BlogGang.com : : เด็กคน : ศึกษา...ซะ

ศึกษา...ซะ

ระบบการศึกษาที่ เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด คือประถม เรียนรวม ชาย-ญ มัธยม เรียนประจำ แยกโรงเรียนชาย-ญ อย่างเด็ดขาด ยกเลิก อาชีวะ แต่เอา "วิชาชีพ" ไปใส่ในการเรียนของมัธยม โดยไม่ต้องแบ่งห้องเกษตร ห้องอุตสาหกรรม แต่เป็นวิชาหนึ่ง แต่ต้องไปเรียนข้างนอก เรียนกับเจ้าของกิจการตัวจริง โดยเอา experience มาสอน

ส่วนวิชาการช่าง ให้เอาไปอินพุทกับโรงเรียนข

องทหาร แต่ไม่ใช่ทหาร กล่าวคือ ทหารและเมือง หรือ city โดยประชาชน ในเมืองนั้นๆ หุ้นกันเปิดโรงเรียนวิชาชีพเฉพาะที่ทหารดูแล คือ ใครที่ไม่อยากเรียนต่อปริญยา ก็ให้เข้าไปเรียนที่นี่แทน จะเรียนสั้น ไม่ควรเก...ิน 2 ปี แล้วก็เริ่มทำงานทันที

งานที่ทำ คือ งานที่ โรงเรียน ทหาร และประชาชน เปิดโปรเจกต์ ขึ้นมา แล้วก็ให้เด็กๆ เหล่านี้ลงมือทำจริงๆ

วิะีนี้ คนในชุมชนจะรู้ดีที่สุดว่าเมืองของตนต้องการอะไร และเด็กๆ จะรุ้ดีที่สุดว่าเขาอยากทำแะไรให้กับเมือง

เด็กวัยนี้มันแรง มันเสี้ยน ต้องให้มันทำ แต่ทำบนกฎระเบียบ

สิ่งหนึ่งที่ต้องเพิ่มเข้าไป เพื่อแก้ไข 6 ข้อที่เราขาดไปก็คือให้เด็ก มัธยม เป็น "ครู" เสียเอง เพื่อเรียนรู้ และสำรวจจิตสาะารณะของตนเองกล่าวคือ

ให้ กำหนดวิชาหนึ่งของมัธยมปลาย ให้เขาไปสอนเด็กๆ ประถม หรือมัธยมต้น วิชาใดก็ได้ เลือกเอา เพื่อให้เด็ก...ม.ปลายคิดเอาเองว่าเขาจะทำอย่างไร

เพราะสิ่งแรกที่เขาจะเจอก็คือ เด็กมันจะต่อต้านโดยอัตโนมัติ เพราะงั้น สิ่งที่เด็ก ม.ปลายเตรียมมา จะไม่มีทางใช้ได้ ดังนั้น

เด็ก ม.ปลาย ซึ่งเป็นครู จะต้อง Create Tools ขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติ และนั่นหมายถึง การทำงานเป็นทีมครั้งแรกในชีวิตของเขา

เด็กจะรุ้จักการแก้ปัญหา ด้วยตัวเขาเอง

สำคัญที่สุด เขาจะรุ้จักตัวเองดีที่สุดว่า เขาชอบมั้ย

ต่อให้เด็กกลุ่มนั้น มันเรื้อนแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ในวัยนี้ เด็กจะต้องการ "การเอาชนะ" และด้วยความเสี้ยน เด็กม.ปลายจะซัดไม่เลี้ยงเลย

โรงเรียนที่เด็กม.ปลาย จะไปสอน ต้องเป็นโรงเรียนในจังหวัดเดียวกัน แต่ต่างอำเภอ

และต้องไปอยู่ทั้งเทอม ไปอยู่ด้วยกัน

ระดับอุดมศึกษาเป็นประจำเช่นกัน แยก หอพักชาย-ญ แต่เรียนรวม เพื่อ "ชะลอความเสี้ยนเรื่องเพศ" เอาไว้ก่อน เอากะบาลก่อน

กำหนด ให้เด็กมหาลัย ต้อง ไปสอนรุ่นน้องด้วยเช่นกัน ถือเป็นบทเรียน และต้องไปต่างจังหวัด เท่านั้น และวิชาที่ไปสอนนั้นจะต้อง มีผลงาน...ที่สามารถออกมาเป็นรูปธรรมและสามารถพัมนาในระดับประเทศได้

คราว นี้ ให้จังหวัด ให้เมือง ออก requirement ไปตามมหาลัยทั่วประเทศ ให้ครูเป็น Executive Producer ให้เด็กเลือกว่าจะไปไหน จะไปสอนที่ไหน ครุจะดูแลไปตลอด เป็นคนกำหนดแนวทางปฏิบัติ แต่ Tools ทุกอย่างเด็กเหล่านั้นจะต้องคิดเอง

นี่แหล่ะ ประเทLจะได้ครูที่มีคุณภาพ จะได้ครูที่เข้าใจ และจะได้คนทำงานที่สามารถถ่ายโอน สอนรุ่นน้องได้ต่อไป

สุดท้าย กำหนดอายุการทำงาน ไม่ให้ใครทำงานนานเกินไปแล้วก็บังคับให้ออกจากงาน เพื่อมาเป็นครู

เห็นชอบที่อายุ 55 ปี หรืออายุงาน 15 ปี ขึ้นไป ต้องออกมาเป็นครู มีรายได้จากการเป็นครู

...วิธีที่กล่าวมานี้ คือวิธีที่ใกล้ชิดที่สุด และจะทำให้ เด็กไม่ต้องเรียนกวดวิชา และที่สำคัญที่สุด จะทำให้เด็กรู้จักลงมือทำ

Create Date : 30 สิงหาคม 2553

Last Update : 30 สิงหาคม 2553 15:11:08 น.

3 comments

Counter : 2735 Pageviews.

สวัสดีค่ะ

เป็นแนวคิดที่ดีค่ะ

โดย: LoveTurJang

วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:15:59:00 น.

ไม่น่าจะได้ผลอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั่วโลกพิสูจน์แล้วว่า โรงเรียนชายหญิงล้วน มักสร้างเด็กที่จะโตมามีความล้มเหลวในชีวิตครอบครัวมากกว่าโรงเรียนสหะ

และการเรียนรวมมิใช่จุดเริ่มต้นของปัญหาพฤติกรรมทางเพศของเด็ก แต่การขาดวุฒิภาวะในการสั่งสอนเรื่องทางเพศของผู้ใหญ่ในวันนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา

เรียนกับทหารหรอครับ แน่ใจหรอ การสอนคนมิใช่เรื่องที่ควรฝากไว้กับคนที่ถูกสอนมาให้รบ แต่ควรจะอยู่กับคนที่ถูกฝึกมาเพื่อการสั่งสอนนะครับ เหตุนี้เอง โรงเรียนตำรวจ โรงเรียนทหาร จึงสร้างตำรวจและทหารที่ทำตัวเช่นทุกวันนี้ออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง และกลายเป็นองค์กรอิทธิพลที่แตะไม่ได้เลย

โดย: nainokkamin

วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:18:50:34 น.

เป็นแนวคิดหนึ่งของผมเท่านั้นครับ

การแยกเพศ เพื่อ เป้าหมายเดียว คือ การผ่อนราคะลง

และแยกพฤติกรรมของชายหญิง เพื่อนำมากำหนดบทเรียน ผ่านการสร้างวิชาที่ต้อง Take Action ด้วยตัวของเขาเอง

เรียนทหาร ไม่ครับ

แต่เป้าหมายมีเพียง ระเบียบ วินัย และการสำรวมความคิด

โดย: เด็กคน

วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:22:50:45 น.