอ เป็นโต๊ะหมู่บูชา มีพระพุทธรูป ได้แก่ พระแก้วมรกต (4 แบบ), พระพุทธชินราช, พระร่วงโรจนฤทธิ์
หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อมงคลบพิตร, พระประจำวันเกิดทั้ง 9 ปาง, ....
โซนบี มีหิ้งวาง เจ้าแม่กวนอิม(หลายองค์มาก), เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว อีกหิ้งติดๆกันก็เอาไว้วางพระพิฆเณศ
โซนซี มีหิ้งวาง รูปเหมือนพระปิยะฯ, รูปเหมือนย่าโม, ....
โซนดี เป็นตู้หนังสือ มีรูปปั้นพระเกจิอาจารย์ต่างๆ เช่น หลวงพ่อทวด, สมเด็จโต, ...
ตรงกลางห้องมีโต๊ะอีกตัว วางรูปหล่อท้าวจตุคามขนาดพอสมควร
นี่ยังไม่นับบนหลังตู้หนังสือ ที่มีพวกผ้ายันต์วัดพุทไธสวรรค์, งาแกะเป็นรูปพญาเสือ, หนุมานวัดไผ่ล้อม, ....
ตามใต้โต๊ะก็ยังเป็นหนังสือพระอีกมากมาย
ต้องบอกว่าของมีไม่มากหรอก แต่มีหลากหลาย เพราะอยากศึกษา
แต่ตอนนี้คิดว่า มีวัตถุสะสมมากเกินไปซะแล้ว
จะกลายเป็นพวกบ้าวัตถุไปแล้ว
เลยปล่อยให้คุณนายเขาสะสมไปคนเดียวตอนนี้

ครั้นพี่จะไปนำของใหม่ๆเข้ามาในบ้านอีก
เรื่องแรก ก็กลัวเจ้าของบ้านจะไม่อนุญาต อาจจะโดนสวดยับก็ได้
และก็ต้องถามตัวเองว่า เอามาทำไม หามาเพิ่มทำไม มันมากแล้วนะ
มีของเยอะขนาดนี้ ยังคิดเรื่องดีๆกับเขาไม่เป็นเลย ยังชอบตำหนิคนโน้นคนนี้
แค่ทำจิตให้ว่าง ยังทำไม่ได้เลย ทำได้แต่จิตวุ่น 555
จริต มันบอกว่า อย่าไปจองมาบูชาเลย ของดีๆให้ไปอยู่บ้านคนดีๆ ดีกว่า เน๊อะ
แต่วันนี้เข้าไปเห็นรูปชัดๆทีบล็อกของน้องไฮก์
อือ...สวยนะ เป็นปฏิมากรรม+วิจิตรศิลป์ที่งดงามมาก

เรื่องแก้สีกล่อง comment
บ่อ เซียง กัง บ่อ เป็น อัน หยัง
สำหรับน้องไฮก์
จะให้พี่ไปตีหัวใคร หรือขย่ำคอใคร พี่ก็จะทำให้ 555

Ref: ไฮกุ haiku DarkGreen 00 64 00


โดย: zoomzero วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:17:04 น.  

 


หวัดดีค่ะอาเฮีย อิอิ
มินได้รับเมล์แล้ว ด้วยความชื่นมื่นค่า ฮ่า ๆ ๆ
จริง ๆ ไม่ใช่อ่านไม่ทันหรอก แต่ว่า ตัวหนังสือมันเล็กมาก ๆ อ่ะ (เอ๋..อันนี้ มันก็บ่งบอกอายุเหมือนกันนี่นา ฮ่า ๆ ๆ)
ก็เลยถามดีกว่า..เร็วดี ทุ่นแรง ทุ่นสายตา เก็บสายตาไว้ส่งตาหวานให้หนุ่ม ๆ ดีฝ่ากันเยอะเลยค่า ฮ่า ๆ ๆ
อ้ะ..วันนี้ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดพักบล๊อคของเฮียนี่นา ถ้านู๋จำไม่ผิด
วันนี้ เป็นวันแมนโชว์ เอ๊ย วันแฟมมิลี่แมนอ่ะนะคะ อิอิ ไปไหน ทำไร กินไร โดยเฉพาะอันหลังเนี่ย เผื่อมินด้วยนา ฮ่า ๆ ๆ
ขอโทษ ภาษาจีนอ่ะ มินไม่รู้ค่ะ รู้แต่ภาษาเกาหลีอ่ะ "บียาเน่" ถ้าขอโทษแบบรู้สึกสำนึกผิดด้วยก็ "บีอานาต่า"
แต่เวลาพูดแล้ว มักจะพูดว่า บียาเน่ ก่อนแล้วตามด้วย บีอานาต้า เสมอ ๆ อ่ะ
สาวกหนังเกาหลี ก็แบบนี้หล่ะค่ะ ดูจนฟังได้เกือบจะรู้เรื่องแล้วว่าเป็นไง
หมายถึง มินชอบดูซาวแทรคเกาหลี บรรยายไทย แต่ส่วนมากมักไม่ค่อยได้อ่าน นอกจากศัพท์ยาก ๆ อ่ะ
มินกับคุณไฮ(กุ) อ่ะ หลงรักปู้จายคนเดียวกันเยอะแยะเลยค่าเฮีย
แต่แปลกที่เราสองคนสามัคคีกันม๊ากมาก ส่งข่าวอัพเดทข้อมูลบรรดากิ๊ก ๆ ของพวกเราตลอด
ไม่มีตี ไม่มีกัน ไม่มีกั๊ก กันเลยอ่ะนะคะ ฮ่า ๆ ๆ ไม่เชื่อไปถามคุณไฮ ดูก็ได้ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เรื่องเพื่อนเฮียตอนเด็ก ๆ อ่ะ ถ้าเทียบกับวีรกรรมของมินที่ทำกับพวกครูแล้ว
จึ๋ย..มินกลายเป็น bad girls ไปเลย ( girls ต้องมีเอส เพราะนู๋ไม่ได้ทำคนเดียว...
ยังไม่วายเหลือความดีให้ตัวเองอีกซักกะติ๊ดนึงอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ)
ถ้าไม่ชอบมิส หรือ มาสเซ่อร์คนไหน เป็นเจอดีจากพวกมินแน่ เบาะ ๆ ก็เรื่มจากโดดเรียน โรยหมามุ่ย เอาชอล์คกับแปรงลบกระดานไปซ่อน
เอาสีเทียน บางทีก็หมากฝรั่ง ก็เคยมี แปะไว้ที่เก้าอี้ที่มิสจะนั่ง
โอ๊ย..พอคิดย้อนไปแล้วเนี่ย โกรธตัวเองพิลึก ทำไมชั้นเป็นเด็กแบบนั้นเนี่ย
อ๋อ...มันเป็นเด็ก broken home นี่เองมั๊งคะ มันถึงได้เจ้าปัญหา ซ่ามาตั้งแต่เด็ก อ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
มันเป็นธรรมชาติของคนเรานะมินว่า แกล้งเค้าหรือโกหกหน้าตาเฉยเนี่ย
แต่กลับอาย หรือไม่กล้าที่จะพูดความจริงอ่ะนะคะว่าไม๊...
วันนี้ มินก็มีโปรแกรมค่ะ คุณนายแม่มินจะไปไหว้พระ ซึ่งมินเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
แต่..ขอร้องเลยนะ กับคำว่า เกษตรแฟร์ อ่ะ
มินหวังว่าจะไม่ได้ยินจากแม่มินนะ บรื๋อ...
แค่คิดถึงผู้คนล้นหลาม รถราไม่รู้จะไปจอดที่ไหน แดดร้อนเปรี้ยง ๆ มินก็จับไข้ซะตั้งแต่ยังไม่ได้ออกตจากบ้านแล้วค่ะเฮีย..อู๊ย..ไม่อาวนะแม่จ๋า...ฮ่า ๆ ๆ
ถ้า อยากจะไปเดินเกษตรแฟร์อ่ะ วันนี้ต้องมีขัดใจกับสปอนเซ่อร์หลักของมินแน่ ๆ เลยอ่ะค่ะ
ฮ่า ๆ ๆ
ปล. คิดถึงอ่ะ มันแน่อยู่แล้วค่ะเฮีย ฮ่า ๆ ๆ
hugsssss...จร้า...


โดย: มินทิวา วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:8:06:59 น.  

 


หวัดดีค่ะเฮีย
แง แง..บล๊อคแก๊งค์ทำมินหงุดหงิดตั้งแต่เช้ามืดเลยค่ะ
ไม่รู้เป็นไรของเค้า รอโหลดแต่ละบล๊อคนานมาก ๆ เลย
บางบล๊อคเข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่รู้เป็นที่เว๊บเขาหรือป่าว
เพราะวันหยุดคนคงใช้เยอะมาก ๆ อ่ะค่ะ โทรไปถามเพื่อน ๆ ก็บอกว่าให้ใช้ FF สิ แต่มินไม่ถนัด
เพราะ firefox มันวาง browser ไว้ข้างบน มินชอบเผลอปิด มันเลยปิดทุกหน้าเลยค่ะ ..
ปล. เมื่อวานได้เขียนไดอารี่ว่าไงมั่งคะเฮีย ฮ่า ๆ ๆ
มินลองหัดใส่ภาพสวย ๆ มีพี่ชายใจดีสอนให้ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
มีความสุขมาก ๆ นะคะเฮีย ยิ้มให้มินซักจิ๊ดนึงก็พอค่ะ


โดย: มินทิวา วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:9:05:10 น.  

 
ขอบคุณนะครับ ที่เข้าไปเยี่ยมกัน

^_______^


โดย: St@rGazer IP: 110.164.246.196 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:07:24 น.  

 
To Dingtech
สวีดัสศวัศดีครับ คุณดิ่ง
เดาผิดนะครับเรื่องที่ว่าเป็นครูบาอาจารย์
ขนาดอาจารย์ใบ้หวย ยังไม่มีคนเชื่อเลย
เรื่องรหัส ref เป็นความลับนะครับ ผมไม่บอกใครง่ายๆหรอก
แต่จะกระซิบบอกคุณแค่คนเดียว

อันนี้เป็นเพราะมีบทเรียนที่เจ็บปวดมาครั้งหนึ่ง
โน..โน...ไม่ใช่เรื่องอกหักรักตุ๊ดอะไรอย่างนั้น
คือผมเคยมี ิblog ที่เป็นออริจินอลของการเริ่มหัดเขียนบล็อก
avatar ตัวนั้นผมปั้นแต่งใส่นิสัยของคนโน้นคนนี้เข้าไปในตัว
จนกลายเป็นบุคคลนามธรรม ในรูปแบบที่ผมพอใจ
แต่กรรมเก่าก็มาทำให้ต้องสูญเสีย login ชื่อนั้นไป
ครั้นอยากจะกลับไปดูอะไรต่อมิอะไรก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เลยมีความคิดว่าจะใส่ ref code เอาไว้
แล้วก็ไม่ทราบว่ามันจะได้เอามาใช้ search ในอนาคตหรือเปล่า
แค่ทำเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องที่อยากทำก็คือจัดเป็นหมวดหมู่ ของผู้เข้ามาเขียน comment
แต่ละท่าน แต่ละคน และแต่ละตัว 555
พอจะ save ก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่า พวกแกยังไม่อยากจดจำฉันเลย
แล้วฉันจะไปจดจำพวกแกหาพระอาทิตย์อะไร
คิดได้โฉดๆแบบนี้ ก็เลยไม่ได้ทำการเก็บรวยรวมอะไร
จบข่าว 555 (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนิดหน่อยนะจ๊ะ)

อ้าซ์ ลื้อชอบด่าไอ้คนชั่วช้าทำร้ายคน ทำลายชาติ พวกนั้นเหรอ
โอ้ย อั๊วเคยลองด่าพวกมันแล้ว
บอกตามตรงว่า เหนื่อยชิ๊ปสลาย
พวกมันมีเยอะมาก แถมเมื่อวานก็ดูดี พอเวลาผ่านไปก็กลายร่างให้เห็นว่า ก็ไม่ได้ดีกว่าอีกพวกเท่าไหร่
ในนรกคงมีพรรคพวกของคนเหล่านี้อยู่จนแออัด
เอาไว้รอคุยกันคราวต่อๆไป ในห้องขว้างไข่นี่แหละ
ผมจะเอาเรื่องที่ผมมองแล้วขวางหูขวางตา ออกมาโวยวายให้ทราบ

ขอบคุณที่ คุณเป็นห่วงประเทศนี้
ประเทศที่มีของดี แต่คนในประเทศกลับทำตัวเป็นคนตาบอด พูดไม่ได้
ประเทศที่ผมต้องทำตัวเลวๆ เพื่อให้คนดีๆออกมาด่าผม
เพื่อที่ผมจะได้มีโอกาสบอกว่า มาด่าผมได้เลย
แล้วก็ช่วยไปด่าไอ้พวกทำลายชาติต่อด้วยนะ กล้าๆเลยพี่

Ref: Dingtech HotPink FF 69 B4


โดย: zoomzero วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:49:02 น.  

 


มานั่งรอ..
จะชวนทานกลางวันด้วยค่ะพี่ชาย..
ยุ่ง ๆ เหรอคะ งั๊นใมนทานก่อนน๊า
เดี๋ยวต้องออกไปข้างนอกค่ะ
สุข สดชื่น โชคดี รับวันแรกของเดือนกุมภานะคะเฮีย


โดย: มินทิวา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:00:32 น.  

 
To Mintiva
MorningNoon จ้า อาหมวยเล็ก

เรื่อง Family Man
เรื่องนี้ต้องร้องดังๆว่า "บียาเน่"
เพราะเฮียเป็นผู้ชายอย่างที่มินคาดไม่ถึง(เพราะเข็มขัดสั้นไปหน่อย)
เฮียก็แค่ทำในเรื่องที่มันทำให้คนรอบตัวสบายใจ
ลองเฮียทำเรื่องที่ตัวเองสบายใจซิ
อาจจะมีคดีเด็ดลงหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ได้ 555
เอาเป็นว่าเมื่ออยู่ในโลกจินตนาการมากๆ เราต้องล้างสมองตัวเองบ้าง
โดยการกลับไปอยู่ในโลกที่ปกติ โลกโหดๆ หวานๆ ของจริงๆ สัก 1-2 วัน
พอกลับมาอีกทีเราก็จะมองเห็นอีกมุมว่า อันนั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก
เราเอาอคติเขาไปมอง เราเอาความคิดของเราไปยัดใส่ภาพลักษณ์ของคนๆนั้นมากไป
หรือเรามี ego มากไป ลองลงอีกนิด เราอาจจะเข้าใจเและเห็นใจเขาได้
สำหรับเฮีย เฮียไม่ชอบเห็นใจใคร แต่เฮียอยากเข้าใจเขามากกว่า
และถ้าเขาเปิดใจ เฮียก็จะลองช่วยเขาคิดหาทางออก
เพราะสมัยที่เฮียมืดแปดด้าน มันไม่มีใครมาช่วยเราจริงๆ
บางเคสเหมือนผงเข้าตา แค่มีคนเป่าลมเบาๆใส่ตาเรา เราก็มองเห็นทางสว่างแล้ว
แต่ในวันนั้น มันมักไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมาทางนั้นเสียด้วย ฮือๆ

เรื่อง Bad Boy Bad Girl
555 ขอบอกว่า เราคล้ายๆกัน
สมัยหนึ่งเฮียเรียนโรงเรียนดัง อยู่กลางถนนลาดพร้าว
อ๋อ...โรงเรียนเป็นเกาะกลางถนน
มีพี่จราจรเป็นครูใหญ่
ไม่ช่าย.....ไม่ได้เป็นแบบนั้น
โรงเรียนเฮียอยู่ช่วง กม. 5 ของถนนต่างหาก
โรงเรียนต้นแบบคือ เตรียมอุดมฯ ของเราก็เตรียมตรอมตรม อุดมด้วยป่าหญ้าและงู
เพราะทางเข้าโรงเรียน ทุรกันดารสุดๆ
ระบบการเรียนการสอน ต้องบอกว่าได้มาตรฐาน สงสัยว่าจะเกินมาตรฐานไปด้วยมั๊ง
ก็เล่นสอบเข้าหมอได้เกินโหล บางห้องเอ็นท์ได้ยกห้อง แต่บางปีนะน้อง ไม่ใช่ทุกปี

การเข้าพบครูบาอาจารย์ ไม่ใช่เดินโครมๆแล้วไปพูดคำหัวแบบทุกวันนี้
เราต้องลงคลานเข่า (แต่ไม่ได้หมอบคลานนะ) ก่อนถึงครูประมาณ 2-3 เมตร
เข้าไปหยุดห่างท่าน 1 เมตร ยกมือไหว้ท่าน และต้องรอให้ท่านถามก่อน
แต่ในวันนี้ เด็กๆเขาน่ารักมากนะ เขาเดินเข้าไปประชิดตัวครูที่โต๊ะ
ครูผู้หญิงหนีบขา เก็บกระโปรงแทบไม่ทัน
แล้วก็แหกปากว่า จานๆๆ ผมเอาไอ้นี่มาส่งแล้วนะ ไม่ต้องด่าผมอีกแล้วนะ ...
ลูกหลานเราเดี๋ยวนี้เขาจริงๆใจ แมนๆกันจังเลย
พูดกับครูเหมือนพูดกับเพื่อนในเน็ท

จริงๆเฮียก็มี เรื่องที่ทำเอาไว้สำหรับวันครู 16 มกราคม ที่ผ่านมา
แต่ก็เกิดหมดไฟ ไร้ฟิลด์ ขึ้นมาดื้อๆ ก็คนมันไม่ใช่คนดีหนะ จะเอาอะไรมากหละ หึหึ
ตอนที่เสียครูจูหลิงไป ไม่รู้เป็นอย่างไร มันหมดเรี่ยวหมดแรง
ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นญาติข้างพ่อ หรือข้างแม่
หรือว่าเขาได้มาทำพระคุณกับเฮียเรื่องอะไร
พบเจอกันก็ไม่เคย แต่เรื่องของเธอ ทำให้พี่หดหู่ใจ
โดยเฉพาะเบื้องสูงยังสะเทือนพระทัย ยังโปรดพระราชทานพระเมตตา
แต่ไอ้พวกเบื้องล่างที่ได้ทำงานเป็นผู้นำเขา กลับทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเลย
ครูใต้ก็ยังโดนสังหารกันรายวันอยู่เลย

เฮียจำได้ว่า เคยโดนเรียกตัวไปหาผ.อ.
คดีเอาชอล์กทากาวลาเท็กซ์เอาไว้ที่รางกระดานดำ
พอครูถามว่าใครทำ ก็ไม่มีใครยอมรับ ได้แต่หัวเราะกันหมดห้อง เสียงเซ็งแซ่ยังราวกับตอนที่ฝนตกพรำๆ
แต่พอครูบอกว่าจะตัดคะแนนเก็บเป็นศูนย์ทั้งห้อง
ทีนี้เงียบเป็นคางคกถูกรถทับแบนเต็แต๋
เอาไง ไม่มีใครออกมารับผิด
เรื่องนี้เฮียเป็นต้นคิด เพราะเป็นคนคิดอะไรนอกสาระบบกับเขามานานแล้ว
แต่ไม่ได้เป็นคนปฏิบัติ เพราะว่าปากสุนัข เสียงสิงโต แต่ใจมด ไม่กล้าทำ
ได้แค่พูดขำๆ ฮาๆ กันไป และคิดว่า พอตอนเช้าก็คงจะมีพวกผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนเย็น
ของวันก่อนเกิดเรื่อง คงรีบมาแกะชอล์กออกไป
เวรกรรม พวกสาวๆคิดว่าเราขี้โม้ แต่เพื่อนในกลุ่ม มันดันทำจริง
ความจริงเรื่องแกล้งครูแรงๆนี่ นักเรียนห้องนี้ทำกันบ่อย
แต่มีสาวๆเป็นพวก 7 นางฟ้า คอยพิทักษ์อาจารย์อยู่ตลอด เรื่องมันก็เลยไม่เกิด
แต่วันนั้นมันเป็นวันซวย
แล้วความคิดแบบว่าอยากโชว์เท่ห์ให้สาวหลง มันก็แล่นเข้าหัวสมองขี้เลื่อยของเฮีย
เฮียก็เลยยกมือ บอกว่า ผมทำเองครับ
ในใจก็คิดว่าต้องมีเพื่อนอีก 3-4 คน ยกมือร่วมด้วย เหมือนในหนังญี่ปุ่นที่เคยดูมา
แต่พวกมันกลับเงียบ ซวยเดี่ยวเลยเรา สมัยนั้นไอ้พวกเด็กเรียนมันกลัวเรื่องคะแนนเก็บมากๆ
แล้วเป็นไงหละ โดนเรียกไปตักเตือน 2 รอบ รอบเล็กก็ครูประจำชั้น
รอบใหญ่ก็ท่านผ.อ. อาจารย์คุณหญิง ...
ท่านให้ไปทำงานเป็นการผ่อนโทษ (คล้ายๆบริการสังคมกระมัง)
โดยให้ไปยืนเฝ้าประตูด้านหลังโรงเรียนกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง
เพราะด้านโน้นมีอาจารย์ยืนอยู่ท่านเดียว เวลามีเรื่องอะไร อาจารย์มักจะไม่อยู่ตรงประตู
เจ้าพวกผมยาว เล็บยาว แต่งกายผิดระเบียบ ก็จะกรูกันเข้าทางประตูนี้
เราเรียกว่า ประตูผี
เพราะพวกที่มาสาย และพวกมีปัญหาในการแต่งตัว ก็จะมาเข้าด้านหลัง แทนที่จะมาด้านหน้า
โดนยืนตรงนั้น ก็เป็นที่รู้กันของนักเรียนโตๆว่า
เจ้านี่ต้องไปทำเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ ไอ้เด็กเกเรเอ้ย...
อาย ยิ่งกว่าโดนแก้ผ้าประจานเสียอีก
การโดนจับมายืนอยู่ที่ประตูตรงนั้น กลับทำให้ทราบว่า อาจารย์ที่ยืนตรงนั้น ท่านเสียสละจริงๆ
น้ำก็ไม่ได้ทาน ไปห้องน้ำ ไปไหนก็ไม่ได้
เลยเข้าใจว่าครู หรือ คุรุ นี่มันแปลว่า หนักจริงๆ

จากการเคยโดนทำโทษ เรื่องนั้น ผลก็คือ เฮียไม่กล้าเข้าใกล้หน้าครูบาอาจารย์ไปจนเรียนจบเลย
พอเห็นท่านเดินมาไกลๆ เฮียก็ต้องท่องคาถาหายตัวแบบขุนแผนผจญภัยเลย
ลืมบอกไปว่า ไอ้สำนึกความลำบากของครูนั้น มันมาสำนึกตอนโต ตอนทำงานแล้วต่างหาก
ในวัยนั้น มันมีแต่เซ็งๆๆๆ เกลียดตัวเองที่ออกมาสารภาพแทนใครก็ยังไม่รู้เลย จริงๆใครเป็นคนทำฟระ ???
เกลียดที่ครูๆท่านพอทราบเรื่องนี้ ก็เลยเหมาเอาว่าเราคือ ตัวการใหญ่ ในเรื่องแกล้งครูที่ผ่านๆมา ดีมั๊ยหละ
ก็นักเรียนห้องนี้ เกินกว่าครึ่งห้องเป็นเด็กเรียนเก่งและมารยาทดี ได้รางวัลกันล้นบ้านล้นกระเป๋า
ครูเขาก็เลยเชื่อว่า ต้องมีเชื้อโรคในห้อง ก็คือ เฮีย นี่เอง 555
ตอนนั้นไม่รู้สึกว่าน่าขำ แต่อยากไปให้พ้นๆ คนพวกนี้ ดีว่ายังไม่ได้เป็นสุนัขหัวเน่านะ
เพราะยังมีเพื่อนที่คบกันอย่างจริงใจอีก 4 คน เป็นหมอ 2 เป็นเภสัช 1 เป็นช่างเครื่องบิน 1
ส่วนเราเป็นอะไรที่เทียบเพื่อนไม่ติดเลย หาเงินทั้งปียังไม่ได้เท่าพวกเขาทำแค่ 1 เดือน โอ้ย 555
ก็เลยต้องชิ่งห่างๆเพื่อนพวกนี้อีก เพราะไม่อยากให้เขาได้ชื่อว่ามีเพื่อนเป็นคนไม่เอาไหน เฮ้อ...ละครเศร้า
ก็คนมันเลวอะ จะให้ได้ดิบได้ดีอย่างเขาได้ยังไงฟระ

วันเสาร์ไปงานทำขวัญนาค
วันอาทิตย์ไปงานบวช (เจ้าภาพรายเดียวกัน)
ได้เห็นว่าการบวชสมัยนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน
ได้เห็นคนโฉดอีกหลายคน เลยจับเอามาไว้ที่หุบเขาฯซะเลย
เอาไว้คงได้เล่าในห้องสำราญ เป็นแนวไดอารี่

ยิ้มให้แล้วนะคะ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:55:02 น.  

 
To Mintiva
นั่งพิมพ์ comment สลับกันทำโน่นทำนี่
เลยเกินเวลาเที่ยงเลยหนะซิ

ทานอาหารให้อร่อยนะครับ

วันนี้ไปศูนย์เบนซ์มา
นั่งกินน้ำผลไม้เป็นกล่องๆ 5-6 กล่อง
จนเซลเกิร์ลมองค้อนแล้วค้อนอีก
แถมยังคว้าแซนวิชแฮมกับเค็กเอสแอนด์พี
มาเคี้ยวตุ้ยๆๆๆๆ และแอบเอาใส่กระเป๋ากางเกงมาอีก 1 อัน

ไปรับคนหนะ ไม่ได้เอารถไปทำอะไรหรอก
ตอนนี้เฮียหมดตัวแล้ว รถก็ขายใช้หนี้ไปแล้ว
บ้านช่องก็ชื่อคนอื่น
หัวใจก็โดนจับจองไปแล้ว
เหลือแต่ตัวเปล่าไร้หัวใจ

จะมีใครบ้างน้า...
ที่จะมีห้องคนใช้ กว้างๆ ว่างๆ แอร์เย็นๆ ให้เราไปขอนอนพักบ้าง

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:03:27 น.  

 
2-2-2553

วันนี้ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 (ธรรมดาตื่น อีก 5 นาที 6 โมงครึ่ง)
ไปแวะรับคุณหนูไปโรงเรียนที่นครปฐม
วันนี้เลยลองไปชิมก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาร้านนายเงี๊ยบ
เขาว่าลูกชิ้นปลาทำมาจากปลาอินทรี+ปลาหางเหลือง+ปลาดาบยาว
เดินไปอ่านข่าวที่เขาเอามาใส่กรอบเอาไว้
เจ้าของชื่อ สมชทติ สาลีพัฒนา หรือ นายเงี๊ยบ
หน้าร้านมีรูปปั้นหลวงปูทวด
อืม...ท่าทางเจ้าของร้านจะเป็นคนธรรมะธรรมโมนะ
ก๋วยเตี๋ยวของเขาอร่อย รสน้ำซุปไม่ธรรมดา และราคาก็ไม่ปกติ
ร้านอยู่ใกล้ศาลายา

พอพุงยื่นนิดๆ ก็ขับรถเลี้ยวขวาเข้าไปไหว้พระยืนองค์ใหญ่ที่พุทธมณฑล
แล้วก็เลยไปหาที่เดินเล่นย่อยอาหาร
วันธรรมดาเช้าๆ คนไม่มาก แต่ก็มีกลุ่มคนที่มาเดินออกกำลังกาย
อากาศดี มีเสียงนกร้องตลอดเวลา ต้นไม้ใหญ่ๆเยอะมาก

ออกมาก็ แวะไปนมัสการหลวงพ่อพระธรรมปิฏก (ป.อ.ประยุตโต)
ที่วัดญาณเวสกวัน ทางเข้าวัดเมื่อก่อนเปลี่ยวๆ แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเอาต้นไม้มาวางขาย
ทำให้ถนนหนทางน่าขับรถผ่านขึ้นเยอะ
ท่านธรรมปิฎกไม่ได้จำวัดที่นี่แล้ว เห็นเขาบอกว่าท่านอยู่ที่ต่างจังหวัดโน่น
แต่ก็ไม่เป็นไร กะว่าจะไปขอซีดีและหนังสือธรรมะมาอ่าน
ไปคราวนี้ ไม่มีเทปธรรมะแจกอีกแล้ว กาลเวลาช่างเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนได้เร็วจริงๆ
เดี๋ยวนี้บ้านข้างๆวัดเขาเปิดหน้าบ้านขายหนังสือธรรมะ ท่าทางเป็นอาชีพที่ดีเหมือนกันนะ
ขายหนังสือธรรมะข้างวัด ได้ลูกค้าแน่นอน

ขากลับแวะเอาคนไปส่งที่อู่เบนซ์ (ไปรับรถ)
งานนี้โดนเปลี่ยนโช๊คอัพไป 1 คู่ คันชักคันส่ง
แถมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นว่าเบนซ์ต้องเปลี่ยนหม้อเก็บน้ำยาฉีดกระจก
ก็เห็นๆกันอยู่ว่ารถญี่ปุ่นใช้มาเกือบ 20 ปี หม้อเก็บน้ำยังแจ๋วอยู่เลย
เหตุไฉนชิ้นส่วนของเบนซ์ถึงได้เก่าผุง่ายๆได้อย่างนี้
งานนี้ต้องควักกันไป 6 หมื่น
เคยเตือนเขาแล้วว่า ซื้อรถญี่ปุ่นคันใหญ่ๆรุ่นท๊อป สบายใจกว่า 555

เที่ยงกว่าแล้วกะว่าจะไปทานไก่ย่างพระราม9
เห็นเขาว่าอร่อยมั๊กมาก
พอไปถึงคนเต็มร้านเหมือนเขาแจกให้กินฟรี
เลยต้องเปลี่ยนเป็นไก่ย่างจีระพันธ์เจ้าที่สามของย่านนั้น
ที่ว่าเจ้าที่สาม หมายถึงอยู่ลำดับที่สามจากหัวถนน
คนจะมาทานไก่ยางเส้นด้านหลัง ABAC
มักจะแวะทานไก่ย่างร้านที่ 2 เป็นประจำ
เพราะว่าขับเลยร้านที่ 1 (ไก่ย่างพระราม9)
แต่ไม่กล้าขับไปไกลถึงร้านที่ 3 (ไก่ย่างจีระพันธ์)
เพราะกลัวจะต้องไปกลับรถตรงถนนลอดอุโมงค์ที่มาจากถนนพัฒนาการ
มันเหมือนกับว่าขับเลยมาจนหมดถนน แต่จริงๆยังมีร้านที่ 3 ที่น่าทาน
เจ้าที่ 2 เลยรวยรับทรัพย์ไป อย่างนี้เรียกว่า เฮง เฮง เฮง

จากนั้นก็ไปประกันสังคม
แหม...ไม่มีที่จอดรถในนั้น
ต้องไปจอดข้างๆเป็นร้านหมูกระทะเดิมของสมรักษ์ (เลิกกิจการไปแล้ว)
ทีนี้เลยต้องเสีย 15 บาท ฟรีๆ
ทำไมสถานที่ราชการถึงขาดแคลนพื้นที่จอดรถจอดลาก็ไม่ทราบ

ไว้จะเอารูปมาลงประกอบอีกที

เย็นนี้ไฟไหนดีนะ???

แวะมาเข้าบล็อก
อ้าว...ลูกค้าหายหมด
สงสัยต้องปิดกิจการ
หรือหาโปรโมชั่นใหม่ๆเสียแล้ว 555



โดย: zoomzero วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:10:15 น.  

 



หวัดดีค่ะพี่ชาย
โห..เมื่อเช้าเม๊าวท์ซะยาวเหยียด กดยังไงมันก็ไม่ไป มัน waiting for reply อยู่ยังงั๊นอ่ะค่ะ
ลองไปบล๊อคอื่น ๆ ดู ก็เหมือนกัน วันนี้เลยให้ HR ที่บริษัทฯ เปลี่ยนเน็ทมินเป็นเร็วที่ 8 เม๊กเลยค่ะ
นิสัยไม่ดี ห้ามลอกเลียนแบบอ่ะนะคะ ฮ่า ๆ ๆ อ๊ะ..แต่ก็เกี่ยวกับงานบริษัทฯ เหมือนกันนี่นา
เพราะถ้ามินอยู่ มินต้อง standby mail นี่นา ฮ่า ๆ ๆ
เฮียอย่าทานน้ำผลไม้มากเกินไปนะคะ
ถึงมันจะหวานจากผลไม้ธรรมชาติก็เหอะค่ะ
เป็นห่วงน๊า เพราะกลัวจะหวานจนมดถามหาแล้วจะพาลเป็นเบาหวานเอาอ่ะค่ะ อิ อิ
มินนะ ทานก๋วยเตี๋ยวไม่เคยเติมน้ำตาลเลยค่ะ เพราะเป็นคนไม่ชอบทานหวาน ยกเว้นบะหมี่แห้งเท่านั้นอ่ะ
เฮียไปทานร้านนายเงี๊ยบ เฮียลองทานบะหมี่ดูจิคะ มินว่าบะหมี่เขาอร่อยดีนะคะ
มินทานร้านนี้ แต่มินชอบทานหื่อก้วยเขาอ่ะค่ะ กับลูกชิ้นปลา มินเฉย ๆ มินว่าลูกชิ้นปลาที่เอเธนส์อร่อยกว่ากันเยอะเลยค่ะ
เอ้า..ดันมาคุยแต่เรื่องกินอ่ะ เลยพาลให้หิวเลยค่ะ วันนี้ว่าจะไม่ทานอาไรนะคะเนี่ย เพราะนั่งทานแตงโมซะครึ่งของครึ่งลูกจนแน่นไปหมดแล้วเนี่ยมินอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เมื่อก่อน มินก็ใช้ E220 เป็นไรเข้าศูนย์ทีนึงเนี่ย เกือบถึงตายอ่ะค่ะ เข้ามาแทบทุกศูนย์ ทั้งธนบุรี ศูนย์เบ๊นซ์ข้างนอกก็เข้า
เคยไปทะเลาะกับไอ้ศูนย์เบ๊นซ์ CKW มาแล้ว เมื่อก่อนอยู่ตรงสายใต้ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่ถนนที่จะออกไปพุทธมณฑลอ่ะค่ะ
ไม่ทะเลาะได้ไงคะ วิเคราะห์อาการรถเราผิด เข้าไปที 3-4 หมื่น ที่แย่สุด คืออาการไม่หาย
เอาออกมาวิ่งมันก็ยังสะอีก ๆ อีกนั่นแหละ เดี๋ยวก็ว่าเป็นปีกผีเสื้อ เดี๋ยวก็เป็นปั๊มติ๊ก อาไรของมานก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็กล่อมให้เปลี่ยนสายไฟใหม่หมด
โห...ช่วงนั้นรันทดมาก คนขับรถเท่านั้นถึงจะเข้าใจความรู้สึกอ่ะนะคะเฮียว่าไม๊
คือ ถ้ารถที่เราขับ ๆ อยู่ มันเป็นนู่น เป็นนี่ จุ๊กจิ๊ก ๆ เราก็หงุดหงิด ๆ เหมือนกัน อยากให้มันเป็นปกติอ่ะนะ
เจอช่างดีก็ดีไป ยิ่งมินเป็นผู้หญิงด้วยนะ โดนหลอกมาเยอะ ช่างบางคนก็อาจไม่ได้ตั้งใจหลอก แต่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ลองกันไปเรื่อยเปื่อย ลองจนกระเป๋าเราฉีกอ่ะนะ ...กรรม...
ฮ่า ๆ ๆ เราเนี่ย เสมอกันอีกอย่างนึงค่ะ คือหมดตัวแล้วทั้งคู่เลยอ่ะจิคะ ฮ่า ๆ ๆ
แต่ เฮียยังโชคดีกว่ามินเยอะค่ะ ยังมีคนที่ต้องการหัวใจของเฮีย และจับจองเป็นเจ้าของไปแล้ว..
แต่ มินนี่สิ ..ใครจะซื้อ หัวใจเปล่าเปลี่ยว ดีทีเดียว แต่ว่าอกหัก ดวงใจช้ำรัก ขายถูก ...ฮ่า ๆ ๆ นู๋กำลังแหกปากร้องเพลงนี้อยู่ค่า...ฮ่า ๆ ๆ
ห้องคนใช้ที่บ้านอ่ะ เต็มไปด้วยสมบัติบ้าบอคอแตกอาไรเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ อิอิ
มินมีห้องนอนอย่างดี แอร์เย็นเจี๊ยบ สดวกสบายไว้รอต้อนรับค่ะ แต่ มีข้อแม้ว่า ต้องมาคู่ มาเดี่ยวไม่ต้อนรับค่า...ฮ่า ๆ ๆ
ปล. ฝันดี นะคะพี่ชาย จูบุ จูบุจ้า...


โดย: มินทิวา วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:46:40 น.  

 


หวัดดีวันพุธค่ะพี่ชาย
ตื่นหรือยังคะ น่าจะตื่นแล้วนะ เพราะตื่นตั้งแต่หกโมงครึ่งนี่นา
มีความสุขมาก ๆ กับวันนี้นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:05:41 น.  

 
To Mintiva
อาหมวย
เมื่อวานก็ได้ลองทานก๋วยเตี๋ยวร้านนายเงี๊ยบไป 2 ชาม
ชามแรกเส้นหมี่ขาวแห้ง ทำให้รู้ว่าโดนใจตรงลูกชิ้นเกี้ยวปลา
ชามที่สองเลยเป็นบะหมี่เหลืองน้ำใส่ลูกชิ้นเกี้ยวปลาอย่างเดียว เอออร่อยจัง
อ้อ...หนังปลากรอบเขาขายจานละ 40 บาท แถมน้ำพริกเผา อร่อยเหมือนกัน
เรื่องก๋วยเตี๋ยว เฮียมีรสนิยมอยู่ที่ก๋วยเตี๋ยวหมู เพราะเป็นคนชอบทานหมูบะช่อมากๆ

ขอบคุณเรื่องทานหวาน
เฮียเป็นคนชอบทานอาหารใส่น้ำตาลเยอะๆจริงๆนะแหละ
โดนน้องมาเตือนแบบนี้ ก็จะลองเชื่อฟังดู แต่ไม่รับปากรับคำหรอก 555

เรื่องค่าซ่อมรถเบนซ์คันนี้ เจ้าของเขาก็กุมขมับมาร้อยกว่าครั้ง
ตอนแรกยายเซลล์เกิร์ลอกภูเขาไฟก็มาชวนยึกๆให้เปลี่ยนเป็นรุ่นที่มาจากเมืองนอก
แต่เจ้าตัวเขากลัวรถที่มาจากต่างประเทศมาก ทั้งๆที่ซื้อรถต่างประเทศ เป็นตรรกะที่ปวดหัวจริงๆ
เขาว่ารถเมืองนอกมันทำมาให้เมืองหนาว แต่รถเมืองไทยมันแก้แบบให้เป็นเมืองร้อน
เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร ต้องไปถามเสี่ยวสันต์ เจ้าของร้านขายเบนซ์
แต่เรื่องจริงหลังการซื้อก็คือ ฝาเติมน้ำมันเปิดไม่ได้ ต้องเข้าเคลม ดีว่าคนขับเป็นพวกโรคจิต
เป็นผู้หญิงที่ต้องขับรถที่มีน้ำมันเกินครึ่งถังตลอดชีวิต
เลยทำให้สามารถขับรถไปเสยประตูศูนย์เบนซ์พระราม9 ได้ทันท่วงที
จากนั้นมาเจ้า ซีสองร้อยคอมฯ คันนี้ก็เข้าไปเปลี่ยนโน่นซ่อมนี่ทุกๆ 3-6 เดือน
มาก่อนหน้านี้ก็เรื่องน้ำมันที่เติม เพราะทางศูนย์บอกว่าต้องเติมยี่ห้อนั้นๆเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นเครื่องยนต์มันจะสะอึกสะอื้นเหมือนสาวลูกห้าตอนหมดวัยมีประจำเดือน
ซึ่งคงเหมือนกับที่อาหมวยเล็กบอกว่า เขาให้เปลี่ยนกรองเบนซิน ปั๊มติ๊ก สายยางท่อน้ำมัน
สายไฟหัวเทียน สายกราวด์แบตเตอรี่ ซึ่งเหยื่อรายแรกก็คือเจ้าแบตเตอรี่
เจ้าเครื่องนี้เป็น kompressor ยุคแรก เฮียก็เลยคิดว่ามันคงเป็นรุ่นที่ทดลองสร้างกันอยู่แน่ๆ
แต่สำหรับช่างเครื่องไทย เฮียคิดว่าเขาคงไม่โทรทางไกลไปถามฝรั่งที่เยอรมันหรอกน่า
ตอนนี้เจ้า accord V6 3000 ของเฮียมันก็เริ่มสตาร์ทไม่ติดฉึ่งทีเดียวเหมือนเมื่อก่อน
หลังจากครบแสนโล แล้วต้องเปลี่ยนตับไตไส้พุงเซี้ยงจี้ของมันแบบแทบจะยกออกหมด
คราวนี้มันเลยกลายเป็นซาเล้งที่มี 4 ล้อไปเลย วิ่งกระฉึกกระฉัก เร่งไม่ค่อยขึ้น ....
เรื่องเอารถเข้าศูนย์นี่มันยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
เพราะอู่ดีๆหาได้ยากมาก
เออ..แล้วกำหนดเวลารับรถสมัยนี้ก็แปลกนะ
นัดวันละ 2 เวลาคือ 11 โมงเช้า กับ 5 โมงเย็น
สืบถามคนที่เขาอยู่อู่ซ่อมรถ เขาบอกว่าก็เบิกอะไหล่กันได้แค่วันละครั้งเดียวเท่านั้น
เฮ้ย....จริงหรือ?
อ๋อ...เขาหมายถึงอะไหล่ใหญ่ๆที่ต้องไปเบิกเอามาจากศูนย์ใหญ่หนะ
ซึ่งเขาจะไม่วิ่งไปขนของกันวันละสิบๆรอบให้เปลืองน้ำมันหรอก
มันต้องมีขั้นตอนการเซ็นเบิก การเช็คว่าต้องเปลี่ยนจริงหรือเปล่า?
มันก็ออกไปตอนสิบโมงเช้านี่แหละ มิน่าอู่มันถึงมีรถจอดรอซ่อมแน่นไปหมด
ช่างก็ต้องรีบๆซ้อมให้เสร็จภายใน 3-4 ชั่วโมง เจริญกันจริงๆ ไม่ห่วงคนใช้รถเลย
เมื่อไหร่กรุงเทพฯมันถึงจะมีรถใต้ดินครบสี่มุม แปดมุม ทแยงมุม และราคาไม่แพง กับเขาบ้าง
ทั้งๆที่รู้ว่ารถยนต์มันผลาญพลังงานไปปีละมากมาย
แต่ 3-4 ปีมานี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องการจราจรกันเลย เอาแต่วางแผนจับโจรนั่งเครื่องบินเจ็ท แหวะ

วันนี้ต้องไปกรมแรงงานหรือเปล่าก็ไม่รู้
ญาติสนิทมิตรสหายเจ้านายตัวจริงของเฮีย เขามีปัญหาเรื่องออกจากงาน
แล้วต้องการเงินชดเชยคนไร้การจ้างงาน
บริษัทบอกทำเรื่องเรียบร้อย ไม่ต้องห่วง ไสหัวออกจากบริษัทได้เลยค่ะ
ประกันสังคมบอกว่าไม่มีข้อมูลในคอมฯ อาจจะต้องรอภายใน 15 วัน
อ้าวแล้วถ้าเลยไปแล้ว บริษัทไม่ส่งเอกสารไป ใครซวยฟระ?
เขาโบ้ยให้ไปตรวจสอบข้อมูลที่กรมแรงงาน
และยังขู่ว่าถ้าไม่ส่งเงินต่อเนื่องก็จะอดเงินค่าชดเชยวัยเกษียณในอนาคต
อ้าว...ตกลง ตกงาน ต้องหาเงินส่งประกันสังคมอีกเหรอ เฮ้ย...ใครมั่วฟระ
แล้วถ้าแรงงานบอกว่าไม่มีข้อมูลอีก ก็ต้องกลับไปที่บริษัทอีก
เจ้เขาบอกว่าที่บริษัทมีแต่พวกตอแหลลงตับ วันๆเอาแต่โกหกเจ้านายไปวันๆ
คนเป็นอดีตลูกจ้างก็ไม่รู้ว่าจะไปแหกปากบังคับอะไรเขาได้
ที่สนุกก็คือ ประกันสังคมบอกว่าถ้าทางบริษัทกรอกข้อมูลผิด เราก็จะเสียสิทธิ์ทันที
ต้องตรวจเอกสารให้ดีก่อนที่เขาจะส่งกรมแรงงาน
อ้าว..แล้วพวกกรูไม่ได้เป็นบิดามารดาเจ้าของบริษัท
มันจะมีสุนัขที่ไหน ให้เราตรวจเอกสารก่อนที่เขาจะส่งไปกรมแรงงาน


Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:22:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณซูม
ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับการ์ดปีใหม่ที่ไปฝากไว้ที่รักนก
และขอบคุณอีกเช่นกันที่เข้าไปทักทายที่บล็อคป้าแป๋ว
ช่วงนี้ป้าแป๋วเลี้ยงลูกเล็กอยู่ เลยมีเวลาเล่นเน็ตน้อยลง
แต่ไม่วายขอแว๊บบ้างเมื่อลูกหลับ อิอิ

ปีนี้ยังไม่ได้ไปซื้อดอกป๊อบปี้เลย จะโดนขว้างไข่หรือป่าวเนี่ย
ถ้าจะขว้างขอเป็นไข่เจียวหมูสับฟูๆ ป้าจะเอาจานข้าวสวยร้อนๆ รอรับนะคะ อิอิ


โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:40:37 น.  

 
แอบแวะมาดู


โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (http://beee.bloggang.com) IP: 125.24.98.235 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:30:21 น.  

 
สวัสดียามสายค่า

พี่ซูมเรียกคุณนายแบบเกรงใจสุด ๆ เลยเชียว เป็นผู้มีบารมีที่มองเห็นแบบจะจะเลยเนาะ ชอบละครช่องสามเหมือนกันค่ะ แต่พักหลัง ๆ ไม่ได้ดูทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องไม่ถูกจริตอย่างแรง ถ้าซีรีส์จีนกะเกาหลีละก็ไม่ค่อยจะพลาด ไม่ได้นิยมแต่ของนอก แต่เนื้อเรื่องมันสนุกกว่าน่ะ จะว่าไปแล้ว ละครไทยที่สนุกมาก ๆ ก็มีนะคะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เคนกะแอนเล่น แล้วที่คุณมินพูดถึงปู้จายในซีรีส์เกาหลีน่ะ ขอนอนยันว่าข้อมูลถูกต้องที่ซู้ดดด คุยถึงเรื่องอะไรไม่ถูกคอเท่าคุยถึงกิ๊กเกาหลีหล่อ ๆ สองสาวถ้อยทีถ้อยแบ่งปันให้ชื่นชมเป็นระยะ ๆ ชุ่มชื่นหัวใจดีค่ะ

เห็นป้าวีเคยทำบล๊อคพระของครูจักรพันธุ์ค่ะ คิดอยู่เหมือนกันว่าคุณป้าน่าจะบูชาพระด้วย น้องเป็นคนไม่ค่อยมีจะกินแต่ศรัทธาแรงกล้า เลยบูชาได้แค่พระที่ราคาถูกสุด ดีใจมาก ๆ ถือเป็นครั้งแรกที่มีพระพุทธรูปบูชาเป็นของตัวเองเลยนะเนี่ย ฟังพี่ซูมบรรยายภาพห้องพระแล้วอึ้งไปเลย ห้องใหญ่มากเลยนะนั่น ถึงกับแบ่งเป็นโซน ๆ แบบนี้เวลาทำความสะอาดคงเหนื่อยเอาการ ห้องพระที่บ้านไม่ใหญ่มาก มีพระเยอะพอประมาณ พออาทิตย์นึงก็จัดการปัดกวาดเช็ดถู ลงมือทำเองค่ะ ถือว่าได้บุญดีนะคะ คิดเอาเองว่าในห้องพระคงมีเทพยดาที่รักษาองค์พระสิงสถิตย์อยู่ด้วย ต้องรักษาความสะอาดให้ดี

ถามจริง คนโสดภาษาจีนเรียกแบบนั้นแน่เหรอคะ อ่านภาษาจีนพอจะออกแต่เพิ่งจะรู้จักคำ ๆ นี้ คุณมินไม่รู้ภาษาจีนเลยขอนุญาตแปลให้ฟังนะจ๊ะ คำว่า 无人爱...无 แปลว่า ไม่มี ...人 แปลว่า คน... 爱 แปลว่า รัก ส่วนประโยคในวงเล็บ没人要...没(เหมย) แปลว่า ไม่มี...人(เหริน) แปลว่า คน...要 แปลว่า ต้องการ ภาษาจีนแปลความได้ลึกกว่าภาษาไทยอีก คุณโสดฟังแล้วบาดหัวจายยยย

อะแฮ่ม แอบได้ยินคุณมินร้องเพลงของคณะสามศักดิ์ด้วย ไม่คิดว่าจะรู้จักเพลงนี้นะเนี่ย แบบนี้แสดงว่าวัยเราคงจะสูงวัยใกล้เคียงกัลลลล ฮ่า​ ฮ่า ฮ่า


โดย: haiku วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:53:06 น.  

 
To นู๋ Beee
น้องบี
ทำไมไม่คุยอะไรเลย
โกรธเคืองพี่ชายคนนี้ด้วยเรื่องอะไร
แน่จริงไปฟ้องศาลปกครองก็ได้นะ
เดี่ยวจะไปหาทนายหล่อๆมาสู้ความ

นานๆมาเยี่ยมกันทีก็ยังดีกว่าไม่มา
มาแล้วคุยกัน 2-3 บรรทัด ก็ยังดีกว่าเขียนแค่ 2-3 คำ

อย่าใจร้ายนักเลย ฮือๆ

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF




โดย: จอมมารที่ถูกน้องทิ้ง (zoomzero ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:34:07 น.  

 
To แป๋วภูเก็ต
ซ่าศ์หวะดีกั๊บคุณป้าแป๋ว

ที่ "รักนก" ผม PM การ์ดปีใหม่ให้ไปหลายท่านเหมือนกัน
ยังโชคดีที่มีคุณป้าแป๋วตอบกลับมา (ตั้ง 1 คน)
ถึงจะเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็ทำให้ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวนั้นหายไปได้ ฮือๆ

ตอนนี้บอร์ดบีบี ก็เปิดรุ่น 2010 ออกมาอีกแล้วนะครับ
น่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ของกันตนาเขาหนะครับ อันนี้ไม่ทราบเบื้องหลังหรอกครับ
เขาเปิดตัวช่วงเดือนพฤศจิกายน 2009 และก็มีมีทติ้งที่สวนรถไฟกัน และก็ตามมาอีกหลายๆกิจกรรม
พอข้ามปีวัว เข้าสู่ปีเสือ ผู้คนก็หายไปจากบอร์ดจนเกือบหมดเหมือนเคย 555
ผมเองก็เข้าไปที่บอร์ดรักนกประมาณเดือนละครั้ง
เพื่อเช็คข่าวว่ายังมีกิ๊กคนไหนยังอยากได้ค่าเทอมจากผมอยู่หรือเปล่า
อะ อะ มะ ช่าย ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้เป็นคนหัวงู ซะกะหน่อย
ผมเขาไปดูว่าหมอนกและแฟนคลับเป็นอย่างไรกันบ้างต่างหาก 555

ป้าแป๋วคงจะเหนื่อยแย่เลยเรื่องเลี้ยงน้องคนใหม่ล่าสุด
แต่ผมดูรูปหนุ่มๆในครอบครัวป้าแป๋วแล้ว
ผมว่าน่ารักกันหมดทุกคน
การมีลูกน่ารักตั้งหลายคน คงช่วยทำให้ลืมเหนื่อยได้บ้าง
อีกไม่กี่ปีก็สบายแล้ว มีลูกหลานเต็มบ้าน อบอุ่นดีนะครับ

ผมไม่ได้ภูเก็ตมาหลายปีแล้ว
ตอนนี้อยากไปมาก แต่เบื้องบนไม่อนุญาตและไม่ให้งบประมาณเลย
พวกสมาชิกในบ้านผม เขายังปอดกระจายกันอยู่ เรื่องทะเลซีกอันดามัน
ก็ต้องบอกว่ายังคงกลัวคลื่นยักษ์อยู่มาก
เพราะครอบครัวเราไปครั้งล่าสุดเมื่อตอนต้นเดือนพฤศจิกายน
พอธันวาคมก็เกิดเรื่อง มีคนเสียชีวิตมากมาย พวกเราตกใจมาก
เพราะเรากะจะไปช่วงก่อนปีใหม่พอดี แต่หาวันไปกันไม่ได้
โรงแรมที่เราไปพัก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ Sea Pearl อยู่ตรงหาดป่าตอง
ห้องอาหารเขาเป็นลานโล่งๆต่ำๆ อยู่ตรงกลางตึก 3 ตึกล้อมรอบ 3 ด้าน
และอยู่ต่ำกว่าระดับถนนชายหาดอีกด้วย
ตอนเราไปเรายังนึกว่าถ้าฝนตกหนักๆ น้ำจะไม่ท่วมห้องทานข้าวหรือไง?
เหมือนคนออกแบบจะขุดดินลงไปแล้วยกเลิกชั้นใต้ดินอย่างนั้นแหละ ดูแล้วแปลกตาดี
คือพอเข้าไป ผ่านประตูหน้า ก็ต้องเดินลงบันได ไปห้องโถง
ถ้าจะไปลงทะเบียนก็ต้องอ้อมขึ้นบันไดไปอีกด้าน

พอกลางคืนไฟในโรงแรมก็ดับๆติดๆ
จำได้ว่าดับไปนานกว่า 1 ชั่วโมง จนแขกที่พักต้องออกมาเดินริมถนนเพราะลมทะเลเย็นสบาย
แล้วไฟก็มา แขกกลับเข้าห้องตอนตีสอง แต่แล้วก็เจอไฟดับอีกทีนานเกือบเป็นชั่วโมงอีกเหมือนเดิม
พอตอนเช้าสงสัยว่าตู้เย็นคงมีปัญหา หรืออุปกรณ์อะไรอาจจะไฟช๊อต ไฟไหม้ พังไปแล้วก็ไม่ทราบ
พวกอาหารบุฟเฟ่ตอนเช้า เขาบอกว่าวันนี้งด!!!
พวกฝรั่งบ่นงึมงำ แต่ส่วนใหญ่ฝรั่งมักไม่ค่อยเลือกทานอาหารเช้า ตามโรงแรมชายทะเล
สู้เดินทางไปหาอาหารอร่อยๆในเมืองทาน ราคาก็ถูก รสชาติก็ยอดเยี่ยม เพราะได้ทานของสดๆ
ออกไปโบกรถสองแถว ตรงถนนเลียบชายหาด อยากไปไหนก็ไปได้เลย ก็มันเป็นเมืองที่เป็นเกาะนี่หน่า

ตอนนั้น พวกเราก็โวยวายว่า เฮ้ย...ค่าห้องมันรวมค่าอาหารเช้านะเฟ้ย นี่ไงคูปองของลื้อ
พวกมรึงมายกเลิกง่ายๆ พูดจาภาษาหมานี่หว่า โต๊ะเตอะก็ไม่มีการจัดอะไรเลย

ครั้นเราจะโทรไปหาบริษัททัวร์มันก็เช้าเกินไป ต้องโทรฯไปที่กรุงเทพวันอาทิตย์เสียด้วย
พวกเราต้องรอจนรถตู้มารับ ให้เขาช่วยเจรจา
อ๋อ...ทัวร์ที่ภูเก็ตครั้งนี้ เราไม่มีไกด์ แต่คนขับรถตู้นี่แหละเป็นไกด์ให้ในตัว
กว่าไกด์ใจดีของเราจะเจรจาได้ พวกเราก็หิวข้าวเช้าจนแทบจะกัดแขนพวกเดียวกันกินเล่น
เราขอน้ำหรือเครื่องดื่มให้เด็กๆก่อน พวกเขาก็ไม่ยอม
เฮ้ย...เราเหมือนพวกนักโทษ หรือไม่ก็พวกบ้านนอกเข้าโรงแรมหรูซะแล้ว
เรารู้สึกว่าพวกเขาดูถูกเรา พวกเขามองเราแบบว่า จะเรื่องมากไปทำไม?

เชฟของโรงแรมโดน ผจก. บังคับให้ทำอาหารให้พวกเราทาน
เขาก็กัดฟันทำอาหารให้รอบแรก ก็มีพวกข้าวต้มกุ้ง ปลา (แล้วแต่จะเลือก) ไส้กรอกทอด และข้าวผัดปูไม่ใส่ผักให้เด็กๆ
แต่พอเราสั่งรอบสอง เชฟบอกว่าไม่ทำ เพราะเกินงบที่จะให้เป็นอาหารเช้า
ผมก็เตรียมตัวแล้วว่า วันนี้ได้แตะปากเชฟของโรงแรมดังเมืองท่องเที่ยวลงหน้าหนึ่งแน่ๆ
ก็ถ้าเป็นบุฟเฟ่อาหารเช้า เรามีสิทธิ์ทานอะไรมากน้อยเท่าไหนก็ได้ ใช่หรือเปล่าครับ?
เราอยากดื่มนมได้เป็นปี๊บๆ เอาขนมปังมาเคี้ยวได้เป็นสิบๆจาน แล้วอวกออกมากองไว้บนโต๊ะ
จะเอาไส้กรอกกี่ดุ้นๆมายัดเข้าปาก หรือรูก้นของกันและกัน ก็เป็นเรื่องของเรา
แต่เขาเองกลับมายกเลิกอาหารเช้า โดยมีพนักงานคนหนึ่งพูดกับเราแขกน้อย ไม่คุ่มกับทำอาหารเช้า
เฮ้ย...ดูมันบอกเราซิ มันเป็นเมียเจ้าของโรงแรมหรือไง ถึงมาห่วงเรื่องต้นทุนมากกว่าชื่อเสียงโรงแรม
วันนั้นพวกแขกที่เป็นคนต่างชาติ มันก็คงด่าพ่อด่าแม่คนไทยในใจไปหนำใจ
ผมมองเห็นพวกเขาเดินไปหากาแฟตามร้านแถวๆนั้นทาน
เพราะด่าไปก็เปลืองน้ำลาย พนักงานคนไทยที่นี่เก่งเรื่องทำเป็นคนหูบอดตาหนวก
แต่ผมเป็นครอบครัวสมองควาย นิสัยหมาบ้า ร้ายกับเรา เราก็ร้ายเป็นสองเท่า
ผมไม่โง่เดินหนีไปกินหญ้าข้างๆโรงแรมของมันให้เสียเกียรติอดีตเด็กซ่าส์ประจำซอยหรอกครับ

พวกเราก็สั่งใหม่อีกรอบ คราวนี้มีทั้งลาดหน้าทะเล มักกะโรนีกุ้ง ข้าวราดกะเพราะไก่ไข่ดาว ....
ยังไงๆ เชฟก็ไม่ยอมทำ บอกว่าให้เราทานได้แค่รอบเดียว ค่าอาหารเกินงบไปแล้ว
ตอนนั้นมันชักจะสายแล้ว เราก็โทรฯไปที่ สนง.ที่กรุงเทพฯ ได้เจอคนที่เรารู้จักอีกด้วย
เราก็ด่าๆๆๆๆๆๆๆ และด่า เล่นเอาให้วิญญาณพ่อแม่ของคนทั้งโรงแรมนอนสะดุ้งเฮือกๆ
อ๋อ....ด่าแบบผู้ดีหนะครับ หนักไปทางเสียดสีนิ่มๆ
ทั้งๆที่พวกบรรพบุรุษของพวกเขาไม่ได้มาทำอะไร
แต่ผมก็แหกปากว่าร้ายญาติผู้ใหญ่พวกเขาไปหลายคำ เพราะมันแรงมา เราก็เลวกลับไป

ไอ้คุณเชฟที่เราก็ไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ก็ยอมทำอาหารให้เราอีกรอบ
จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาภายในกันอย่างไร
หรือว่าเขาคุมงบประมาณอะไรกัน หรือว่าเขามีปัญหาเรื่องการเงิน อันนี้ก็ไม่แน่
เราไม่ได้โง่ เราก็ทราบดีว่าอาหารตามสั่งนั้นจานหนึ่งก็ประมาณ 100-200 บาท
ก็ขนาดเราเคยไปสั่งไข่เจียวหมูไม่สับที่โรงแรมให้เด็กๆทาน
ตอนสมัยไปพักที่โรงแรมดังในพัทยา ยังโดนบิลล์ไปจานละ 120 บาท (กับแค่ไข่ 3 ฟอง) 555

แต่ที่เราไม่ยอมก็เพราะว่า พวกเขามาถึงก็ไล่ให้เราไปทานนอกโรงแรม
ไล่เราเหมือนหมูเหมือนหมาที่ไม่มีปัญญาเถียง คงคิดว่าเราเป็นพวกผู้ดีมาจากตระกูลสูงศักดิ์
โธ่...พ่อแม่ปู่ย่าตายายฉันก็แค่คนทำนาแถวอีสานตอนล่าง จะไปหน้าบาง จิตใจงดงามได้อย่างไร
แหม..พอยอมให้เราทานอาหารได้ ก็ให้ทานแค่พอเป็นพิธี ไม่คิดว่าเราเสียความรู้สึกว่าโดนโกงแค่ไหน

ตอนแรกเราเองก็บอกว่าส่วนเกินคิดเป็นเงินเท่าไหร่ เรายินดีจ่าย ผจก.ก็บอกว่า ไม่เป็นเราเดี๋ยวเคลียร์ให้ได้
เพราะเราคิดว่าจะไปทวงกับเอเย่นต์ทัวร์ที่เราซื้อตั๋วมา หรือไม่ก็ขอโทรฯไปด่าให้ส่าแกใจซะหน่อย
คนเอาตั๋วมาบอกขายก็เป็นคนที่เราคุ้นเคยพอสมควร

ผมไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากให้คนไทยที่ทำอาชีพทัวร์
หัดมีสำนึกรักหน้าที่อาชีพการงานและศักดิ์ศรีของตัวเองและคนไทยบ้าง
ไม่ใช่โบ้ยไปที่คนโน้น โบ้ยไปที่คนนี้ แก้ปัญหาด้วยการโกหกตอแ.....หล
ยุคนี้ คนเรามันมีมือถือใช้ มันโทรหากันง่าย ใครจะไปยอมทัวร์ขี้โกงง่ายๆ
เราโทรไล่ดะ เอามันตั้งแต่ระดับล่างๆ รายงานขึ้นไประดับข้างบนเรื่อยๆ
ดูซิว่าโบนัสกับเงินเดือนพวกมันจะขึ้นพรวดๆหรือเปล่า?
แต่ถ้าพวกมันคิดเอาดีทางเอาเต้าไต่เพื่อไต่เต้า ผมก็โอเค ไม่ว่าอะไร เออ...เอ็งเก่ง

เรื่องของเรื่องก็คือ พวกเราเสียดายเงินครับ เลยบ้าเลือด 555
และเรามาค้างคืนในวันนั้นเป็นคืนที่สอง วันแรกเราได้ทานอาหารเช้าแบบไม่มีปัญหาอะไร
วันที่มีเรื่องเป็นวันที่ต้องขึ้นเครื่องกลับตอนบ่าย ต้องออกจากโรงแรมตอนเช้า แล้วไปเที่ยวครึ่งวัน
กลางวันนั้น เราก็มีแผนไป ซิตี้ทัวร์ ไหว้พระผุด ซื้อไข่มุก ผ้าบาติก และของฝาก ฯ
เราก็เลยไม่ต้องรีบไปไหนกันแต่เช้า ช่างว่างงานเสียเหลือเกิน
เราก็เลยอยู่หาเรื่องทะเลาะกับเขาได้ในตอนเช้าได้อย่างเมามัน 555

เรื่องมันบานปลายเพราะพนักงานทุกคนที่พยายามเข้ามาเคลียร์ปัญหาก็จะอ้างโน้นอ้างนี่
แล้วก็เดินหนีหายไป แต่เราไปนั่งทานอาหารเช้าที่ด้านหน้า นอกตัวโรงแรม
พอพนักงานคนไหนเดินเข้ามาทำงาน เราก็ออกไปดัก
บอกให้ไปตามนาย ก นาง ข มา มันหายหัวไปนานแล้ว พวกนั้นก็งงว่ามีเรื่องอะไร
แล้วก็แปลกว่า จะมีอีกคนออกมาคุยกับเราแทนคนที่เราตามหา มีการบ่ายเบี่ยงตลอด

ผมขอพบหน้าเชฟ
เขาไม่ยอม
ผมกะว่าถ้ามันออกมา งานนี้มีของไม่ฮาให้ดูแน่ๆ
รับรองว่าผมจะแกล้งล้มโต๊ะให้มันดูแน่ๆ เอาแบบแนบเนียน
แต่รับรองว่าเลอะเทอะแน่ๆ เอาผิดเราไม่ได้ ก็เรามือพลาดนี่หว่า
มันจะได้จดบันทึกเป็นประวัติการทำงานของมันว่า มีเรื่องกับแขกของโรงแรม
แต่มันก็รู้แกวความชั่วของผมเลยไม่ออกมาพบ นับว่าดวงมันยังดีมากๆ

สรุปว่าเราก็ได้ทานอาหารรอบที่สอง
ตอนแรกก็กะว่าจะทานแบบเหลือๆทิ้งๆ เพราะขนาดเด็กที่ว่าอิ่มแล้ว เราก็ยังสั่งมาให้ครบคน
แต่อาหารเขาอร่อยจริงๆ เลยกวาดซะจานสะอาด
ตอนนั้นก็แปลกใจว่า ทำไมอาหารมันน่าทานและอร่อยขึ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะเราหมดพลังงานไปกับการกวนบาทาพนักงานโรงแรม
ก็อาจจะเป็นได้ว่า เชฟตัวจริงๆ มืออาชีพแท้ๆ เป็นคนทำอาหารรอบสองให้เราทานแน่ๆ

พอทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็เช็คเอ้าท์ เพราะจะไปเที่ยวแล้วไปสนามบินเลย
เรียกว่า ก่อเรื่องแล้วเตรียมหนีกันไปเลย
ก่อนออกมา ผมก็เขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ใส่รายชื่อพนักงานที่กวนอารมณ์เราไปหมด
พร้อมคำสาปแช่งน่ากลัวๆแบบคนในปิรามิด ผมฝากซองให้ผู้บริหาร สงสัยเขาน่าจะเอาไปเผาไฟทิ้ง
ในใบ comment นั้น มีใจความว่า....
วันนี้เกิดเรื่องการยกเลิกอาหารเช้า แขกหลายคนต้องเดินออกไปหาอาหารทานกัน
(วันนั้นมีแขกเป็นคนไทยอยู่ 3 ครอบครัว อีก 2 ครอบครัวเขาเช็คเอาท์ แล้วก็ไปอย่างคนมีการศึกษาและวัฒนธรรม)
ถ้าท่านยังปล่อยให้พนักงานให้บริการห่วยๆ แก้ตัวมั่วๆ
ไม่ยอมปรับปรุงระบบไฟฟ้า ที่ดับได้เป็นชั่วโมง ทั้งๆที่โรงแรมข้างๆไฟสว่างยังกับงานวัด
ไม่ยอมทำตามเงือนไขการให้ห้องพักและอาหารลูกค้า
หลอกลวงลูกค้าที่เป็นแขกที่มาจากต่างประเทศ เพราะคิดว่านานๆจะมาทีหรือมาแค่ครั้งเดียว
ผมก็อวยพรให้ธุรกิจของท่านจงไม่มีกำไรและพบกับเรื่องที่โหดร้าย เหมือนอย่างที่ท่านปล่อยให้มันเกิดได้บ่อยๆแบบนี้

ข้อความที่ผมเขียน เหมือนวาจาสิทธิ์ของจอมมาร
เพราะดันไปตรงกับเรื่องคลื่นยักษ์ในปีนั้น
ภาพที่หนังสือพิมพ์ถ่ายมาลง มีรูปรถยนต์พุ่งลงไปจมน้ำท้ายโด่งลอยอยู่ในห้องอาหารกลางโรงแรม
มีคนตายในชั้นล่างนั้นด้วย แต่จะเป็นแขก หรือเป็นพนักงาน ผมก็ไม่ทราบ
สมาชิกในครอบครัวของผมเลยกลัวว่า ถ้าไปอีกอาจจะเจอเรื่องน่ากลัวๆ
เพราะเราได้ไปแช่งเขาไว้ ผีอาจจะมาเอาคืนก็ได้ บรื๋อ...

แหม...ถ้าแช่งให้คนตายได้
ป่านนี้ผมแช่ง คนอีก 2-3 คน ที่สร้างปัญหาให้บ้านเมืองของไทยไปนานแล้ว

เฮ้อ....กรรมอยู่ทีบุคคลนั้นกระทำเอาไว้
ไม่มีใครไปแก้หรือเปลี่ยนได้ง่ายๆหรอกกระมัง
พระโมคคัลลานะ ท่านยังไม่หนีกรรมเก่าของท่านเลย
คนคิดไม่ดี แค่คิด ไม่ได้ทำ กรรมก็เกิด
มันจะร้อนข้างใน นอนไม่หลับ ร่างกายไม่ได้พักผ่อน
ก็เท่ากับได้รับกรรมไปแล้วหละครับ

Ref: แป๋วภูเก็ต PalevioletRed DB 70 93


โดย: zoomzero วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:41:04 น.  

 
To Haiku
สวัสดียามบ่ายครับน้องไฮก์

เรื่องละครทีวี หรือต้องเรียกให้ทันสมัยแบบสากลว่า ซีรี่ย์
พี่เองก็ดูตามจริตเหมือนคุณน้องไฮก์หนะแหละ
แต่ปัญหาคือบางเรื่อง พี่อยากดู แต่ท่านผู้ครอบครองรีโมทไม่ยินยอมนี่ซิ
พอจะหนีมาดูอีกห้องก็โดนดุว่า เปลืองไฟ เปลืองแอร์ เฮ้อ...จืด ไปเลยเรา

เป็นสาวๆนี่ก็ดีนะ มีหนุ่มๆเกาหลีมาให้เชยชม สมจินตนาการ
ครั้นพี่อยากจะชื่นชมสาวเกาหลีกับเขาบ้าง
เออ...แหนะ...หน้าตาเขาสวยคล้ายๆกันหมด
แถมพอเปลี่ยนทรงผม อ้าว...จำหน้าไม่ได้
พี่เป็นพวกความเจ้าชู้ยาว แต่ความจำสั้น
พี่ก็จำได้แต่หน้า....(ที่อยู่ใต้คาง)ซะมากกว่า ก็บางคนหนะอึ๋มซะเหลือเกิน 555

อือ..ป่านนี้คุณป้าวี น่าจะไปรับพระมาแล้วเหมือนน้องไฮก์นะ
พี่ไม่ได้ถามเรื่องนี้กับคุณป้าเขาเลย
ช่วงนี้เห็นว่าท่านนั่งนับเงินเป็นฟ้อนๆ เพราะกำไรจากปีก่อนซะ สรรพากรร้องฮ้อ.....เจี้ยะ
เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่ถ้าบริหารต้นทุนการผลิตและการจัดการได้ดี กำไรก็ยังมีอยู่
การที่บริษัทยังทำกำไรได้ต่อไปนี่ นับว่าเป็นบุญของพวกพนักงานและลูกจ้าง จริงมะ?
พี่ชายเลยขอมั่วนิ่มอวยพรตรุษจีนให้ป้าวีตรงนี้เลย
ขอให้เฮงๆๆ รวยๆๆๆ ตลอดไป สาธุ

พระของอาจารย์จักรพันธ์นี่
เขาว่าอยู่ในเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาคต่อไปนี้อีกด้วยนะ
เห็นว่าเป็นแบบลักษณะเดียวกันกับที่เข้าฉากตอนประกาศอิสรภาพ
ท่านถึงได้มีละครหุ่นเรื่องตะเลงพ่ายในช่วงนี้ สมกับการสร้างพระแห่งชัยชนะเลย
เฮ้อ...อิจฉาเหมือนกัน พี่มันไม่มีบุญวาสนาเลย ไม่เคยได้ไปดูการแสดงของท่าน
แถมไม่ได้พระที่ท่านออกแบบเอามาไว้ที่บ้านอีกด้วย
หลายวันมานี้ขับรถบนทางด่วน จากเส้นศรีนครินทร์ไปทางอนุสาวรีย์
มองเห็นคัตเอาท์โฆษณาพระอยู่ทางซ้ายมือ มีแต่คนถามว่าพระอะไรทำไมสวยงดงามจัง
เออ...ทำไมน้องไฮก์เรียกอาจารย์ว่าครูนะ หรือว่าเป็นสายศิลปะเหมือนกันกับท่าน
หิ้งพระบ้านพี่หนะ ร้อยวันพันปีถึงจะทำความสะอาด เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี
คิดๆอยู่ว่า ต้องเอาหนังสือธรรมะไปบริจาคห้องสมุดที่ไหนซักแห่ง
เคยเห็นบางวัดใกล้บ้าน เขาก็มีห้องสมุดในวัดเหมือนกัน
แต่พอไปเห็นว่าเขาเอาหนังสือที่บริจาคมากองๆเอาไว้ เพราะไม่มีคนแยกหมวดหมู่
พี่ก็เลยเกิดอาการถอดใจซะ ก็อย่างงี้แหละ ชายวัยชราขี้เหงาขี้ใจน้อยแถมเพี้ยนอีกต่างหาก 555

พี่ไม่ใช่คนจีนแท้ๆ (มีเชื้อบ้างแต่ ห่างเหินกันมาก บรรพบุรุษแซ่อะไร เขาเคยบอกมา ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว)
ภาษาจีนไมกระดิกหูหรอก ยิ่งตัวหนังสือหนะ เขียนไม่เป็นเลย
คุณหนูเขาเคยเรียนเล่นๆอยู่ 1 ปี แล้วก็เลิกไป
พี่ก็เลยเอาหนังสือเขามาอ่านๆ ดูรูปเล่นๆ แต่ก็ไม่เข้าหัวเลย

คนโสด ภาษาจีน ไม่น่าเรียกอย่างนั้นหรอก
คำๆนี้พี่ได้ยินอาแป๊ะขายก๋วยเตี๋ยวดุตอนที่ตีลูกชายจอมซน
ต้องลองไปถามอาม่าแก่ๆ ถึงจะเข้าใจว่า เขาใช้พูดกันในเหตุการณ์อะไร
ถ้าจะให้มองนอกกรอบ ขอมองว่า หมายถึง คนดื้อ คนไม่เรียนหนังสือ คนนิสัยไม่ดี คนไม่รักดี ฯ
เลยไม่มีคนเอา ไม่มีคนรัก ไม่มีใครสนใจใยดี มากกว่า
แต่ติดคำว่า อ่าย ซึ่งแปลว่า รัก นี่แหละที่จะหนีความหมายนี้ออกไปไม่ได้ไกล

คนไทย เวลาที่ญาติผู้ใหญ่ดุเด็กๆ แบบหยอกล้อ ก็จะว่า “ดื้อแบบนี้ ปู่ไม่รัก ไม่มีใครเขารักหรอก!”

คำนี้ พี่ตั้งใจยิงกระสุนใส่ยายหมวยเล็ก แต่พอดีเขาไม่เก็ตภาษาจีน
เห็นเขาว่า นั่งดูหนังเกาหลีรู้เรื่องนี่หน่า
เลยกลายเป็นกระสุนฝืดไป คนโดนไม่ระคายผิว 555
แต่วันนี้...ดีใจ...กระสุนกระดอนไปโดนน้องไฮก์ ซะหละมั๊ง
สงสัยใครมาอ่านเข้า คงคิดว่าพี่นี่ใจร้ายช่างว่าคนจริงๆ ฮิฮิ

ถ้าอาหมวยเล็กเขาจับประเด็นนี้มาคุย
เขาคงจะบอกว่า ไม่มีใครเอา กับ ไม่อยากมีใคร มันต่างกัน
บ่ นั่ง อ่าย หรือ คนที่ไม่มีใครรัก พี่ก็ว่ามันแรงไปนะ น่าสงสารคนโดนว่าเหมือนกัน
และมันก็ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรอก น่าจะเป็นคำเตือนกันมากกว่า
อย่างน้อยพ่อแม่ก็ต้องรักเรา พี่น้องอีกหละ ญาติคนอื่นๆอีกหละ เพื่อนหละ?
แต่สภาวะ ไม่มีใครเลย พี่ก็เคยเจอนะ
แต่นั่นเป็นเพราะเราไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครมากกว่า
ลองเราเที่ยวแถเถลไถลออกไปข้างนอกบ้านเมื่อไหร่ ก็ได้เพื่อนเมื่อนั้น
ปัญหาอยู่ที่ว่า ได้เพื่อนแบบไหน รักเรา จริงใจกับเราหรือเปล่า นะดิ?

อาหมวยเล็กเขาเขียนอะไรลึกซึ้งหลายเรื่องนะ
พี่ต้องระวังเหมือนกัน เดี่ยวไปสะกิดต่อมปรี๊ดเธอขึ้นมา
เธอจะเขียนเป็นร้อยๆบรรทัด
แต่พี่ก็ช๊อบๆกวนอารมณ์ให้เขาหงุดหงิดตามสไตล์จอมมารแบบนี้แหละ

ไปได้ยินอาหมวยเล็กร้องเพลงที่ไหนมาเหรอ
เดี๋ยวต้องตามไปฟังซะหน่อย
อ้าว...เป็นคอมเมนท์นินทาอาหมวยเล็กไปได้ยังไง 555

Ref: ไฮกุ haiku DarkGreen 00 64 00




โดย: zoomzero วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:26:05 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: priyavimol วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:01:34 น.  

 
ขอบพระคุณลุงzoomzeroที่ไปโพสให้กำลังใจนะค่ะขอเก็บลุงzoomzeroไว้ในลิสอีกคนหนึ่งนะค่ะ


โดย: priyavimol วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:07:04 น.  

 
มาแล้วค่ะ เพิ่งกลับมาบ้าน แหม ๆ เสียใจที่คุยด้วยน้อยจริง ๆ น่ะหรือคะ ไม่อยากจะเชื่อเลย

ว่าแต่ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีเวลาว่างมาตอบเม้นท์สาว ๆ อยู่ได้อีกหรือคะนี่ ไม่น่าเชื่อเลย อิอิ

ช่วงนี้เกิดอาการจิตตกขั้นรุนแรงค่ะ เบื่อหน่ายชีวิตยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยหาอะไรทำอย่างที่พี่ชายว่าไร้สาระนั่นแหล่ะ เล่าให้ฟังแล้วเดี๋ยวก็โดนบ่นอีกเลยขี้เกียจเล่า ก้อเล่นเกมส์ออนไลน์นั่นแหล่ะค่ะ แก้เซ็ง แล้วก็ซื้อหนังสือเยอะแยะมานั่งอ่าน นั่งเมื่อยก็ลงมานอนอ่านหนังสือ ส่วนตอนไปอยู่บ้านคนอื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ตอนนี้ก็เพิ่งหาซื้อไหมพรมไจยักษ์ (พิมพ์ถูกมั๊ยน้าที่แปลว่าม้วนอ่ะค่ะ) กะจะถักโครเชเป็นผ้าพันคอผืนยักษ์ ถ้าด้ายเหลือก็จะถักกระเป๋าใส่ของต่อค่ะ แล้วไปช๊อปแผนก handcraft ทั้งทีก็เกิดอยากจะปักครอสติสขึ้นมาซะอีก ซื้อมาอีกสองลายผืนยาก ๆ ใหญ่ ๆ จะได้ทำได้น๊าน นาน ไม่รู้กี่ปีจะปักเสร็จเหมือนกันค่ะ อิอิ

วันนี้... เพิ่งกลับมาบ้านค่ะ ออกไปทำสิ่งที่ค้างคาให้เสร็จสิ้นไปซะที ในที่สุดนู๋ก็ทำได้แล้วนะคะ ไปตอนเช้าแล้วก็กลับมานอนเย็น ใจจริงกะว่าจะอยู่ซักวันแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้ แต่ไป ๆ มา ๆ พอเอ่ยปากพูดก็จบเร็วกว่าที่คิดเลย เมื่อเขาพูดว่า ถ้าจะมาเพื่อทำแบบนี้ เพื่อมาบ่นหรือต่อว่าหรือพูดอะไรแบบนี้วันหลังก็ไม่ต้องมาดีกว่า มันอาจจะดีก็ได้นะคะที่จบแบบนี้ นู๋ก็เลยกลับซะเลยเก็บของกลับซะเลย เหอะ ๆ

แต่ก็แปลกนะคะ ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัว เตรียมใจ ทำใจมาตั้งนานเป็นเดือนได้ ว่าจะเคลียร์ให้เสร็จสิ้นไปซะที แต่พอถึงเวลาจริง ๆ แล้ว มันยากเย็นเหลือเกินที่จะพูดอะไรออกไปซักประโยค แล้วพอเดินออกจากจะเรียกรถกลับบ้าน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาได้นะ นั่งแท็กซี่กลับบ้านก็น้ำตาไหลมาตลอดทางเลย เฮ้อ.... เวลาแบบนี้ คิดถึงพี่ชายจังเลยค่ะ แต่รู้ว่าติดต่อไม่ได้นี่เน๊อะ มาทิ้งข้อความไว้แล้วกันนะคะ ^_^

ถึงจะยังไงก็ตาม ในที่สุดเรื่องที่ค้างคาใจอยู่นานก็จบลงไปอีกเรื่องนึงแล้วสินะ

นู๋ก็ได้แต่นึกและนั่งหวังภาวนาในใจว่า ต่อแต่นี้ไปขอให้เรามีสติและตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และไม่ต้องทำให้เสียใจแบบนี้อีก

แต่มันจะเป็นไปได้มั๊ยนะ.....


โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (http://beee.bloggang.com) IP: 125.24.180.74 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:56:13 น.  

 
ปล. วันนี้รู้สึกว่าฟังเพลงบ้านนี้แล้วมันเศร้าจับใจจังเลยค่ะ *-*


โดย: Beee IP: 125.24.180.74 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:57:39 น.  

 


หวัดดีค่ะพี่ชาย
ขอติดไว้ก่อนเหอะน่า
แวบดูนาฬิกาแล้ว ขอออกจากบ้านก่อน
เดี๋ยวรถติด เดี๋ยวไปคุยต่อที่ทำงานอ่ะจ้า ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:58:38 น.  

 



ฮ่า ๆ ๆ นู๋ไม่ง๊อแล้ว โปรแกรม IE อ่ะ FF ดีกว่ากันเยอะเลยค่ะ
พอดีเครื่องที่ทำงานไม่ได้ตั้ง FF ไว้
เมื่อกี๊ ก็เลยเสียเวลาดาวน์โหลดโปรแกรมเข้าเครื่องแป๊ปนึง
โหลดแล้ว ไปเจอโปรแกรมนู๊น นี้ นี่ นั่น ล้วนน่าสนใจหมด
นู๋เลยกวาดเข้ามาเก็บไว้ในฮาเล็มหมดเรียบเลยค่ะ อิอิ

จะ บ่อ นั่ง อ่าย หรือ อาไรก็แล้วแต่เหอะ
มินเป็นคนประเภท ช่างมันฉันไม่แคร์และไม่สนด้วย อ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เป็นคนชอบคนง่าย แต่ไม่ชอบ(เกลียด) คนยากอ่ะ อาไร ๆ ก็จะช่างมันไว้ก่อน
ที่ต้อง เป็น อยู่ คือ แบบทุกวันนี้อ่ะ ไม่ใช่เพราะไม่มีใคร แต่ อาจไม่มีใครต้องการ นู๋ จริง ๆ ก็ได้มั๊ง ฮือ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ
ที่แอบไปชอบเค้า ก็มักไม่ได้ ก็บอกแล้่วไงว่า แอบชอบเค้า เค้าอาจรู้ หรือไม่รู้ตัว มินก็ไม่รู้
แต่ เวลาที่ใครมาชอบ ก็ม่ายได้ชอบเค้าแบบนั้นอีก โลกน๊อ..มันเป็นซะแบบนี้อ่ะนะคะเฮีย

เย๊ เย๊..เฮียก้อคิดแบบเดียวกับมินเหมือนกันนี่นา
ไม่มีใครเลย นั่นมันเป็นเพราะเราไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครมากกว่า
ถ้าเราลองเที่ยวเถลไถล รับไมตรีจากใครไปเรื่อยเปื่อย เราก็ได้เพื่อนเมื่อนั้นหล่ะมินว่า
ส่วนจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน นั่นก็แล้วแต่ว่า เราต้องการให้มันเป็นไปยังไง และเราอยากเดินไปทางไหน

เพลงนั้นอ่ะ มินได้ยินในเวอร์ชั่นคนอื่นค่ะ ไม่ใช่มีศักดิ์หรอกค่า คนนั้นเคยเห็นแต่ในรูป และรู้ว่าเขาเป็นตลกใช่ป่าวคะ
เอ หรือเขาชอบร้องเพลงของเอลวิสนะ จำไม่ได้อ่ะ
เมื่อก่อนตอนมินเด็ก ๆ มินโตมาก็ได้ยินแต่เพลงฝรั่ง เพราะพ่อมินเขาซื้อแต่เทปเพลงฝรั่ง ทั้งนั้น
เช่นพวก โลโบ คาร์เพนเตอร์ คลิฟ ริชชาร์ด หรือ แม้กระทั่งพวกดอนนี่ ออสมอนด์ อ่ะ จริง ๆ มีอีกหลายคน แต่จำไม่ได้แล้วค่ะ

อย่า เข้าใจผิดนะคะเฮีย ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนต่อมปรี๊ดแตก มินหรอกค่า ฮ่า ๆ ๆ
ไง ๆ มินก็ชอบคุยเยอะ ๆ อยู่แล้ว นอกเสียจากเฮียจะรำคาญ ไล่มินให้ไกล ๆ เท่านั่นอ่ะจ้้า
ถ้าวันไหน โดนจี้ใจขาว ๆ จริง ๆ แล้ว มินคงแบบ จุกเงียบ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ไปไม่เป็น หง๋อยเป็นแน่เลยอ่ะนะคะ อิอิ

ถ้าสงสารคนโดนว่า วันหลังก็อย่าไปว่าเค้าอีกนะคะเฮีย
เดี๋ยวเกิดเค้าน้อยใจ คิดมาก กินยานอนหลับเกินขนาด
เผลอ ๆ เฮียอาจได้ขึ้นหน้าหนึ่งฟรี ๆ นะ จากจดหมายลาโลกของเค้าอ่ะค่า ฮ่า ๆ ๆ มินม่ายรู้ด้วยน๊าคะ ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:38:36 น.  

 
หวัดดียามค่ำครับ

แท้งคิ่วหลายที่อุตส่าห์กระซิบบอกความลับ
ไอ้ของลับๆนี่มันชอบอยากรู้เนอะ ผมมันเด็กใหม่เพิ่งเข้าแก๊งค์มาเดือนฝ่าๆ ประวัติศาสตร์ความผิดพลาดของคุณน่าจะเป็นบทเรียนผมได้ เป็นเอาว่าผมต้องก็อปปี้ไอ้ที่อยากเก็บไว้ใส่ไว้อีกที่นึง คุณน้องก๋าเพิ่งบอกผมว่าละเลงได้ครบ 50 บล๊อกเมื่อไรให้เอาไปพิมพ์ อาจจะพิมพ์ไว้แจกงานเกษียณละมั้ง แต่กะตังค์ก็หายากหาเย็น เอาไปลงทุนเล่นๆเจ๊งมาจะเอาอะไรกิน เป็นลูกจ้างราชการเนี่ยทั้งหอยทั้งเบี้ยกะติ๊ดเดียว ต้องกระเหม็ดกระแหม่เขียมๆอยู่นา

พูดถึงคนรักชาติ โห...หมู่นี้แม่งแย่งกันรักชาติกับชิบโป๋ง บางคนอั๊วเห็นมันรักชาติจนจูบดินเลย แต่ยังเห็นลึกกว่านั้นว่าแม่งน้ำลายไหลแอบเอาลิ้นเลียๆดิน แล้วงึมงำว่าอาหย่อยดีอาหย่อยดี โห...แดกกันเข้าไปไอ้สันดอน ตายห่าตายโหงเมื่อไหร่แม่งขนแบ๊งค์กงเต๊กไปใช้ในเมืองผีไปเลย จะเอารถเบ๊นซ์รถจาร์กั้วสนามกอล์ฟเผาตามไปด้วยก็เชิญ เห็นด้วยว่าแค่ด่าไอ้พวกกร๊วกนี่ไม่ระคายผิวมัน แต่ทำอะไรมันก็ยากจริงๆ ตอนนี้มันซื้อแม่งทั้งสื่อ ทั้งจำหนวดหมาต๋า ทั้งอัยโกงอัยกวน องค์กรอิสระเสรีซีซั้วมั่วมั่วเป็นโขยง ม่ายรุจะกล้าไปทำอะไรพวกมัน คิดเอาว่ามาระดมพลังด่าสาปแช่งเผื่อแรงพลังมันรวมกันแล้วรุนแรงเหมือนการ์ตูนดราก้อนบอลเกิดระเบิด เปรี้ยง! โครม ! บูม ! อัดพวกมันจุกอกตาย

แหม..หลอกล่อให้ผมฝันเปียกหัวค่ำจนได้ สมกับเป็นจอมมารโฉดเจ็งๆ เอาเหอะผมไม่ยอมหรอก ผมจะด่ามันไปเรื่อยๆพร้อมๆกับสั่งสอนลูกหลานของเราให้รู้เท่าทันพวกมัน และต่อต้านกำจัดพวกมันต่อๆๆๆๆกันไปทุกเจ็นเนอเรชั่น แฮ่ ! เด็กผมมันเอาการอยู่นา


โดย: Dingtech วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:36:51 น.  

 
To Priyavimol
คุณดังครับ
ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขออนุญาต ทำ link บล็อกของคุณด้วยก็แล้วกัน

แต่ว่า ช่วยเรียกพี่ได้หมัยยยย
ขนาดสาวสามย่าน สี่พระยา ห้าแยกปากเกร็ด ยังไม่เรียกผมว่าลุง หรือปู่ เลย
zoomzero อยู่ในโลก(internet) ยังแค่ช่วงวัยละอ่อนอยู่เลย อยากเป็นจิ้งจอกสังคมอายุประมาณ 25 ปีก็พอ
เรามาเป็นแนวพี่น้องดีกว่า จะได้เขียนปั่นป่วนกันได้เต็มที่ เดี๋ยวจะกลายเป็นบางจะเกร็งกันเสียเปล่าๆ

อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้เสมอครับ
มีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็เอามาเล่าให้ฟังได้ รับได้หมด
ความจริงเรื่อง ICU นี่ก็เคยเขียนเอาไว้นานแล้วสมัยบอร์ดบีบี2 โน่น
ตอนนั้นเขียนเรื่องทำนองที่เราต้องยอมให้หมอดึงปลั๊กเครื่องของมารดาของแฟนของผม(หลาย ของ จริงๆ)
ในสัปดาห์เดียวกันญาติผู้ใหญ่ของคุณ DoraMac ก็มาจากไป
เล่นเอาผมหดหู่ไปเป็นเดือน
แต่ก็ยังอยากให้ทุกคนผ่านวันแบบนั้นให้ได้
คำเดียวที่ใช้ได้เสมอ คือคำว่า "เวลา"
เพราะมันคือทุกอย่างในการทำให้ใจของเราผ่อนคลาย

Ref: Priyavimol Coral FF 7F 50


โดย: zoomzero วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:42:51 น.  

 
To Beee
สวัสดีนู๋บี
ไม่ต้องเศร้าไปหรอก คนเราพบกันได้ ก็จากกันได้ แต่ถ้ายังมีกรรมค้างคากันอยู่ เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมาหากันอยู่ดี พอนู๋บีบอกว่าไม่อยากเล่าอะไรให้ฟังเพราะไม่อยากโดนว่า เออ...แล้วจะเอายังไง จะเอาแบบพวกแหลลวงโลก แบบนั้นหรือ?? ขอทีๆ อย่าให้พี่ชายต้องทำเลยนะ เบื่อการเป็นคนฉอเลาะออเซอะเอิงเงยแบบนั้น อะไรที่มันไม่เข้าท่า พี่ก็ว่ามันไม่เข้าท่า แต่ก็ว่าด้วยความรู้สึกเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของทุกคนที่พี่ว่า หากแต่ว่าถ้าคนไหนห่วงมากก็อยากจะเตือนกันทันที

เรื่องการเล่นเกมส์อินเตอร์เน็ท พี่ชายก็เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าเล่นนิดๆหน่อย เพื่อคลายเหงา คลายเครียด มันก็ดี แต่ถ้าเล่นแบบเอาเป็นเอาตาย ไม่ทานข้าว ไม่ติดต่อโลกภายนอกเลย แบบนี้มันไม่ไหวนะ และที่ไม่ไหวก็คือพอสิ้นเดือน เปิดกระเป๋าดู มันไม่มีแบงค์พันอยู่ในนั้นเลยนะซิ สู้หาทางสร้างรายได้ดีกว่า เสียเวลาแบบนั้นแล้วยังได้เงิน ซึ่งเราจะเอาไปทำอะไรก็ได้ หึหึ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่า อย่าเอาไปใช้ในเรื่องไร้สาระก็แล้วกัน บีบอกว่าซื้อหนังสือมานั่งอ่านนอนอ่านนี่ มันเป็นหนังสือการ์ตูนอีกหรือเปล่า โหย...อะไรจะบันเทิงและสันทนาการกันไปเรื่อยเปื่อย เชื่อแล้วว่าเป็นคนขี้เหงาจริงๆ

เรื่องความรัก
พี่ชายก็ขออวยพรให้เจอแต่สิ่งดีๆ ใกล้วันวาเลนไทน์แล้วนะ อยากพาน้องสาวไปเลี้ยง Swensen วันนั้นเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวนี้โลกของเราสองคนมันห่างกันออกไปทุกทีๆเลย เหมือนคนหนึ่งอยู่บนบกและอีกคนอยู่กลางทะเลมหาสมุทร 555 พี่ชายอยากเป็น ออก้า-วาฬเพชฌฆาต (ความจริงมันคือ โลมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันไม่ได้เป็นวาฬ) อยากเป็นอิสระในแถบอาร์กติกหรือไม่ก็แอนตาร์กติก ชักออกทะเลไปกันใหญ่ 555 เอาเป็นว่า ขอให้เรื่องร้ายๆมันผ่านไปเสียที ไม่ต้องไปทนสภาพอะไรที่ยิ่งกว่าเอเลี่ยนผจญพรีเดเตอร์แบบนั้นอีกเลย ดีใจที่ต่อไปนี้น้องสาวจะก้าวเดินต่อไปด้วยความไม่ประมาท แต่พี่ชายก็ยังเชื่อเรื่องชะตาฟ้าลิขิตเหมือนเดิม เบอร์หนึ่งจากไป เบอร์สองก็ก้าวเข้ามา อยู่ที่เราจะรูจักจำและอยู่กับมันให้ได้มากกว่า ไม่เอาแล้วหละ เรื่องความรัก เขียนไม่ค่อยถนัด เพราะเขียนทีไร เจ็บอกข้างซ้ายแปล็บๆทุกที

ช่วงนี้ถ้าไม่มีเรื่องอะไรมาเม้าท์ก็ไม่เป็นไร เอาไว้ไปเที่ยวไหนหรือไปเจออะไรกวนโทสะ ก็ค่อยเอามาคุยกันใหม่ได้

อ้อ...ถ้าฝีมือดีเมื่อไหร่ ช่วยถักผ้าพันคอให้พี่ชายด้วยนะ เผื่อได้ไปยุโรปอีกครั้ง จะได้เอาไปโบกบนยอดเขาแอลป์

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF


โดย: zoomzero วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:55:19 น.  

 
อาหมวยเล็กกับคุณดิ่งครับ
ผมเข้ามาอ่านแล้วนะ
แต่ต้องขอโทษที่ไม่มีเวลาคุย
รอแป็บนะ
วันจันทร์น่าจะมีเวลาว่าง

วันนี้ไปวัดบางพลีใหญ่ในมาอีกแล้ว
พาคุณแม่ไปดูส้วมไฮเทค ติดแอร์
และซื้อปลาสลิดมาทอดเป็นมื้อค่ำที่บ้านใหญ่


โดย: zoomzero วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:59:28 น.  

 


หวัดดีค่ะพี่ชาย
ทานกาแฟหรือยังคะ
วันนี้ไปเที่ยวไหนเหรอ มินจะได้ตามไปถูกอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
เล่าเรื่องส้วมไฮเทค ให้ฟังด้วยนะ
มันเป็นยังไงเหรอ อยากรู้อ่ะ ว่าทำไม ต้องเรียกแบบนั้น
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคะ ไปไหนก็ขอให้ถนนโล่ง ๆ
ทานให้อร่อย ๆ นะคะเฮีย...joops joops..จ้า ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:27:22 น.  

 
พี่ซูม


โดย: นกสีขาว IP: 79.65.99.3 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:37:14 น.  

 
>

หวัดดีวันจันทร์ค่ะเฮีย


โดย: มินทิวา วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:34:38 น.  

 



ขนาดวางรูป ยังไม่ขึ้นเลยอ่ะ ฮือ ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:38:30 น.  

 
อาหมวยเล็ก
วันนี้บี้ซี่มั๊กมาก จะซี้อยู่แล้ว
Accord เข้า zero หมายถึง ศูนย์ หนะ
อาการสตาร์ทติดยาก บิดกุญแจลากยาวววว ถึงจะติด
ท้ายรถมีกลิ่นน้ำมันพืช เอ้ย...เบนซิน ฉุยๆๆๆๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องโทษ แก๊ซโซฮอล
แต่เชื่อมั๊ยว่าเติม 91 แท้ๆ มาตลอด 8 ปี
พอเขางด 95 ก็ยังไม่ค่อยกลัว เพราะเราก็เติม91 ได้
แต่ตอนนี้เขาเริ่มงด 91 กันแล้ว หาปั๊มป์เติมยาก
พอลองโซฮอล 95 มาได้ 1 ปีกว่า เครื่องก็เริ่มงอแง
เมื่อตะกี้ช่างโทรมาบอกว่าปั๊มป์ติ๊กเริ่มป่วน
ของใหม่ 9 พันฝ่า ค่าแรง 450
แค่ขันน๊อต ถอดสายยาง ใส่อันใหม่
แค่นี้ 450
เฮียว่าค่าแรงมันโฉดเกินไปหรือเปล่า
ขอขว้างไข่หน่อยเหอะ....แป๊ะ....เผละ
ถ้าไปทำอู่ข้างถนน ค่าของคงแค่ 8 พัน
ค่าแรง 200 กว่าๆ รอครึ่งวัน แค่ขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้ออะไหล่ แค่นั้น
แล้วอย่างที่คิด ต้องไปเอารถพรุ่งนี้
ตอนนี้ไปไหนเลยต้องโหนรถเมล์ ดีว่าเขามีเมล์ฟรีนะ 555

เรื่องส้วมไฮเทค
ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็เหมือนส้วมในโรงแรมหรูนะแหละ
แต่มันแปลกตรงที่ดันไปอยู่ในวัดที่ไม่ใช่ กทม.
และใครเข้าไปก็ต้องเอากล้องไปถ่ายรูปกัน
เดี๋ยวจะหารูปมาฝากให้ดู
เออ...เหมือนกับว่าเคยเอามาอวดแล้วนะ หึหึ


Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:06:12 น.  

 
อาหมวยเล็ก
เฮียไปหาข้อมูลมาแล้วครับ

จาก บอร์ดโตโยต้า
"ปัญหาปัมป์ติ๊กพังเพราะแก๊สโซฮอล"

case นี้ เป็นเพราะเขาเอารถไปเปลี่ยนเป็น LGV หรือ NGV กัน
แล้วมีน้ำมันค้างในถังน้ำมัน แล้วไม่มีการใช้น้ำมันอีกเลย
แต่ต้นเหตุมากจากว่า เมื่อเจ้าของรถหันมาใช้แก็ส ก็จะตัดสวิทช์การใช้น้ำมัน
ยิ่งบางคันไม่ยอมเติมน้ำมันเลย ปั๊มป์ติ๊กอาจจะปั๊มป์อากาศจนตัวมันร้อนและไหม้หรือแกนในละลายไป
ทางศูนย์จะแนะนำว่าให้ทำการสตาร์ทติดเครื่องยนต์เดินรอบปกติทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ทุกๆสัปดาห์

อันนั้นมันเรื่องของพวก 2 ระบบ น้ำมัน+แก๊ส
แต่ปัญหาของเฮียมันคือ เต็มน้ำมันแล้วไม่ได้ใช้ น้ำมันเลยเน่า
ใช่หรือ?

เรื่องนี้เขามีทั้งเขียนด่า และเขียนแก้ต่างกัน มาเป็นปีๆแล้วหละ
ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่
ถ้ามันเป็นจริง รถที่จอดนานๆตามเต้นท์ขายรถ ตัวปั๊มป์น้ำมันเชื้อเพลิงมิพังกันหมดแล้วหรือไง?

ที่แน่ๆ zero เอ้ย...ศูนย์บริการฮอนด้าหนะ เขาถอดอันเก่าแล้วใส่อันใหม่แทนอยู่แล้ว
เขาไม่มีนโยบายทำความสะอาดปั๊มป์ให้เราประหยัดทรัพย์หรอก

เมื่อตะกี้ เฮียโทรไปถามที่ศูนย์ว่า ถ้าเราเติมโซฮอลแล้วไม่ใช้นานๆ มันจะ....
ยังไม่ทันได้ถามเลย เขาพูดสวนมาว่า "บูด" ครับ
เฮ้ย...พระเจ้าทอดมันยอดกล้วย!!!!
เรื่องแบบนี้ก็อย่าไปเชื่อมันมากนัก
เพราะว่า งานต่อมาที่เขาบอกมาคือต้องล้างถังน้ำมัน
มีค่าล้าง มีค่าน้ำมันใหม่
และน้ำมันเก่าต้องยกให้เขาเอาไปเป็นน้ำมันล้างเครื่องมือ(เกือบพันบาทนอนอยู่ในแท้งค์)
ฟังดูแล้วมันเหมือนว่าเป็นการคุยที่มันมีขั้นตอนอัตโนมัติยังไงก็ไม่รู้
สมัยนี้ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี
รู้แต่ว่าเขาศูนย์ทีไร กระเป๋าเงินมัน zero ทุกที
ของทุกอย่างเปลี่ยนดีกว่าซ่อม เขาว่าแบบนั้น 555

มาคิดดูแล้ว ไม่น่าเจือกโทรไปถามเรื่องน้ำมันเน่ากับเขาเลย
โดนฟันค่าล้างถังพร้อมทั้งเสียน้ำมันไปฟรีๆอีก
ห่วยฟระ

เอาไข่มาขว้างหน้าเฮียหน่อยซิ
ทำไมเกิดมาโง่แบบนี้

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:05:21 น.  

 
To นกสีขาว
น้องแอน

มาอีกคนแล้ว
มาแค่คนละคำสองคำ
นี่ก็ 3 คนแล้วนะ ที่มาแล้วไม่คุย

Ref: นกสีขาว AnnEng DeepPink FF 14 93



โดย: zoomzero วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:07:53 น.  

 



อ๋อ..หงุดหงิดเรื่องรถเหรอคะเฮีย
รถเฮียกี่ปีแล้วคะ มินหมายถึงถ้ามันเลย 5 ปีไปแล้ว
มันจะไม่ได้จัดว่าเป็นรถใหม่แล้วค่ะ
ทางศูนย์ก็หมดการรับประกันแล้ว
คือ มันจะรับประกินเราอย่างเดียวอ่ะนะมินว่า
ขนาด มินทำงานคลุกคลีอยู่ในวงการรถแท้ ๆ
ยังเสียค่าโง่มานักต่อนักแล้ว แต่มันก็ไม่เห็นทำให้มินฉลาดขึ้นมาเลยอ่ะค่ะ
พักหลังเล่นวิธีนี้ค่ะ คือซื้ออะไหล่มือสองใส่
หมายถึงอะไหล่แท้ที่มาจากนอกอ่ะนะคะ
ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นก็ไปดูที่ซอยวัดกิ่งแก้วนู่น
แต่ ถ้าเป็นรถยุโรปก็ร้านแถว ๆ ราชพฤกษ์ พระรามห้าอ่ะค่ะ
รู้สึกว่าจะชื่อร้าน พระรามห้าอินเตอร์อะไหล่ยนต์หรือไงเนี่ย
ตอนนี้ มินใช้วอลโว่อยู่ หมายถึงรถตัวเองจริง ๆ อ่ะ
อะไหล่บางตัวที่ไม่สามารถใช้ของมือสองได้ มินก็ซื้อกับธเนศยนต์ แถวสะพานยศเสโน่น
แต่อะไหล่ที่หามือสองมาเปลี่ยนได้ มินก็ซื้อมือสองค่ะ โห..มันเซฟกว่ากันเยอะเลยค่ะ เชื่อมินนะ
แล้วพูดจริง ๆ ว่า คุณภาพก็โอเค เพราะฝรั่งเขาใช้รถไม่เหมือนเรา ไมล์สองแสนเนี่ย
มันต้องจ้างรถมายกไปทิ้งแล้วค่ะ ไม่เหมือนของเราใช้กันจนตายไปข้างนึงเลย
แต่ ถ้าบังเอิญเฮียเป็นเศรษฐี ไม่สนใจเรื่องอะไหล่มือสอง ก็ต้องให้ศูนย์มันฟันไปค่ะ
นโยบายศูนย์ไหน ๆ มันไม่มีคำว่าซ่อมอยู่แล้ว ใช้เปลี่ยนของเก่าออก เอาของใหม่ใส่แทนที่ค่ะ
แล้วค่าแรงอ่ะ เขาคิดเป็นจุด ๆ ค่ะ อย่าให้เขาได้เอามือไปจับ ๆ ๆ จุดไหนเลย จะซ่อมหรือไม่ซ่อมค่อยว่ากันต่อไป
แต่ เขาจะคิดค่าแรงตรวจเช็คว่ากันเป็นจุด ๆ เจ้าค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ส่วนเรื่องน้ำมันโซฮอลล์ หรือ เบนซินที่ว่าบูดนั้น ไม่เคยได้ยินค่ะ เพิ่งได้ยินนี่แหละ
มันมีแต่ว่า พวกแก๊สโซฮอลล์ ค่าอาไรมันต่ำก็จำไม่ได้แล้ว มันจะทำให้เกิดเขม่าไปจับที่นู่น ที่นี่
ที่ไม่สมควรจะให้จับอ่ะ แล้วมันก็จะมีปัญหาลามมาที่เครื่องยนต์ ทำให้สะอึก หรือ บางทีก็สตารท์ไม่ติดอ่ะ
ถ้าเอารถไปเข้าศูนย์ ศูนย์ก็ว่าต้องเปลี่ยนหม้ออาไรก็ไม่รู้ ค่าอะไหล่หมื่นสอง ค่าแรงอีก 600 ทิ้งรถไว้วันนึง
เรื่องนี้มินยังเคยได้รับฟอร์เวริดเมล์เลยค่ะ มีรูป มีชื่อที่อยู่ให้ดูเสร็จ
สรุปแล้วเจ้าของรถลองหาวิธีแก้ไขเองในเน็ทเนี่ยแหละ เลยไปเจออู่นึงที่ทำเรื่องนี้และชำนาญมาก
ไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่อาไรหรอก แค่เอามันมาล้างทำความสะอาดให้เนี๊ยบเท่านั้นเอง ค่าแรง 400 จบข่าว
แล้วก็พยามอย่าเติมแก๊สโซฮอลล์ เติมแต่เบนซิน 91 ก็แล้วกัน มันก็ไม่มีปัญหา...
มินเข้าใจดี เรื่องคนที่มีปัญหาเรื่องรถอ่ะ เพราะมินก็ประเภทโรคจิตค่ะ ขับรถอาไรก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ไม่ได้
อยากให้้มันเพอร์เฟ็คเหมือนกันอ่ะ
แต่ เดี๋ยวนี้ เขี้ยวค่ะ ขับรถตัวเองไปถึงบริษัทฯ จะไปไหนก็เอารถบริษัทฯ ไปตลอด รถตัวเองจอดไว้ตั้งแต่วันจันทร์ยันวันศุกร์ พอวันศุกร์ค่อยเอารถตัวเองกลับบ้านอ่ะนะ...ฮ่า ๆ ๆ
ปล. วันนี้ ยังม่ายถึงร้อยบรรทัดเลยนะคะเฮีย...
goodnight จ้า...อย่าไปเครียดน๊า เดี๋ยวก็หมดวัน เผลอ ๆ แป๊บเดียวก้อเช้าแล้วค่า อิอิ ไปละน๊า


โดย: มินทิวา วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:53:31 น.  

 
To Dingtech
คุณดิ่งเท็คที่นับถือ

คิดเหมือนกันเลยครับ
อยากได้แบบดราก้อนบอลแบบนั้น สำหรับการเมืองของไทย

เห็นอยู่เต็มตา หลักฐานก็มีในมือ เรื่องรับเงินเข้าพรรค
รออะไรหรือไง หรือกลัวปู่หน้าบึ้งหรือ?
ยุบมันให้หมดทุกพรรค ไม่ต้องมา 2-3 มาตรฐานให้รำคาญแบบนี้

ยึดทรัพย์ให้หมดไปเลย
มาอืดไปอืดมาเป็นแกงจืดวุ้นเส้นไปได้
ใครโกงภาษี อย่ารอรี หนังเรื่องนี้ฉายมานานแล้ว จบเสียที

ตั้งเสียทีหัวหอกของตำหรวดหนะ
มันตั้งยากเพราะไม่มีมาตรฐาน
ถ้าเอาหลักอาวุโส ชั่วโมงทำงาน การสอบแบบทดสอบตามตำแหน่งเพื่อมีวุฒิ ฯ มันก็ไม่น่ามีปัญหา
หยุดระบบย้ายข้ามหัวกัน เป็นพวกรีดไถ่รถสิบล้ออยู่ดีๆ ก็ให้มันมาเป็นตัวใหญ่ในกองปราบ แบบนี้มันถึงเละเทะ
เราชอบที่เฮียชูวิทย์(พี่ชายคนโตของเรา) ขึ้นไปชี้รูปตำรวจบนตึกใหญ่วันนั้น (ต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย)
ตั๊วเฮียบอกว่า รูปที่ติดบนกำแพงนี้ มีแค่ 3 คน ที่ไม่เคยได้เงินจากผม (บนกำแพงมีรูปบิ๊กตำหรวดเป็นโหลๆ)
ตลกดี หาคนมาเป็นผู้นำงานที่มีมาตั้งนมนามแล้ว
เอาคนธรรมดามาบริหารซิ จะได้แปลกกว่าปะเทดอื่นเขา

เรื่องให้ด่าคนทำระหยามยำเหยียดกับประเทศนี้
อั้วขอด่าไอ้พวกที่ชอบประท้วงแล้วปิดถนนหนทางพวกแรกก่อนเลย
พวกที่สองก็คือพวกที่มั่วนิ่มทำลายข้าวของสาธารณะ และของเอกชนคนทำมาหากิน
ไอ้สองพวกนี้ อั้วว่าโฆษอับพลีจริงๆ ไม่รู้ว่าบิดามารดาไม่เคยสอนหรือไง
หรือว่าเกิดมาเพราะสะเปิร์มผู้ชายหลายๆคนมันวิ่งไปชนไข่พร้อมๆกันในวันเดียว
จะทำ 5 อะไร อย่าให้คนอื่นเดือนร้อนซิ
ถ้าเดือนร้อน ก็ต้องทำให้สำเร็จและเป็นผลประโยชน์ต่อมวลชน
และเหนืออื่นใด เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไป ต้องยอมรับกรรมที่ตนได้กระทำฝ่าฝืนกฏหมาย
ไม่ใช่เดินลอยกล้วยลอยหอยเด่นเป็นสง่ากันแบบนี้

เมื่อก่อนเรามักจะบ่นว่า
เด็กเดินเตะกระโถน ผู้ใหญ่ดุว่าเดินไม่ระวัง
ผู้ใหญเดินเตะกระโถน ผู้ใหญ่ดุว่าเด็กวางของไม่เป็นระเบียบ
มันไม่แฟร์ แต่บ้านเมืองก็อยู่มาได้ เพราะอาวุโสเทอดไวู้สูงสุด
แต่วันนี้ผู้ใหญ่ก็่ด่าเด็ก เด็กก็ด่าผู้ใหญ่
สรุปว่าหาหลักของบ้านเมืองไม่ได้
เรือหายกันแล้วหละ ปะเทดสะหยาม

Ref: Dingtech HotPink FF 69 B4






โดย: zoomzero วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:04:31 น.  

 
To Mintiva
อือ....เช้าแล้วจริงๆนิ๊
วันนี้ยังไงก็หนีไม่พ้นต้องทุบกระปุกออมสินแล้วหอบเงินไปให้ zero Honda

เมื่อสมัยเป็นวัยรุ่น เฮียได้ซื้อรถกระบะเก่าๆมาหนึ่งคัน เป็นคันแรก
เพราะยังขับไม่เก่ง กลัวเอาไปชนกับสิบล้อ เสียดายรถ
สำหรับงานซ่อมบำรุง เฮียก็เคยซ่อมรถด้วยวิธีอะไหล่เบิกห้าง และอะไหล่เทียมแท้เกรดเอ ฯ
โดยให้ช่างที่รู้จักกัน (นับถือกัน ไหว้กันได้สนิทใจ) ซ่อมจนหมดเป็นแสนๆ ใน 5 ปี
พอลองกัดฟันซื้อรถป้ายแดงมาใช้ เออดีฟระ ไม่ต้องซ่อม เติมน้ำมันอย่างเดียว
มีก็เรื่องเปลี่ยน Battery แค่นั้นเอง เลยไม่ได้ไปหาเขาอีกเลย ลืมหน้ากันไปเลย

พอใช้รถใหม่มาได้ 4-5 ปี ก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมรถคันเก่ามันถึงต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อยจัง
ทั้งๆที่รถใหม่ใช้มา 5 ปี มันไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเท่าไหร่บ่อยแบบนั้นเลย
แค่เริ่มเปลี่ยนไอ้ตัวที่มันทำงานหนักๆ อย่างช่วงล่าง เท่านั้น
เช่น ลูกหมาก ยางหุ้มเพลาขับ เมื่อก่อนตอนใช้ช่างข้างถนน
เขาได้เปลี่ยนอะไหล่ต่างๆทุกๆ 2 ปี
ก็มีพวกไดชาร์ท ไดสตาร์ท คอมแอร์ ฯ อะไรพวกนี้ที่เปลี่ยนมาหลายอัน หลายอันจริงๆ
คือ พวกระบบไฟฟ้า ช่วงล่าง และทำความเย็น ทำไมต้องซ่อมบ่อยมาก เดี๋ยวเสียๆ
ก็เลยคิดว่า ช่างที่เราเคยนับถือเพราะอายุรุ่นพ่อของเรา มันน่าจะหากินกำไรเกินควรกับเราแน่ๆ
เลยยอมเข้า zero อย่างเดียว จ่ายแพง แต่เขารับประกัน 6 เดือน แถมด่าได้ ปีใหม่ก็มีของแถม
แคชเชียร์ก็สวยหยาดเยิ้ม ยิ้มที ใจแทบละลาย เสียตรงใจแข็งชะมัด ไม่ยอมให้เบอร์ส่วนตัวกับเฮีย 555

เฮียไม่ได้มีสตางค์เยอะอย่างที่อาหมวยแซวหรอก
เพียงแต่ว่า เฮียไม่มีทางเลือก เรื่องหาช่างข้างนอกมาทำให้
ขนาดร้านเบรกที่มีชื่อดังๆอย่าง อึ้งกิมกี่
เวลาที่งานออกมามีปัญหา ก็เคยทะเลาะกับเขามาแล้ว
ตอนนั้นใช้มิตซู โรยอล รุ่นท๊อป เป็นรุ่นฉลองการครองราชย์ของกษัตริย์ของญี่ปุ่น เขาเลยให้ option มาเพียบ
พอเกียร์มีปัญหา ช่างที่อึ้ง ถอดเกียร์ออกเป็นชิ้นๆ หมดไปหลายหมื่น แต่ก็ยังมีปัญหาเหมือนเดิม
ไปหามา 4-5 รอบๆละ 2 วัน สุดท้ายจะขอเอาเงินคืนเพราะแก้ไม่ได้ เขาก็ไม่ยอม
เฮียก็โวยว่า ถ้าบอกว่าแก้ไม่ได้ เราก็ไปหาเกียร์เก่าๆมาใส่มันก็วิ่งได้แล้ว เอาเงินมาหรือซื้อเกียร์มาใส่ให้ใหม่
คำตอบคือ NO งานนี้เลยจบไม่สวยเท่าไหร่ ทั้งๆที่ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก ทำงานเร็วมาก
เรียกว่ามืออาชีพเลยหละ แค่เดินมองเพดาน 1 นาที พอก้มหน้ามาดูรถ
ล้อทั้ง 4 ถูกถอดออกด้วยช่าง 4 คน อีก 5 นาที เบรกก็หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ
เจ้าของร้านเป็นคนรุ่นใหม่ สามารถบอกปัญหา วิธีแก้ และตีราคา ถ้าเราบอกว่าซ่อมเลย
ก็แค่ 2 ชั่วโมง ก็เอารถออกไปวิ่งได้เลย
ดวงจะซ่อมรถแล้วไปมีเรื่องกับเขาจริงๆ
ที่ CockPit ก็เจอเคส เปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว ABS พัง ต้องเข้าศูนย์ของรถตัวจริง เปลี่ยนใหม่ 4 หมื่นกว่า
หมดวันประกันไปได้แค่ 3 เดือน ซวยจริงๆ
ทางร้านค๊อกบอกว่า ไม่ได้ทำอะไรกับชิ้นส่วน ABS เลย แค่เจียร์จานเบรคที่คดเท่านั้น
ตอนนั้นก็เชื่อใจเขา
แต่พอปีที่ 6 เอารถไปซ่อมช่วงล่างที่ค๊อก ร้านเดิม อาการเบรกสั่นๆ เหมือนเดิม
มันกลับบอกว่ารุ่นนี้ถ้าซ่อมเบรก แบบนั้นๆๆ จะมีปัญหาที่ ABS
เขาไม่รับทำ เพราะไม่มีเครื่องมือไล่แรงดันน้ำมันเหมือนศูนย์ ให้เราไปเข้าศูนย์จะดีกว่า
อ้าว...เมื่อ 2 ปีก่อนไม่เห็นพูดแบบนี้ หากินง่ายๆนี่หว่า
ตกลงเลยไม่ซ่อม ขายรถคันนั้นทิ้งไปเลย เพราะไม่อยากจ่ายอีก 4 หมื่น

เรื่องรถ มีเคส ทะเลาะวิวาทอีกเยอะจ๊ะ
ขอยืนยันอีกครั้งว่า คนข้างนอกบ้านเรานั้น มันน่ากลัวจริงๆ มันมีแต่พวกเห็นแก่ตัวมากกว่าคนดีๆ
นี่แหละคนโฉด เที่ยวมีเรื่องกับเขาไปเรื่อย

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1





โดย: zoomzero วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:42:14 น.  

 
ซาหวัดดีคร้าพี่ชาย

นั่นแน่ ให้นู๋ถักผ้าพันคอให้เหย๋อ ว่าแต่ว่าลูกคอแปดชั้นแบบพี่ชายนู๋นี้ จะต้องยาวกี่เมตรกันดีล่ะคะนี่ถึงจะพันมิด คิคิ (ล้อเล่นน้า อย่างอน อิอิ) เอาสีอะไรดีคะ บีซื้อสีชมพู๊ชมพูมาไจใหญ่เลยเชียว ไม่รู้ว่าจะหวานไปมั๊ยสำหรับคนโฉด อิอิ

คุยไปคุยมาก็ออกทะเลกลายเป็นวาฬเพชรฆาตไปซะได้เน๊อะ อิอิ ช่วงนี้มาอยู่กะดึกอีกแล้วค่ะ คืนนี้อยู่อีกคืน กลางวันว๊าง ว่าง หิวไอติมจังเลยน้า งิงิ ^_^ ตั้งปีขึ้นปีใหม่มานี่ซื้อบัตรสมาชิก swensen's มาแล้วเพิ่งได้ไปกินครั้งเดียวเอง งิงิ

คิดถึงนะคะ จุ๊ฟ ๆ ๆ


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 203.144.144.164 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:14:20 น.  

 



หวัดดีตอนเช้าค่ะพี่ชาย
ทานกาแฟยังคะเฮีย มิน 2 แก้วแล้ว
ตั้งแต่ตีห้าแก้วนึง เมื่อกี๊อีกแก้ว
เก็บดาวจากบล๊อคนู๊น มาไว้ที่ไหนคะ มองไม่เห็นเลย
หรือว่ายังเก็บอยู่ในใจเอ่ย ฮ่า ๆ ๆ
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคะเฮีย


โดย: มินทิวา วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:27:22 น.  

 
ท่ามกลางผู้คน
ยังคง
แปลกเสมอ

เวลาไม่มีมือ
ยื่น
ให้ใคร

my way
still
mine


โดย: ใบไม้ต้องลม ไหวไปคือลม ใช่ใบไม้ IP: 172.16.1.104, 61.7.170.167 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:57:37 น.  

 
Thank you มากมายนะค่ะ


โดย: priyavimol วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:14:27 น.  

 
ช่วงนี้ยุ่งหัวฟู กะว่าจะแวะมาหาคุณพี่ตั้งแต่่หัวค่่ำ กว่าจะเข้ามาได้ก็ดึกโข กะลังง่วงได้ทีเลยค่ะ เข้ามาได้แป๊บเดียว ต้องขอจรลีไปสลีปก่อน ยังไม่ได้อ่านเม้นท์ตอบ ขอตะไว้ก่อน อีกสามสี่วันค่อยกลับมาอ่านใหม่ค่า


โดย: haiku วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:10:09 น.  

 


แอบเข้ามานั่งฟังเพลงที่บ้านพี่ชายค่ะ
แหม..หลับปุ๋ยเลยนะคะ ฮ่า ๆ ๆ
ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น นะคะเฮีย


โดย: มินทิวา วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:32:04 น.  

 


พี่ชายคงจะยุ่ง ๆ จริง ๆ ด้วยอ่ะ
พรุ่งนี้วันจ่าย หวังว่าคงไม่เหนื่อยเกินไปนะคะเฮีย
ดื่มน้ำเยอะ ๆ นะคะ หาเวลางีบมั่งนะ
โชคดีที่เดี๋ยวนี้มินไม่ต้องไหว้เยอะ
สมัยพ่อยังอยู่ นอกจากจะตะเวนไหว้เจ้าหลายที่แล้ว
เฉพาะที่บ้านโน๊นก็ 4 จุดอ่ะค่ะ
คือ เมื่อก่อนที่บ้านโน๊นเป็นสำนักงานด้วยอ่ะค่ะ
ปล. หวังว่าเรื่องรถคงเรียบร้อยดีนะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:06:22 น.  

 
น้องๆทุกคนและ fanclub คนโฉด
ต้องขอโทษที่หาย(หัว)ไปหลายวัน
เพราะว่างานเข้า
ต้องไปนอนเฝ้าคุณหนูที่ รพ.เซ็นหลุยส์มา
วันนี้กลับบ้านกันได้
ประกัน 2 เจ้า แบ่งกันจ่าย
เราต้องเลือกว่าจะให้ใครมาซวยจ่ายท่อนแรกก่อน
งานนี้เลือก AIA 555
แต่เราก็ยังคงต้องจ่ายส่วนเกินอีกนิดๆอยู่ดี
ก็เป็นค่าน้ำค่าอาหารที่เราเผลอกินอย่างไม่บันยะบันยัง
และอีกส่วนก็เต็มใจที่จะเอามารับแขกไงหละ

ทำประกันไว้หลายที่ ไม่ใช่ว่าจะได้เงินคูณสองนะ
เวลาจ่ายๆ คูณสอง เจ้าละเกือบหมื่น
แต่ว่าเจ็บป่วยให้เอามาหักทีละบริษัท
ที่เหลือเราจ่ายเอง
ถ้าทั้งปีไม่ป่วย ก็เท่ากับว่าเอาเงินไปให้ 2 ประกัน
ก็แล้วทำประกันเดียวจ่ายให้ไม่ได้หมด ???
อ้อ...แบบจ่ายให้มากๆก็มี แต่เบี้ย แมร็งโฆตร แพงเลย
เรามันคน จนจัด ไม่ใช่ จรจัด ซะด้วย

อิอิ ม่ายช่าย ก็เราทำประกันชีวิต(แบบมีแอบเสริม)
แต่นี่มันเรื่องสุขภาพ เขาแถมให้ก็บุญแล้วหละ

อยาก up blog มากๆ เขียนไม่เสร็จเสียที

ใคร comment อะไรไว้
ไม่ต้องห่วง
ว่างๆแล้วจะมาคุยด้วยครับ

รักทุกคนบนโลกใบนี้จ๊ะ
(เออ...มีบางคนที่รักมาก และรักโดยไม่มีเหตุผล)

14 กุมภา อยากลืมบอกรักตัวเองนะ
พาตัวเองไปทำอะไรที่ดีๆบ้าง
ไม่ต้องไปรักคนอื่นให้มากมายหรอก


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:02:20 น.  

 
To Beee
พี่ชายชอบผ้าพันคอสีเทาๆตุ่นๆจ๊ะ
ใช้แล้วไม่ต้องซักดูมันเก่าตั้งแต่แรก
ใครเห็นจะได้คิดว่าเก๋าเก่า
ถ้าเป็นสีขาว ขอบอกผ่านดีกว่า
ส่วนสีชมพู คงไม่เหมาะ เพราะพี่สะกดคำว่า "ลัก" ยังไม่ถูกเลย
แล้วจะไปหวานกับใครได้
คนที่อยากให้มาเป็นกิ๊ก เขาก็มีเจ้าของ
อีกคนหรือ เขาก็ปฏิเสธหมดหนทางไปแล้ว ฮือๆ

พี่ชายก็หิวไอติมเหมือนกัน
สงสัยเราต้องต่างคนต่างวิ่งหาร้านทานเอาเองแล้วหละ ปีนี้ 555

บ่ายวันนี้ที่วัดเล็งเนยยี่ เยาวราช
เขามีแจกพระสังกะจายองค์เล็กๆฟรี ให้คนที่ปีไหว้พระ
คงแจกแค่ไม่กี่ชั่วโมง
ตอนแรกว่าจะไปซะหน่อย
แต่คุณหนูมาป่วย เลยงดทุกโปรแกรม อดๆๆๆ

คิดถึงเหมือนเดิมค่ะ

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:39:16 น.  

 
To ใบไม้ต้องลม

คนเดินผ่าน
หวั่นไหว
อยากได้เพื่อน

ลมพัดผ่าน
หนาวสะท้าน
อยากได้ผ้า

ความรักผ่าน
ซาบซ่าน
หวานฤทัย

Happy Valentine นะ ใบไม้

Ref: ใบไม้ต้องลม Bluesbreez SaddleBrown 8B 45 13


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:47:30 น.  

 
To haiku
คุณน้องไฮก์
ไม่ต้องซีเรียสเรื่องเข้าบล็อกนี้
เพราะเจ้าของบ้านไม่ค่อยอยู่รับแขกเหมือนกันจ๊ะ
ถ้าอีก 3 วันถึงจะว่างมา
อย่างนั้นคงยกยอดไปเสวนากันใน entry ใหม่ก็แล้วกันนะ

อย่างไรก็ Happy Valentine ตะลุ้งตุ้งแช่ ซินนี้ฮวดไช้

Ref: ไฮกุ haiku DarkGreen 00 64 00


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:53:49 น.  

 
To Mintiva
สำหรับอาหมวยเล็ก

ไม่มีข้อความใดๆที่จะเขียนตอบได้หมด
เอาเป็นว่าเวลาที่เฮียมองดูดวงดาวบนฟ้า
ถ้านักดาราศาสตร์อย่างท่านกาลิเลโอ
นับดาวได้ 999,999 ดวง
เฮียก็จะนับได้ 1 ล้านดวง
เพราะดวงแรกที่เฮียต้องนับก็คือ ดาวของอาหมวยนะแหละ




แต่มันไม่ได้อยู่บนท้องฟ้านะ
...มันอยู่ในใจตะห่าง อิอิอิ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:00:12 น.  

 


โดย: zoomzero วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:09:46 น.  

zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.