โอริงามิ
นับเป็นศาสตร์แห่งงานศิลป์ที่มีความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
เพราะนอกจากจะมีความงดงามในเชิงของศิลปะการพับกระดาษให้เป็นรูปร่างต่างๆ
จากเจ้าตำรับแดนปลาดิบแล้ว โอริงามิ
ยังได้ผสม ผสานศาสตร์ด้านต่างๆ ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
และเพื่อเป็นการเผยแพร่ตลอดจนฝึกฝนให้เยาวชนได้มีความรู้
ความเข้าใจอย่างแท้จริง ภายใน งานประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 5 ซึ่ง
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกันจัดขึ้น ณ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
จึงได้รวบรวมเรื่องราวของ โอริงามิ
มาให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ถึงที่มาพร้อมกับสนุกสนานไปกับการพับกระดาษใน
กิจกรรมนี้ด้วยตัวเอง
ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ
นักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศาสตร์แห่งการพับกระดาษ ” โอริงามิ”
ได้บอกเล่าถึงที่มาของโอริงามิ ว่า หากแปลเป็นไทย โอริงามิ ก็คือ
การพับกระดาษที่เริ่มมีขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 50 ปีก่อน
โดยเป็นการพับกระดาษเพื่อทำของประดับตกแต่งในพิธีกรรมทางศาสนาของประเทศ
ญี่ปุ่น
ต่อมา โยชิซาวะ อากิระ
ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นปรมาจารย์และเป็นบิดาของโอริงามิจากผลงานการพับ
กระดาษรูป 12 นักษัตร และมีการพัฒนาการพับกระดาษเป็นรูปร่างต่าง ๆ
ตามจินตนาการ มาอย่างต่อเนื่อง ผลงานแต่ละชิ้นล้วนมีความสวยงามอย่างน่าทึ่ง
จึงทำให้มีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานทั้งในและต่างประเทศมากมาย
จนถึงปัจจุบัน โอริงามิ กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังระดับโลกเลยทีเดียว
“ โอริงามิ ไม่ได้เป็นแค่การพับกระดาษเล่น ๆ
หากแต่ยังสามารถนำไปใช้เป็นโมเดลในงานด้านต่าง ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น
การออกแบบลวดลายผ้าในงานด้านแฟชั่น
การคิดกลไกของยานอวกาศในงานด้านยานอวกาศของประเทศญี่ปุ่น
การจำลองทำบอลลูนรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจในงานทางการแพทย์
หรือแม้แต่งานด้านวิศวะในเรื่องกลไกเครื่องยนต์
ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
สำหรับโอริงามิในประเทศไทยนั้น คนไทยก็เริ่มจะหันมาให้ความสนใจประมาณ 2 – 3
ปีที่แล้วครับ โอริงามิเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
เป็นการฝึกใช้ประสาทสัมผัสหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน เหมือนการฝึกสมาธิ
ทำให้สามารถเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้สมอง สติปัญญาพัฒนาได้อย่างดี
และเด็ก ๆ ยังสามารถจินตนาการได้อย่างกว้างไกล ซึ่งน้องๆ
ก็สามารถฝึกพับแบบง่าย ๆ ได้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลเลยครับ
นอกจากนั้นยังสามารถใช้ในการบำบัดเด็กพิเศษได้ดีอีกด้วย ” ดร.บัญชากล่าว
ญดา หรือ นางสาวญดา เทพบุตร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในนักศึกษาที่สนใจในการพับกระดาษ เล่าว่า
“ได้ยินชื่อโอริงามิมานานแล้วค่ะ ทีแรกคิดว่าเป็นการพับกระดาษธรรมดา
แต่พอได้มาลงมือทำจริงๆ ก็รู้สึกสนุกมากเลยค่ะ
เพราะการพับกระดาษสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างเลย
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ
และยังฝึกให้เราได้ใช้ความอดทน ความตั้งใจ
และที่สำคัญทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นด้วยค่ะ วันนี้ได้มาฝึกพับนกเพนกวิน
นกบินได้ แล้วก็คิดว่าจะเริ่มฝึกพับอย่างอื่น ๆ ต่อไปด้วยค่ะ
เพราะเราสามารถจินตนาการได้อีกกว้างไกลและบางอย่างเราก็สามารถมาปรับใช้ใน
งานด้านวิทยาศาสตร์ได้ด้วยค่ะ”
ส่วน “บอส” หรือ
นายอัครพล วัชราวิภาส นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล
ก็ได้บอกเล่าความรู้สึกหลังจากได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า
“วันนี้ผมได้เรียนรู้และได้ประโยชน์จากโอริงามิเยอะมากเลยครับ
ทำให้ผมรู้ว่าโอริงามิสามารถนำมาใช้กับงานวิทยาศาสตร์ได้หลายอย่างเลยครับ
ทั้งในเรื่องของชีววิทยา อย่างการพับลวดลายของใบไม้ในแบบต่าง ๆ
พร้อมทั้งยังสามารถนำโมเดลของการพับกระดาษเพื่อใช้อธิบายการทดลองต่าง ๆ
ได้อีกด้วย มันทำให้เห็นได้ว่าทุกอย่างย่อมมีที่มา
มีเหตุและมีผลตามหลักของวิทยาศาสตร์
และสามารถพัฒนาจินตนาการได้ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนอย่างที่ไอสไตน์บอกไว้ว่า
จินตนาการสำคัญกว่าความคิด ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ
ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะวิทยาศาสตร์เสริมสร้างสมองข้างขวา
โอริงามิมาเติมเต็มเสริมสร้างสมองด้านซ้ายได้อย่างลงตัวครับ โอริงามิ
มีอะไรมากกว่าที่เราเห็นอีกมากครับ นอกจากจะได้ผ่อนคลายในเรื่องของศิลปะ
จินตนาการแล้ว เรายังสามารถพัฒนาสมองด้วยสมาธิ
และพัฒนาศักยภาพของเราจากการพับโอริงามะได้ดีอีกด้วยครับ” บอสกล่าวทิ้งท้าย
“โอริงามิ”
เป็นศาสตร์แห่งงานศิลป์ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างคณิตศาสตร์
และวิทยาศาสตร์ โดยนำเสนอผ่านรูปแบบของงานศิลปะจากจินตนาการที่ไร้ขอบเขต
เมื่อได้ลงมือทำอย่างตั้งใจและใส่ใจในคุณค่าของทุกชิ้นงานแล้ว
นอกจากความภาคภูมิใจยังสามารถพัฒนาสมอง
พัฒนาความคิดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย
ดร.บัญชา
ธนบุญสมบัติ นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ดร.บัญชา ขณะกำลังสอนน้อง ๆ พับกระดาษอย่างตั้งใจ
ญดา หรือ นางสาวญดา เทพบุตร
นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
โชว์ผลงานสุด
ประทับใจ
ขอบ
คุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือนิตยสารสสวท. กับวิชาการดอทคอม
www.ipst.ac.th
Free TextEditor