|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แจ้ง (1)
ปล่อยพี่รุ่งเดี๋ยวนี้
เด็กหญิงท่าทางเอาเรื่องตะโกนใส่กลุ่มของเด็กชายสี่คน คนตัวโตที่มีท่าทางเป็นหัวโจกยิ้มยียวนอย่างท้าทายพร้อมกับก้าวออกมารับหน้า ใจเย็น รัต พวกเราก็แค่อยากสอนให้เธออีกคนว่ายน้ำเป็นเท่านั้นเอง เด็กชายอีกสองคนกำลังช่วยกันจับแขนของรุ่ง ซึ่งมีรูปกายภายนอกเหมือนกับรัตทุกประการ นอกจากท่าทางที่หวาดกลัว และกำลังจะร้องไห้ของเธอ ส่วนเด็กชายตัวเล็กคนสุดท้ายในกลุ่มมีท่าทีลังเล เขาเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ทำไม เขาไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับเพื่อนอีกสามคนของเขา
ปล่อยพี่ฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่พวกนายจะเจ็บตัว รัตยกกำปั้นขึ้นตั้งท่าเตรียมสู้ และเหล่าเด็กชายต่างรู้ดีว่าเธอนั้นอันตรายยิ่งกว่าท่าทางที่เห็น โดยเฉพาะลูกเตะของเธอที่ครั้งแรกทุกคนต่างพากันส่งเสียงเฮฮาเพราะว่าเธอนุ่งกระโปรง แต่หลังจากเรื่องครั้งนั้นจบลง ก็ไม่มีเด็กชายคนใดในกลุ่มอยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะที่มาของเบ้าตาที่บวมปูด แผลแตก และรอยพกช้ำที่ได้รับกันถ้วนหน้า
แม้แต่รอยยิ้มของใหญ่ยังชะงักค้าง พร้อมกับเผลอขยับถอยหลังอย่างลืมตัว
...ไม่อยากให้พี่เธอว่ายน้ำเป็นหรือไงเล่า ใหญ่ยังพยายามฉีกยิ้ม ฉันรู้แล้ว เธอกลัวว่าพี่สาวจะเด่นกว่าเธอใช่ไหม ถึงไม่อยากให้รุ่งทำอะไรเป็นบ้าง
ไม่ใช่นะ รัตรีบปฏิเสธพร้อมกับมองไปทางพี่สาวฝาแฝดของเธอซึ่งนับเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เพราะใหญ่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว
เอาเลย
ใหญ่ร้องตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าไปรวบแขนทั้งสองข้าง และกอดร่างของรัตให้ล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งจะช่วยให้เขาปลอดภัยจากลูกเตะของเธอ โดยอาศัยรูปร่างที่ได้เปรียบให้เป็นประโยชน์ เอาเลย เขาตะโกนเร่ง
เด็กชายทั้งสองต่างช่วยกันฉุดดึงร่างของรุ่งตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำ ฝนที่พึ่งตกติดต่อกันมาหลายวันก่อนหน้าทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยว เธอกรีดร้องพร้อมกับดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ เธอนั้นเป็นคนอ่อนแอแตกต่างจากน้องสาวฝาแฝดอย่างสิ้นเชิง
ทั้งสามคนเริ่มลุยลงไปในน้ำ ในขณะที่รัตพยายามดิ้นให้หลุดจากการกอดพร้อมกับร้องด่าอย่างหยาบคาย แต่ใหญ่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
เด็กชายอีกคนที่คล้ายยืนอยู่เพียงลำพัง มองดูสองเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นสลับไปมา เขาลังเลอยู่นานกว่าที่จะตัดสินใจได้ และดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป เด็กชายทั้งสองคนได้ลากร่างของรุ่งลงไปถึงระดับน้ำที่สูงท่วมอกแล้ว พวกเขาเคยเล่นน้ำแถวนี้กันบ่อยๆ อีกเพียงก้าวเดียวระดับน้ำก็จะเปลี่ยนเป็นลึกมากจนสูงท่วมหัว
...พอเถอะ เด็กชายตัวเล็กพยายามจะตะโกน แต่เสียงของเขากลับคล้ายดังมาจากที่ห่างไกล เขาคิดว่ามันคงดังไม่ต่างจากเสียงกระซิบ ดังเท่ากับความกล้าที่เขามีอยู่ในตอนนั้น เขาเริ่มออกวิ่งในขณะที่เด็กชายทั้งคู่ผลักร่างของรุ่งออกไปข้างหน้า เห็นเธอจมหายลงไปในสายน้ำเชี่ยว และเห็นใบหน้าที่แตกตื่นตกใจนั้น
...ไม่...
เสียงกรีดร้องของรัตดังเสียดแทงราวกับเป็นมีดแหลมคมที่ปักลงในหัวใจของเด็กชายตัวเล็ก ใหญ่ต้องคลายมือออกในที่สุดเพราะหมดแรง แต่ก็ยังส่งเสียงหัวเราะดังลั่นราวกับตนเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งสำคัญ
...เธอหายไปไหนแล้ว หนึ่งในสองของคนที่ผลักรุ่งออกไปร้องขึ้น
...เออ...นั่นสิ อีกคนเริ่มแตกตื่นตาม ทั้งคู่ต่างออกว่ายค้นหาไปรอบๆ เด็กชายตัวเล็กรีบกระโดดลงไปร่วม ตามด้วยรัต และแม้แต่ใหญ่ที่ยังพยายามจะส่งเสียงหัวเราะก็เริ่มมีสีหน้ากังวลขึ้นมา
เฮ้ย อย่าทำเป็นเล่นไป เอาตัวเธอขึ้นมาได้แล้ว ใหญ่เริ่มตะโกนโวยวายเมื่อเห็นเด็กชายทั้งสองคนว่ายวนไปมาอย่างไม่เป็นผล พวกเราไม่ได้แกล้งนะ คนหนึ่งตะโกนบอก เธอจมหายไปจริงๆ พวกเราซวยแล้ว อีกคนหนึ่งว่า ใหญ่จึงรีบว่ายไปตามกระแสน้ำเพื่อช่วยค้นหาด้วยอีกแรง
เด็กชายตัวเล็กคนนั้นกำลังดำดิ่งพร้อมกับมองลงไปยังก้นแม่น้ำอย่างไม่เชื่อสายตา เขาควรค้นหาไปทางปลายน้ำเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เขากลับดำลงไปตรงตำแหน่งสุดท้ายที่เห็นเธอจมลงไป สายน้ำนั้นขุ่นอยู่บ้างแต่ก็พอมองเห็นได้ไกลในระยะหนึ่ง เขาดำลึกลงไปอีกเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นเป็นความจริง ไม่ได้เป็นภาพลวงที่เกิดจากจินตนาการของเขาผสมผสานเข้ากับก้อนหิน โคลนเลน และพืชใต้น้ำ เขามองจ้องอย่างลืมตัวก่อนที่จะมีอะไรบางอย่างมาสะกิดจนทำให้เขาตกใจ และพ่นลมหายใจที่เก็บไว้ออกมาจนหมด
เขากำลังจะรีบพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำซึ่งมองเห็นเป็นลวดลายอันเกิดจากแสงที่ส่องลอดผ่านพริ้วไหวงดงามอยู่ห่างขึ้นไปเพียงไม่ไกล แต่กลับถูกฉุดดึงรั้งเอาไว้ เขาหันกลับไป และทุกสิ่งใต้น้ำคล้ายกับมืดมัวลงอย่างฉับพลัน สายน้ำเย็นเฉียบ รวมถึงความอึดอัดราวกับหน้าอกกำลังจะแตกระเบิดออก ความรู้สึกที่อยากจะสูดลมหายใจเช้าไป ต่อสู้กับความรู้ที่บอกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาทำอย่างนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
#####
อรุณลืมตาตื่นขึ้นในความมืด เขารู้สึกราวกับตนเองพึ่งจะถอนหายใจจากการที่ต้องกลั้นหายใจเอาไว้อย่างเนิ่นนานไม่จบสิ้น 'ฝันแบบเดิมอีกแล้ว' มันเคยหายไปพักหนึ่ง ซึ่งเขาหวังว่ามันอาจจะหายไปตลอดกาล แต่แล้วมันก็หวนกลับมา เหมือนกับความทรงจำเลวร้ายทั้งหลายที่ยากลืมเลือน แต่เขากลับจดจำรายละเอียดที่สำคัญที่สุดของเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ได้
เด็กชายตัวเล็กในอดีตได้เติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มที่ตัวไม่เล็กอีกต่อไป แต่เขายังคงนึกไม่ออกว่าได้พบเห็นสิ่งใด เกิดอะไรขึ้นใต้น้ำในวันนั้น ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เขากลายเป็นฝ่ายที่ถูกช่วยขึ้นมาจากการจมน้ำ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีคนอื่นได้รับอันตรายในวันนั้นทั้งสิ้น นอกจากตัวเขากับความทรงจำที่สูญหายไป
อรุณลุกขึ้น และเพื่อนร่วมห้องอีกคนของเขาก็ขยับตัวลุกตาม
...ยังเช้าอยู่เลย คำทักทายดังมาพร้อมกับเสียงหาวยาวเหยียด
งั้นก็นอนต่อสิใหญ่ รอให้ครูยุทธเป็นคนมาปลุกเอง อรุณตอบ
ใครจะอยากหาเรื่องใส่ตัวแต่เช้า... เด็กหนุ่มที่ชื่อใหญ่ ชื่อเดียวกับเด็กตัวโตในความฝันของอรุณตอบยังไม่ทันจบ แสงไฟในห้องพักทั้งหมดรวมถึงทางเดินก็ติดสว่างขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายของครูฝึกยุทธ ที่พวกเขาคุ้นเคย
ลืมตาได้แล้วเจ้าพวกขี้เกียจทั้งหลาย พร้อมกับที่ร่างกำยำพร้อมผิวสีเข้มอันเป็นเอกลักษณ์โผล่มาตรงประตูที่เป็นช่องเปิดโล่งๆ ไม่น่าเชื่อว่าคู่หูจอมแสบของเราจะตื่นกันได้เอง ครูฝึกผู้ไม่เคยยิ้มแกล้งทักทายอย่างแปลกใจ แม้แต่จอมแสบอย่างพวกเธอก็คงตื่นเต้นกับวันนี้สินะ
ครูฝึกยักคิ้วให้ทั้งสองก่อนจากไปพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง กิจกรรมยามเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทหารใหม่ห้าสิบคนในค่ายฝึกแห่งนี้ต่างเคยชินกับพวกมันแล้ว โรงนอน โรงอาบน้ำ โรงอาหาร และลานฝึกคือชีวิตที่ต้องวนเวียนไปมาตลอดสามเดือนนี้
ทุกคนต่างมารวมกันอยู่ภายในลานฝึก ยืนแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหล่าเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียง ทุกคนมาเพราะการคุกคามของ สัตว์มืด ซึ่งโผล่ขึ้นภายในป่าหลังจากฤดูหนาวที่ผิดปกติของปีนี้ผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ราวกับว่าความหนาวเย็นเยือกแข็งครั้งนี้ได้ปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลยาวนาน พวกมันทั้งคุกคามชีวิต ความเป็นอยู่ ความสงบปลอดภัยของหมู่บ้านในแถบนี้จนต้องมีการร่วมมือกันจัดตั้งกองทหารอาสานี้ขึ้นมา
สงครามได้ห่างหายไปจากดินแดนแถบนี้เนิ่นนานแล้ว แม้แต่มหานครเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคแถบนี้ก็ไม่ได้มีกำลังทหารเหมือนเมื่อกาลก่อนอีกต่อไป คงเหลือเพียงกำลังตำรวจที่คอยทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเมือง และอำนาจทางการค้าที่ใช้ในการเจรจาต่อรองกับนครรัฐอื่นๆ เท่านั้น อดีตทหารรับจ้างที่เคยสู้รบอยู่ในดินแดนห่างไกลอย่างยุทธจึงได้รับการว่าจ้างให้จัดตั้ง และฝึกฝนกองกำลังเฉพาะกิจเพื่อจัดการกับภัยคุกคามจากสัตว์มืดพวกนี้
วันนี้เป็นวันที่การฝึกสิ้นสุดลง ครูยุทธขึ้นยืนพูดบนเวทียกพื้นเล็กๆ ภายหลังจากการเดินตรวจแถวเสร็จสิ้นลง เขารู้สึกพอใจกับผลการฝึกพอสมควร ทุกคนจะได้รับการติดเครื่องหมาย รวมทั้งอาวุธ ซึ่งประกอบไปด้วยดาบ และมีด คนละหนึ่งเล่ม
พวกมันคืออาวุธดีที่สุดที่สามารถจัดหามาได้ ถึงแม้ว่าหมู่บ้านในแถบนี้จะมีทั้งการประปา และไฟฟ้าแสงสว่างที่ได้จากเครื่องปั่นไฟซึ่งทำงานโดยอาศัยการหมุนกังหันด้วยแรงจากการไหลของกระแสน้ำจากแม่น้ำอินแซน แม่น้ำใหญ่สายเดียวกับที่ไหลผ่านมหานครก็ตาม ปืน ที่สามารถยิงมีดสั้น หรือเหล็กแหลมออกไปเพื่อใช้จู่โจมจากระยะไกลด้วยระบบสปริงนั้นเป็นอาวุธร้ายแรงที่มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งมหานครเท่านั้นที่มีสิทธิครอบครอง
เทคโนโลยีที่ดูเหมือนว่าจะล้าหลังในบ้างด้าน แต่กลับก้าวหน้าในบางเรื่องนั้นนับเป็นสิ่งที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในดินแดนโดยรอบมหานครอันมีชื่อเสียง รวมถึงเรื่องราวประหลาดต่างๆ อย่างเช่นการโผล่มาของสัตว์มืดพวกนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทำให้ใครรู้สึกประหลาดใจมากจนเกินไปนัก
อย่างที่รู้กันว่าสัตว์มืดนั้นมีความดุร้าย พวกมันจ้องทำอันตรายผู้คนอย่างจงใจ ดวงตาของพวกมันเป็นสีดำสนิททั้งดวง มืดมิดราวกับยามราตรี นั่นจึงทำให้พวกเราเรียกมันว่าสัตว์มืด ยุทธกวาดสายตาผ่านใบหน้าที่มีหลากหลายความรู้สึกปะปนกัน และหนึ่งในนั้นจะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจากความหวาดกลัว
เด็กหนุ่มเหล่านี้ควรที่จะต้องกลัว เพื่อให้มีความระมัดระวัง ไม่ใช่กลัวเพื่อที่จะหันหลังวิ่งหนี การฝึกฝนที่ผ่านมาจะทำให้พวกเขาเคยชินกับการทำตามคำสั่ง เตรียมร่างกาย สร้างทักษะในการต่อสู้ทั้งด้วยมือเปล่า และการใช้อาวุธ ที่สำคัญคือเตรียมจิตใจให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่พวกมันก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่า สัตว์นักล่าที่นายพรานฝีมือดีก็สามารถจัดการได้ไม่ยาก การที่มีชาวบ้านทั่วไปได้รับอันตรายจากพวกมันอย่างที่รู้กัน จึงนับเป็นการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น
หลายคนในหมู่ทหารใหม่พยักหน้าเห็นด้วย
การฝึกหนักของทุกคนสิ้นสุดลงแล้ว นับจากวันนี้ไปพวกเราจะไปเป็นกองกำลัง เป็นแนวหน้าที่จะคอยปกป้องพื้นที่แถบนี้ให้สงบปลอดภัยจากสัตว์มืดเหล่านี้ เขาหยุดเว้นจังหวะก่อนจะตะโกนถาม ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม
พร้อม เสียงตะโกนตอบรับดังขึ้นพร้อมกับการยกชูดาบประจำกายของตนด้วยความฮึกเหิม เสริมสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าทหารใหม่ได้อย่างที่ครูยุทธต้องการ วันนี้พวกเราจะพักผ่อนกันให้เต็มที่ ก่อนรับคำสั่งจัดกำลังเพื่อแยกย้ายไปประจำตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นละแวกหมู่บ้านของแต่ละคนนั่นเอง
ในงานเลี้ยงเล็กๆ นี้มีทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม แม้ไม่หรูหรา แต่ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย เสียงพูดคุย และการกล่าวคำอำลาดังขึ้นไม่ขาดก่อนที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกลับไปยังหมู่บ้านของตน สามเดือนแห่งความเหนื่อยยาก สามเดือนแห่งความคิดถึง หน้าที่ความรับผิดชอบ และอันตรายที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่
ว่าไง คู่หูจอมแสบ คำทักทายของครูยุทธทำให้เด็กหนุ่มสองสามคนที่จับกลุ่มอยู่ด้วยขอแยกตัวไป ฉันจะไม่อ้อมค้อม ฉันมีข้อเสนอบางอย่างให้พวกเธอ
เด็กหนุ่มทั้งสองหันมาสบตากัน พวกเขารู้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดี ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาครูยุทธคนนี้คือฝันร้าย ซึ่งรวมถึงตอนที่พวกเขากำลังลืมตาตื่นอยู่ด้วย ข้อเสนอของเขาคงไม่ต่างไปจากการเอาดาบมาจ่อไว้ที่คอหอยนั่นเอง
ไม่ ผมไม่เอาด้วย ใหญ่รีบตอบ
เฮ้ ลองฟังกันก่อนสิ ครูยุทธตบหลังใหญ่อย่างแรงพร้อมรอยยิ้มที่ยากพบเห็น พวกเธอสองคนต่างก็มีฝีมือ และทำงานร่วมกันได้ดี มันเป็นเรื่องจริง เด็กหนุ่มทั้งสองก็คิดอย่างนั้น ฉันจึงมีภารกิจพิเศษมาเสนอ เขาลดเสียงต่ำลง พร้อมกับทำหน้าจริงจัง
ข้อเสนอสั้นๆ ของเขาทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองต้องหันมองหน้ากันอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงทางหมู่บ้านของพวกเธอ ฉันจะจัดกำลังไปแทนให้เอง เขาบอก
...ผมตกลง อรุณตอบรับ
...ผมไม่เอาด้วย ใหญ่ตอบปฏิเสธ ทั้งคู่ตอบเกือบจะพร้อมกัน แล้วก็หันไปมองหน้ากันเอง
เอาล่ะ อย่าพึ่งรีบร้อน ฉันจะให้เวลาพวกเธอคิด ไปตกลงกันเองดูก่อน ครูยุทธว่าก่อนที่จะเดินแยกไป ปล่อยให้เด็กหนุ่มทั้งสองต้องพูดคุยกันอย่างจริงจัง
Create Date : 07 เมษายน 2558 |
Last Update : 7 เมษายน 2558 13:03:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 836 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|