จิ่วจ้ายโกว#1
แจ่ม
ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่คนไทยไปเที่ยวเมืองนอกกันเยอะ ทั้งแถวยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และโดยเฉพาะเมืองจีน.....
ผมเอง มีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ เขายืนยันเรื่องนี้ได้ดี ....เพราะงานในเดือนนี้ของบริษัทเขายุ่งมาก แทบจะห้ามคนทำงาน มีวันหยุด ตัวเขาเองก็ งดออกกำลังกายไปเลย
อย่างทริปหนึ่ง หรือสองทริปที่เพิ่งจะกลับมา ...อีกทริปหนึ่ง ก็จะออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นทันที และพอทริปที่เดินทางไป กลับมาอีก ..สองทริปใหม่ก็จะเดินทางไปอีกแล้ว...
ใครมีเพื่อนที่อยู่บริษัททัวร์ ลองถามเขาดูก็ได้ ..ช่างเป็นช่วงของคำว่า ไฮต์ ซีซั่น จริงๆ
นี่ อาจจะเป็นเพราะ เด็กปิดเทอม หรืออาจจะเป็นเพราะ มีทัวร์แบบชาร์เตอร์ เข้า(คือทัวร์เหมาเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เพื่อตอบแทนกลุ่มคนที่ทำประโยชน์ให้กับบริษัท ...บริษัทขายยา บริษัทขายปูน เขามักจะจัดกัน)
และข้อสำคัญ เดือนนี้เป็นเดือนที่ใบไม้เปลี่ยนสี หนาวก็ยังไม่ถึงกับหนาวจัด ...ไปเที่ยวช่วงนี้จึงพบของสวยๆ ได้แต่งตัวสวยๆ และการเดินทางก็ยังไม่ถึงกับทรมานมากนัก
002
ผมเอง ....ขอบอกตามตรง ผมก็อยากจะไปเที่ยวเหมือนคนอื่นเขา
ผมถามน้ามาด(เพื่อนรุ่นพี่)ดู ... ไปมั๊ย พี่? ...น้ามาดก็บอกว่า ไปไม่ได้ ติดหลายงาน...เพราะจะไปหลายจังหวัด
"อ้าว เหรอ? ...ไปหลายจังหวัด"
ผมน่ะ นั่งรถและนอนไปเกือบทุกจังหวัดแล้ว จึงขอบาย น้ามาด
..งั้น ความฝันที่จะได้ ไปเห็น ใบไม้เปลี่ยนสี จึงเป็นอันพับไป ...โห น่าเสียดาย
เพื่อนที่ทำงานพอเขารู้ ว่าผมอยากจะไปเที่ยว เขาก็แนะนำทัวร์ต่างๆให้ ....เขาบอกว่าเป็นทัวร์ดี บริการดี ไปแล้วจะติดใจ
ผมก็บอกขอบคุณเขา แต่บอกว่า ไม่กล้าไป ...เพราะไม่รู้จักคนอื่นที่จะไปด้วยกัน
แต่แล้ว โชค ก็เดินเข้ามา....เพื่อนในบล็อกแก๊งค์ ชวนผมครับ
เป็นเพื่อนที่จริงๆแล้ว ยังไม่เคยเห็นตัวกันด้วยซ้ำ เพียงแต่ได้คอมเมนต์ถึงกันและกันในบล๊อก....และผมเคยเปรยๆให้เขาฟังว่า ผมไม่ค่อยมีเพื่อนเที่ยว ...เขาใจดีมาก ช่วยติดต่อกลุ่มเพื่อนเที่ยวของเขา ขอให้ผมเข้าไปร่วมแจมด้วย
โอว์ แจ่ม
ประโยคที่ผมตอบอีเมล์ของเขาก็คือ ผมขอบคุณมากๆ แต่ผมไม่รู้ จะพักกับใคร เพราะผมไม่มีเพื่อนไปด้วย นิ
เขาก็ใจดี ตอบกลับมาว่า ไม่ใช่ปัญหา
..จากนั้น เราก็ได้ติดต่อกันทางอีเมล์มากขึ้น...ทั้งแผนการเที่ยว และข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว
และแล้ว ความฝันที่ผมอยากเห็นมานาน.... ก็ถึงกำหนดวันออกเดินทาง ...ไม่น่าเชื่อเลยว่า ผมจะได้ไป ...ไปเห็นกับตาตัวเอง ....จิ่วจ้ายโกว สวรรค์ บนดิน
เราเดินทางกัน ในคืนวันที่ 14 ตุลาคม 2550
003
004
005 เวลาเครื่องออก เป็นตอนตีสาม
006 ดึกๆขนาดนี้ที่สุวรรณภูมิ ร้างผู้คน
.ดีครับ ผมจะได้ขึ้นไปนอนเลย
ทริปนี้ มีไปกัน 8 คน...ทุกคนใจตรงกัน มีแต่ใจของความสนุกสนาน เฮฮา ทำตัวตามสบาย แบกเป้กันไปเอง เย้าแหย่ หยอกล้อ หัวเราะ ขำขัน กันตลอดเวลา
ปัญหาอุปสรรคใดๆ หากจะเกิดขึ้น ก็ให้มันเกิดของมันไป ...แต่ทริปของเรา ยังคงสนุกสนานด้วยกัน ต่อไป ...ทุกคนไปเที่ยวแบบวางอาชีพ วางตำแหน่ง วางความเก๊ก วางความหล่อ วางความสวยกันหมด จะมี ก็แต่ความจ๊าบ ละม้าง!!!!!!
ขนาดในบางคืน ห้องพักมีไม่พอ ....ชายสี่คน ยังนอนในห้องเดียวกันเลย ...จ๊าบ มั๊ย? แถมนัดกันไม่อาบน้ำก่อนนอน..โฮะโฮะ ก็มันหนาว และไม่มีน้ำอุ่น
ทริปที่ไปนี้ ...ผู้นำทริปเป็นศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ ในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ ท่านพอจะพูดภาษาจีนได้
อีกคนที่พอจะพูดได้ เพราะเธอบอกว่าเคยเรียนเมื่อระดับประถม พูดได้ขนาดต่อราคาของ แล้วคนขายเขายอมขายให้ ...อิอิ งั้นผม ก็เลยขอพึ่งเธอด้วย เธอเป็นอาจารย์สอนเปียนโน ... อีกคนเป็นเจ้าของบริษัท และที่เหลืออีกสี่ เป็นคุณหมอทั้งนั้น ....จะมีก็ผมละ กำมะลอและด้อยกว่าเพื่อน
แต่ ผมก็ได้รับการต้อนรับอย่างฉันท์มิตรสนิทสนม
.ทริปจิ่วจ้ายโกว นี้ ...จึง แจ่ม, สว่างเปล่งปลั่ง, ดี, ประเสริฐ และยอดเยี่ยม
เครื่องบินร่อนลง ตอนเช้าที่เมืองเฉิงตู ...เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน อันเป็นมณฑลที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เป็นมณฑลที่อยู่ติดกับทิเบต
คนที่ไป จิ่วจ้ายโกว ส่วนใหญ่ จะลงเครื่องกันที่เฉิงตูทั้งนั้น ..แล้วค่อยหาทางนั่งรถหรือนั่งเครื่องบินต่อขึ้นไปยัง จิ่วจ้ายโกว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเสฉวน
แต่ ตอนนี้ เราไปเที่ยวเมืองเฉิงตู กันก่อนดีมั๊ย?
007 ซาลาเปา ปาท่องโก๋
008 คิดว่าเกี๊ยว?
009 สังเกต ซิ ...เขาห่อถ้วย ด้วยถุงพลาสติก ใช้แล้วก็ดึงออก ..แบบนี้ก็ไม่ต้องล้าง ขายได้อีกหลายชาม
010 ร้านอยู่ริมถนนครับ ร้านค้าคล้ายๆแบบนี้มีอยู่เยอะ
011 มันเผา ขายกันขณะร้อนๆ ...เนื้อข้างใน งี้ เป็นสีส้ม คุณภาพสดหวานหอม ลูกละ 10 บาท
012 ผลไม้ ...คงไม่ต้องการคำอธิบายอีก ม้าง...
013
014
015 ส้มโอ ก็มีขายที่เมืองเฉิงตู และเมืองอื่นๆที่ผมได้ไป
016
017 องุ่นที่นี่ ขายถูกครับ ... เป็นองุ่นไม่มีเมล็ด ขายราคากิโลละ 25 บาท(ก็ ช่อนี้ละ หนักหนึ่งกิโลพอดี) ..แต่ควรจะล้างน้ำหลายๆน้ำก่อนจะกิน ...โฮะโฮะ
018 ดูกิโล ที่ใช้ชั่งผลไม้ ซะ ก๊อน!!!! ...บางคนอาจจะไม่เคยรู้จัก
019 ผลไม้แบบที่หั่นขายก็มีครับ สดหวานอร่อย ชิ้นหนึ่งก็ 10 บาท เขาใช้ไม้เสียบขาย แต่ไม่มีพริกเกลือนะ
.เออ ไง มีแต่คนไทยล้อมแผง ละเนี่ย?
020 เอ๊ะ เนี่ยอะไร?
021 อ๋อ....ผลงานจากหัตถกรรม...... คล้ายกะจตุจักรนะ เอ หรือว่า จตุจักรจะคล้ายที่นี่
022 หมอดูบนฟุตบาท ...ผมฟังภาษาจีนไม่ออก
023 ป้ายนี่ ก็อยู่บนฟุตบาท ....เป็นป้ายโฆษณาโอลิมปิคปีหน้า
024 สี ที่พิมพ์ข้างรถ ...คล้ายๆบ้านเราเนาะ
025 รถเมล์สองชั้น ราคา 5 บาทตลอดสาย(หยอดแบ๊งค์หรือหยอดเหรียญ 1 หยวนลงไปในกล่อง ที่วางอยู่ข้างคนขับ) ประตูขึ้น อยู่ทางด้านหน้า(สีเขียวๆน่ะ) ....อ้อ ลืมบอก เมืองจีนรถวิ่งขวานะครับ ไม่ใช่วิ่งซ้ายแบบที่บ้านเรา
026 รถเมล์ชั้นเดียว(ถ้าคันใหม่ๆหน่อย) ราคา 10 บาทตลอดสาย(ก็หยอด 2 หยวน) ... ประตูลง จะอยู่ตรงกลางตัวรถ ..ข้างในรถจะเล่นสองสามระดับ คือยิ่งเดินมาตอนท้ายๆรถ จะมีชั้นสูงขึ้นๆ.... เก้าอี้นั่ง จะหันแบบไร้ทิศทาง ...เรื่องผู้โดยสารขึ้น แบบยกของขึ้นไปด้วย นับเป็นเรื่องปกติครับ แต่ไม่ยักกะมีคนช่วย
027 แท็กซี่ ที่นี่จะใช้ยี่ห้อโฟล์คเป็นส่วนใหญ่ สีข้างรถแท๊กซี่จะใช้สองสี แต่จะเป็นสองสีอะไร คงจะขึ้นกับแต่ละบริษัท
อุอุ ทะเบียนรถมีภาษาอังกฤษปนอยู่ด้วย สำหรับภาษาจีน ก็ 3 ขีดข้างหน้าอักษร A นั่นแหละ
คำนี้เขียนว่า เสฉวน (มีคนเขาบอกผมมาอีกทีครับ)
028 จักรยาน น่ะของตาย มีอยู่แล้ว เยอะด้วย ...ดูเถิด สุดลูกหูลูกตา
029 มอเตอร์ไซค์ ก็เยอะไม่แพ้กัน
นี่ถ้าจะนำออกสักคัน คงต้องแซะกันนาน
030 มีเลนจักรยานอยู่ด้วย ...แต่ไม่แน่ใจว่า ใช่ บนฟุตบาทด้วยหรือเปล่า?? เพราะเห็นขี่จักรยานกันบนฟุตบาท เฉย เลย
จะเดินบนฟุตบาทที หุหุ จะกลัวเดินชนจักรยาน
031 ใช้เพื่อบรรทุกของก็ได้ ให้คนซ้อนท้ายก็ได้
032 รถสามล้อก็มี เยอะอีกนั่นแหละ ....ใช้บรรทุกคน พร้อมของ ...แต่บางทีก็เห็นมีแต่คนโดยสาร ...นั่งซ้อน 3 คน โฮะโฮะ
033 รถเข็น
034 เทรนด์เดียวกันเลย ... แต่เข็นไม่เท่ากัน
รู้จักเมืองเฉิงตู (Chengdu) กันสักนิด
เฉิงตู (Chengdu) เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ตั้งอยู่ใจกลางมณฑล บริเวณลุ่มแม่น้ำหมิน ประชากรเมืองเฉิงตู มีราว 10 ล้านคน จัดเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน ...ปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้
แม้ว่ามณฑลเสฉวน จะเป็นดินแดนแถบภูเขาสูง เพราะอยู่ใกล้กับทิเบต แต่เมืองเฉิงตู ตั้งอยู่บนที่ราบ จึงเดินเที่ยวหรือขี่จักรยานเที่ยวได้อย่างสบาย ภาพลักษณ์โดยรวมเป็นเมืองแบบทางใต้ มีถนนสายเก่าแก่กับร้านค้าร้านอาหารเรียงรายอยู่ตามสองข้างทางและตรอกซอกซอย ซึ่งจะคราคล่ำไปด้วยผู้คน พ่อค้า ลูกค้าที่ออกมาซื้อของกันตลอดทั้งวัน
ย่านการค้าของเมืองเฉิงตู มีศูนย์กลางอยู่ที่ถนนตงเฟิ่งลู่ และถนนตงต้าเจีย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอนุสาวรีย์ประธานเหมา
คำว่า เฉิงตู มีความหมายว่า ค่อย ๆ กลายเป็นเมือง ....เนื่องจากย้อนไปเมื่อราว 2,000 ปีที่แล้ว ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้มีการจัดการชลประทานขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดเป็นประจำทุกปี เมื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ชาวนาชาวไร่เพาะปลูกได้ดี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ...คนจึงเริ่มอพยพมาที่เมืองนี้ มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้ชื่อว่า เฉิงตู
035 ที่ใจกลางเมือง ...มีลานกว้าง ขนาดสักสนามหลวง ...ลานนี้ ถูกล้อมรอบด้วยถนนใหญ่ จะเดินเข้าไป ต้องรอจังหวะไฟแดง ....ลานกว้างนี้ จะมีคนนั่งแถวม้านั่ง หรือเดินเล่น(ไม่มีวิ่งจ๊อกกิ้งครับ) หรือ ไปสังสรรค์พบปะกันในวันหยุด มีคนนับพันนับหมื่นคน...มีทั้งไปแบบคู่ แบบครอบครัว และไปแบบกลุ่มเพื่อน ....เพราะใต้ดินของลานกว้างแห่งนี้ เป็นตลาดสินค้าราคาถูก แบบเดียวกับจตุจักร
.จากในภาพที่เห็น ทางซ้ายมือใกล้กับเสาสีเขียว จะเป็นแนวน้ำพุ เต้นระบำ
036 ข้างบน ทางทิศหนึ่งของลานกว้างนี้ มีอนุสาวรีย์ประธานเหมา พร้อมธงทิวสีแดง
037 และลานกว้างนี้ยังมีศูนย์การค้าอยู่ใกล้ๆ มีร้านสินค้าแบรนด์เนม และร้านอาหารแบบอเมริกัน เช่นแมคโดนัล สตาร์บัค ....ลูกค้าเยอะนะครับ ต้องรอคิวแต่ละคิวนานกว่าครึ่งชั่วโมง ยืนรอกันเมื่อยเลย.... ม๊ะ เราไปเปิดร้านพวกนี้ ที่เมืองจีนกันเถอะ? ...ตี๋ หมวย มีรวยเพียบ
038 ย่านนี้ จึงคราคล่ำ ไปด้วยคนรวย คนไม่รวย วัยรุ่น และนักท่องเที่ยว .....ผมเดาเอาว่า หากใครไปทริป เมืองเฉิงตู คงจะเคยแวะไปซื้อของแถวๆนี้ และคงจะเคยมีประสบการณ์การต่อราคาของ กันแล้ว ที่แม่ค้าจะส่งเสียงดังโวยวาย หากเราต่อแล้วเรายังไม่ซื้อ ..อุอุ เพราะเราจะไปลองต่อราคาที่ร้านอื่น ต่อมากกว่านี้อีกสักหน่อย...
039 ตำรวจนายนี้ เดินสังเกตการณ์อยู่บนถนนย่านนี้ บุคลิกตัวสูงใหญ่ทีเดียว สูงราว 180 เซน ...ยืนและเดิน หลังงี้ ตัวตรงเด๊ะ
040 ไปวัดครับ ...ชื่อวัดอะไร ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะอ่อนแอการฟังสำเนียงจีน ..คือ ผู้นำทริป เขาบอกนะครับ แต่ผมจำไม่ได้เอง
041 ไปถึง..ผมก็ยืนๆ ไหว้ๆ ไม่ได้กราบ หรือไม่ได้จุดธูป ใดๆดอก
042 แล้วทริปเรา ก็ไปสวนสัตว์กัน คนเยอะน่าดู ...คนจีนหอบลูกจูงหลานเข้าไปเที่ยวเรือนพันเรือนหมื่น...ที่จริงผมก็ถ่ายรูปครอบครัวคนจีน มาเยอะนะครับ ทั้งปู่กะหลาน นายทหารกับแฟน เด็กแฝดที่น่ารักๆ....แต่ไม่กล้านำมาลง กลัวจะโหลด บล๊อกช้า
043 หมาแพนดี้
044 อยู่คนละกรงกันครับ กรงนี้มีสนามหญ้า ...อยู่ไกล ต้องซูมภาพจนเมื่อยมือ
045 ลิงสีทอง
046 เสืออะไร ก็ไม่รู้
047 นกฟลามิงโก
048 แล้วก็ถึงรูปสุดท้าย...นกเพนกวิน มีอยู่ราว สิบกว่าตัว
จิ่วจ้ายโกว ยังไม่หมดครับ ยังมีต่อ.....
ตอนต่อไป ชื่อตอนว่า แจ๋ว ....เพราะจะชวนไปดู ธารน้ำ ใสแจ๋ว......
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 19:29:05 น. |
|
15 comments
|
Counter : 3792 Pageviews. |
|
|
|