26 ตุลาคม 2549 เจ้าหญิงเอาแต่ใจกับเจ้าชายธรรมดา
นิทานเรื่อง " เจ้าหญิงเอาแต่ใจกับเจ้าชายธรรมดา "
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานพอที่คนเขียนจะจำไม่ได้ว่าที่ไหน ยังมีเจ้าหญิงแสนงามองค์หนึ่ง เป็นธิดาของกษัตริย์อันทรงพลานุภาพ มีกองทัพอันเกรียงไกร
เจ้าหญิงเป็นธิดาเพียงองค์เดียวของกษัตริย์ จึงเป็นคนที่เอาแต่ใจมาก และคนรอบข้างก็มักจะตามใจพระองค์อยู่เสมอ ด้วยความเกรงใจพระบิดา
พระองค์ทรงคิดว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของโลกกลมๆนี้ สรรพสิ่งต่างๆล้วนเกิดมาเพื่อให้พระองค์พอพระทัย และไม่เคยแยแสต่อสิ่งใด
จะต้องสนใจไปทำไมในเมื่อทุกสิ่งที่ประสงค์มากองอยู่แทบเท้าเพียงแต่พระองค์เอ่ยปาก...
ครั้งหนึ่งเมื่อองค์หญิงเที่ยวเล่นอยู่ในอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นกระต่ายสีขาวตัวหนึ่งกำลังเที่ยวเล่นอยู่
ทรงปรารถนาจะได้มันเป็นสัตว์เลี้ยง และแน่นอนเมื่อทรงปรารถนา กระต่ายน้อยก็อยู่ในกรงเบื้องหน้าของพระองค์
พระองค์เฝ้าเลี้ยงมันอย่างทะนุถนอมมันอย่างดี กระต่ายน้อยก็เติบโตในความดูแลขององค์หญิง
เมื่อทรงมีเรื่องราวใดๆก็มักจะมาเล่าให้เจ้ากระต่ายฟังอยู่เสมอ
เวลาผ่านไป จนวันหนึ่งองค์หญิงเข้าทูลขอสิ่งที่ทรงปรารถนากับพระราชา สิ่งที่ข้าหลวงไม่อาจทำได้ พระองค์อยากให้เจ้ากระต่ายน้อยพูดได้
พระราชาเองก็จนปัญญากับข้อนี้เช่นกันแต่ไม่ทรงอยากขัดใจธิดา
จึงให้ป่าวประกาศว่าหากเจ้าชายของเมืองใด ทำให้กระต่ายพูดได้ พระองค์จะยกราชบังลังค์พร้อมกับทรัพย์สินให้ครึ่งหนึ่งและได้อภิเสกสมรสกับเจ้าหญิงด้วย
วันเวลาผ่านไปไม่มีเจ้าชายจากเมืองใด แม้ว่าจะไกลแสนไกลสักเพียงไหนที่ทำให้กระต่ายน้อยเอ่ยคำใดออกมาได้
นักเดินทางหนุ่มได้ทราบเรื่องราวการป่าวประกาศจึงปลอมเป็นเจ้าชายและอาสาทำให้กระต่ายน้อยพูดได้
เขาได้ทูลกับพระราชา ว่าจะทำให้กระต่ายตัวนี้พูดได้เพียงแต่ขอให้องค์หญิงอยู่ในที่นั้นด้วย
ไม่ช้าองค์หญิงก็เสด็จมา ชายหนุ่มตกตะลึงกับความงามของพระองค์ในทันทีนั้น เขาปรารถนาที่จะอภิเสกกับพระองค์
" เจ้ารึจะทำให้กระต่ายพูดได้ " เจ้าหญิงทรงถามเมื่อทอดพระเนตรเห็นชายหนุ่มนักเดินทาง
" พะย่ะค่ะ " ชายหนุ่มรับคำ
ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน ชายหนุ่มหยิบเข็มเย็บผ้าออกมาจากกระเป๋าแล้วจิ้มไปที่กระต่ายน้อยทันที
เจ้ากระต่ายน้อยสะดุ้งโหยง พร้อมกับที่ทุกคนในที่นั้นตกใจ เจ้าหญิงทรงโกรธมาก เข้าไปต่อว่าชายหนุ่มทันที
" เจ้าทำอะไร เจ้าทำให้มันเจ็บ " เจ้าหญิงต่อว่าเสียงเขียว
" เหตุใดจึงรู้ว่ามันเจ็บ " ชายหนุ่มถาม
" เพราะมันสะดุ้งหนีเจ้าไม่เห็นรึ " องค์หญิงยังขัดเคืองพระทัย
" นั่นแปลว่าพระองค์ทรงเห็นว่ามันสะดุ้งเมื่อมันเจ็บ พระองค์จึงเข้าใจมัน การพูดจาไม่เพียงแต่ต้องมีเสียง การสังเกตความเป็นไปของสิ่งรอบตัวก็ทำให้เราพูด กับสิ่งต่างๆได้เช่นกัน " คนพเนจรอธิบาย
" หากพระองค์ได้เรียนรู้ จากสิ่งรอบตัวพระองค์ แทนที่คิดเป็นเจ้าของสรรพสิ่ง คงจะทำให้พระองค์เข้าใจสิ่งต่างๆ เหมือนกับที่เข้าใจว่ากระต่ายตัวนั้นเจ็บ "
องค์หญิงทรงนิ่งไปเมื่อได้ฟังคำอธิบายนั้น พระองค์ไม่เคยคิดได้ในเรื่องนี้ พระองค์คิดว่าสรรพสิ่งต่างเกิดมาเพื่อพระองค์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ...
พระราชาเห็นดังนั้น จึงสั่งให้จัดที่พักให้ชายหนุ่ม คืนนั้นชายหนุ่มคิดฝันถึงเรื่องราวต่างๆมากมายรวมถึงองค์หญิงแสนสวยด้วย
องค์หญิงก็ทรงคิดถึงชายหนุ่มทั้งคืนเช่นกัน...
รุ่งเช้า มหาดเล็ก ปลุกชายหนุ่มและให้รับประทานอาหารเช้าอย่างดี
ก่อนเที่ยงของวันนั้นเสียงกู่ร้องดังไปทั้งเมือง
...ในที่สุด...
ชายหนุ่มถูกองค์หญิงสั่งให้นำตัวไปประหาร โทษฐานที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของพระองค์บาดเจ็บ
พระราชาแม้เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยากขัดใจธิดา
เที่ยงวันนั้นชายหนุ่มผู้น่าสงสารถูกประหารชีวิต
....
เมื่อวันที่ฉันนอนไม่หลับ นึกสนุกขึ้นมาแต่งนิยายบ้าบออะไรก็ไม่รู้
หากนี่เป็นนิทานประโลมโลก ชายหนุ่มน่าจะได้แต่งงานกับเจ้าหญิงและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นั่นเป็นการจบแบบที่ฉันชอบ
แต่นิทานของฉัน ฉันอยากให้เป็นนิทาน " เข้าใจโลก " ชายหนุ่มจึงต้องตายไปตามใจเจ้าหญิง
หากจะมีข้อคิดคำสอนเล็กน้อยจากนิทานเรื่องนี้
" ก่อนที่จะสอนใครให้เรียนรู้สิ่งใด จงเรียนรู้คนนั้นก่อน "
นิทานเรื่องนี้แต่งมาจากข้อความในสมุดบันทึกส่วนตัวของฉันว่า
" บางทีก่อนที่ฉันจะรักเธอ ฉันน่าจะเรียนรู้เธอก่อน "
ขอบคุณที่ติดตามจนจบจ๊ะ
Create Date : 26 ตุลาคม 2549 |
|
15 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2549 1:14:15 น. |
Counter : 1505 Pageviews. |
|
|
|
5555