หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ

30831 การ์ตูนญี่ปุ่น


"ความสุขของมาร คือการทรมานผู้คน"
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

หุบเขาคนโฉด, หมู่ตึกมารสำราญ, การ์ตูนญี่ปุ่น
zOOmzerO, Violent Valley, Cartoon and Animation





Tonight is what it means to be young







การ์ตูนญี่ปุ่น





วันนี้ นั่งดูทีวีเพลินๆ บังเอิญกดรีโมทผ่านไปที่ช่องการ์ตูนของทรูวิชั่น สำหรับช่องการ์ตูนของเด็กช่องนี้เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนฝรั่ง แล้วก็เลยเกิดความคิดว่า ตัวเรากับการ์ตูนนั้นอยู่มาบนโลกนี้นานเหมือนกันนะ จะเป็นร้อยปีหรือเปล่านะ (555) สำหรับมุมมองการ์ตูนในบล็อกหุบเขาฯวันนี้ ขอขีดวงจำกัดแค่การ์ตูนทางทีวี ซึ่งจำได้ว่าสมัยก่อนได้ดูการ์ตูนครั้งแรกจากทีวีขาวดำ(นานหรือเปล่าหละ) ต่อมาไม่นานก็โชคดีที่เขาผลิตทีวีสีออกมาขาย แต่ช่วงนั้นการ์ตูนก็ยังเป็นขาวดำอยู่อีกนาน ต้องรออีกหลายปีกว่าจะได้ดูการ์ตูนสีจริงๆ ทีนี้เลยได้ดูการ์ตูนอย่างสนุกสนาน การ์ตูนสมัยนั้นก็หนีไม่พ้นของฝรั่งเหมือนกัน รู้สึกว่าจะมาจากสองสามค่าย น่าจะเป็น LooneyTunes (Warner Brothers)กับ Walt Disney สมัยนั้นไม่เคยจำว่าตัวการ์ตูนตัวไหน อยู่ค่ายไหน จำได้ว่า มี Mickey Mouse, Mindy, Pluto, Donald Duck, Bugs Bunny, Daffy Duck, Porky Pig, Sylvester, Tweety, Road Runner, ฯ (เออ...แล้ว Tom & Jerry กับ Popeye นี่อยู่ค่ายไหนกันแน่ 555)

การ์ตูนฝรั่งพวกนั้น ดูได้ แต่จำอะไรไม่ได้ ได้แต่หัวเราะหรือไม่ก็อ้าปากค้างจนการ์ตูนจบ ส่วนการ์ตูนที่ติดอกติดใจผมมากๆ เป็นของ ญี่ปุ่น จำได้ว่าต้องวิ่งมานั่งก่อนรายการทีวีจะมา ฮีโร่การ์ตูนเรื่องแรกก็คือ หน้ากากเสือ สำหรับผมนั้นเป็นคนชอบดูการ์ตูนทางทีวีมากๆ ดูได้หมดทุกแนว ขนาดเรื่อง กุหลาบแวร์ซายส์ การ์ตูนผู้หญิงแท้ๆ ผมก็ยังนั่งดูกับน้องสาวได้เลย ส่วนตอนโตๆนี่ ผมก็ยังชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นเหมือนเดิม เท่าที่จำได้ก็มี โดราเอมอน ดราก้อนบอลล์ ฯ เขาว่าคนแก่ชอบนึกถึงความหลัง ท่าจะจริง เพราะเมื่อหลับตานึกถึงการ์ตูนในวันวาน มีความสุขมาก ตอนนี้นึกขึ้นมาได้หลายเรื่องเหมือนกัน เช่น
(ขอโทษนะ บางทีก็จำชื่อเรื่องไม่ค่อยถูกเหมือนกัน)
หน้ากากเสือ เจ้าหนูปรมาณู กุหลาบแวร์ซายส์ เจ้าหนูยอดนักเตะ(ซึบาสะ) หุ่นยนต์มาชินก้าแซด Speed Racer โจสิงห์สังเวียน นินจาฮาโตริ กันดัม เก็ตเตอร์ ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเร่ เซ็นต์เซย่า ดราก้อนบอลล์ เซเล่อร์มูน ดิจิมอน ปาร์แมน โปเกมอน ผีน้อยคิวทาโร่ แม่มดน้อยโดเรมี ลามูทรามวัยจากต่างดาว หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ อิคิวเณรน้อยเจ้าปัญญา ชินจัง มารูโกะ ฯ

มีการ์ตูนหลายเรื่องที่จำเนื้อเรื่องได้ จำตัวละครได้ แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ ผมลองเข้าไปอ่านในวิกิพีเดีย ก็เกิดอาการกวนมึนโฮ เอ้ย... มึนงง เพราะเขาใช้ชื่อเรื่องเป็นภาษาทางการค้า หรือชื่อจริงๆ แต่เด็กน้อยอย่างกระผม ไม่คุ้นชื่อแบบนี้เลย อย่างเรื่องที่มีตัวเอกเป็นโจรสลัดอวกาศ ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ช่างเถอะ จำได้แค่ไหนก็แค่นั้น

วงการการ์ตูนในยุคปัจจุบัน คนวาดเก่งขึ้นหรือเปล่าก็ไม่กล้าวิจารณ์ แต่รู้สึกว่าเขาเรียกการทำการ์ตูนกันใหม่ว่า Animation ซึ่งแปลว่าอะไรผมก็ไม่ทราบ คงหมายถึง การ์ตูนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างฉาก สร้างแสงสี ทำให้ภาพคมชัดเหมือนของจริงกระมัง? ด้วยความสามารถของเครื่องมือสมัยใหม่ นั่นก็คือ คอมพิวเตอร์ สงสัยคงจะเรียกว่า การ์ตูนอนิเมชั่น แถมยังได้เข้าไปฉายในโรงภาพยนตร์ (ฉายกันทั่วโลกก็มี) หารายได้ให้คนทำงานด้านนี้มากมาย สำหรับผม ผมคิดว่าการ์ตูนอนิเมชั่นที่โด่งดัง มีหลายภาค และภาพตัวละครสวยงามมากๆ ก็เรื่อง Final Fantasy นี่แหละ มีทั้งเกมส์คอมพิวเตอร์ (เกมส์RPG) หนังดีวีดีจอเล็ก และหนังโรงจอใหญ่ (เคยมาฉายบ้านเรา แต่ไม่ค่อยได้เงินเท่าไหร่)

Final Fantasy ในแต่ละภาค จะมีเนื้อเรื่องแตกต่างกัน ตัวละครมักจะคล้ายๆกับเกมแร็กนาร๊อก คือ มีพวกเทพเจ้า อสูรกาย การใช้พลังจิต ในภาคที่ 5 ขึ้นไปรูปภาพต่างๆ ฉาก ตัวละคร ยานพาหนะ ดูแล้วสวยงามและแปลกตา สมกับคำว่า Fantasy Art จริงๆ

น่าเสียดาย การ์ตูนญี่ปุ่นยุคนี้ โดยเฉพาะหนังสือการ์ตูน กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสื่อลามก จนพ่อแม่หลายคนต้องคอยดูว่าลูกชายซื้อการ์ตูนอะไรมาอ่าน ผมเริ่มเห็นว่าพวกเขาหันเหออกแนวโป้ๆ ตอนที่ดูการ์ตูนเรื่องเซเล่อร์มูนนี่แหละ ความจริงรูปเด็กผู้หญิงนุ่งกระโปรงสั้นๆ ถ้าให้เด็กเล็กดูตัวละครผู้หญิงนุ่งกระโปรงสั้น ก็คงไม่มีอะไร เพราะหนูน้อยเด็กเล็กๆ ก็ใส่กระโปรงสั้นๆไปเรียนอนุบาลกันทั้งนั้น คงคิดว่าเหมือนตัวเอง แต่ตัวละครของเซเล่อร์มูนนั้น ผู้หญิงมีหน้าอกขนาดไม่ธรรมดา (คิดว่าคนวาดการ์ตูนคงตั้งใจ ที่จะให้ตัวละครหมายถึงเด็กสาวๆมัธยมในประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ หรือเปล่านะ?) ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมนักเขียนการ์ตูนถึงต้องเขียนภาพโป้ หรือวาบหวิวถึงขนาดนั้น หรือเป็นเพราะว่ามันทำให้ขายดิบขายดีกว่าเดิม สงสัยต้องแยกออกเป็นการ์ตูนเด็กกับการ์ตูนผู้ใหญ่กันเสียแล้ว



เพลง Tonight is what it means to be young ของ Fire Inc.
ผมได้ยินครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง Streets of Fire (1984)
แสดงนำโดย Michael Pare กับ Diane Lane
นางเอกสวยถูกใจมาก (ตอนนี้ถึงอายุจะวัยสาวใหญ่แต่ก็ยังโอเค) โดยเฉพาะชุดที่เธอใส่ร้องเพลงนี้
และบังเอิญมาพบว่าเป็นเพลงประกอบการ์ตูนเรื่อง Final Fantasy
โดยมีตัวการ์ตูนซึ่งเป็นนางเอกร้องเพลงนี้อีกด้วย
ยิ่งทำให้เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่เร้าใจดีจริงๆ

เนื้อเพลง ทำให้คิดถึง หญิงสาวที่คอยเนื้อคู่
เหมือนเจ้าหญิงเฝ้าคอยการพบเจ้าชาย
แล้วพลันก็ได้พบชายในดวงใจในคืนนี้
มาจุดไฟรักกันเถอะ


I've got a dream 'bout an angel on the beach
And the perfect waves are starting to come
His hair is flying out in ribbons of gold
And his touch has got the power to stun

I've got a dream 'bout an angel in the forest
Enchanted by the edge of a lake
His body's flowing in the jewels alive
And the earth below is starting to shake

But I don't see any angels in the city
I don't hear any holy choirs sing
And if I can't get an angel
I can still get a boy
And a boy'd be the next best thing
The next best thing to an angel
A boy'd be the next best thing

I've got a dream 'bout a boy in a castle
And he's dancing like a cat on the stairs
He's got the fire of a prince in his eyes
And the thunder of a drum in his ears

I've got a dream 'bout a boy on a star
Lookin' down upon the rim of the world
He's there all alone and dreamin' of someone like me
I'm not an angel but at least I'm a girl

I've got a dream when the darkness is over
We'll be lyin' in the rays of the sun
But it's only a dream and tonight is for real
You'll never know what it means
But you'll know how it feels
It's gonna be over (over)
Before you know it's begun
(Before you know it's begun)

It's all we really got tonight
Stop your cryin' hold on (tonight)
Before you know it it's gone (tonight)
Tonight is what it means to be young
Tonight is what it means to be young



Let the revels begin
Let the fire be started
We're dancing for the restless and the broken-hearted
Let the revels begin
Let the fire be started
We're dancing for the desperate and the broken-hearted
Let the revels begin ...(Tonight is what it means to be young...)
Let the fire be started ...(Before you know it it's gone...)
We're dancing for the restless and the broken-hearted
Let the revels begin
Let the fire be started
We're dancing for the desperate and the broken-hearted

Say a prayer in the darkness for the magic to come
No matter what it seems
Tonight is what it means to be young
Before you know it it's gone
Tonight is what it means to be young
Before you know it it's gone

Ah...

I've got a dream when the darkness is over
We'll be lyin' in the rays of the sun
But it's only a dream and tonight is for real
You'll never know what it means
But you'll know how it feels
It's gonna be over (over)
Before you know it's begun

It's all we really got tonight
Stop your cryin' hold on (tonight)
Before you know it it's gone (tonight)
Tonight is what it means to be young
Tonight is what it means to be young...

The things they say
And then the things they do
Nothin's gonna stop us if our aim is true...

The things they say
And then the things they do
Nothin's gonna stop us if our aim is true...

The things they say
And then the things they do
Nothin's gonna stop us if our aim is true...

(Tonight is what it means to be young...)


zOOmzERo2009






Link ไปที่ blog 30809 ไม่ยอมยกธงขาว
Link ไปที่ blog 30714 เรื่องหมาหมา ตอน สุนัขจรจัด
Link ไปที่ blog 30613 วากา วาก้า
Link ไปที่ blog 30414 Pattaya ตอนที่ 3
Link ไปที่ blog 30402 Pattaya ตอนที่ 2
Link ไปที่ blog 30319 Pattaya ตอนที่ 1

Link ไปที่ blog 30226 ช้างน้อยของฉัน
Link ไปที่ blog 30212 (เยื่อ)พรหมจรรย์สำคัญด้วยหรือ?
Link ไปที่ blog 30127 ดอกไม้หายไปไหน?




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2553
51 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:13:20 น.
Counter : 4502 Pageviews.

 

สวัสดีคร้าพี่ชาย อิอิ แหม entry นี้ถูกใจจังเลย หัวข้อการ์ตูนญี่ปุ่นเนี่ยะ แหม วัยรุ่นนะคะ เอา Final Fantasy มาลงซะด้วย

แต่เนื้อหายังไม่ว่างอ่านค่ะ งานเพียบเลย แงงง *_* คุยเอ็มทีละสิบกว่าหน้าจอ ตอบคำถามสมาชิกทางอีเมล์ และดูแลเวปบอร์ด ทำเวปอีก ฮือ ๆ ๆ พี่ชายว่าง ๆ มาช่วยหน่อยนะคะ รับสมัครเลียขา งิงิ

ไปแระ สายเข้าและเอ็ม วุ่นวายมาก กรี๊ดสสส

อ้อ ก่อนไป อัพเดทรายได้ 5 อาทิตย์ผ่านไป 432$/836.32$ แล้วคร้า อิอิ

ไปแระ จุ๊ฟ ๆ ๆ คิดถึงนะคะพี่ชาย

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (Beee_bu ) 31 สิงหาคม 2553 23:36:55 น.  

 

Beee_BU

จะเป็นพันเหรียญแล้วหรือนี่?
ขยันแล้วรวย ก็ขอร่วมอวยด้วยคนจ้า

อย่าลืมปลีกเวลามาเยี่ยมหุบเขาคนโฉดบ้างก็แล้วกัน
คิดถึงเหมือนกัน อิอิ

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF

 

โดย: zoomzero 1 กันยายน 2553 22:02:35 น.  

 

 

โดย: zoomzero 1 กันยายน 2553 22:09:40 น.  

 


 

โดย: zoomzero 1 กันยายน 2553 22:20:32 น.  

 


 

โดย: zoomzero 1 กันยายน 2553 22:40:31 น.  

 

การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ (Manga)

มังงะ หมายถึง การ์ตูนญึ่ปุ่น ส่วน อะนิเมะ (anime) นั้นหมายถึง ภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่น
เอกลักษณ์ของการ์ตูนญี่ปุ่นในยุคแรกๆ คือ มีดวงตาโตกว่าปกติ และอาจจะมีสัดส่วนไม่สมดุลย์

มีการบันทึกว่า การ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาฉายในทีวีเมืองไทย ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๘
เรื่องแรกคือ เจ้าหนูลมกรด ฉายทางช่อง ๔ บางขุนพรหม
ส่วนเรื่องที่โด่งดังมากในยุคต้นๆคือ เรื่องหน้ากากเสือ ซึ่งอ้างอิงกับวงการมวยปล้ำของญี่ปุ่นในตอนนั้น
เนื้อเรื่อง จะมีตัวละครเอก คือ หน้ากากเสือ เป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรม
รู้สึกว่าตอนแรกๆจะปล้ำแนวโหดร้ายมาก ตามลักษณะนักมวยปล้ำที่ฝึกมาจากถ้ำเสือ
จนได้รับฉายาว่า ปีศาจเหลือง (แค่ฉายา แต่ก็ยังเป็นหน้ากากเสืออยู่)
เบื้องหลังหน้ากากที่ปกปิดนี้ เขาคือ อดีตเด็กกำพร้ายากจน ชือว่า เนาโต๊ะ (จริงๆ ชือ ดาเตะ นาโอโตะ)
ภายหลังเนาโต๊ะได้กลับไปที่บ้านเด็กกำพร้า และพบรักกับครูสาวที่นั้น เขาเลยต้องเปลี่ยนขั้ว
สุดท้ายก็เลยกลายมาอยู่ฝ่ายธรรม ฝ่ายถ้ำเสือเลยส่งนักมวยปล้ำมาสู้ (ความจริงคือ มาฆ่า) หลายคน
มีสเตอร์เอ็กซ์ เป็นผู้จัดการของถ้ำเสือที่โหดเหี้ยมพอๆกับนักมวยปล้ำของเขา
แต่ไม่ว่าจะส่งใครมา ก็ไม่สามารถเอาชนะหน้ากากเสือได้
จนต้องส่ง 3 คนอันเป็นสุดยอดของถ้ำเสือ คือ Big Tiger, King Tiger, และ Black Tiger
เด็กๆที่ดูการ์ตูนตอนนั้นลุ่นกันมากๆว่า หน้ากากเสือจะแพ้หรือตายหรือไม่ (พระเอกที่ไหนจะตายง่ายๆ)
จนหมดนักมวยปล้ำ ทุกคนก็คิดว่าหนังการ์ตูนเรื่องนี้จะอวสาน แต่ที่ไหนได้ ...
ยังเหลือนักมวยปล้ำสุดยอด สุดโหด อึกคน คือ Tiger The Great
ทำให้หน้ากากเสือยอมเสียคำสาบานต่อหน้าเด็กๆที่ว่าจะปล้ำอย่างขาวสะอาด
เขาต้องกลับมาปล้ำแบบ โฉด
แล้วเรื่องจบอย่างไร ทำไมผมจำไม่ได้นะ

ผู้ใหญ่หลายคนในวันนี้ น่าจะมีการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ในหัวใจอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง
ถ้าจะถามว่า เรื่องไหนโด่งดังที่สุด คงมีคำตอบหลากหลาย
ผมขอมองในมุมของเด็กผู้ชายหรือผู้ชายนะ (ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้วยนะ)
การ์ตูนที่ว่าในวันนี้ยังมีการพูดถึงอยู่ เช่น หนูน้อยอาราเร่ โดราเอมอน ดราก้อนบอล ชินจัง ฯ
ถ้ามองในมุมของเพลงประกอบการ์ตูน เรื่อง โดราเอมอน นี่ก็ยังได้เป็นท๊อปเท็นเหมือนเดิม หรือใครจะเถียงก็ไม่ว่ากัน

ถ้าจะให้มองแบบผู้หญิง
การ์ตูนในหัวใจพวกเธอน่าจะมีเรื่องนี้อยู่ด้วย คือ เซเล่อร์มูน

ท่านผู้ปกครองควรรู้เอาไว้บ้าง
สำหรับการ์ตูน หรือ อนิเมชั่น ค่ายญี่ปุ่น ที่ควรทราบเอาไว้บ้างก็คือ
คำว่า เฮ็นไต แปลว่า วิตถาร และจะเป็นการ์ตูนโป้ บางเรื่องมีภาพรุนแรง
คำว่า เอะโระอะนิเมะ เป็นการ์ตูน erotic

จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด

 

โดย: zoomzero 2 กันยายน 2553 0:07:48 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะเฮีย
มินชอบการ์ตูนญี่ปุ่นนะคะ อิอิ
อย่างเรื่องโดราเอมอนเนี่ย
สมัยก่อนร้องเพลงตามได้เลยนะคะ ฮ่า ๆ ๆ
แล้วก็ชอบจินตนาการตัวเองเป็นชิสสึกะ ประจำเลย ฮ่า ๆ ๆ
แต่มินไม่ใช่ยุคเซเล่อร์มูนค่ะ
อันนั้นรุ่นหลังแล้ว แต่ ก็ดูบ้างไม่ดูบ้างอ่ะ

2 วันนี้งานตรึมค่ะ แต่ ก็โอเค
ไม่รู้จะไม่สบายอีกหรือป่าว ที่ว่า...
พอตกเย็น ๆ ค่ำ ๆ แล้วมันหนาว ๆ วูบ ๆ ไงไม่รู้
เป็นมา 2 วันแล้วค่ะ จะว่าเป็นหวัดมันก็ไม่ใช่
พอห่มผ้าหนา ๆ อ้าวร้อนขึ้นมาอีก พอเอาผ้าออกแป๊ปเดียว
หนาว ๆ ขึ้นมาอีกแล้ว ถ้าวันนี้ว่าง ๆ ว่าจะไปหาหมอค่ะ

ปล. สดชื่นวันพะหัส นะคะ

 

โดย: มินทิวา 2 กันยายน 2553 6:01:45 น.  

 

ลืมบอกไป เพลงเพราะจังค่ะ ชอบ ชอบ

 

โดย: มินทิวา 2 กันยายน 2553 6:03:49 น.  

 

แวะมาฟังเพลง MV ยังไม่ว่างดูเลยง่ะ *_*

มะคืนนอนตั้งตี 5 นั่งรอดูยอดเงินขึ้นอยู่ อิอิ เพราะเมืองนอกเวลาต่างกับเรา 18 ชม. จะติดต่อไรก้อต้องรอเวลาเขา กำ มึนงงกับความต่างของวันและเวลามากค่ะตอนนี้ @_@

นอนได้ไม่ทันไร เช้าคนโทรมาแระ แงงง T_T เลยต้องตื่น

ตังค์ยังไม่เยอะค่ะ เพราะช่วงแรก ๆ ได้เงินมาก้อใช้จ่ายกินอยู่เองก่องแระก้อจ่ายหนี้ค่า notebook พอกิ๊กคนนี้มานเห็นเรารวย ก้อรีดไถเราอ่ะ ก้อรีบ ๆ จ่ายให้มันหมดไป ต่อไปได้ไม่ต้องมาไถแระ กำ งุงิ ซักเดือนสองเดือนน่าจะดีแระแหล่ะ

คิดถึงนะคะพี่ชาย จุ๊ฟ ๆ ๆ

459$/874.32$ แร๊ะ

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) 2 กันยายน 2553 11:09:56 น.  

 

Beee_BU

อ้า...มี Notebook ใช้แล้วเหรอขอรับท่านเศรษฐีน้อย
พี่ชายยังไม่มีปัญญาหาซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่เลย
ตอนนี้ก็สองจิตสองใจ(ซึ่งเป็นนิสัยถาวรมานานแล้ว 555)
ว่าจะยังคงเป็น Desktop หรือว่าจะเปลี่ยนใจมาเป็น Notebook ดี
แบบเก่าก็ดีตรงที่ทนทานใช้งานได้นาน รูปร่างใหญ่โตเต็มไม้เต็มมือ (ไม่อยากจะบอกว่า ล้นมือ)
สั่งงานอะไรก็ไม่ค่อยต้องระมัดระวัง ไม่ต้องเกรงใจ แถมทำงานเร็วปรี๊ด
ส่วนแบบใหม่นี่ซิ เล็กกะทัดรัด ทันสมัย ใช้งานยากนิดหน่อยเพราะอะไรๆก็ดูกระจุ๋มกระจิ๋ม
ไม่รู้จะเอานิ้วไปจิ้มหรือแตะตรงไหนดี กลัวว่าจะงอแง เอ๋อเหรอ (ERROR)
แบบใหม่นี่มีข้อเสียตรงเรื่องความจุน้อย อากาศร้อนแล้วชอบรวน ชวนหงุดหงิด
ข้อดีอีกอย่างคือราคาก็ไม่แพง มีช่วงโปรโมชั่นบ่อยๆในแต่ละปี ฯ
เอ้....กำลังคุยกันเรื่องเครื่องหรือคนกันแน่ หุหุ

หรือว่าพี่ชายต้องหากิ๊กเป็นเซลล์ขาย Notebook จะดีมั๊ย?
จะได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในเร็ววัน
แล้วหนูบีว่าสาวขายคอมพิวเตอร์เขาจะฉลาดหรือหัวไวหรือเปล่า?
พี่ชายไม่ค่อยอยากจีบคนสวยและฉลาด แบบนั้นไม่ใช่สเป็ค
เดี๋ยวทำอะไรไปก็รู้ทันพี่ชายหมด อิอิ

เมื่อเช้าไปจ่ายประกันสังคมมา เจอเพื่อนเก่า เป็นเพื่อนสาว(ใหญ่)นะ
แต่งงานแล้ว มีลูกสองคน รูปร่างยังกะสาวสิบเจ็ดสิบแปด ตอนนี้แยกกันอยู่กับสามี
สามีนอกใจ พากิ๊กใหม่มาขอ(แกมบังคับ)ให้หย่า แต่เธอยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ยอม
สองตัว เอ้ย..สองคนฝ่ายโน้นเลย ได้แต่เครียดๆๆๆ แหกปากโวยวาย
เธอคนนี้เก่งนะ เลี้ยงลูกสองคน ลูกสาวคนโตเรียนมหาวิทยาลัย และก็ยังได้ทุนหลวงอีกด้วย
คุยกันก็ไม่พ้นเรื่องนินทาอดีตสามีของเขานี่แหละ
ยิ่งมาเจอกับพี่ชายจอมมาร เลยช่วยกันตำหนิซ้ำเติมบุคคลที่สามที่สีอย่างมันปาก (ของถนัด)
แฟนของเธอคนนี้ แรกๆก็เป็นคนนิ่มๆติ๋มๆ พูดเสียงเบาๆ ขยันทำงาน
ทำงานจนเงินเดือนทะลุแสน เลยให้ภรรยาลาออกจากงานมาอยู่บ้าน
ภรรยาหรือเพื่อนของพี่ชายคนนี้ก็ทั้งสวยและเก่งนะ เคยทำงานในบริษัทฝรั่งเชียวนะ
เธอบอกว่า ผู้หญิงเรามักจะคิดผิดที่ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเฉยๆ
เพราะพอเกิดวิกฤติในครอบครัว ฝ่ายหญิงเสียเปรียบไปหมด
นี่ดีว่า เคสนี้สามีทำความผิดโดยคบชู้ ไม่อย่างนั้นคงฟ้องหย่า ฟ้องเอาลูกเธอไปหมด
อีกอย่างพ่อของเธอก็เป็นคนที่มีบารมีค่อนข้างมากเหมือนกัน (ไม่ถึงกับสั่งเป็นสั่งตายใครได้หรอกนะ)
ฝ่ายสามีก็เลยปล่อยเรื่องนี้ค้างๆคาๆ จนถึงทุกวันนี้
เรื่องทรัพย์สมบัติอะไรของเขานั้น ขี้เกียจเอามาเม้าท์
แต่อยากจะถ่ายทอดเรื่องที่เธอเล่าแล้วผู้ชายบุคลิกถ่อยๆอย่างพี่ถึงกับต้องแอบเช็ดน้ำตา
คือ ช่วงที่เธอแยกทางกับสามี สามีเป็นฝ่ายย้ายออกไป แต่ยังไปๆมาๆที่บ้าน
วันหนึ่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ ลูกสาวขอให้พ่อพาไปเที่ยวในวันเสาร์
พอวันเสาร์พ่อก็มาจริงๆ แต่พอขับรถออกไปได้ไม่นาน พ่อก็รับโทรศัพท์มือถือจากใครก็ไม่ทราบ
แต่ทำให้พ่อขับรถกลับมาที่บ้าน พ่อบอกว่าเดี๋ยวเราเข้าบ้านไปเอาของกันก่อนนะ พ่อลืมของไว้
เชื่อหรือไม่ว่า พอลูกเปิดประตูลงรถปั๊บ พ่อก็ขับรถหนีออกไปเลย
เด็กผู้หญิงอายุ 7 ขวบต้องยืนตากแดดร้องไห้อยู่หน้าบ้านคนเดียว
เธอบอกว่าลูกสาวร้องไห้อยู่นานเพราะใจคิดว่าพ่อคงล้อเล่น เดี๋ยวคงกลับมา
เด็กไม่กล้ากดกริ่งหน้าบ้าน เพราะกลัวพ่อกับแม่จะทะเลาะกันแล้วตัวเองจะอดไปเที่ยว
พอดีเด็กคนงานในบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องหน้าบ้าน เลยออกมาดู ตกใจกับภาพที่เห็น
คืนนั้นเด็กน้อยก็เป็นไข้หวัด คงจะเป็นหวัดแดด
คนเป็นพ่อ ไม่ได้ปิดมือถือนะ แต่ทางนี้โทรศัพท์ไปกลับกดวางสายตลอด
จากนั้นนานเป็นเดือนๆถึงติดต่อกลับมา พอโดนถามว่าวันนั้นทำไมทำกับลูกในไส้ได้แบบนั้น
หมอนั้นบอกว่า จำเรื่องไม่ได้
หน้าด้านสิ้นดี....
ทุกวันนี้ลูกสาวยังบอกแม่ว่า อยากเปลี่ยนนามสกุล อยากใช้นามสกุลของคุณตา
แต่คนเป็นแม่บอกว่า คนเราหนีตัวเองไม่พ้นหรอกลูก ถ้าจะอยู่ด้วยการหลอกตัวเอง หนูก็จะเจ็บปวดมากกว่านี้
ตอนนี้ก็ต้องรอลุ้นเพราะว่า ลูกสาวบอกว่า ถ้าอายุหนูถึง 20 แม่ก็ห้ามหนูไม่ได้หรอก
พี่ชายเข้าใจนะ เรื่องตัณหาราคะ นี่ พี่ชายก็เป็นพวกกิเลสหนาปัญญาวัว เหมือนๆชาวบ้าน
แต่เรื่องที่พ่อทำกับลูกได้แบบนี้ พี่ว่ามันไม่ใช่คนแล้วหละ

แล้วหนูบีหละ เคยเจอผู้ชายเห็นแก่ตัวหรือเปล่า?

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF

 

โดย: zoomzero 2 กันยายน 2553 14:17:10 น.  

 

Mintiva

หลังเที่ยงสวัสดิ์ครับอาหมวย

เมื่อวานไปเจี๊ยะเย็นตาโฟกุ้งทอดแถวลาดพร้าว 71
เผือกทอด กับ กุ้งทอด อร่อยมาก กรอบมาก
ทานเผื่อให้นะจ๊ะ

อาหมวยอยากเป็น ชิสุกะ หรือนี่?
ส่วนเฮียนั้น ขอจองบท ไจแอนท์ นักร้องเสียงฟ้าถล่ม ก็แล้วกัน
เด็กรุ่นใหม่บางคนไม่ทันได้ดูโดราเอมอน (หรือโดเรม่อน)
แต่ก็รู้ว่า อะไรคือ ตัวโดเรม่อน
อะไรคือเพลงจากการ์ตูนเรื่องนี้
ก็ขนาดที่ราชบุรี ยังต้องทำตุ๊กตาโดเรม่อน ขายกันมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนตัวการ์ตูนที่ยังขายดีอีกตัวก็คงจะเป็น ปลาการ์ตูน นีโม
ว่างๆแวะไปราชบุรีดูก็ได้นะ

อาการของมิน
เฮียว่าเหมือนคนวัยนั้นเลยนะ
แบบโบราณว่า เลือดจะไปลมจะมา
แต่เฮียเดาว่า น่าจะเป็นเรื่องความเครียดกับการไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนมากกว่า
เห็นด้วยกับการไปหาหมอ ตรวจเลือดตรวจความดัน ก็น่าจะรู้
หวังว่าคงไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่ถ้ามีก็ขอให้ตรวจพบและแก้ไขได้ทัน
คนที่กายแข็งแรง ร่างกายก็จะปรับตัวแก้ไข้ตัวเอง ไม่ต้องพึงยาให้เปลืองเงินทองหรอก
ส่วนเรื่องจิตใจ อันนี้ ก็ต้องหัดทำใจให้เป็นกลางๆ
ทำบุญแล้วก็ต้องเชื่อหรือศรัทธาในกรรมที่ตนทำ รับรองว่า กรรมดี จะพาไปสู่สิ่งที่ดี
เพราะเครียดมากก็พาให้ใจและกายไม่สบายนะ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 2 กันยายน 2553 14:32:38 น.  

 

Final Fantasy

ไฟนอลแฟนตาซี (ที่ผมขอยืมโดยไม่ได้ขออนุญาต) เอามารูปและ MV มาลงใน blog นี้
เป็นภาพจากภาคที่ 10 หรือ Final Fantasy X
ตัวพระเอกชื่อ ทีดัส เป็นการสร้างตัวละครที่ต้องบอกว่า คิดได้นอกกรอบจริงๆ
ตัวนางเอกชื่อ ยูน่า ผู้ที่ต้องแบกภาระใหญ่ คือการไปรับตัวอสูรย์ร้ายตัวสุดท้ายเพื่อมาปราบศัตรู

ผมขอปรบมือและให้เครดิตอย่างมากกับบริษัท Square หรือในวันนี้กลายมาเป็น Square Enix
แต่นักเล่นเกมจะรู้กันดีในชื่อของ Squaresoft มากที่สุด

อาจจะมีหลายคนตั้งคำถามว่า Final Fantasy เป็นอะไรกันแน่
คำตอบก็หาได้ไม่ยาก แต่อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด (จริงหรือ?)
ผมขอสรุปตามที่ได้ทราบมาว่า
FF เป็นเกมคอนโซล ใช้กับคอมฯ หรือใช้กับเครื่องเล่นเกมที่ต่อกับทีวี ในยุคแรกๆ
สำหรับชนิดของเกมต่างๆที่มี ไฟนอลฯ เข้าไปอวดโฉมนั้น มีมากมาย จนผมเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย
เช่น แฟมิลี่คอมพิวเตอร์, ซุปเปอร์แฟมิคอม, นินเทนโด, เพลย์สเตชั่น, ตู้เกมคอมฯวางตามห้างฯ,
เกมบอย(แอ็ดวานซ์), เครื่องPSP, เครื่องGamaCube(เป็นนินทินโด รุ่นที่6), NDS (หรือNintendoDS),
XBox360, เครื่องWii, เพลย์สเตชั่น-3, มือถือรุ่นใหม่ๆ, iPod Touch
อ้อ...แล้วก็ เกมส์ออนไลน์ หรือเกมส์บนโลกอินเตอร์เน็ท

ไฟนอลแฟนตาซี มีกี่ภาค? มีกี่แบบ
คำตอบคือ หลายภาค 555

นอกจากเป็นเกมอยู่สิบกว่าภาคแล้ว ยังมีการทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน 3 เรื่อง และภาพยนตร์เร่องยาว 2 เรื่อง
ไฟนอล ภาคแรก เปิดตัวในปี 1987 (พ.ศ. 2530)

ไฟนอลฯ ภาค 10 หรือ Final Fantasy X ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2001
เป็นเกมที่ขายดีติดอันดับ 1 ใน 20 ขายได้ประมาณ 8,000,000 ชุด
เหตุผลที่ขายดี คงจะเป็นเพราะเป็นยุคทองของเกมคอมพิวเตอร์
และเป็นเกมระบบ 3D เต็มรูปแบบ ซึ่งตัวช่วยที่เกิดขึ้นมาอีกตัวคือ เครื่อง Sony Playstation 2
ซึ่งนักเล่นเกมหลายคนเฝ้าคอยการเป็นเจ้าของเครื่องของโซนี่อย่างกระหายมานาน
เกมภาค10 นี้มีการพากย์เสียง ในขณะที่ตัวละครสามารถแสดงสีหน้า อารมณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นการพัฒนาเกมอย่างก้าวกระโดด
เป็นการบุกเบิกให้เกมรุ่นหลังๆ ใช้เทคนิคนี้ ทำให้เกมใหม่ๆเล่นได้สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น

ใครที่ไม่ชอบเล่นเกมอาจจะเบื่อเรื่องเทคนิค เทคโนโลยี่ต่างๆ ที่เอามาเขียนเอาไว้ตรงนี้
แต่ก็ขอเขียนอะไรไว้สักเล็กน้อย ...
เกม RPG เป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกม
เหมือนกับในภาพยนตร์เรื่อง AVATAR ซึ่งเราจะเล่นเป็นใครก็ได้
เกมนี้ ส่วนใหญ่ ผู้เล่นก็อยากเล่นเป็น Tidus ก็คือการอวตารไปเกิดเป็นพระเอกของเรื่อง
คุณสามารถพูดคุยกับตัวละครอื่นได้ และเมื่อเดินไปเจอศัตรู โปรแกรมจะพาคุณเข้าสู่สภาวะแวดล้อมที่ตื่นเต้นเร้าใจ

สำหรับเรื่องฉากต่างๆ ในภาค 10 นี้ ต้องให้เกียรติอย่างสูงกับ เท็ทซึยะ โนะมุระ,
โยะบิโนะริ คิทะเสะ, และ คะสุชิเงะ โนะจิมะ หัวเรี่ยวหัวแรงในการคิดและสร้างเกม
ผู้ออกแบบ ตัวละคร ภูมิประเทศ พืช สิ่งปลูกสร้าง ตลอดจน สัตว์ประหลาด สิ่งมีชีวิตในโลกของเกม ฯ
โดยกล้าที่จะนำความเป็นญี่ปุ่นใส่ลงไปร่วมผสมในเกม ซึ่งถ้ามองแต่ด้านการตลาด เกมจะต้องเน้นไปทางความเป็นฝรั่งหรือยุโรปโบราณ
คุณจะเห็นได้ว่ามีฉากที่เป็นเกาะ เป็นทะเล เหมือนเราไปอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

การรู้เรื่องของแต่ละภาค จะช่วยทำให้คุณเล่นเกมได้สนุกขึ้น
แต่ขอบอกว่า Final Fantasy แต่ละภาคมีเนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน มีความสนุกแตกต่างกัน
ถ้าจะเล่าเรื่องภาคที่ 10 คงต้องเล่ากันหลายหน้ากระดาษ แต่ขอเขียนมั่วๆเอาไว้ตามประสาคนรู้น้อย ว่า ....
มีนครอยู่ 2 แห่ง นครเบเวล กับ นครซานากันด์ ต่างก็เกลียดกันเหมือนสีเหลืองกับสีแดงบ้านเรา
รบราฆ่าฟันกันจนอีกฝ่ายตายจนดับสิ้นไปหมด หรือว่าเกือบหมด
พวกซานากันด์พ่ายแพ้ แต่ขอดิ้นเฮือกสุดท้าย โดยเอาวิญญาณคนตายไปสร้างเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง
ทีดัส อยู่ในมิติแห่งความฝัน แต่คิดว่าตัวเองอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกจริงๆ
บังเอิญดันเกิดเหตุการณ์ประหลาดทำให้ทีดัสหายตัวแว็บ ไปโผล่ในโลกจริงๆที่เป็นอนาคตอีก 1,000 ปีข้างหน้า
แต่ทีดัสคิดว่านั้นคือโลกมายา โลกแห่งจินตนาการ หรือโลกแห่งความฝัน
ตัวละครที่เป็นนางเอก หรือ ยูน่า อยู่ในโลกนี้ และมีสิ่งที่ต้องทำ (ไม่บอกหรอกว่าต้องทำอะไร 555)
และแล้ววันหนึ่งทีดัสก็หลุดไปอีกโลกหนึ่ง (มีกี่โลกกันแน่) ไปเจอกับเทพชื่อ บาฮามุท
เทพองค์นี้ได้เล่าความจริงทุกอย่างให้ทีดัสรู้
ทีดัสก็ต้องตกใจและเสียใจที่รู้ว่า โลกที่เขาหลุดไปเจอมาก่อนหน้านั้นไม่ใช่โลกแห่งความฝัน
เขาเองต่างหากที่มาจากความฝัน เขาเองไม่มีตัวตน คนทีเขาแอบรักต่างหากที่เป็นมีตัวตนจริงๆ (ชักงง)
ทีนี้เรื่องก็ยังไม่ยอมจบง่ายๆ ทีดัสกลับมาโผล่ในโลกของยูน่าอีกที
โชคชะตาส่งเขากลับมาเพื่ออะไร ความรักของเขาจะสมหวังได้หรือไม่?
จาก MV ที่เอามาใส่ไว้ใน blog ถ้าดูจนจบจะเห็นว่า
ฉากเกือบๆสุดท้ายทีดัสกับยูน่าต่างก็สัมผัสกายกันไม่ได้ แม้แต่จะกอดกันก่อนจากก็ทำไม่ได้
ทำไมเมื่อมีรักแล้วต้องมีคำว่าเสียใจด้วยนะ????

ใครว่าไฟนอลแฟนตาซี เป็นแค่เกม
ผมว่ามันมีมุมมองที่ลึกซึงมากกว่าที่คุณจะมองข้ามไปนะครับ

จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด

 

โดย: zoomzero 2 กันยายน 2553 22:23:47 น.  

 



หวัดดีค่ะเฮีย
เชื่อป่าวคะ ว่าการ์ตูนเนี่ย นอกจากจะทำให้หัวเราะแล้ว
บางครั้ง บางเรื่องราว มินยังเสียน้ำตากับการ์ตูนอีกด้วย
อย่างเมื่อก่อนนี้ จำไม่ได้ว่าใช่ โพคาฮอนทัส หรือป่าว
มีฉากสะเทือนใจที่ดูแล้วร้องไห้น้ำตาร่วงแหมะ ๆ เลยอ่ะนะ

อย่างเรื่องของทีดัสที่เฮียเล่าให้ฟังเนี่ย
แค่มาฟังตอนท้าย ๆ ก็รู้สึกว่ามันชักเศร้า ๆ แล้วค่ะ
ตอนนั้น ก็เหมือนกัน ได้ดู mv การ์ตูน เพลงฝรั่ง
จำชื่อเพลงไม่ได้ค่ะ hold.. hold me for a while...หรือป่าวน๊อ
กำลังร้องอยู่ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ เนื้อเพลงมันคล้าย ๆ ว่า
ขอให้กอดฉันคืนนี้หน่อยได้ไหม
ก่อนที่จะถึงพรุ่งนี้ ที่เราคงไม่ได้พบกันอีกแล้วชั่วนิรันดร์
วาว..นั่งดูไป ฟังเพลงไป เศร้าสุด ๆ เหมือนกันค่ะ

เมื่อวาน ไม่ได้ไปหาหมอค่ะ แต่เมื่อเย็นไม่ได้เป็นอาไรแล้วค่ะ
วัยนั้นอ่ะ มันวัยไหนคะเฮีย ฮ่า ๆ ๆ พูดให้ดี ๆ นะคะ ฮ่า ๆ ๆ
ถ้าหมายถึงวัยทองอ่ะ ตอนนี้มินไปถึงขั้นวัยเพชรแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เพราะมินตัดทิ้งหมดไม่มีอาไรทั้งนั้นมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ
คือมันวูบวาบมานานจนชินแล้ว และมินก็ไม่ทานฮอร์โมนด้วย
เมื่อก่อนหมอให้ทานพรีมาลีน 625 หรือไรเนี่ย
แต่ทานแล้วมันคัด ๆ แข็ง ๆ ตึง ๆ มินไม่ชอบค่ะ
อาไรมันคัด ๆ แข็ง ๆ ตึง ๆ มินคงไม่ต้องขยายความนะคะ ฮ่า ๆ ๆ
เลยขอไม่ทานดีกว่า มันจะเหี่ยวก็ช่างมันช๊านไม่แคร์ค่า ฮ่า ๆ ๆ เอาสบายตัวก่อนดีกว่าค่ะ
ตอนนั้น ยังนึกว่า เอ๊ สงสัยพวกกระเทยต้องทานฮอร์โมนแบบนี้หรือป่าวน๊อ ....

ปล. วันนี้วันศุกร์แล้ว เตรียมสดชื่นกับวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ กันดีกว่านะคะ อิอิ
มีความสุขมาก ๆ นะคะเฮีย ทานเผื่อมินด้วยนะ แต่ผักนู๋ไม่เอานะคะ อิอิ

 

โดย: มินทิวา 3 กันยายน 2553 5:36:28 น.  

 

Mintiva

ใช่แล้วหละครับ
เคยเห็น YouTube อันหนึ่ง เป็นเพลงชื่อ Hold me for a while
มีภาพของพวกการ์ตูน Final Fantasy VIII-X-2 สลับไปมา น่าชมมาก
ถ้าอยากดูอีกทีก็ดูได้ที่ //www.youtube.com/watch?v=G49Wrk8VZ5A

ส่วนถ้าจะดูไปแล้วร้องเพลงตามไปก็ต้องไปที่ //www.youtube.com/watch?v=-BtbcrgVxrY&feature=related
ฟังเพลงนี้แล้ว อดคิดนอกกรอบไม่ได้ว่า คนแต่งเพลงท่านนี้ช่างเข้าใจจิตใจของผู้หญิงจริงๆ
ตอนแรกบอกว่า Hold me for a while
แต่ต่อมาก็บอกอีกว่า Hold me tonight, before the morning takes you away
แบบนี้ก็แปลว่า ขอให้กอดทั้งคืนด้วยนะซิ ไหนบอกว่าขอให้กอดฉันสักนิด
นี่ถ้าไปเจอผู้ชายซื่อบื้อเข้าหละก็ เขาคงกอดสิบวินาทีแล้วก็จากไปแน่ๆ
แต่ถ้าเป็นเฮียนะ แน่นอน all night ฮิฮิ

สำหรับ Pocahontas นอกจากเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่สร้างสำนึกให้รักธรรมชาติแล้ว
เพลงก็เพราะมาก น่าจะมีหลายเพลงในเรื่องนี้ แต่ทีเฮียชอบที่สุดน่าจะเป็น Colors of the wind
เรื่องนี้ก็มีช่วงท้ายๆที่เศร้ามาก เพราะพระเอก John Smith ได้เอาตัวเข้าขวางกระสุนปืน
ที่ท่านผู้ว่า Governor Ratcliffe ยิ่งปืนใส่หัวหน้าเผ่า Chief Powhatan (ซึ่งก็คือ พ่อของ Pocahontas)
ทำให้กระสุนทะลุท้องของ John และมีผลให้สงครามระหว่างผู้รุกรานกับเจ้าของพื้นที่ต้องหยุดรบ
Pocahontas ต้องตัดสินใจว่าจะตาม John ไปกับเรือที่นำคนรักของเธอกลับไปรักษาตัวที่อังกฤษหรือเปล่า
แหม..ถ้าเป็นสาวๆในซอยบ้านเฮียป่านนี้กระโดดขึ้นเรือไปโดยไม่ต้องคิดมาก
แต่นางเอกเรื่องนี้ตัดสินใจอยู่กับพี่น้องและพ่อแม่ของเธอ
ซึ่งเธอต้องมีหน้าที่ช่วยงานพ่อของเธอดูแลผู้คน ป่า แม่น้ำ และสัตว์ป่า
ดังนั้นจึงต้องมีฉากที่นางเอกกับพระเอกร่ำลาจากกัน

การ์ตูนเรื่องนี่ตอนแรกเฮียก็ชอบนะ แต่พอมารู้ว่าท่านพี่ Mel Gibson เป็นคนภาคเสียง John Smith เลยเซ็ง
พี่กิ๊ปสั้นนี่หลังๆ เอาแต่เมาเหล้าแล้วทำเรื่องไม่น่ารักหลายที เสียดายเคยชอบเขาจากเรื่อง Lethal Weapon
คำว่า lethal นี่แปลว่า ทำให้เป็นอันตรายถึงตาย ออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า little ที่แปลว่า เล็กน้อย
สมัยก่อน เพื่อนๆของเฮียเวลาคุยกันเรื่องทะลึ่งๆ แล้วไปเกี่ยวข้องกับคำว่า ช้างน้อย หรือ ไอ้หนอนน้อย
พวกเราจะใช่คำว่า the little weapon
ใครโดนเรียกหรือล้อแบบนั้น ก็จะโกรธ (นิดหน่อย)
เพราะเป็นที่เข้าใจดีว่า หมายถึงว่า มันเล็กนิดเดียว อิอิ
เฮ้ยซ์ ขอโทษ ออกนอกเรื่องไปลงเหว ลงทะเล อีกแย้ว

เย้ๆ อาหมวยไม่เจ็บไม่ไข้ก็ดีแล้วนะ
แต่อย่างไรก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วย อย่าเอาแต่ห่วงคนอื่น
ท่านแม่ของเฮียก็เฉือนมดลูกออกไปตอนอายุห้าสิบพอดิบพอดี
รายนั้นไม่มีปัญหาเพราะกำลังจะไฟนอลพีเรียดพอดี ท่านเลยโอเค สบายปรื๋อ
ส่วนคนแถวบ้านของเฮียคนหนึ่ง เขาก็ถอดเครื่องในทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลเป็นสิบปีเหมือนกัน
แรกๆก็เห็นเขาทานฮอร์โมนทุกวัน พอผ่านไป 2 ปี ไปตรวจเครื่องเมมโมกรรม เอ้ย...แกรม
เจอก้อนเนื้อจิ๊ดหนึ่งจนได้ เลยต้องเจ็บตัว และเสียตังค์ให้หมอผ่าออก อย่างหวาดหวั่น
ต่อมาเขาก็ทานฮอร์โมนสลับวันเว้นวัน ไปๆมาๆเลยเลิกทานไปเลย บอกว่าตายเป็นตาย
แต่ไม่ขอเป็นมะเร็ง (โห...สั่งให้ตัวเองไม่เป็นโรคได้ด้วย)
ทุกวันนี้เธอก็งดพวกเนื้อ และสัตว์ใหญ่อย่างพวกไดโนเสาร์ก็เลิกทานไปนานแล้ว
เมื่อวานยังเห็นเขาทานต้มยำลูกน้ำ กับมดแดงทอดกรอบ เป็นอาหารเย็นเลย
(เขาบอกว่าต้องหัดทานสัตว์เล็กแทนสัตว์ใหญ่ 555)

อาการวูบๆวาบๆ บางวันร้อน บางวันหนาว อันนี้นอกจากเรื่องขาดฮอร์โมนประจำเพศแล้ว
การที่ร่างกายเราปรับสมดุลย์ของฮอร์โมนตัวอื่นๆไม่ได้ดี ก็๋จะมีอาการหนาวๆร้อนๆเหมือนกันนะตัวเอง
เฮียคิดว่าสาเหตุมาจากหลายประการ ที่แน่ก็เรื่องของวัย
ส่วนเรื่องอื่นๆก็ได้แก่ อาหารการกิน และความเครียด
ดังนั้น โปรดทำจิตใจให้ร่าเริงอยู่เสมอ

วันเสาร์ต้องไปประชุมผู้ปกครอง
สงสัยต้องแต่งตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่หน่อย
เดี๋ยวเขาจะหาว่า ที่เด็กของคุณเป็นแบบนี้
เพราะมีพ่อพิมพ์ที่น่าเกลียดน่าชังแบบนี้ 555

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 3 กันยายน 2553 14:32:09 น.  

 

การ์ตูนญี่ปุ่นที่เป็นภาษาญี่ปุ่นและเขียนกันหลายๆสิบปี

มีการ์ตูนญี่ปุ่นต้นตำรับของแท้ๆ หลายเรื่องที่มีการแปลเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นภาคภาษาไทย
แต่ถ้าจะตอบคำถามว่า การ์ตูนญี่ปุ่น ที่ทำเป็นเล่มๆนั้น เรื่องไหนที่เขียนกันยาวๆบ้าง
สำหรับคำตอบนี้ ผมเองต้องยอมรับว่า ไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่หรอก แต่รู้ไว้ก็เอาไว้โม้กับเขาได้บ้างหรอกน่า



เรื่องที่ยาวลำดับที่ 1 คือ Kochira Karsushika-ku Kameari Koen-mae Hatshutsujo ฉบับแรก ปี 1976
เป็นผลงานของ Osamu Akomoto มีจำนวน 170 เล่ม (มีถึงตอนที่ 1,600 แล้วนะคุณ)
คนญี่ปุ่นก็รำคาญชื่อยาวๆแบบนี้เหมือนกันเลยเรียกอีกชื่อว่า Kochikame
ชื่อยาวๆนี้น่าจะแปลว่า สถานีตำรวจหน้าสวนสนุก Kameari ในชุมชน Katsushika
ว่ากันว่าน่าจะเป็นพื้นที่แถวๆชานเมืองของนครโตเกียว ของญี่ปุ่น
นักอ่านการ์ตูนเมืองไทยเรียกเรื่องนี้ว่า คุณตำรวจป้อมยาม
ตัวเอกของเรื่อง เป็นตำรวจญี่ปุ่น ชื่อ เรียวซัง



ลำดับที่ 2 Golgo 13 ฉบับแรก ปี 1969
ผลงานของ Takao Saito มีจำนวนมากกว่า 155 เล่ม
เป็นเรื่องของมือปืนรับจ้างฆ่าทุกคน ทุกรูปแบบ ดังนั้นจึงเป็นแนวผู้ใหญ่มากกว่าเด็กน้อยน่ารักนะคุณ
ไม่รู้ว่ามีตอนที่ฆ่าบินลาดินหรือเปล่า?



ลำดับที่ 3 Dokaben
ผลงานของ Shimji Mizushima เริ่มเขียนในปี ค.ศ. 1972 จนถึง ปี 1981
แล้วกลับมาเขียนใหม่ในปี 1995 จนถึงวันนี้ ปุจจุบันมีมากกว่า 144 เล่ม
dokaben หมายถึง big box of bento
ตัวละครเอกของเรื่อง(protagonist) ชื่อ Taro Yamada เป็นคนชอบทานอาหารกล่องที่เรียกว่า เบนโตะ
และต้องเป็นกล่องใหญ่เสียด้วย
Dokabenเป็นงานเขียนที่ได้รับอิทธิพลมาจากความชื่นขอบกีฬาเบสบอล (เอาเป็นว่าคลั่งจะดีกว่า) ของวัยรุ่นญี่ปุ่น
ตัวละครและการดำเนินเรื่อง ชีวิตของนักกีฬาเบสบอลของทีมในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
ตอนเด็กผมเชื่อว่า คนญี่ปุ่นเล่นเบสบอลเก่งที่สุดในโลก เพราะการ์ตูนและหนังญี่ปุ่นหลายเรื่อง
แหม...อายพวกฝรั่งจัง
อยากจะถามคนญี่ปุ่นว่า เคยเกลียดฝรั่งมากมายหนักหนา แต่ทำไมไปสนใจกีฬาของพวกผิวเผือกได้อย่างไร
การ์ตูนเรื่องนี้นับเป็นการนำร่องให้การ์ตูนกีฬาตัวอื่นๆคลอดตามออกมา
คุณพอจะนึกถึงการ์ตูนเรื่อง Slam Dunk ของ Takejiko Inoue ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของบาสเก็ตบอลได้หรือไม่
วงการการ์ตูนญี่ปุ่นที่เป็นแนวกีฬาถือว่า Slam Dunk เป็นราชา ส่วน Dokaben เป็นราชินี เรียกว่าเป็นรองกันนิดเดียวเอง
เรื่องนี้ก็ทำให้ผมคิดว่า ญี่ปุ่นก็ยังเป็นแชมป์กีฬ่าบาสเก็ตบอลกับเขาด้วยอีกแล้ว 555



ลำดับที่ 4 Cooking Papa
งานเขียนของ Tochi Ueyama เริ่มประมาณปี 1984
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2010 มีการเขียนไปถึงเล่มที่ 110 แล้วครับ
เป็นเรื่องของคุณพ่อที่เป็นมนุษย์เงินเดือนแต่สามารถทำอาหารได้หลายอย่าง และอร่อยมาก
เมื่อเอาไปทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน จะมีการบอกสูตร(recipes)อาหารให้คนดูทราบตอนท้ายเรื่องทุกตอน
ที่ญี่ปุ่นนี้ผู้หญิงเป็นแม่บ้านทำกับข้าวกับปลามาหลายชั่วอายุคน
แต่พวกคนทำครัวอาชีพในประเทศญี่ปุ่นกลับเป็น ผู้ชาย
แหมประเทศนี้ นักรบก็ผู้ชาย นักกีฬาก็ผู้ชาย เชฟทำอาหารก็ต้องผู้ชาย
อยากจะส่งอาจารย์ยิ่งศักดิ์ไปโชว์ฝีมือจริงๆ 555



ลำดับที่ 5 Oishinbo
เป็นผลงานร่วมของ Tetsu Kariya เป็นคนวางเรื่อง
กับ Akira Hanasaki เป็นคนวาดรูป
เขียนตั้งแต่ปี 1983 จนถึง 2008 มีจำนวนถึง 102 เล่ม
oishinbo น่าจะหมายถึง gourmet (กัวเม่) นักชิมอาหาร
เรื่องนี้ถ้าทำเป็นหนังมาฉายเมืองไทย ต้องกราบเชิญอาหม่อมถนัดศรี ไปเปิดงาน
อ้อ...เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่คอยสืบหาอาหารอร่อยๆไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
มีข่าวว่ามีการกลับมาเขียนตอนต่อไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2009 ซึ่งป่านนี้น่าจะละเลยเล่มที่ 104 ไปแล้วหละ

เอาแค่ big five ก็แล้วกัน เพราะรู้ว่าไม่ค่อยมีใครอ่านหรอก อิอิ
เดี๋ยวนะ ยังมีข้อมูลมาเพิ่มเติมให้อีก



Captain Tsubasa เจ้าหนูสิงห์นักเตะ
ผลงานของ Yoichi Takahashi มีจำนวน 72 เล่ม
เรื่องนี้คนที่อายุเกินสามสิบน่าจะจำกันได้ เอ้...ไม่ใช่ซินะ เพราะเขาเอามาฉายใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี่อีกรอบนี่
เรื่องนี้เป็นเรื่องของนักกีฬาซอคเก้อร์หรือฟุตบอล
สมัยผมเป็นวัยละอ่อนชอบดู ชอบลุ่น
แต่พอเข้าวัยถอดเขี้ยวเล็บงาเขาออกหมดแล้ว กลับมาดู ทำไมหงุดหงิดจัง
คงเป็นเพราะจริตเรามันเปลี่ยนไปแล้ว แค่ดูว่าเขาวิ่งยิ่งประตูกันนานกว่าห้านาที ยังไม่ถึงหน้าโกลเลย
ในระยะห้าสิบเมตร การ์ตูนคุยกันไปเรื่อยๆ แต่เรากลับคิดว่า สนามอะไรทำไมมันยาวขนาดนั้น
นี่แหละนะ คนขวางโลก ดูการ์ตูนยังไม่ฮากับเขาเลย

Seint Seiya
ผลงานโดย Masami Kurumada
ไม่ทราบว่ามีกี่เล่มแต่ที่แน่ๆ ปัจจุบันได้มีการนำมาทำเป็นแบบรวมเล่มจำนวน 28 เล่มใหญ่
สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ทำรายได้มากโข
เซนต์เซย่า มีหลากหลายภาค สนุกทุกภาค
ความจริงเซย่า เป็นพวก ดาวม้าบิน แต่ชื่อไทย ใช้ว่า เทพบุตรหมัดดาวหาง
ทีแรกนึกว่า จะใช้ดาบ แต่ชื่อแบบนี้ทำให้คิดว่า เป็นพวกคิ๊กค์บ๊อกซิ่ง ไปซะแล้ว

Crayon shinchan
ชื่อแบบนี้อาจจะงง ต้องบอกว่า ชินจังจอมแก่น อันนี้คงร้องว่า อ๋อเหรอ
เป็นผลงานของ Yoshita Usui ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วในวันที่ 11 กันยายน 2009 นี่เอง
ดังนั้นการ์ตูนคงยุติเอาไว้ที่ 48 เล่ม
ตัวเอกคือ ดช โนฮาร่า ชิโนสุเกะ หรือ ชินจัง
ซึ่งเป็๋นเด็กอนุบาลวัยห้าขวบแต่คิดลามกมากกว่าผู้ใหญ่วัยห้าสิบเสียอีก

Doraemon ชื่อนี้ใครไม่ทราบบ้างเอ่ย
เป็นผลงานของ Fujiko F Fujio ซึ่งเป็นนามปากการ่วมของ Hiroshi Fujimoto กับ Motoo Abiko
คุณ Fujimoto จากโลกนี้ไปเมื่อ 23 กันยายน 1996
ดังนั้นงานเขียนเรื่องนี้คงหยุดอยู่ที่ 45 เล่ม

จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด

 

โดย: zoomzero 3 กันยายน 2553 16:42:25 น.  

 



หวัดดีค่ะเฮีย
เพิ่งตื่นค่ะ ในรอบหลาย ๆ เดือนเลยที่ตื่นสายอ่ะมินหน่ะ
จริง ๆ ตั้งแต่ตีสามตื่นแล้วค่ะ แต่ วันนี้ไม่ลุกจากที่นอน
อืม..ลุกมาเปิดประตู เปิดหน้าต่าง ปิดแอร์ เพราะรู้สึกว่าอากาศข้างนอกมันเย็น ๆ ค่ะ
ตอนแรกจะมาเล่นคอมพ์แล้ว แต่กลับไปนอนฟังเพลงดีกว่า
ฟังไปฟังมา กลายเป็นวิทยุฟังมินไปซะแล้วอ่ะนะคะ ฮ่า ๆ ๆ

วันนี้ ต้องไปบ้านโน๊นแต่เช้าค่ะ เพราะนัดช่างไว้
ช่วงที่ฝนตกหนัก ๆ เนี่ย ทำให้รู้ว่าครัวด้านหลังบ้านโน๊นรั่วค่ะ
ก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นที่หลังคาหรือที่ไหน
เดี๋ยวให้ช่างเค้าดู แต่ คิดว่าน่าจะเป็นที่หลังคามากกว่า
ไม่รู้ว่าจะได้ทำวันนี้หรือป่าวอีก เดี๋ยวดูฝนฟ้าอีกทีค่ะ
วันนี้จริง ๆ เพื่อนมันชวนไปเดินงานไทยเที่ยวไทยอ่ะค่ะ
ยังไม่รู้ว่าจะไปหรือป่าวเหมือนกัน บางทีเห็นโปรอาไรถูก ๆ
แล้วไปซื้อมาเก็บไว้เนี่ย พอจะไปจริง ๆ มันไม่ได้อย่างใจเลยค่ะ เชื่อไม๊
ไอ้พวกใช้ได้ทั้งศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เนี่ยแหละ ตัวดีนัก
ใช้ได้จริงแต่ห้องคุณไม่เคยว่างซักที แล้วชั๊นจะได้ไปเมื่อไรเนี่ย เฮ๊อ..
ขนาดเมมเบอร์แอคคอร์แท้ ๆ เวลาจะใช้วันหยุด โทรไปจองยังไม่ว่างเล๊ย
ต้องให้น้องเพื่อนที่อยู่ที่แอคคอร์เช็คให้ อีทีนี้ว่างได้ ไปได้ แหม ถ้าไม่เกรงใจว่าจะมีปัญหาอาไรนะ โดนมินเช็คบิลแน่ ไอ้พวกเนี๊ย...

วันนี้ ประชุมผู้ปกครองเหรอคะ อิอิ
วันหลังมาเป็นผู้ปกครองให้มินด้วยนะ
แต่ไม่ใช่ที่โรงเรียนนะ อาจเป็นที่โรงพักอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ

ปล. ถึงจะอยู่ตรงนี้เสมอ ก็จะพูดอ่ะค่ะ มีปัญหาเหรอคะ ฮ่า ๆ ๆ
ติดเชื้อจอมมารคนโฉดเข้าให้แล้วอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ ไปดีกว่าค่ะ คิ๊ก ๆ ๆ ...

 

โดย: มินทิวา 4 กันยายน 2553 7:28:49 น.  

 

สวัสดีค่าพี่ซูม หายศีรษะไปเป็นนานสองนาน วันนี้แวะมาอ่านบล็อคแล้วถูกใจ คุณพี่เม้าท์ถึงการ์ตูนสมัยโบราณด้วย ตอนเด็กชอบดูการ์ตูนค่ะ จะชาติไหนก็ดูได้หมด แต่ของญี่ปุ่นจะได้ดูเยอะกว่าใคร เพราะทีวีเอามาฉายตรึม แต่พอโตมา กลับดูการ์ตูนไม่สนุกซะงั้น นอกจากการ์ตูนของจิบลิค่ะ รู้สึกว่าวาดสวยมากและแฝงข้อคิดดี ๆ เยอะ อ้อ วอล์ทดิสนี่ย์ก็ยังวาดได้สวยอยู่

จำได้ว่าการ์ตูนเรื่องแรกที่ชอบมากก็คือแคนดี้จอมแก่น คุณพี่น่าจะผ่านตาเรื่องนี้น้า หน้ากากเสือก็ชอบสุด ๆ โดยเฉพาะเพลงช้า ๆ ตอนไตเติ้ลท้ายเรื่อง คิดว่าเป็นเพลงการ์ตูนที่เพราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลยค่ะ เพลงการ์ตูนญี่ปุ่นเพราะ ๆ มีอยู่หลายเพลง อย่างอิคิวซัง โดเรมอนก็ชอบมาก

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะได้ดูการ์ตูนบ่อยนัก เลยไม่รู้ว่าวิวัฒนาการเขาไปถึงไหนแล้ว แต่การ์ตูนโป๊ญี่ปุ่นนี่เคยได้อ่านข่าวบ่อย ถ้าผู้ใหญ่อ่านคงไม่เป็นไร จะน่าเป็นห่วงก็ตรงเด็ก ๆ ได้อ่านนี่แหละ

สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ค่า

 

โดย: haiku 4 กันยายน 2553 10:10:49 น.  

 

Mintiva

เหมือนกันเลย
พอตีสี่ตีห้าก็ตื่นมาชิ้งฉ่อง ปิดแอร์
แต่ไม่ได้เปิดหน้าต่าง พอดีมีห้องน้ำในห้องนอน หน้าต่างห้องน้ำเป็นแบบเปิดตลอดกาล (มีมุ้งล้วดนะ)
เลยแค่เปิดประตูห้องน้ำอากาศก็ไหลเวียนได้แล้ว
ถ้ากลัวร้อน ก็มีพัดลมแบบยืน กดแค่เบอร์สองก็โอเคแล้ว
วันไหนฝนตกทั้งคืน อากาศตอนเช้าๆจะเย็นสบาย แบบนี้ไม่ต้องรบกวนพัดลม

ปีก่อนเฮียก็เจอปัญหาเรื่องหลังคาครัวรั่ว
ตอนแรกนึกว่าต้องรื้อ ปูใหม่ แต่โชคดีรั่วแค่รอยต่อระหว่างบ้านกับครัว
แค่เอาปูนขึ้นไปแปะอุดเอาไว้ก็ได้เแล้ว
สมัยนี้เขามีปูนซิเมนต์กันรั่วซึม แห้งเร็ว งานซ่อมรอยรั่วทำแค่ครึ่งวันก็เสร็จ
ถ้ารั้วนิดหน่อยก็ใช้กาวซิลิโคน ฉีดโปะเอา พอแห้งก็ทาสีทับ บ้านสวยเหมือนเดิม

เรื่องตั๋วทัวร์ล่วงหน้า เคยเจ็บและเคยสมหวังมาหลายครั้งเหมือนกัน
ส่วนใหญ่ก็โอเคนะ อันนี้หมายถึงเที่ยวในไทย
เฮียไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องที่พัก เพราะถ้าไม่ดี ก็ย้ายใหม่ แบบว่าคนมีสตางค์(แต่ไม่มีแบงค์ใหญ่)
ส่วนใหญ่เจอแบบว่าเขาให้ไปเครื่องบินยี่ห้อที่ไม่ค่อยรักษาเรื่องเวลา
บางทีก็เจอเครื่องลำเท่าเรือข้ามฝาก ต้องกำพระเครื่องตลอดเส้นทางเหินฟ้า
คิดแล้วอยากจะมีเครื่องบินส่วนตัวกับเขาบ้าง เมื่อก่อนก็มีนะ แต่ขายให้สวนสยามเอาไปทำให้เด็กนั่งเล่นไง 555
ตอนหลังเลยเลือกแพ็คเก็จแบบไม่รวมเรื่องการเดินทาง ซื้อแต่ห้องพักและตั๋วพาไปกินหรือไปเที่ยว
เรื่องเดินทางเราหาทางไปเองได้เฟ้ย
อาหมวยพูดถูกที่ว่า พอเราจะไป ดันเป็นช่วงสีสัน เอ้ย..ซีซั่น ห้องไม่ว่าง
แต่พอแกล้งลองโทรศัพท์ไปถามที่โรงแรมหรือรีสอร์ท แหม...ห้องว่างตรึม
ปีก่อนซื้อพวกรีสอร์ทที่เขาเอามาร่วมทำโปรโมชั่น
อะไรๆก็ดีหรอกนะ แต่บางกิจกรรมนี่ พวกเด็กๆเขาไม่เอาด้วย เลยเสียไปฟรีๆ
อ้อ..ที่เด็กไม่เอา เช่น พาไปดำนา พาไปทำสวนครัว พาไปทำปุ๋ยธรรมชาติ แบบนี้เด็กๆดื้อมากๆ
ส่วนเรื่องที่พาไปชมสถานที่นอกสถานที่พัก (เอ้...เขียนภาษาไทยไม่ชัดเจนหรือเปล่า)
เจอปัญหาเรื่องการจัดรถ อย่างเมื่อปีก่อนไปชมโรงถ่ายหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวร
เขาจัดหารถบัสคันเล็กเท่าลูกช้าง แอร์ก็เสียงดัง ไม่เย็นเลย และจำนวนคนก็มากกว่าที่นั่ง
ที่เจ็บใจคือ พวกคนรวยไม่จริง นิสัยมันแย่มาก ไม่ตรงต่อเวลา อยู่ในรถก็แหกปากคุยกันเสียงดัง
การแต่งกายก็ดูดี แต่คงขาดการอบเรื่องมารยาทและจริยธรรมจากมารดาบิดากระมัง
เคยเจอชายหญิงคู่หนึ่งสงสัยเพิ่งแต่งงานหรือไม่ก็เพิ่งเจาะไข่แดงกัน
พนักงานพาเที่ยวเขาอธิบายหรือนัดหมายอะไรไม่ฟัง เอาแต่นั่งล้วงๆควักๆทำตาเยิ้มใส่กัน
พอตอนจะกลับต้องไปล่าหาตัว เหมือนชนีกับคิงคองหลุดจากกรง ต้องบอกให้คนขับรถทิ้งไปเลย
แล้วให้พนักงานของสถานที่บอกให้เขารอ รถจะกลับมารับอีกรอบ
ก็มันเย็นแล้ว ยังไม่มาอีก ต้องรีบไปทานอาหารเย็นซึ่งเป็นแบบแย่งกันตัก อ๋อ..เขาเรียกว่า บุฟเฟ่ หนะ
เรื่องอาหารนี่ พวกโรงแรมหรือรีสอร์ทที่ใกล้เจ้งนี่น่ากลัวนะ ทำอาหารน้อยอย่าง ปริมาณก็น้อย แถมไม่อร่อย
เดี๋ยวนี่เลยชอบไปเอง หาที่พักเอง หาที่เที่ยวเอง แพงหน่อย แต่ยืดหยุ่นดี คนแก่ก็อย่างนี้แหละ ขี้บ่น ขี้รำคาญ
เรื่องอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย เฮียว่ายังต้องปรับปรุงอีกเยอะ คนบ้านเราชอบขี้โกง และหน้าด้านแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
เออ เออ แต่รีสอร์ทหรือโรงแรมแบบแพงมหาโหดนี่ มีคนไปพักผ่อนเยอะพอดูเลยนะ
เคยถามคนที่เขาไปนอนที่ภูเก็ตตรงโซนแพงๆ เขาบอกว่า ที่ไปพักเพราะบริษัทจ่าย
เฮ้ย...บริษัทอะไรจะใจดีแบบนั้น ฮี่โธ่...ที่แท้ก็บริษัทของครอบครัวตัวเองนี่หว่า
แล้วอย่างนี้พอสิ้นปีมา บอกว่าขาดทุนๆ โบนัสไม่ให้ เงินเดือนไม่ขึ้น ช่างน่ารักจริงๆ
เอาเงินส่วนกลางมาบำรุงบำเรอความสุขของผู้บริหาร
ชนชั้นล่างทำงานงกงก เหนื่อยแทบขาดใจ เพื่อรายได้น้อยนิด

อาหมวยเคยไป ปาย หรือยัง
เฮียยังไม่เคยไปเลย อยากไปจัง
กลัวเมารถ เห็นเขาว่ามีหลายโค้งเหลือเกิน ไม่อยากอ้วกแตกคารถชาวบ้าน
อือ...ที่เขาใหญ่ ตอนหน้าหนาว อากาศก็น่าไปเที่ยวเหมือนกัน
นึกออกแล้วไปหาที่นอนที่สระแก้วดีกว่า ตื่นเช้ามาก็เข้ากัมโบเดียไปเล่นกาสิโนก็ได้
เมื่อไหร่จะมีโอกาสพาอาหมวยไปเที่ยวน้า จะพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้น 555

ประชุมผู้ปกครองวันนี้ เขาจัดดี อาหารดี คนพูดก็ดี แอร์เย็นเจี๊ยบ
มีดาราสาวสวยมาพูดด้วย เห็นว่าเรียนจบไปด้วยเกรด 3.91
สมัยนี้มหาวิทยาลัยเขามีช่องทางติดต่อกับผู้ปกครองได้ไฮเทคมาก
เขาบอกให้ใช้ facebook แหม..ทันสมัยจริงๆ
ถ้าให้เฮียเป็นผู้ปกครองอาหมวยนะ จะเอาไม้ก้านมะยมตีก้นทุกวันเลย
ข้อหาที่ชอบทำร้ายหัวใจหนุ่มๆ อิอิ

สัปดาห์นี้ไม่ได้ทำบุญทำกรรมดีอะไรเลย
เมื่อวานไปทานสุกี้มา ทานเมนูผักเผื่ออาหมวยด้วยนะ
กิ๊กที่พาไปด้วยเกิดอยากทานติ่มซำ เพราะวันก่อนไม่ได้ทาน ฝั่นโก๋
เลยต้องมาบริโภคที่ร้านสุกี้เป็นการแก้แค้น หม่ำ หม่ำ หม่ำ
ออกจากร้านมาเจอไอศครีมเดรี่ควืน เลยคว้าหมับมาอีกถ้วย
เนื้อไอติมเหนียวๆ ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร ลืมชื่อไปแล้ว

อ้าว...เอเอฟ จบไปเมื่อไหร่
แล้วใครออกก็เลยไม่รู้
ใช่เด็กฝรั่งหรือเปล่านะ?

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 4 กันยายน 2553 23:29:37 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะเฮีย อิอิ
ไม่ทันแล้วค่ะ เมื่อวานให้เพื่อนซื้อ ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ทมา 2 ชุดแล้ว ฮ่า ๆ ๆ
มินหน่ะ ยังไม่เคยไปเลยอุบลอ่ะ อยากจะไปเที่ยวแถวอิสานเหมือนกัน
แต่ เพื่อนเค้าเคยไปพักที่นี่ เขาบอกว่าสวยมาก ๆ ห้องพักเนี่ยมองเห็นวิวแม่น้ำเลย (ไม่รู้ใช่แม่น้ำโขงหรือป่าว)
เห็นว่าใช้ได้ถึงกันยา 54 เลย ยกเว้นช่วงเทศกาลค่ะ
ไม่เป็นไร ช่วงเทศกาลมินไม่ค่อยชอบไปไหนอยู่แล้วอ่ะค่ะ

ปาย มินไปมาแล้ว 2 ครั้งค่ะ ล่าสุดก็เมื่อ 2 ปีก่อนนี้เอง
นี่พวกที่ทำงานก็ร่ำ ๆ กันว่า อยากไปตอนปีใหม่นี้่ ไปกันนะ
ถ้าถามมินนะ มินเฉย ๆ ค่ะ เพราะว่ามันจอแจจ๊อกแจ๊ก เกินไปแล้ว
แล้วถ้าในตัวปายเอง เฮียเดิน 3 ชั่วโมงก็ทั่วแล้ว ไม่รู้จะไปไหนอีก
นอนที่ปาย แต่มันต้องขับรถออกไปเที่ยวไกล ๆ เช่นดอยกิ่วลม ปางอุ๋ง และอีกหลาย ๆ ที่
คราวที่แล้วคนรถมารับตีสี่ เพื่อจะพาไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอ่ะค่ะ
พวกมินเกือบลุกกันไม่ไหวเลย เพราะเล่นไพ่กันกว่าจะเลิกก็ตีสองแล้วอ่ะ
เล่นกันตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า พอเลิกแล้วนับไปนับมาได้เสียกันคนละไม่ถึง 200 ฮ่า ๆ ๆ
ตอนนั้นมินไปแบบคล้าย ๆ แบ๊คแพ็คกันค่ะเฮีย คือนั่งรถนอนวีไอพี ไปลงเชียงใหม่
จากนั้นเพื่อนที่เชียงใหม่มันส่งรถตู้มารับไปแม่ฮ่องสอนและพักที่แม่ฮ่องสอง 2 คืน
ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นนอน ปายริเวอร์คอนเนอร์ หรือไงเนี่ย เป็นรร.ที่ติดแม่น้ำและอยู่สุดทางเดินของปายเลยค่ะ
ขากลับมานอนเชียงใหม่คืนนึงแล้วขึ้นเครื่องกลับกันตอนเย็น
รู้สึกว่าจะเป็นพฤศจิกาหรือไงเนี่ย กลางวันร้อนแต่กลางคืนหนาวค่ะ อิอิ

เมื่อวานก็ไม่ได้ไปซื้อปลาปล่อยเหมือนกันค่ะ
ไปบ้านแม่ ไปรอช่างตั้งนานเค้ามาคุยแป๊ปเดียวไม่ถึงครึ่งชม.จบ
เป็นที่หลังคารั่วจริง ๆ ค่ะ แล้วก็ไม่ยุ่งยากอาไรมากเลยให้เค้าคุยกับแม่ต่อ
เพื่อนมันโทรมาตาม แต่มินไม่ไปเดินศูนย์สิริกิตต์ ด้วยหรอก หาที่จอดรถลำบาก
ให้เค้าเดินดู อาไรน่าสนใจก็โทรคุยกัน แล้วนัดทานข้าวกันที่พารากอนค่ะ
โอว..เมื่อวานพารากอน นึกว่ามีอาไรซะอีก เพราะวนหาที่จอดรถซะ 3-4 วน ยังหาไม่ได้เลยค่ะ
เมื่อวานเลยได้เค๊กร้านกัลป์พฤกษ์มาหลายชิ้นเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เนี่ย ก็กำลัง อ้ำ ๆ ๆ เผื่อเฮียอยู่เหมือนกัน นะคะ อิอิ

เอเอฟ 7 มินไม่ค่อยได้ติดตามดูแล้ว ดูมั่งไม่ดูมั่ง
ไม่ได้ตามดูเลยตั้งแต่น้องมาร์คออกไปอ่ะค่ะ
รู้สึกว่าเมื่อคืนน้องเบนฝรั่งโดนออกจากบ้านนะ
เสียดายเพราะชอบฝรั่งอีกเหมือนกัน
มินคงชอบใครไม่ได้ เพราะชอบใครคนไหน คนนั้นโดนออกหมดเลย ฮ่า ๆ ๆ (ขอโทษน้อง ๆ ด้วยนะจ๊ะ ฮ่า ๆ ๆ)

วันนี้ ยังอ้อยอิ่งอยู่บ้านค่ะ ไม่มีโปรแกรมไปไหน
อาจจะไปทำเล็บค่ะ เพราะเมื่อวานได้แต่สระผม
คือ มองเวลาแล้วมันไม่ทันนัดอ่ะค่ะ เลยสระผมได้อย่างเดียว
อืม..คงไปตลาดด้วย ไม่ได้ปล่อยปลาเลยค่ะช่วงนี้
วันนี้เอาซะหน่อย ว่าง ๆ อยู่ แล้วจะอธิษฐานเผื่อนะคะ

ปล. ห้องน้ำมินก็อยู่ในห้องนอน เป็นมุ้งลวดเหมือนกัน
แต่มินเป็นคนไม่ชอบเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ค่ะ
และกลัวยุง เคยเห็นยุงบินในห้องน้ำด้วย
แต่ มินเป็นคนไม่ตบยุงค่ะ เพราะยุงยังไงมันก็อายุสั้นอยู่แล้วนี่นา ให้มันตายของมันเองดีกว่าค่ะ ฮ่า ๆ ๆ

 

โดย: มินทิวา 5 กันยายน 2553 8:36:24 น.  

 



หวัดดีค่ะเฮีย
วันนี้ ส่งเสียงมาจากที่ทำงานค่ะ อิอิ
เมื่อวานนี้ตกลงได้ไปซื้อปลาดุกที่ท้องทุกตัวเลย
และกบที่ท้องอีกเหมือนกัน อย่างละ 5 ตัว
แต่ กบ มินวานให้คนขายเค้าไปปล่อยให้
เพราะไม่กล้าปล่อยเอง กลัวตอนมันกระโดดอ่ะค่ะ อิอิ

เมื่อวาน ลองทำต้มข่าไก่ดูค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ซื้อกระทิมาเก็บไว้ตั้งแต่ตอนงานอาหารโลกนู่น
ไม่อยากบอกเลยว่า มันเป็นกระทิสำหรับทำขนมอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ไว้สำหรับพวกทำทับทิมกรอบ หรือสลิ่มอ่ะ
เลยทำให้ต้มข่าไก่ของมินอ่ะ มันทั้งหอม ๆ หวาน ๆ เหมือนขนมเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
แต่อร่อยนะคะ ขอบอก (ทำเอง ถ้าบอกไม่อร่อยแล้ว ใครมันจะอยากทานคะ เน๊อะ ฮ่า ๆ ๆ)

ปล. เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ ด้วยใจที่ผ่องใส มีแต่ความสุข นะคะ

 

โดย: มินทิวา 6 กันยายน 2553 9:32:26 น.  

 

Mintiva

ว้าาา....ว่าจะเขียนตอบคอมเมนท์ของคุณไฮกุ
แต่มาเจอคอมเมนท์ของอาหมวย รู้สึกว่าจะหลายประเด็นเหลือเกิน
เลยขอลัดคิวมาเม้าท์กระจายก่อนดีกว่า



อันดับแรก ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท
เอ้ย...อันนี้ก็อยากไป มีคนเข้าไปมาแล้วมาบอกว่า เก้าเต็มสิบ
สถานที่ดี อากาศดี อาหารอร่อย พนักงานดี เป็นกันเอง (คือว่า ตบหัวเราเล่นได้ 555)
แหมเขาว่าตอนเช้ามีบุฟเฟ่เป็นอาหารท้องถิ่น แถมยังมี ก๋วยจับญวนแบบดั้งเดิมแท้ๆ มีไข่กะทะ(แสนอร่อย)
ส่วนพวกติดนวด ก็ไม่ผิดหวัง เขามีสปา(ต้า)อีกด้วย
กลางคืนถ้านอนไม่หลับที่นี่เขายังมีร้านกาแฟและบาร์หรือผับ ประมาณนี้แหละ เมาแล้วให้บ๋อยอุ้มมาส่งหน้าห้องได้เลย
จุดแข็งของรีสอร์ทนี้คือ อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวของอุบลฯมากๆ
ตอนสายๆสามารถแว็บไปเที่ยว ผาแต้ม สามพันโบก ฯ ได้สบาย
อาหมวยไปทำสปาริมแม่น้ำโขง อย่าลืมถ่ายรูปแบบข้างบนนี้เอามาฝากอาเฮียด้วยนะ อิอิ

สำหรับ ปาย
อยากไปก็ยังอยากไปนะ แต่เจ้าพวกที่ไปมาแล้ว(ไม่รวมอาหมวยนะ)
เขาก็มีทั้งชมและบ่นปะปนกันไป ส่วนใหญ่บ่นมากว่าชม
เขาว่าเสาร์อาทิตย์จะมีรถตู้มาที่นี่เหมือนงานมอเตอร์โชว์
มีคนมาเดิน มาถ่ายรูปยิ่งกว่าดิสนี่ย์แลนด์ในอเมริกา (เขาว่าพรรณนั้น)
เฮียได้ยินได้ฟังเรื่องลับที่ไม่ลึกของปายมาหลายเรื่อง
แค่อยากไปเห็นกับตาเท่านั้นเอง แต่ถึงไม่ได้ไป ก็ไม่เป็นไร มีน้องสาวเคยไปมาตั้ง 2 ครั้ง
แบบนี้ก็เอามาแบ่งเฮียได้คนละครั้ง 555

เดี๋ยวนี้มีการปล่อยกบด้วยหรือครับ
ว๊าว...เป็นการแก้เคล็ดที่ชอบปล่อยกบ เดินล้มลุกคลุกคลานเป็นลูกขนุนกลิ้งบ่อยๆหรืออย่างไร
เฮียเคยไปถามพระมาว่า ทำไมคนไทย คนพุทธ ถึงนิยม ปล่อยนก ปล่อยปลา มากที่สุด
ท่านก็ตอบว่าท่านไม่รู้
เอ้ย...ยังไม่หมด อย่าเพิ่งทำหน้าเซ็ง
ท่านอธิบายต่อว่า อย่างแรกปล่อยนก คงมาจากการเลี้ยงนก แล้วเหมือนพรากเขาจากอกพ่อแม่
เปรียบเหมือนจับชีวิตที่บริสุทธิ์มากักขัง ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด
ถ้ามองในแง่กฏแห่งกรรม ก็เผื่อว่าวันหน้าเราอาจจะถูกใครเอาไปกักขัง ไม่ว่าเราจะผิดจริงหรือไม่จริงก็ตาม
หรือแม้แต่ว่าการเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่แสนจะน่าเกลียดน่ากลัว แบบว่าแต่งงานแล้วไปเจอแม่สามีจอมบงการ
ก็ขอให้บุญกุศลนี้ทำให้เราหลุดพ้นจากกรรมที่เป็นลักษณะการถูกกักขังหรือติดในวังวนสังคมที่ไม่น่าพึงพอใจ
ส่วนอีกอันหนึ่ง การปล่อยปลา เหมือนการให้ชีวิต โดยเฉพาะการปล่อยปลาตัวเมีย ปลามีไข่ในท้อง
แบบนี้จะเป็นการให้โอกาสชีวิตน้อยๆอีกมากมาย
สมัยก่อน คนเราก็ยิงนกตกปลาเพื่อเอามาทำเป็นอาหาร
การปล่อยให้สัตว์พวกนี้มีจำนวนมากขึ้น ก็เท่ากับเป็นการสร้างอาหารให้มีมากขึ้นในธรรมชาติ
ดังนั้นบางทีเห็นเขาเอานกเอาปลามาขายให้คนปล่อยตามวัด ดูขัดตาเพราะว่า เป็นกรรมพานิชย์
เป็นการทำร้ายชีวิตเพื่อหารายได้ แต่สุดท้ายก็เป็นการให้โอกาสหรือต่อชีวิตพวกนกพวกปลาอยู่ดี สาระ เอ้ย สาธุ

หมูนี่เจอคนไม่ยอมตบยุง หลายคน
สำหรับเฮีย ถ้าไม่มากัด ก็ไม่ตบ
ถ้าบินวนเวียนจนรำคาญ ก็เจอดีทีที ฉีดแล้วเราก็หนีหายไป อีก 3 ชั่วโมงค่อยเข้าห้องใหม่อีกที
เรื่องศีลข้อหนึ่งนี่ แล้วแต่คนจะตีความ
เฮียคิดว่า ตีความหมายแล้ว ทำแล้วจิตใจไม่ตกต่ำ ไม่อาฆาต ไม่จงใจทำร้าย ก็คงโอเค 555
ยุงมันอายุสั้น ถ้าเราทำมันตายเร็วหน่อย มันคงไม่ว่าเรา และพวกมันก็มีจำนวนมาก เราฆ๋ามันไม่ถึง 0.0001 % หรอกเน๊อะ

ส่วนเรื่องรายการชิมไปชมไปนี่ซิ
เกิดมาก็ไม่เคยทานไก่ต้มข่ากะทิมะพร้าวน้ำหอมเหมือนกัน
แต่อยากจะบอกว่าเป็นคนชอบทานไก่ต้มข่ามากๆ ชอบแบบเผ็ดๆเปรี้ยวๆด้วย
และต้องมะนาวแท้ๆ ไม่ใช้น้ำมะนาวเทียม หรือมะนาวหน้าแล้ง
และเป็นกรรมพันธุ์ด้วยนะ เพราะคุณพ่อของเฮียก็ชอบทาน
ที่ว่าแบบนี้ก็เพราะขนาดคุณหนู ซึ่งเป็นเด็กโข่งที่ไม่ยอมทานผัก ไม่ทานอาหารที่ใส่ผัก
ยิ่งเป็นพวกขิง ข่า ตะไคร้ ยิ่งไม่ยอมทานเลย บอกว่าเหม็นๆๆ
แต่พอมาเจอไก่ต้มข่า แหม..โซ้ยเนื้อไก่กับซดน้ำจนขอดชามเลย
เฮียยังมีความชอบ ไข่อ่อน อีกอย่าง
ถ้าคุณแม่ทำต้มข่าเมื่อไหร่ เฮียจะอาสาไปซื้อไก่ เลือดไก่ กับไข่อ่อน มาเองเลย
ที่ต้องไปซื้อเพราะว่า ถ้ามีน้อย แล้วต่องคิดเผื่อให้คนอื่นทาน เลยทานไม่สุดอารมณ์

คืนนี้ฝนตกพรำๆอีกแล้ว
กอดหมอนดีกว่า

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 6 กันยายน 2553 21:20:06 น.  

 

คุณน้องไฮกุ

การ์ตูนของ Studio Ghibli มีมากมาย
แต่ขอสารภาพว่า พี่ซูมไม่เคยได้มีโอกาสอ่านหรือดูการ์ตูนจากค่ายนี้เลย
ขนาดชื่อ จิบลิ นี่ก็เพิ่งจะเข้าใจเมื่อไม่นานมานี่เอง
เพราะเคยคิดว่าเขาเรียกว่า กิ๊บลี่
พอมาเห็นน้องไฮกุเขียนว่า จิบลิ เลยลองค้นกูเกิ้ลดู อ้าว...ชื่อนี้เอง
เขาว่าผลงานที่โด่งดังมาก คือ สุสานหิ่งห้อย
เดี๋ยวขอเวลาศึกษาเรื่องนี้ก่อน แล้วจะเอามาคอมเมนท์ว่า ทำไมถึงได้มีคนชื่นชอบไปทั่วโลก

จริงๆแล้ว เรื่องการ์ตูนที่เอามาเขียนนี้มีอยู่ 2 นัย
คือ ความสวยงามในงานวาด งานศิลป์ ที่อยู่บนสื่ออันทันสมัย อย่างอนิเมชั่นบนแผ่นดีวีดี หรือเกมส์ออนไลน์
ส่วนอีกเรื่องคือ การ์ตูน เป็นเหมือนรองเท้าคู่แรกของเด็ก
เพราะมันสามารถพาเด็กออกจากบ้านไปสู่โลกภายนอก ไปเห็นสิงสาราสัตว์ เห็นภูเขา ต้นไม้ ดวงดาว
เด็กบางคนเกิดมาไม่เคยเห็นทะเล แต่เพราะรูปทะเลในการ์ตูนนี่แหละที่เปิดโลกทัศน์แก่พวกเขา
มีคนบอกว่า เด็กที่อ่านหนังสือการ์ตูน ดีกว่าเด็กติดเกม และเด็กพวกนี้ต่อไปจะรักการอ่าน
แม้ว่าแรกๆการ์ตูนจะมีแต่รูปภาพ แต่เมื่อเด็กอยากรู้ว่าใคร ทำอะไร กับใคร ที่ไหน
พวกเขาก็จะพยายามอ่าน อ่าน และอ่าน

ผมเองยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ผู้ใหญ่ที่โตขึ้นมาแล้วบอกว่าไม่เคยอ่านการ์ตูนเลย
จะเป็นคนแบบไหน เขาจะมีจินตนาการหรือไม่

สำหรับวัยของคนเรา กับประเภทของการ์ตูน ในวันนี้ คงต้องแยกแยะและหาแนวที่ตัวเองสนใจ
อย่างพี่ ถ้าให้อ่านหรือดูหนังการ์ตูน แนวผู้หญิงๆแล้วคงนั่งหลับ
หรือ ถ้าให้ดูเรื่องแนวแอคชั่นต่อสู้แล้วก็คงดูไม่จบเรื่อง
แต่ถ้าเป็นการ์ตูนทะลึ่งๆ ล้อเลียนนักการเมือง ดารา หรือคนที่เป็นข่าวในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
แบบนี้อ่านได้ ดูได้ ถ้าโดนตำหนิว่าไร้สาระจัง ก็ต้องบอกว่า ความบันเทิงมันก็มีมุมที่ไร้สาระเหมือนกันนะ

นานๆมาที ก็ยังคิดถึงเหมือนเดิมครับ
บ้านของน้องไฮกุ พี่ก็แวะไปเยี่ยมมาเหมือนกันบ่อยๆ
แต่ชอบเป็นแมวมองมากกว่าเขียนคอมเมนท์ 555

Ref: ไฮกุ haiku DarkGreen 006400

 

โดย: zoomzero 6 กันยายน 2553 21:56:17 น.  

 

มีหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทย และหนังทีวี(เหมารวมไปถึงอนิเมชั่น) ที่คนไทยชื่นชอบอยู่หลายเรื่อง



City Hunter
ชือไทย ซิตี้ฮั้นเตอร์

ผลงานของ Tsukasa Hojo
ตีพิมพ์ในญี่ปุ่นช่วงปี 1985 ถึง 1991
ตีพิมพ์ในไทยโดย สนพ.สยามอินเตอร์คอมิกส์ รวม 35 เล่ม
มีหนังโรงที่นำแสดงโดย เฉินหลง
ส่วนการ์ตูนเรื่องนี้ออกทีวี ในปี 2530 - 2531 ทางช่อง 9 อสมท
ตัวเอก ได้แก่ ซาเอบะ เรียว และ คาโอริ
เอกลักษณ์ของเรื่องคือ ถ้าใครอยากจะจ้างให้เรียวทำงานให้ จะต้องเขียนตัวอักษร xyz
เอาไว้ที่ป้ายกระดานข่าว ตรงหน้าสถานีรถไฟชินจูกุ แล้วเรียวกับซาโอริก็จะติดต่อกลับไป
งานส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องให้ไปเป็นบอร์ดีการ์ดให้สาวสวย หรือตามหาคน
จำได้ว่า ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ค่าจ้างเพราะพระเอกทำให้กลายเป็นเรื่องตลกปนทะลึ่ง
แต่น่าจะเป็นการแกล้งทำมากกว่า เพราะฝีมือยิงปืนของพระเอกนั้นเรียกว่า ขั้นเทพ 555
และไม่ว่าเรียวจะพยายามแอ้มกับสาวคนไหนในทุกๆตอน
สุดท้ายก็อดเจ๊าะแจ๊ะเพราะเจอค้อนเหล็ก 100 ตัน ของคาโอริฟาดหัวเสียก่อน
การ์ตูนนี้มีการวาดรูปนร่างของคนได้ใกล้เคียงความจริง โดยเฉพาะตัวละครที่เป็นผู้หญิง มีแต่หุ่นเอ็กซ์ทั้งนั้น
ส่วนสาวที่หุ่นดีที่สุดในเรื่องสำหรับผม กลับกลายเป็น คาโอริ นี่เอง
แบบว่าเธอเป็นประเภท สาวซ่อนรูป
เพราะเมื่อใดที่คาโอริปลอมตัวเพื่อไปสืบเรื่องต่างๆ
ทั้งผมและเรียวจะต้องอึ้งและน้ำลายไหลย้อย หยดติ๋งๆ


เรื่องอื่นๆ จะค่อยๆเอามาบันทึกเอาไว้ในคราวต่อไป

 

โดย: zoomzero 6 กันยายน 2553 22:13:42 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะเฮีย
ฮ่า ๆ ๆ ปล่อยกบอ่ะ มินก็เพิ่งได้ปล่อยไม่กี่ครั้งค่ะ
เพราะแม้ค้าเค้าชวน มินยังถามเลยว่าปล่อยได้เหรอ
เค้าบอกได้ ถือเคล็ดที่ คนที่ชอบปวดขาปวดเข่า
จะได้เดินเหินคล่อง ๆ มินเลยนึกไปถึงแม่มินอ่ะค่ะ
บางครั้ง แม่ก็จะปวดขา ปวดเข่า จริง ๆ ด้วย
มินเลย เออ ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะอยากจะปล่อยอยู่แล้ว

มินเคยปล่อยหมดแล้ว ทั้งปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ
กบ เต่า ตะพาบน้ำ นก ไม่เคยปล่อยอยู่อย่างเดียวค่ะ
คือ ปลาไหล เพราะกลัวอ่ะ มันเหมือนงู ไม่เอาค่า ฮ่า ๆ ๆ
เนี่ย พิมพ์คำว่า งู ยังแหยงเลย แล้วดันพิมพ์ตั้ง 2 ครั้งอ่ะ บรื๋อ.....

ทอแสงโขงเจียม เพื่อน ๆ ก็ชอบกันค่ะ เห็นบอกว่าดีกันทุกคน
เนี่ย ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ฤกษ์ไปเมื่อไร แต่อีกนานเพราะหมดเขตกันยาปีหน้าโน่นอ่ะ
ถ้าไปแล้ว จะพลาดได้ไงคะ กับสปาแบบในรูปอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
แต่ เห็นเตียงที่นอนแล้ว สงสัยว่าจะมีที่เหลือพอให้พนักงานเค้านั่งหรือป่าวเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ

กำลังคิด ๆ ว่า เดือนหน้าจะไปไหนดีค่ะ
เพราะนายไม่อยู่จะไปยุโรปตั้ง 2 อาทิตย์
เวลาเค้าไม่อยู่ มินก็พลอยงานเบา ๆ ไปด้วย
ที่เบาเนี่ย หมายถึงเรื่องส่วนตัวที่ต้องดูแลเค้านะคะ
งานบริษัทฯ ยังเหมือนเดิม อยู่ตัวอยู่แล้ว ไม่เป็นไรค่ะ
ปีนี้่เฮีย จะไปดูฟอร์มูล่าวันที่สิงค์โปรอีกหรือป่าวคะ
มินว่า...มินอาจจะไปเกร่ ๆ แถว ๆ ฮ่องกง หรือ มาเก๊า ดีป่าวเนี่ย
เดี๋ยวรอดูพลพรรคพวกเพื่อน ๆ ก่อนค่ะ ฮ่า ๆ ๆ...

ปล. สดชื่นกับวันอังคาร นะคะ

 

โดย: มินทิวา 7 กันยายน 2553 5:52:14 น.  

 



หวัดดีวันพุธค่ะเฮีย
มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: มินทิวา 8 กันยายน 2553 8:39:03 น.  

 

Mintiva

สวัสดีวันอังคารแอนด์วันพุธนะครับอาหมวย

เออเน๊อะ...เจ้คนขายกบนี่เขามีหัวทางการตลาดดีนะ
เข้าใจคิดว่า ปล่อยกบแล้วจะช่วยเรื่องปวดขาปวดเข่า
จริงเท็จอย่างไรเฮียก็ไม่ทราบ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของศรัทธา
และความคิดในทางบวก
อุ้ย..น้ำตาจะไหล คนอะไรรักแม่ แถมยังคิดอะไรเผื่อคุณแม่ด้วย
เฮ้อ...ทำไมเราไม่มีลูกดีๆแบบนี้นะ
เฮียเชื่อว่าการปล่อยสัตว์ให้มีชีวิตต่อไปนั้น ย่อมทำให้เกิดสิ่งที่ดี
ใครจะเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษก็แล้วแต่ใจ
เขาว่ายามที่เราจิตตกนี่แหละ หากคิดย้อนเรื่องที่เราได้เคยทำดีเอาไว้
เรื่องเหล่านี้จะเป็นเหมือนยาวิเศษสำหรับคนที่เคยให้ชีวิตผู้อื่น หรือปลดปล่อยผู้อื่น
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ
เฮียเชื่อว่าคนที่นอนพะงาบพะงาบในห้องไอซียู
ไม่ต้องไปหาบทสวดมนต์อะไรมาท่องเลย
แค่คิดว่าเราเคยทำดี เคยปล่อยปลาปล่อยเต่า แล้วใครจะมาเอาชีวิตเรา
และแม้ว่าจะต้องจากโลกนี้ไป ก็คงได้ไปเกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าบนสรวงสวรรค์
เอ้ย...พูดเรื่องเดดสะม่องเท่งกันทำไม ขอโทษนะครับ

เรื่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปีนี้กับปีหน้าคงต้องอด
เพราะเศรษฐกิจทางบ้านตอนนี้ตกสะเก็ดมาก 555
เอ้...ไม่ใช่หรอก ตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการศึกษาของคุณหนูเขา
ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกทีเรียนได้ถูกใจหรือยัง
ถามเขาว่าอยากทำงานอะไร คำตอบก็เหมือนเดิมคือ หนูก็ไมรู้ (เฮ้อ)
ปีหน้าอาจจะมีเรื่องถอยรถใหม่ให้เขา อันนี้ยังเป็นสิ่งที่เป็นห่วงกันอยู่
ไม่ใช่เป็นห่วงเรื่องเงินนะ เป็นห่วงเรื่องความใจร้อนและการไม่ค่อยรับผิดชอบของเขา
เฮียชอบดุเขาบ่อยๆว่า เหมือนลูกนก ขนก็ไม่มี แต่อยากจะบินออกไปจากหน้าผาสูงๆเหมือนนกตัวอื่นๆ
เด็กสมัยนี้ชอบทำตามเพื่อนๆ ซึ่งไม่ใช่เพื่อนดีๆทุกคนนะ เขาเลือกเฉพาะสิ่งที่เพื่อนทำแล้วดูเท่ห์มากกว่า
พอไม่ได้เป็นอย่างเพื่อน ก็งอน

ปีนี้เฮียก็คิดถึงขนมไหว้พระจันทร์ที่สิงคโปร์เหมือนกัน
เฮียลองถามคุณเจ้เจ้าของบ้าน เขาก็บอกว่าไม่อยากไปเที่ยวที่ไหนเลย
ปีนี้เขาก็เริ่มมีอาการปวดเมื่อยแขนขา มีอาการหนาวๆร้อนๆ
แอร์เย็นๆยังบอกว่าร้อน อากาศร้อนๆดันบอกว่าเปิดแอร์แรงไป หนาวจะแข็งตาย งงจริงๆ
สงสัยต่อไปนี้ เฮียต้องจัดเตรียมชุดขาวไปนอนถือศีลที่วัดแทนไปเที่ยวซะละมั๊ง
แต่คงจะไปวัดที่มีพวกสาวๆมาบวชชีพราหมณ์เยอะๆจะดีกว่า หุหุ

เดือนหน้าเป็นเดือนฝนตกและคงจะต้องมีดีเปรสชั่นเข้า
ไปทะเลก็คงไม่เวิร์ก เพราะเป็นหน้ามรสุม
ไปทางบกก็อาจจะเจอน้ำท่วมถนนหนทาง ยิ่งไปป่ายิ่งน่ากลัว
อาหมวยก็ค่อยๆคิดเอานะว่าจะไปที่ไหน
สำหรับเฮีย คงต้องหาประเทศด้านเหนือๆเส้นศูนย์สูตร (โห..วิชาการเกินไปมั๊ย?)
ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศได้ ก็อยากไปยุโรปซ้ำอีกรอบ
โดยเฉพาะประเทศสวีสนี่ ฤดูไหนๆก็น่าปลื้มทั้งนั้น
เฮ้อ...เพ้อเจ้อมากๆ หิวช๊อกโกแล็ตซะแล้วซิ
จำได้ว่าที่สวิสนี่ช๊อกโกแล็ตอร่อยมากๆ แต่แพงเอาเรื่อง
ส่วนนาฬิกาสวีสของแท้ ราคาเรือนหนึ่ง เอาไปดาวน์คอนโดได้สบายๆ

เดือนหน้า, เจ้านายไม่อยู่
ก็หาเวลาพักผ่อนบ้างก็ดีนะ
เข้าตำรา แมวไม่อยู่ หมู เอ้ย...หนู ร่าเริง เลยนะ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 8 กันยายน 2553 22:06:39 น.  

 



พฤหัส สวัสดีค่ะเฮีย อิอิ
นายมินจะไม่อยู่ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนไปถึงสิ้นเดือนค่ะ
แต่ คิดไปคิดมา อาจไปไหนไม่ได้เลยก็ได้ มินหน่ะ
เพราะมีงานของสมาคม ที่บริษัทฯ ต้องเข้าไปช่วยดูแลให้
และจะมีงานการกุศลใหญ่วันที่ 6-7 พฤศจิ นี้ด้วยค่ะ
เมื่อวานก็ประชุมถึงค่ำเลย ออกมาจากตึก
รถก็ติดตั้งแต่ทางลงที่จอดรถเลยด้วยซ้ำ อิอิ
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: มินทิวา 9 กันยายน 2553 7:52:51 น.  

 

Mintiva

จริงซินะ
หมู่นี้ทำไมรถมันติดหนักทั้งเช้าและเย็นเลยนะ
อย่างเช้านี้จากการใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ
กลายเป็นสองชั่วโมงครึ่ง
อยากเกิดเป็นนกจริงๆ

เมื่อวานก่อนโน้น ไปทานก๋วยเตี๋ยวหมู
เขาแถมแผ่นเกี้ยวทอดให้ 1 แผ่น
เกิดอาการเด็กๆ คืออยากทานอีก
เลยขอซื้อเขา เอาเฉพาะแผ่นเกี่ยวเปล่าๆ
โอ้ คุณชีช่วย จานละ 10 บาท มี 5 ชิ้น
เมื่อวานเลยแวะตลาดสด ซื้อแผ่นเกี่ยว ไข่ไก่ กับหมูสับ
เอามาให้คุณนายทำการทอดให้ทาน
เมื่อคืนทานไปไม่รู้กี่แผ่น น่าจะทะลุ 20 แผ่นเลยหละ
นอนกลางคืน ทั้งแสบคอ ร้อนคอ ไอทั้งคืน
ตื่นเช้ามารีบหาน้ำดื่มเป็นเรื่องแรก
ทำไมเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กๆ ทานของทอดๆไม่เห็นมีอาการอะไรเลย

วันนี้ไปทานข้าวแกง ร้านอยู่ข้างถนน
แต่เป็นถนนบางนา-ตราดนะ รถสิบแปดล้อวิ่งกันพื้นสะเทือนเลื่อนลั่น
อยู่ตรงข้ามบางกอกโพสต์ น่าจะประมาณ กม. 20
อาหารหน้าตาบ้านๆ ราคาก็บ้าน แต่มีรถจอดเต็มหน้าร้านเกือบทั้งวัน
พอชิมเข้าปาก ถึงรู้ว่าอร่อยเหมือนฝีมือคุณแม่ของเราเลย
ทานจนเกินอิ่มอีกแล้ว ก็ทานเผื่ออาหมวยด้วยนี่
ร้านนี้มี option ให้เลือกเยอะมาก
หน้าร้านเขียนว่า ก๋วยเตียวหมูเลียง เฮียก็ไม่ทราบว่า เลียง หมายถึงอะไร
หมายถึง เลียงผา หรือเปล่านะ แต่มีคำว่า หมู นี่หน่า
ด้วยว่าไม่รู้จักคำว่า เลียง เลยต้องอดใจไว้ก่อน
แต่เห็นคนเขาทานข้าวราดแกงกันหลายคน วันนี้เลยลองทานข้าวราดแกง
ลองมองไปรอบๆ ก็มีอาหารให้เลือกหลากหลายจริงๆ มีแหนมเนือง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ข้าวคลุกกะปิ ลูกชิ้นปิ้ง ขนมน้ำๆแบบไทยๆ และก็ยังมีพวกขนมของฝากเป็นถุงๆอีกหลายอย่าง
ทำไมทุกวันนี้ถึงรู้สึกว่า ข้าวราดแกง แม่ค้าคนไทยรุ่นใหม่ๆทำไม่อร่อยเลย
ถ้าอร่อยก็ต้องไปทานพวกร้านห้องแอร์ แต่ด้วยราคาที่แพงเกินไป ทำให้หม่ำแล้วไม่รู้สึกว่ามีความสุข
อย่างหมูทอดง่ายๆนี่ก็เหมือนกัน
แถวบ้านเฮียมีร้านหนึ่ง ทอดหมูได้อร่อยมาก แต่จานหนึ่งคิดราคา 50 กว่าบาท
ส่วนร้านอื่นๆในพื้นที่เดียวกัน ขายจานละ 30 บาท แต่ทานแล้วเหมือนทานกระดาษทิชชูทอดมากกว่า
อยากทานของไม่แพง แต่อร่อยๆ เหมือนเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน ยังจะมีขายอยู่หรือเปล่า?

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 9 กันยายน 2553 13:40:54 น.  

 


Ikkyu-san
ชื่อไทย เณรน้อยเจ้าปัญญา หรือ อิคิวซัง
ผลิตเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นโดยบริษัทโตเอแอนิเมชั่น
กำกับดูแลโดย Hideo Furusawa, Kimio Yabuki, และ Tetsuo Imazawa
มีทั้งหมด 296 ตอน
ฉายทางช่อง 3 ในช่วงปี 2518 - 2525
ปัจจุบันช่อง 3 ก็ยังเอากลับมาฉายตอนบ่ายๆอีกครั้ง
เป็นการ์ตูนเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
แนวขำขันเบาๆ มีแฝงธรรมะ เน้นเรื่องจิตใจที่ดีงามของคน
เป็นเรื่องของเณรในวัดนิกายเซน ซึ่งมีความฉลาดมาก
เรื่องนี้เป็นการนำชื่อของพระที่มีอยู่จริงในช่วงปี ค.ศ. 1394 - 1481 ชื่ออิคคิว โซจุน
ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระมเหสีนอกสมรสของจักรพรรดิ ก่อนยุคมุโระมะจิ
ตัวละครเด่น ได้แก่ เณรอิคคิว, ซาโยจัง, ท่านโชกุน, ชินเอมอน, คิเคียวยะ, ยาโยย, ...
เพลงเริ่มต้นก็เพราะ และเพลงปิดก็ยิ่งเพราะ
เพลงเปิด จะเป็นเพลง ทนจินกันจินอิคคิวซัง ได้ยินบ่อยมาก
การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนๆ ก็จะเป็นการประลองความฉลาดด้วยปัญหาเชาว์
เหมือนๆกับเรื่องศรีธนญชัยของไทย
บางตอนเอาปัญหาเชาว์เกี่ยวกับตัวอักษรของญี่ปุ่น ซึ่งเหมือนอักษรจีน
คือเป็นอักษรภาพ เลยสามารถเอามาตั้งเป็นปัญหาลึกซึ่ง เชื่อว่าคนไทยหลายคนคงไม่เข้าใจหรอก
เณรอิคคิวมีท่าทางโดดเด่นที่เด็กๆหน้าจอมักจะจำได้ง่ายๆก็คือ ก่อนที่จะตอบปัญหายากๆ
เขาจะพูดว่า "ใช้หมองนั่งสมาธิ" แล้วก็นั่งในท่าขัดสมาธิ
เอานิ้วจุ่มน้ำลายตัวเอง แล้วเอาไปถูวนๆรอบศรีษะ จากนั้นก็คิดออก
ถ้าอยากจะเข้าใจการ์ตูนเรื่องนี้อีกนิด ก็ต้องทราบว่า ญี่ปุ่นเคยปกครองด้วยระบบจักรพรรดิมาแต่ก่อน
แล้วต่อมาในปี ค.ศ. 1336 เข้าสู่ยุค มุโระมะจิ
พวกทหารยศใหญ่ๆโตๆเข้ายึดการปกครอง (เหมือนประเทศไหนนะ ที่มีแต่ทหารเท่านั้นที่ปกครองประเทศ)
มีการก่อตั้งรัฐบาลที่ปกครองโดย โชกุน นับเป็นยุคเผด็จการทางทหารแบบเข้มข้น
(ตอนหลังยกเลิกระบบโชกุน กลับมาใช่แบบมีจักรพรรดิดังเดิม)
โชกุนโยชิมิทสึ ออกคำสั่งให้โอรสของจักรพรรดิองค์ก่อนทุกพระองค์จะต้องบวชเป็นพระจนตาย
ก็ยังดีที่ไม่ประหารทิ้งทั้งครอบครัว แต่ตัดกันไม่สิ้นรากเหง้าแบบนี้ โชกุนเองก็คงกังวลเหมือนกัน
เรื่องจริง คงต้องมีการส่งทหารไปคอยเฝ้า ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ทราบว่าผู้ตรวจการชินเอม่อนคือคนที่โชกุนส่งมาหรือเปล่า
ในเรื่องเณรน้อยเจ้าปัญญานี้ จะมีหลายตอนที่ท่านแม่ของอิคิวมาช่วย หรือถูกอ้างอิงถึง
แต่แค่มาดูหรือออกความคิดนิดหน่อยเท่านั้น เพราะเกรงกลัวอำนาจของท่านโชกุน
ซึ่งถ้าเป็นเด็กๆที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น ก็คงจะงงว่าทำไมแม่ของเขาไม่มาอยู่ใกล้ๆกัน
แต่เด็กๆดูการ์ตูน เขาไม่คิดมากหรอก แค่ได้ดูก็สุขใจแล้ว

สุดท้ายมีของอย่างหนึ่งที่นับเป็นโลโก้ของเรื่องนี้ คือ ตุ๊กตาไล่ฝน หรือ เทะรุเทะรุโบซุ
ที่ทำจากก้อนไม้กลมๆ ห่อด้วยผ้าขาวรูปสี่เหลี่ยม
มัดชายทั้งสี่เข้าด้วยกัน เอาชายเชือกพันเป็นกับตะปูเพื่อแขวน
แล้ววาดหน้าตาให้มีตา มีปาก ในเรื่องถ้าเป็นตอนที่เศร้าตุ๊กตาก็จะหน้าเศร้า
ถ้าเป็นช่วงที่สนุก ตุ๊กตาก็จะยิ้ม
ตู๊กตาที่แขวนในวัดตามเรื่องอิคคิวนั้น อิคคิวแขวนไว้เพื่อเป็นตัวแทนของแม่
เพราะว่ายังเด็กเลยมักจะอดที่จะคิดถึงแม่ไม่ได้
สำหรับเกร็ดย่อยเรื่องตุ๊กตาขอฝนในวัดนั้น ความจริงคนญี่ปุ่นใช้แขวนตามบ้าน
เพื่อให้อากาศแจ่มใส พระจะได้ออกไปบิณฑบาตได้สะดวก
สำหรับในกรณีที่อยากให้ฝนตก ชาวนาจะแขวนตุ๊กตากลับหัว เป็นความเชื่อที่น่ารักดี

 

โดย: zoomzero 9 กันยายน 2553 23:20:25 น.  

 



หวัดดีวันชื่นคืนสุขค่ะเฮีย ฮ่า ๆ ๆ
เย๊ เย๊ วันนี้บ่าย ๆ ก็ ลัน หลั่น ล้า แย๊วอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
บ่าย ๆ ว่าจะไปทำเล็บ ทำผม
เตรียมสวยวันเสาร์ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. เฮียมินก็มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: มินทิวา 10 กันยายน 2553 8:55:22 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ชาย โอ๊ย คิดถึงมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อยากเจอจังเลยค่ะ มีเรื่องเยอะแยะมากมายอยากจะเม้าส์ อุอุ

งานยุ่งมากมายเม้าท์ไม่ได้ง่ะ *_* แงงง

งานล้นมือไปหมด เพราะพอไม่ได้อยู่หน้าจอสองสามวัน ตระเวนทัวร์กับกิ๊กให้ครบคน กลับมาเลยโครตยุ่งเลยซะงั้นเพราะงานดอง 555 งานในโลกอินเตอร์เน็ตนี่ไม่มีเวลาหยุดพักเลยค่ะ แต่ก่อนวัน ๆ ไม่มีใครโทรหาเร้ยย ยกเว้นแฟน ๆ แต่ทุกวันนี้เบื่อเสียงโทรศัพท์มาก พูดจนเหนื่อย เสียงเซ็กซี่แหบเสน่ห์มากช่วงนี้ *_* ออนไลน์ที msn เด้งหน้าจอมาเป็นสิบ งานเข้าไม่ได้พักเลย เฮ้ออ วันนี้พอว่างหน่อยค่ะ แต่ยังมีงานต้องทำอีกมากมาย การเป็นคนดังก้อเหนื่อยนะเนี่ยะ

แต่ก้อแวะมาจนได้ คิดถึงพี่ชายเสมอนะคะ

มา ว่าจะรีบมารีบไป เจอพี่ชายเม้าท์เรื่องสามีเพื่อนเก่า อดไม่อีก 555 คนเราทำไมหน้ามืดตามัวขนาดนี้นะ ถึงขนาดทิ้งลูกตัวเองได้ลงคอเพราะผู้หญิง เหอะ ๆ แต่อย่างว่าแหล่ะค่ะพี่ชาย คนเป็นพ่อเป็นแม่แท้ ๆ ก็มีเอาลูกเป็นทิ้งขยะตั้งแต่เกิด หรือตบตี หรือข่มขืน ลูกตัวเองก้อยังมีเลย สังคมเรา

จะบอกว่า ตอนนี้มีกิ๊กใหม่อีกแล้ว งุงิ จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวอีกสองคนมาแอบอ่านงานเข้าแน่ ๆ *_* เขาแต่งงานมีเมีย ลูกสองแล้วแหล่ะ แต่นิสัยดี ที่บอกแวะไปแถววัดบึงบ่อย ๆ ช่วงนี้อ่ะ อิอิ

แต่นู๋ไม่เคยคิดอะไรที่ไม่ดีเลยนะคะ รวมทั้งเขาด้วย คุยกันแล้วว่า ถึงจะรักหรือชอบกันยังไง ก็จะไม่ทำให้ใครต้องเสียใจแน่นอน เป็นแค่มีความปรารถนาดีให้กัน นัดเจอกินข้าว ดูหนังกันบ้าง ก็พอแล้ว ^_^ ถึงจริง ๆ ลึก ๆ เจ๊จะขัดใจนิดหน่อย 555 แต่บีมานั่งมองรูปครอบครัว เห็นหน้าภรรยาและลูก ๆ ที่น่ารักแล้วก็ทำไม่ลงจริง ๆ ค่ะ ถ้าจะต้องทำให้ใครต้องเสียใจก็หักห้ามใจซะดีกว่า บททดสอบบทใหญ่จริง ๆ ค่ะพี่ชาย แต่นู๋มั่นใจว่าจะผ่านมันไปได้อย่างสวยงามแน่นอน ^_^

การรักใครเพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่ไม่ได้ทำให้ใครต้องเสียใจก็ไม่ผิดใช่มั๊ยคะ งุงิ

ไปแระ อู้งานนาน ดาวไลน์เรียกกันใหญ่แว๊ว

จุ๊บ ๆ ๆ คิดถึงนะคะพี่ชาย

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวตัวยุ่ง IP: 124.121.182.202 10 กันยายน 2553 14:29:26 น.  

 



หวัดดีวันเสาร์ค่ะเฮีย
วันนี้ มินมีโปรแกรม รื้อตู้เย็นค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
หมายถึงรื้อทิ้ง ๆ อ่ะ เพราะซื้ออาไรมาก็เอาไปใส่ไว้ในตู้เย็น
แล้ว ไม่ได้หยิบมาทานเลย ขนาดผลไม้แบบแอ๊ปเปิ้ลนะ
มันยังนิ่มแบบยวบ ๆ เลยอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เชื้อไม๊คะ ว่าหอมแดงเนี่ย มันงอกเป็นต้นก็มีอ่ะค่ะ
เฮ๊อ..เอาความขี้เกียจของตัวเองออกมาคุยก็ได้นะมินหน่ะ ฮ่า ๆ ๆ

เที่ยง ๆ เพื่อนมันนัดกินข้าวกัน ยังไม่รู้จะไปรึป่าว
เพราะเบื่อที่ไอ้บางคนอ่ะ มันไม่ค่อยรักษาเวลาค่ะ
นัดเที่ยง มันมาบ่ายโมงก็มี กว่าจะได้ทานกันเนี่ย
ถ้านัดที่ร้านอาหารเลย พวกที่มาก่อนก็เล่นอาหารกัน
หมดไปหลายจานแล้วค่ะ แต่โสน๊าหน้ามันค่ะ
เพราะหารเท่ากันทุกคนอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ

ปล.หยุดพักผ่อน กิน เที่ยว ให้มีความสุข นะคะ
ทานเผื่อมินด้วยนะ อืม..ตอนนี้หอยแมงภู่ตัวใหญ่แล้วค่ะ
เมื่อวานพาลูกค้าไปทานข้าว เค้าสั่งหอยแมงภู่อบ
วาว ตัวใหญ่มาก ๆ เลย คุณลูกค้าอ่ะทานไม่เท่าไร
คุณมินอ่ะ ทานซะแบบไม่รักษาฟอร์มเลยค่า ฮ่า ๆ ๆ
โทษเฮียนั้นแหละ ก้อนู๋ทานเผื่อเฮียด้วยนี่นา
จะทานน้อยได้ยังไงกันหล่ะคะ ฮ่า ๆ ๆ ไปแล้วนะ อิอิ

 

โดย: มินทิวา 11 กันยายน 2553 8:40:01 น.  

 

สวัสดีวัน 911 ครับ
แวะมาอ่าน
ไว้ว่างๆจะมาคอมเมนท์

สำหรับหนูบี
ก็อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องอื่นให้มากนัก
มุ่งหน้าหาเงินดีกว่านะ
เรื่องความรัก จะไปกำหนดอะไรเอาไว้ก่อนไม่ได้หรอก
ไม่อย่างนั้นจะมีคนที่ไม่เข็ดกับเรื่องแบบนี้เหรอ
ยังดีนะ ที่เราได้เจอคนที่เราพึงพอใจ
สำหรับพี่ ขนาดว่าจะไม่คิดแล้วนะ ก็ยังแอบคิดถึงคนที่ไม่ควรคิดได้เลย 555
คนเรานี่แปลกนะ เราว่าจะไม่ไปห่วงหาอาทรใครแล้วนะ
แต่พอตกดึกอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว กลับคิดถึงเขาจนได้ สังสัยอยากงานเข้าตอนวัยชรา

สำหรับอาหมวย
เรื่องหอยแมลงภู่
ตอนนี้ก็สงสัยว่าเป็นหน้าหรือฤดูของมันหรือเปล่า
แต่พวกร้านอาหารชอบบอกว่าเป็นหอยแมลงภู่นำเข้าจากต่างประเทศเลยตัวโต
เมื่อวานเฮียก็ไปทานร้านอบอร่อย (ชื่อแบบนี้จริงๆ)
ปลาสำลีเผาอร่อยมาก
และหอยเชลล์เผาก็เวิร์ค
เฮียทานหอยแมลงภู่อบหม้อดินเผื่ออาหมวยด้วยนะ
มีเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อวานเพราะตำรวจเข้ามาตรวจหนังสือเดินทางของพนักงาน
เจ้าของร้านหน้าไม่ยิ้มเลย แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร แค่เลี้ยงน้ำเปล่ากัน (แค่นี้กระมัง???)

 

โดย: zoomzero 11 กันยายน 2553 17:07:49 น.  

 



หวัดดีค่ะเฮีย
เมื่อวานกลางวันไปทานกับเพื่อนจนได้อ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
ก็พอดีอยากเดินห้างอยู่พอดีค่ะ แต่เมื่อวานมากันตรง ๆ เวลา
กันทุกคนเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
โห..ร้านอาไรนะ ค๊อฟฟี่บีนบายดาว เอ ..ใช่ ชื่อนี้ป่าว เป็นโรคจำชื่อร้านหรือถนนไม่ค่อยได้ค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
โห..อีกรอบ..มันแพงสุด ๆ เลยนะมินว่า ดีเหมือนกัน จำไว้
เวลาพาลูกค้าไปทานข้าวจะได้ไม่พาไปที่นี่อ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
ถามมินว่า แล้วอาหารอร่อยไม๊ ก็เฉย ๆ นะคะ ..ไม่รู้จิ

ตอนเย็น ๆ กำลังทำนู่นทำนี่ที่บ้าน
น้องชาย โทรมาชวนไปทานข้าวให้ขับรถตามไป
เพราะเค้าไปรับแม่ล่วงหน้าไปแล้ว
มินบอกปัดไม่ไปแล้วนะ ไปกันเหอะ
แม่บอกให้ตามมาแล้วกัน เพราะเค้าเอาผ้ามินติดรถมาด้วย
มินจะได้ไม่ต้องแวะไปร้านซักผ้าวันนี้อีก
เอ้า..ไปก็ไป..ไปทานแถวถนนอักษระอีกแล้วค่ะ
คราวนี้ไปร้าน บ้านให้ความรัก ที่ตอนวันแม่เก้อมาทีแล้ว
เพราะฝนวันนั้น เทลงมาแบบ บ้าคลั่งเลยทีเดียวอ่ะนะ

โห..(ที่ 3) ฮ่า ๆ ๆ ติดจั๊ง..คำพูดเนี๊ยอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ไม่อร่อยเลยค่ะ อาหารหวานทุกอย่างเลย
แล้วมินไม่ทานหวานด้วย ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทานไรได้มั่ง
อาหารแนะนำ ทุกจานออกหวานนำหมด
ตอนแรกมีความหวังกับ แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง นะ
ว่าแกงส้มหน่อไม้ดอง ยังไงก็ต้องเปรี้ยวนำเค็ม อยู่แล้ว
แต่ป่าวค่ะ หวานนำโด่งเลย ..เลี่ยนมาถึงเดี๋ยวนี้เลยเนี่ย..
แถมขากลับ มินต้องไปส่งแม่กับลุงอีกที่บ้าน
เพราะอยู่ทางเดียวกัน น้องชายจะได้ไม่ต้องย้อนมา
ฮ่า ๆ ๆ แล้วแม่จะเอาผ้ามินติดมาทำไมเนี่ย..หา..ฮ่า ๆ ๆ
ขนเข้ารถคันนี้ ออกไปรถคันนั้น วุ่นวายจังเลยอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
อ้อ..เห็นพอทานได้ก็สลัดกระดาษอ่ะค่ะ แปลกดี
แต่ ถ้าถามมิน มินว่า ร้านไก่ทอง ที่เมืองทองอ่ะ
อร่อยกว่าเยอะจนเทียบกันไม่ติดเลยค่ะ
อันนั้นเรียกว่า สลัดทอดซีฟู๊ด หรือไงเนี่ย..

เฮียลองพาครอบครัวมาลองทานที่ร้านไก่ทอง มั่งนะคะ
มินชวนชิมค่ะ อร่อยใช้ได้เลย ราดหน้าฮ่องกงก็อร่อย
เฮ๊อ..วัน ๆ พูดแต่เรื่องกิน แล้วมันจะผอมได้ไงเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ
วันนี้ ก็ต้องไปรับแม่อีกแล้ว แม่จะพาไปหาลุงพี่แม่
คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ แค่ 2 คนพี่น้อง
เค้าก็เพิ่งมาเจอกันตอนงานศพลุงอีกคนอ่ะค่ะ
ไม่ได้เจอกันมาเกือบ 20 ปี เพิ่งมาเจอกัน
เอ..มินก็งง ๆ พี่น้องแม่ ทำไมไม่สนิทเหมือนมินกะพวกพี่น้องเล๊ย..
อย่างว่าอ่ะค่ะ สมัยแม่มินเด็ก ๆ พี่น้องกระจัดกระจาย
ไปอยู่กับญาติกันคนละทิศละทาง ไม่เหมือนพวกมินอ่ะนะ
ที่ถึงพ่อแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มินกับพี่น้องก็ไม่เคยแยกกันอ่ะค่ะ...
ปล.สบาย ๆ วันอาทิตย์ นะคะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ พ่อ แม่ ลูก

 

โดย: มินทิวา 12 กันยายน 2553 7:33:17 น.  

 

Beee_BU

เอ้า...วันนี้เรามาคุยแบบเต็มรูปแบบ เมื่อวานคุยแบบสัญญลักษณ์(ขอใช้ภาษาใหม่ ได้ยินมาเมื่อวาน)

ขอบคุณนะ ทียังคิดถึงกันอยู่ ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องเขียนอะไรมากหรอก
เราสองคนตัดกันไม่ขาดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ว่าแต่ใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของใครกันหละ? 555

อ่านเรื่องงานของเราแล้ว ก็เหนื่อยแทนเหมือนกันนะ
แต่ผลตอบแทนก็เห็นว่าคุ้มค่าดีนี่
ตอนนี้ฝนตกแทบทุกวัน ก็ต้องดูแลเรื่องสุขภาพด้วย
เดี๋ยวถ้าเป็นหวัด เสียงไม่มี จะแย่นะ
แต่ก็ยังดีที่สามารถคุยกับคนพวกนั้นทางอินเตอร์เน็ทได้ สมัยนี้มันก้าวหน้าจริงๆ
เออ...อย่าลืมนะว่ารายได้จากอ๊อฟฟิซเก่าไม่มีแล้ว (โดนโทรฯตามหรือยัง)
ต้องระวังเรื่องใช้เงินด้วย พี่จำได้ว่าเราเป็นนักช๊อปกับเขาเหมือนกันไม่ใช่หรือ
เงินทองหามาได้แล้วเอามาซื้อของให้ตัวเองก็สมควรอยู่
แต่ถ้าต้องเอาไปเลี้ยงหนุ่มน้อยอย่างสมัยก่อน ขอห้ามเลยนะ 555
ล้อเล่นนะ พี่หมายถึง เอาไปทำบุญแรงๆนะ อย่างทุ่มทุนสร้างวิมานในสวรรค์เยอะนัก
เอาแค่ชั้นสองชั้นสามก็พอ ส่วนพี่ชายหนะตอนนี้ได้ชั้นสิบหกแล้ว มองเห็นทางช้างเผือกตรงหน้าต่างได้เลยนะ

เรื่องกิ๊กใหม่ อ่านแล้วขำขำ หาเรื่องให้งานเข้าจนได้นะเรา
ผู้หญิงขี้เหงา กับผู้ชายจอมสับขาหลอก เป็๋นของคู่กัน จริงหรือเปล่า?
คนที่จะมาจีบหนูบี ถ้าเอาแต่พูดหวานแหวว มัวแต่เอาใจ มัวแต่ยอม ยอม ยอม และก็ยอม
พี่ชายว่าเราก็คุยด้วยไม่นาน ผิดสะเป็ก มันจะแป๊ก เพราะพี่ว่าหนูบีชอบแบบตบจูบ จูบตบ มากกว่า ชิมิ๊ ชิมิ๊
คนอะไรชอบทำร้ายชายชาตรี อิอิ คนปัจจุบันนี้ป่านนี้คงหลังลายมีแต่รอยฝ่ามือของหนูบีเต็มไปหมด 555
เอาเป็นว่าถ้าอยากปรึกษาอะไรก็หลังบ้าน เอ้ย..หลังไมค์บายeMail กันก็ได้
แต่จากการรู้จักอย่างห่างเหินกันมา พี่ชายว่าประสบการณ์ของคุณน้องน่าจะล้ำสมัยกว่าของคุณพี่นะคะ
เรื่องทำครอบครัวเขาแตก พี่ว่าเราหนะคิดได้ก่อนตั้งแต่กรรมการยังไม่ทันได้เป่านกหวีดให้เล่นเกมเลยกระมัง
พี่ไม่ห่วงหรอกเรื่องแบบนั้น
ใครไม่เคยเจอสภาพหลายบ้าน หลายก๊ก หลายเหล่า ไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่ามันช้ำใจแค่ไหน
แต่ก็แปลกนะที่มีบางคนอยากมีหลายบ้าน ขนาดได้ของดีมาอยู่กับมือ ยังเที่ยวหาของใหม่มากินอีก
อย่างที่พี่ชายเคยเจอมาครอบครัวๆหนึ่ง ทั้งสามีและภรรยา พยายามทำแต้มสะสมกิ๊กกันโดยไม่แคร์ลูกเลย
อันนี้จะไปว่าเขาแรงๆก็ไม่ได้ ปรบมือข้างเดียวจะไปดังได้อย่างไร ต้องโทษบรรดากิ๊กๆด้วยแหละ
อย่างพี่ชายหนะ แค่สาวยกมือโชว์จั๊กแร้ขาวๆ พี่ชายก็วิ่งเข้าไปประกบปรบมือด้วยในบัดเดี๋ยวนาวว์ หุหุ
เอาอย่างนี้ดีกว่า อย่าหาว่าพี่แกล้งทำหน้าแข็งมาเตือนน้องเลยนะ
คิดในใจเอาไว้ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็ตามสยิวกิ้วคนนั้นเองแหละ
สำนวนว่า รักใครเพิ่ม แต่ไม่ทำให้ใครเสียใจ
หวังว่าใครในที่นี้คงหมายถึงสมาชิกในครอบครัวของเขาและเราด้วยนะ

เรื่องปวดท้อง นอนขด กรดไหลย้อน ขย่อนของที่ทานเข้าไป
หายแล้วเหรอ ไม่เห็นบ่นให้ฟังเลย
แปลว่ายาน้ำที่โฆษณาทางทีวียี่ห้อนั้น เป็นยาดีจริงๆหรือเปล่า? ชื่อยา กาก้ากาก้าฯ อะไรนั้นแหละ
พี่ชายเคยไปถาม เห็นว่าราคาแพงจัง สู้ยาธาตุน้ำขาวไม่ได้ราคาพอซื้อไหว

ไปทำบุญที่ไหนมาบ้างหรือเปล่า?
ไม่เห็นเอาบุญมาเซย์บอกกันบ้างเลย
นี่เราไม่ได้ไปทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันจวนจะเป็นปีแล้วกระมัง
เฮ้อ..เวลาเปลี่ยน วิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปเน๊อะ
แต่ความรัก ความห่วงใย ที่มีให้ยังคงเหมือนเดิม

อ้อ...น้องนกสีขาวเขาออนเอ็มคุยกับบีบ้างหรือเปล่า
ตั้งแต่เขากลับมาเยี่ยมเมืองไทยเดือนโน้น
แล้วเขาก็ไม่ได้ติดต่อพี่ชายมาอีกเลย
สงสัยกลับไปได้ฝาละมีเป็นฝรั่งไปแล้ว อิอิ (นินทาเขาจนได้)
ถ้าได้คุยกับเขาก็ฝาก จุ๊บๆ ให้ด้วย
เอ้..แล้วบอร์ดบีบีเขาปิดไปแล้วหรือยัง?

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF

 

โดย: zoomzero 12 กันยายน 2553 10:34:23 น.  

 

อาหมวย

สวัสดีวันหยุดขอรับอาหมวยคนสวย

เรื่องร้านอาหารแถวทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ คงไม่ค่อยได้ไป
เพราะเมื่อก่อนเคยเป็นโรคชิมไปบ่นไป แ
ไปลองมาหลายร้านเลยหละ ร้านดังๆ ย่านพุทธมณฑล กาญจนาภิเษก
ดอนหวาย สามพราน ปิ่นเกล้า นครชัยศรี นครปฐม ราชบุรี
มหาชัย สมุทรสาคร สมุทรสงคราม บางขุนเทียน ฯ
เมื่อก่อนดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ พอเจอก็ไปกันเลย
ทานแล้วก็ว่าอร่อย แต่ขับรถไปขับรถกลับ เจอรถติดทั้งขาไปและขากลับ เหนื่อยมากกว่าหนุก
เลยหันมาทานแถวๆใกล้บ้านกันครับ
อีกเหตุผลคือ เด็กๆโตขึ้นมาก มีเรียนมหาวิทยาลัยไปแล้ว 3-4 คน จบไปแล้วทำงานก็มี อีก 3-4 คนก็มอปลายกันแล้ว
เด็กพวกนี้ชอบขอไปเดินห้างฯ ดูหนัง แล้วทานอาหารกันเอง
ไม่ชอบไปกับคนแก่ เพราะเดินช้า ดูหนังก็คนละแนวกับวัยรุ่น
เข้าร้านอาหารก็ต้องเลือก ต้องสะอาด คนต้องไม่มาก
สั่งอาหารก็เยอะ อยากชิมหลายๆอย่าง แล้วก็ต้องหอบที่เหลือกลับมาทานต่อที่บ้านทุกที

พวกผู้ชรา เดี๋ยวนี้ก็ใช้วิธีโทรศัพท์ไปออร์เดอร์อาหารที่ร้านดังๆตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดโมง (แบบว่าทานกันจนสนิทกับแคชเชียร์)
พอบ่ายโมงก็ให้มอเตอร์ไซด์วินหรือโทรศัพท์ตามเมสเซ็นเจอร์ของบริษัทที่เขามีบ้านพักอยู่แถวนั้น
หรือบางทีก็ไม่สนว่าเขาจะอยู่ที่ไหนของโลกเหมือนกัน
ให้เขาขี่รถเครื่องมาเอาตังค์ที่บ้านเรา แล้วขับไปรับของที่ร้านอาหารให้ (ชักจะขี้เกียจกันมากขึ้นๆ)
พวกสองล้อเครื่องนี่เขามาไวไปไว แป็บเดียวได้ของ แต่ต้องจ่ายค่าแรงนิดหน่อย
คำนวนแล้วก็คุ้ม เพราะถ้าเอารถไปทานเอง ค่าน้ำมันก็ไม่หนีเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้ลิตรละ 30 บาท
รถเล็กกินน้ำมันกิโลเมตรละ 3 บาท รถใหญ่บริโภคเป็นสองเท่า แต่ต้องมีค่าน้ำใจเด็กโบกรถกับค่าทิ๊ปพนักงานเสิร์ฟ
คิดแล้วก็พอๆกัน ข้อเสียจริงๆคือ เราต้องล้างจานชามเอง ซึ่งเป็นกรรมของคนงานที่บ้าน ไม่ใช่เฮีย 555
สำหรับคนงานเขาก็ไม่บ่นนะ เพราะได้ทานของดีๆ ที่เราแบ่งเอาไว้ให้เขา
ถ้าเราไปทานที่ร้าน เขาก็ไม่ได้ไป ไม่ได้ทาน แบบนี้เข้าตำรา วิน วิน
เฮียเคยคิดว่า แบบนี้แล้ว รสชาดอาหารจะเพี้ยนหรือเปล่า?
มันจะเซ็งหรือไม่?
ของทอดๆ มันจะไม่กรอบนอกนุ่มในเหมือนทานที่ร้านหรือไม่?
อันนี้ก็มีบ้างครับ แต่ร้านอร่อย(เหาะ)จริงๆ ทำอย่างไรก็ยังอร่อยอยู่ดี

ของอร่อยย่านถนนอักษะนี้ เฮียไม่เคยไปทานเลยนะ
เพราะโดนร้านที่วิ่งรถแล้วไปถึงก่อนหน้านั้น ดึงดูดความหิวไปหมดเสียก่อน
ส่วนร้านไก่ทอง เคยได้ยินชื่อเหมือนกัน
แต่ถนนแถวนั้น ต้องไปทางด่วน และบ้านเฮียก็มีปัญหาตรงที่
หาทางด่วนขึ้นยาก รถติด ขึ้นได้ก็จ่ายหลายต่อ แถมยังต้องวกวนขับอ้อม
พอลงถนนปกติ ก็เจอรถติด คนแก่อย่างเฮียเลยเซ็งเป็ด
แต่คิดว่าถ้ามีโอกาสจะต้องไปลองลิ้มชิมรสดูให้ได้

อาหมวยต้องขยันชิมอาหารนะ(ในห้วงวัยสาวใหญ่แบบนี้)
เพราะพอเราอายุมากขึ้น อาการไม่อยากทานอาหารมันจะมาเยี่ยมเยือน
ตอนนี้เฮียเริ่มรู้แล้วว่าทำไมปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลุง ป้า เขาถึงทานอาหารยาก
ชวนไปทานโน้นก็ไม่เอา ทานนี่ก็ไม่ไป คงเพราะว่ามันไม่อยากทานนี่เอง
แต่สำหรับเฮีย ขอแค่ได้ทานกับคนน่ารักๆ เรื่องอาหารไม่สำคัญ 555

วันนี้ที่บ้านเฮียก็เป็นวันแฟมิลี่เดย์เหมือนกันนะ
แต่เฮียขี้เกียจไป เพราะเจอรถติดมาทั้งสัปดาห์
เลยให้พวกท่านผู้มีบารมีเขาไปกันเอง
เห็นเขาว่าจะไปเยี่ยมอากู๋ อากิ๋ม อะไรนี่แหละ
แบบว่าก่อนเทศกาลทานเจ พวกเขาต้องไปเยี่ยมเยือนกันที
บ้านของอาเจ้เขามีธรรมเนียมแปลกดีแบบนี้

วันนี้เฮียกะว่าจะนอนผึ่งแอร์ให้หายเมื่อยเสียหน่อย
เจอคำสั่งให้เอาผ้าปูที่นอนเข้าเครื่องแล้วตากให้แห้งก่อนเย็น
ผ้าอันนี้เป็นผ้าแบบที่เขาบอกว่าเนื้อละเอียดกันไรฝุ่นได้ล้านเปอร์เซ็นต์
ราคาก็แพงน่าใจหาย เจ้เขาปลื้มมากกับสินค้าชนิดนี้
ส่วนเฮียก็เป็น่ฝ่ายค้านที่ไร้อำนาจ ขนาดอธิบายว่าน้ำร้อนแค่ 60 องศาในเครื่องซักผ้า
พวกตัวไร ตัวแมลง ก็ตายหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าแบบนี้ แต่คำค้านเป็นอันตกไป
นอกจากซักผ้า ตากผ้าแล้ว ยังจะต้องเก็บห้องนอนให้เป็นระเบียบด้วย
เพราะกองหนังสือมันเริ่มมีฝุ่นเกาะมากจนนอนไอค๊อกๆกันทุกวัน

ดีนะครับ ที่อาหมวยได้อยู่กับพี่ๆน้องๆ พร้อมหน้าพร้อมตากันบ่อยๆ
สำหรับอาเฮีย พี่น้องก็อยู่บ้านเล็ก บ้านกลาง บ้านใหญ่ ในพื้นที่เดียวกันนี่แหละ
แต่ต่างคนต่างอยู่ น้องชายทำงานประหลาด ทำเหมือนพระเอกในเรื่องรถไฟฟ้ามหานคร
เขาทำงานตอนบ่ายๆ กลับตอนสายๆ เป็นงานด้านวิศวะไฟฟ้าบวกระบบความปลอดภัยอะไรประมาณนี้
เคยถามว่าทำไมเวลาทำงานถึงแปลก เขาบอกว่าต้องทดสอบระบบ ต้องปิดเปิดไฟทั้งตึก
บางทีต้องไล่ทำงานไปทีละจุด ดังนั้นต้องรอให้คนเขาออกจากตึกไปให้หมดก่อน
ฟังดูแล้วเหมือนพวกหัวขโมยจริงๆ
เขาก็ขับรถและแต่งตัวเหมือนคนซกม๊กจริงๆนะ
เงินเดือนก็ดีนะ แต่บริษัทโดนโกงบ่อย เพราะชอบไปรับเหมาช่วงเขามาอีกที
พอมีปัญหาก็โดนระงับจ่ายค่างวด เจ้านายเงินช๊อต ก็เบี้ยวเงินลูกน้อง แต่แปลกที่เขาไม่เคยเปลี่ยนงานเลย
คงจะเป็นเพราะได้เพื่อนและลูกน้องที่คอทองแดงเหมือนกัน
พวกนี้วันศุกร์เมา เสาร์เมา อาทิตย์เมา จันทร์ไปทำงานได้เหมือนนอนพักผ่อนมาสองวันเต็มๆ

ส่วนน้องสาวเขามีครอบครัวที่วุ่นวายพอสมควร สามีกับเขาทำบริษัทรับเหมาสร้างตึก สร้างบ้าน เป็นบริษัทเล็กๆ
วันๆนอกจากเรื่องงาน ก็วุ่นๆเรื่องรับส่งลูกๆ ลูกคนนั้นเรียนอย่างโน้น ลูกคนนี้เรียนอย่างนี้ เรียนกันคนละมุมโลกเสียด้วย
วันธรรมดาๆ เขาก็วิ่งวุ่นระหว่างอ๊อฟฟิซ ธนาคาร ไซท์งาน บ้านลูกค้า บ้านนายทุน บ้านนายจ้าง บ้านเจ้าหนี้
บ้านคนงาน ชายแดนไทยพม่า มีบางวันไปไหนก็ไม่มีใครรู้ ฯ
แถมวันดีคืนดียังต้องไปแก้ปัญหาให้พวกคนงานที่ทะเลาะกันเองอีกด้วย
เรื่องมันยาวเล่าเป็นปีก็ไม่หมด เฮียก็ฟังมาจากท่านแม่ของเฮียอีกทีหนึ่ง

เอาเป็นว่าร้อยวันพันปีถึงจะได้เจอกันครบหน้าพี่ๆน้องๆ
แต่ถึงเจอกันก็ไม่ได้มีความสุขอะไร หรือทำอะไรให้ประทับใจกัน
เพราะต่างคนต่างอยู่แบบนี้มานานตั้งแต่สมัยเด็กๆ
แปลกดีพวกเราพี่น้องไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกันเลย
เวลาใครหายไป ไปทำงานต่างจังหวัด ก็ไม่เคยถามหากัน
ไม่เคยปรึกษาหรือช่วยเหลือเรื่องส่วนตัวอะไรกันเลย
นับว่าเป็นครอบครัวที่อยู่อย่างพอเพียงจริงๆ แต่เฮียว่าแบบตัวใครตัวมันมากกว่า 555

อันนี้มันก็มีสาเหตุนะ เพราะว่าคุณพ่อเป็นคนดุ(เดือด)มาก ออกแนวบู้เลยหละ
ขนาดคุณย่าไม่ยอมมาพักบ้านพ่อแม้แต่วันเดียวเลยหละ เพราะเบื่อเวลาที่พ่อของขึ้น
วันไหนถ้าพี่น้องของเฮียทะเลาะกัน วันนั้นได้ทานข้าวพร้อมหยดน้ำตากันถ้วนหน้า ขนาดท่านแม่ยังโดนลูกหลงไปด้วยเลย
พวกเราเลยหาวิธีอยู่แบบพอเพียง เลี่ยงกัน หาทางเอาตัวรอด
ใครสามารถหาข้ออ้าง เพื่อออกจากบ้านไปหาเพื่อน หาใครที่อื่นได้ ก็จะหายตัวไปแต่เช้าจนจรดเย็น
เพราะถ้าอยู่บ้านแล้ววันไหน ผีเพชรฆาตรร้อยศพเข้าสิงพ่อ โดนทั้งดุ ด่า และไม้เรียว กันเป็นสิบๆรอบ
เฮียว่าพวกพี่น้องเฮียไม่ได้รักกันมากก็จริง
แต่ก็ไม่เคยโกรธกัน ไม่เคยมีอะไรมานินทาเหน็บแนมกัน ไม่ได้เกลียดกัน
เป็นชีวิตครอยครัวที่นิ่งสงบไปอีกแบบ

มีเรื่องน้ำหมากกระจายมาเล่า
ที่บ้านคุณย่า ที่ต่างจังหวัด แถวภาคอีสานโน่น
คือว่า อาคนที่สี่ กับคนที่ห้า แต่งสะใภ้เข้าบ้านทั้งสองคนในเวลาไล่ๆกัน
พอ 2 ปี มีอันต้องแบ่งครัว
พอ 4 ปี มีอันต้องแยกออกไปปลูกบ้านคนละหลัง
พอ 6 ปี ต่างคนต่างอยู่ ไม่ร่วมทำกิจกรรมร่วม ขนาดงานศพญาติๆกัน ยังสับหลีกกันเลย
เพราะอะไร? ก็เพราะสะใภ้กับสะใภ้เป็นเกาเหลากันเอง เข้ากันไม่ได้
พวกอาๆคนอื่นก็พลอยทะเลาะกันกับคนพวกนี้

เมื่อก่อนตอนเฮียเป็นเด็กๆ บ้านคุณปู่คุณย่ายังเป็นครอบครัวใหญ่มากกกกก
คุณย่ามีลูก 8 คน ตายตอนเกิดอีกใหม่ๆอีก 1 คน ก็รวมเป็น 9 คนเลยนะ
ตอนเฮีย 8-9 ขวบ ก็มีอาแต่งออกไปแล้ว 3 คน แต่ช่วงปิดเทอมก็จะเอาเด็กๆมารวมกันที่บ้านคุณย่า
ทุกคนจะทานอาหารพร้อมกันในมื้อเย็นแทบทุกวัน แบบว่าล้อมวงกันทีประมาณ 14-15 คน เสียงดังเหมือนบ้านมีงานเลย
ต้องปูเสื่อหลายผืนใต้ถุนบ้านที่ปลูกแบบยกพื้น ข้างบนนั้นน่าจะเป็นที่เก็บของอะไรสักอย่าง(จำไม่ได้) เพราะไม่มีคนขึ้นไปนอน
อาหารก็มีหลากหลาย ช่วยกันทำ ช่วยกันหา พวกหน้าตาแปลกๆก็มี เช่น อึ่งอ่างย่าง ผัดไข่มดแดง ฯ
ใต้ถุนบ้านคุณย่าจะมีมุมหนึ่งเอาไว้เลี้ยงไก่ไข่ เลยมีเมนูไข่ให้เด็กๆได้ทานทุกมื้อ
บ้านอยู่ใกล้สระน้ำ พวกอาๆเขาก็จะไปเก็บผักริมรั้ว ริมสระ เอามาทานกับน้ำพริก
ไม่น่าเชื่อว่า แค่สิบนาทีกว่าๆ พวกเขาจะได้ผักกลับมามากมาย
จำได้ว่า มี กระถิน เขาทานกันทั้งยอดและฝักอ่อน ฝักแก่ ตำลึง ผักบุ้ง ผักแว่น

ส่วนอาอีกคน ครอบครัวเขามีอาชีพทำนา(นาของทั้งครอบครัว)
เขาปลูกบ้านติดกับบ้านคุณย่า ใต้ถุนบ้านเลี้ยงควาย 4 ตัว
กลิ่นเหม็นอย่าบอกใคร แต่เหม็นเฉพาะเจ้าเด็กชาวกรุงเทพฯนะ คนอื่นๆเขาไม่เห็นจะบ่นอะไรเลย
ตอนเย็นอาคนนี้ก็จะเก็บพืชผักชื่อประหลาดๆมาจากท้องนา ชื่อพิลึกๆ เช่น แต้วหรือติ้ว กะเดา กระโดน ชื่อเรียกยากๆทั้งนั้น
นอกจากนั้นคุณย่าก็มีสวนผักอยู่ที่นาที่อาคนนั้นไปทำนา เขาเรียกกันว่า หัวนา ไม่รู้ว่ามันหัวตรงไหนเหมือนกัน
มีทั้งต้นหอม มะระ สะเดา ฟักทอง ฟักเขียว ผักกาด คะน้า ชะอม ...
ถ้าอยากทานอะไร สั่งเอาไว้ตอนเช้า ตอนเย็นได้ทานแน่นอน
คนต่างจังหวัดเขาทำกับข้าว เขาไม่ค่อยเน้นเรื่องเนื้อสัตว์
แต่ที่นั้นมีระบบเหมือนสหกรณ์ หรือกลุ่มอะไรบางอย่าง
เขามีการเก็บเงินกันเป็นรายเดือน แล้วพอวันดีคืนดี แบบว่าวันอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
เขาจะเอาเนื้อสดๆมาแจกกัน เขาหน่วยนับว่า หุ้น แต่เสียงในฟิลม์ตอนเด็กๆเฮียได้ยินว่า หุ่น
พอโตมาถึงทราบว่า หมายถึง หุ้น หุ้นส่วน หรือปันส่วนตามมูลค่าที่หุ้นกันเอาไว้
เขาเอาเงินไปให้ตัวแทนแล้วเอาเงินนั้นไปขอแลกซื้อปันส่วนเนื้อสัตว์มาจากโรงฆ่าสัตว์
สมัยก่อนไม่ค่อยมีตู้เย็นกันหรอกในละแวกบ้านคุณย่า
ขนาดไฟฟ้า แค่ห้าทุ่มมันก็หรี่ตัวมันเองได้ ต้องจุดตะเกียงที่เป็นกระป๋องเล็กๆ กลัวไฟไหม้มุ้งจะตายไป
เฮียคิดว่าถ้าไปซื้อเนื้อสด ราคาก็คงจะแพง ซื้อเยอะก็ไม่ได้ เดี่ยวทานไม่หมดก็จะเน่าเสีย
แต่การซื้อระบบหุ่นนี่ รู้สึกว่าจะมีสถานที่เก็บให้นะ เราแค่ไปเบิกเนื้อส่วนของเรามา
ถ้าในละแวกบ้านเรามีกัน 5 ครอบครัว เราก็ไปเบิกมา 1 กก แล้วเอามาหาร 5 ส่วนเท่าๆกัน
ปัญหามันน่าคิดที่ว่า ตอนนั้น เนื้อที่ทานกัน เป็นเนื้อโค หรือกระบือ สงสัยจัง
กระบือ เอาไว้ไถนา
โค เอาไว้เทียมเกวียน

มีวันหนึ่ง พวกอาๆได้เนื้อมาตอนเย็น คนหนึ่งส่งให้อีกคน เอาไปสับๆๆๆ
อีกคนเดินไปหลังบ้านเก็บ ไปเก็บใบชะพลู มาหลายใบ แล้วก็เอามาสับๆๆๆๆๆ
จากนั้นอีกไม่นาน มันก็กลายมาเป็นเนื้อผัดใบชะพลู อร่อยมากๆ เขาแยกแบบไม่เผ็ดให้เด็กลองทานดู
ส่วนของผู้ใหญ่ มีการใส่เหล้าลงไปด้วย แถมใส่พริกแบบว่าทานแล้ว สะกดคำว่าเผ็ดไม่ถูกเลย
ทำไมเฮียถึงทราบ ก็เพราะเฮียแอบไปตักมาทาน ผู้ใหญ่เขาก็เตือนแล้ว แต่อยากลอง
แค่คำเดียวก็ทานน้ำหมดไปหลายขัน หายซ่าไปนาน
ทุกวันนี้ถ้าท่านแม่ทำเนื้อสับผัดกับใบชะพลูเมื่อไหร่ ก็จะมาบอกให้ไปทานที่บ้านใหญ่ เพราะท่านทราบว่าเฮียชอบทานมาก

แต่ถ้าพวกเราอยากทานปลา แค่บอกเหมือนกัน น่าจะเรียกว่า ออร์เดอร์ จะถูกต้องกว่านะ
เขาก็จะเอาแหใส่ท้ายจักรยานไปด้วยตอนเช้า แล้วเอาไปทอดที่บ่อใหญ่แถวๆนา
เฮียเองก็เคยไปว่ายน้ำเล่น เป็นบ่อที่ขุดด้วยมือ มีทั้งช่วงตื้นและลึก
คนโบราณฉลาดมาก บ่อนี้ไม่ได้แค่เอาไว้เพื่อให้มีน้ำเอาไว้อาบ หรือชำระเท่านั้น
พอตอนหมดหน้าฝน ปลายฤดูน้ำหลาก บ่อนี้จะเป็นแหล่งน้ำสุดท้ายของพื้นที่สิบๆไร่
พวกสัตว์น้ำที่เคยว่ายเล่นในท้องนา จะต้องโดนเรียกตัวมาอยู่ในตู้เย็นธรรมชาติตู้นี้
มิน่าทำไมเขาถึงหาปลาได้ง่ายจัง สมัยนั้นอาจะบอกว่า เทวดาเอาปลามาให้ เฮียก็เชื่ออย่างนั้นจริง
วันไหนที่ได้ไปเที่ยวนากับเขา เป็นวันทีสนุกอีกวัน
เพราะจะมีเมนูปลาช่อนเผา และไก่อบฟาง
เวลาทานข้าวแล้วเข้าใจคำว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นแบบนี้เอง
ถ้าไม่ได้ไปนา แต่อยากทานปลา ก็ออร์เดอร์อย่างที่เล่าให้ฟัง
แค่โยนแหไปสองสามทีก็ได้ปลามาหลายตัว ปลาช่อนตัวโตๆ
เอามาทำต้มยำปลาช่อน ซดน้ำเปรี้ยวๆ คล่องคอเป็นยิ่งนัก

สมัยเป็นเด็กๆเวลาปิดเทอมอยากไปเที่ยวบ้านคุณย่ามากๆ เป็นช่วงเวลาที่รวมหลานๆกัน
หลานทางกรุงเทพฯซึ่งมีพวกเราเท่านั้นก็จะเอาของเล่นล้ำสมัยไปอวดเขา
แต่สุดท้ายก็ต้องยกของนั้นให้เด็กในพื้นที่ เพราะอยากแลกของๆเขามาเล่นมากกว่า
อย่างรถลากที่เขาเอารองเท้าแตะเก่าๆมาตัดเป็นล้อ 4 ล้อ แล้วเอาท่อนไม้สี่เหลี่ยมมาเป็นตัวถังรถ
เอาตะปูตอกล้อเข้ากับตัวถัง หาเชือกมาลาก ในห้างสรรพสินค้ากลางกรุงฯไม่มีขาย 555
แต่ตัวหุ่นการ์ตูนพลาสติกที่เรียกว่า ตุ๊กตุ่น เด็กต่างจังหวัดอยากได้มาก
เด็กกรุ่งแค่จับฉลากไม่กี่บาทก็ได้แล้ว เป็นเรื่องของความแตกต่างด้านดีมานด์จริงๆ

เวลาเขานั่งทานอาหารเป็นสิบๆคนนี้ คนบ้านข้างๆก็มาล้อมวงทานด้วยนะ
ก็เล่นตะโกนชวนคนที่เดินผ่านบ้านตลอดเวลา บางคนก็แค่นั่งเล่นๆแล้วก็ไป
ถ้าจะมาทานจริง เขาจะกลับไปเอาอาหารที่บ้านเขามาเสริม
ส่วนเรื่องข้าวไม่น่าเป็นห่วง เพราะปลูกเอง ตำเอง(ใช้ครกแบบเหยียบ) หุงเอง ทานเอง
สมัยนี้ข้าวเปล่าจานหนึ่งก็ 5 บาทแล้ว

พวกผู้ชายก็มาทานเหล้ากันในสถานการณ์นี่แหละ (ไม่มีบาร์ ไม่มีคาราโอเกะ)
ภาพการทานอาหารเหมือนงานเลี้ยง แบบว่า ใครจะบวชวันพรุ่งนี้หรืออย่างไร?
คนบ้านๆ เขามีความสุขดีนะ เรียกว่ามีงานเลี้ยงกันแทบทุกวันโดยไม่สิ้นเปลืองมากนัก
ครอบครัวที่อยู่กันหลายๆคนก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง ทานอาหารหลายๆคนมันครื้นเครงดี
แต่อย่างบ้านคุณย่า พอมีคนนอกแต่งงานเข้ามาเพิ่มนี่ซิ
เหมือนละครหลังข่าวเลย พี่น้องต้องมาแตกกันก็เพราะภรรยาขี้ฟ้อง
คิดแล้วก็ต้องปลง ไม่ว่าครอบครัวแบบไหน ก็มีทั้งสุขและทุกข์เสมอ ว่ามั๊ย?

นี่ยังไม่ได้โม้บ้านคุณตาคุณยาย และบ้านลุง อีกนะ
บรรยาก็แตกต่างกันไป มันหยดติ๋งๆอีกแบบ
เอาไว้เล่า เมื่ออยากเล่า ก็แล้วกัน 555

เห็นว่าเล่าเรื่องแฟมิลี่มา
ก็เลยเล่าเรื่องให้ฟังกลับคืนบ้าง
แต่ของเฮียคงไม่แฮปปี้เท่าของอาหมวย อิอิ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 12 กันยายน 2553 14:33:10 น.  

 



Ninja Hattori-Kun

นินจาฮัตโตริ หรือ นินจาฮาโตริ
ฝีมือของ Fujiko Fujio ในช่วงปี ค.ศ. 1964 - 1971
เป็นหนังสือการ์ตูน 16 เล่ม และเป็นหนังการ์ตูนฉายทางทีวี(อนิเมะ) ประมาณ 694 ตอน
ตระกูลฮัตโตริ มีจริงๆ ในญี่ปุ่นมีนินจาตระกูล ฮัตโตริ อยู่ในสมัยโชกุน โตกุกาว่า
เรื่องนี้เป็นการ์ตูนเอาใจเด็กญี่ปุ่น
จึงมีการจินตนาการให้นินจาเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงกับคนปกติในยุคปัจจุบัน
ตัวละครเด่นๆ ได้แก่ นินจาฮัตโตริ คันโซ, ชินโซ, เคนอิจิ, เคมุมากิ, ชิชิมารุ, ยูเมโกะ, ...
ว่าไปแล้วเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัวที่หน้าตาคล้ายๆกับตัวละครในเรื่องโดราเอมอนมาก
ขนาด เคนอิจิ ยังใส่แว่น นิสัยเปิ่นๆ เด๋อๆ และค่อนข้างอ่อนแอ เหมือน โนบิตะ

ฮัตโตริ มีคำพูดที่ทำให้เด็กๆพูดตามว่า "นิน นิน นิน"
และอาศัยอยู่ในห้องใต้หลังคา
ในเรื่องจะมีสำนักนินจาอยู่ 2 ค่าย คือ อิงะ และ โคงะ
ฮัตโตริ เป็นนินจาอิงะ ใส่ชุดสีน้ำเงิน เก่งในเรื่องวิชานินจาแบบสุดยอด
แต่ไหงดันกลัว "กบ" ก็ไม่ทราบ
ผมเดาเอาว่า อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยเป็นเด็กๆเคยฝึกวิชาในน้ำ
แล้วไปเจอกบหลุดไหลเข้าไปในหลอดไม้ไผ่ที่เป็นท่อหายใจจนทำให้สำลักน้ำก็ได้ 555

ตัวละครที่สร้างความวุ่นวายตลอดเรื่องก็คือ เคมุมากิ เป็นนินจาสำนักโคงะ
เคมุมากิ นี่เล่นละครตบตาคนเก่งมาก ปลอมเป็นนักเรียนที่อ่อนแอ เพื่อมาจีบยูเมโกะ
ซึ่งยูเมโกะก็เป็นที่หมายปองของเคนอิจิ ดังนั้นจึงมีศึกชิงนางเกิดขึ้นบ่อย
ฮัตโตริก็อดใจไม่ได้ที่จะออกมาช่วยหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้คนที่ให้ที่พักตัวเอง
ยังมีความวุ่นวายอื่นๆอีกโดยที่ฝ่ายธรรมะมีสุนัข
แต่ฝ่ายอธรรมมีแมว และสุนัขกับแมวก็ไม่ถูกชะตากัน ชอบอวดฝีมือกัน เออ...ชอบกัดกันมากกว่า
ทั้งคนทั้งสัตว์เลี้ยงก็มีวิชานินจาด้วยกันทั้งนั้น
แต่ด้วยความเป็นการ์ตูน เลยมีเหตุการณ์น่ารักและขำๆเกิดขึ้นบ่อยๆ

สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้ก็คือ
เวลาจะย้ายฉากไปอีกทีหนึ่ง
จะมีอีกาบินมา (บินผ่านจอ)
และร้องว่า "อาห้อย อาห้อย ในเวลาต่อมา"


ชื่อของ Fujiko Fujio เป็นสองคนที่สร้างการ์ตูนที่โด่งดังอีกเรื่อง
ซึ่งเรื่องนี้อาจจะดังกว่า ฮัตโตริ ถ้ามองแบบสากล
การ์ตูนเรื่องนั้นคือ โดราเอมอน
แต่ถ้าในประเทศญี่ปุ่นการ์ตูนนินจา ก็เข้าถึงหัวใจเด็กๆได้ง่ายกว่า
หนึ่งในผู้เขียนการ์ตูน คือ ฟูจิโมโตะ ได้ถึงแก่กรรมในปี 1996
ดังนั้นคงจะไม่มีตอนใหม่อีกแน่นอน


 

โดย: zoomzero 12 กันยายน 2553 14:53:51 น.  

 



The Gundam Series

ชื่อไทย อภินิหารกันดั้ม

การ์ตูนหุ่นยนต์ญี่ปุ่นนั้นมีอยู่หลายเรื่อง
แต่เรื่อง กันดั้ม นั้นถือเป็นอะนิเมะซีรี่รุ่นบุกเบิก และจัดเป็นเรื่องแรกของแนวการ์ตูนหุ่นยนต์รบขนาดใหญ่
ใครเป็นแฟนคลับการ์ตูนหุ่นยนต์รุ่นใหญ่คงจะจำได้ว่า ยังมีเรื่อง มาชินก้า เก็ตเตอร์ ฯ
พวกที่เป็นหนังใหญ่ก็มีนะ ไม่ทราบว่าเคยได้ยินชื่อนี้หรือเปล่า...อีวานแกเลี่ยน, หุ่นมาครอส, ...
แต่ถ้าเป็นหุ่นยนต์ตัวเล็กๆขนาดเท่าพวกเรา ต้องนี่เลยครับ เจ้าหนูปรมาณู หนูน้อยอาราเล่ โดราเอมอน ฯ
หลายคนไม่คิดว่า โดราเอมอนเป็นหุ่นยนต์ โดยเฉพาะเด็กๆ จะคิดว่ามันมีชีวิตจริงๆ

ส่วนหุ่นยนต์ตัวอื่นๆที่อาจจะมีบางคนรู้จักบ้าง
ได้แก่ ร๊อคแมนหรือเมก้าแมน(อยู่ในเกมที่ต่อกับทีวีในยุคแรกๆ)
และก็มาถึงยุคหุ่นยนต์ไซบอร์กหรือกึ่งมนุษย์กึ่งจักรกล
ตอนนั้นคอมพิวเตอร์บูมมากในวงการแพทย์เลยเอามาสร้างหนังแนววิทยาศาสตร์กัน
เท่าที่จำได้ก็ได้แก่เรื่อง คอบร้า (ที่มีปืนซ่อนเอาไว้ที่มือซ้าย)

กันดั้มเหมือนตัวทำตลาดให้ตุ๊กตาของเล่นที่เป็นหุ่นยนต์
บริษัทของเล่นจะผลิตหุ่นยนต์กันดั้มออกมาวางขายมากกว่าการ์ตูนเรื่องอื่นๆ
เพราะมีกันดั้มหลายตัว ซึ่งเรียกว่า โมบิลสูท

"อภินิหารกันดั้ม" เป็นการ์ตูนอนิเมะ แบบระดับมหากาพย์เลยก็ว่าได้
สร้างโดยบริษัท Sunrise Studio ซึ่งคงใช้คนวาดเก่งๆหลายคน
มีการสร้างเป็นหลายภาค บางทีก็สร้างเพิ่มตอนเข้าไปในซีรี่
และทุกวันนี้ก็ยังมีการสร้างกันดั้มรุ่นใหม่ๆออกมา
ไม่ทราบว่าจะมีแฟนพันแท้ที่จดจำ mobile suit ของ Gundum ได้หมดหรือไม่?

สำหรับผมเนื้อเรื่องไม่ต้องไปจำ เพราะแนวเรื่องจะมีแต่การส่งหุ่นยนต์ออกไปสู้กัน
จุดเด่นของการ์ตูนหุ่นยนต์ คือ การจินตนาการว่าคนเราเข้าไปขับเคลื่อนหุ่นยนต์ได้
เหมือนขับรถหรือขับเครื่องบิน แถมยังสามารถต่อสู้กันได้อีกด้วย
เรื่องแบบนี้แหละที่เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ชื่นชอบ และฝันอยากเป็นตัวละครแบบนั้น
ใครจะไปรู้อีกหน่อยอาจจะมีทหารที่ขับหุ่นยนต์รบบินออกไปต่อสู้กับศัตรูแทน F16 ก็ได้

การ์ตูนเรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกในไทยประมาณปี พ.ศ. 2524 ทางช่อง 7 สี
แรกๆก็เป็นการ์ตูนที่ไม่ค่อยซับซ้อน
แต่ถ้าไม่เคยดูมาก่อนก็อาจจะงงว่า ทำไมจึงมีชื่อรหัสเรียกเยอะไปหมด
เขามีหลักการตั้งชื่อหรือเปล่า?
คำตอบคือมีครับ
อย่างตัวแรก เห็นเขาว่าคือ RX-78-2
ก่อนอื่นต้องรู้ว่ามีกันดั้ม 2 พวก คือ ในระบบ Universal Century และจักรวาลคู่ขนาน (อย่าไปสนใจมากเลย ปวดหัวเปล่าๆ)
พวก R คือ พวกกันดั้มโมบิลสูทในระบบ Universal Century
ส่วน X นี่เข้าว่าเป็นรหัสหน่วยรบ ส่วนตัวเลขที่เหลือก็ช่างเถอะ อย่าซีเรียส
สำหรับพวกกลุ่มจักรวาลคู่ขนาน
ก็จะมีกันดั้มอีกมากมาย เช่น Z-Gundam, Gundam-ZZ, Gundam-Wing, ....

ในปี พ.ศ. 2545 ก็ได้มีการฉายเรื่อง กันดั้มเอ็กซ์ ทางไอทีวี
พวกของเล่นที่เป็นหุ่นยนต์พลาสติกสีสวยๆราคาแพงๆที่นำเข้ามาขายในบานเราก็มีอยู่หลายรุ่น
เช่น GF12-035NH ซึ่งจะหมายถึง เกาลูนกันดั้ม (ชื่อแปลกซะเหลือเกิน ว่ามั๊ย),
GF13-011NC ตัวนี้คือ ดราก้อนกันดั้ม, .... ฯ

ถ้าอยากเป็นเซียนกันดั้มจริงๆ ต้องหัดจัดหมวดหมู่ให้เป็น
ต้องรู้ว่าอะไรคือ กันดั้มไฟเตอร์, เดวิลกันดั้ม, เอสดีกันดั้ม,...
ผมคิดว่าใครเป็นแฟนพันธ์แท้ของกันดั้ม
คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ คงต้องเรียกว่า ขั้นเทพ ได้เลย

 

โดย: zoomzero 12 กันยายน 2553 19:13:39 น.  

 



The Rose of Versailles

ชื่อไทย คือ กุหลาบแวร์ซาย
หรืออีกชื่อ Lady Oscar ซึ่งฝรั่งจะรู้จักชื่อนี้มากกว่า

เป็นผลงานของ Riyoko Ikeda ในช่วงปี ค.ศ. 1972 - 1973
ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนจะมีจำนวน 10 เล่ม (ดูแล้วน้อยไปหน่อยนะ)
สำหรับอะนิเมะจะมี 41 ตอน
ได้เข้ามาฉายในไทยประมาณปี พ.ศ.2522-2523 ทางช่อง 9 อสมท

แต่มีความโด่งดังเปรี้ยงปั้ง แบบเรียกว่า ระดับทั่วโลกก็ว่าได้
ก็เพราะมีการนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ แล้วตีพิมพ์ขายไปทั่วโลก (ว๊าว)
และยังมีการนำไปทำเป็นละครเวที แบบโอเปร่า และมีการเต้นบัลลเต์

เป็นสัญลักษณ์ของการ์ตูนตาหวานของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
เสื้อผ้า หน้าตา ตัวละคร วาดได้สวยงามมาก
เด็กผู้หญิงจะชื่นชอบมากการ์ตูนเรื่องนี้เป็นพิเศษ
สมัยนั้นจะมีกระดาษรูปตัวละครและเสื้อผ้าหลากหลายชุด ทำออกมาขาย
พวกเด็กผู้หญิงจะซื้อมาแล้วตัดแยกชุดและเครื่องประดับ
เอามาสวมกับตัวละครที่มักจะวาดแค่ใส่ชุดชั้นใน
เขาเรียกว่า ยุคตุ๊กตากระดาษ หรือ paperdoll


กุหลาบแวร์ซาย เป็นการ์ตูนอิงประวัติศาสตร์จริงๆของประเทศฝรั่งเศส
เป็นเรื่องในช่วงสมัยก่อนและหลังการปกครองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
บางคนอาจจะงงว่าสมัยไหน ตรงกับไทยช่วงไหน
ก็ประมาณ พ.ศ.2317-2336 (โดยประมาณนะครับ) ของไทยก็ต้นรัชกาลที่ 1 (2325-2352)
ถ้าเอาแบบวิชาการ ก็ต้องบอกว่า ยุคปฏิวัติ หรือ ยุคประหารพระนางมารี อองตัวเนต
อยู่ประมาณปี ค.ศ. 1793-1804


แนวการเขียนเรื่องหรือแค่การวางบุคลิกของตัวละครเอก ก็สุดยอดแล้ว
ตัวเอกของเรื่องมีชื่อว่า ออสการ์ ฟรังซัวส์ เดอร์ จาร์เจ
ชื่อออสการ์ แน่นอนต้องเป็นพระเอก แต่...ไม่ใช่นะ เขาคือเธอ เธอคือนางเอก
เรื่องนี้เป็นเพราะนายพลชาร์เวอเลีย ขุนนางใหญ่ของฝรั่งเศส นั่งรอภรรยาคลอดลูกชายมา 5 รอบ
ได้แต่บุตรสาว พอรอบที่ 6 ก็ยังเป็นหญิงอีกคน
ก็คือ ออสการ์ คนนี้แหละ ก็เลยโดนบังคับให้เป็นทอมบอย หรือเป็นชาย ตามที่พ่อปรารถนาเสียเลย
พวกฝรั่งเศสนี่เขาก็มี่เรื่องแปลกๆเกี่ยวกับตัวละคนอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน
บางเรื่องก็มีเอ่ยถึงชายอยากเป็นหญิง
บางเรื่องก็เป็นเรื่องหญิงที่เก่งขนาดเป็นนักรบ หรือทำงานอาชีพผู้ชาย ประมาณนี้แหละครับ

แล้วพระเอกคือใคร
อ๋อ...เขาคือ อังเดร กรังดิเออร์ หลานชายของแม่นมของออสการ์นั่นเอง
เขาถูกเรียกตัวมาเป็นคู่ซ้อมดาบให้ออสการ์
เพราะนายพลอยากปิดเรื่องนี้เป็นความลับให้มากที่สุด เลยไม่กล้าจ้างครูมาจากข้างนอก
หนุ่มสาวอยู่ใกล้กันทุกวัน ไฟฟ้าในหัวใจก็เริ่มทำงาน
อังเดรนั้นฟันดาบสู้ออสการ์ไม่ได้ แต่ก็ขยันมาเป็นคู่ซ้อม เพราะตกหลุมรักสาวแต่งกายเป็นชายคนนี้
พูดถึงเรื่อง เกย์ เรื่องทอม คนฝรั่งเศสสมัยก่อนผู้ชายเขาไว้ผมยาว
จะเป็นผู้ชายจริงๆหรือผู้ชายนะยะ ก็ดูกันไม่ออก
ดังนั้นนางเอกของเรื่องจึงไม่จำเป็นต้องตัดผมสั้นแบบทัดดาว บุษยา ในเรื่องเจ้าฮะ เจ้าฮะ ก็ได้
ออสการ์นั้นมีหน้าตาเหมือนทั้งหนุ่มและสาว หน้าสวยคมคายมาก ใครเห็นก็ชอบ

เนื้อเรื่องดำเนินไปในลักษณะหน้าที่การงานของออสการ์ ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
เธอได้ทำงานในฐานะองครักษ์ของพระนางมารี อองตัวเน็ท
ซึ่งพระนางน่าจะทราบว่าออสการ์เป็นผู้หญิงนะ (จำเรื่องไม่ได้)

จากการ์ตูนเรื่องนี้จะทำให้ทราบว่าพระนางมารีนั้น ไม่ใช่คนฝรั่งเศสจริงๆ
แต่เป็นเจ้าหญิงมาจากฮังการี เลยตื่นเต้นกับฝรั่งเศสมาก
และมีความคิดออกแนวไฮโซมากจนทำให้ชีวิตต้องพบจุดจบ
เรื่องราวของการ์ตูนก็จะอธิบายขยายออกไปเรื่อยๆ
พระนางมารี ชอบปลอมตัวและแอบหนีออกจากวังไปเที่ยวงานปาร์ตีของพวกชนชั้นสูง
ออสการ์เลยต้องคอยอารักขาอย่างเหน็ดเหนื่อย
จะมีตอนที่พระนางมารีสวมหน้ากากออกไปเที่ยวงานกลางคืน
แล้วก็จะมีตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องแบบชู้สาวกับพระนาง
แบบว่ากล้าถอดหน้ากากพระนาง แล้วตากับตามาประสาน เกิดอาการปิ๊งๆๆๆ
เรื่องก็วุ่นวายซับซ้อนยุ่งยากมากกว่าเก่า ข่าวลือว่าพระนางชอบหนีออกจากวังก็ลือกันทั่วเมือง
ชื่อเสียงและเกียรติยศของพระนางมารี อองตัวเนต ก็เสื่อมเสียลงมาก
จนถึงตอน สร้อยพระศอเพชร อันเป็นจุดนำไปสู่การปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส
และแล้ว กิโยติน ก็ได้บั่นพระเศียรของเจ้าหญิงจากฮังการี บนแผ่นดินฝรั่งเศส

การ์ตูนนี้จบอย่างไรก็ไม่ทราบ เล่าเท่าที่ทราบก็แล้วกัน
ไม่อยากมั่วมากกว่านี้ 555

 

โดย: zoomzero 12 กันยายน 2553 20:00:15 น.  

 

ซาหวัดดีคร้า พี่ชาย ก้อแหมนะ มาคุยแล้วก้ออยากคุยเยอะ ๆ นี่นา งิงิ

แน่นอนค่ะพี่ชาย ว่าคำว่าไม่ทำให้ใครเสียใจคือทั้งคนของเขาและของเรานี่แหล่ะคือความหมายของบี ^_^

ตอนนี้ดาวไลน์เยอะ (67 คน) หนุ่มหลีแยะไปด้วย เหอะ ๆ โดนด่าเปิงไปตาม ๆ กัน เซ็ง

กรดไหลย้อนเหรอคะ จริง ๆ โรคนี้มันไม่หายนะคะต้องควมคุมเรื่องการกินเอา ตอนไปหาหมอ หมอบอกว่าให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ อย่ากินมื้อเดียวทีละมาก ๆ แต่ให้กินทีละน้อย ๆ หลาย ๆ มื้อแทน บีเดี๋ยวนี้ก็กินน้อยไปเยอะเลย กินวันละมื้อจากที่เยอะ ก็อ่ะ จานเดียว เพราะถ้ากินมากกว่านั้นตกกลางคืนจะเริ่มจุกหน้าอกและมีอาการ เดี๋ยวนี้ก็เลยเพลา ๆ ลง งุงิ ยาก้อช่วยได้เป็นรายครั้งแหล่ะค่ะ คนอื่นกินก็ได้ผลกันนะ แบบกินทีเดียวแล้วไม่เป็นอีกเลย แต่บีกินแล้ว ถ้ายังไม่คุยอาหารกินเยอะแยะมากมายตกกลางคืนมันก้อเป็นอีกอยู่ดีแหล่ะ อย่าที่หมอเขาว่าไว้

ทำบุญเหรอคะ เมื่อวันเสาร์ต้นเดือน บีก็เพิ่งไปทำสังฆทานที่ซอยสายลมมาเหมือนเดิมค่ะ ^_^ พี่ชายก็อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ตอนกลางวันได้ไปฝึกนั่งสมาธิด้วยค่ะ

จะว่าไปมีเรื่องเม้าท์อีกแล้ว bb อ่ะเหย๋อ บอร์ดบีก็ไม่ได้เข้าเลยเหมือนกันค่ะ ก็เลยไม่รู้ง่ะว่าบอร์ดปิดไปรึยังแต่ที่รู้ ๆ คือ เขาไปเล่น fb กันหมดแล้วเฮีย แล้วพี่ชายเมื่อไหร่จะมาเล่นบ้างล่ะคะ ป้าวียังมาเล่นแล้วเลยนะคะ อิอิ อินเทรนด์หน่อยค่ะ แล้วจะได้เห็นอะไรดี ๆ บีว่าเหมาะกับพี่ชายมากเลยนะคะ ไอ้ fb เนี่ยะ มันเหมาะกับพวกเราที่ชอบสอดรู้เรื่องของชาวบ้านเขาจริง ๆ เลย เอิ๊ก

เรื่องที่จะเม้าท์ก้อคือ ไปทำสังฆทานแล้วบีก้อจะซื้อหนังสือธรรมะรายเดือนทุกเดือนอยู่แล้วค่ะ เจ๊เขาก็จะฝากซื้อมาตลอด เดือนนี้ไปถึงไม่ได้ทำงานกับเขาแล้วก็ยังนึกถึงแวะซื้อให้ แล้วตอนแวะหากิ๊ก ย้ายบ้านโน้นบ้านนี้ผ่านก็เอาไปฝากให้เขาค่ะ แต่ตอนแวะไปไม่เจอ ก็ไปโพสต์บอกใน fb ปรากฎว่าตอบมาได้อึ้งไปเลยค่ะ ว่าซื้อมาเองแล้ว ไม่รู้ว่าบีจะซื้อ แป่ว หน้าแตกมั๊ยเนี่ยะ *_*

พี่แอนเหรอคะ อ้าวมาเมืองไทยแล้วเหรอเนี่ยะ บีไม่ได้คุยกับพี่แอนมานานนนน มากแล้วค่ะพี่ชาย มีก้อจะได้คุยแต่กับป้าวีอยู่ ป้าวีมาถามหาพี่ชายตอนช่วยที่พี่ชายหายตัวไปไม่มาตอบบ๊อกหลายวันนั้นแหล่ะ ว่าหายไปไหน บีก้อบอกไม่รู้เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน ที่บีมาตามหาตัวพี่ชายในบอร์ดนี่แหล่ะ งุงิ ^_^ ช่วงนั้นค่ะ ^_^

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวงานเข้า (Beee_bu ) 13 กันยายน 2553 10:52:34 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะเฮีย
ฟังเฮียเล่าเพลินเลยค่ะ อิอิ
เห็นทีว่าอีกนานค่ะ ไอ้อาการเบื่ออาหาร ไม่อยากกินโน่น กินนี่อ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เพราะทุกวันนี้ มินเห็นอาไรมันก็ท่าทางน่ากิน น่าอร่อยไปโม๊ดจิคะ ฮ่า ๆ ๆ
ดีว่า ตัวเองต้องยั้ง ๆ ใจแข็งไว้มั่งอ่ะค่ะ อิอิ...

เรื่องโทรสั่งอาหารเนี่ย มินไม่ค่อยได้สั่งหรอกค่ะ
ส่วนมาก ถ้าจะสั่ง ก็สั่งพิซซ่าอย่างเดียว
ก็ยังทานไม่หมดเลยค่ะ จะสั่งเล็ก ๆ ก็เกรงใจเค้า
ต้องสั่งขนาดกลางแบบมีพวกเป๊ปซี่อาไรมาด้วย
มินมีบัตรที่แบบว่า เวลามาส่งช้าเค้าจะแจกให้อ่ะ
มูลค่า 400 บาท อยู่ 2 ใบ พอไปเอามาดูมันหมดอายุไปแล้วค่ะ
ถ้าอยู่กันหลาย ๆ คนก็น่าสั่ง น่าสนุกนะคะมินว่า
เวลาไปบ้านแม่ แม่มินเค้าก็ไม่ชอบทานพวกของแบบนี้อยู่แล้วอ่ะ...

พี่น้องมินก็เจอกันไม่ค่อยบ่อยหรอกค่ะ
นอกจากน้องชายมินคนเดียวที่เจอบ่อยกว่าเพื่อน
เพราะเค้าทำเต๊นท์รถ บางทีมินก็ให้ไปซื้อรถที่โน่นที่นี่
บางทีลูกค้าขายรถยกล๊อตเลย ก็ให้เค้าไปประมูลอ่ะ
ส่วนพี่สาวกับน้องสาวก็นาน ๆ เจอทีเพราะเค้าก็ยุ่ง ๆ
ธุรกิจส่วนตัวของเค้า แต่กับหลาน ๆ เนี่ย
บางทีก็นัดไปเจอบ้านคุณยาย(แม่มิน) กันค่ะ
หลานสาวตอนนี้่เค้าก็ย้ายไปทำงานกับบริษัทฝรั่งข้ามชาติ
เห็นว่าปลายปีนี้อาจต้องย้ายไปทำงานที่สิงค์โปรด้วยมั๊ง

พ่อเลี้ยงมินอ่ะเขาก็จะเกษียณปีนี้แล้วค่ะ
แม่มินเขาแก่กว่าพ่อเลี้ยง 6 ปีค่ะ
มินคงไม่ต้องห่วงแม่มินหรอก เพราะเขาก็คง
เที่ยวกันไปสองคนตายาย ตราบเท่าที่ยังไปไหวอ่ะนะคะ

อาทิตย์ที่แล้ว แม่พาไปบ้านลุงพี่แม่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่
ก็ไปเจอลูกพี่ลูกน้องกัน แต่เขาแก่กว่ามิน 5 ปี
ไม่เคยเจอกันเลยค่ะ ถ้าเห็นกันข้างนอกก็ไม่รู้จักกันหรอก
เพราะมินไม่เคยเห็นและรู้จักญาติข้างแม่มาตั้งแต่เด็กแล้ว
คือ มินอยู่กับพ่อและโตมากับญาติข้างพ่ออ่ะค่ะ
เฮียเชื่อป่าวคะว่า จุดใต้ตำตอ เพราะบริษัทที่เขาทำงานอยู่อ่ะ
ก็เป็นลูกค้าของบริษัทฯ มินด้วยอ่ะนะ อยู่ที่ All Seasons อ่ะ
แต่พี่คนนี้ เขาเป็นไดเร็กเตอร์ใหญ่เลยนะคะ
และเขาก็ไม่ได้ลงมายุ่งเรื่องนี้อยู่แล้วอ่ะ
รถประจำตำแหน่งที่เขาใช้อยู่ ก็ของบริษัทฯ มินเองอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เชื่อเค้าเลยค่ะ ลูกเค้าก็ยังเรียนอยู่ที่อัสสัมชัญเหมือนกัน
แต่หลานชายมินอ่ะ มันจบออกมาแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ..

คิด ๆ ก็น่าแปลกดีนะมินว่า ฮ่า ๆ ๆ
แต่ไปเจอกันก็เขิน ๆ เหมือนเป็นคนอื่นค่ะ
วันนั้นลุงจะชวนไปทานข้าวข้างนอกบ้านกัน
แต่ มินขอตัวอ้างไปว่าพอดีติดงานอ่ะค่ะ
โล่งอกไป เค้าเองก็ดูจะอึดอัดอยู่เหมือนกันนะมินว่า
แม่นะแม่ ทีหลังแบบนี้ไม่ต้องมาเอามินไปด้วยนะ เฮ๊อ..

บ่นโน่น บ่นนี่ ให้ฟัง พอใจแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เฮียมีความสุขมาก ๆ นะคะ ทานให้อร่อยนะ
อย่าเที่ยวไปกิ๊กกับใครให้มันมากนักนะ
ได้ข่าวว่า ตัวจริง เสียงจริง เนี่ย ดุอย่าบอกใครเลยนี่คะ ฮ่า ๆ ๆ
ไปดีกว่า หมดเวลาโม๊แล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ

 

โดย: มินทิวา 14 กันยายน 2553 6:29:12 น.  

 

Beee_BU

อนิจจังสวัสดิ์โยมน้องบี

อือ อือ ตามนั้น ไม่มีใครใจเสีย เอ้ย...เสียใจ เพราะความรักของเรา หุหุ

มีเรื่องจะสารภาพ
คือว่า ไม่เข้าใจคำว่า ดาวไลน์ รู้จักแต่ ดาวร้าย 555
แล้วทำไมมีเยอะจัง?

เรื่องกรดไหลย้อน
โหยยย....ทานอาหารแค่วันละมื้อเดียว
จะไหวหรือ?? พี่ว่าน่าจะเป็น 2 มื้อ และก็ทานน้ำมากๆ
ทำเหมือนพระที่อยู่วัดป่าเลยนะ ฉันอาหารแค่มื้อเดียว
ที่เป็นห่วงคือ ไม่ทานผัก นี่แหละ ทำอย่างไรดีนะ???
พี่ว่าทานน้อยๆ แต่หลายๆมือหน่อยก็ดีนะ
หรือเอาอย่างพี่ซิ ทานแต่ต้มยำลูกน้ำ กับมดทอดกรอบ

โมทนาบุญครับ เรื่องสังฆทาน
ซอยสายลมนี่ นู๋บีไปเป็นประจำเลยนะ
ดี ดี ดี ไปแล้วจิตใจสุขสบาย เห็นด้วยๆ
แต่ว่าไปกับใคร คนเดิมหรือเปล่า อิอิ

เรื่องหนังสือธรรมะรายเดือน
ก็แค่เดือนนี้ก็ดีแล้วที่ซื้อแบบว่ากลายเป็นส่วนเกินในชีวิตของเขา
เรื่องซื้อของให้คน แล้วเขาไม่อยากได้ พี่ชายก็เคยเจอมาแล้ว
มีหลายเวอร์ชั่นด้วย ตั้งแต่ ไม่รู้ว่าจะซื้อมาให้ทำไม .... ....
ไปจนถึง ... ... คราวหลังไม่ต้องซื้ออะไรมาให้อีกแล้วนะ
กว่าจะรู้ว่าของที่เราซื้อมามันไร้รสนิยมและเข้าข่าย "ชั้นต่ำ" พี่ก็ปล่อยใจไปจนหมดหลอดด้าย
จะว่าไปแล้ว เราก็ผิดที่ไม่โทรศัพท์ไปถามเขา ว่ายังจะเอาหนังสืออีกเหมือนเดิมหรือไม่
เอาเป็นว่า ดีเสียอีก เราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องหาหนังสือมาให้เขาทุกๆเดือน
แบบนี้เขาเรียกว่ายกภูเขาไฟออกจากอก แบบนี่แหละ

เรื่องเฟะบุ๊ค เห็นเขาเล่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง
พี่ชายก็ยอมรับว่า "เชย"
แต่บีคงเข้าใจนิสัยพี่ "อะไรที่ไม่รู้จัก พี่ไม่มีวันข้องแวะ"
อย่าง hi5 เห็นมั๊ย เล่นกันไปเล่นกันมา กิ๊กเก่ากิ๊กใหม่โผล่มา add เต็มไปหมด
เขียนอะไรถึงใคร เขาก็อ่านได้
ใครเขียนอะไรมา เขาก็อ่านได้
อย่างอีตาคนที่เมียดุแต่เผลอคนนั้น ยังต้องปิด hi5 หนีตายไปเลย หุหุ
ก็ขนาดเว็บที่ฝากรูป ถ้าเล่นไม่เป็น ก็อาจจะมีคนเข้าไปแฮ็คเอารูปส่วนตัวออกมาโชว์ชาวเน็ทก็ได้
พี่เห็นพวกนั้นเจอคดีต่างๆจาก hi5 พีเลยรีบเลิกเล่นซะก่อน 555
เอ้า.. พี่จะลองเล่น facebook แต่ขอเวลาศึกษาก่อนนะ
เดี๋ยวหาชื่อ เก๋ๆ เป็น avatar ก่อน
เอาชื่อ "เขต ทีละเดน" ดีมั๊ย อันนี้ได้แรงบันดาลโทษะ
เอ้ย..บันดาลใจ จาก "เคน ธีระเดช" สุดหล่อแห่งสยาม

ส่วนเรื่องสอดรู้สอดเห็นพฤติกรรมของชาวบ้าน
ชวนกันด้วยเหตุผลแบบนี้ เหมือนตบหน้าพี่ชายด้วยริมฝีปากนะยายหนู
ใครบ้างไม่อยากรู้เรื่องชาวบ้าน อิอิ เข้าใจจิตใจคนใจโฉดอย่างพี่ชายจริงๆ
เอาซิ แบบนี้ต้อง เข้าไปแจมให้ได้
แต่พี่ว่าอาจจะไม่สนุกนะ เพราะตอนนี้พวกเขาก็รู้ว่าพี่ชายเป็นพวก "รู้แล้วแฉ"
ก็น่าสนใจไปอีกแบบ ยิ่งปิด เราก็ยิ่งอยากรู้ จิงป๊ะ

นกสีขาว เขาแค่กลับมาเยี่ยมบ้าน คงมาหาแฟนเขาด้วย น่าจะสิบกว่าวัน เมื่อสองเดือนก่อนมั๊ง
เขาไม่มีเบอร์พี่ แต่อยากนัดทานข้าว เขียนเมล์มาทั้งบ่น ด่า และขอร้อง 555
พี่ก็เล่นตัว ตามประสาคนหล่อเลือกได้ เลยไม่ได้ติดต่อกับเขาไป
เอ้ย...ไม่ช่าย...พอดียายคุณหนูสร้างคดี ต้องไปช่วยกันสะสางอย่างเร่งด่วน
งานนี้ไม่รู้ว่า เขาจะหมั้นกันกับสุดหล่อคนนั้น หรือต้องร้องเพลงรอไปอีก
แต่ถ้าเขาถามพี่ พี่ก็จะยุให้หาใหม่ เอาแบบคนแก่ฝรั่งๆรวยๆ ชีวิตจะได้สุขสบายเสียที
น้องคนนี้ เขาเป็นคนซื่อ ใจดี มีเมตตา เอาใจเก่ง ขยันทำงาน ไม่เรื่องมาก แบบนี้หนุ่มๆยุโรปต้องชอบ
พี่เห็นว่าเขาเหนื่อยมาตลอดชีวิต แล้วยังจะมาเจอเรื่องมนต์รักธิดามารอีก สงสารน้องเขามาก
ทำไมนะผู้หญิงดีๆ ชอบรักผู้ชายเจ้าชู้ แล้วผู้ชายเจ้าชู้ ก็ชอบหลอกผู้หญิงดีๆ

ถ้ามีคนหล่อแปลกหน้ามาขอเป็นเพื่อนใน FB
ก็โปรดเข้าใจว่า นี่แหละคือ พี่ชาย

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF

 

โดย: zoomzero 14 กันยายน 2553 12:54:13 น.  

 

Mintiva

ก่อนอื่นต้องขอเก็บตกเรื่องเก่าก่อน
เรื่อง แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง
เป็นอาหารอร่อยที่เพิ่งเคยหัดทานแบบเป็นทางการเมื่อ 3 ปีก่อน
จำได้ว่า วันนั้นเฮียพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปทานอาหารริมบึงน้ำแถวนิด้า
ปรากฏว่า รสชาดกลมกล่อมมาก ไม่เปรี้ยวเกินไป ไม่เค็ม ไม่เผ็ด พวกผู้สูงวัย ชื่นชอบ
ร้านนี้เขายังมีเมนู ปลาเต๋าเต้ย หม้อไฟ เอร็ดอร่อยไม่เบา
เฮียก็งงว่าเจ้าเต๋าเต้ยกับปลาจาระเม็ดขาว มันเป็นญาติกันหรือเปล่า???
พูดถึงเต๋าเต้ย ทำไมมันราคา(โฆด)แพงแบบนั้น
เคยได้ยินเจ้านายเขาบอกว่า ไปทานข้าวต้มปลาเต๋าเต้ยมา ชามละ 200 บาท
นั้นมันราคาเมื่อสิบปีก่อนนะ ป่านนี้มิแพงเป็นทองคำไปแล้วเหรอ

มีเรื่องตลกของคนบ้านนอกเข้ากรุงจะมาเล่าให้ฟัง
ครั้งหนึ่ง เคยไปทานอาหารร้านที่มีเมนูเด่นคือ ผักหวาน
เขาว่าเมื่อก่อนเป็นผักที่คนไม่ค่อยสนใจ
แต่พอมาถึงยุค อาหารเพื่อสุขภาพ ผักหวานเลยกลายเป็นดารา
น่าจะราคากิโลกรัมละ 300 บาทเลยหละ
ร้านก็ชื่อเดียวกับเมนูอาหารเด่นนี่แหละ
อยู่แถวๆหมู่บ้านสัมมากร (หมู่บ้านนี้มีร้านอาหารอร่อยเยอะมาก)
พวกผักหวานนี้เข้าเอามาทำอาหารได้หลายอย่าง จนแทบตกเก้าอี้
เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นใส่ผักหวาน ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าผักหวาน
ผัดซีอิ้วผักหวาน ก๋วยเตี๋ยวหมูสับผักหวาน
ผัดผักหวานไฟแดง(หรือเปล่าก็ไม่รู้) ยำผักหวาน แกงส้มผักหวานใส่ปลาช่อนทอด
แกงจืดหมูสับผักหวาน ผักหวานลวกจิ้มแจ่ว
และที่โด่งดังสุดๆ ผักหวานทอดกรอบ ทานกับน้ำจิ้มหวานๆ

เอ้ยซ์ เล่ามาซะนาน ยังไม่ได้เข้าเรื่องเลย
คือ มีคราวหนึ่ง เฮียอยากทานสลัดกุ้งทอดมาก เลยสั่งมาทาน
จำได้ว่า สลัดกุ้งทอด จะมีผักผลไม้ เช่น สับปะรด แอปเปิ้ล แคนตาลูบ แตงกวา มะเขือเทศ ฯ
โป๊ะมาเป็นก้อนๆกลมๆเหมือนภูเขาไฟ แล้วราดด้วยน้ำสลัด
ข้างๆก็จะมีกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดวางเรียงรายอยู่รอบๆ
แต่ที่ไหนได้ เขาเอาอาหารมาเสิร์ฟ เป็นเหมือนถุงทองขนาดจัมโบ้
เฮียก็ได้ทีเพราะอยากโวยวายสร้างจุดเด่นอยู่แล้ว
เลยเรียกเด็กเสิร์ฟเข้ามาเฉ่ง
"น้องๆ นี่อะไร พี่สั่งสลัดกุ้งทอดนะ"
"ครับ นี่ไงครับ"
"อ้าว แล้วทำไมเอาอะไรทอดมา"
"นี่แหละครับ สลัดกุ้งทอด"
แล้วเด็กคนนั้นก็เดินจากไป
เฮียนะ ควันออกหู เหงื่อแตกพลัก
กะว่า จะกินไอ้ที่มันเอามาเสิร์ฟให้หมด แล้วก็จะเบี้ยวไม่จ่ายตังค์อาหารจานนั้น
แต่พอเอาช้อนกดให้มันแยกเป็นสองชิ้น หน้าตามันก็ดูแปลกๆ
เป็นน้ำขาวๆ ชิมดูเป็นน้ำสลัด พอเอาก้อนครึ่งชิ้นใส่ปาก
เอ้ย...มันประกอบด้วย ผัก ผลไม้ และอะไรกรุ๊บๆกร๊อบๆ รสชาดอร่อยมาก
พอเอาช้อนมาเขี่ยๆเจ้าซีกที่เหลือ เออ..มันเป็นสลัดกุ้งจริงๆ
เขาทำแบบนี้ เอากุ้งมาต้มมาสับหยาบๆหรืออาจจะหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ
เอามาคลุกกับน้ำสลัดแล้วเอาผักผลไม้หั่นละเอียดคลุกอีกที
จากนั้นก็เอาแผ่นแป้งที่ใช้ห่อเปาะเปี๊ยะมาห่อเป็นก้อนกลมๆ เหมือนถุง
เอาต้นหอมมาทำเป็นเชือกมัด แล้วเอาไปทอด
สุดท้ายก็ต้องจ่ายค่าอาหารครบทุกรายการ
เด็กทีมาเก็บเงินก็เป็นเด็กคนเดิม เฮียแอบเห็นว่ามันแอบทำหน้ายิ้มๆ
ป่านนี้เด็กคนนั้นคนคิดในว่าเราเป็นบ้านนอกเข้ากรุงจริงๆ 555

เรื่องการพบเจอคน ที่เราคิดว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เราเจอะเจอกันหลายหน
แต่ความจริงแล้ว กลับกลายเป็นคนที่ไม่ได้ไกลตัวเราเลย
อย่างเรื่องที่เฮียเคยเล่าให้ฟังว่า เฮียหลงไหว้ผู้ชายอายุน้อยกว่าเฮียมานานหลายปี
ปรากฏว่า เขามีศักดิ์เป็นเพื่อนของหลานเฮีย
ทีแรกที่เฮียรู้ว่าเขาเป็นใครตอนไปเจอกันในงานศพญาติคนหนึ่ง
แล้วเขาต้องเข้ามาไหว้เฮีย ตอนนั้นก็ตกใจ
พอถามไปถามมา เขาก็คือคนที่เป็นเพื่อนหลานเรานี่เอง เห็นกันมาหลายสิบปี
ที่ว่าเป็นถึงระดับหลานก็เพราะคนจีนสมัยก่อนมีลูกหลายคนและทิ้งห่างหัวปีกับสุดท้องกันเป็นยี่สิบปีก็มี
วันนั้นก็งงๆ ขำๆ แต่พอมานึกย้อนดูอีกที เขารู้ว่าเป็นใครมาตลอด รู้จักชื่อและนามสกุลพวกเรา
แต่เราไม่รู้จักเขา ไม่เคยรู้ประวัติของเขา หน้าตาก็จำไม่ค่อยได้ เราเลยไหว้เขาซะสนุกสนานไปเลย
เรื่องไหว้กัน เฮียไม่ได้คิดมาก ขนาดต้นไม้เฮียยังเคยไหว้มาแล้ว
แต่เรื่องที่เขาไม่เคยบอกว่าเขารู้จักเรา นี่ซิแปลกใจจัง หุหุ
เรื่องของเฮียอาจจะคนละมุมมองกับของอาหมวยนะ
แต่ก็ยังอยู่ในหมวดเจอกันวันหลัง แล้วทำหน้าใส่กันไม่ถูก
คราวหลังเจอกันเราก็ไม่ไหว้มัน มันก็ไม่ไหว้เรา
เพราะมันก็กลัวเสียศักดิ์ศรีถ้าต้องไหว้เราในบริษัทของมัน
เดี๋ยวนี้ไม่ได้เจอกัน สงสัยจะเลิกคบกับหลานของเฮียไปแล้ว 555

สำหรับญาติของอาหมวยรายนี้ดีนะที่เป็นลูกค้า
ถ้าเกิดว่าเคยมาจีบเรา แล้วเราไล่ตะเพิดไปเมื่อหลายปีก่อน
วันนั้นเจอกันแล้วจะขำออกหรือเปล่านะ หุหุ

ฝนยังตกอยู่ทุกวันเลย
ขับรถระวังด้วยนะครับ
ดูยาง ดูลม ถ้ายางเก่าก็เปลี่ยนใหม่ด้วยนะจ๊ะ

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 14 กันยายน 2553 14:29:51 น.  

 

ซาหวัดดีคร้า พี่ชาย สมัคร facebook รึยังเอ่ย อิอิ ถ้าหมักแล้วก็แอดบีเป็นเพื่อนด้วยนะคะ กดปุ่ม search หาคำว่า Tassanavalai Dechoplanon รับรองเจอค่ะ อิอิ

^_^

เรื่องพี่แอนนี่อะไร ยังไงหว่า มึนงง ไม่เข้าใจ งั้นไม่เข้าใจดีกว่า ไปแระ อิอิ

คิดถึงนะคะพี่ชาย จุ๊ฟ ๆ ๆ

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมจุ้น IP: 10.0.3.132, 125.24.194.210 15 กันยายน 2553 2:21:08 น.  

 



หวัดดีค่ะเฮีย
ฮ่า ๆ ๆ อ่านแล้วขำชอบใจอารมณ์ดีก่อนออกไปทำงานค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
คุยกันเรื่องอาหารการกินแล้ว สงสัยจะยาวค่ะ
สด ๆ ร้อน เมื่อคืนนี้ ไปทานข้าวกับเพื่อน
มันแนะนำร้าน ชื่อไรน๊า บ้านน้ำอ้อมหรือไรเนี่ย
คุยนักคุยหนาว่ามาบ่อย บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ
กว่ามินจะขับรถหาร้านเจอก็เลยไปต้องไปวกรถกลับใต้สะพานรอบนึงแล้วอ่ะ
พอไปถึงร้านฝนก็ตกแปะ ๆ ต้อนรับซะแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
มีห้องคาราโอเกะเป็นกระจกใส ๆ เป็นส่วนตัวซัก 10 ห้องได้มั๊ง
แต่ เขาจัดร้านได้ทันสมัยพอสมควรนะมินว่า มีวงดนตรีด้วย
ก่อนดนตรีจะเล่นก็เปิดเพลงให้ฟัง มินก็ว่าเพราะดีค่ะ
เป็นเพลงฝรั่งยุค 70 ขึ้นเพราะ ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะนะ
โห..แต่อาหารที่เขาแนะนำแต่ละอย่างนี่จิ เฮ๊อ..
มินว่า เมื่อคืน มินทานกุ้งกระเบื้องกับไข่เจียวหอยนางรมได้ 2 อย่างเองค่ะ
ต้มยำกุ้ง ก็ต้มกันมาทั้งเปลือกเลยอ่ะนะ แล้วเนี่ยยังไม่รู้เลยว่า..
ตกลงมันต้มยำกุ้งหรือต้มโคล้งกันแน่ เพราะใส่น้ำมะขามเปียกมาซะ...ฮ่า ๆ ๆ
มะนาวหน้านี้ก็ไม่แพงซะหน่อย...ผัดฉ่าทะเลก็เผ็ดจนต้องนั่งแลบสิ้นห้อยหลอกกันเองอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ยำถั่วพลู นู๋ไม่พูดถึง เพราะไม่ได้แตะ คอหมูย่าง โอเค..
พอทานกันเสร็จ อยากจะเตะไอ้เพื่อนที่แนะนำซักป๊าบว่าไรอร่อยของแกวะ...ฮ่า ๆ ๆ
พูดไปพูดมา ใกล้บ้านมันหนึ่ง แล้วมันชอบฟังเพลงที่นี่อีกหนึ่งค่ะ ฮ่า ๆ ๆ..
หารกัน 4 คน เมื่อคืนคนละไม่ถึง 300 ค่ะ ก็โอเค พอให้อภัยอ่ะนะ
อ้อ..มีจุดดีคือ อาหารที่นี่ไม่ออกหวานนำ เหมือนร้าน บ้านให้ความรัก อ่ะค่ะ ร้านโน๊นหวานนำโด่งมาทุกจานอ่ะ

ส่วนเรื่องไหว้คนเนี่ย มินไม่เคยถือสาเรื่องนี้เลยนะ
เพราะพ่อแม่เคยสอนไว้ว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเนี่ย
อยู่ที่สองมือของเราที่ยกขึ้นไหว้คนอย่างจริงใจเนี่ยแหละ
แต่ ยอมรับว่า บางครั้งต้องไหว้คนที่ไม่อยากยกมือไหว้ก็มีค่ะ
ทำไงได้ เราอยู่ในสังคมเมือง มันก็ต้องเป็นแบบนี้อ่ะนะมินว่า
แล้วยิ่งเวลาที่มินไปพบลูกค้านะคะ แหม ไม่อยากพูดเลยอ่ะว่า
บรรดาเลขาหน้าห้อง หรือลูกค้าก็เหอะ เกือบครึ่งนึงเลย
ที่อายุน้อยกว่ามินทั้งนั้น บางบริษัทฯ นะ รุ่นหลานเลยก็มี
แบบจบใหม่ ๆ แล้วมาทำงานอ่ะค่ะ
แต่ ก็โอเคนะคะ วันหลังเจอกันเค้ายกมือสวัสดีเราก่อนด้วยซ้ำอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ

แหม..อยากคุยเรื่องไหว้ยาว ๆ แต่ ต้องรีบออกจากบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวรถติดอ่ะ
ไว้คุยกันใหม่นะคะ...มีความสุขมาก ๆ นะคะเฮีย

 

โดย: มินทิวา 15 กันยายน 2553 5:52:09 น.  

 

อาหมวย

วันนี้เป็นวันอะไรรู้หรือเปล่า?
เขาว่าเป็นวันที่ยุงไมกัดหละ
ทำไมเหรอ?
ก็เป็นวัน กย15 ไง
555

 

โดย: zoomzero 15 กันยายน 2553 20:28:33 น.  

 

Beee_BU

หมักไปแย้ว
ลองค้นหามิตรรักนักนินทาด้วยรหัสeMailแล้ว
เจอ Tassanavalia ถ่ายรูปคู่กับนางในฝันอีกคนเป็นรูปโชว์ตัว
อยากจะลบให้เหลือแค่คนเดียว (รู้ใช่มั๊ย ว่ารูปคนไหนเป็นส่วนเกิน 555)
ขอสมัครเป็นเพื่อนไปแล้วนะ
แต่ไม่เห็นนู๋บียอมรับเลย แหม...รังเกียจคนหน้าตาไม่ดีหรือไง?
เฮ้ย...เล่นยากเหมือนกัน มีอะไรให้เซ็ทเยอะไปหมด
แล้วที่เขาเขียนคุยกันเขาเขียนจากเมนูอันไหน
แต่ก็ช่างเถอะเพราะว่าเราสามารถแอบเข้าไปอ่านเพื่อนของเพื่อนของคนต่างๆได้ไม่ยาก
เราก็แค่จับทางให้ถูกว่าใครเป็นกิ๊กกับใคร
แล้วค่อยๆแกะรหัสรับที่พวกเขาคุยกัน
บางคนมีเพื่อนเยอะจนน่ากลัวเลยนะว่า เขาหาเพื่อนเอง หรือว่าเครื่องมันหาให้แบบออโต้
อิอิ ชักเข้าท่า การสอดรู้ชีวิตผู้อื่นนี้
เข้าใจแล้วว่าชีวิตนักข่าวสายบันเทิงที่เขานั่งปั้นข่าวฉาวๆของดารา เขาทำกันแบบนี้เอง
แต่พี่ว่าเหนื่อยเหมือนกันนะกว่าจะปะติดปะต่อว่าใครฉอเลาะกับใคร
ว่าไปแล้ว ถ้าfacebookเล่นสนุกจริงๆ ก็เลิกเล่นbloggangดีกว่า
ทำมาตั้งปีกว่าๆ ไม่ยักจะมีกิ๊กเพิ่มเลย 555

เรื่องแอน ไม่รู้ว่าบี "งง" ตรงเรื่องไหน
ถ้าบีย้อนขึ้นไปอ่านคอมเมนท์ของบีเองในวันที่ 13 กันยา เวลา 10:52
อันนี้คือข้อความที่บีคุยเรื่องของแอน อาจจะหายงง
แต่ถ้ายังงงว่าใครหมั้นใคร หรือเรื่องอะไร
อันนั้นไม่เป็นไร เพราะไม่มีใครทำอะไรกับใคร
พี่เขียนบ่นๆโม้ๆเผื่อเจ้าตัวเขาจะมาได้อ่าน จะได้อ่านไปหน้าบึ้งไป
เอ้...พี่นึกว่าแอนเขาคุยกับบีเยอะ เลยเม้าท์ซะเยอะ
ถ้ายังงงอยู่ก็ ลืมๆไปเหอะ

Ref: นู๋ Beee Fuchsia FF 00 FF

 

โดย: zoomzero 15 กันยายน 2553 20:53:30 น.  

 

Mintiva

วันนี้เป็นอีกวันที่รถติดตอนเช้ามากๆ
แถมตอนเช้ารถของเฮียโดนชนประตูหลังด้านซ้าย
แต่ไม่แรงมาก แบบว่าเสียงดังกึก รถกระเด้งนิดหน่อย
ปัญหาคือ นึกว่าโดนชนท้ายเลยลงไปดู
เป็นช่วงที่รถอยู่คันที่สองของไฟแดง
แล้วเป็นทางเลี้ยวสามแยกด้วย จังหวะโดนชนคือไฟเขียว
รถที่ตามมาข้างหลังก็กดแตรด่าแล้วเลี้ยวแซงหนีไปหมด
ก็เลยชักงงว่าใครชนท้ายกันแน่
พอไปยืนมอง กันชนท้ายไม่มีรอยบุบหรือถลอกเลย
แล้วทีนี่รถก็ติดไฟแดงอีกที รถกลุ่มแรกที่มาพร้อมๆกันหายไปหมด
จะไปตามคันไหน เลขทะเบียนก็ไม่ได้จดเอาไว้เลยสักคัน
ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าโดนชนประตู
เฮียก็เลยขึ้นรถแล้วขับไปทำธุระต่อ
พอตอนบ่ายชักเอะใจ เลยเดินมาดูรอบๆรถ
พอดีเมื่อวานขับลุยฝนมา ยังไม่ได้ล้างรถ
เห็นชัดเลยว่าเป็นรอยถูประมาณฝ่ามือกว่าๆ เป็นรอยยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ที่ประตูหลังซ้าย
เฮ้อ...แล้วจะไปบอกคุณนายเจ้าของบ้านว่าอย่างไรหละ งานนี้ เซ็งเป็ดเฟ้ย
พรุ่งนี้ซื้อล๊อตเตอรี่เลขอะไรดี

เมื่อคืนฝันแปลกมาก
ฝันว่าได้เป็นองครักษ์ของ...(เขียนไม่ได้ เดี๋ยวหัวขาด)
ในฝันมีคนมาคอยส่งเสียงรบกวนท่าน
เฮียก็ออกไปด่าพวกมัน ว่าท่านไม่ค่อยสบาย อย่ามาวุ่นวาย นี่โรงพยาบาลนะคุณ
แรกๆก็พยายามอธิบายกันดีนะ หลังมีคนมาสมทบแล้วก็เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
พวกนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ประมาณว่าเป็นพวกบ้าการเมืองอะไรนี่แหละ (ในฝันจริงๆ)
เฮียเลยสวมวิญญาณหน่วยปราบจราจล เอาตะบองไล่ตี
พวกเขาก็ไม่ยอมถอย หนึ่งต่อยี่สิบ พริบตาเดียวเฮียก็วิ่งหนีเอาตัวรอด
ตื่นมาคอแห้ง รู้สึกว่าเหนื่อยมาก ปวดแขนไปหมด
ว่าแล้วว่าวันนี้น่าจะเป็นวันไม่ดีแน่ๆ
เลยมาเจอเรื่องรถโดนชนแล้วหนี แถมหนีแบบต่อหน้าต่อตาอีกต่างหาก เวร
เลิกเข้าวัดทำบุญดีกว่า ไม่เห็นจะโชคดีมีชัยอะไรเลย
นับวันรู้สึกว่าชีวิตจะกลายเป็นพวกคนแก่โซมาเลีย เอธิโอเปีย จะต้องกินใบไม้แทนข้าวซะแล้ว

ตอนเช้าเลยไม่ได้ทานข้าวทานปลาเลย หงุดหงิดไปหมด
ไปได้อาหารใส่ท้องตอนเกือบเที่ยง วันนี้ได้ทานปลาเก๋าทอดด้วย
ปลาตัวเล็กๆแถวชานเมืองนี่เขาขายแค่ตัวละ 25 บาท มีน้ำปลาพริกหอมซอยให้ด้วย
ทานกับคั่วกลิ้งแถมผักไม่อั้น อีกชามก็ต้มจับฉ่ายกระดูกหมูอ่อน
ร้านเป็นเพิงไม่มีฝา หลังคาสังกะสี มีแต่เสา ไม่เป็นห้อง แต่อาหารไทยๆสะอาดและอร่อยมาก
ชามะนาวเปรี้ยวปรีดแก้เผ็ดได้ดี

ตอนเย็นมีหุ้นส่วน(ชีวิต)เขาซื้อกุ๋ยช่ายสาระพัดไส้มาฝาก
เลยไม่ได้ทานข้าวอีกมื้อ
ทานไปก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า เขาเรียกว่าอะไรกันแน่
เมื่อตะกี้เปิดพจนานุกรม เขาเขียนว่า กุยช่าย อ้าวทำไมสะกดแบบนี้
ยังไม่พอใจ เช็คกับวิกิพีเดีย กุยช่าย เขียนแบบนั้นจริงๆ
แล้วต้องตกใจ เพราะเขาว่าเป็นผักที่บำรุงกำหนัด กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ แก้ช้ำใน
โอ้ย...แล้วคืนนี้จะทำยังไง อยู่บ้านคนเดียวเสียด้วย
สงสัยต้องหายานอนหลับมาทาน จะได้หลับสนิทไม่คิดมาก 555

อาหมวยมิน นี่มีความละเอียดเรื่องอาหารการกินดีจัง
แล้วเราหนะ ทำอะไรอร่อยๆเป็นบ้างหละ อย่าบอกว่าไข่เจียวนะ
เฮียว่าเราไปสมัครเป็นผู้ช่วยอาหม่อมถนัดศรีจะดีมั๊ย
เออ..ไม่ดีกว่า ยุคนี้ต้องไปหาคุณหมึกแดง เพราะอาหม่อมท่านอายุมากแล้ว

ว่าไปแล้ว ว่าจะบอกหลายครั้ง เฮียก็ไม่ทานกับข้าวออกแนวหวานๆเหมือนกัน
ถ้าเป็นขนมไทยๆอันนั้นเป็นอีกเรื่อง
ตอนนี้เห็นมีข่าวพิลึกพิลั่นเกี่ยวกับวงการอาหารการกินแว่วๆเข้าหูมา
เขาว่ามีการขายแป้งที่ใช้ทำกับข้าว อย่างที่เอามาชุบแป้งทอดแบบนั้น
เขาว่ามีการปลอมปน ปีก่อนมีการเอาเมลามีนใส่ในนมผง มีคนจีนโดนประหารชีวิตไปหลายคน
ปีนี้เห็นว่าเอาผงปูน หรือผงฝุ่นหินขาว นี่แหละใส่เข้าไปผสมกับแป้ง
เห็นว่าเป็นแป้งราคาถูกๆ ที่เฮียกลัวคือ ถ้าแป้งมัน แป้งหมี่ ยี่ห้อแพงๆมีการปลอมปนกับเขาด้วยหละ
สงสัยว่าเฮียคงต้องเลิกทานอาหารชุบแป้งทอดไปอีกหลายปี เสียดาย เสียดาย
หนึ่งในอาหารโปรดของเฮียคือ ผักชุบแป้งทอด ที่ชอบสุดๆนี่คือ หอมใหญ่ชุบแป้งทอด เสียด้วย

เรื่องไหว้คน เรื่องนี้เฮียก็มีเรื่องโม้ยาวเหมือนกัน
อย่างว่านะ เฮียก็คนเคยทำงานด้านให้บริการหลังการขาย
ต้องไหว้ลูกค้าตั้งแต่โอเปอเรเตอร์ เลขาฯหน้าห้องนาย
ยันจิ้งจกในห้องส้วมบริษัทลูกค้าถ้ามันมองหน้าก็ต้องไหว้
ยิ่งงานที่ต้องไปเช็ดอุจจาระต่อจากเพื่อนหรือบริษัทในเครือที่ละเลงเอาไว้ ยิ่งต้องมืออ่อนเอาไว้ก่อน

ช่วงที่รับหน้าที่ฝ่ายขาย ก็ไหว้แหลกเหมือนกัน พรีเซ็นท์สินค้าไปยิ้มหวานไปจนเหงือกแห้ง อิอิ
ขนาดแนะนำตัวกันกับลูกค้า นับญาติกันแล้วว่าเขาเป็นรุ่นน้องสถาบันเดียวกัน เรียนคณะ วิชาชีพเดียวกัน
แต่พอเจอรอบสอง เราก็ต้องรีบชิงไหว้เขาก่อนเสมอ ก็อยากได้เงินเขานี่
แล้วคนเรา เก้าในสิบคน ชอบคนทำตัวต้อยต่ำกว่า
เฮียขอมองในมุมว่า ทำให้เขาเมตตา ก็พอ ไม่ต้องไปคิดมาก

อาหมวยมีญาติทำธุรกิจรถมือสองด้วยหรือนี่?
แหม แหม แหม รู้จักกันช้าไปหน่อย
เมื่อสองปีก่อน เฮียอยากจะขายรถเก่าอยู่คันหนึ่ง
เป็นรถนำเข้าที่อยากให้คนที่รับช่วงต่อเขาได้ข้อมูลไปแบบเต็มที่ เฮียพร้อมจะเล่าประวัติอย่างละเอียดยิบให้เขาฟัง
เฮียเก็บใบเสร็จตั้งแต่ค่าซื้อ ค่าซ่อม ค่าอุปกรณ์เสริม ฯ แนบไปกับสมุดคู่มือ
พวกเต้นท์ให้ราคาเหมือนซื้อเกวียนก็ว่าได้ เล่นเอาเฮียหน้าซีดไปเลย
ถ้าเราจะไปซื้อรถแบบเดียวกัน เราต้องซื้อจากเต้นท์ในราคาแปดแสนห้า สำหรับรถอายุแปดปีคันนี้
แต่เต้นท์บอกว่าตีราคารถเฮียได้เต็มที่สี่แสนสาม (ก็เผื่อให้เราต่อเป็น สี่แสนห้า)
รถคันนี้เป็น Honda Odyssey ซื้อมาเดือนมิถุนายน พอเดือนกรกฎาคม เกิดวิกฤติค่าเงินบาท ฟองสบูแตก
เฮียจ่ายแค่เงินซื้อล้านกว่าๆเลยไปไม่กี่แสน แต่พอเดือนสิงหาคม
เซลล์คนเดิมโทรมาบอกว่า ตอนนี้รถใหม่ราคาเพิ่มตามอัตราแลกเงินบาท เผลอๆจะไปที่เกือบๆสองล้าน
เขาว่าถ้าเราเกิดไม่อยากใช้รถคันนี้ เขาขอซื้อคืนในราคาบวกให้จากที่เขาขายสองแสนทันที
เฮียก็เลยรักรถคันนี้มาก เพราะเท่ากับเราซื้อได้กำไรเป็นแสนๆ มันเป็นรถเอาไว้เที่ยวต่างจังหวัด
เลยวิ่งแค่แปดหมื่นกิโลในเวลาแปดปี เรียกว่าจอดมากกว่าวิ่ง
จะใช้วิ่งเดือนละครั้งสองครั้ง แต่เป็นเดินทางไกลเท่านั้น วิ่งในเมืองก็พวกงานใหญ่ๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ ฯ
ตอนนั้นซื้อมาเพราะลูกหลานยังตัวเล็กๆ ไม่อยากใช้รถครั้งละหลายๆคัน
ที่ไม่ซื้อรถตู้ ทั้งๆที่อยากได้เหมือนกัน เพราะไม่มีนอยากขับ และต้องทำหลังคาโรงรถใหม่ เลยไม่สนใจ
พอผ่านไปแปดปี เจ้าหลานสองคนแรกมีรถขับเป็นของตัวเอง พาน้องๆไปเที่ยวได้
รถคันนี้เลยใหญ่เกินความต้องการไปในพริบตา
เนื่องจากต้องออกต่างจังหวัด เฮียก็เกิดอาการกลัวรถจะเก่าเก็บ แล้วมีอาการสนิมเกาะข้างในระบบ
เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที ต้องใช้วิธีล้างด้วยน้ำมันล้างเครื่องรอบหนึ่งก่อน ถ่ายออก แล้วค่อยเอาน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ใส่เป็นของจริงอีกที
พอสิ้นปีก็เปลี่ยนน้ำมันในเครื่องรถทุกอย่าง ไม่ว่า น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำหม้อน้ำ
ช่างบอกว่าสองปีค่อยเปลี่ยนก็ได้ ไม่จำเป็น
แต่เฮียคิดว่ารถจอดแช่แบบนี้ อาจจะเกิดการตกตะกอนนอนก้นหรือเสื่อมสภาพได้ เลยขยันเปลี่ยนพวกของเหลวในรถ

รถรุ่นนี้มีระบบปรับแอร์บนเพดานด้านผู้โดยสารตอนหลังด้วย
ใช้ๆไปผู้โดยสารบอกว่าแอร์เย็นไม่ทันใจ มีเสียงประหลาดบ่อยๆ
พอสี่ปีเลยเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่
คราวนี้เย็นเจี๊ยบ ไม่มีเสียงน้ำยาแอร์ฉีดฟู่ๆตรงแผงควบคุมด้านหลังอีกแล้ว

กะทะล้อเปลี่ยนใหม่ กว้างและหนากว่าเดิมนิดหน่อย
เปลี่ยนยางเพิ่มใหญ่กว่าเดิมอีกเบอร์ ไม่อยากได้แบบเตี้ยๆ เดี๋ยวจะเสียความนุ่ม
ยางก็เปลี่ยนทุกสองปี ไม่สนใจระยะทาง เชื่อว่ายางโดนแดดโดนลมมันก็แห้งได้
ยางจากนอกแพงใจหาย ตอนนั้นหาเงินได้เยอะก็จริง แต่อยากเปลี่ยนบ่อยเลยใช้ยางในไทย ใหม่กว่าสดกว่า เพียงแต่เลือกรุ่นที่ไว้ใจได้
เด็กร้านยางกระซิบว่ายางเก่าของเฮียนั้นให้ขายกับเขา เพราะทางร้านซื้อคืนแค่เส้นละ 100
แต่เขาซื้อเส้นละ 500 ทีแรกนึกว่ามันจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ
เพิ่งรู้ว่าเขามีตลาดยางใช้แล้ว เขาเรียกว่า ยางเปอร์เซ็นต์ อะไรนี่แหละ
เขาให้เอายางเก่าใส่ท้ายรถเรา แค่ขับออกไปห่างจากร้านแค่ครึ่งกิโล
เขาก็ให้เพื่อนเอารถกระบะมาขนยาง พร้อมกับจ่ายทันทีสองพัน ท่าทางดีใจซะเหลือเกิน

ทีแรกเลยคิดว่าจะขายรถคันนี้ให้ญาติหรือเพื่อนสนิท เพราะรถไม่เคยชน
พ่นกันสนิมทุกๆหกเดือน ดูแล เวลาไม่ใช้ก็เอาผ้าคลุมยี่ห้อดีๆปิดกันฝุ่นเอาไว้ จอดในร่มตลอด
เฮียอาบน้ำแต่งตัวสะอาดสะอ้านให้เขาเป็นประจำ ขัดเคลือบสี แบบว่าแมลงวันเกาะก็ไม่ได้

เครื่องเสียงเปลี่ยนใหม่ สมัยก่อนไม่มีแบบอ่านซีดีทีละหลายแผ่นจากตัวเครื่อง
เราต้องซื้อตู้แม็กกาซีนชนิด 10 แผ่นอีกอัน เขาเรียกว่า ซีดีเชนเจอร์
มีการเดินสายลำโพงยี้ห้ออะไรจำไม่ได้แต่คนขายบอกว่าปราศจากอ๊อกไซด์ ทำจากทองแดงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เฮียก็ไม่รู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไร แต่เดาเอาว่าเสียงคงดังชัดเจน
ลำโพงติดมากับรถก็โยนทิ้งยัดของใหม่อันใหญ่เท่ากะละมังข้าวสุนัขทั้งสี่ประตู แถมลำโพงเสียงแหลมเล็กอีกสองตัวด้านหน้า

กันชนหน้าซื้อเพิ่มเป็นสแตนเลส ของฮอนด้าเอง ราคาแพงมาก เมื่อเทียบกับของรถกระบะ
ที่ใส่กันชนหน้าเพิ่ม เพราะต้องการใส่ไฟสปอร์ตไลท์เพิ่มอีก 2 ดวง
ของติดรถก็มีไฟตัดหมอกมาแล้วนะ แต่เฮียเป็นวัยรุ่น เลยอยากแต่งรถให้ไม่เหมือนชาวบ้าน 555

โชคอัพเปลี่ยนใหม่ทั้งสี่ล้อ เปลี่ยนพร้อมกันเลย ไม่อยากทำทีละคู่
พอปีที่ห้า ไฟ ABS ขึ้น ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งระบบ ขี้เกียจแก้ไขเซ็นเซอร์เป็นตัวๆ โดนไปสี่หมื่นกว่า
หม้อน้ำก็มีรอยซึมทีฝาด้านบน เปลี่ยนใหม่ทันที ขนาดเหมือนของแอคคอร์ดเปี๊ยบ
แต่รหัสหรือโปรดักนัมเบอร์มันเป็นโอเดสซี่ เลยล่อไปสามหมื่น ของแอคคอร์ดแค่หมื่นสอง
พัดลมแอร์ พัดลมหม้อน้ำ รำคาญเสียงฟู่ๆ กลับเข้าบ้านตอนดึก คุณนายจับได้ทุกที
เลยเปลี่ยนใหม่ เอาแบบเสียงเงียบๆ แต่ก็ยังดังหึ่งๆอยู่ดี 555
ช่วงล่างนี่ก็เปลี่ยนอยู่หลายชิ้น เช่น พวกยางกันฝุ่น ลูกหมาก ...
สรุปว่าเหลือแต่เครื่องยนต์ที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนใหม่

แต่ปรึกษากับคุณผู้หญิงแล้ว ท่านบอกว่า
รถเรา เราดูแลดี เรารู้ แต่คนซื้ออาจไม่รู้ หรือไม่เชื่อว่าเราซ่อมแซมด้วยอะไหล่แท้ อย่างไรเขาว่ารถเก่า
ต่อให้เรามีหลักฐานมากมายเป็นใบเสร็จต่างๆก็ตาม
ถ้าเกิดเขาเอาไปใช้แล้วมีปัญหา เบรคไม่อยู่ ไปทิ่มท้ายชาวบ้าน
หน้าตาเราจะแหกไม่มีชิ้นดี เขาจะโทรมาด่าว่า เราเอารถไปเข้าศูนย์ที่ไหนมา
ยิ่งถ้าเขาเอาไปขับแล้วประสบอุบัติเหตุ บาดเจ็บ ล้มตาย เราจะทำหน้าอย่างไร
เลยคิดว่าควรจะขายเต้นท์หรือพวกรับซื้อรถในอินเตอร์เน็ท
แต่พวกซื้อรถทางอินเตอร์เน็ท หรือ ตามประกาศหนังสือรถ เขาว่าอันตรายมาก
ปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน
หรือปล่อยให้เขาเอารถไปลอง แล้วอาจจะถีบเราตกรถก็ได้ เลยต้องตัดทางเลือกนั้นออกไป
แล้วก็มาเจอปัญหาราคารถที่เต้นท์รับซื้อมันต่ำมาก

ถ้าถามว่า เขาเอาเปรียบเราหรือเปล่า?
เนื่องจากเฮียก็อายุมากพอสมควรแล้ว หัวหงอกแล้ว เลยเข้าใจได้เองว่า
เงินของเขา ถ้าไม่ใช่เงินสด เขาก็ต้องไปกู้ยืมธนาคารหรือพวกนอกระบบ ดอกเบี้ยมันโหดมากๆ
เขาซื้อรถเราไปแล้ว เขาก็ต้องลุ้นว่าอีกกี่เดือนถึงจะมีคนมาซื้อรถคันนี้ไป
ต้องซ่อมเครื่อง ช่วงล่าง ยาง เบาะ หรือทำสีใหม่ หรือเปล่า ต้องลงทุนเพิ่มอีกเท่าไหร่

เลยทำให้ต้องเอารถไปจอดฝากบ้านแม่นานกว่าห้าเดือน
สุดท้ายขายได้ เพราะเอารถอีกคันไปเข้าศูนย์ แล้วบังเอิญคุยกับพนักงานขาย
ก็จะไม่ให้คุยได้อย่างไร ก็น้องเขา ขาว สวย หมวย อะบึ้ม แบบนั้น
พอน้องเขารู้ว่าเฮียมีรถจอดทิ้งไว้รอขาย เขาก็ลองโทรไปหาหัวหน้าเก่าของเขา
ซึ่งก็เป็นเซลล์ที่นั่นแหละ แต่แต่งงานกับนักธุรกิจฐานะดี พอมีลูก สามีเลยให้ลาออกไปอยู่บ้าน
เขาแค่โทรคุยกับเฮียไม่เกินสิบนาที เขาตกลงซื้อรถเลย ไม่ต้องขอดูรถด้วยซ้ำ
เขาบอกว่าเขาอยากได้รถเอนกประสงค์อยู่พอดี
เฮียเกรงว่าเขาอาจจะเชื่อใจเรามากไปหน่อย แล้วจะโดนสามีว่าเอาทีหลัง
เลยนัดเอารถไปให้เขาดูที่บริษัทสามีของเขา
ตัวเขาก็มาดูด้วย โห..ผู้หญิงอะไรสวยมาก หน้าตาผิวพรรณยังกับดารา สูง เอวนิดเดียว เอ้...ชักนอกเรื่อง
มิน่าถึงได้สามีรวย คนเรามีรูปเป็นทรัพย์นี่เอง ผู้หญิงนี่แค่เกิดมาสวยแบบธรรมชาติก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วหละเน๊อะ

ผู้หญิงคนนี้แค่ขอลองสตาร์ทและเปิดแอร์ ก็บอกว่า ซื้อ
แล้วโทรศัพท์เรียกสามีให้เอาเอกสารการซื้อขายมาให้เธอกับเฮียกรอกข้อมูล
จากนั้นก็นัดกันวันรุ่งขึ้นตอนสิบโมงเช้า เขาจะทำเป็นแคชเชียร์เช็ค
นัดเจอกันที่บริษัทสามีเขาอีกทีนี่แหละ ประมาณครึ่งชั่วโมงรถก็เป็นของเขา เงินก็เป็นของเรา
แต่เฮียไม่ได้เอาเช็คอันนั้นเข้าบัญชีนะ โดนคุณนายฉกเอาไปซึ่งๆหน้า เหลือแค่อากาศธาตุ

ตอนแรกที่จะขายต้องเสียเวลาขับรถไปตามเต้นท์ต่างๆ หลายวัน หลายแห่ง
ขนาดของฮอนด้ายูสคาร์ก็ยังกดราคาต่ำมากๆ
คิดดูนะ แค่สองวันขายได้เลย คนซื้อก็ไม่เรื่องมาก
เขาแค่รู้ว่าเป็นรถนำเข้า เข้ามาเดือนไหน ปีไหน เขาเป็นเซลล์เก่าเขารู้อะไรมากกว่าเราอยู่แล้ว
เฮียแกล้งลองถามเขาหลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง
เขาบอกว่าเอาไปทำสีใหม่หมดทั้งคัน คงเคลมประกัน แบบว่ารถเป็นรอยรอบคัน
ป่านนี้ไม่ทราบเอาไปขายต่อหรือยังใช้อยู่ก็ไม่ทราบ
แต่โอเดสซี่เป็นรถเอนกประสงค์ที่มีการทรงตัวดีมาก
เครื่องยนต์คันนี้ไม่ค่อยแรงเพราะคันนี้แค่ 2.4 ไม่ใช่ 3.0
เฮ้อ...รถก็เหมือนคนรัก
ไม่อยากให้จากกันเลย

Ref: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 41 69 E1

 

โดย: zoomzero 15 กันยายน 2553 23:48:37 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะเฮีย
มัวแต่อ่านเพลินแล้วขำกร๊ากด้วยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ไว้ค่อยมาคุยทีหลังนะคะ
ขอออกไปทำงานก่อน เดี๋ยวรถติดอ่ะ
ไว้มาใหม่นะ ...ทานโอวัลตินให้สดชื่น นะคะ

 

โดย: มินทิวา 16 กันยายน 2553 6:00:52 น.  

 

สัปดาห์นี่เป็นวันเกิดน้องที่นับถือกันคนหนึ่ง
เมื่อเช้าก็ส่ง sms ไปอวยพรวันเกิดให้เขา
เมื่อสักครู่ น้องเขาโทรศัพท์มาเม้าท์
คุยกันไปคุยกันมา นินทาคนโน้นคนนี้ น้ำลายยืดคามือถือ

ตอนนี้น้องเขามีลูก 2 คน มีคนงาน 3 คน เมื่อก่อนมี 1 คน
ปีก่อนโน้นมีลูกคนแรก ก็จ้างคนงานเพิ่ม 1 คน
พอปีนี้มีอีกคนก็จ้างเพิ่มอีก 1 คน
ดีนะที่ยังไม่มีลูกเป็นโหล ไม่อย่างนั้นคงต้องสร้างบ้านอีกหลังเอาไว้ให้คนงานนอน
กลับมานึกถึงตัวเราเอง
ค่านิยมแบบนี้ก็ดีนะ กำลังอยากได้พี่เลี้ยงเด็กอายุประมาณ 14-15 อยู่พอดี อิอิ

คุยไปคุยมา ก็ถามเขาว่าวันนี้ไม่มีประชุมหรือ? เห็นว่าวันๆเอาแต่ประชุม
เขาบอกว่า ตอนนี้ขับรถอยู่บนมอเตอร์เวย์ กำลังเข้ากรุงเทพฯ
เขาบอกว่าเพิ่งไปทำบุญมาที่ชลบุรี
เราก็จำได้ว่า น้องเขาเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ประโมทย์ นี่หว่า
ในใจก็ว่า จะไม่ถามน้องเขาแล้วนะว่า ไปทำบุญที่สวนสันติธรรม มาหรือ?
แต่ปากกับใจของเรามันไม่ตรงกัน ดันถามน้องเขาจนได้
ก็เป็นจริงอย่างที่สัมผัสที่หกทำงาน
น้องเขาไปทำบุญกับพระอาจารย์องค์นั้นจริงๆ

คุณอาจจะทราบหรือคงไม่ทราบว่า ตอนนี้พระปราโมทย์ กำลังงานเข้า
หรือภาษาพระเรียกว่า มารผจญ เออ..ไม่ใช่หรอก ภาษาลูกศิษย์มากกว่า
เราว่าเรื่องนี้ กรรมเวรตามมาราวีมากกว่า

คือว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีดร.ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกลุ่มชาวพุทธฯ
ได้ยื่นหนังสือต่อDSI เลยกลายเป็นข่าวเพราะเรื่องที่ร้องเรียนนั้นหนักเอาเรื่อง
เช่น ยักย้ายถ่ายเทเงินทองให้อดีตภรรยา ซึ่งก็เป็นแม่ชีอยู่ในสำนักเดียวกัน ฯ
เล่นเอาสำนักสอนธรรมเจ้านี้ต้องเอาป้ายมาแขวนว่า ปิด งดรับนิมนต์
แถมในเว็บ //www.wimutti.net ก็มีอาการแปลกๆ
งดงานวันที่ 19, 26 กันยา และ 9 พฤศจิกายน

เอ้...แล้วน้องเขาไปทำบุญได้อย่างไร
อ้อ..เขามีคนคอยสแกนคนครับ
ไม่ต้องใช้ไม้เป็นแท่งๆเหวี่ยงๆรอบตัวเราเหมือนที่แอร์พอร์ท
แต่ใช้การจำหน้าตากัน ของแบบนี้ใครเคยไปทำบุญสถานที่ทำนองนี้ น่าจะรู้ว่าต้องมีคนพาเข้าไป
สรุปว่าถ้าจะมาป่วน ไม่ให้เข้า ถ้ามาทำบุญ (เอาของมาให้) ก็ยินดีต้อนรับ

น้องเขาแก้ตัว เอ้ยซ์ อธิบายสาเหตุ ปัจจัย ความวุ่นวาย ให้ฟังอย่างละเอียดยิบ
สรุปว่า อาจารย์ของเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
และรู้สึกว่าเช้านี้น่าจะมีการแถลงข่าวไปแล้วนะ (แต่ก็ยังไม่ได้เปิดทีวีเลยวันนี้)

เรื่องแบบนี้ เราเคยเจอมาแล้ว
ตอนสมัยวัดธรรมกายเกิดวิกฤติ พวกญาติที่เป็นลูกศิษย์ หรือสาวก ก็แล้วแต่จะเรียกกัน
เขาก็มาคุย อธิบาย ประมาณแบบเดียวกัน นี่มันกี่ปีกมาแล้วนะ
ตอนนี้คอนโดแก้วหน้าม้าของเรา สร้างเสร็จ โอนเสร็จ ตกแต่งเรียบร้อย
แต่เราก็ปล่อยให้เป็นห้องว่างไม่ให้เช่าไปแล้ว
ก็พวกเราไม่มีใครยอมไปวัดนั้นกันอีก แล้วเราก็เลยอดไปนอน
ทีแรกคิดว่าซื้อคอนโดเอาไว้ พอวันศุกร์ก็ไปนอน
ตื่นเช้าตีห้าก็ไปเข้าร่วมกิจกรรมกับวัดได้เลย เพราะวัดอยู่ห่างกันแค่มองเห็น
ตัว "วัด" เองไม่ได้ทำผิดอะไร
แต่พวกเรากลับไม่อยากไป ไม่อยากไป ก็คือไม่ไป ไม่ต้องไป
สรุปว่าเมื่อก่อนไป เพราะว่าเห็นว่าไปแล้วเอากลับมาคุย
ใครๆก็ชม หากัลยาณมิตรก็ง่าย
มาวันนี้สมาชิกในครอบครัวเกิดมาแอนตี้
หวังว่า เมื่อไหร่ เลิกแอนตี้ เราคงได้ไปวัดนี้อีกรอบ

เคยมีหลายครั้งที่ เราได้พูดจาป่วนน้องคนนี้ไปว่า
ที่เขาไปทำบุญนี่ ไม่ได้เรียกว่า "วัด" นะ
เขาเรียกว่า "สวน"
โอ้โห โดน "สวน" กลับมา ประมาณด่าแบบผู้ดีทุกที คือต้องเอาคำพูดมาแปลอีกรอบ
เราว่า ศรัทธาต้องบวกด้วยปัญญา

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงแบบไหน
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ถูกบิดไปบิดมาเพราะสาวกในรุ่นหลังๆ
ธรรมชาติมีวิธีปลิดใบที่แปลกแยกออกเป็น นิกายต่างๆ
ส่วนไหนที่มีกาฝากมาขึ้นแย่งอาหาร ก็จะถูกฟ้าผ่ากิ่งก้านอันนั้นให้หักตกหล่นลงพื้นกลายเป็นปุ๋ย
ดังนั้น ต้นโพธิ์แห่งความรู้แจ้งเห็นจริง ยังจะเติบโตออกไป
หน้าที่ของชาวพุทธ คืออะไร สืบสาน หรือ สร้างใหม่ ทำตัวไม่ถูกแล้ว

 

โดย: zoomzero 16 กันยายน 2553 11:39:55 น.  

 

อ๋อ ค่ะพี่ชาย บีคงงงเพราะบีไม่ได้อ่านเม้นอื่นเลย อ่านแต่เม้นท์ที่เขียนถึงบี เพราะเวลาจำกัดและงานเยอะมากมาย อิอิ เลยต่อเรื่องไม่ติด

ส่วน f/b แอดเพื่อนมาแว๊วเหย๋อ งิงิ เดี๋ยวไปหาก่อนค่ะ อีเมล์เป็นร้อยเยยเช็คไม่ทัน รอตามคิวนะคร้า คนมันฮ๊อตก้อเงี๊ยะ อิอิ แต่บีเชื่อว่าเรื่องสอดรู้พี่ชายเก่งอยู่แล้น ไม่ต้องแนะแนวทางเดี๋ยวก้อไปเป็น 555

 

โดย: Beee IP: 125.24.129.87 17 กันยายน 2553 0:19:33 น.  


zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.