Bloggang.com : weblog for you and your gang
ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
ผลงาน
วชิระ เวทภพ สยบมาร (จบแล้ว)
เพชร x เพชร (จบแล้ว)
เทพมารสะท้านมิติ (จบแล้ว)
สัญญาจ้าวราชันย์ (จบแล้ว)
เพลงดวงดาว (จบแล้ว)
คนเฝ้าหนังสือ (จบแล้ว)
"ฉัน" (จบแล้ว)
โธพิ (จบแล้ว)
ทอย (จบแล้ว)
แจ้ง (กำลังเขียน)
เดียวดายใต้เงาจอ (จบแล้ว)
เจฟแห่งหน่วยที่ 13 (เรื่องสั้นจบในตอน)
มือปราบหลงเฉิน (เรื่องสั้นจบในตอน)
ห้องหนังสือ (เรื่องสั้นจบในตอน)
กล่องโดนัท (รวมเรื่องสั้นสั้น)
รวมเรื่องสั้น
นิทาน 2000
ตามใจฉันท์
ไร้-สาระ-นุกรม
คฤหาสน์สนธยา (จบแล้ว)
มอนเอราโด (จบแล้ว)
ไซโค-แมน (เรื่องสั้นสั้นจบในตอน)
ไดอารีสีแดง (จบแล้ว)
<<
มกราคม 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 มกราคม 2556
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 15
All Blogs
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 21
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 20
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 19
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 18
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 17
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 16
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 15
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 14
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 13
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 12
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 11
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 10
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 9
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 8
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 7
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 6
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 5
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 4
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 3
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 2
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 1
คนเฝ้าหนังสือ ตอนที่ 15
เด็กชายเดินเคียงคู่ไปกับผู้ที่มาด้วยกัน ท่าทางเขาอึดอัดเหมือนอยากพูดอะไรหลายเรื่อง แต่ก็ไม่อาจพูดออกมาได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง เขาทอดสายตามองพื้นคอนกรีตที่อยู่เบื้องหน้า สิ่งที่ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาอาจไม่ใช่พื้นถนนที่แสนน่าเบื่อ มันอาจเป็นทุ่งดอกไม้แสนสวย เป็นผืนป่าลี้ลับ เป็นแม่น้ำไหลเชี่ยวแสนอันตราย หรือแม้กระทั่งเป็นทางเดินที่ปูด้วยก้อนอิฐสีเหลืองอันน่าอัศจรรย์
ไม่แน่ว่าในระหว่างการเดินทางของชีวิต เขาอาจได้พบเจอกับเด็กหญิงกำพร้าที่มีชื่อว่า โดโรธี กับสุนัขของเธอ โตโต้ และสหายทั้งสามอันประกอบไปด้วย หุ่นไล่กาที่อยากมีสมอง หุ่นกระป๋องที่อยากมีหัวใจ กับสิงโตขี้ขลาดที่อยากมีความกล้าหาญ ด้วยก็เป็นได้
เหล่าตัวละครในนิทานที่เขาเคยชอบอ่าน ชอบฟังตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นเด็ก อย่างน้อยก็ยังเด็กกว่าในตอนนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเก่าเหล่านี้บ้าง เมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงตอนจบ
หุ่นไล่กาที่มีความคิด คิดได้แม้กระทั่งว่ามันต้องการสมองเพื่อที่จะคิด
หุ่นกระป๋องที่มีความรู้สึก และอ่อนไหวไปกับความรู้สึกจากข้างในจนมันต้องการหัวใจสักดวง
สิงโตแสนขี้ขลาดที่รู้ว่าตัวเองหวาดกลัว และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
ทั้งหมดได้รับในสิ่งที่ต้องการ แต่ไม่ใช่เพราะการก้าวไปถึงจุดหมาย แต่เป็นเพราะการได้ร่วมผจญภัยไปด้วยกัน การเดินทางต่างหากที่สำคัญ ถนนอิฐสีเหลืองกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหากที่สำคัญ ไม่ใช่ มรกตนคร ไม่ใช่ พ่อมดแห่งออซ หรือการปราบแม่มดที่ชั่วร้าย
สุดท้ายแล้ว รองเท้าสีเงิน ซึ่งโดโรธีได้รับมาตั้งแต่ต้น และสวมใส่ไปตลอดการเดินทางนั่นเอง ที่มีพลังสามารถพาเธอกลับคืนสู่บ้านเก่าในแคนซัส หรือบ้านที่แท้จริงของเธอไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใดก็ตาม
เจ้าสิงโตขยิบตาพร้อมกับเอื้อมมือมาสะกิดเขา
พริม...เธอ...เธอคิดอย่างไรกับฉัน จู่ๆ เขาก็พูดออกมา แต่ดูเหมือนผู้ที่เดินมาด้วยกันนั้นจะไม่สนใจเลยสักนิด
หุ่นกระป๋อง กับหุ่นไล่กาลงมือช่วยด้วยอีกแรง
ฉันแอบ...แอบชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ใบหน้าของเขาเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดจบ แต่ขายังคงก้าวเดินต่อไปไม่ยอมหยุด
ถึงตอนนี้ทั้งหุ่นไล่กา หุ่นกระป๋อง กับเจ้าสิงโต ต่างพากันวิ่งวุ่นปั่นป่วนอยู่ภายในท้อง
ฉัน...ฉัน... ในหัวของเขาไม่มีอะไรให้หยิบฉวยออกมาใช้ได้มากนัก นอกจากบางอย่างที่เขาพบเจอจากในละครที่แม่ชอบดู คำพูดจากการแอบได้ยินเวลาที่รุ่นพี่คุยกัน ซึ่งมักมีเสียงโห่ กับเสียงหัวเราะแปลกๆ ดังแทรกอยู่ตลอดเวลา บางสิ่งจากในหนังสือ และจากที่อื่นๆ อีกอย่างละนิดอย่างละหน่อย
แล้วเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้
เขาหยุดเท้า และในตอนนั้นเองที่ผู้ซึ่งเดินเคียงคู่กันมาตลอดทางรู้สึกตัว และหันมาสนใจ เขาจ้องมองดวงตาโตคู่นั้นแน่วนิ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกดึงดูดให้เคลื่อนใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไป จนกระทั่งใบหน้าของทั้งสองแทบจะแนบชิดติดกัน
แผลบ
ลิ้นสากๆ กับน้ำลายวิ่งผ่าน ริมฝีปาก และจมูกของเขาไปอย่างรวดเร็ว เขาพยายามผลัก แต่มันก็ยังทุ่มแรงดันเข้ามาเต็มที่เพื่อจะเลียใบหน้าของเขาต่อไป
หยุด ฉันบอกให้...หยุด ความชุลมุนวุ่นวายระหว่างมือ ลิ้น ใบหน้า กับน้ำลายพวกนั้นยังดำเนินต่อไปอีกครู่หนึ่ง
หยุด อะตอมตะโกนลั่น และขนุน หมาพันธุ์ทางตัวโตก็ยอมถอยกลับไป แต่มันยังคงจ้องมองดูเขา ทำหน้าไม่เข้าใจ ราวกับว่าสิ่งที่มันทำลงไปนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว
ถ้ายังทำแบบนี้ วันหลังฉันจะไม่พาแกออกมาเดินเล่นอีกแล้ว เข้าใจไหม เขาดุเสียงดัง ในขณะที่พยายามใช้มือปาดเช็ดน้ำลายที่เลอะอยู่บนใบหน้าออก คราวหลังต้องอย่าลืมพกผ้าเช็ดหน้ามาด้วย เขาเตือนตัวเองในใจ
มันมองดูการกระทำของเขาด้วยดวงตาที่ใสกระจ่าง ลิ้นสีชมพูห้อยออกมาจากริมฝีปากที่มองเหมือนกับว่ากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา เขาคิดว่า มันไม่เข้าใจเลยสักนิด
ความคิดของเขาล่องลอยกลับไปในตอนที่ทั้งสองพึ่งได้พบกันเป็นครั้งแรก เขาเดินผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่งพร้อมกับลูกชิ้นหนึ่งไม้ในมือขวา กับถุงใส่ลูกชิ้นที่เหลืออีกสามไม้ในมือซ้าย
โฮ่ง
เสียงเห่าที่ฟังดูเป็นมิตรดังออกมาจากภายในบ้านที่เขากำลังเดินผ่านไป มันทำให้เขานึกถึงสุนัขตัวเล็กๆ น่ารัก เขาหยุดเดิน ก่อนที่เจ้าของเสียงเห่าจะค่อยๆ ปรากฏกายออกมา
ตัวมันไม่เล็กเลยนะ นั่นเป็นความประทับใจครั้งแรกที่เกิดขึ้น
ขนุนเป็นสุนัขตัวโตที่มีขนยาวปานกลาง ตัวมันมีสีไล่ตั้งแต่ ขาว เทา ไปจนถึงดำ สีทั้งหมดนั้นปนกันอยู่ทั่ว จนมองดูเหมือนกับว่าตัวมันมอมแมมอยู่ตลอดเวลา หูทั้งสองห้อยตกลงข้างหัว ขนบนหน้าถูกตัดแต่งจนดูเหมือนไว้หนวดเครา มันเดินมาจนถึงริมรั้วซึ่งเป็นลูกกรงเหล็ก ก่อนส่งเสียงเห่าทักทายอีกครั้ง
เขาเดินเข้าไปหา บางทีอาจเป็นเพราะริมฝีปาก หรือไม่ก็ดวงตาที่เหมือนกับมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลานั้น ที่ทำให้เขากล้าที่จะเก็บลูกชิ้นลงในถุง แล้วเอื้อมมือรอดลูกกรงรั้วเข้าไปเพื่อลูบหัว ขนนิ่มกว่าที่คิดอีก มันพยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อดมมือ หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ ดมกลิ่นลูกชิ้นที่ยังเหลือติดค้างอยู่บนมือของเขา
จมูกชื้นๆ เย็นๆ ของมันทำให้เขารู้สึกจั๊กกะจี้จนต้องส่งเสียงหัวเราะออกมา ตอนนั้นเขาไม่คิดเลยสักนิดว่า มันอาจจะกัดมือของเขาเข้าเมื่อไรก็ได้
ลูกขนุนของป้าน่ารักใช่ไหม
เขารีบลุกขึ้นยืนมองหาเจ้าของเสียงนั้น คุณป้าคนหนึ่งเดินออกมาจากทิศทางเดียวกันกับที่ขนุนวิ่งมาเมื่อครู่นี้ บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มที่แทบจะไม่แตกต่างจากสุนัขของเธอ ร่างท้วมนั้นก้าวช้าๆ มาที่ริมรั้ว
สวัสดีครับคุณป้า มันชื่อว่าลูกขนุนหรือครับ
เขา ชื่อขนุนเฉยๆ แต่ป้าชอบเรียก เขา ว่าลูกขนุน ป้าตอบ เน้นเสียงที่คำว่า เขา ทั้งสองคำ
เอ่อ...ครับ ม...เขา น่ารักดีนะครับ ถึงจะแปลกใจที่ป้าเรียกสัตว์เหมือนกับว่ามันเป็นคน แต่ก็ยังดีกว่าในกรณีกลับกัน และถ้ามันจะทำให้พวกเขารู้สึกดี ก็จะเป็นอะไรไป
จ๊ะ เขาน่ารักมากๆ เลย ป้าตอบอย่างยินดี ก่อนค่อยๆ ย่อตัวลงกอดมันเอาไว้ด้วยแขนทั้งสอง ไม่รู้ว่าคนใจร้ายที่ไหนเอาเขามาทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังเล็ก ยังไม่ลืมตาเลยด้วยซ้ำ
เขามีปัญหานิดหน่อยในการพยายามนึกภาพว่าสุนัขตัวโตนี้เคยเป็นเพียงลูกหมาตัวเล็กๆ น่ารักมาก่อน บางทีมันอาจจะเคยมีขนาดตัวพอๆ กับฝ่ามือของเขาเท่านั้นเอง
ป้าเก็บเขามาเลี้ยงหรือครับ
เขาถูกทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน ตอนแรกป้าก็พยายามหาคนอื่นให้รับไป ป้าไม่เคยเลี้ยงสุนัขมาก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอา ป้าก็เลยต้องเลี้ยงเอาไว้เอง ป้าคงชอบเล่า ชอบนึกถึงเรื่องในอดีตเหมือนกับคนสูงอายุทั่วไป สำหรับพวกเขาแล้ว อดีตบางเรื่องนั้นชัดเจน น่าจดจำ น่าหลงใหลยิ่งกว่าอนาคตที่เต็มไปด้วยความเสื่อมถอยของร่างกาย กับโรคภัยไข้เจ็บนานาที่รอคอยอยู่
แล้วป้าก็ดีใจจริงๆ ที่วันนั้นตัดสินใจเลี้ยงเขาเอาไว้ ป้ากอดมัน แล้วมันก็หันมาเลียใบหน้าซึ่งป้าก็ไม่ว่าอะไร นอกจากผลักหัวมันออกไปเบาๆ เท่านั้น
ป้ารู้ว่าเขาจะดีใจทุกครั้งที่ได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้เข่าป้าไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เลยไม่ค่อยได้พาเขาออกไปเดินเที่ยวอีกแล้ว ป้ายังพูดต่อไปเรื่อยๆ
แล้วความคิดอย่างหนึ่งก็เกิดขึ้นในหัวของเขา
เอ่อ ถ้าผมจะขออาสาพาเขาไปเดินเล่น ป้าจะว่าอะไรไหมครับ
อะไรนะจ๊ะ ป้าทำหน้างง ก่อนที่ริมฝีปากจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม จริงหรือ ป้าถามย้ำให้แน่ใจ
จริงสิครับ เขาว่า ว่าแต่ คุณป้ามีสายจูงใช่ไหมครับ
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ขนุนที่ใส่สายจูงเรียบร้อยก็นั่งหันมองคนนั้นทีคนนี้ที หางกระดิกไปมาด้วยความคาดหวัง เพราะมันรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
การพบหน้ากันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่นั้นผ่านไปอย่างเรียบร้อย จริงๆ ก็เกือบเรียบร้อย หากไม่นับเรื่องที่มันพยายามวิ่งไล่แมวจนลากเขาไปไกล กับการที่มันกระโจนเข้าใส่สุนัขเล็กๆ อีกตัวที่มีคนจูงเดินสวนมา และสุดท้ายคือการที่มันแย่งถุงลูกชิ้นที่เหลือไปจากมือของเขาในตอนที่เผลอได้สำเร็จ นอกจากนั้นแล้วก็พอนับได้ว่าเรียบร้อยดี
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มต้นขึ้นอย่างนั้น และนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็แวะมาพามันไปเดินเล่นตอนเย็นอยู่บ่อยๆ และคุณป้าก็เริ่มให้เงินเล็กๆ น้อยๆ หรือในบางครั้งก็ขนมเพื่อเป็นการตอบแทน
หมาดื้อ เขาว่า แต่มันก็ยังนั่งมองเขาด้วยดวงตาใสกระจ่างเช่นเดิม
'ทำไมฉันถึงไม่ได้เป็นคนที่เดินไปกับพริมนะ' เขาแอบเห็นเสมอว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น รวมถึงเย็นวันนี้ที่ทั้งสองเดินออกจากโรงเรียนไปด้วยกัน มันเริ่มชัดเจนขึ้นนับตั้งแต่วันนั้นที่สระว่ายน้ำ เขาเองก็พึ่งรู้ตัวว่าสายตาที่เธอมอง พอ เพื่อนรักของเขานั้นเป็นเช่นไร
เขาทอดถอนใจ
โฮ่ง มันส่งเสียงเหมือนกับพยายามจะให้กำลังใจ เขาเอื้อมมือออกไปลูบหัวมันแรงๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเล่นต่อไป
'ฉันควรทำแบบนั้นหรือเปล่านะ' เขาหมายถึงการกลั่นแกล้งเพื่อนที่ได้ทำลงไปทั้งหมด 'ใช่ ฉันทำถูกแล้ว' เขาพยายามย้ำกับตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าคำตอบที่แท้จริงนั้นคืออะไร
พวกเราทุกคนต่างรู้คำตอบอยู่แล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่มักมีปัญหากับการยอมรับมัน โดยเฉพาะการยอมรับว่าตนเองได้ทำอะไรโง่ๆ ลงไป
เขาเดินใจลอยต่อไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าที่ข้างกายกำลังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น
ใบหูของขนุนที่เคยตกแนบข้างหัวกำลังค่อยๆ ยกชูขึ้นทีละน้อย พร้อมกับมีประกายสีแดงจางๆ ราวกับจุดดวงไฟเล็กๆ จากที่ไกลแสนไกลค่อยๆ ลุกโชนขึ้นภายในดวงตาที่เคยอ่อนโยนของมันคู่นั้น
ในหูของมันพลันแว่วยินเสียงหอนโหยหวนดังออกมาจากในหุบเขาลึกแห่งความทรงจำของอดีตกาล
#####
เด็กชายเดินเคียงคู่ไปกับผู้ที่มาด้วยกัน ท่าทางเขาอึดอัดเหมือนอยากพูดอะไรหลายเรื่อง แต่ก็ไม่อาจพูดออกมาได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง เขาทอดสายตามองพื้นคอนกรีตที่อยู่เบื้องหน้า และมันเหมือนกับว่าปัญหาต่างๆ มากมายนั้นขีดเขียนเรียงรายต่อเนื่องอยู่ตามเส้นทาง
อาการเจ็บป่วยของคุณยาย
เรื่องการเรียนต่อในปีหน้า
ปัญหาระหว่างตัวเขากับอะตอม
ความรู้สึกประหลาดที่เขามีให้กับพริม
เรื่องของ นิทาน ความฝัน ร้านหนังสือพิลึก ผู้ชายแปลกๆ ที่ชื่อฟูล คำเตือน และหนังสือที่หายไปเล่มนั้น
แม้จะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่เขารู้สึกราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวพันกันบางอย่าง ยังมีเงื่อนปมสำคัญบางอย่างที่เขายังไม่รู้ มันเป็นเหมือนกับเนื้อเรื่องในนิทานไม่ธรรมดาที่เขายังเดาไม่ถูกว่ากำลังจะหักมุมอย่างไร
ฉันไปก่อนนะ เสียงของพริมดังขึ้นที่ข้างกาย
เวลาแห่งความสุขนั้นแม้ว่าเราจะรู้ตัวอยู่เสมอว่ามันต้องมีวันจบ แต่เราจะรู้สึกเคว้งคว้างทุกครั้งที่มันเป็นเช่นนั้น เราหลอกตัวเองโดยที่แม้แต่ตัวเราเองก็ยังไม่รู้ เรารู้ว่ามันต้องสิ้นสุด เรารู้ว่าเราหลอกตัวเองว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป และเราก็มีความสุขอยู่กับการโกหกนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง
ฟังดูเหมือนกับว่าความสุขนั้นจะซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด
ทางแยกหวนกลับมาอีกครั้ง เส้นทางหนึ่งในนั้นจะนำไปสู่บ้านของพริม ส่วนอีกทางหนึ่งคือเส้นทางกลับคืนสู่บ้านที่เขาคุ้นชินมาทั้งชีวิต
'ทางเดินที่ไม่จำเป็นต้องแอบทิ้งก้อนหินเล็กๆ หรือโปรยเศษขนมปังเอาไว้เพื่อใช้บอกทางเลย'
แค่เขาตอบเธอไปว่า 'ลาก่อน' หรือ 'แล้วพบกันใหม่' เขาก็จะได้กลับคืนสู่ชีวิตเดิมๆ เหมือนกับที่เคยเป็นมาตลอด ชีวิตเก่าๆ ที่แสนดึงดูดใจ
ให้ฉัน...ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านได้ไหม เขาตัดใจถามออกไป พร้อมกับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัวตึกตักดังราวกับกลองใหญ่อยู่ภายในอก
ก็ได้ ไปสิ พริมว่า
'แค่นี้เองหรือ' เขาเคยหลงกลัวอะไรต่างๆ ตั้งมากมาย 'ง่ายๆ แค่นี้เอง ก็แค่ถามออกไปเท่านั้น'
เอ้า จะไปหรือเปล่า เธอหันกลับมาถาม เมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่ได้เดินตามไป
เขายิ้ม ไปสิ แล้วเร่งก้าวติดตามเธอไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมๆ กันโดยไม่มีเหตุผล หรือจริงๆ แล้วความสุขนั้นจะเป็นสิ่งเรียบง่ายกว่าที่ใครเคยคาด
'...ช่วย...'
มันเป็นเสียงลมพัดเขาบอกกับตัวเองอย่างนั้นโดยไม่รู้ตัว เขาได้รู้จักกับบ้านของพริมในที่สุด บ้านหลังที่อยู่ในซอยสาม มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวใจพองโตจนแน่นหน้าอก
'...ด้วย...'
เสียงลมพัด เขาย้ำกับตัวเองอีกครั้งในใจ ในขณะที่ก้าวเดินไปตามเส้นทางกลับบ้าน ที่ถึงแม้จะมีร้านหนังสือฟูลเข้ามาแทรกอยู่ แต่มันก็ไม่ถึงกับเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก ถนนในหมู่บ้านยามเย็นที่ว่างเปล่า ถนนวังเวงไร้ผู้คน มีเพียงเสียงนกร้อง เสียงลมพัด กับเสียง
'...ช่วย...ด้วย...'
ที่คุ้นหูดังลอยมาในสายลม 'เสียงใครบางคนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ' ไม่ใช่ 'มันเป็นเพียงเสียงลมพัดต่างหาก' ความคิดทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน เขาหยุดเดินในที่สุด ตำแหน่งของเขาในตอนนี้อยู่ห่างจากร้านหนังสือฟูลเพียงไม่ไกล ถึงแม้เสียงร้องดังกล่าวจะไม่ได้ดังมาจากทิศทางนั้น แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะผูกโยงมันเข้ากับเรื่องแปลกๆ ทั้งหมด
เขาพลันรู้สึกมั่นใจขึ้นมาว่า ใครน่าจะเป็นเจ้าของเสียงร้องนั้น
'ช่วยด้วย' เขาเคยได้ยินมันที่สระว่ายน้ำ ตอนที่เขาถูกแกล้งดึงจนเกือบจมน้ำไปจริงๆ
'ช่วยด้วย' ครั้งนั้นเขาไม่ได้ยินมัน แต่ก็ถูกหลอกให้เข้าไปในห้องพยาบาลเพื่อพบกับเรื่องน่าอาย
'ช่วยด้วย' ที่พึ่งผ่านไป มันไม่ใช่เสียงร้อง แต่เป็นตัวอักษรที่ถูกเขียนเอาไว้บนกระดาษด้วยตัวหนา เพื่อให้เขาถูกขวดน้ำหล่นใส่หัวจนตัวเปียกปอน
'มันเป็นเสียงของอะตอมหรือเปล่านะ' เขาค่อนข้างแน่ใจ บางทีมันอาจจะเป็นแผนแกล้งกันครั้งใหม่ของเพื่อนก็เป็นได้ 'เมื่อไรเขาจะเลิกสักที'
เขาเดินต่อไป ทำเป็นไม่สนใจเสียงร้องดังกล่าว 'มันคงไม่เกี่ยวกับนิทาน ความฝัน หรือ ฟูล' และเขาก็เริ่มจะเชื่อไปตามนั้น 'มันก็เป็นแค่เพียงเรื่องหลอกแกล้งกันของอะตอมอีกครั้งเท่านั้น' เขายิ่งคิด ยิ่งมั่นใจ
ภาพของทุ่งหญ้าเวิ้งว้างในความฝัน กับภาพดวงตาของหมาป่าที่ชื่อลูฟปรากฎขึ้นมาในความคิด
'ไม่' ครั้งนี้มันไม่เกี่ยวกับความฝันพวกนั้น 'อะตอมแค่ต้องการจะแกล้งฉัน' เขามั่นใจ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ถ้าเขาไปตามเสียงร้องนั้นก็จะได้พบเจอกับเสียงหัวเราะของคนอื่น เขาจะถูกแกล้ง 'ฉันจะกลายเป็นตัวตลก' เหมือนกับครั้งที่ผ่านๆ มา มันไม่มีความจริงอะไรสักนิดในเสียงร้องขอความช่วยเหลือพวกนั้น
'นิทาน ทุ่งหญ้า หมาป่าลูฟ กับเสียงร้อง' มันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด
'...ช่วย...ด้วย...'
เขารีบเดินจนมาถึงหน้าประตูบ้านของตน รถของพ่อจอดอยู่เรียบร้อย แสดงว่าแม่ กับคุณยายต้องกลับมาจากโรงพยาบาล ไม่แน่ว่าพ่อเองก็อาจมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน
'ฉันอยากรู้เรื่องอาการป่วยของคุณยายมากกว่า' เขาย้ำกับตัวเองด้วยความสงบ พร้อมกับเอื้อมมือไปยังประตูรั้ว
Create Date : 27 มกราคม 2556
Last Update : 27 มกราคม 2556 16:48:44 น.
4 comments
Counter : 716 Pageviews.
Share
Tweet
T
ha
n
k yo
u
v
e
ry much
โดย: Kai (
nookookai8
) วันที่: 27 มกราคม 2556 เวลา:19:18:02 น.
ใครร้องให้ช่วยน๊า
น่าสงสัยๆๆ
โดย:
lovereason
วันที่: 27 มกราคม 2556 เวลา:22:27:42 น.
มาทักทาย คุณ Kai กับ คุณ Lovereason ที่แวะทักทายกัน
กับจะมาดักถาม คุณ อาณาจักรแห่งเรา ด้วย
ว่าเรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร
เนื่องจากแนวเรื่องที่ผมเขียน เปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก
และจะบอกว่า เรื่องนี้คงไม่ยาวอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกเสียแล้วครับ
โดย:
zoi
วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:9:24:47 น.
ก่อนตอบคำถาม
อยากบอกว่า ประเดี๋ยวตอนหน้า พอพอเปิดประตูบ้านปึ๊บ น้ำจากขวดน้ำจะหล่นทับพอ จากนั้น เสียงหัวเราะก็จะตามมา...ชิป้ะ
ตอบคำถาม
แนวเรื่องที่คุณเขียน เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่น ๆ จริง ๆ
อ่านแล้วชวนติดตามแต่ก็ชวนสับสนไม่น้อย คงเพราะคุณอาศัยลูกผสมระหว่างนิทานกับเรื่องจริง ผสมกันจนต้องตีความ แต่ก็ยังพอเข้าใจ แถมมีการปูและขมวดตัวละครไว้ตั้งหลายตัว จะคลายลำบากหรือเปล่า ที่สำคัญจะเขียนจบได้เร็วขนาดนั้นจริงหรือ
โดย:
อาณาจักรแห่งเรา
วันที่: 29 มกราคม 2556 เวลา:18:54:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
..........
Friends' blogs
GTW
Psycho man
run saya
อินทรายุธ
รุริกะ
กาแฟเย็นเพิ่มช็อต
Webmaster - BlogGang
[Add zoi's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.