ร่างต้นแห่งความฝัน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

หลังจาก เช้าวันพรุ่งนี้ "ความหวัง" จะยังมีอยู่หรือไม่ ?

สวัสดีครับ

ช่วงนี้การบินเงียบๆ นะครับ มีแต่เกมส์การต่อสู้เพื่อความหวังของคนบินในหลายๆ ที่ ทั้ง ลูกเรือของ British Airways ที่ประกาศจะลงคะแนนเสียงอีกครั้งเพื่อนัดหยุดงานในช่วงเดือนมีนาคม

ซึ่ง หากเกิดการหยุดงานจริงๆ อาจตัดสิน อนาคตของ BA และกลุ่ม One World ได้เลย

ในอเมริกา ไม่ต้องพูดถึง การต่อสู้ของคนบิน ยิ่งโหมกระหน่ำแทบจะทุกสายการบิน ในขณะเดียวกัน Hudson Hero ก็ยิ่งทำให้คนบินในอเมริกา เริ่ม พิจารณาแล้วว่า "Goo มีอะไรอย่างเขาบ้างมั้ยเนี่ย"

และที่สำคัญที่สุดคือ มาตรการของลูกพี่ มหาเทพประธานาธิบดี ที่เพิ่งออกกฎเหล็ก กระทืบ สถาบันการเงิน จนตอนนี้ กลุ่มการเงินทั่วโลก โกรธแค้นเป็นอย่างมาก และแน่นอน ยิ่งทำให้ลูกพี่ผมมีคะแนนความนิยมตกลงไป.......

ผมขำกลิ้งเลย......ดีซิครับ ยิ่งตกมากเท่าไหร่ ยิ่งมี pressure มากเท่าไหร่....
ยิ่งเกิดการต่อสู้จากกลุ่มทุน และคนการเงินมากเท่าไหร่ ยิ่งคนอเมริกันโกรธแค้น เบอร์นันเก้, ไกต์เนอร์ มากเท่าไหร่ ยิ่ง ป้า โดนด่า มากเท่าไหร่

การเปลี่ยนแปลง ย่อมจะเกิดขึ้นเร็วตามไปด้วย เพราะ ลูกพี่ผม ย่อมจะมีความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ที่จะประกาศปฏิรูปประเทศ ยึดอำนาจทั้งหมดของประเทศมาไว้กับตัวเอง ตามหลักการของ Presidency และนั่นหมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์ของอเมริกา และลูกพี่ผม ก็จะเป็นอย่างที่เขาประกาศไว้ว่า

เขาจะเป็น ปธน. แค่สมัยเดียว แต่มันอาจจะไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานของการดำรงตำแหน่งสมัยละ 4 ปี!!!

พรุ่งนี้เช้า ตามเวลาประเทศไทย ลูกพี่ผมจะแถลง State of The Union หรือก็คือ การกล่าวสุนทรพจน์ หลังจากบริหารประเทศครบ 12 เดือน เป็นครั้งแรก และมันจะไม่ใช่แค่การกล่าวอะไรธรรมดาๆ แต่มันมากกว่านั้น

ไม่ว่าลูกพี่ผมจะกล่าวอะไรออกมา แต่หลังจากนั้น ระบบการเงินของทุกประเทศทั่วโลก จะเข้าสู่กระบวนการล้มละลายอย่างถาวร แล้วจะเร็วมาก ถึงมากที่สุด

เพราะลูกพี่ผมบอกแล้วว่า เขาจะลดและหยุดการใช้จ่ายภายในประเทศลงในช่วง 3 ปี นั่นหมายถึง

"ภาวะการส่งออกของทั้งโลก จะพินาศสันตะโร ค่าเงินดอลลาร์ จะเป็นอย่างไรต่อไป"

และแน่นอนว่า การท่องเที่ยวของทุกประเทศจะบอบช้ำหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่มีเงินหมุนอีกต่อไป

คุณจะได้เห็น เชนโรงแรม ทั้งหลาย จะเริ่มหนีตายกลับบ้าน และบ้านที่ว่าก็คือ ประเทศตัวเอง

แอร์บัส เปลี่ยนเจ้าหนี้ ที่จะเป็น Lender ให้เรื่องการซื้อ - ขาย เครื่องบินมาอยู่ที่จีนเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานนี้ กับ China Development Bank แสดงว่า แอร์บัส แย่ถึงขีดสุดแล้ว และนั่นหมายถึงการส่งสัญญาณ การแยกตัวออกมาจาก EADS และ ฝรั่งเศส

และนั่นหมายถึง ในอนาคต จีนย่อมมีสิทธิ เรียกสิทธิการผลิตเครื่องบิน รุ่นใดรุ่นหนึ่ง หรือ เอา backlog ของบางรุ่นที่มีการสั่งซื้อ ย้ายมาผลิตอยู่ที่จีนก็ได้

อย่างที่ผมเคยนำเรียนบ่อยๆ คือ PAX ของโลก ทั้ง 3 จะกลับคืนมาทวงของทุกอย่างคืน โดยจะมี ไทย อินเดีย และจีน เป็น ตัวแปรที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ ทั้ง 3 PAX ไม่แก่งแย่งกัน

ตอนนี้ต้องคิดถึง "เพื่อนแท้แค่ทั้งชีวิต" ของไทยเท่านั้นครับ

...โปรตุเกส อิหร่าน สแกนฯ... นี่คือทางออกที่ปลอดภัยที่สุด


คำไทยบางคำที่เราใช้มาจากภาษาเปอร์เชีย เช่น
กุหลาบ มาจาก Gul Gol แปลว่า ดอกไม้สีแดง
ภาษี มาจาก บักซี......องุ่น มาจาก อังงุล นอกจากนั้น ยังมีคำอื่นอีก เช่น

เกด คาราวาน ชุกชี ตาด เยียรบับ ตรา ตราชู ฝรั่ง ราชาวดี ศาลา สนม สักหลาด สุหร่าย องุ่น

คำไทยบางคำ เรายืมมาจาก โปรตุเกส เช่น
กระดาษ มาจาก "กราดัส" มีคำอื่นๆ อีก เช่น

กะละแม กะละมัง ขนมปัง ปั้นเหน่ง หลา เหรียญ บาทหลวง เลหลัง สบู่

คนไทยเชื้อสายโปรตุเกส ที่สำคัญที่พวกคุณรู้จัก เช่น
คุณสุประวัติ ปัทมสูตร , คุณประภัสสร เสวิกุล
คุณแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ หรือ เรมอนด์ ซีเกร่า (Reimondo Amato de Sequeira) ศิลปินแห่งชาติ

ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ก็มาจากโปรตุเกส เป็นขนมพื้นเมืองของ เมือง Aveiro ที่โปรตุเกส

ใช่ครับ ผมมองโลกในแง่ร้าย ร้ายจริงๆ
เพราะผมพอจะทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น กับ อเมริกา
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ หลายๆ ประเทศ
ต้องพยายาม active ตัวเอง เพื่อตนเอง
หลายๆ กลุ่มประเทศ พยายามผลักดันอาเซียนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
ก็เพราะ อินเดีย กับจีน

จีนกับอินเดีย เขาพยายามรวมตลาดกันมาตลอด ตอนนี้ก็ยังทำอยู่

แต่ทั่วโลกไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ "อาหาร" เทครัวไปอยู่กับเขาหมด
เพราะเขาพยายามเร่งให้คนในประเทศเขามีกำลังซื้อ

แต่ อาหาร ที่ทุกประเทศผลิตได้ ในแต่ละปี ไม่สามารถซัพพอร์ต 3 พันล้าน
ของสองประเทศนี้ได้ สุดท้ายเขาก็จะ "ยักของ" หรือแฮพของไว้ก่อน แล้วกระหน่ำซื้อ
"อาหาร" จะแพง จน ฆ่ากันตายเพื่อแย่งอาหาร
ดูเหตุการณ์ที่ เฮติ ซิครับ สมเพชมั้ยฮะ นั่นแหล่ะ ให้เกิดขึ้นไม่ได้
ไม่มีประเทศไหนยอมหรอกครับ เขาก็เลยต้องให้ไทยช่วย
ก็เพราะ ไทยคือแหล่งต้นทางอาหารที่สำคัญที่สุดของโลก

ถ้าไทยไม่ให้ สองประเทศนี้จะเงียบ เพราะ "ความเกรงใจที่มีต่อ...."

นี่คือเหตุผล
เห็นเรื่องของสภาพอากาศที่แปรปรวนมั้ยครับ นั่นคือหนึ่งในสาเหตุหลัก

และก้ด้วยเรื่องพวกนี้ อเมริกา เลยต้องเปลี่ยนแนวประเทศตัวเอง
ชูเกษตรกรรม พังระบบทุนสร้างประเทศใหม่ เพื่อนยังต้องการอยู่ แต่จะไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่

เอาที่ดินทุกผืนที่แบงก์ยึด เอามาปรับให้รองรับเกษตรกรรมให้มากที่สุด
วิธีเดียวก้คือ พังระบบการเงิน แล้วก็ยึดทุกสิ่งทุกอย่าง

เพราะไม่รู้ว่า จีน กับอินเดีย จะทนไปได้ซักแค่ไหน

ทวีปเดียวที่จะตายคือ ยุโรป เพราะเขาไม่มีอะไรที่กินได้เลย เขาซื้ออย่างเดียว
ตอนนี้คุณก็เลยจะได้เห็นยุโรป เอาใจ อาเซียน
เอาใจแอฟริกา เอาใจอินเดีย สุดๆ โดยอาศัยฐานของการล่าอาณานิคมเมื่อก่อน
ฝรั่งเศส ไปลาว เวียดนาม กัมพูชา
อังกฤษ ไปแอฟริกา อินเดีย ศรีลังกา มาเลย์

เพราะไม่มีใครรู้ว่า อินเดีย กับจีนจะทนได้แค่ไหน

ดังนั้น ไทยต้องไปหาเพื่อนแท้ของไทย เพียงอย่างเดียว

ปล. หากมีการแยกประเทศในอเมริกา ประเทศแรกที่จะแยกออกมา คือ ฮาวาย
เพราะเขาพยายามกลับไปเป็นประเทศมานานมาก โดยมีแรงผลักจากคนฮาวาย
เชื้อสายญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนหมู่มากใน ฮาวาย เพราะพวกเขาอยากกลับมาอยู่กับเอเซีย

พวกเขาถึงขนาดจะรื้อฟื้นระบบกษัตริย์ด้วยซ้ำนะครับ

เพราะงั้น ผมถึงเคยเขียนไว้ว่า ถ้าจะไปอเมริกา ให้ไปแค่ฮาวาย
คุณจะได้ทั้งญี่ปุ่น กับ อเมริกา......

ดังนั้น หากว่า ทุนนิยม ยังอยู่ ในขณะที่อาหารแพงขึ้นๆๆ
สิ่งที่ตามมาก็คือ ประเทศต้นทางอาหารก็จะโดนนายทุนบดขยี้ให้เพิ่มการผลิตเพื่อส่งออก
มากขึ้นๆๆ จนสุดท้าย คนในประเทศนั้นๆ อาจจะไม่มีอาหารกิน
คนก็ต้องกู้หนี้ ยิมสินเพิ่มขึ้นเพื่อมาซื้อ...."เศษอาหาร" ในการประทังชีวิต
สุดท้ายคนก็จะเป็นหนี้ไปตลอดชีวิต ทำงานตรากตรำ เยี่ยงทาส เพื่อหาเงินมาใช้หนี้

ในอีกทาง ไอ้พวกเดรัจฉานในตลาดหุ้น มันก็จะปั่นราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า
เพื่อกอบโกยผลกำไรไปเรื่อยๆ เพราะมันคือ รวยๆๆๆๆๆๆ พวกนี้มันคิดอยู่แค่นี้แหล่ะครับ

เขาปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้

แนวทางของพี่เข้มในเรื่องการจำกัดการลงทุน ก็เพื่อสิ่งนี้แหล่ะ มันคือการบล็อกไม่ให้
เอากองทุนซึ่งพวกคุณน่าจะเคยได้ยิน นั่นคือ RMF LMF หรือกองทุนบ้าบออะไร
ไปหากำรี้กำไรที่ไหนได้อีก เพราะคนหาเงินลำบาก แต่พวกนี้กลับรีดนาทาเร้น
ทำนาบนหลังคนนั่งในห้องแอร์ แล้วก็เอาเงินของคนอื่น ไปหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

เท่าที่ผมทราบ กลุ่มคนพวกนี้จะต้องไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต
และจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ต้องตาย หากเกิดภาวะการแย่งชิงอาหารเกิดขึ้นจนกลายเป็นจลาจล
จนนำไปสู่ภาวะสงคราม และถ้าเกิดจริง อินเดียกับจีน ยุโรป และอเมริกาใส่กันเละเทะ

แล้วบนโลกนี้ มี "พ่อบ้าน" อยู่เพียงแค่ "คนเดียว" ที่ไม่เคยอยู่ห่างไกลการปกปักรักษา "อาหาร"
แต่ลูกบ้านดันเนรคุณ ไปหา ไอโฟน แบล็กเบอร์รี่ พราด้า มากินแทน "อาหาร"





 

Create Date : 27 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 27 มกราคม 2553 22:50:19 น.
Counter : 740 Pageviews.

 

 

โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ 27 มกราคม 2553 23:20:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เด็กคน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add เด็กคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.