คนจีนกับคนเยอรมัน



คนจีนกับคนเยอรมัน





วัฒนธรรม คือ วิถีการดำเนินชีวิตซึ่งเป็นพฤติกรรมและสิ่งที่คนในกลุ่มสร้างขึ้น ด้วยการเรียนรู้จากกันและกันและร่วมใช้อยู่ในกลุ่มเรื่อยมาเป็นเวลานาน



วัฒนธรรมของแต่ละกลุ่ม จะไม่เหมือนกัน และจะนำวัฒนธรรมหนึ่งไปอ้างว่าดีกว่าอีกวัฒนธรรมหนึ่ง ไม่ได้ ...เพราะวัฒนธรรมถูกสร้างขึ้นผ่านประสบการณ์ของกลุ่ม ในภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพอาหาร ความเป็นอยู่ และความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ....




บล๊อกเรื่องนี้นำมาจากเว๊ปของคุณ Adino Chang เรื่อง “Chinese Culture and German Culture Comparison” เชิญกดดูต้นฉบับคุณAdino เป็นคนจีน เขาบอกว่าเขารู้สึกสนใจมากที่มีคนเปรียบเทียบสองวัฒนธรรม และเขาเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงโดยเฉพาะวัฒนธรรมของคนจีน ...เขาบอกว่าขอมอบเครดิตบทความนี้แก่ Ms Yang Liu ซึ่งเป็นคนจีนที่เรียนในเยอรมันและเป็นผู้วาดรูปภาพชุดนี้ ....โชว์รูปภาพชุดนี้อยู่ในนิทรรศการของเธอ กดดูที่นี่



ที่จริง รูปภาพชุดนี้มีคนนำมาลงในบล๊อกและในเว๊ปพันทิปบ้างแล้ว แถมมีการส่งเป็นฟอร์เวิร์ดเมล์กันด้วย ....เพื่อนๆบางคนที่เคยชมเคยอ่านมาแล้ว ผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้ โปรดคลิกข้ามไปเลยนะครับ ... แต่ที่ผมอยากจะนำมาลงไว้ในบล๊อกของผม เผื่อว่าบางท่านที่ยังไม่ได้ชมไม่เคยอ่าน จะได้มีโอกาสได้อ่านกัน






นี่คือ การเปรียบเทียบวัฒนธรรมของคนจีนกับคนเยอรมัน




# 01 การแสดงความคิดเห็น

คนเยอรมัน ชอบแสดงความเห็นแบบตรงๆ ….คนจีน ชอบแสดงความเห็นแบบอ้อมๆ






# 02 วิถีชีวิต

คนเยอรมัน ชอบตัวคนเดียว ตัวใครตัวมัน ….คนจีน ชอบไปไหนหรือทำอะไร ชอบแบบทั้งก๊ก






# 03 การตรงต่อเวลา

คนเยอรมัน ตรงเป๊ะ…..คนจีน ยืดหยุ่น อาจจะไปก่อนเวลาหรือขอไปสายหน่อย ไม่เป็นไรน่า หยวนๆ






# 04 การติดต่อสัมพันธ์

คนเยอรมัน ติดต่อกันเฉพาะในกลุ่มใครกลุ่มมัน ครอบครัวใครครอบครัวมัน …..คนจีน ติดต่อรู้จักกันทั้งตำบล นับญาติกันได้หมด






# 05 อารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ

คนเยอรมัน ใบหน้าจะแสดงออกมาตรงๆว่าโกรธ …..คนจีน จะยังคงใบหน้ายิ้มๆ






# 06 การเข้าคิว

คนเยอรมัน ตามลำดับ ใครมาก่อนได้ก่อน…..คนจีน มุง ออกัน แล้วแต่ใครมือยาวสาวได้สาวเอา






# 07 ความเชื่อมั่นในตนเอง

คนเยอรมัน มีให้กับตนเองเต็มที่ ....คนจีน ไม่เป็นไรน่อ เชิญท่านอื่นก่อน






# 08 ถนนในเมืองของวันอาทิตย์

คนเยอรมัน ผู้คนน้อยมาก….คนจีน ผู้คนจะคลาคล่ำ






# 09 บรรยากาศในงานเลี้ยง

คนเยอรมัน จะกระจายกันอยู่ พวกใครพวกมัน….คนจีน เอ้า ล้อมวง ม๊ะล้อมวง






# 10 ในภัตตาคาร

คนเยอรมัน ระดับความดังของเสียง เบาๆ….คนจีน ระดับความดังของเสียง อึกทึกอลหม่าน






# 11 เป็นโรคกระเพาะ

คนเยอรมัน สาเหตุจากน้ำอัดลม.....คนจีน สาเหตุจากน้ำชาร้อนๆ






# 12 การท่องเที่ยว

คนเยอรมัน บันทึกไว้ในความทรงจำ และชอบซักไซร้ข้อมูล….คนจีน บันทึกด้วยกล้อง สิจ้ะ ถ่ายรูปตัวเองด้วย ไม่ค่อยสนใจสอบถามข้อมูล






# 13 นิยามของความงาม

คนเยอรมัน ผิวสีแทน สวยสุดๆ……คนจีน ต้องขาวเข้าไว้ ต้องขาวเข้าไว้






# 14 การจัดการกับปัญหา

คนเยอรมัน พุ่งเข้าชนปัญหา สู้กับปัญหาไปเลย…..คนจีน ขอเลี่ยงปัญหาดีกว่านะ สบายใจกว่า






# 15 อาหารแต่ละมื้อ

คนเยอรมัน เย็น ร้อน เย็น ….คนจีน ร้อน ร้อน ร้อน






# 16 การใช้รถ

คนเยอรมัน เปลี่ยนจากขับรถ มาปั่นจักรยาน......คนจีน เลิกปั่นจักรยาน มาขับรถ






# 17 วิถีชีวิตยามชรา

คนเยอรมัน อยู่กับสุนัขหรือสัตวืเลี้ยง ....คนจีน อยู่กับลูกหลาน ลูกหลานดูแลผู้ใหญ่






# 18 ช่วงเวลาดูแลชำระร่างกาย

คนเยอรมัน ตอนกลางวัน……คนจีน หลังเลิกงานหรือตอนกลางคืนก่อนเข้านอน






# 19 อารมณ์กับดินฟ้าอากาศ

คนเยอรมัน ฤดูร้อนยิ้ม ฤดูฝนหงุดหงิด……คนจีน ฤดูร้อนยิ้ม ฤดูฝนก็ยิ้ม






# 20 เจ้านายกับลูกน้อง

คนเยอรมัน เป็นเจ้านายควรนำลูกน้องนิดหน่อย…..คนจีน เป็นเจ้านาย หุหุ ลูกน้องอย่าหือ ข่มกันสุดเดช






# 21 ความนิยมเริ่มเปลี่ยน

คนเยอรมัน นิยมตะวันออก…..คนจีน นิยมตะวันตก






# 22 เด็กกับผู้ใหญ่

คนเยอรมัน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียม เด็กก็ต้องช่วยเหลืองาน และทำอะไรของตนเองด้วยตนเอง ....คนจีน ต้องดูแลเด็กต้องช่วยเหลือเด็ก ให้สิทธิเด็กก่อน และต้องควบคุมความประพฤติเด็ก เพราะเด็กยังไม่โต






# 23 ของใหม่ๆ

คนเยอรมัน อ๊ะ มันก็ของใหม่อย่างหนึ่ง…..คนจีน เพราะยังเป็นของใหม่ จึงควรจะสนใจดูแลใกล้ชิด ต้องสัมผัสสนใจให้มากๆ






# 24 ความสนใจต่อวัฒนธรรมอื่น

คนเยอรมัน สนใจตะวันออก……คนจีน สนใจตะวันตก





















หมายเหตุจากจขบ.1 :


ขอเพิ่มนะครับ คนเยอรมันใช้เวลาว่างกับการอ่าน คนจีนใช้เวลาว่างกับการดูทีวี และผมว่าวัฒนธรรมของคนจีนไม่เหมือนกับของคนไทยนัก ... คนจีนที่ผมเจอจะพูดคุยกันเสียงดังกว่าคนไทย และรับประทานอาหารเร็ว




หมายเหตุจากจขบ.2 :


มีคนบอกว่าวัฒนธรรมของคนยุโรป กับวัฒนธรรมของคนอิตาลี ก็ไม่เหมือนกัน ...ขอเชิญดูภาพยนตร์ประกอบ กดที่นี่




หมายเหตุจากจขบ.3 :


มีคนบอกว่าวัฒนธรรมของคนฝรั่งเศส ชอบแทงหวย!!! เชื่อหรือไม่ ขอเชิญอ่านประกอบได้ที่นี่




หมายเหตุจากจขบ.4 :


และหากใครอยู่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา... เชิญอ่าน “66 สิ่งเพื่อชีวิตที่สุด cool ของคนญี่ปุ่น” กดได้ที่นี่ครับ










โดย yyswim





Create Date : 10 ธันวาคม 2550
Last Update : 10 ธันวาคม 2550 14:45:29 น. 33 comments
Counter : 3904 Pageviews.

 

ยังไม่เคยได้อ่านมาก่อน
พออ่านหัวข้อ ก่อนเปิดก็เลยเริ่มมีคำถามว่า
ทำไมต้องจีน กับเยอรมัน
พออ่านก็อ้อ!เห็นความแตกต่างได้ชัด
อ่านแล้วรู้สึกว่า...
ในความเป็นคนจีนดูอบอุ่น อะรุ้มอะร่วยกว่า
(เขียนอย่างนี้ป่ะคะ เหมือนสะกดผิด)
ถ้านิสัยอย่างดี.ก็น่าจะเหมาะกับเยอรมันมากกว่า
แต่อยู่เมืองไทยน่าจะดีสุด
เพราะเป็นอะไรที่กลางๆ
เป็นได้ทั้งสองฝั่งตามอารมณ์

โดยภาพรวมในความ..สนใจต่อวัฒนธรรมอื่น

คนเยอรมัน สนใจตะวันออก
คนจีน สนใจตะวันตก

นั่นก็หมายความว่าแท้จริงแล้ว
ไม่ว่าคนชาติใดในโลก
ก็อยากที่จะเรียนรู้ที่จะรู้จักกันทั้งสองฝ่าย
จากนั้นก็ปรับตัว
แล้วอยู่ให้ได้...แล้วโลกก็สันติ
(ฝันไปป่าวเนี่ย อิอิ)

เดี๋ยวมาใหม่ค่ะ
จะเข้าไปกดดูตรงที่พี่ให้กดเข้าไป





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:15:08:33 น.  

 
ขอบคุณที่ไปเที่ยวบล๊อกป้านะคะ
ป้าเห็นคุณสินแล้วชื้นใจ
มีความสุขมากๆเลยจ่ะ
ป้าชอบที่คุณสินเปรียบเทียบจ่ะ
อ่านไปยิ้มไป...อิ..อิ..




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:15:21:16 น.  

 
จริงๆน่าจะเป็นความแตกต่างของวัฒนธรรมโลกตะวันตก และโลกตะวันออกเลยละมั้ง
เหมือนไทยเราก็คล้ายๆอย่างนี้นะครับ


โดย: Title_boy วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:15:23:17 น.  

 
ดูยังไงๆคนจีนก็คล้ายๆคนไทยนะครับ ดูไม่ต่างกันเลย (ปล.ภาพที่ใช้ในการเปรียบเทียบนั้นอย่างฮา)


โดย: ปืนแก๊ป วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:17:20:25 น.  

 
วัฒนธรรมของแต่ละประเทศนี่มีอะไรมากมายให้ศึกษานะคับ

มาโหวตบล็อกให้แล้วนะคับ


โดย: K_chang วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:17:59:20 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะคุณสิน
อืม...น่าจะเป็นความแตกต่างระหว่างคนยุโรปและเอเชียนะคะ ดูภาพแล้วขำดีค่ะ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

มีความสุขในวันอาทิตย์นะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:18:21:37 น.  

 
เห็นด้วยกับบางคนที่บอกว่า
ไม่เฉพาะคนจีน คนไทยก็ประมาณอย่างนี้ หรือกว้างๆ อาจจะเป็นคนเอเซียเลยก็ว่าได้

แต่ละจุดมีข้อดี ข้อด้อยที่แตกต่างกัน
ด้วยสังคมและวัฒนธรรม ทำให้ถ้าเราเปลี่ยนแนวคิดไป
เราอาจจะถูกต่อว่าจากสังคมไปเลยก็ได้



โดย: MDA IP: 150.254.36.100 วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:19:34:44 น.  

 
เห็นด้วยที่ว่าคนจีนดูคล้ายๆ คนไทยมาก และเรื่องการเผชิญหน้ากับปัญหา รู้สึกว่าตัวเองก็เหมือนกับชาวจีนเลย


โดย: เพรางาย วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:19:39:45 น.  

 


น้องดี….ต้องการจะใช้คำว่า “อะลุ้มอะล่วย” เหรอครับ

“คนเยอรมันสนใจตะวันออก คนจีนสนใจตะวันตก” ผมว่าเป็นเรื่องจริงครับ ไม่กล้าพูดว่า “แปลก”


ป้าหู้.....บล๊อกเรื่องนี้ ผมนำมาจากเว๊ปคุณ Adino Changครับ ไม่ได้เขียนขึ้นเอง


คุณTitle_boy.....ในฟอร์เวิร์ดเมล์ เขาก็บอกว่าเรื่องนี้ เป็นการเปรียบเทียบวัฒนธรรมของคนยุโรปกับคนอเซียครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม


คุณปืนแก๊ป.....คิดว่าคนจีนคล้ายกับคนไทยเหรอ? บางอย่างก็คล้ายกันนะครับ เช่นเคารพผู้อาวุโส เคารพบรรพบุรุษ รักวงศ์วานว่านเครือ เป็นต้น



น้องเฟิร์น.....ขอบคุณที่มาโหวตให้ โหวตให้สาขาอะไรครับ?

ประเทศที่มีวัฒนธรรมของตน แสดงว่าประเทศนั้นมีประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจของตนเอง

ผมกำลังคิดว่า น้องๆวัยรุ่นกำลังสนใจวัฒนธรรมของประเทศตะวันตกมากกว่าวัฒนธรรมของประเทศตะวันออกอยู่นะ น้องๆวัยรุ่นเขาอาจจะคิดว่า โก้ เก๋

แต่หากศึกษาให้ดี ชาวตะวันตกกลับสนใจวัฒนธรรมของชาวตะวันออก ....อย่างวิถีชีวิตที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะครอบครัวของเขาจะพร้อมหน้าพร้อมตากัน ก็ในวันคริสต์มาสเท่านั้น

เรื่องนี้ จึงอยากจะบอกน้องๆวัยรุ่นที่ชอบทำตัวเหินห่างพ่อแม่ ปู่ย่าตายายว่า วัฒนธรรมแบบตะวันออก มีความน่าสนใจ มีคุณภาพไม่น้อย


คุณวิก…..ผมเขียนไว้ข้างบนครับ ...ในฟอร์เวิร์ดเมล์ เขาบอกว่า เรื่องนี้เป็นการเปรียบเทียบวัฒนธรรมของคนยุโรปกับคนอเซีย ครับ


คุณMDA….คนตะวันออก จะทานข้าวครับ จีน ญี่ปุ่น ไทย เขมร อินโด อินเดีย จะรู้จักทานข้าว แล้วจะเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ...แบบนี้แหละจึงดูคล้ายกับว่า คนจีนคล้ายคนไทย และคล้ายกับคนตะวันออกทั้งหมด

แต่ที่จริงแล้ว ในรายละเอียดเล็กน้อย จะไม่คล้ายกันทีเดียว

คนตะวันตกจะมองคนไทยเหมือนคนจีน เหมือนคนญี่ปุ่น แต่ที่จริงแล้ว จะไม่เหมือน ...และอย่างเราเห็นคนพม่า คนเขมร เราก็พอมองออกว่าไม่ใช่คนไทย แต่คนตะวันตกจะมองไม่ออก เขามองคนพม่าคนเขมรไม่ออก เขามองว่าเหมือนคนไทย


คุณเพรางาย....คอมเมนต์ข้างบนจะบอกว่าคนจีนเหมือนคนไทยครับ แต่ผมก็ยังขอบอกว่าคนจีนไม่เหมือนคนไทย ซะทีเดียว

อย่างคนไทยเราทานเผ็ด คนจีนจะทานเผ็ดไม่ได้ คนไทยเราจะทานผักสดกับน้ำพริก คนจีนจะทานผักลวก ไม่กล้าทานผักสดครับ ดนตรีของเราก็เป็นระนาด ดนตรีของจีนจะเป็นอย่างอื่น ตัวอักษรของเราก็ไม่เหมือนกับตัวอักษรจีน

หากแต่โดยภาพกว้าง คนไทยจะมีความคล้ายคลึงกับคนจีนในเรื่องวัฒนธรรรมหลายๆข้อตามที่เขียนไว้ในบล๊อก




โดย: yyswim วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:21:56:35 น.  

 
เข้าไปดูในลิงค์ของความแตกต่างระหว่างแต่ละชาติ
พบว่า
ในรายละเอียดจะแตกต่างกันทุกประเทศ
แต่ถ้ามองในภาพรวม ใกล้เคียงกันค่ะ คนไทยกับคนจีนใกล้เคียงกัน

ยิ่งการนำเสนอในภาพวาดที่คุณสินนำมาเปรียบเทียบให้ดู
ก็ทำให้เห็นความใกล้เคียงของชนชาวเอเซียค่ะ

แต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
เปรียบเทียบกันไม่ได้จริงๆ


โดย: MDA วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:22:25:31 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่อาสินนำมาเผื่อแผ่ค่ะ

และขอบพระคุณสำหรับความรักที่มีให้กับครอบครัวบีค่ะ

ขอให้พระคุ้มครองอาสินและครอบครัวนะคะ

นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: เป็ดจัง (be-oct4 ) วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:22:30:48 น.  

 
แวะเข้ามาอีกทีคับ

อย่างเรื่องอาหารที่ว่าเรากินผักสดได้เนี่ย
ผมเคยกินข้าวกะเพื่อนคนจีน
มันยังแซวว่าคนไทยเป็นกระต่ายเลย กินถั่วฝักยาว กินผักกาดขาวสดๆ
นึกแล้วขำ


โดย: Title_boy วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:7:53:06 น.  

 
ได้ดูแต่พลุครับ ในโทรทัศน์
วันที่จุดในกรุงเทพฯ นี่ดูจากดาดฟ้าคอนโดฯ เลยครับ
ปีนี้พลุสวยมากครับ
ขอบคุณครับ


โดย: pooce62 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:14:41:12 น.  

 

ผมไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อนครับสำหรับเนื้อหาในบล็อกที่ค่อนข้างสุดโต่งแต่ก็พอมีอะไรที่คล้ายคลึงกันทีเดียว...จำได้ว่าไอ้น้องชายเคยอ่านหนังสือเปรียบเทียบแบบนี้กรณีของประเทศจีนและญี่ปุ่นเพื่อค้นหาความจริงของการเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ

ทวิประเทศที่พี่ชายนำมาฝากมีหลายอย่างที่เราน่าจะเลียนแบบนิสัยของการพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่ตอนนี้แม้เราจะยังเป็นประเทศเล็กแต่เชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอิจฉาในสายตามวลหมู่มิตรประเทศครับ...

อ่านข้อเปรียบเทียบเช่นนี้แล้วกลับไปอ่านข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ฯลฯ จะทำให้เราได้ข้อคิดอะไรอีกมากครับ...ขอบคุณที่พี่สินนำมาฝากครับ...ไอ้น้องชายได้ความรู้ดีๆ จากบล็อกพี่สินมากมายเลยครับ...

สามภาษานี้ผมเชื่อได้ว่าหากใครได้ฝึกปรือคงเป็นกำไรมากครับ...สำหรับตัวผมแล้วยังกระท่อนกระแท่นครับแต่ชอบเอกลักษณ์และความโดดเด่นของแต่ละภาษาครับ...

วันจันทร์ที่ผ่านมาที่พี่ชายอัพบล็อกนี้ผมไปงานกล้องที่ไบเทคมาครับ...แต่ฝีมืออย่างน้องชายกล้องดีขนาดไหนก็ไร้ค่าครับ...แต่ได้เห็นนวัตรกรรมแล้วเชื่อว่าปีหน้าคงได้มีของดีออกมาอีกเพียบตอนนี้คงใช้ของที่มีไปก่อนดีกว่า...

พี่สินสบายดีนะครับ...


โดย: J.C. IP: 203.146.196.18 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:17:59:41 น.  

 


ค่ะพี่
คำนั้นแหละค่ะ
รู้สึกว่าผิด ก็ผิดจริงๆ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:19:29:36 น.  

 
ในแง่การนำเสนอ การใช้ภาพเป็นสื่อในการเปรียบเทียบทำให้เข้าใจง่ายและเห็นได้ชัดดีมาก

แต่ความแตกต่างของวัฒนธรรมถือเป็นเรื่องธรรมดาของภูมิภาค
ไม่จำเป็นต้องยุโรปกับเอเซียหรอก
เอเซียกับเอเซียก็ยังแตกต่างกัน
กระทั่งในประเทศเดียวกัน หรือจังหวัดเดียวกัน ความแตกต่างก็ยังมีให้เห็น
ความแตกต่างจึงเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมดา ธรรมดา

มันเป็นเช่นนั้นเอง


โดย: เจ๊ IP: 124.121.66.49 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:21:13:54 น.  

 

.....นอนหลับฝันดีนะครับคุณสิน.....


โดย: doctorbird วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:0:25:40 น.  

 
รู้สึกว่าผมจะเคยได้เป็นฟอร์เวิร์ดเมลมาครับ

ดูแล้วก็ขำดี ฝั่งคนจีนนี่ ผมว่า ใช้กับคนไทยได้เหมือนกันนะครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:11:07:41 น.  

 
ชอบเรื่อง & ภาพครั้งนี้ค่ะ ( อ่านสนุกภาพออก art ดี )

ขอบคุณที่ไปแปะภาพน้องเควินที่บล็อกให้นะคะ

เพิ่งอัพบล็อกใหม่ ว่างๆ เข้าไปเยี่ยมนะคะ


โดย: rd_lam วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:19:56:40 น.  

 


คุณMDA….โดยภาพกว้าง วัฒนธรรมของคนจีนกับคนไทยเป็นแบบคนเอเซียเหมือนกัน แต่หากพิจารณาให้ลึกซึ้ง จะไม่เหมือนกันทีเดียว

อุปมาคล้ายๆกับ วัฒนธรรมของคนใต้กับคนกรุงเทพ


คุณบี....ขอบคุณครับ


Title_boy….ตอนผมไปเมืองจีน ผมไม่ได้กินผักสดเลย

แต่เห็นเขาแบกถุงอึ ลงมาจากบนภู ที่เราขึ้นไปเที่ยว อิอิ ก็ไม่นึกอยากกินผักสดเหมือนกัน


pooce62.....พลุ ในวันที่ 8 จุดที่ศูนย์สิริกิติ์ คอนโดอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นเหรอ? แฟลตผมมองไม่เห็นครับ แต่ผมก็สามารถดูได้ทางช่อง 11 เป็นพลุของญี่ปุ่น สวย ใช่ครับ


เจษ.....ภาพชุดนี้ อาจจะมีบางคนเคยได้อ่าน จากฟอร์เวิร์ด เมล์บ้างแล้ว …โดยเขาจะเขียนว่า “คนเอเซีย กับ คนยุโรป”

ตอนที่พี่ได้รับ ก็ชอบทันที เลยรีบค้นว่า ต้นฉบับมาจากที่ไหน โชคดี หาเจอ แต่ก็พบว่า มีเขียนลงในบล๊อกแล้ว และมีลงอยู่ในกระทู้พันทิปแล้วด้วย

แต่ไม่เป็นไร พี่อยากจะให้บางคนที่ไม่เคยอ่านได้อ่านกัน

เจษ ชอบเล่นกล้องเหรอ? เพิ่งจะรู้ ...งั้น ถ้าไม่ได้เขียนบล๊อก ก็นำภาพมาโชว์ใน Multiply ดิ แล้วพี่จะเข้าไปคอมเมนต์ให้


น้องดี....มีคำไทยหลายคำที่เขียนยากนะครับ

กฎเกณฑ์ ปรากฏการณ์ ละเอียดลออ อะลุ้มอะล่วย กระตือรือร้น.....


เจ๊.....คนในโลกนี้เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

คนเอเซียเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

คนไทยเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

ไม่เหมือนกัน(คำหลัง) คือเมื่อมองในแง่รายละเอียดน่ะครับ



หมอเบิร์ด.....ขอบคุณครับ อ่านฮาของหมอแล้ว เอิ๊กเอิ๊ก.



คนทับแก้ว.....หากอ่านแล้ว ผมต้องขออภัยที่ทำให้เสียเวลาครับคุณทส



คุณแม่น้องเควิ่น.....ยินดีจะนำรูปน้องเควิ่นไปแปะ เพราะรักน้องเควิ่นมากๆ

รูปยังมีอีกนิดหน่อย มีอีกแค่ 800 กว่ารูป เอ๊งงง

Tag เรื่องคุณแม่ตั้งครรภ์ ....เพื่อนคนใด น๊อ ช่างคิดสร้างสรรค์ ส่งต่อให้ได้เขียนกัน โฮะโฮะ





โดย: yyswim วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:0:33:23 น.  

 
ว้าว..แวะมาเยี่ยมเร็วทันใจมั๊กๆ เลยค่ะ แถมได้เจิมด้วย

ลุ๊งลุงน่าร้ากกกจริงๆๆ โตขึ้นน้องเควินคงมีรูปอวดสาวๆเยอะแน่นอน คิคิคิ ( ขอบคุณคร้าบบบบ )


โดย: rd_lam วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:1:59:52 น.  

 
เคยได้เห้นจากฟอร์เวอร์ดเมลค่ะ แต่ไม่มีคำอธิบายมาอ่านบลอกนี้เลยเข้าใจ

ปล.คนสนิทที่ว่าเป็นเพื่อนเองค่า หน้าอย่างนี้ยังโสดอีกนาน


โดย: ณ มน วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:10:34:01 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่นำสาระดีๆมาให้อ่านอีกแล้ว อ่านแล้วเข้าใจง่ายเห็นความแตกต่างเลยค่ะ
เข้ามาทักทายคุณสินสบายดีนะค่ะ


โดย: มดทิพย์ วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:14:08:06 น.  

 
อืมแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ
พี่สินคะ หลังไมค์นะคะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:17:19:24 น.  

 
คุณสิน สวัสดีค่ะ

อัพผ่านไปสามวัน กุสุมา เพิ่งจะขึ้นเรือนมากราบสวัสดี....

เคยเห็นรูปมาก่อน จากของเพื่อนบล็อกท่านหนึ่ง แล้วเปรียบเทียบเป็นตะวันออก ตะวันตกค่ะ แต่ว่าไม่มีข้อความบรรยายแบบที่คุณสินเขียน...

พอเทียบเป็น จีน กับเยอรมัน ก็รู้สึกว่าภาพมันชัดขึ้นนะคะ ปอว่ามันตรงกะความจริงเหมือนกันนะคะ

ปอแย้งนิดหน่อยเรื่อง การแก้ปัญหานะคะ ปอรู้สึกว่า ที่จริงไม่ว่าจะจีน หรือเยอรมัน ก็พยายามจะจัดการกับปัญหานะคะ แต่คนเยอรมันเลือกที่จะแสดงออกความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ต่อความขัดแย้ง (บางทีใส่อารมณ์ อย่างแรงอีกต่างหาก) แต่คนตะวันออกจะพยายามเลี่ยงความขัดแย้ง หรือจัดการโดยวิธีละมุน ละม่อมกว่า (แต่กว่าจะรู้เรื่อง กัน อ้อมอยู่นั่นแหละ)

อีกอย่าง คนเยอรมันเนี่ย เป็นพวก

"ตรงประเด็น แต่ sense ต่ำ"

อยากรู้ให้ถามเขาเลย อยากให้ช่วยก็ต้องขอ อยากให้เขาไปด้วย ก็ชวนเลย... ถ้าเขามีเวลาให้ เขาช่วยได้ และยินดี เขาจะบอกเลย ว่า ช่วยได้ ตอนไหน.....เมื่อไหร่.... แต่ถ้าไม่ว่าง และไม่อยาก มันก็จะบอกเลย ตรงๆ ว่า ไม่ได้....(มันเป็นสิทธิ์ของเขาไงคะ )

แต่ไอ้เรื่องจะไปรอน้ำใจโปรดประทาน รอให้เขานึกออก รอแบบเกรงอกเกรงใจกันอยู่เนี่ย ไม่รู้เรื่องกันซะทีหรอกค่ะ....


และก็เรื่องอาบน้ำนี่ปอไม่รู้นะคะ ...แต่ปอว่าหน้าหนาวอย่างนี้ ท่าทางพี่แกจะอาบกันอาทิตย์ละไม่เกิน 3 ครั้ง หรอกค่ะ...ไม่เคยถามเพื่อนเยอรมัน เหมือนกัน แต่จากกลิ่นบนรถเมล์ นี่ยืนยันค่ะ

แต่หนุ่มอเมริกัน แกบอกแกอาบทุกวันตอนเช้า ..แล้วด่าเราอีกต่างหาก ว่าเป็น ตัวเปลืองน้ำ เพราะปอ อาบวันละสองหนเหมือนอยู่เมืองไทยเด๊ะเลย....ตามตำราสุขศึกษาที่เรียนมาเลยนะเนี่ย อิอิอิ


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:17:33:54 น.  

 
อ่านเพลินดีค้าบ มีรูปเปรียบเทียบด้วย..


โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:1:20:36 น.  

 


คุณ ณ มน....สวย เก่ง ฉลาด คล่อง รักเสียงเพลง รักท่องเที่ยว อ้อ รวยด้วยไม่ใช่เหรอ คุณ ณ มน ที่เป็นอยู่ น่ะ ....แบบนี้ ผู้ชายสนใจแน่ๆ อิอิ


คุณตรี.....ผมสบายดีครับ แต่ยังไม่ว่างเข้านอนเลย ทำไงดี

เพราะมัวแต่อัพบล๊อกเรื่องใหม่ โฮะโฮะ


คุณไก่....พรุ่งนี้ หากว่างจากประชุม จะออกมาโอนเงินทางเอทีเอ็มให้นะ


กุสุ.....มาเยี่ยม หวัดดีคร้าบ ผมกำลังจะอัพบล๊อกเรื่องใหม่ แต่กลัวคุณกุสุ จะไม่เห็น ก็เลยไปกระซิบบอก ขอบคุณนะครับ ที่แวะมาเยี่ยม

คนเยอรมัน ลักษณะเป็นอย่างที่คุณกุสุ บอกเลย เห็นด้วยครับ

เอ่อ แล้วในกระทู้พันทิป เขาบอกว่า เมื่อคนเยอรมันจะโกยหิมะที่อยู่บนถนนหน้าบ้านตัวเอง เขาจะกำหนดเส้นที่จะโกยเอาไว้ จะไม่ล้ำเส้นไปโกยหิมะที่อยู่บนหน้าบ้านของคนอื่น ถ้าคนอื่นไม่ขอร้อง

แต่แถวแฟลตผม ผมช่วยรดน้ำต้นไม้กระถางให้หน้าห้องใกล้เคียงตลอด ก็มันจะได้สวยทั้งแถบ นิ ดีกว่าสวยเฉพาะหน้าห้องแฟลตของเรา ดูแล้วสบายตาดี

ผมอัพบล๊อกใหม่เลยครับ ....เพราะคุณกุสุ เข้ามาอ่านแล้ว


Smartman หล่อสุด......ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม ชอบจริงเหรอ?




โดย: yyswim วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:2:13:22 น.  

 


50 อันดับ จำนวนประชากรในโลก



ข้อมูลนี้สำรวจโดย United States Census Bureau ประจำปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ผมนำมาจากห้องหว้ากอครับ


อันดับ ประเทศ จำนวนประชากร

1 จีน 1,320,108,000

2 อินเดีย 1,169,016,000

3 สหรัฐอเมริกา 302,763,469

4 อินโดนีเซีย 231,627,000

5 บราซิล 187,015,000

6 ปากีสถาน 161,038,000

7 บังกลาเทศ 158,665,000

8 ไนจีเรีย 148,093,000

9 รัสเซีย 142,499,000

10 ญี่ปุ่น 127,750,000

11 เม็กซิโก 106,535,000

12 ฟิลิปปินส์ 88,706,300

13 เวียดนาม 87,375,000

14 เยอรมนี 82,314,900

15 เอธิโอเปีย 77,127,000

16 อียิปต์ 75,498,000

17 ตุรกี 74,877,000

18 อิหร่าน 71,208,000

19 ฝรั่งเศส 64,102,140

20 ไทย 62,828,706

21 สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 62,636,000

22 สหราชอาณาจักร 60,587,300

23 อิตาลี 59,131,287

24 พม่า 48,798,000

25 แอฟริกาใต้ 48,577,000

26 เกาหลีใต้ 48,482,000

26 ยูเครน 46,205,000

27 โคลอมเบีย 43,997,828

29 ซูดาน 42,292,929

30 สเปน 40,448,191

31 อาร์เจนตินา 40,301,927

32 โปแลนด์ 38,518,241

33 แทนซาเนีย 38,139,640

34 เคนยา 36,913,721

35 โมร็อกโก 33,757,175

36 แคนาดา 33,390,141

37 แอลจีเรีย 33,333,216

38 อัฟกานิสถาน 31,889,923

39 ยูกันดา 30,262,610

40 เนปาล 28,901,790

39 เปรู 28,674,757

42 อุซเบกิสถาน 27,780,059

43 ซาอุดีอาระเบีย 27,601,038

44 อิรัก 27,499,638

45 เวเนซุเอลา 26,084,662

46 มาเลเซีย 24,821,286

47 เกาหลีเหนือ 23,301,725

48 ไต้หวัน 23,174,294

49 กานา 22,931,299

50 โรมาเนีย 22,276,056





10 ภาษา ที่มีจำนวนคนพูดมากที่สุดในโลก



ภาษาจีน 1,080,000,000 คน

ภาษาฮินดี 370,000,000 คน

ภาษาสเปน 350,000,000 คน

ภาษาอังกฤษ 340,000,000 คน

ภาษาอาหรับ 206,000,000 คน

ภาษาโปรตุเกส 203,000,000 คน

ภาษาเบงกาลี 196,000,000 คน

ภาษารัสเซีย 145,000,000 คน

ภาษาญี่ปุ่น 126,000,000 คน

ภาษาปัญจาบ 104,000,000 คน





โดย: yyswim วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:12:05:29 น.  

 
ภาษาเยอรมัน ไม่ติดเลยนะคะ คุณสิน แต่ปอว่า มันมีประโยชน์ทางธุรกิจ การค้านะ เพราะ เยอรมัน เขามี power พอสมควร รู้ภาษาเขาก็ดีอ่ะค่ะ


โดย: O_Sole_mio วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:18:32:07 น.  

 
อันนี้เคยอ่านในfwd mail แล้ว ชอบมาก(ตรงทุกประการ)


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:11:42:18 น.  

 
ตรงมากๆ โดยเฉพาะคนจีนที่พูดคุยกันเสียงดังกว่าคนไทยหลายเท่านัก.. คุยกันธรรมดายังกะทะเลาะกัน แล้วผมจะติดนิสัยพูดคุยเสียงดังจากคนจีนที่นี่มั้ยเนี่ย


โดย: nomadic traveller (NT@NY ) วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:12:41:16 น.  

 
P.Noppadol ka,
thank you so much for a nice "comparison"between the culture shock,I used to read it from forward mail.The chinese man(or women??) who made this symbol out of his(her??)experience during study time in Germany...and he(she) can do it really well...neutral and dare to!..I think it is not certain to see other culture and their own one without any bias or prejudice as a background.He present it pure and simple,easy to understand and with a little bit...humor!
Really nice ka.
nungning


โดย: nungning IP: 91.49.222.52 วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:4:10:51 น.  

 
ก็ตรงดีนะ ผมว่าลักษณะนิสัยคนสัมพันธ์กับภูมิประเทศ ภมิศาสตร์เช่นแถบเอเชียก็จะมีนิสัยที่คล้ายคลึงกันเป็นส่วนใหญ่


โดย: mai IP: 58.9.143.253 วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:12:07:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.