อยากเล่าเพื่อปันประสบการณ์การแบกเป้เที่ยวจังหวัดกระบี่ให้ฟังครับ ซึ่งเป็นอีกวิธีกรณีที่เราไม่ได้ซื้อทัวร์หรือซื้อบริการแบบแพคเกจจากบริษัท นำเที่ยว บางคนอาจจะบอกว่าการไปแบบนี้คือการเที่ยวแบบไม่มีแผน แต่จริงๆแล้วต้องวางแผนมากกว่าการซื้อแพคเกจเสียอีกครับ เพราะต้องคำนวนออกแบบการเที่ยวด้วยตัวเองทุกอย่าง ตั้งแต่การเดินทาง การกินอยู่รวมถึงสถานที่พัก
รูป ๑ เรือหางยาวนำเที่ยวบนเกาะพีพี ขณะบนท้องฟ้ากำลังคลุมด้วยเมฆฝน
การเที่ยวกระบี่ในครั้งนี้เกิดจากการมือบอน ไปคลิกซื้อตั๋วเครื่องบินราคา 99 บาทในอีเมล์จากไทยแอร์เอเชีย ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์โน้นแน่ะ อีกอย่างตอนนั้นเพิ่งกลับจากเที่ยวอ่าวฮาลอง ที่เวียดนาม แล้วยังติดใจในความงดงาม ทำให้นึกถึงชายฝั่งอันดามันของไทยซึ่งเป็นความทรงจำที่เลือนมาก อาจจะเป็นเพราะเคยไปมานานมากแล้วหรือผม(แก่)เลอะเลือนเอง อันนี้ก็ไม่ทราบได้
มีตัวเลือกอยู่ในหัว 3 จังหวัดคือ กระบี่ พังงา ภูเก็ต ที่มีพังงาเข้ามาในตัวเลือกเพราะอยากนั่งเรือเที่ยวชายฝั่งอ่าวพังงา นั่งเรือมุดถ้ำลอด ดูเขาตะปู เขาพิงกัน ขึ้นเกาะปันหยี(ชื่อนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ) อีกอย่างผมเห็นในเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเอ๊กซ์ที่ก๊อปมาจาก
พี่สาธิต เอ... หรือว่าพี่สาธิตก๊อปจากผมจำไม่ได้แล้ว มีถ่ายทำที่ชายหาดโดยฉากหลังเป็นเขาตะปูด้วย มันไปถ่ายทำกันยังไงฟะ งง นักท่องเที่ยวออกตรึม ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกการถ่ายทำหนังชนิดที่ว่าที่อนุสาวรีย์ชัยฯตอนกลางวันแสกๆครับ นึกออกยัง?
รูป ๒ ภาพท้องฟ้าและผืนดินที่สุวรรณภูมิ กดชัตเตอร์ขณะเครื่องกำลังทะยานขึ้นเหนือเมฆ
แต่ก็คิดถึงพีพีมากกว่าการไปดูสถานที่ถ่ายทำหนังไอ้มดแดง เลยจองตั๋วเครื่องบินไปกระบี่แทน จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้จนถึงวันออกเดินทาง โดยที่ไม่ได้ติดต่อที่พัก ไม่ได้ติดต่อบริษัททัวร์ ไม่ได้วางแผนการเที่ยวไม่ได้อะไรซักอย่าง มีเพียงตั๋วเครื่องบินไป-กลับอยู่ในมือ เรียกว่าไปตายเอาดาบหน้าว่างั้นเหอะ
รูป ๓ ภาพท้องฟ้าตอนเครื่องบินไต่ขึ้นจนได้ระดับแล้ว ภาพนี้ผมประหลาดใจพอสมควร เนื่องจากสีฟ้าเข้มของท้องฟ้าและเมฆที่ได้มาจากกล้องล้วนๆไม่ใช้โปรแกรม โดยตอนถ่ายภาพผมตั้ง Picture Style เป็น CLEAR และตั้ง WB เป็น White Fluorescent
ผมออกจากกรุงเทพประมาณ 10 โมง 20 นาทีถึงกระบี่เกือบๆเที่ยง พอลงจากเครื่องเดินลงมาที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่พักผู้โดยสาร จะมีบริษัททัวร์และโรงแรมมารอรับลูกค้า ส่วนคนที่ไม่มีคนมารอรับ เราสามารถใช้บริการแท๊กซี่ที่นี่ได้ครับ สนนราคาจากสนามบินไปถึงท่าเรือ(บริเวณศูนย์ราชการแห่งใหม่)เพื่อไปเกาะพีพี 350 บาทถ้วน แต่ถ้าต้องการไปอ่าวนาง ผมคิดว่าค่าใช้บริการก็ไม่น่าจะน้อยกว่ากันซักเท่าไหร่
คนที่มากระบี่ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกคงไม่แคล้วใช้บริการแท๊กซี่ดังกล่าว แต่คนที่ศึกษามาก่อนหรือเคยมาแล้วจะรู้ว่าที่ด้านหน้าสนามบิน เดินออกไประมาณไม่เกินสามร้อยเมตรจะมีถนนใหญ่และมีรถสองแถววิ่งเข้าออกในเมืองตลอดวันครับ ค่าบริการประมาณ 20-40 บาทแล้วแต่ว่าเป็นรถชนิดไหน ถ้าจะเข้าในเมืองให้เดินไปฝั่งตรงข้ามสนามบินนะครับ
รูป ๔ ภาพท้องฟ้าและชายหาดบริเวณอ่าวต้นไทร (พีพี) มีฉากให้ได้เล่นลูกเล่นของกล้องอีกแล้ว ตอนถ่ายภาพผมตั้ง Picture Style เป็น Twilight
ที่ท่าเรือจะมีเรือออกไปพีพีวันละสองครั้งคือช่วงเช้า 9 โมงและตอนบ่าย 3 โมง ราคาค่าโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยว 350 บาทต่อคน และคนละ 150 บาทสำหรับคนท้องถิ่น ถ้าเราสะพายกระเป๋าเข้าไปถามตอนซื้อตั๋วว่า "เท่าไรครับ" เจ้าหน้าที่จะบอกว่า "สามร้อยห้าสิบบาทครับ"
แต่ถ้าเราเดินเข้าไปแล้ววางเงิน 150 บาท เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วโดยสารชนิดสำหรับคนท้องถิ่นให้เราครับ
ความรู้นี้ผมซื้อมาด้วยเงินหลายบาทครับ อิอิ รูป ๕ ชายหาดหลังโรงแรมที่พัก จะอยู่ที่ด้านหลังของเกาะครับ เอาไว้ลงเล่นน้ำตอนเช้ากับตอนค่ำ ตอนเดินเล่นมีฝรั่ง ญ ถอดชิ้นบนนอนอาบแดดแถวนี้หลายคน
พอถึงเกาะพีพี ผมเดินเข้าไปพักที่พีพีโฮเต็ลครับ สนนราคาค่าห้องคืนละ 1,400 บาท ขึ้นกับว่าเราไปช่วงไหนครับ ถ้าเป็นช่วงหน้าท่องเที่ยว คริสมาสต์หรือปีใหม่ค่าห้องจะขึ้นเป็นหลายพันบาทเลยทีเดียว คำแนะนำของผมคือถ้าเราไปช่วงที่ไม่ได้เป็นหน้าท่องเที่ยว ให้เดินเข้าไปแล้วค่อยไปถามทีละที่เลยครับ ค่อยๆเดินถามไปเรื่อยๆบางทีจะเจอห้องราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งตรงทางเดินขึ้นจุดชมวิว ผมสอบถามดูห้องพักแบบสองเตียงคืนละ 700 บาทเองครับ ซึ่งทางเจ้าของที่พักเขาบอกถ้าเป็นไฮซีซั่น ค่าห้องจะขึ้นถึง 4,500 บาทต่อคืนเลยทีเดียว
(ยังมีต่อ - to be continued)
...ว่าแต่กล้องน้า ตั้งค่าไปหลากหลายดีนะขอรับ.....วุ๊ยๆๆๆ...อิจฉาอีกแว๊ววววว!..
(แล้วจะมาดูต่อ - to be continudr)