Bloggang.com : ECie : Toyota กับโจทย์ข้อใหม่ และใหญ่ ในอเมริกา

Toyota กับโจทย์ข้อใหม่ และใหญ่ ในอเมริกา

อย่างที่รู้ ๆ กันว่า Toyota กำลังจะเป็นอันดับ 1 ของโลกแทน GM ในปีนี้ (แม้ว่า GM กำลังฮึดสู้อยู่ทุกวิถีทาง)

สถานการณ์ของ Toyota เป็นต่อ และเหนือกว่าคู่แข่งในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Big 3 อย่าง GM - Ford - Daimler Chrysler แต่อาจจะประสบปัญหาการต่อต้าน และชะงักงันในระยะนี้ จากรายงานของ Thomasnet 28/2/07 และ Freep.com 13/2/07

จั่วหัวไว้ก่อนเลย กับคำสัมภาษณ์ของ Seiichi Sudo President ของ Toyota ที่อเมริกาเหนือว่า "คู่แข่งกำลังอิจฉาเรา"

ดูเหมือนว่า ภาพลักษณ์ที่ Toyota กำลังแสดงอยู่ คือ การพยายามกลืน Detroit ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะเป็นแบบในนิยายเรื่อง Rising Sun ว่า จะเกิดจักรวรรดิทางเศรษฐกิจ นั่นคือ ญี่ปุ่น จะครองโลก ด้วยเศรษฐกิจ

เรื่องมันเริ่มมาจากการเปิดโรงงานที่ Kentucky ในราวปี 1986 ซึ่งจ้างเอาพนักงานที่เพิ่งโดนให้ออกจาก GM ราว ๆ 3000 คน จากนั้นก็เริ่มเกทับบลัฟแหลก ด้วยการทำตัวเป็นพ่อพระ พัฒนาสังคม ช่วยเหลือบริษัทอื่น ๆ ด้วยการสอนระบบการผลิตให้ ฯลฯ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ในขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้สึกว่า Toyota คือสัญลักษณ์ของรถคุณภาพดี ในเวลาเดียวกัน Toyota ไม่ต้องประสบกับปัญหาค่าใช้จ่ายเรื่องบำนาญ และ Healthcare เหมือนอย่าง Big 3 ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่ามากมาย จนไม่อาจสู้ได้ ในเวลานี้ดูเหมือนค่ายที่พอจะสู้ได้คงมีเพียง Honda เท่านั้น
ด้วยการผสมผสานระหว่าง การตลาด การสร้างความสัมพันธ์กับสังคม การลอบบี้ การประชาสัมพันธ์ Toyota กำลังสร้างภาพความเป็นอเมริกันให้กับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุ่มงบประมาณ 300 ล้านดอลล่าร์ กับการเป็นสปอนเซอร์งานต่าง ๆ แลกกับการประชาสัมพันธ์ Toyota Tundra ในภาพลักษณ์ "All new, Built in America"

ด้วยความสำเร็จในการชิงส่วนแบ่งการตลาดในอเมริกา จะนำมาซึ่งความเสี่ยงให้กับ Toyota โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Big 3 กำลังเพลี่ยงพล้ำ และ GM กำลังจะโดน Toyota โค่นบัลลังก์อันดับ 1 ได้ในปีนี้

ที่แย่คือ ภาคการผลิตของ Toyota นั้น ใช้ชิ้นส่วนโดยส่วนใหญ่ จากผู้ผลิตต่างชาติ (ที่ไม่ใช่อเมริกา)

ในรายงานของ Free Press มีบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจ อาทิเช่น Toyota กำลังมีปัญหากับอัตราค่าแรง และ การรักษาคุณภาพ หรือกระทั่งเรื่อง Toyota อาจซวยในฐานะแพะรับบาป ด้วยว่ายังคงอยากได้อะไร ๆ เหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนจาก Big 3 มาเป็น Toyota

โดยความเห็นของ จขบ. เองแล้ว ตีความว่า สิ่งที่ Toyota กำลังลำบากใจก็คือ ตอนนี้ ภาพลักษณ์ของ Toyota กำลังจะแย่ ด้วยการถูกสร้างภาพว่า เป็นญี่ปุ่นที่กำลังเอาชนะอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดยานยนต์ ที่อเมริกา ครองโลกมาเกือบ 70 ปี ซึ่งความจริงก็คือ ไม่เพียงแค่ Toyota เติบโตด้วยตัวเอง แต่ Big 3 เองก็กำลังย่ำแย่ด้วย ทั้ง ๆ ที่หลักปรัชญาพื้นฐานของ Toyota นั้นคือ การเอาชนะคู่แข่ง ไม่ใช่ การต้อนคู่แข่ง
มีข่าวลือมาว่า ในส่วนคู่แข่งของ Toyota เองก็แอบสร้างข่าวลือทำนองนี้ ให้ร้าย Toyota อยู่เหมือนกัน
ช่วยไม่ได้ที่ แม้แต่นโยบายการหา supplier ของ Toyota เอง ซึ่งรักษาเครือข่าย Kiretsu ค่อนข้างเหนียวแน่น เรื่องการทำ IMV ทำให้เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ Toyota ใช้ชิ้นส่วนจากบริษัทที่ไม่ใช่อเมริกาซะเยอะ
อีกปัญหาก็คือ การเข้าสู่ตลาดรถกระบะของ Toyota ที่อเมริกา อาจทำให้ภาพลักษณ์ของรถประหยัดน้ำมันของ Toyota หายไป

บ้างก็กล่าวหาว่า การที่ Toyota ได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่าง Big 3 ก็เพราะว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนกว่า ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ความจริงอีกอย่างที่ซ่อนไว้ และไม่ค่อยเผยแพร่กันก็คือ จำนวนรถที่ส่งออกไปยังอเมริกาโดย Toyota กับที่ Toyota ผลิตเองในอเมริกานั้น พอ ๆ กัน

อีกทั้งปัญหา Recall หลาย ๆ ครั้ง อาจทำให้ภาพลักษณ์ของ Toyota เรื่องคุณภาพเสียไปเช่นกัน

ด้วยปัญหาเหล่านี้ สิ่งแรกที่ Toyota ต้องทำ คงจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันทั้งหลาย จขบ. ว่ายากนะ เพราะว่า Big 3 เอง ให้อะไรดี ๆ กับอเมริกันชนซะเยอะ (เกินไป) หลาย ๆ คนเชื่อว่า ความเป็นอยู่ของตัวเองดีได้ เพราะสวัสดิการที่ดีจาก Big 3 แม้จะเกษียณไปแล้วก็ได้เงินเลี้ยงดูอยู่ เป็นสงครามครั้งใหญ่เหมือนกัน ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องรักษาแนวรบอื่น ๆ เช่น ชื่อเสียงด้านคุณภาพไว้ด้วย เพราะเรื่องคุณภาพนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Toyota ประสบความสำเร็จในอเมริกา

สิ่งที่ยากอยู่อีกอย่างคือ ตอนนี้แนวรบใหม่ อย่าง รถค่ายเกาหลี หรือ จีนเองก็กำลังบุกตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นแนวรบที่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะ ฮุนได เอง นำโดย John Crafcick ที่เคยทำงานร่วมกับ ผู้วิจัยระบบ Toyota Production System มาอย่างละเอียด ในผลงาน The machine that change the world และ เป็นผู้นิยามคำว่า Lean Manufacturing ให้กับระบบการผลิตของ Toyota ดังนั้นหลักปรัชญาใด ๆ ที่ Toyota ใช้ ก็เป็นไปได้ที่ฮุนไดจะนำไปใช้ด้วย ถึงขั้นว่ากันว่า ฮุนได คือ Toyota คนต่อไป อีกทั้งค่ายรถจากเมืองจีนซึ่งกำลังผงาด ด้วยราคาที่ถูกกว่าด้วย การถูกตีกระหนาบแบบนี้ อาจทำให้การเป็นอันดับ 1 นั้น ยากกว่าที่คิด

หนักไปหน่อยมั้ยครับกับบทความนี้ แต่ จขบ. เองก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่า ใครจะโค่นเค้าได้ล่ะเนี่ย (แอบเชียร์ นิสสัน เรย์โนลต์อยู่ครับ)

Create Date : 24 มีนาคม 2550

Last Update : 25 มีนาคม 2550 10:00:48 น.

5 comments

Counter : 800 Pageviews.

อ่านด้วยความเข้าใจและนิยม จขบ ที่นำบทความดีดีมาให้รู้ผมเป็นเพียงคนไทยคนหนึ่งที่ต้องใช้รถส่วนต้ว (ไม่เคยมีToyotaในชีวิต) ไม่ใช่ผมไม่ชอบโตโยต้า แต่เพราะพอได้เวลาซื้อรถ ก็มักจะมียี่ห้ออื่นแทรกมาให้จำต้องตัดใจซื้อมัน เปลี่ยนรถมา 5คัน = 1. Ford 2. Mazda 3. Mitsu 4. Ford และ 5. nissan
ความเห็นผม การที่ Toyota จะไม่ได้เป็นเบอร์ 1 ในอเมริกาเหนือ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขามากว่า การเป็นเบอร์หนึ่งนั้นเป็นยาก แต่ที่ยากกว่าคือการ"ต้อง"รักษาตำเหน่งให้นาน

โดย: Yoawarat

วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:23:00:19 น.

เห็นด้วยกับ คห.1 นะคะ
จะว่าไปเรื่องการแข่งขันของแต่ละยี่ห้อก็ทำให้ผู้บริโภคได้สินค้าที่มีคุณภาพและสมรรถนะมากขึ้นเรื่อยๆ ดีค่ะ คงต้องคอยดูกันต่อไปว่าที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร

เป็นบทความที่น่าสนใจและมีประโยชน์ดีค่ะ

โดย: ปตารมินทร์ IP: 203.188.56.82 วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:11:36:05 น.

เป็นบล๊อกที่ให้ความรู้เรื่องรถมากๆ เลยค๊าบ

ถ้ามีเงินซื้ออีกคัน คงต้องเข้ามาศึกษาข้อมูลที่นิ่ซะแย้ววค๊าบบบบ แหะ แหะ

โดย: โชแปงค๊าบ (nutuang

) วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:15:00:40 น.

บัดดี้มาสวัสดีคร๊าบ มาส่งสายตาอ้อนๆ ครับ

โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ

วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:2:10:33 น.

แหล่งข่าวที่คุณให้มา ผมเข้าอ่านเป็นประจำทุกวัน เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษคนไทยไม่นิยมอ่านหรืออาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง ส่วนใหญ่คนไทยชอบเข้าไปอ่านในเว๊ปชื่อดังแห่งหนึ่ง ชื่อผู้จัดการทั่วไปอะไรนี่แหละ แต่ที่นั้นให้ข่าวไม่ครบ ให้ข่าวด้านเดียว แล้วไม่บอกสาเหตุว่ามีที่มาอย่างไร ทำให้ภาพลักษณ์ยี่ห้อเขาเสียหมด
รายได้ของคนทั่วโลกเกือบทั้งหมดมาจากอเมริกา แม้แต่ไทยเรา เกษตรกร ลูกจ้างบริษัทญี่ปุ่นก็ขายของให้อเมริกา การเป็นตลาดเสรี จึงทำให้โตโยต้าซึ่งได้เปรียบในเรื่องต้นทุนที่ต่ำกว่าเข้าไปตีได้ โตโยต้าทำรถซีดานขายในเอเซียอย่างเป็นล่ำเป็นสัน พอไปอเมริกาจึงตีตลาดที่ตัวเองถนัดนั้นคือ รถเก๋ง โดยมีฟอร์ด ทอรัสเป็นเจ้าตลาดอยู่ ว่ากันว่าโตโยต้าซื้อทอรัสมาแล้วมาถอดแล้วบอกกับทางวิศวกรว่า ทำให้ดีกว่านี้ จึงเกิดแคมรี่ ที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คามูริ แปลว่ามงกุฎ
น่าเห็นใจ ทั้งสามที่มีต้นทุนสูง และน่าเห็นใจโตโยต้าเหมือนกัน หากอเมริกันเกิดหึดชาตินิยมขึ้นมา เพราะมีหลายคนบอกเหมือนกันว่า ฟอร์ด และบิ๊กทรีสร้างชาตินี้มานะ อเมริกาเป็นมหาอำนาจได้ก็ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างงานของเฮนรี่ฟอร์ด ถ้าคุณซื้อรถญี่ปุ่นเงินดอลล่าร์จะไหลไปญี่ปุ่น.

โดย: Apache IP: 203.146.5.60 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:11:32:59 น.