Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
26 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

ข่าวสารยานยนต์ - เรื่องราวของก้าวแรกด้านการลงทุนของ Chrysler

ต้องเริ่มจาก วันนี้ เป็นวันฉลองครบ 100 Blog และยังเป็นวันสุนทรภู่ ครูกวีอีกด้วย (เกี่ยวมั้ยเนี่ย ออกจะ Bussiness ซะงั้น)

วันนี้ ว่าด้วยเรื่องของความเคลื่อนไหวของ Chrysler จาก Autonews.com หลังจากแยกตัวออกจาก Daimler Chrysler มาเป็นของกลุ่มทุน Cerberus โดยได้ตั้ง Joint Venture ร่วมกับบริษัท Getrag โดยให้ Getrag เป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ เป็นมูลค่ากว่า 530 ล้านเหรียญ นับได้ว่า ไม่เพียงแต่เป็นการ Joint ที่ให้คู่ธุรกิจถือหุ้นส่วนใหญ่กว่าในชิ้นส่วนที่ถือว่าเป็นส่วนหัวใจของรถยนต์ และธุรกิจของกลุ่ม Big 3 ทั้งยังเป็นการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการลงทุนที่สำคัญเป็นครั้งแรกของ Chrysler ในเงื้อมเงากลุ่ม Cerberus

โดยรายละเอียดนั้น Getrag จะถือหุ้นในส่วนของ Joint Venture นี้อยู่ 85% ในโรงงาน Tipton Transmission ที่จะเปิดในปี 2009 โดยในส่วนโรงงานนั้น Chrysler ลงทุนไปกว่า 43% และที่เหลือเป็นของ Getrag

แต่เดิมนั้น Engine และ Transmission เป็นชิ้นส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ Big 3 ทั้ง GM, Ford และ Chrysler จะผลิตกันเอง แต่จากการขาดทุน และ การสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ทำให้ Chrysler เอง ต้องคิดใหม่ ทำใหม่

จริง ๆ จะว่าไป Joint Venture นี้เป็น idea ที่เริ่มมาตั้งกะ 15 เดือนก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าขอบเขตความรับผิดชอบ และอื่น ๆ ยังคงเป็นประเด็นอยู่

Eric Fedewa ผู้ซึ่งเป็น Vice President ของส่วน Powertrainเอง ให้สัมภาษณ์ว่า ในอนาคต Chrysler เองก็จะทำการ Oursouce ส่วน Powertrain นี้ด้วย โดยในปัจจุบัน 43% ของ Engine ที่ Chrysler ผลิตอยู่ เกิดจากการซื้อ Design มา ในขณะที่ส่วนของ Transmission จะซื้อ Design มา 35% แต่ในปี 2013 คาดว่า การซื้อ Design มาจะอยู่ในสัดส่วน 77% และ 68% ในส่วนของ Engine และ Transmission ตามลำดับ

โรงงานที่จะสร้างขึ้น คาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 700,000 ชุดต่อปี โดย Getrag จะเป็นคนจัดการในส่วนของการผลิต

ส่วน UAW, Getrag และ Chrysler จะทำข้อตกลงกันเพื่อคุ้มครอง (หรือสร้างความเดือดร้อนหว่า) ต่อพนักงาน 1,050 คน ให้ได้ภายในปีนี้

และ Joint Venture ที่เกิดขึ้นใหม่นั้นก็มีสิทธิ มีนโยบายที่จะทำธุรกิจกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่น ๆ เช่นเดียวกัน โดย Chrysler คาดว่า รถที่จะใช้ชิ้นส่วนจากโรงงานนี้ในรถที่จะเปิดตัวในปี 2010

ข่าวนี้ บอกตรง ๆ ว่า เท่ากับว่า Chrysler กำลังประกาศความไม่สามารถในการแข่งขันของตัวเองยังไงยังงั้น ขณะที่พวกค่ายรถญี่ปุ่นพยายามทำอะไร ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ก็สร้าง Joint Venture หรือไม่ก็ เข้าไปซื้อหุ้นเฉย ๆ แต่งานนี้ Chrysler เอาออกครับ แต่ยังดี ที่ยังเข้าไปถือหุ้นอยู่เกือบครึ่ง แต่เดิม Ford เริ่มต้น Ford Model T ก็พยายามทำอะไร ๆ ด้วยตัวเองเสียหมด จนเกิดหลักการ Visible Hand คือ สามารถควบคุมอะไร ๆ ด้วยตัวเองได้ จนต่อมา GM เอามาแตกแขนงเป็น Invisible Hand คือ Outsource ซะหมด เราจะเห็นได้ว่า ค่ายรถ Big 3 กำลังสูญเสียความสามารถในการสร้าง Technology ใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ (หรือ จขบ. คิดไปเองหว่า)

แต่ดูจากแนวโน้มแล้ว จขบ. คิดว่า กลุ่ม Big 3 ยังแก้ไม่ถูกจุดนะ

อีกเรื่องเอามาจาก Autonews.com Hyundai Motor ที่กรุงโซล ตัดสินใจหยุดการ Strike อันเนื่องมาจากการต่อต้าน FTA ระหว่าง สหรัฐฯ กับ เกาหลีใต้ ในวันที่ 24 ที่ผ่านมา

ทาง Hyundai คาดว่า การ Strike ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายเป็นจำนวนการผลิตรถยนต์ 7,000 คันต่อวัน หรือกว่า 110.2ล้านเหรียญ

และทางสหภาพแรงงาน Hyundai จะเริ่ม Strike อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 28 มิถุนายน และวันที่ 29 นี้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลไม่ให้ Strike

เรื่องนี้ จขบ. ไม่มีความห็นแฮะ แต่รู้สึกว่า FTA นี่สร้างปัญหาเยอะมาก ๆ ไม่ว่ากับประเทศไหน คำถามที่น่าหนักใจคือ ถ้าประชาชนทั่วไปคิดว่า FTA ที่ประเทศตัวเองกำลังเซ็นสัญญาอยู่นั้นสร้างปัญหา ทำไม พวกผู้บริหารของประเทศจะไม่รู้ อาจจะรู้ แต่ไม่ได้ชี้แจงทั้งหมดมากกว่า หรือ คำชี้แจง ไม่โดนใจคนที่ได้รับฟัง หรือ ไม่เชื่อ คิดว่า ยังมีอะไรซ่อนเร้น ฯลฯ

สรุปคือ จขบ. คิดว่า หากเราไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดจริง ๆ การประท้วงไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ทางที่ดีคือ สื่อ ควรจะตามเรื่องราวในรายละเอียด และใช้ช่องทางทางการเมืองในการโต้แย้งกันในรายละเอียด จะเห็นได้จากเรื่อง Fuel Economy ใน Blog ที่แล้วว่า ตัวเลข Fuel Economy ที่ทาง วุฒิสมาชิกต้องการ ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ทาง วงการอุตสาหกรรมจึงเข้าปรึกษา วุฒิสมาชิกบางท่านให้ช่วยแก้ต่างบางประเด็น รวมถึงนำเสนอเป้าหมายใหม่ (แต่ก็พับไปอยู่ดี)

จขบ. ว่า สมานฉันท์ดีนะ บ้านเมืองไม่วุ่นวายด้วย

เพียงแต่ว่า หากสภาพทางการเมืองไม่สมดุล และ องค์กรอิสระไม่เข้มแข็งขึ้นมา ท่าจะแย่




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2550
2 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2550 12:14:11 น.
Counter : 779 Pageviews.

 

สมานฉันท์เป็นเรื่องดีแต่ต้องสมานฉันท์บนความยุติธรรมด้วย เพราะตามหลักสากล ถ้าคนขาวกับคนดำทะเลาะกันคนเหลืองจะถูกกำหนดให้เป็นผู้พิพากษา

ไม่ใช่แบบเมืองไทยตอนนี้ คนขาว กับคนดำทะเลาะกัน ดันให้คนดำพิพากษาคนขาวให้คนขาวเป็นฝ่ายผิด ทั้งที่ความจริงคนดำผิดมากกว่าเสียอีก แบบนี้คนขาวเป็นคนดีที่ยอมอดทนแค่ไหนก็ยอมรับการสมานฉันท์แบบนี้ไม่ได้ค่ะ

เอาขนมหันตรามาฝากค่ะ



 

โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ 30 มิถุนายน 2550 12:32:46 น.  

 

ขอบคุณครับ เป็นข่าวที่ผมไม่เคยเห็นเลย ขอบคุณอีกครั้ง

 

โดย: POL_US 30 มิถุนายน 2550 20:05:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ECie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




หลังไมค์ของผมค๊าบ !!
Friends' blogs
[Add ECie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.