เด็กแว่นผู้ถูกเส้นด้ายครอบงำ
:: เหม่อมองท้องฟ้า...คิดถึงโรงเรียน ::

"เอ้า นักเรียนจ๊ะ
'อัมพรไพศาล' แปลว่าอะไรรู้มั้ยเอ่ย?
โอ้...ใช่จ่ะ ชื่อโรงเรียนของเรานี่เอง
ใครรู้บ้างจ๊ะว่าโรงเรียนของเรานั้นมีชื่อที่แปลว่าอะไร?
โอเคจ๊ะนักเรียน เขียนลงในสมุดด้วยนะจ๊ะว่า
อัมพร แปลว่า ท้องฟ้า
ไพศาล แปลว่า กว้างใหญ่
เพราะฉะนั้น 'อัมพรไพศาล' แปลว่า ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ จ่ะ
เขียนลงในสมุด 10 จบ แล้วส่งครูพรุ่งนี้นะคะ"


จำได้ว่า นี่คือครั้งแรกที่รู้ว่าชื่อโรงเรียนเรามีความหมายว่าอะไร
ตอน ป.1 นั่นแหละ ครูเค้าบอกให้ฟังล่ะ แถมยังทำให้เราจำได้แม่นอีกแหนะ
ความจริงโรงเรียนอัมพรไพศาลไม่ได้กว้างใหญ่อะไรนักหรอก
เป็นแค่โรงเรียนเอกชนธรรมดา...แต่ก็ไม่ธรรมดา
ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะเป็นโรงเรียนเอกชนที่กฎระเบียบเหมือนของรัฐ
ตอนที่อยู่ประถมน่ะ เค้าบังคับให้ตัดผมบ๊อบ ยาวได้แค่ติ่งหู
ถ้าติดกิ๊ฟ ก็อนุญาตเฉพาะสีดำเท่านั้น
แต่ปัจจุบันนี้อนุญาตให้รวบผมได้แล้ว แต่ก็ห้ามยาวเกินคืบ
และยังจำกัดโบว์กับกิ๊ฟให้เป็นสีดำ...ขนาดมาตรฐานนักเรียนไทยเท่านั้น - -"
ห้ามซอย ห้ามสไลท์ ห้ามทำสี ห้ามปล่อยผมข้างหู
...
นอกจากเรื่องผมเผ้าแล้ว สิ่งที่แปลกมาก ๆ ยิ่งกว่าโรงเรียนอื่นก็คือ เรื่องอาหาร
พอเข้าไปในโรงอาหาร จะมีถาดหลุมอลูมิเนียม เท่าจำนวนเด็กนักเรียน
และแต่ละห้องเรียน จะมีโต๊ะอาหารประจำห้อง ห้องละ 2 โต๊ะ
มีถาดหลุมตามจำนวนนักเรียนในห้องนั้น
อาหารที่ได้กินจะเหมือนกันหมดทุกคน
(ซึ่งอาหารบางวันก็แย่ บางวันเราก็ดีใจที่ได้กิน
พร้อมกับขนมไทยที่ถูกจัดแบบกอง ๆ ไว้ในถาดขนมประจำห้อง
อาหารที่พวกเราโปรดมาก ๆ คือ ขนมจีนแกงไก่ ซึ่งจะมีทุกวันศุกร์เว้นศุกร์
ถ้าไม่อยากกินข้าวในโรงอาหาร ก็สามารถซื้อของว่างกินต่างข้าวได้)
สิ่งที่นักเรียน (ที่โต ๆ แล้ว) จะต้องเตรียมสำหรับกินข้าวก็คือ
ช้อนส้อมประจำตัว 1 คู่
หลังจากกินข้าวเสร็จ หน้าที่ก็คือเทถาดให้เรียบร้อย และล้างช้อนส้อมซะ
รู้สึกแปลกจริง ๆ ในขณะที่โรงเรียนอื่น เค้าสามารถเลือกซื้อข้าวกันเองได้ในโรงอาหาร
แต่กับพวกเราชาวอัมพร เราต้องกินข้าวในถาดหลุมเหมือนกันทุกคน
ซึ่งมันน่าจะเป็นระบบโรงอาหารของโรงเรียนยุคเก่า ๆ
เพราะแม่บอกว่า ที่สายปัญญาแต่ก่อนเค้าก็กินกันแบบนั้น
แต่เดี๋ยวนี้มันคงจะเปลี่ยนไปแล้วล่ะ
มีแต่อัมพรไพศาลที่ไม่ยอมเปลี่ยนเลย
มันก็มีส่วนดีของมันแหละ
แม้ว่าจะไม่ได้กินของที่อยากกิน เลือกก็ไม่ได้
แต่เพราะอาหารที่จัดให้ จะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน บางทีก็ทำนายไม่ได้...
(ยกเว้นวันศุกร์ที่รู้ว่าถ้าไม่ใช่ขนมจีนก็ต้องเป็นอย่างอื่น)
มันก็ทำให้เราตื่นเต้น ทุกครั้งที่ได้นึก...ในทุก ๆ เช้า
"ตอนกลางวันเราจะได้กินอะไรนะ?"
ถ้าเป็นของที่เราชอบก็คงดีสินะ
เอาเถอะ ถึงแม้อาหารที่จัดให้ จะไม่ซ้ำกันในแต่ละวันก็เถอะ
แต่เมนูอาหารก็ซ้ำ ๆ กันอยู่ดี
ไม่มีอะไรอื่น นอกจาก...
ผัดกระเพรา แกงจืด
ผัดถั่วฝักยาว แกงจืด
ข้าวผัดอเมริกัน (มันก็คือข้าวผัดไส้กรอกนั่นแหละ) แกงจืด
ข้าวผัดกุนเชียง/หมู แกงจืด
ข้าว ไข่เค็ม แกงส้ม (อันนี้ชอบบบบบบบบ)
ข้าว ทอดมัน แกงเปรี้ยว ๆ (เรียกว่าอะไร?) (ชอบทอดมันโรงเรียนที่สุด)
ข้าว ลูกชิ้น แกงจืด (ไม่ค่อยได้พบเจอ...ลูกชิ้นมันแพง)
ข้าว ผัดหน่อไม้ แกงจืด ไม่ก็ชุปไก่ (ชอบชุปไก่มาก ๆ ๆ Love)
ข้าว ผัดวุ้นเส้น ต้มข่าไก่ (ชอบอีกแล้วววววววววววว)
ข้าว ปลาเล็ก ๆ ทอด แกงจืด (แต่ก่อนเป็นปลาเลียวเชียวปลอม)
ข้าวมันไก่ (อ๊าววววววส์ น้ำจิ้มอร่อย ชอบบบบบบบบบบบบบ)
ข้าวหมูแดง
ข้าวไข่พะโล้ (แกงหวานได้อีกอ่ะ)
ขนมจีนแกงไก่ (กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด My Idol)
เย็นตาโฟว์ (ไม่เห็นมานานแล้ว เกลียดมาก ไม่กินเลย...ชมพูได้อีกอ่ะ)
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส (ไม่ชอบอ่ะ...แต่กินได้)
ผัดซีอิ๊ว (แหวะ...เยิ้มเชียว ไปไกล ๆ เลยนะ!!!)
ราดหน้า (ไม่ชอบอ่ะ...มันยืดดดดดอ่ะ)
และ...กับข้าวอื่น ๆ ที่อาจปรับเปลี่ยนได้ตามกลไกตลาด = ="
กับข้าวโรงเรียน ขึ้นชื่อได้ว่า ต้องใช้น้ำปลาช่วย...ส่วนมาก
เพราะจืดมากกกกกกก จืดได้โล่
ในแต่ละโต๊ะ ก็เลยมีน้ำปลาประจำโต๊ะ โต๊ะละ 1 ขวด
อาหารทุกชนิด จะอร่อยไม่อร่อย ขึ้นอยู่กับอารมณ์แม่ครัว = ="
ส่วนขนม ก็จะมีขนมไทยต่าง ๆ (ส่วนมากเป็นขนมปี๊บ)
ขนมเปียกปูน (แต่ก่อนอร่อยมาก ๆ ๆ อ่ะ)
ขนมกลีบลำดวน
ขนมผิง
ขนมวุ้นกรอบ (ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ค่า)
ขนมอาลัว (ชอบบบบบบบบบบ อีกแล้ววววว)
ขนมข้าวโพดไส้ช็อกโกเล็ต (ในบางที อร่อยอ่ะ อิอิอิ)
ขนมไส้สับปะรด (กรอบบบบบบ อร่อยมากกกกกกกกกกกกก)
ขนมปังแท่ง
ขนมปังกรอบ
แครกเกอร์รูปตัวอักษร
ส้ม
กล้วย
และอื่น ๆ ถ้าโชคดี 55555++
พอเราทานข้าวเสร็จ เราก็จะไปซื้อขนม ของทานเล่นต่อ
มีร้านไอศกรีม 2 ร้าน ร้านนึงอยู่เยื้องโรงอาหาร อีกร้านอยู่เยื้องตึกเรียน
ร้านขายขนมร้านนึง
ร้านของว่าง ไก่ทอด ลูกชิ้น ไส้กรอก ขนมปัง เค้ก สารพัด มีกี่ร้านก็ไม่รู้วววว
ร้านน้ำมี 4 ร้าน ข้างโรงอาหาร 2 ร้าน เยื้องตึกเรียน 2 ร้าน
แยกชัดเจนนะ จะขายน้ำอัดลม หรือน้ำผมไม้
พอเลือกเรียน เราก็จะได้กินของว่างร้านของผู้ปกครอง ซึ่งจะเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน
ถ้าจะบอกว่าเด็กอัมพรไม่มีอะไรกิน เราก็ขอเถียงสุดชีวิตอ่ะ
อ้วนกันทุกคนเลยทีเดียว TT___TT
...
สระว่ายน้ำมีอยู่สระนึง เพิ่งปรับปรุงใหม่
เป็นโลเคชั่นสำหรับถ่ายรูปที่สวยมาก
มันจะมีฟองปุ๊ด ๆ ออกมาเหมือนอ่างจาคูซี่ (หรูมั้ย ๆ )
เลือกเรียนแล้ว สามารถซื้อบัตรเพื่อไปว่ายน้ำ เรียนว่ายน้ำ หรือสอบซ่อมว่ายน้ำได้
ความจริงก็คือ อยู่อัมพรมา 12 ปี ซื้อบัตรว่ายน้ำแค่ครั้งเดียว...
เพื่อไปสอบซ่อมว่ายน้ำ
...
คุณลองเข้าห้องน้ำของอัมพรสิ
อย่าตกใจไปเลย ที่มันไม่มีกระจก!!!
ไม่เคยมีกระจกในห้องน้ำอัมพร
แต่ก่อน ไม่มีถังขยะด้วยซ้ำ
อนาถสิคะ...
เหตุผลเหรอ...
เค้ากลัวเด็กสาว ๆ ไปแต่งหน้าแต่งตาหน้ากระจก และไม่เรียนหนังสือน่ะสิ
เป็นไง ไม่เคยพบเคยเห็นโรงเรียนแบบนี้ใช่มั้ย?
...
เวลาซื้อไก่เสียบไม้มาแท่งนึง
สังเกตมั้ยว่า ไม้ที่เสียบ ปลายไม้มันกุด!!!
เพราะเค้ากลัวมันจะทิ่มคอเด็กน่ะสิ ^ ^
และสังเกตมั้ย ซื้อน้ำไปทำไมไม่มีหลอด!!!
เพราะเค้ากลัวมันสิ้นเปลืองน่ะสิ...แบบว่า ไม่จำเป็น ไรงี้ - -"
...
มองไปที่สนามหญ้าที่โรงเรียนสิ
สงสัยมั้ย ทำไมไม่มีเด็กคนไหนไปวิ่งเล่น
เพราะเค้าห้ามเข้าไปวิ่งเล่นกันน่ะสิ!!!
จะมีสนามหญ้าไว้ทำแป๊ะอะไรก็ไม่รู้ ?!!!
อ๋อ ไว้ทิ้งโรงเพาะผักไฮโดรคลอลิคนี่เอง T_T
ผักปลอดสารพิษ ใช้แรงงานเด็ก และครูวิทยาศาสตร์ในการดูแล
บางทีนะ... เราจะเห็นเงาตะค่อม ๆ สีฟ้าที่โรงไฮโดรล่ะเอ้อ!!
ไม่พอ ๆ ยังมีปุ๋ยน้ำชีวภาพอีก
อันนี้เราโดนมากับตัวเลยนะ เรียกว่า โดนบังคับให้ทำก็ได้ T_T
แต่ผลที่ออกมา ก็มีคนซื้อปุ๋ยชีวภาพมั่งล่ะนะ
เพราะฉะนั้น หากท่านเดินผ่านหน้าประตูโรงเรียนตอนเย็น ๆ
จะเห็นเด็กน้อย ๆ ตาละห้อย ยืนขายปุ๋ยชีวภาพอยู่
และน้ำเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ว่า
"ปุ๋ยชีวภาพค่ะ สนใจติดต่อได้นะคะ...สนใจซื้อปุ๋ยชีวภาพมั้ยคะ"
ช่วยซื้อกันหน่อยนะคะ หยาดเหงื่อของเด็ก ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
ทำทุกอย่าง ตั้งแต่ขนวัตถุดิบ ไปจนถึงหมัก ดูแล บรรจุ ขนย้าย ติดฉลาก...
สงสารเด็ก...ซื้อหน่อยเถอะค่ะ T_T
...
พื้นที่ป่าไม้ของโรงเรียนนี่เยอะมาก ๆ
พื้นที่ประมาณครึ่งนึง เป็นป่า...
แม้โรงรถจะน้อย จอดรถไม่พอ และแออัดเพียงใด
ก็ไม่เป็นไร เพราะเรารักษ์ป่านะจ๊ะ TT___TT
ถ้าเทียบจำนวนนักเรียน กับพื้นที่โรงเรียนแล้ว นับว่าโรงเรียนค่อนข้างแคบ
เวลาเดินผ่านทางแคบ ๆ ตอนจะไปกินข้าวนี่ เบียดกันเป็นปลากระป๋อง
และไม่มีใครคิดจะขยายทางให้ใหญ่ขึ้นหรอก = ="
...
โรงเรียนนี้ เริ่มสอนภาษาอังกฤษตอน ป.5
ในขณะที่โรงเรียนอื่น ๆ สอนตั้งแต่อนุบาล
บางคนอาจคิดว่าช้าไป
แต่เด็กอัมพรไม่แพ้โรงเรียนใดในประเทศจริง ๆ (ยกเว้นอินเตอร์ และ อิงค์โปรแกรม)
อังกฤษของโรงเรียนเราน่ะ ข้นคลั่กด้วยวิชามาก ๆ
ถ้าเด็กโรงเรียนเรา ลาออก แล้วไปต่อที่อื่น...
คนคนนั้นจะเทพภาษาอังกฤษขั้นมาในทันที
แม้ว่าตอนอยู่อัมพร จะเป็นที่โหล่ในชั้นก็ตาม
โดยเฉพาะแกรมม่า เด็กอัมพรจะเชี่ยวกว่าที่อื่น ๆ
แต่เรื่องพูด เรื่องฟัง ไปหาเอาดาบหน้า 555555555++
ใครว่าเด็กอัมพรไม่เก่งอังกฤษ...เราขอยืนยันด้วยชีวิตเลย ว่ามันไม่จริง
...

ซักเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่อยากเล่าอีก
งั้นวันหลังจะเล่าให้ฟังใหม่นะ
ใครยังมีแรงอ่าน กรุณาติดตามที่บล็อกหน้านะคะ



I miss you...Ampornpaisarn, my second home!!


Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2552 21:33:00 น. 6 comments
Counter : 1236 Pageviews.

 
มาดูคนระลึกความหลังเขียนบล๊อก
เดี๋ยวก็เช้าแล้วจ้า


โดย: BJ IP: 115.67.201.89 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:36:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะเอาใส้กรอกวุ้นเส้นมาเสริฟ ยามค่ำค่ะ คงไม่ดึกเกินไปนะคะ





โดย: praewa cute วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:37:50 น.  

 
ยาววะงู (แต่อ่านจบน่ะเฮ้ยย)

555+ ใช่ๆๆ สมัยป.1ห้องกุก็โดน
แต่เขียนอัมพรแปลว่าท้องฟ้า 1 วัน แล้วไพศาลอีกแปลว่ากว้างใหญ่ 1 วัน

ส่วนเรื่องอื่นๆยอมรับเลยว่าไม่น่าจะมีโรงเรียนใดเหมือนที่นี่อีกแล้ววว ถึงเราบ่นไปเหอะ เราก็อยู่กันมาได้จนจบ

ถ้าใครมุ่งหวังความรู้เพื่อไปเอนท์ ที่นี่อาจให้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย(ยกเว้นอังกฤษ 555) แต่อัมพร มันให้อะไรได้มากกว่านั้นถ้าเราจะเดินเข้าไปหามัน

ยังไม่ได้ไปขโมยผักไฮโดรกินเลยเนี่ย (555 เค้าล้อเล่นนนก๊าบ)

ชีวิตวันวันเหมือนอึนๆแน่นๆไปด้วยอะไรก็ไม่รู้แฮะตั้งแต่หลังโอเนตมา เอเนตชักไม่อยากใช้แล้วแต่เผื่อไว้ดีกว่า เห้ออ

อยากว่างเหมือนงู
คิดถึงงู อยากกอดงู!!
อิ่มข้าวว


โดย: HoTtanium_TheTooN IP: 124.121.94.88 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:49:21 น.  

 
^_________________________^


โดย: หลาม IP: 124.121.104.2 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:19:14 น.  

 
แกเบลอไปแล้ววว...โรงอาหารไม่มีเย็นตาโฟให้กินน้า มีแต่ผัดไทย (สีชมพูพอกัน -*-)

ส่วนเรื่องหลอด เพราะหลอดเป็นขยะอย่างดีที่สามารถสร้างทัศนียภาพอันงดงาม(ตรงไหน?)ให้โรงเรียนไง เค้าเลยไม่ให้ใช้หลอด 55+ มารู้ซึ้งตอนไปอยู่สวนนนท์นี่แหละ

จะว่าไป...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราคงขอกินข้าวโรงอาหารให้บ่อยกว่านี้หน่อย T T ยังแอบเสียดายอยู่นิดๆนะเนี่ย

แต่เวลาก็เหมือนสายน้ำที่ไม่ย้อนกลับ ตั้งแต่เราไปทำไมโรงเรียนพัฒนาฮวบฮาบขึ้นแบบเน้ ไม่เข้าใจ T^T (จริงๆนะเว้ย 55+)


โดย: miyacatz IP: 124.121.80.139 วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:17:25:17 น.  

 
อ่านแล้วเพลินจัง ^ ^


โดย: Nammon IP: 116.52.81.48 วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:23:23:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เส้นด้ายร้อยลูกปัดผัดผงกะหรี่
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เส้นด้ายคืออะไรใครรู้บ้าง
ดูทั้งเล็กทั้งบางน่าสังสัย
ถ้าอยากรู้ว่ามันคืออะไร
จะบอกให้พวกคุณคิดเอาเอง

555+
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
23 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เส้นด้ายร้อยลูกปัดผัดผงกะหรี่'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.