มากกว่าข้าวเหนียวหมูปิ้ง
มากกว่าข้าวเหนียวหมูปิ้ง
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นข้าวเหนียวที่กินร่วมกับหมูปิ้ง ที่ปิ้งใหม่ๆร้อนๆนั่นเอง
จัดว่าเป็นอาหารพื้นๆธรรมดาคนไทย ที่เพื่อนๆอาจจะเคยเห็นและอาจจะเคยกิน เพราะมีขายกันอยู่ทั่วไปในทุกจังหวัด มีทั้งแบบแผงลอยและแบบเร่ขาย
แถมเดี๋ยวนี้มีแฟรนไชส์ด้วยคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ผมเองก็กินข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ออกบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะกินในตอนเช้า กินกับกาแฟที่ชงกินเองที่โต๊ะ แต่พักหลังๆก็ซา การกินข้าวเหนียวหมูปิ้งลงบ้างแล้ว เพราะกลิ่นอย่างหนึ่ง
กลิ่นหมูปิ้งเนี่ย ค่อนข้างแรง กินทีไร คนในห้องเขารู้กันทุกที
กับอีกอย่างหนึ่งคือ กินแล้วจะอ้วนง่าย แม้จะเลือกหมูที่ไม่ค่อยจะมีมันแล้วก็ตาม แต่มันอ้วนเพราะข้าวเหนียว กินข้าวเหนียวหมูปิ้งต่อเนื่องกันทุกเช้าแค่สักสองสามวันเอง รู้เรื่องเลย น้ำหนักมันจะขึ้นเอา
แต่ผมก็ไม่เคยทำเป็นไม่เห็นนะ เจ้าร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งเนี่ย สักอาทิตย์-สองอาทิตย์ก็กินสักเช้าหนึ่งอีกละ (เพียงแต่กินที่บ้านในวันหยุด) ส่วนเช้าอื่นๆก็หมุนเวียนกินอย่างอื่นไป มีทั้งสาคูไส้หมู ขนมจีบ ซาลาเปา ปั้นสิบ แฮมเบอร์เกอร์ ขนมครก เป็นต้น
ไม่อยากจะกินอย่างใดเพียงอย่างเดียว เดี๋ยวจะเป็นมะเร็งเอา ส่วนใหญ่ก็กินกับกาแฟ
โฮะโฮะ คนติดกาแฟ
.
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นธุรกิจที่ทำง่าย ขายง่าย ลงทุนไม่แพง
ขายเช้าก็ได้ ขายตอนเย็นก็ได้ ขายหน้าโรงเรียน ขายหน้าตลาด แถวป้ายรถเมล์ แถวหน้าโรงพยาบาล ขายได้ทั้งนั้น กำไรก็พอจะอยู่ได้
บางร้านที่เคยถามเขาดู เขาบอกว่า กำไรประมาณวันละ 500 บาท ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นเก่าๆธรรมดามากๆ
ยิ่งถ้าหากมีการพัฒนารูปแบบ อย่าทำให้เหมือนผู้ขายรายอื่นๆ ผู้ซื้อก็จะมีโอกาสเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ จะได้เป็นลูกค้าประจำซื้อกันทุกๆวัน ยิ่งถ้าอร่อยด้วยแล้ว ผู้ซื้อก็จะต้องรอคิวกันพอสมควรละ เช่น
ข้าวเหนียวหมูสับปิ้ง ทำจากนำหมูสับมาหมักสัก 1 ชั่วโมง โดยหมักรวมกับกับซ้อส กระเทียม พริกไทย และน้ำตาลทราย แล้วปั้นด้วยมือเป็นก้อนแน่นๆในฝ่ามือ จากนั้นแผ่ออกแบนเล็กน้อย ใช้ไม้ไผ่ชิ้นเล็กคีบไว้ แล้ววางลงบนตะแกรงปิ้ง รอให้ด้านหนึ่งที่โดนความร้อนเริ่มสุกเสียก่อนแล้วจึงจะพลิกกลับอีกด้านหนึ่งได้ จะได้ไม่เละ
หมูหยอง
หมูหวาน
ข้าวเหนียวหมูหยองก็ได้ แล้วยังมี ข้าวเหนียวหมูหวาน ข้าวเหนียวหมูเค็ม ข้าวเหนียวหมูพริกเผา ข้าวเหนียวหมูยอ ข้าวเหนียวตับหวาน ข้าวเหนียวปลาหวาน หรือข้าวเหนียวแหนม
ข้าวเหนียวแหนม ก็ยังแยกย่อยออกไปได้อีก เช่น ข้าวเหนียวแหนมหมูผสมหนังหมูนิดหน่อย ข้าวเหนียวแหนมหมูล้วนๆ ข้าวเหนียวแหนมหูหมู ข้าวเหนียวแหนมคอหมู ข้าวเหนียวแหนมกระดูกหมูอ่อน
ส่วนข้าวเหนียวนึ่ง ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางครั้งบางคราวเป็น ข้าวเหนียวดำนึ่ง ข้าวเหนียวนึ่งผสมธัญพืช พวกถั่วทองนึ่ง(ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำขนมถั่วแปบ ขนมเต้าส่วน) พวกงาขาวคั่ว งาดำคั่ว ลูกเดือยนึ่ง หรือแป๊ะก๊วยนึ่ง
หรือจากข้าวเหนียวนึ่งเปลี่ยนเป็น ผัดมาม่าผสมผักเล็กน้อยก็ได้
และอาจจะแซมพืชผัก ขายรวมเข้าไปด้วย แต่ต้องเป็นชิ้นเล็กๆนะครับ ไม่งั้นจะอิ่มเกินไป เช่น ฟักทองนึ่ง กล้วยน้ำว้านึ่ง มันนึ่ง เผือกนึ่ง แห้วนึ่ง แครอทนึ่ง หรือแม้แต่ขิงดอง แตงกวาดอง รวมทั้งพวกผักกระเฉดลวก
นี่ถ้าจัดให้ดี การพัฒนารูปแบบแบบใหม่ ก็จะทำให้ข้าวเหนียวนึ่งที่มีกับข้าวแบบต่างๆนี้ มีสีสันที่น่ากินกว่าเดิม คุณค่าทางอาหารก็สูงกว่าเดิม แถมจะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ ไม่จำเจแค่ข้าวเหนียวหมูปิ้งธรรมดาๆ
Blog คราวนี้ ขอชักชวนให้มารู้จักร้านข้าวเหนียวแหนมกระดูกหมูอ่อนกันครับ
รัชยา สุทธิถนอม ชื่อเล่นเบิร์ด ชายอายุ 46 ปี มีอาชีพขายข้าวเหนียวแหนมกระดูกหมูอ่อน เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า...
หลังจากเรียนจบสายพาณิชย์ก็เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งนานถึง 12 ปี อายุก็มากขึ้น แต่เงินยังไม่มีเก็บ และคิดว่าวันหนึ่งอาจจะทำงานแบบนี้ต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาทำอาชีพที่ชอบและอยากทำมานาน คือการทำอาหารขาย
ผมมีความผูกพันกับการค้าขายตั้งแต่เด็ก แต่ไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง จนมาวันหนึ่งคิดถึงอนาคตว่า แก่ตัวไปประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งลดลง เขาคงจะไม่ให้ทำงานต่อ แล้วจะทำอย่างไร ผมก็สังเกตเพื่อนในโรงงานว่าชอบกินอาหารแนวไหนที่ราคาไม่แพง ความคิดก็มาลงตัวที่ข้าวเหนียวนึ่ง จึงลาออกจากงานประจำ มาทำข้าวเหนียวไก่ทอดขายข้างโรงงานนี่เอง
จากนั้นก็พัฒนาดัดแปลง ปรับเปลี่ยน หาอะไรที่ทานคู่กับข้าวเหนียวมาเสริมขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า จนปัจจุบันนี้มีคนจากทุกอาชีพมาเป็นลูกค้าประจำ มาซื้อที่ข้างโรงงานนี้แหละ
ปัจจุบันนอกจากจะขายข้าวเหนียวนึ่งกับแหนมกระดูกหมูอ่อนหรือที่บางคนเรียกว่า หมูเปรี้ยว แล้ว สินค้าที่ขายกับข้าวเหนียวยังรวมถึง
ปลาดุกแดดเดียว, ปลาส้มทอด, เนื้อทอด, ไข่ปลาทอด, ไก่ทอด, ไก่ฉีกฝอยทอด ซึ่งลูกค้าอาจจะซื้อเพียงอย่างใดอย่างเดียวหรือจะซื้อรวมๆกันหลายอย่างก็ขาย
นี่อาจจะเป็นจุดดึงดูดลูกค้า หรือจุดสร้างความแตกต่างจากผู้ค้ารายอื่น
คุณเบิร์ดบอกว่า โดยมากจะซื้อของที่เขาทำสำเร็จแล้วจากเจ้าประจำ แล้วผมจะนำมาปรุงแต่งเพิ่มเติมให้อร่อยยิ่งขึ้นอีกที ออกจากบ้านไปซื้อของส่วนใหญ่ตอนตี 1 จากนั้นก็จะมาเตรียมของ เริ่มจากแช่ข้าวเหนียว เตรียมส่วนผสมต่างๆ แล้วนำของสำเร็จรูปที่ซื้อมา มาทำการปรุงรสใหม่ ส่วนไก่สดก็ทำการหมักคลุกเคล้าปรุงเตรียมเอาไว้ กว่างานจะเสร็จก็ประมาณตี 3 และสุดท้ายก็จัดร้านเพื่อเริ่มขายตอนตี 5 และจะขายหมดประมาณหลังเที่ยง
เทคนิคการขาย ของคุณเบิร์ด นอกจากจะมีสินค้าที่หลากหลายแล้ว ปริมาณของที่หยิบตักให้ลูกค้า ลูกค้าทุกคนเห็นแล้วจะต้องตกใจ เพราะมากทั้งข้าวเหนียวและกับข้าว เรียกว่าแทบจะกินไม่หมดกันละ
คุณเบิร์ดบอกว่า ผมต้องการให้คนซื้อได้กินอิ่มจริงๆ กำไรนิดหน่อย แต่อาศัยขายได้ปริมาณมาก มีลูกค้าประจำมาซื้อทุกวัน ผมก็พออยู่ได้
พอกระซิบถามคุณเบิร์ดเบาๆว่า กำไรประมาณ 1,000 บาทต่อวันได้มั๊ย? คำตอบก็คือ ก็คงจะได้ แต่บางวันก็มากกว่า
อาชีพนี้ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ได้แก่.. เตาแก๊ส, ถาดสแตนเลส, กะละมัง, กระทะ, หม้อ, ทัพพี, ตะหลิว, ตะแกรง, กระชอน, รังถึง, ไม้พาย, และกระติกน้ำแข็ง สำหรับใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วเพื่อเก็บความร้อนไว้นานๆ เป็นต้น
วัตถุดิบหลักๆที่ใช้ก็มี.... ข้าวเหนียว, แหนมกระดูกหมูอ่อน, ปลาดุกแดดเดียว, ปลาส้ม (ปลาตะเพียนหรือปลายี่สก), เนื้อตุ๋นยาจีนปรุงรส, ไข่ปลาหมัก, ไก่สด, แป้งทอดกรอบ, ซอส, ผงปรุงรส, พริกไทย, กระเทียม, เกลือ, น้ำตาลทราย และน้ำมันพืช
ขั้นตอนการเตรียมของ.... เริ่มจากการนึ่งข้าวเหนียวก่อนเป็นอันดับแรก โดยนำข้าวเหนียวมาซาวน้ำให้สะอาด แช่น้ำนานประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งโดยนำผ้าขาวบางปูในรังถึง แล้วใส่ข้าวเหนียวในผ้าขาวบาง ปิดฝา นึ่งบนน้ำเดือดนานประมาณ 30 นาที ใช้ไม้พายกลับข้าวเหนียว คนให้สุกทั่วกัน แล้วนำลงเก็บในภาชนะที่เก็บความร้อน คือ กระติก รองข้าวเหนียวในกระติกด้วยผ้าขาวบาง จะทำให้ข้าวเหนียวนิ่มและคงความร้อนอยู่ได้นาน ปิดฝากระติกให้มิดอย่าให้ถูกลม มิฉะนั้นข้าวเหนียวจะแข็ง
การปรุงรสแหนมกระดูกหมูอ่อน (หมูเปรี้ยว) ต้องทำล่วงหน้า 3 วัน โดยนำกระดูกหมูอ่อนมาต้มให้สุก แล้วนำไปหมักกับเกลือ ข้าวเหนียวนึ่ง กระเทียม น้ำตาลทราย และดินประสิว หมักไว้ประมาณ 3 วัน ขณะหมักอาจจะใช้พริกขี้หนูชนิดเม็ดหมักลงไปด้วย ช่วงเวลาหมักจะต้องมัดด้วยพลาสติกให้แน่นและทิ้งไว้ในภาชนะปิดไม่ให้อากาศเข้า
การปรุงรสปลาส้ม ต้องทำล่วงหน้า 3 วัน ใช้ปลาสด เช่นปลาตะเพียน หรือปลายี่สก เกลือ ข้าวเหนียวนึ่ง กระเทียม น้ำตาลทราย และดินประสิว นำปลาสด มาขอดเกล็ด ควักไส้ บั้งตามข้างลำตัวทั้ง 2 ด้าน ล้างน้ำให้สะอาด ผสมกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในภาชนะปิด และกดทับด้วยน้ำหนักประมาณ 1-3 วัน จะได้ปลาส้มรสอร่อย และก่อนลงนำไปลงทอดในกระทะ ต้องคลุกเคล้ากับแป้งทอดกรอบนิดหน่อย เพื่อความสวยงามชวนให้น่ารับประทาน
เนื้อตุ๋นยาจีนสำเร็จรูป ซื้อเขามาแล้วนำมาปรุงรสให้เข้มข้นขึ้นด้วยการเติมน้ำมันหอย ผงปรุงรส และน้ำตาลทรายนิดหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักแล้วนำไปทอด
ปลาดุกแดดเดียว ซื้อเขามา แต่ไม่ต้องปรุงรส เพราะรสชาติพอดีอยู่แล้ว
ไก่ทอด ก็นำไก่สดที่ตอนซื้อมีการแยกส่วนเรียบร้อยแล้ว นำมาหมักกับเครื่องปรุง เช่น น้ำซอส, น้ำตาล, ผงปรุงรส, ผักชี, พริกไทย, กระเทียมโขลก, แป้งทอดกรอบ ผสมคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วก็ทอดได้เลย ทอดออกมาก็คล้ายๆกับ ไก่ทอดเคเอฟซี
ไข่ปลาทอด จะเป็นไข่ปลาตะเพียนหมัก ซึ่งจะมีเฉพาะช่วงที่ปลาวางไข่ นำมาปรุงรสด้วยผงปรุงรสและไข่ไก่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปทอด จะให้รสชาติเปรี้ยวๆ มันๆ อร่อยไปอีกแบบ นอกจากนี้ผมจะมีพริกขี้หนูสดแถมให้ผู้ซื้อ สำหรับคนที่ชอบรสเผ็ดจัดจ้าน
สำหรับราคาขาย ข้าวเหนียวกับกับข้าวอย่างใดอย่างเดียว 20 บาท ถ้าผสมสองอย่างคิดราคา 25 บาท แต่ไม่ต้องกลัว ผมรับรองว่าอิ่มแน่ จะให้จนอิ่มไปถึงเที่ยงทีเดียว
หรือหากใครจะต้องการซื้อแต่กับข้าวเพียงอย่างเดียว พวกเนื้อทอด, หมูเปรี้ยว ขายขีดละ 40 บาท, ปลาดุกทอด 2 ตัว 15 บาท, ปลาส้มชิ้นละ 10 บาท, ไก่ทอดชิ้นละ 15 บาท
ใครสนใจข้าวเหนียวนึ่งพร้อมสารพัดกับข้าว บนหน้าข้าวเหนียวนึ่ง สูตรของคุณเบิร์ด ร้านนี้จะขายอยู่ในซอยวิภาวดีฯ 64 ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เข้าซอยไปไม่ถึง 100 เมตร สังเกตขวามือ ข้างๆ บริษัทฮาน่า หรือจะโทร. 0-5109-3299.ก็ได้. ร้านนี้จะหยุดวันจันทร์เพียงวันเดียว.
รูปนี้เป็นหมูปิ้งอีกรูปแบบ ของร้านอื่น
Create Date : 15 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 15 สิงหาคม 2549 23:07:04 น. |
|
58 comments
|
Counter : 13264 Pageviews. |
|
|
|
สนสบายดีนะครับ