ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
 
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
7 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
แจ้ง (1)

“ปล่อยพี่รุ่งเดี๋ยวนี้”

เด็กหญิงท่าทางเอาเรื่องตะโกนใส่กลุ่มของเด็กชายสี่คน คนตัวโตที่มีท่าทางเป็นหัวโจกยิ้มยียวนอย่างท้าทายพร้อมกับก้าวออกมารับหน้า “ใจเย็น รัต พวกเราก็แค่อยากสอนให้เธออีกคนว่ายน้ำเป็นเท่านั้นเอง” เด็กชายอีกสองคนกำลังช่วยกันจับแขนของรุ่ง ซึ่งมีรูปกายภายนอกเหมือนกับรัตทุกประการ นอกจากท่าทางที่หวาดกลัว และกำลังจะร้องไห้ของเธอ ส่วนเด็กชายตัวเล็กคนสุดท้ายในกลุ่มมีท่าทีลังเล เขาเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ทำไม เขาไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับเพื่อนอีกสามคนของเขา

“ปล่อยพี่ฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่พวกนายจะเจ็บตัว” รัตยกกำปั้นขึ้นตั้งท่าเตรียมสู้ และเหล่าเด็กชายต่างรู้ดีว่าเธอนั้นอันตรายยิ่งกว่าท่าทางที่เห็น โดยเฉพาะลูกเตะของเธอที่ครั้งแรกทุกคนต่างพากันส่งเสียงเฮฮาเพราะว่าเธอนุ่งกระโปรง แต่หลังจากเรื่องครั้งนั้นจบลง ก็ไม่มีเด็กชายคนใดในกลุ่มอยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะที่มาของเบ้าตาที่บวมปูด แผลแตก และรอยพกช้ำที่ได้รับกันถ้วนหน้า

แม้แต่รอยยิ้มของใหญ่ยังชะงักค้าง พร้อมกับเผลอขยับถอยหลังอย่างลืมตัว

“...ไม่อยากให้พี่เธอว่ายน้ำเป็นหรือไงเล่า” ใหญ่ยังพยายามฉีกยิ้ม “ฉันรู้แล้ว เธอกลัวว่าพี่สาวจะเด่นกว่าเธอใช่ไหม ถึงไม่อยากให้รุ่งทำอะไรเป็นบ้าง”

“ไม่ใช่นะ” รัตรีบปฏิเสธพร้อมกับมองไปทางพี่สาวฝาแฝดของเธอซึ่งนับเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เพราะใหญ่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว

“เอาเลย”

ใหญ่ร้องตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าไปรวบแขนทั้งสองข้าง และกอดร่างของรัตให้ล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งจะช่วยให้เขาปลอดภัยจากลูกเตะของเธอ โดยอาศัยรูปร่างที่ได้เปรียบให้เป็นประโยชน์ “เอาเลย” เขาตะโกนเร่ง

เด็กชายทั้งสองต่างช่วยกันฉุดดึงร่างของรุ่งตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำ ฝนที่พึ่งตกติดต่อกันมาหลายวันก่อนหน้าทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยว เธอกรีดร้องพร้อมกับดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ เธอนั้นเป็นคนอ่อนแอแตกต่างจากน้องสาวฝาแฝดอย่างสิ้นเชิง

ทั้งสามคนเริ่มลุยลงไปในน้ำ ในขณะที่รัตพยายามดิ้นให้หลุดจากการกอดพร้อมกับร้องด่าอย่างหยาบคาย แต่ใหญ่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ

เด็กชายอีกคนที่คล้ายยืนอยู่เพียงลำพัง มองดูสองเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นสลับไปมา เขาลังเลอยู่นานกว่าที่จะตัดสินใจได้ และดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป เด็กชายทั้งสองคนได้ลากร่างของรุ่งลงไปถึงระดับน้ำที่สูงท่วมอกแล้ว พวกเขาเคยเล่นน้ำแถวนี้กันบ่อยๆ อีกเพียงก้าวเดียวระดับน้ำก็จะเปลี่ยนเป็นลึกมากจนสูงท่วมหัว

“...พอเถอะ” เด็กชายตัวเล็กพยายามจะตะโกน แต่เสียงของเขากลับคล้ายดังมาจากที่ห่างไกล เขาคิดว่ามันคงดังไม่ต่างจากเสียงกระซิบ ดังเท่ากับความกล้าที่เขามีอยู่ในตอนนั้น เขาเริ่มออกวิ่งในขณะที่เด็กชายทั้งคู่ผลักร่างของรุ่งออกไปข้างหน้า เห็นเธอจมหายลงไปในสายน้ำเชี่ยว และเห็นใบหน้าที่แตกตื่นตกใจนั้น

“...ไม่...”

เสียงกรีดร้องของรัตดังเสียดแทงราวกับเป็นมีดแหลมคมที่ปักลงในหัวใจของเด็กชายตัวเล็ก ใหญ่ต้องคลายมือออกในที่สุดเพราะหมดแรง แต่ก็ยังส่งเสียงหัวเราะดังลั่นราวกับตนเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งสำคัญ

“...เธอหายไปไหนแล้ว” หนึ่งในสองของคนที่ผลักรุ่งออกไปร้องขึ้น

“...เออ...นั่นสิ” อีกคนเริ่มแตกตื่นตาม ทั้งคู่ต่างออกว่ายค้นหาไปรอบๆ เด็กชายตัวเล็กรีบกระโดดลงไปร่วม ตามด้วยรัต และแม้แต่ใหญ่ที่ยังพยายามจะส่งเสียงหัวเราะก็เริ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมา

“เฮ้ย อย่าทำเป็นเล่นไป เอาตัวเธอขึ้นมาได้แล้ว” ใหญ่เริ่มตะโกนโวยวายเมื่อเห็นเด็กชายทั้งสองคนว่ายวนไปมาอย่างไม่เป็นผล “พวกเราไม่ได้แกล้งนะ” คนหนึ่งตะโกนบอก “เธอจมหายไปจริงๆ พวกเราซวยแล้ว“ อีกคนหนึ่งว่า ใหญ่จึงรีบว่ายไปตามกระแสน้ำเพื่อช่วยค้นหาด้วยอีกแรง

เด็กชายตัวเล็กคนนั้นกำลังดำดิ่งพร้อมกับมองลงไปยังก้นแม่น้ำอย่างไม่เชื่อสายตา เขาควรค้นหาไปทางปลายน้ำเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เขากลับดำลงไปตรงตำแหน่งสุดท้ายที่เห็นเธอจมลงไป สายน้ำนั้นขุ่นอยู่บ้างแต่ก็พอมองเห็นได้ไกลในระยะหนึ่ง เขาดำลึกลงไปอีกเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นเป็นความจริง ไม่ได้เป็นภาพลวงที่เกิดจากจินตนาการของเขาผสมผสานเข้ากับก้อนหิน โคลนเลน และพืชใต้น้ำ เขามองจ้องอย่างลืมตัวก่อนที่จะมีอะไรบางอย่างมาสะกิดจนทำให้เขาตกใจ และพ่นลมหายใจที่เก็บไว้ออกมาจนหมด

เขากำลังจะรีบพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำซึ่งมองเห็นเป็นลวดลายอันเกิดจากแสงที่ส่องลอดผ่านพริ้วไหวงดงามอยู่ห่างขึ้นไปเพียงไม่ไกล แต่กลับถูกฉุดดึงรั้งเอาไว้ เขาหันกลับไป และทุกสิ่งใต้น้ำคล้ายกับมืดมัวลงอย่างฉับพลัน สายน้ำเย็นเฉียบ รวมถึงความอึดอัดราวกับหน้าอกกำลังจะแตกระเบิดออก ความรู้สึกที่อยากจะสูดลมหายใจเช้าไป ต่อสู้กับความรู้ที่บอกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาทำอย่างนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

#####

อรุณลืมตาตื่นขึ้นในความมืด เขารู้สึกราวกับตนเองพึ่งจะถอนหายใจจากการที่ต้องกลั้นหายใจเอาไว้อย่างเนิ่นนานไม่จบสิ้น 'ฝันแบบเดิมอีกแล้ว' มันเคยหายไปพักหนึ่ง ซึ่งเขาหวังว่ามันอาจจะหายไปตลอดกาล แต่แล้วมันก็หวนกลับมา เหมือนกับความทรงจำเลวร้ายทั้งหลายที่ยากลืมเลือน แต่เขากลับจดจำรายละเอียดที่สำคัญที่สุดของเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ได้

เด็กชายตัวเล็กในอดีตได้เติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มที่ตัวไม่เล็กอีกต่อไป แต่เขายังคงนึกไม่ออกว่าได้พบเห็นสิ่งใด เกิดอะไรขึ้นใต้น้ำในวันนั้น ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เขากลายเป็นฝ่ายที่ถูกช่วยขึ้นมาจากการจมน้ำ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีคนอื่นได้รับอันตรายในวันนั้นทั้งสิ้น นอกจากตัวเขากับความทรงจำที่สูญหายไป

อรุณลุกขึ้น และเพื่อนร่วมห้องอีกคนของเขาก็ขยับตัวลุกตาม

“...ยังเช้าอยู่เลย” คำทักทายดังมาพร้อมกับเสียงหาวยาวเหยียด

“งั้นก็นอนต่อสิใหญ่ รอให้ครูยุทธเป็นคนมาปลุกเอง” อรุณตอบ

“ใครจะอยากหาเรื่องใส่ตัวแต่เช้า...” เด็กหนุ่มที่ชื่อใหญ่ ชื่อเดียวกับเด็กตัวโตในความฝันของอรุณตอบยังไม่ทันจบ แสงไฟในห้องพักทั้งหมดรวมถึงทางเดินก็ติดสว่างขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายของครูฝึกยุทธ ที่พวกเขาคุ้นเคย

“ลืมตาได้แล้วเจ้าพวกขี้เกียจทั้งหลาย” พร้อมกับที่ร่างกำยำพร้อมผิวสีเข้มอันเป็นเอกลักษณ์โผล่มาตรงประตูที่เป็นช่องเปิดโล่งๆ “ไม่น่าเชื่อว่าคู่หูจอมแสบของเราจะตื่นกันได้เอง” ครูฝึกผู้ไม่เคยยิ้มแกล้งทักทายอย่างแปลกใจ “แม้แต่จอมแสบอย่างพวกเธอก็คงตื่นเต้นกับวันนี้สินะ”

ครูฝึกยักคิ้วให้ทั้งสองก่อนจากไปพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง กิจกรรมยามเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทหารใหม่ห้าสิบคนในค่ายฝึกแห่งนี้ต่างเคยชินกับพวกมันแล้ว โรงนอน โรงอาบน้ำ โรงอาหาร และลานฝึกคือชีวิตที่ต้องวนเวียนไปมาตลอดสามเดือนนี้

ทุกคนต่างมารวมกันอยู่ภายในลานฝึก ยืนแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหล่าเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียง ทุกคนมาเพราะการคุกคามของ สัตว์มืด ซึ่งโผล่ขึ้นภายในป่าหลังจากฤดูหนาวที่ผิดปกติของปีนี้ผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ราวกับว่าความหนาวเย็นเยือกแข็งครั้งนี้ได้ปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลยาวนาน พวกมันทั้งคุกคามชีวิต ความเป็นอยู่ ความสงบปลอดภัยของหมู่บ้านในแถบนี้จนต้องมีการร่วมมือกันจัดตั้งกองทหารอาสานี้ขึ้นมา

สงครามได้ห่างหายไปจากดินแดนแถบนี้เนิ่นนานแล้ว แม้แต่มหานครเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคแถบนี้ก็ไม่ได้มีกำลังทหารเหมือนเมื่อกาลก่อนอีกต่อไป คงเหลือเพียงกำลังตำรวจที่คอยทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเมือง และอำนาจทางการค้าที่ใช้ในการเจรจาต่อรองกับนครรัฐอื่นๆ เท่านั้น
อดีตทหารรับจ้างที่เคยสู้รบอยู่ในดินแดนห่างไกลอย่างยุทธจึงได้รับการว่าจ้างให้จัดตั้ง และฝึกฝนกองกำลังเฉพาะกิจเพื่อจัดการกับภัยคุกคามจากสัตว์มืดพวกนี้

“วันนี้เป็นวันที่การฝึกสิ้นสุดลง” ครูยุทธขึ้นยืนพูดบนเวทียกพื้นเล็กๆ ภายหลังจากการเดินตรวจแถวเสร็จสิ้นลง เขารู้สึกพอใจกับผลการฝึกพอสมควร “ทุกคนจะได้รับการติดเครื่องหมาย รวมทั้งอาวุธ ซึ่งประกอบไปด้วยดาบ และมีด คนละหนึ่งเล่ม”

พวกมันคืออาวุธดีที่สุดที่สามารถจัดหามาได้ ถึงแม้ว่าหมู่บ้านในแถบนี้จะมีทั้งการประปา และไฟฟ้าแสงสว่างที่ได้จากเครื่องปั่นไฟซึ่งทำงานโดยอาศัยการหมุนกังหันด้วยแรงจากการไหลของกระแสน้ำจากแม่น้ำอินแซน แม่น้ำใหญ่สายเดียวกับที่ไหลผ่านมหานครก็ตาม ปืน ที่สามารถยิงมีดสั้น หรือเหล็กแหลมออกไปเพื่อใช้จู่โจมจากระยะไกลด้วยระบบสปริงนั้นเป็นอาวุธร้ายแรงที่มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งมหานครเท่านั้นที่มีสิทธิครอบครอง

เทคโนโลยีที่ดูเหมือนว่าจะล้าหลังในบ้างด้าน แต่กลับก้าวหน้าในบางเรื่องนั้นนับเป็นสิ่งที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในดินแดนโดยรอบมหานครอันมีชื่อเสียง รวมถึงเรื่องราวประหลาดต่างๆ อย่างเช่นการโผล่มาของสัตว์มืดพวกนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทำให้ใครรู้สึกประหลาดใจมากจนเกินไปนัก

“อย่างที่รู้กันว่าสัตว์มืดนั้นมีความดุร้าย พวกมันจ้องทำอันตรายผู้คนอย่างจงใจ ดวงตาของพวกมันเป็นสีดำสนิททั้งดวง มืดมิดราวกับยามราตรี นั่นจึงทำให้พวกเราเรียกมันว่าสัตว์มืด” ยุทธกวาดสายตาผ่านใบหน้าที่มีหลากหลายความรู้สึกปะปนกัน และหนึ่งในนั้นจะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจากความหวาดกลัว

เด็กหนุ่มเหล่านี้ควรที่จะต้องกลัว เพื่อให้มีความระมัดระวัง ไม่ใช่กลัวเพื่อที่จะหันหลังวิ่งหนี การฝึกฝนที่ผ่านมาจะทำให้พวกเขาเคยชินกับการทำตามคำสั่ง เตรียมร่างกาย สร้างทักษะในการต่อสู้ทั้งด้วยมือเปล่า และการใช้อาวุธ ที่สำคัญคือเตรียมจิตใจให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“แต่พวกมันก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่า สัตว์นักล่าที่นายพรานฝีมือดีก็สามารถจัดการได้ไม่ยาก การที่มีชาวบ้านทั่วไปได้รับอันตรายจากพวกมันอย่างที่รู้กัน จึงนับเป็นการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น”

หลายคนในหมู่ทหารใหม่พยักหน้าเห็นด้วย

“การฝึกหนักของทุกคนสิ้นสุดลงแล้ว นับจากวันนี้ไปพวกเราจะไปเป็นกองกำลัง เป็นแนวหน้าที่จะคอยปกป้องพื้นที่แถบนี้ให้สงบปลอดภัยจากสัตว์มืดเหล่านี้” เขาหยุดเว้นจังหวะก่อนจะตะโกนถาม “ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม”

“พร้อม” เสียงตะโกนตอบรับดังขึ้นพร้อมกับการยกชูดาบประจำกายของตนด้วยความฮึกเหิม เสริมสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าทหารใหม่ได้อย่างที่ครูยุทธต้องการ “วันนี้พวกเราจะพักผ่อนกันให้เต็มที่ ก่อนรับคำสั่งจัดกำลังเพื่อแยกย้ายไปประจำตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นละแวกหมู่บ้านของแต่ละคนนั่นเอง”

ในงานเลี้ยงเล็กๆ นี้มีทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม แม้ไม่หรูหรา แต่ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย เสียงพูดคุย และการกล่าวคำอำลาดังขึ้นไม่ขาดก่อนที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกลับไปยังหมู่บ้านของตน สามเดือนแห่งความเหนื่อยยาก สามเดือนแห่งความคิดถึง หน้าที่ความรับผิดชอบ และอันตรายที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่

“ว่าไง คู่หูจอมแสบ” คำทักทายของครูยุทธทำให้เด็กหนุ่มสองสามคนที่จับกลุ่มอยู่ด้วยขอแยกตัวไป “ฉันจะไม่อ้อมค้อม ฉันมีข้อเสนอบางอย่างให้พวกเธอ”

เด็กหนุ่มทั้งสองหันมาสบตากัน พวกเขารู้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดี ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาครูยุทธคนนี้คือฝันร้าย ซึ่งรวมถึงตอนที่พวกเขากำลังลืมตาตื่นอยู่ด้วย ข้อเสนอของเขาคงไม่ต่างไปจากการเอาดาบมาจ่อไว้ที่คอหอยนั่นเอง

“ไม่ ผมไม่เอาด้วย” ใหญ่รีบตอบ

“เฮ้ ลองฟังกันก่อนสิ” ครูยุทธตบหลังใหญ่อย่างแรงพร้อมรอยยิ้มที่ยากพบเห็น “พวกเธอสองคนต่างก็มีฝีมือ และทำงานร่วมกันได้ดี” มันเป็นเรื่องจริง เด็กหนุ่มทั้งสองก็คิดอย่างนั้น “ฉันจึงมีภารกิจพิเศษมาเสนอ” เขาลดเสียงต่ำลง พร้อมกับทำหน้าจริงจัง

ข้อเสนอสั้นๆ ของเขาทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองต้องหันมองหน้ากันอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วงทางหมู่บ้านของพวกเธอ ฉันจะจัดกำลังไปแทนให้เอง” เขาบอก

“...ผมตกลง” อรุณตอบรับ

“...ผมไม่เอาด้วย” ใหญ่ตอบปฏิเสธ ทั้งคู่ตอบเกือบจะพร้อมกัน แล้วก็หันไปมองหน้ากันเอง

“เอาล่ะ อย่าพึ่งรีบร้อน ฉันจะให้เวลาพวกเธอคิด ไปตกลงกันเองดูก่อน” ครูยุทธว่าก่อนที่จะเดินแยกไป ปล่อยให้เด็กหนุ่มทั้งสองต้องพูดคุยกันอย่างจริงจัง


Create Date : 07 เมษายน 2558
Last Update : 7 เมษายน 2558 13:03:17 น. 0 comments
Counter : 836 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.