40129 ไท้ส่วยเอี้ย เทพแก้ไขเคราะห์กรรม
เทพเจ้าของจีน มีมากมาย ยากที่จะเรียบเรียงนำมาเขียนชื่อได้หมด หากจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ อาจจะแยกได้เป็นเทพเจ้าที่มีอยู่มานานแล้ว(ซึงคงไม่มีใครเคยเห็นองค์จริงๆของท่าน) และเทพเจ้าที่เกิดจากคนดีแล้วตายไปเกิดเป็นเทพเจ้า เทพเจ้าส่วนใหญ่จะมีที่มาอ้างอิงตามลัทธิหรือศาสนาที่คนจีนโบราณนับถือ อย่างเช่น พระโพธิสัตว์, โป๊ยเซียน, ฯ นอกจากนี้ยังมีแม้กระทั้งเทพที่มาจากนิยาย หรือเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์ เช่น เทพเจ้าสามก๊ก เทพเจ้าไซอิ๋ว และยังจะมีเทพเจ้าที่เกิดขึ้นตามเทศกาลต่างๆ เช่น เทพไท้ส่วยเอี้ย, เทพไฉ่ซิงเอี้ย ...ฯ ก็เป็นเทพที่เกิดขึ้นและมีอิทธิพลในด้านความเชื่อ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของจีน การไปไหว้พระ ไหว้เทพเจ้า ที่วัดจีน(หรือศาลเจ้า) เราจะเห็นชื่อเทพต่างๆมากมาย เรื่องราวที่มาของเทพเหล่านี้ บางองค์ก็พอทราบได้ บางองค์ก็ยากที่จะทราบได้ ส่วนใหญ่จะไม่สามารถหาคนที่มีความรู้ เพื่อจะมาอธิบายให้เราทราบ หวังว่าสักวันคงจะพบหนังสือที่รวบรวมเทพเจ้าของคนจีนเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่านและได้ศึกษา o ถนนที่ทอดยาวไกล แต่หัวใจก็ยังเดินทางไปถึง หุบเขาคนโฉด, ถนนหมื่นไมล์, ๒๕๕๔, ปีชง, ไท้ส่วยเอี้ย, สะเดาะเคราะห์ Violent Valley, zOOmzERo, Change Misfortune
ไท้ส่วยเอี้ย เทพแก้ไขเคราะห์กรรม ปีนี้เป็นปีเถาะ หรือ ปีกระต่าย และควรจะเรียกว่า กระต่ายทองคำ(ซิ้งเบ้า) จะได้ เฮง เฮง เฮง ถ้วนหน้ากัน ในประเทศไทย... ใช่แต่ว่า คนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีน เท่านั้นที่เชื่อเรื่อง ปีชง คนไทยแท้ๆ อย่างเช่น ครอบครัวของกระผม และเพื่อนฝูง ก็ยังเชื่อเรื่อง ชง เหมือนกัน ดังคำติดปากที่ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่รู้อย่าทดลอง 555 ในแต่ละปี จะมีคนที่เข้าข่ายเกิดปีชง อยู่ ๔ ปีเกิด ซึ่งปีเหล่านี้จะเกาะกลุ่ม เป็นชุดๆ วนกลับมาชงอีกทีเหมือนเดิมในอีก ๓ ปีถัดไป แต่ปีใดจะมีผลกระทบรุนแรงแค่ไหน ต้องดูจากการพยากรณ์อีกที ชง ที่ว่านี้เป็นภาษาจีน หมายถึง ปะทะ หรือ ปฏิปักษ์ มีความเข้าใจว่าเมื่อครอบรอบปีที่เราเกิด เช่น ๑๒ หรือ ๒๔ ปีที่เราเกิดจะเป็นปีชงรุนแรงเสมอ เรื่องนี้ไม่ถูก เพราะบางปีก็ใช่ บางปีก็ไม่ใช่ ปีที่ชงหนักที่สุดอาจจะเป็นปีใดปีหนึ่งใน 3 ปีที่เหลือก็ได้ ปี ๒๕๕๔ มีปีเกิดที่ชง ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ดังนี้ ปีเถาะ(กระต่าย) เป็นปีชง เข้าลักษณะ ถูกทับ (แบนแต็ดแต๋) แต่ไม่ร้ายแรงที่สุด ปีมะเมีย(ม้า) อันนี้เป็นปีร่วมชง เข้าลักษณะ แตกแยก มีโอกาสพลัดพราก หย่า หรือเสียของรัก ปีระกา(ไก่) เป็นปีชง เข้าลักษณะ ปะทะ ถือว่าโดนรุนแรงที่สุด เพราะเป็นอริกับปีเถาะ จะเกิดเหตุร้าย อุบัติเหตุ ส่งผลให้อาจถึงขั้นเสียชีวิต ปีชวด(หนู) นี่ก็เป็นปีร่วมชงอีกปี จะเป็นลักษณะ "เฮ้ง" หรือ ถูกเบียดเบียน อาจจะเบียดเบียนโดยคนหรือโรคภัยไข้เจ็บ สรุปว่าปีกระต่ายไม่ได้น่ากลัวทีสุด ปีที่ต้องระวังมากๆคือปีระกา เมื่อไม่ดี ก็ต้องแก้ให้มันดี แต่ทำไมมันถึงต้องไม่ดี อันนี้มาจากวิชาของนักพรตจีนแต่โบราณ ที่เขียนหลักการดูดวงและผูกดวง ที่เรียกว่า โป๊ยหยี่สี่เถี่ยว โป๊ยยี่ แปลว่า อักษร ๘ ตัว สี่เถี่ยว แปลว่า สี่แถว .... เอ้ย... ๔ แถว(ฐาน) หรือ ๔ ต้น ที่ว่า ๔ ฐาน นี่ก็คือ ปีเกิด เดือนเกิด วันเกิด และเวลาเกิด(ตกฟาก) สำหรับเวลาตกฟากของจีน จะแบ่ง ๑ วันมี ๑๒ ช่วง(ซี้) เท่าๆกัน เริ่มจาก จื่อซี้ ตรงกับ ๒๓.๐๐-๒๔.๕๙ น. ฯ ซินแสจะทำการจัดตัวอักษรให้เป็น ๘ ตัว (ต้องไปเรียนเรื่องโหราศาสตร์จีนเอาเองนะ) เรียกว่า ก้วยฮวยเหมียวถึง ก้วย แปลว่า ผล(ไม้), ฮวย แปลว่า ดอก(ไม้), เหมียว แปลว่า ต้น(ไม้) และ ถึง แปลว่า ราก(ไม้) สรุปคือ เขาเปรียบเทียบให้ดวงชะตาของคนเหมือนกับต้นไม้ ณ เวลาที่ผลไม้จะออกมา น่าจะพยากรณ์ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ในปี 2554 นี้ คนที่เกิดปีที่ชง และต้องไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ก็มีอยู่ด้วยกัน 4 ปี คือ ปีเถาะ ปีมะเมีย ปีระกา และปีชวด มีหลายคนคิดว่า ถ้าเราเกิดปีใดปีหนึ่งใน 4 ปีที่ชง ในปีนั้นเราจะแย่ เลยเอาตารางมาให้ดูกัน ดังนี้ คนเกิดปีเถาะ จะมีอายุ ๑๒, ๒๔, ๓๖, ๔๘, ๖๐, ๗๒, ๘๔, ๙๖ ปี คนเกิดปีมะเมีย จะมีอายุ ๙, ๒๑, ๓๓, ๔๕. ๕๗, ๖๙, ๘๑, ๙๓ ปี คนเกิดปีระกา จะมีอายุ ๖, ๑๘, ๓๐, ๔๒, ๕๔, ๖๖, ๗๘, ๙๐ ปี คนเกิดปีชวด จะมีอายุ ๑๕, ๒๗, ๓๙, ๕๑, ๖๓, ๗๕, ๘๗, ๙๙ อ้า...๓๒ กลุ่มคนเชียวหรือ แล้วแต่ละปีจะมีคนเกิดกี่สิบล้านคน ความจริงคือ ไม่ใช่ ครับ ทั้ง ๓๒ กลุ่มนี้เขาเรียกว่า ชงรอบแรก (รอบคัดเลือกสาวงาม ๓๒ คน) ตามตำรา ท่านบอกว่า ๓๒ กลุ่มนี้ล้วนต้องระวังตัว แต่พวกที่ต้องระวังให้มากกว่านั้น ยังมีอีก หมายความว่า จาก ๓๒ เราจะคัดให้เหลือพวกดวงซวยจริงๆ แค่ ๑๐ กลุ่ม ได้แก่ (ในวงเล็บข้างล่างที่ติดกับปีเกิดนี้ หมายถึง อายุของคุณในปี54 นะครับ) ปีเถาะ ได้แก่คนที่เกิด ปี 2470(84), ปี 2530(24) ปีมะเมีย ได้แก่คนที่เกิด ปี2461(93), ปี2521(33) ปีระกา ได้แก่คนที่เกิด ปี2488(66), ปี2512(42), ปี2548(6) ปีชวด ได้แก่คนที่เกิด ปี2479(75), ปี2503(51), ปี2539(15) (บางตำราตัดคนเกิดปีระกา ๖ ขวบ และปีชวด ๑๕ ปี ออก เหลือเพียง ๘ กลุ่ม) สรุปว่ามีแค่ คน ๑๐ กลุ่มเท่านั้นที่มีเคราะห์หนัก (ต้องคิดตามดีๆ อย่าเชื่อมากจนเกินไป เพราะจะทำให้จิตใจว้าวุ่นเกินไปก็ได้) ผมเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าใด ล้วนแต่ต้องระวังตัว โอกาสเจ็บป่วยย่อมมีได้พอๆกัน นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ ชาวจีนเชื่อว่า องค์เทพที่ดูแลเรื่องปีเกิดมีชื่อว่า "ไท้ส่วย" (ไท้ส่วยเอี้ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง) แปลเป็นไทยก็คงเรียกว่า เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา อันนี้คนละองค์กับ ไฉ่ซิงเอี้ย นะครับ นั่นคือ เทพแห่งโชคลาภ และไท้ส่วยเอี้ยก็ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร แบบที่เราชอบแผ่สวนกุศลไปให้ อย่าเอา 2 เรื่องนี้มารวมปนกัน เทพคือเทพ เจ้ากรรมนายเวรก็คือเจ้ากรรม คนละแนวกันเลย ท่านไท้ส่วยเอี้ยทำหน้าที่คุ้มครอง(ไม่เคยทำร้าย) ปีที่ชงคือปีที่เกณฑ์ชะตาว่าจะมีเคราะห์หนักเท่านั้น แต่เราเชื่อกันว่าเทพไท้ส่วยมีพลังและอิทธิพลต่อดวงชะตาของคนที่นับถือท่านได้ ท่านเป็นเทพให้คุณแก่คนที่บูชาท่าน ผมเดาว่านี่คือแนวความเชื่อของพวกเต๋า หลักเบสิคง่ายๆคือ ถ้าไหว้เจ้า วิงวอนเจ้า เจ้าก็จะเมตตาช่วยเรา เทพองค์ไหนดูแลปีเกิดไหน? ปรมาจารย์จีนเป็นผู้กำหนดเรื่องนี้เอาไว้ โดยบอกว่า จะมีเทพดูแลชะตาชีวิตของคนเราถึง 60 องค์ เรียกว่า หลักจั๊บ ก๊ะจื้อ (บางคนเรียกว่า พฤหัสบดีจักร) ท่านจะลงมาปีละองค์ วนกันรอบใหญ่นับได้ ๖๐ ปีพอดี เรียกว่า หนึ่งวัฏจักร ตัวเลขนี้มาอย่างไร? เอาแบบว่า เล่ากันขำๆก่อนนะ คือ ให้เอากระดาษสีที่แตกต่างกันมา 10 แผ่น แล้วแบ่งเป็น 12 ส่วน จากนั้นเขียนชื่อปีนักษัตรต่างๆ ลงในแต่ละสี แล้วตัดออกมา รวมแล้วเราจะได้ 120 ชิ้น (10 คูณ 12 เท่ากับ 120) จากนั้นทำการจับคู่ ก็จะได้ทั้งหมด 60 คู่ ซึ่งเท่ากับจำนวนองค์เทพไท้ส่วยเอี้ยทั้งหมดที่เตรียมไว้ นี่แหละคือหลักการจับคู่ที่เรียกว่า หลักจับก๊ะจื้อ ผมว่าผมเขียนไปแล้ว ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเลยครับ ซินแสจีน แบ่งราศีตามหลักโป้ยยี่สี่เถี่ยว โดยแยกราศีออกเป็น บน กับ ล่าง ราศีบน(ฟ้า) เรียกว่า กิ่งฟ้า (เทียงถัง) มี ๑๐ ตัว ราศีล่าง(ดิน) เรียกว่า ก้านดิน (ตี่จี๊) มี ๑๒ ตัว (ตี่จี๊ หรือ ตี่กี่ แปลว่า นักษัตร) ดังนั้นเมื่อนำมาคูณกันก็จะได้ ๑๒๐ ตัว หรือถ้าเอามาจับคู่ก็จะได้ ๖๐ คู่ แต่ละปีจะมีเทพผู้คุ้มครองดวงชะตามาดูแลมนุษย์ปีละท่าน (เรียกเป็นภาษาไทยว่า เทพเฝ้าปี) ต้องรอไปอีก 60 ปี เทพองค์เดิมถึงจะได้กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ดังนั้นถ้าเชื่อเรื่องแบบนี้ ก็ควรจะไปไหว้ทุกปี สำหรับปีเถาะ ๒๕๕๔ นี้ เทพที่มาเฝ้าดูแลพวกเรามีชื่อว่า ห่วมเล้งไต่เจียงกุง ท่านเป็น เทพขุนพล องค์ที่ ๒๘ คราวที่แล้วท่านมาในปี ๒๔๙๔ หรือเมื่อ ๖๐ ปี ที่แล้ว คนจีนเชื่อว่า เทพไท้ส่วยเอี้ยจะเปลี่ยนตัวกันประมาณวันที่ ๒๒ ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งจะตรงกับวันไหว้ขนมบัวลอย (ไม่เชื่อ ลองไปเปิดปฏิทินจีนดูได้เลย) เรื่องปีชงนั้น ไม่ใช่เทพเจ้าท่านไม่ชอบขี้หน้าคนเกิดปีนี้ ปีนั้น อย่าคิดแบบนั้น ท่านไม่ได้อยากมาสร้างกรรมกับพวกเราหรอก ผมเชื่อว่า ในแต่ละปี จะมีคนที่ดวงอ่อน โอกาสเจ็บป่วยก็อาจจะมีมาก ทำการค้าก็จะหากำไรได้ยาก ทำงานก็ไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน เรียกว่าทำอะไรก็ตีบตันไปหมด แล้วจะน่าห่วงแค่ไหน หากว่าคนดวงถดถ่อยเป็นถึงผู้นำครอบครัว ผู้นำประเทศ ถ้าเรื่องแบบนี้เป็นจริง (ไม่ใช่งมงาย) แล้วเราคงจะอยู่เฉยๆกันได้อย่างไร ฮิ? สำหรับคนที่ดวงมีปัญหา เมื่อเทพไท้ส่วยเอี้ยรับทราบการไหว้ ท่านจะใจดีมีเมตตา ช่วยลดเคราะห์กรรมให้เบาบางลงให้ได้ แม้ชะตาขาดในปีนั้น ก็ช่วยได้ (แต่ต้องไม่ประมาท) สำหรับคนที่ดวงปกติ หรือดวงดีมากๆ การไปไหว้เทพไท้ส่วยเอี๊ย จะทำให้โชคดียิ่งๆขึ้น ในวันข้างหน้า หากคุณเกิดพลาดพลั้งล่วงเกินผู้อื่นหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือกำลังคิดจะสร้างกรรมไม่ดี เทพก็จะช่วยให้เรารอดพ้นภัย หรือเจอแต่เจ็บไม่ถึงตาย หรือท่านอาจจะบันดาลมีบางสิ่งมาทัดทานไม่ให้เราทำผิด ดังนั้นการไปไหว้เทพไท้ส่วยเอี้ย ไม่ว่าจะเกิดปีอะไร คนจีนก็จะพาลูกหลานไปกราบไหว้หมดทุกคนในครอบครัวนั่นแหละ ทีนี้ ถ้าจะไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย จริงๆแล้วไปที่วัดจีน ศาลเจ้า ที่ไหนก็ได้ หรือไหว้ที่บ้านก็ยังได้ แต่ผมถนัดไปหามือโปรฯ และก็ไปไหว้อยู่ 2 แห่ง คือ วัดเล่งเน่ยยี่(๑) กับวัดโพธิ์แมนคุณาราม สำหรับวัดเล่งเน่ยยี่(๑)นั้น ดูเหมือนจะมีบริการครบวงจร ตั้งแต่ของที่จะใช้ไหว้ และมีพระจีนที่พร้อมทำพิธีสวดสะเดาะเคราะห์(ให้ทุกวันพระติดต่อกันตลอดปี) เสริมสิริมงคล และยังมีพิธีหนำซิ้งเต๋าเก็ง ที่เชื่อว่าพิธีนี้ทำให้ครอบครัวมีความเจริญรุ่งเรือง และปลอดภัยจากภัยร้ายต่างๆ สำหรับของที่ใช้ในการไหว้ จะต้องมี ธูป เทียนแดง หงิ่งเตี๋ย ตั่วกิม(กระดาษทอง) ทุกหลั่งจี้ เป๋าอุ่งจี้ เผ่งอังจี้ อั่งเถียบ(กระดาษแดง) ขนมจันอับ ส้ม (อาหารกับผลไม้ต้องซื้อเองก่อนเข้าวัด) เมื่อปีก่อน ผมไปแค่ที่วัดโพธิ์แมน ปีนี้ก็วัดเดิม แต่จะขอเล่าคร่าวๆ ถ้าคุณจะไปที่วัดมังกรกมลาวาส(เล่งเน่ยยี่) เยาวราช อ้อ...ปีนี้เป็นปีที่ 130 ของการสถาปนาวัด ดังนั้นเตรียมเงินไปบริจาคทำบุญซื้อวัสดุเพื่อใช้บูรณะวัดเล่งเน่ยยี่ด้วยนะครับ เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ ต้องจำวันเดือนปีเกิดของตัวเองให้ถูก โดยเฉพาะเวลาเกิด(ตกฟาก) บางคนไม่ทราบว่าเกิดตอนไหน ก็มักจะใช้เวลาที่พระออกบิณฑบาต (๐๕.๐๐-๐๖.๕๙) ถือเป็นเวลามงคลเพราะพระออกโปรดสัตว์ ก่อนเข้าไปในวัดอย่าลืมแวะซื้อส้ม 4 ผล ขนมจันอับ (ให้แม่ค้าจัดให้) เมื่อเข้าไปในวัดทางด้านหน้า เดินผ่านลานใต้ตึก ออกไปทางลานจอดรถ เดินตรงไปเรื่อยๆ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถ้ามีเด็กเล็กๆไปด้วย ให้แวะห้องน้ำก่อนก็ดี(จะได้ไม่วุ่นวาย) เดินเข้าประตูวัด เข้าประตูกลาง แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ เลี้ยวขวาอีกที เดินทะลุซุ้มประตูโค้งๆ มองหาป้ายประกาศ ป้ายคำอธิบายการทำบุญสะเดาะเคราะห์ มองหาเจ้าหน้าที่ซึ่งก็คือพระสงฆ์จีน บอกท่านว่า มาสะเดาะเคราะห์ปีชง ท่านจะช่วยเช็คปีเกิดให้เรา (ด้านข้างๆ น่าจะมีตารางขนาดใหญ่ให้เทียบอายุกับปีเกิด) ท่านก็จะให้กระดาษเรามาปึกหนึ่ง อันนี้แหละจะเอามา "ปัด" เคราะห์ อ้อ...อย่าลืมเตรียมเงินทำบุญด้วยนะครับ คนละ 100 บาท วัดเล่งเน่ยยี่จะอนุญาตให้ผากชื่อเรา เพื่อให้พระช่วยสวดมนต์และนำกระดาษไปเผาบูชาเทพให้ แต่วัดโพธิ์แมน ทำแค่ลงชื่อสวดนต์อย่างเดียว ไม่มีกระดาษเครื่องไหว้ให้ (คิดค่าทำบุญ 200 บาท) จะเห็นว่าวัดเล่งเน่ยยี่ น่าไปกว่ากันเยอะ เมื่อนำเงินทำบุญแล้ว ลงชื่อแล้ว ได้ของมาแล้ว ก็หันหลังกลับไป จะเห็นคนหลายคนนั่งเขียนอะไรขยุกขยิก เขากำลังกรอกรายละเอียดส่วนตัว เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด อยู่ครับ อ้อ...อย่าลืมลงชื่อในสมุดทะเบียนที่พระจะนำมาสวดมนต์ให้เรา ทุกวันพระ เป็นเวลาตลอดปีที่ชง สำคัญมาก เมื่อหาโต๊ะ หาที่นั่ง ก็จะมีปากกาหรือดินสออยู่แถวนั้น งานอันดับต่อไปของเรา คือ ตรวจสอบกระดาษสีต่างๆที่เราได้มา จะมีใบหนึ่งเหมือนใบปะหน้าแบบสอบถาม(questionaire) เอากระดาษนี้มากรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา ถ้าร่างด้วยดินสอก่อนได้ก็ดี ไม่อยากให้ต้องมาลบๆขูดขีด ฆ่า แก้ไข ข้อความที่เขียนผิด โดยเฉพาะเด็กๆมักจะเขียนไม่ถูก ควรเตรียมปากกาไปเอง ถ้าได้ปากกาเขียนซีดียิ่งแหล่มเลยครับ เขียนเสร็จก็พับกระดาษให้เรียบร้อย นำใส่ซองให้หมด ใบที่เราเขียนชื่อจะต้องสอดเข้าไปในซอง ดังนั้นซองมันจะเหมือนกัน ต้องเขียนชื่อที่หน้าซองของแต่ละคนเพื่อแยกแยกว่า เป็นซองของใคร เวลาที่เราเอาเด็กๆไปด้วย พ่อแม่ควรจะถือซองรวบรวมเอาไว้ พอมาถึงตรงที่ต้องทำพิธีปัดเคราะห์ ก็หยิบซองแจกให้เด็กๆ ถ้าให้เด็กถือเอง เดี๋ยวมีการใช้ซองผิดถูกมั่วไปหมด เด็กบางคนไวมาก เอาซองไปยัดใส่ในกล่องฝากซองเลย ถ้าจะเปิดรื้อดูชื่อจากซองของพวกเราก็ไม่ลำบาก แต่เคยเจอว่า หลานคนหนึ่ง เอาไปยัดในลัง แล้วก็จำลังไม่ได้ เราก็ไม่กล้าแกะซองของคนอื่นดู เลยต้องเดินวนกลับซื้อซองมาใหม่อีกรอบ ดังนั้น ให้เขียนชื่อหน้าซองใหญ่ของแต่ละคนอีกที ผมเห็นครอบครัวหนึ่งเขาทำเป็นลาเบลหรือสติ๊กเกอร์ ชื่อ คนในบ้านมาเลย มาถึงก็แปะหน้าซอง แบบนี้มืออาชีพมาก ขั้นตอนต่อไปก็คือการไปไหว้เทพไท้ส่วยเอี้ย ซึ่งจะอยู่โซนคนละฟากกับที่เรานั่งกรอกข้อมูล ดังนั้นต้องเดินผ่านห้องกลางที่มีควันธูปมากๆ ผ่านโต๊ะกลางใหญ่ๆ ยกมือไหว้พระพุทธรูป จุดธูป ๙ ดอก ไหว้พระพุทธรูป ๓ องค์ๆละ ๓ ดอก สำหรับผม วันที่ไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์นั้น ผมจะไม่เดินไหว้พระหรือเจ้าองค์อื่นๆ เก็บเอาไว้มาใหม่อีกครั้งหลังวันตรุษจีนไปแล้ว ๑ วัน คือแยกเรื่องปีชง กับวันตรุษออกจากกัน ไม่ทำวันเดียวหลายเรื่องครับ ให้เดินไปอีกฝั่ง ถามคนอื่นก็ได้ว่าจะไปไหว้เทพไท้ส่วยเอี้ย ไปทางไหน ทีนี้บางคนก็เริ่มจุดธูป ไหว้ๆๆๆๆ ใจเย็นๆ อย่ารีบไปทำตามเขา ตามปกติด้านที่เราจะไปไหว้เทพไท้ส่วยเอี้ย จะมีคนขายธูปเทียน น่าจะราคา 20 บาท จัดการจุดเทียน จุดธูป 3 ดอก ไหว้ไท้ส่วยเอี้ย นำผลไม้ คือ ส้ม ๔ ผล และขนมจันอับ วางในจาน(คนละจาน) จัดไหว้ไท้ส่วย ขอให้ท่านคุ้มครอง และให้โชคลาภ ผมขอแนะนำว่า ควรหาจานกระดาษเอาไปเอง ซื้อตามร้านสะดวกซื้อก็น่าจะมี จานกระดาษที่ใช้ ก็ทิ้งเอาไว้ไม่เอากลับเข้าบ้าน จากนั้น...ให้เอาชุดกระดาษ เตรียมเอามา ปัด คำพูดตอนปัดแต่ละครั้ง คือ ขอให้เกิดแต่สิ่งรุ่งเรืองก้าวหน้า สิ่งอัปมงคลให้ปัดเป่าหายไป เวลาปัด ให้เอามือเพียงมือเดียว จับกระดาษ ชูเหนือศีรษะ ลากผ่านศีรษะ ผ่านไหล่ลงมา ลากผ่านลงไปช้าๆจนสุดแขน ทำ ๑๒ ครั้ง เสร็จแล้ว...เอากระดาษฝากไว้ในกล่อง เมื่อหมดปี จะมีคนเอากระดาษนี้ไปเผาให้เราอีกที มีข้อควรทราบ อีกนิดหน่อย - ของที่ไหว้เทพไท้ส่วยเอี้ย เช่น ผลไม้ ไม่ควรเอากลับ - ผู้หญิงมีประจำเดือน ควรเว้นช่วงนี้ รอให้หมดพีเรียดก่อนนะ ค่อยไปทำพิธีวันอื่น - คนที่เกิดปีที่ชง และคนที่เกิดปีคู่ศัตรู (เช่น ปี๕๔ ก็คือ ปีเถาะกับปีระกา) ต้องพาผู้อาวุโสไปด้วย และต้องให้ท่านทำการปัดให้ อย่าทำเอง ขอเตือนใจคนที่เกิดปีชง ว่าระวังเรื่องต่อไปนี้ (ผมแยกออกเป็นข้อย่อยๆ ตามความคิดของผมเอง) หนึ่ง... ห้ามไปงานมงคล เช่น งานแต่ง เปิดร้านค้าหรือบริษัท สอง... ห้ามงานอวมงคล เช่น งานสวดศพ เผาศพ ส่งศพ สาม... ห้ามไปเป็นเจ้าภาพ(หรือ ประธาน) ทั้งงานมงคล หรืองานอวมงคล สี่... สำหรับงานศพ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ไปได้ แต่ห้ามไปเผาศพ ห้ามไปส่งศพ ห้ามไปสุสาน ห้ามไปฝังศพ (นั่งฟังพระสวดอภิธรรมน่าจะได้ ไม่ควรเข้าไปไหว้ศพ) ห้า... หากจำเป็นต้องไปเยี่ยมคนป่วย ไปถึงโรงพยาบาลหรือบ้านคนป่วยแล้ว เลี่ยงการเข้าไปพบหน้าเขา โดยทั่วไปก็จะทำเฉยๆกัน ก็แค่ไม่ต้องเยี่ยมนาน ผมก็ไม่ทราบนะว่า เขาจะห้ามด้วยเหตุผลอะไร เพราะของพวกนี้ เราไม่ได้ไปทำร้ายหรือเบียดเบียนใครที่ไหน ฝากเอาไว้ให้คิดนอกกรอบกันบ้างก็แล้วกันครับ หลังจากไปงานศพ คนจีนมักจะมีวิธีแก้เคล็ดเรื่องความโชคร้าย ด้วยการนำกิ่งต้นทับทิมจุ่มน้ำแล้วเอาน้ำมาล้างหน้า เมื่อก่อนจะเห็นคนเขาปลูกต้นทับทิมเอาไว้หน้าบ้าน ปัจจุบันหาไม่เจอ ถ้าเจอก็เข้าไปยุ่งทรัพย์สินของเขาไม่ได้ ผมว่าน่าจะมีคนกลับมาปลูกกันใหม่นะ ทีนี้หากปีนั้น ชะตาของคุณเข้าข่ายปีชง คุณมีที่พักเป็นห้องเช่า อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดมิเนียม ฯ จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? ผมมีคำตอบ... ต้องทำอย่างนี้ครับ อย่างแรก...ก็ต้องไปหากิ่งทับทิมให้ได้ก่อน คิดว่าตามศาลเจ้า น่าจะยังมีคนปลูกไว้ในกระถางใบใหญ่ๆ ก่อนเด็ดก็ขออนุญาตเจ้าของสถานที่ และก่อนจะกลับถึงที่พัก ก็แวะซื้อน้ำเปล่าที่ร้านสะดวกซื้อ ๑ ขวด เวลาจะใช้งานก็ เอากิ่งทับทิมยัดใส่ขวด แล้วเอาน้ำนั้นล้างหน้า (ล้างแบบลูบๆก็พอ ไม่ต้องราดโครมๆ) ไม่ว่าคุณจะเกิดปีไหน ปีนี้ชง ปีหน้าฟื้น ปีต่อไปเตรียมปะทะใหม่ สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรกระทำอย่างยิ่ง คือ ทำบุญ สร้างกุศล ประมาทไม่ได้ ดังนั้นอย่าไปกลัวปีชงเลยครับ เคราะห์ที่ใครก็ไม่รู้จะมาลิขิตให้เรา เรานี่แหละป้องกันมันได้ ใช้ความดีสู้กับมันเถอะครับ อย่ามัวแต่วิงวอนสิ่งที่คุณเองก็ไม่เคยพบไม่เคยเห็น อัตตา หิ อัตตะโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คิดแบบไหนสบายใจกว่า ก็ขอให้คิดแบบนั้น ตรุษจีนปีนี้ ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข สุขกาย สุขใจ ไร้เรื่องกังวล ไร้คนกวนใจ นะครับ จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด VIDEO
ไปอ่านบล๊อกถัดไปLink ไปที่ blog 40214 ความรักในวันแห่งความรัก ย้อนกลับไปอ่านของเก่าLink ไปที่ blog 40108 วัดเก่าบนเขาบางทราย Link ไปที่ blog 31231 สิ้นปี ๒๕๕๓ ทิ้งความทุกข์ Link ไปที่ blog 31218 ผัดหมี่โคราช Link ไปที่ blog 31130 อยากเป็นตัวนิ่ม Link ไปที่ blog 31021 อย่าห้ามฉันกินหอยนางรม Link ไปที่ blog 31013 ไม่ทานเจได้ไหม?
Create Date : 29 มกราคม 2554
39 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:31:46 น.
Counter : 3136 Pageviews.
โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 115.87.83.80 29 มกราคม 2554 19:56:19 น.
โดย: zoomzero 29 มกราคม 2554 19:58:22 น.
โดย: zoomzero 29 มกราคม 2554 20:01:12 น.
โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 124.120.113.44 29 มกราคม 2554 22:35:22 น.
โดย: zoomzero 30 มกราคม 2554 12:22:06 น.
โดย: zoomzero 30 มกราคม 2554 13:10:30 น.
โดย: zoomzero 30 มกราคม 2554 20:27:21 น.
โดย: jampada IP: 115.87.189.12 30 มกราคม 2554 23:04:21 น.
โดย: zoomzero 31 มกราคม 2554 15:16:18 น.
โดย: zoomzero 31 มกราคม 2554 22:37:09 น.
โดย: zoomzero 1 กุมภาพันธ์ 2554 12:41:24 น.
โดย: มินทิวา 2 กุมภาพันธ์ 2554 8:05:05 น.
โดย: zoomzero 2 กุมภาพันธ์ 2554 15:00:33 น.
โดย: zoomzero 2 กุมภาพันธ์ 2554 15:02:38 น.
โดย: zoomzero 2 กุมภาพันธ์ 2554 22:34:37 น.
โดย: jampada IP: 61.90.96.103 2 กุมภาพันธ์ 2554 23:44:02 น.
โดย: มินทิวา 3 กุมภาพันธ์ 2554 8:04:01 น.
โดย: นกสีขาว IP: 188.28.250.227 3 กุมภาพันธ์ 2554 8:47:02 น.
โดย: haiku 3 กุมภาพันธ์ 2554 18:05:25 น.
โดย: zoomzero 3 กุมภาพันธ์ 2554 22:41:31 น.
โดย: zoomzero 4 กุมภาพันธ์ 2554 0:12:43 น.
โดย: zoomzero 6 กุมภาพันธ์ 2554 15:07:31 น.
โดย: zoomzero 6 กุมภาพันธ์ 2554 15:19:37 น.
โดย: zoomzero 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:40:11 น.
โดย: zoomzero 6 กุมภาพันธ์ 2554 22:06:09 น.
โดย: มินทิวา 7 กุมภาพันธ์ 2554 8:05:19 น.
โดย: zoomzero 7 กุมภาพันธ์ 2554 19:21:23 น.
โดย: jampada IP: 58.9.49.214 8 กุมภาพันธ์ 2554 14:26:17 น.
โดย: zoomzero 10 กุมภาพันธ์ 2554 13:14:24 น.
โดย: นู๋ Beee เองค่ะ IP: 110.168.33.65 11 กุมภาพันธ์ 2554 15:59:56 น.
โดย: zoomzero 11 กุมภาพันธ์ 2554 21:55:12 น.
โดย: นู๋ Beee เองค่ะ http://beee.bloggang.com IP: 124.121.192.106 12 กุมภาพันธ์ 2554 0:12:22 น.
โดย: มินทิวา 12 กุมภาพันธ์ 2554 8:06:50 น.
โดย: มินทิวา 13 กุมภาพันธ์ 2554 8:40:35 น.
โดย: zoomzero 13 กุมภาพันธ์ 2554 21:44:52 น.
โดย: zoomzero 13 กุมภาพันธ์ 2554 22:32:13 น.
โดย: มินทิวา 14 กุมภาพันธ์ 2554 19:01:15 น.
โดย: haiku 14 กุมภาพันธ์ 2554 19:36:53 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้ ... ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ ... การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555 ...
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
ช่วงนี้กำลังปัีมเงิน ลูกค้าจองเหรียญเข้ามากันเยอะแยะมากมาย หาเหรียญขายไม่ทันรุย *_*
คิดถึงนะคะพี่ชาย จุ๊ฟ ๆ ๆ