ล้มเอง ลุกเอง
ล้มตรงใหน ลุกตรงนั้น
นั่นแหละ "คนเข้มแข็ง"

-- พุทธทาสภิกขุ --

เพื่อนฉันที่มีชื่อว่า "ความเหงา"


ความเหงาเป็นตัวขับเคลื่อนผลักดันให้คนเราทำอะไรๆ ได้ตั้งมากมาย
ดูหนัง ฟังเพลง หาเพื่อน หาแฟน สร้างครอบครัว ฯลฯ

ผู้คนมากมายกลัวความเหงา แล้วสาเหตุของความกลัวคืออะไรกัน?

หากสังเกตความกลัวให้เข้าใจแล้ว
จะพบว่ามูลเหตุของความกลัวส่วนใหญ่นั้นมาจากความรักตัวเอง
ธรรมชาติสร้างสัญชาตญาณแห่งความกลัวเพื่อให้สิ่งมีชีวิตหลีกหนีอันตรายเพื่อเอาตัวรอด
แต่ก็มีบางทีสัญชาตญาณแห่งความกลัวรุนแรงเกินไปจนทำร้ายชีวิตนั้นเอง
อย่างไก่ป่ามันกลัวมากที่สุดถ้าเราไปตะครุบจับมันมา
เอามาดูหน้าดูตาเท่านั้น เดี๋ยวตายแล้ว ตายเพราะความกลัว

คนเรากลัวผี เพราะกลัวผีมาทำร้ายตนเอง
เนื่องจากมีความเชื่อฝังลึกๆอยู่ในใจว่าผีต้องทำร้ายคน
สำหรับความเหงานั้นเป็นเพราะเรากลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว อยู่กับตัวเอง
เนื่องจากมีความเชื่อฝังลึกๆอยู่ในใจว่าจะขาดความสุข
เพราะที่ผ่านมาทั้งชีวิตนั้นเราเข้าใจว่าจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตอบสนองจากภายนอก
ตาได้มองภาพสวย หูได้ยินเสียงไพเราะ จมูกได้กลิ่นหอม ลิ้นได้รับรสอร่อย กายได้สัมผัสสิ่งปราถนา
ได้รับรู้ว่าตนเองครอบครองทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีอำนาจมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น
มีคนรักเรา มีคนนับถือยกย่องเชิดชูเรา

เมื่อเราเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่าความสุขมาจากสิ่งอื่นจากคนอื่น
ความรับรู้ของจิตเกือบทั้งชีวิตจึงไปอยู่แต่กับคนอื่นสิ่งอื่น
เมื่อใดที่ต้องอยู่คนเดียวเมื่อใดที่รู้สึกขาดรู้สึกพร่อง ความกลัวอันนั้นก็จะเข้ามาครอบงำจิต
เราเรียกมันว่าความเหงา และความเหงาก็จะผลักดันไม่ให้เราอยู่กับตัวเอง
มันทำให้เราพยายามหาอะไรต่อมิอะไรจากภายนอก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่กับตัวเอง
เพราะเราเชื่อว่าเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้หายเหงา


การแก้เหงาด้วยการหนีตนเองดังที่คนทั่วไปทำนั้น
สามารถแก้เหงาได้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่นานความเหงาก็จะกลับมาครอบงำอีกอยู่ร่ำไป
และเมื่อถึงเวลาที่รู้ว่าชีวิตของตนกำลังจะมอดดับลง ความกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวจะยิ่งรุนแรง
ความเหงาเคว้งคว้างเหมือนดังทารกถูกทิ้งไว้คนเดียวกลางป่ามืดจะยิ่งเสียดแทงใจ

วิธีแก้เหงา นอกจากด้วยวิธีการหนีตนเอง หนีความเหงา ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง
คือการเผชิญหน้ากับความเหงา ดูว่าถ้าเราดูมันรู้จักไปเฉยๆโดยไม่ทำอะไรอย่างอื่นเพื่อหนี
เจ้าความเหงามันจะอยู่นานสักแค่ใหน จะเกิดอะไรขึ้นกับเราทั้งทางกายทางใจในขณะที่เรากำลังเหงา
การเรียนรู้กายใจตนเองตามจริงเพื่อหลุดจากความเชื่อผิดๆที่ฝังแน่นอยู่ในใจ นี้ก็คือ วิปัสสนา

และหากเราเรียนรู้กายตลอดเวลา
ไม่ว่าตอนเหงา เศร้า ดีใจ เสียใจ พอใจ ไม่พอใจ เฉยๆ กิน ยืน เดิน นั่ง นอน ฯลฯ
แล้วค่อยๆสังเกตดูว่าสิ่งที่เราเรียกว่า “เรา” นั้นเป็นอย่างไร ความเป็นเราที่แท้จริงๆนั้นอยู่ที่ใหน
อยู่ที่ร่างกาย หรือว่าที่ความรู้สึก หรือว่าที่ความจำ หรือที่ความคิด หรือว่าอยู่ที่จิตใจ หรือว่าที่อื่นใด
ดูให้เห็นแจ่มแจ้งโดยสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตนเอง ความเข้าใจในชีวิตอย่างแท้จริงก็จะเกิดกับเราเอง

แนะนำหนังสือที่สอนเรื่อง การเรียนรู้กายใจตนเองตามจริง

วิถีแห่งความรู้แจ้ง โดย หลวงพ่อปราโมทย์
//wimutti.net/pramote/

แค่ดูก็รู้แจ้ง โดย อาจารย์ สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา
//kaedoo.blogspot.com/

วิปัสสนานุบาล โดย ดังตฤณ
//dungtrin.com/vipassana/

"แรงบันดาลใจในธรรม : Dhamma Inspiration" โดย พระอาจารย์ อำนาจ โอภาโส
//www.phasornkaew.org/PhraAmnart/PDF_index.htm

A No-Nonsense Guide to Meditation โดย Kenton Whitman
//kentonwhitman.com/blog/2006/11/27/a-no-nonsense-guide-to-meditation/


หมายเหตุ: มีเพื่อนมาขอให้เขียนเรื่อง "ถ้าพูดถึงความเหงา แล้วนึกถึงอะไร" เพื่อรวบรวมเอาไปทำวิจัย ตัวผมเองก็เป็นเพียงคนที่กำลังฝึกหัดตามรู้กายใจไปเรื่อยๆ ก็เลยเขียนให้ตามความรู้ที่เคยประสบและฟังมาจากครูบาอาจารย์หลายๆท่าน หากมีประโยชน์ต่อใครก็ยินดีด้วย แต่หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยขอรับ




 

Create Date : 08 ตุลาคม 2551
10 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 15:52:29 น.
Counter : 1085 Pageviews.

 

ผมก็นึกถึง "สันติภาพ" ครับ
แต่นกตัวนี้
มันโดนขยี้โดยใจคนอันบอดใบ้ไปเรียบร้อยแล้ว

เฮ้อ


 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 8 ตุลาคม 2551 16:42:43 น.  

 

ขอบคุณมากมายครับ
ที่ช่วยเผยแพร่หมื่นตาให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
ผมก็หวังใจว่าหมื่นตาจะทำประโยชน์ให้กับคนอ่านได้บ้าง
ไม่มากก็น้อย

 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 8 ตุลาคม 2551 16:44:14 น.  

 

เหงา.............(เป็นพัก ๆ )

 

โดย: Ta Pling 8 ตุลาคม 2551 20:45:36 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ

อิอิอิ

ช่วงนี้ผมขยันเป็นไฟเลยครับ
ทำหมื่นตารอไว้อีกหลายตอนเลยครับ









 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 9 ตุลาคม 2551 10:56:54 น.  

 

ช่วงนี้กำลังเหงา+หนาว
หุ้นตกระนาวเลย... T__T

 

โดย: ไนล์ IP: 58.9.57.58 11 ตุลาคม 2551 23:48:46 น.  

 

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ชอบอยุ่กันเป็นกลุ่มสิคับ

 

โดย: dinkun (กริชครับผม ) 15 ตุลาคม 2551 1:14:35 น.  

 

ผมขออนุญาตตอบตามความเข้าใจของผมนะครับ

.
.
.


สงสัยว่า ความสงสัยอันยิ่งใหญ่
เป็นหนทางแห่งความรู้แจ้งด้วยหรอครับ

.
.
.


ก่อนพระพุทธเจ้าจะตรัสรู้
ผมเชื่อว่าท่านต้องเกิด "คำถามยิ่งใหญ่" ที่สุดข้อหนึ่งแน่ๆ
คำถามนั้นคือคำถามที่ว่า

"อะไรเป็นที่สุดแห่งทุกข์"

และถ้าคนเราไม่มีความสงสัยอย่างยิ่งยงดขนาดนั้น
ผมเชื่อว่าเราจะไม่คิดหาคำตอบ-คำถามอะไรต่อ
เราอาจแค่เพียงใช้ชีวิตไปเรื่อยจนถึงวันตาย
แบบสุขก็สุข ทุกข์ก็ทุกข์
โดยไม่เคยสงสัยว่าทำไมเราถึงสุข
ทำไมเราถึงทุกข์

และจะอยู่เหนือสุขเหนือทุกข์ได้อย่างไร


"ความสงสัยอันยิ่งใหญ่" ก็คงอยู่ในแนวทางนั้น

เมื่อไม่สงสัย
ก็ไม่คิดแสวงหาคำตอบ
เมือ่ไม่แสวงหาคำตอบ
ก็ไม่เกิดการรู้แจ้ง
เมื่อไม่รู้แจ้ง
ก็วนเวียนอยู่กับการเกิด-ตายต่อไป


 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 17 ตุลาคม 2551 15:01:48 น.  

 

เหมือนกันครับ
ผมเอง...
ก็ดูแล "ฝุ่น" อยู่ครับ
พยายามจะไม่ให้เกาะกุมที่จิตใจของตัวเองครับ

 

โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 20 ตุลาคม 2551 14:35:31 น.  

 

อะโหย...นี่ผมมายึดบล้อก
ยึดเม้นท์คุณเลยนะครับเนี่ย อิอิอิ





 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 3 พฤศจิกายน 2551 20:31:36 น.  

 

ใช่หมื่นตาใน forward mail รึเปล่าคะ
เคยได้รับในเรื่องที่เกี่ยวกับ การคิดเป็นการเอามีดแทงตัวเองค่ะ
ชอบมากค่ะ
หากมีเพิ่มเติม สามารถตามได้จากที่ไหนคะ
ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: ฟ้าใส IP: 125.24.128.201 17 ตุลาคม 2552 2:33:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zmen
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zmen's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.