ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 

โธพิ (ุ6) นาวาอวกาศ

การเดินทางระหว่างดาวมีมาเนิ่นนานจนเกินกว่าที่ใครจะนึกย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของมันได้ มีตำนาน เรื่องเล่ามากมายที่อ้างถึงดวงดาวอันเป็นต้นกำเนิด ดวงดาวอันเป็นบ้านเกิดของมนุษย์ทั้งมวล หลายคนยังคงเชื่อว่ามนุษย์ทั่วทั้งจักรวาลนี้ หากนับย้อนกลับไปแล้ว ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากดาวดวงเดียวกัน

ดาวเคราะห์มายาสีฟ้าที่เรียกขานกันในภาษาโบราณว่า โลก

สิ่งที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำอวกาศครั้งใหญ่นั้น ก็คือการที่มนุษย์สามารถออกเดินทางท่องไปในจักรวาลได้นั่นเอง ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางก็คือ ความรวดเร็ว หากเดินทางครั้งหนึ่งต้องใช้เวลาทั้งชีวิต หรือหลายชั่วอายุคนเช่นนั้นจะนับเป็นอย่างไรได้

การท่องอวกาศที่รวดเร็วที่สุดย่อมเป็นการย่นย่อจักรวาลผ่านทาง รูหนอน ซึ่งอธิบายได้คล้ายกับการหักพับจักรวาลดึงจุดทั้งสองที่อยู่ห่างไกลให้เข้ามาเป็นตำแหน่งเดียวกัน แล้วทะลุผ่านไป การอธิบายนั้นฟังดูง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความซับซ้อนไม่สิ้นสุด

หากคิดใช้เครื่องจักรในการนี้ ก็จำเป็นต้องมีพลังงานมากมายมหาศาล ดังนั้นที่แพร่หลายมากที่สุดจึงเป็นการใช้ หนอนอวกาศ สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่อาศัยอยู่ภายในรูหนอน และสามารถไชทะลุไปทั่วจักรวาลได้ในพริบตา

การค้นพบพวกมันก็นับเป็นตำนานแสนมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง หนอนยักษ์พวกนี้มีผิวนอกเป็นเปลือกแข็งที่สามารถทนทานต่อสภาวะแปลกประหลาดแสนอันตรายภายในรูหนอนได้ การออกมาแหวกว่ายอยู่ในอวกาศทั่วไปจึงนับเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกมัน

การคิดค้นดัดแปลงให้พวกมันกลายเป็นยานอวกาศที่สามารถขับเคลื่อนได้ดังใจนั้น ก่อให้เกิดการเดินทางท่องอวกาศที่สะดวกรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กระตุ้นให้ยุคสมัยแห่งการผจญภัยเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ที่ติดตามมาย่อมเป็นความวุ่นวายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เพราะถึงแม้อวกาศจะกว้างไกลเพียงใด ก็ยังคงคับแคบเกินไปสำหรับมนุษย์

จากการต่อสู้ช่วงชิงกลายเป็นสงครามใหญ่ ลุกลามออกไปในทุกระบบดาว ต่อเนื่องยาวนานไม่จบสิ้น จนกระทั่งการมาถึงของสหดวงดาวแห่งจักรวาล ซึ่งไม่ใช่การหมดไปของความขัดแย้ง เพียงแต่เปลี่ยนจากการหลั่งโลหิตให้กลายเป็นการต่อสู้ในรูปแบบอื่น หรือไม่ก็เป็นการยุติข้อพิพาท ด้วยการยื่นมือเข้ามารวบผลประโยชน์ไว้เองทั้งหมดของสหดวงดาว

ยิ่งเมื่อสามารถควบคุมเทคโนโลยีที่เกี่ยวพันกับหนอนอวกาศไว้ได้ทั้งหมด สหดวงดาวแห่งจักรวาลก็สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ตามต้องการอย่างแท้จริง

ยานหนอนอวกาศระดับ สังหารดวงดาว ลำยักษ์ลอยสงบนิ่งอยู่เหนือวงโคจรของดาวคันธาแห่งระบบอิเดีย ดวงดาวล้าหลังที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นส่วนหนึ่งของสหดวงดาวเสียด้วยซ้ำ

“ยืนยันคำสั่งอีกครั้ง” ชายสูงวัยร่างใหญ่ไว้หนวดเครายืนเหม่อมองดูจอตรงหน้า ที่เขาเห็นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องล่าง บนพื้นผิวดาวเคราะห์ดวงนี้

พวกมันเป็นเหมือนกับภาพเก่าๆ ในบทเรียนในวิชาประวัติศาสตร์โบราณที่เคลื่อนไหวมีชีวิต

“ยืนยันคำสั่งถูกต้อง ยืนยันพิกัดถูกต้อง ให้ดำเนินการทำความสะอาดชั้นบรรยากาศทั้งหมดของดาวดวงนี้ เนื่องจากตรวจพบเชื้อโรคติดต่อข้ามอวกาศความร้ายแรงระดับสูงสุด ครับ กัปตัน”

กัปตันมองดูภาพผู้คน ไร่นา สิ่งมีชีวิตต่างๆ ก่อนส่ายหน้า

“เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านประธาน ครับ” ต้นหนคนเดิมย้ำ

“...ดูเหมือนเชื้อโรคร้ายแรงที่ว่าจะไม่มีผลกับคนพวกนี้” กัปตันพึมพำ

“ไม่เคยมีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้ ครับ” ถึงตรงนี้ ทุกคนจึงมองบนจอพร้อมกัน

ไม่ใช่ครั้งแรกที่กัปตันต้องทำเรื่องเช่นนี้ เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วมันมักจะมีเหตุผล มีแรงจูงใจ 'แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แตกต่างกัน' ข้อมูลที่ไม่ต้องการทั้งหมดจะถูกทำลายทิ้งไป แล้วดาวดวงนี้ก็จะกลายเป็นดวงดาวไร้ชีวิตอย่างแท้จริง

“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มได้” กัปตันตัดใจออกคำสั่งในที่สุด

“ครับ” ต้นหนคนเดิมเริ่มขยับนิ้วไปมาบนแผงอุปกรณ์ตรงหน้า ออกคำสั่งไปพร้อมๆ กับลูกเรือคนอื่นๆ ก่อเกิดเป็นกระแสที่สลับซับซ้อนราวกับบทเพลงที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีนับร้อยนับพันชิ้น สอดประสานกันจนแยกไม่ออก บทเพลงนั้นค่อยๆ เคลื่อนจากสะพานเดินเรือที่ถูกฝังอยู่บนเปลือกแข็งตรงบริเวณส่วนศีรษะ ไปยังทั่วร่างของหนอนอวกาศ มีผู้คนอยู่เพียงแค่หยิบมือเท่านั้นที่ล่วงรู้เกี่ยวกับความลับของระบบที่ใช้ออกคำสั่งกับสิ่งมีชีวิตลึกลับชนิดนี้

ที่แท้แล้วชีวิตของพวกมันภายในรูหนอนนั้นเป็นอย่างไร แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตในอวกาศทั่วไปมากแค่ไหน อาจบางทีจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้อย่างชัดแจ้ง

นอกจากส่วนของสะพานเดินเรือที่ถูกติดตั้งเอาไว้แล้ว ก็ยังมีส่วนต่างๆ อีกมาก หากเป็นยานขนส่ง พื้นที่มหาศาลบนเปลือกภายนอกส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งไว้ด้วยห้องบรรทุกประเภทต่างๆ แต่เนื่องจากยานลำนี้เป็นยานรบ ทั้งหมดจึงเป็นอาวุธทำลายล้างนานาชนิด

สิ่งที่เหมือนกับลูกแก้วขนาดใหญ่ซึ่งติดตั้งอยู่ใต้ท้องยานถูกเลือกใช้สำหรับภารกิจครั้งนี้ พวกมันจะแผ่คลื่นพลังงานที่ถูกดึงดูดออกมาจากภายในร่างยาน มันสามารถเดินทางผ่านอวกาศ ทะลุทะลวงชั้นบรรยากาศ และเผาทำลายชีวิตทั้งมวลไม่ว่าจะมีขนาดเล็กแค่ไหน แม้แต่ไวรัสที่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของชีวิตก็ยังไม่อาจรอดไปได้

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน 'แทบจะไม่เจ็บปวด' กัปตันบอกกับตัวเองอย่างนั้น ทั้งที่ไม่เคยแน่ใจ เขาพลันก้มหน้าลงไม่อาจตัดใจมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

แสงสว่างภายในห้องสะพานเดินเรือพลันกระพริบเป็นสีแดง

“เกิดอะไรขึ้น” กัปตันเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น

“...เราโดนโจมตี ครับ” แม้แต่ต้นหนก็ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อข้อมูลที่กำลังแสดงอยู่ตรงหน้า

“นำภาพขึ้นบนจอ”

กัปตันมั่นใจว่าตลอดชีวิตของตนได้พบเห็นสิ่งต่างๆ มาแล้วมากมาย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์คับขันมาก่อน ยานหนอนอวกาศระดับสังหารดวงดาวไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นยานขับไล่อวกาศ อาวุธนำวิถี อาวุธแสง หรือแม้กระทั่งสารพิษ หากจะมีสิ่งใดเป็นพิษกับสิ่งมีชีวิตลึกลับชนิดนี้ได้

แต่สิ่งที่เห็นอยู่บนจอยังคงเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง

“พวกเราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” กัปตันส่งเสียงถามเบาๆ พร้อมกับอ้าปากค้าง เขายังคงไม่อาจตัดสินใจได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้นับว่าคับขันแล้วหรือไม่

#####

'ทุกสิ่งจบสิ้นแล้ว'

มันเป็นความคิดเพียงหนึ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ภายในจิตใจของโธพิ เขามองดูร่างของมารดาที่อาบแสงจากลูกแก้วใต้ท้องสัตว์ประหลาดยักษ์ซึ่งแหวกว่ายบดบังผืนฟ้าเบื้องบน ผุสลายหายไปต่อหน้า โดยเริ่มจากผิวกายภายนอก ก่อนกลายเป็นโครงกระดูก และหลงเหลือเพียงความว่างเปล่า

มือที่จับลิ้วเฮียงเอาไว้ยิ่งบีบแน่นขึ้น

หายใจเข้า พลังซาโตภายในกายของเด็กหนุ่มถูกเร่งเร้าจนถึงขีดสุด

“...เจ้าคือคนผู้นั้น” แม้แต่ผู้ที่มองดูโลกอย่างที่เป็น ก็ยังมึนงงสมองหมุนเมื่อต้องพบเจอกับเรื่องเช่นนี้ เขาคิดสิ่งอื่นใดไม่ออก นอกจากสิ่งสุดท้ายที่ยังติดค้างอยู่ภายในห้วงแห่งความคิดคำนึง

หายใจออก พลังซาโตถูกถ่ายทอดเข้าสู่ร่างของนาง ในขณะที่ร่างของคนอื่นๆ ค่อยๆ สลายหายไปอย่างไร้ค่า ร่างของทั้งคู่กลับยังคงรักษาสภาพอยู่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน

“ใช่...เป็นข้าเอง” นางมองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย

หายใจเข้า

“ข้ารักเจ้า” เขาสารภาพออกไป

“ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน” นางตอบพร้อมกับปัดมือของเขาออกสุดแรง พลังงานที่นางรู้สึกว่าไหลเวียนจากตัวเขาเข้าสู่ร่างพลันขาดหายไป

ลิ้วเฮียงยิ้มออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้าที่งดงามของนางละลายหายไปเหลือเพียงโครงกระดูกขาว และกลายเป็นผงธุลีเฉกเช่นคนอื่นๆ ไม่แตกต่างเลยแม้แต่น้อย

หายใจออก

“ริ” เด็กหนุ่มตะโกนลั่น มันเป็นคำเดียวกับที่ตาระ อาจารย์ของเขาเคยเปล่งออกมาในยามที่ต้องการผลักดันพลังซาโตในกายให้ไปถึงระดับสูงสุด แต่มันแฝงไว้ด้วยความเคียดแค้น ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจ ทุกสิ่งที่เขามองไปพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเพลิงที่กำลังลุกไหม้

พลังซาโตทะลักล้นจนเกินควบคุม สิ่งที่ตาระเคยคาดไว้พลันเกิดขึ้น สิ่งเล็กๆ ที่หลับไหลอยู่ภายในกายของเด็กหนุ่มตื่นขึ้นแล้ว พวกมันทวีจำนวนอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนแปลงร่างกายของเขาไป แต่ด้วยสภาพจิตใจในตอนนี้ ทำให้พวกมันทั้งหมดหลุดพ้นจากการควบคุม

ร่างของโธพิที่บิดเบี้ยวจนน่ากลัวพลันแหงนหน้ามองฟ้า สัตว์ประหลาดตัวนั้นคือสิ่งที่มันเคียดแค้นเป็นที่สุด

#####

“นั่นมันตัวอะไรกัน” กัปตันเอ่ยถามแต่ไม่มีใครตอบได้

สิ่งมีชีวิตแปดขาตัวสีดำสนิท มีขนแผงคอเป็นสีแดงราวเปลวเพลิง พร้อมกับเขาเล็กๆ บนศีรษะที่มีใบหน้ายาวยื่น ควบวิ่งอยู่บนร่างของหนอนอวกาศ ทุกย่างก้าวของมันคล้ายสร้างแรงสั่นสะเทือนเข้ามาถึงภายในสะพานเดินเรือ 'คงคิดไปเอง' แต่ภาพที่เห็นนั้นมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“เดี๋ยวสิ นี่เรากำลังลอยอยู่ในอวกาศ และไม่มีแรงดึงดูดภายนอกตัวยานด้วย” กัปตันรู้ตัวในที่สุด

“มัน...เป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วจำนวนมาก เอ่อ...” ต้นหนไม่สามารถอ่านข้อมูลที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนี้ได้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร และจะรับมือกับมันได้อย่างไร

“ใช้อาวุธปกป้องผิวยานที่มีอยู่ทั้งหมด” กัปตันรีบออกคำสั่ง

“ครับ” ต้นหนก็ทำตามทันที

อาวุธหลากหลายรูปแบบถูกระดมยิงเข้าใส่ แต่กลับไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายที่ดูมีเลือดเนื้อเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไปของกิเลนดำตัวนี้ได้เลย

“มันเป็นตัวอะไรกันแน่ หรือจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากรูหนอนที่พวกเรายังไม่เคยพบ” กัปตันลองคาดเดา

“ไม่ทราบ ครับ” ต้นหนตอบออกไป แต่เขาไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น ข้อมูลต่างๆ จากตัวประหลาดข้างนอกยังคงหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ และเขาเริ่มลองเห็นอะไรบางอย่าง แต่มันยังไม่เป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นมา

“มันกำลังตรงมาหาพวกเราใช่ไหม” กัปตันเอ่ยถาม เริ่มมีความกังวลมากขึ้น

“ใช่ ครับ” ร่างสีดำนั้นแทบจะไม่หลบหลีกอาวุธต่างๆ ที่ยิงเข้าใส่เลย ต้นหนอ่านค่าความเสียหายได้ แต่ที่เห็นบนจอกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย 'หมายความว่ามันอาจสามารถรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว'

“มันมาแล้ว” กัปตันพึมพำ เมื่อขาหน้าทั้งสี่ของตัวประหลาดบนจอกระแทกลงเหนือสะพานเดินเรือ แรงสะเทือนถูกส่งผ่านเข้ามาจนทุกคนรู้สึกได้ ทั้งหมดพากันเงยหน้ามองเพดานด้วยความวิตก ต้นหนมองดูค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา แม้แต่ข้อมูลที่ได้จากตัวหนอนอวกาศเองก็แสดงให้เห็นว่ามันกำลังเกิดความรู้สึกรุนแรงบางอย่าง

'หรือว่าเจ้าหนอนกำลังหวาดกลัว'

แล้วคำตอบหนึ่งก็พลันเด่นชัดขึ้นมา ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ต้นหนคิดออกแล้วว่าเจ้าตัวประหลาดข้างนอกนั้นน่าจะเป็นสิ่งใด

เสียงตะโกนออกคำสั่งของกัปตัน ฉุดดึงให้ต้นหนกลับสู่สถานการณ์ปัจจุบัน

“ทุกคนรีบประจำตำแหน่ง เริ่มทำการมุดทันที จุดหมายคือ ดาวสภา ในระบบ ชีน่า”

ดูเหมือนกัปตันไม่คิดจะเสี่ยงกับตัวประหลาดนี้อีกต่อไป ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เขาจึงคิดจะมุดเข้าไปในรูหนอน ซึ่งไม่น่าจะมีสิ่งใดนอกจากหนอนอวกาศที่สามารถรอดชีวิตจากภายในนั้นได้

นับเป็นครั้งแรกที่กัปตันรู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเสียแล้ว




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2556
2 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 23:13:54 น.
Counter : 606 Pageviews.

 

มาเยี่ยมค่ะ ^^

 

โดย: lovereason 25 พฤษภาคม 2556 23:12:14 น.  

 

ต้นหนเดาถูก บอกกับตันเลยสิครับ

 

โดย: อาณาจักรแห่งเรา 30 พฤษภาคม 2556 20:36:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.