เบิร์ด #2
เบิร์ด บล๊อกเรื่องนี้ เป็นตอนจบ ซึ่งต่อมาจาก เบิร์ด บล็อกที่แล้ว .... ผมนำเรื่อง เบิร์ด ทั้งสองตอน... มาจากนิตยสาร แพรว ฉบับครบรอบวันเกิดนิตยสาร แพรว ปีที่ 27 ฉบับที่ 648 25 สิงหาคม 2549 ซึ่งก็คือ ฉบับของเมื่อกลางปีที่แล้ว เหตุที่นำเรื่อง เบิร์ด มาลง ...เพราะผมชอบความสามารถของเบิร์ด ทั้งเสียงร้อง, การเอนเตอร์เทนผู้ชม, การดูแลตนเองเป็นอย่างดีทั้งด้านสุขภาพและด้านภาพลักษณ์, และที่สำคัญ เบิร์ดรักครอบครัวและรักคุณแม่ด้วยหัวใจ ข้างล่างนี้เป็นข้อมูลในนิตยสาร แพรว ล้วนๆ สัมภาษณ์
. เรื่อง ปัญญ์
ภาพ สุเมธ .....ผู้ช่วยช่างภาพ ชุติมา มลิชัยศรี Happy Bird Day ทุกวันนี้เช็คข่าวตัวเองบ้างไหมคะ มีบ้างประปราย คือเปิดหนังสือพิมพ์แล้วจำหน้าตัวเองได้ ก็ไม่อ่าน แต่ถ้าเปิดแล้วเอ๊ะ... หน้าเราหรือเปล่า อย่างนั้นจะอ่านว่ามีอะไร (หัวเราะ)กับข่าวที่หมอฟันธงทำนายไว้ละคะ ฟังแล้วก็ขอบคุณ แธ้งกิ้วครับ ไม่ว่าใครพูดอะไร เบิร์ดไม่เคยโกรธ สังคมจะดูแลเราเอง โชคดีที่คนไทยดูแลรักเราเพราะเราก็รักเขา แคร์เขา ให้เกียรติเขา เวลามีอะไรเขาจึงพร้อมจะปกป้องเราเสมอ ปกติแล้วเบิร์ดสู้กับเพลงได้ สู้กับคนดูได้ แต่กับอะไรที่ไม่ดี เบิร์ดไม่สู้ด้วย แพ้ทางกัน ใครมาอะไรใส่เบิร์ด เขาเลยรู้สึกไม่สนุก เพราะเบิร์ดไม่ตอบโต้เขา 002 ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างไหมคะ ติดตามใกล้ชิด อย่างตอนมีพระราชพิธี 5 วัน ก็นั่งเฝ้าหน้าจอ ตอนในหลวงท่านออกมาโบกพระหัตถ์ให้ประชาชน เบิร์ดกับพี่น้อยน้ำตาพุ่งเลย อยากให้พวกเราร้องไห้พร้อมกันเหมือนวันนั้นอีก ร้องด้วยความสุขแบบวันนั้นทุกวัน เพราะได้เห็นสายพระเนตรของล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ ทรงปลื้มและอิ่มพระราชหฤทัยมากๆ ตอนนี้เบิร์ดเอาใจช่วยประเทศอยู่ เราเจอเรื่องต่างๆมาเยอะ ใจหนึ่งก็อยากออกมาเต้น อีกใจก็อยากให้พวกเรารวมใจถวายในหลวง รักพระองค์ท่านให้มากๆ ทนกันอีกนิด พอองศาดาวเปลี่ยนไป ทุกอย่างน่าจะกลับมาดีเอง ส่วนงาน เบิร์ดก็เตรียมอยู่ ความพร้อมมีหมด เบิร์ดพร้อม ดนตรีพร้อม ทีมพร้อม คนดูพร้อม เสียงกรี๊ดมา (หัวเราะ) พอเรื่องยุ่งๆของประเทศผ่านไป เบิร์ดจะได้ออกมาเต้น ทำหน้าที่หน่วยบำรุงขวัญได้ทันทีเบิร์ดว่าสิ่งที่ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมได้ ในตอนนี้คืออะไรคะ เราน่าจะใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว ทำใจให้นิ่ง ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด อยู่กับครอบครัว กับพระ กับตัวเอง ดูแลหน่วยเล็กๆของเราให้ดี แล้วจะรู้ว่า นี่แหละคือที่ที่อบอุ่น พอเราเห็นความรักในครอบครัว ก็จะไม่อยากทำอะไรที่ไม่ดีให้คนในครอบครัวต้องเป็นห่วง ฟังตัวเองด้วยว่าเข้าใจอะไรผิดถูกอยู่บ้างไหม แล้วกรองให้ดี หลังจากนั้นก็มองขึ้นไปที่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ซึ่งพวกเรารักและบูชาเหนือสิ่งอื่นใด น้อมเกล้าฯ ถวายความรักความสามัคคีของพวกเราแด่พระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านทรงงานหนักมาตลอด และก็ยังไม่ทรงหยุดยั้งเลย เสด็จทรงงานในที่ที่ลำบากทั้งนั้น มาจนถึงวันนี้ ความรักและความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติจะเป็นเสมือนพระราชโอสถและวิตามินที่ดีเลิศที่จะทำให้คนทั้งสองพระองค์ทรงมีพระพลานามัยและพระราชหฤทัยแข็งแรงตลอดไป(หมายเหตุจากจขบ.1 : เบิร์ด ร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้หลายเพลง เช่น เพลงต้นไม้ของพ่อ, รูปที่มีทุกบ้าน, ของขวัญจากก้อนดิน เป็นต้น เพลง "ของขวัญจากก้อนดิน" เป็นเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 จัดทำโดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) คำร้อง/ทำนองโดย นิติพงษ์ ห่อนาค, เรียบเรียงโดย สราวุธ เลิศปัญญานุช, และขับร้องโดย ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นเพลงเทิดพระเกียรติเพลงหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากจากชาวไทย นิติพงษ์บอกว่า เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพระนาม "ภูมิพลอดุลยเดช" ซึ่งแปลว่า มีกำลังในแผ่นดินจนมิอาจชั่งได้ เนื้อหาในเพลงจึงสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทรงเป็นกำลังของแผ่นดินไทย อันเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งขาติ หากต้องการฟังเพลงนี้ เชิญกดฟังที่นี่ ในรอบแรกที่เปิด เพลงจะสะดุดหน่อย หมั่นคอยกดปุ่มเพลย์นะครับ แต่พอรอบ 2, 3, 4 เพลงจะไม่สะดุดครับ) 003 เบิร์ดใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างไรบ้างคะ ไม่ค่อยมีนะ มีก็ที่บ้านแม่ขะจาน เชียงราย ได้ขี่จักรยานเล่นไปรอบๆหมู่บ้าน แต่อยู่กรุงเทพฯไม่เคยไปไหนเลย พารากอนเคยไปครั้งเดียวตอนไปรับรางวัลเอ็มทีวี แต่ไม่ได้เดินเล่น ...ไปดูหนังตามโรงนับครั้งได้ ล่าสุดคือเรื่อง มหาลัยเหมืองแร่ ไปเพราะเขาเชิญมา อินเทอร์เน็ตก็ไม่เปิดด้วย ให้พี่น้อยเปิด เขาชำนาญ ไม่อยากรู้มากไปกว่านี้แล้ว เดี๋ยวภาพแห่งความสนุกจะหายไป(หมายเหตุจขบ.2 : สงสัยว่าเบิร์ดจะรู้จัก pantip หรือเปล่า? ...อิอิ) 004 มองชีวิตที่ผ่านมายังไงคะ ทางที่ผ่านมานั้นยาวมาก แต่ถ้าให้ดีดนิ้วแก๊กหนึ่งแล้วกลับไปอยู่จุดเดิมในสลัม ก็อยู่ได้นะ แต่คงไม่มีใครไปด้วยแล้ว(หัวเราะ) เบิร์ดไม่กลัวความลำบาก แต่ก่อนกินข้าวได้เยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ ทั้งที่ไม่มีเงิน ต้องไปเซ็นติดค่าข้าวสารเขาทีละถัง แต่เดี๋ยวนี้มีข้าวเป็นนาเลย กลับกินไม่ได้มาก กินได้แต่ผักกับปลา บุญ บุญ บุญ ทั้งนั้น (หัวเราะ....) แต่ชีวิตนี้ได้เกินที่หวังแล้ว แต่เรายังรักที่จะสนุก มีความสุขแบบนี้อยู่ ไม่รู้ว่าเป็นนิสัยหรือความเคยชิน ยังมองเห็นเส้นทางที่อยากเดินไปตลอดเวลา ได้ยินเสียงเพลงแล้วไม่รู้จักเบื่อ ยังอยากทำให้คนอื่นมีความสุข อยากได้ยินคนพูดว่า สนุกจังเลย เพลงเพราะมากๆ ..ทุกครั้งที่เจอกัน ต้องให้เขาชื่นชม ชื่นใจ ให้เขาอยากหอม เพราะตั๋วเราก็แพง อยากให้เขารู้สึกคุ้มไม่เคยคิดคำว่า เกษียณ เลยสิคะ ยิ่งอยู่ตรงนี้มานาน จุดมุ่งหมายปลายทางที่จะหยุดร้อง ยิ่งดูห่างไกลออกไปอีก เพราะรู้แล้วว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไร ร้องเพลงให้สนุกอย่างไร ทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข รวมทั้งตัวเอง .. คิดถึงขนาดว่า ถ้าอายุ 75 ปี เราจัดคอนเสิร์ต เอาเพลงเก่าๆของเรามาร้อง ต้องสนุกแน่ๆ (ทำหน้ามันเขี้ยว) เบิร์ดไปหาหมอมา เพราะทำโยคะแล้วตกใจว่าทำไมตัวเราอ่อนขนาดนี้ (หักข้อมือให้ดู จนปลายนิ้วแตะข้อมือ) หมอก็บอกว่า มีคนทำได้แบบนี้แค่หนึ่งในล้านเท่านั้น แต่เบิร์ดต้องเต้นตลอดชีวิตถึงจะดี เบิร์ดฟังแล้วขอบคุณมาก ...แต่อย่าไปพูดให้พี่บูลย์ได้ยินเชียวนะ (หัวเราะ) ฟังหมอแล้วรู้ตัวว่า เราคงต้องอยู่ตรงนี้ต่อไปอีกนาน 005 แล้วมีอะไรที่ยังอยากทำอีกบ้างไหมคะ ที่อยากทำ บอกไปก็คงเขียนลงไม่ได้ (หัวเราะดัง.....) ไม่ผ่านเซ็นเซอร์แน่ เบิร์ดอยากทำเหมือนวันที่ผ่านมา อยากมีความสุข มีพลังแบบนี้ ไม่อยากให้ถดถอย ในวันเกิดเบิร์ดปีหนึ่ง อาหรั่งเคยอวยพรให้ว่า ขออย่าให้ถดถอย อย่าคิดอะไรถดถอย ซึ่งเบิร์ดจำได้แม่นมาก....ขอบคุณครับอาเพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าเบิร์ดจะยอมถดถอย กรุณารอเลย See you soon. 006 007 เพื่อนๆครับใน นิตยสาร แพรว เล่มนี้มีภาคผนวกด้วย... เชิญอ่านครับ ภาคผนวก Bird 008 เป็นภาพแรกที่ได้ไปทำงานภาพถ่ายนิ่งให้กับขนมขบเคี้ยว จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร และถ่ายไปก็ไม่เห็นมีออกมาให้เห็น จำได้อีกอย่างว่า ได้ค่าตัวมา 5,000 บาท ถูกหักเปอร์เซ็นต์ยังไงไม่รู้ เหลือมาถึงเบิร์ด 1,500 บาท หรูสุดๆแล้วเวลานั้น 009 เริ่มเข้าไปในโรงเรียนการแสดง (Showbiz) ครั้งแรกกับคุณเล็ก - ภัทราวดี มีชูธน งานนี้สอนเราให้ได้ดีจนถึงปัจจุบันนี้ 010 หลังจากอัลบั้มแรกในชีวิต หาดทราย สายลม สองเรา ออกไป นี่คือคอนเสิร์ตในระยะแรกๆ รูปนี้ จากรายการคอนเสิร์ตลืมโลก ตอนนั้นดูไม่ออกเลยว่า ตรงไหนที่ทำให้แฟนเพลงรักเรา ดูตัวเองก็เห็นว่าอ้วน ดำ ทำสารพัด ถึงวันนี้....ก็ยังทำอย่างนั้นอยู่ 011 เป็นการถ่ายปกเทปของอัลบั้มแรกในชีวิต ที่ต่อมามีชื่อว่า หาดทราย สายลม สองเรา วันนั้นทำงานโดยที่ยังไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ฟังคุณหนูเล็ก (บุรณี รัชไชยบุญ) ก็ไม่รู้เรื่องว่าให้เบิร์ดทำอะไร ไม่เข้าใจ ให้เดินไปเดินมาทั่วสถานีรถไฟบางกอกน้อย ยังถามเขาว่า ทำไมไม่ให้อยู่นิ่งๆ แล้วจะจับภาพได้เหรอ แต่ต่อมารูปชุดนี้ก็ไม่ได้ใช้ ที่จำได้อีกอย่างคือ คุณหนูเล็กเดินส่ายหัวอย่างเดียว คงคิดด้วยว่า.....อ้วนเหลือเกิน 012 ภาพนี้อยู่กับเบิร์ดตลอดเวลา ถ่ายสมัยงานคอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ดอีกแบบ ครั้งที่ 2 ของคอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ด แต่เป็นครั้งแรกที่แสดงในศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากแม่หอมอวยพรให้เบิร์ดแล้ว ยังมีลายมือของแม่เขียนอวยพรให้กับเบิร์ด ทั้งๆที่แม่เขียนหนังสือไม่ได้ แต่แม่ก็พยายาม 013 ประทับใจเหลือเกิน มองเห็นแม่อุ๊ยอยู่ไกลกว่า 100 เมตร แต่ท่านนั่งกราบรอ พระอภิชโย แล้วใส่บาตรด้วยความศรัทธา เห็นภาพนี้ครั้งไร ก็อยากกลับไปบวชอีกสักครั้ง พี่น้อง ญาติๆเลยเอาไปซ่อน เบิร์ดแอบไปเอามาให้ดูกัน 014 ต้องกราบขอบพระคุณคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ที่ท่านได้ให้โอกาสเบิร์ดไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก เป็นงาน World Pop Song Festival ที่ประเทศญี่ปุ่น เบิร์ดไม่ได้เป็นนักร้องชนะเลิศจากเมืองไทย แต่ท่านกรุณาให้ไปสังเกตการณ์ ยังจำคำพูดท่านได้ดีว่า อยากให้เบิร์ดได้มีโอกาสได้เห็นงานนี้ จัดที่โคโดกันฮอลล์ (Kodokan Hall) ได้พบอาร์ติสน์นานาชาติ ที่สำคัญที่สุดคือ โอกาสในวันนั้นทำให้เบิร์ดมีโอกาสถึงวันนี้ 015 งานนี้เบิร์ดร่วมทำเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จย่า เมื่อครั้งฉลองพระชนมายุ 90 พรรษา รู้สึกกลัวซ้อนไม่กลัว ยังจำได้ว่า คุณพิษณุ นิลกลัด บรรยายทางโทรทัศน์ว่า ให้พวกเรา(แฟนๆ) ช่วยอธิษฐานให้พี่เบิร์ด รับคทาได้ทุกครั้งที่โยนด้วย..... แล้วก็ไม่พลาดสักครั้ง แต่ใครจะรู้ว่า คทาฟาดไปทั่วตัวเบิร์ดทั้งหัวและหลัง.ส่วนข้างล่างนี้ ผมรวบรวมมาให้เพิ่มเติม Profile เบิร์ด เบิร์ด หรือ ธงไชย แมคอินไตย์ หรือ อัลเบิร์ท แมคอินไตย์ เป็นบุตรคุณพ่อ เจมส์ แมคอินไตย์ และคุณแม่ อุดม แมคอินไตย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2501
อายุนับถึงวันนี้ 49 ปี เบิร์ดเป็นคนไทย สัญชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ ...ไปลงบัตรเลือกตั้งทุกครั้ง ความ สูง 177 ซม. นํ้าหนัก 65 กก. การศึกษา : ร.ร. วัดนิมมานรดี, ร.ร. วัดปัญญาวรคุณ และ พาณิชยการ ธนบุรี ที่อยู่ : บ้านใบไม้ 1166/2 สุขุมวิท 101/1 ซ.วชิรธรรมสาธิต 48 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ 10250 อาชีพ : ดารา - นักร้อง สังกัดค่าย แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด มหาชน และเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด มหาชน.ใครชอบเบิร์ดบ้าง? ยกมือขึ้น
.อิอิ ผมยกสองมืออยู่แล้ว วันที่ 8 ธันวาคมนี้ เป็นวันครบรอบวันเกิด 49 ปี ของเบิร์ด ผมขออวยพรให้เบิร์ด ...มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากภยันตราย ปลอดภัยจากความรู้สึกอิจฉาและการมุ่งประสงค์ร้ายของใครๆ(หากจะมี)..ขอให้มีแต่คนรักคนนิยม สมหวังในทุกๆสิ่งที่มุ่งหวัง ...สามารถแสดงคอนเสิร์ตได้ ในปีที่อายุ 75 ...ขอให้มีความสุขมากๆในวันเกิดปีนี้นะครับ.จาก สิน yyswim
Create Date : 07 ธันวาคม 2550
44 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2550 0:13:13 น.
Counter : 7342 Pageviews.
นก-อัญชนา คุ้มวงษ์ - ช่างแต่งหน้า
"พี่ทำงานกับพี่เบิร์ดมาตั้งแต่ปี 2530 ราวๆ 20 ปีมาแล้ว จำได้ว่าเจอกับพี่เบิร์ดตั้งแต่ตัวเองอายุ 19 ปี รู้เลยว่าพี่เบิร์ดเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากๆ เป็นคนมีน้ำใจกับทุกๆคน เขาดูแลคนรอบข้างเป็นอย่างดี ไม่เคยมีคราบของคำว่าซูเปอร์สตาร์ ...คำว่า "ซูเปอร์สตาร์" เนี่ย เป็นคำที่ทุกคนตั้งให้พี่เขาเอง แต่พี่เขาไม่ได้ทำตัวเป็นซูเปอร์สตาร์เลย ...พี่เบิร์ด ดูแลทุกคน ไม่เคยว่าร้ายใคร ถ้าจะพูดถึงคนอื่น พี่เบิร์ดก็จะพูดถึงแต่สิ่งดีๆ
พี่เริ่มแต่งหน้าให้พี่เบิร์ดจริงจังแบบเต็มตัว ตั้งแต่อัลบั้ม "ตู้ยาสามัญประจำบ้าน" ทั้งๆที่เรามักจะมีความเกร็งในการแต่งหน้ากับคนดังคนอื่นๆ แต่กับพี่เบิร์ด นี่ ไม่เลย ด้วยความที่พี่เขาเป็นคนกันเองมากๆ ทำงานด้วยแล้วจะมีความสุขทุกครั้ง ถึงแม้จะเหนื่อยยังไงแต่ก็มีความสุข เพราะทำงานด้วยแล้ว พี่เขาจะมีแก๊กตลกๆ ให้พวกเราได้ขำตลอดเวลา
"คือเวลาที่แต่งหน้าให้ พี่เบิร์ดจะไม่เคยบอกเราว่า ต้องแต่งหน้าโทนนี้นะ ไม่เคยกำหนดว่าจะต้องใช้ครีมยี่ห้อนั้น นี้ หรือว่าเอาครีมรองพื้นยี่ห้อดังๆ ซึ่งครีมที่เราใช้ให้พี่เบิร์ดประจำ บางครั้งก็เป็นยี่ห้อ ยูสตาร์, คัพเวอร์มาร์ค, ชาแนว, ซิสเล่ คือ พี่เบิร์ดใช้ได้ทุกยี่ห้อค่ะ แล้วแต่ว่าช่วงไหนยี่ห้อไหนเขาฮิตกัน ก็คือ ใช้ยี่ห้อทั่วๆ ไป
พี่เบิร์ดไม่ใช่เป็นคนเจ้าสำอางนะ คือ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ธรรมดามากๆ ดาราบางคนยังหอบเครื่องสำอางส่วนตัวมาเป็นกระเป๋า แต่พี่เบิร์ดไม่มีนะคะ ส่วนเรื่องน้ำหอมนี่ ใส่ค่ะ เป็นเรื่องธรรมดา อย่างพี่เองก็ใส่น้ำหอม อาจเป็นเพราะว่าพี่เบิร์ดเจอคนเยอะ และคนก็ชอบไปกอดเขา ขนาดพี่เบิร์ดต้องเต้นในงานคอนเสิร์ต แต่เหงื่อเขายังไม่เหม็นเลย พี่เขาเป็นคนตัวหอมนะ พี่กล้าสาบานว่าเป็นความจริง ไม่ใช่ว่าเรารักเขาแล้วจะพูดให้ดูดี แต่เป็นความจริง มีเพื่อนสไตลิสต์คนหนึ่งที่เป็นเพื่อนพี่ เขาจะชอบดมเหงื่อพี่เบิร์ดมาก คือเขาเป็นกะเทยค่ะ ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว และเพื่อนพี่คนนี้ มักจะพูดเสมอว่าเหงื่อพี่เบิร์ดหอม ทุกวันนี้ก็ยังมีคนแอบหอมเสื้อผ้าที่พี่เขาใส่ประจำ บางคนก็ตั้งใจหอม บางคนก็ทำเป็นไม่ตั้งใจหอม(หัวเราะ)"
"โดยธรรมชาติของพี่เบิร์ด เขาไม่ใช่เป็นคนช็อปปิ้งนะคะ เขาไม่ใช่คนใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่ายนะ คือเวลาที่เขาซื้ออะไรมาแต่ละชิ้น ก็ใช้นาน ไม่ได้ต้องเป็นแบรนด์ดัง พี่เบิร์ดชอบอยู่บ้าน ชอบธรรมชาติ สบายๆ บางครั้งเราก็เห็นเขาสวดมนต์ ว่ายน้ำที่สระน้ำ เล่นกับหมา
พี่เบิร์ดชอบกิน คือข้าวไข่เจียวธรรมดา ๆ ไม่ต้องใส่หมูสับ มีแค่น้ำปลาพริกก็พอแล้ว จะเห็นว่า ไม่มีอะไรพิเศษมากมายเลย แต่บางครั้งพี่เขาก็จะมีมื้อพิเศษกับครอบครัวของเขา คือบางครั้งก็ไปทานข้าวตามโรงแรมบ้าง น่ารักดีค่ะ
พี่เองได้รับคำสอนจากพี่เบิร์ดเยอะมาก อย่างเรื่องการออมเงิน พี่เบิร์ดจะบอกว่า ถ้าเราหาเงินมาได้ 100 บาท ก็ให้เก็บเอาไว้ 30 บาท เก็บแบบให้ลืมไปเลย อีก 30 บาทเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินเวลาที่เป็นอะไร และอีก 30 บาทให้เก็บไว้ใช้ ส่วนอีก 10 บาทให้เก็บไว้ทำบุญ คือพี่เบิร์ดจะเป็นคนที่ทำบุญเยอะมาก พี่ก็ได้ดูเขาเป็นตัวอย่าง รู้สึกว่าการให้นั้นเป็นความดี ทำให้เราเป็นคนเผื่อแผ่ และได้บำรุงพระศาสนาอีกด้วย
ชีวิตประจำวันที่พี่เห็น พี่เบิร์ดจะเป็นคนนอนแต่หัวค่ำ ตื่นเช้า เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เลือกกินแต่ผัก ปลา เขาไม่ได้กินอาหารวิเศษมากมาย ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่สามารถกินอาหารแพงๆได้ แต่เขาไม่เลือกที่จะทำ ดูชีวิตเขาพอเพียงมากๆ"
"อยากบอกว่าพี่เบิร์ดว่า ยังหล่อเหมือนเดิม เท่าที่พี่เจอเขาครั้งแรกจนถึงวันนี้ พี่รู้สึกว่าพี่เบิร์ด ยิ่งแก่ยิ่งหนุ่ม จริงๆ นะ ผิวพรรณเขาดีมากๆเลย คงเป็นเพราะเป็นคนที่ดูแลตัวเองดี ทั้งเล่นโยคะ ทั้งออกกำลังกาย พี่ว่าการออกกำลังกายได้ผลดีนะ และอีกอย่างคือต้องเป็นคนที่คิดบวก พี่เบิร์ดเป็นคนคิดบวกมากๆ ซูเปอร์บวกเลยก็ว่าได้ อยู่กับเขานี่ ขำได้ทั้งวัน ไม่เคยซีเรียส ไม่เคยอารมณ์ไม่ดี
ตัวเลข 50 เดี๋ยวนี้เฉย ๆ ขนาดคุณอา ชรินทร์ นันทนาคร ยังหล่ออยู่เลย แต่เวลาที่เราไปยืนใกล้พี่เบิร์ดนะ เรารู้สึกเลยว่า อุ๊ยตายแล้ว เราแค่ 40 ยังดูแก่กว่าพี่เบิร์ด เลยต้องรีบไปออกกำลังกาย พี่เบิร์ดบอกว่าร่างกายมีบุญคุณกับเรา เราต้องดูแลเขาถนอมเขาให้มากๆ"
"ทำงานกับพี่เบิร์ดมาประมาณ 7 ปีแล้วครับ พี่เขาก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งจะคอยสอนเราเรื่องการทำงาน เรื่องการใช้ชีวิต ถือว่าแกเป็นแฟมิลี่ในทุกๆ เรื่อง วันแรกที่ต้องไปร่วมงานกับพี่เบิร์ด ปกติแล้วเวลาที่เราไปจับผมศิลปินดังๆ หรือดาราดังๆ คนอื่นๆ ถามว่ามีความสบายใจมั้ย มันก็ไม่ได้สบายใจทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับประหม่า ย้อนกลับไปวันที่เราจับผมพี่เบิร์ด เราก็เริ่มคิดแล้วว่า เราจะทำได้มั้ย แต่ก็บอกกับตัวเองว่า เราต้องไม่ประหม่า ต้องไม่กลัว คือวันที่เราเจอพี่เบิร์ดครั้งแรก รู้เลยว่าเขาไม่อยากให้เรากลัวและเกิดความประหม่า เขาจะมีวิธีการพูดกับเรา ให้เรารู้สึกดี ไม่ว่าจะเป็นความห่วงใยทุกๆคนรอบข้าง"
"พี่เขาจะเป็นคนผมหยักศกข้างใน คือต้องมีเทคนิคการไดร์พอสมควร แต่พี่เบิร์ดจะเป็นคนดูแลสภาพเส้นผมดีมาก จะต้องหมักผมก่อนที่จะมีงานวันรุ่งขึ้น คือจะเตรียมความพร้อมตัวเองไว้ก่อน เราจะใช้เวลาในการเซตผมพี่เบิร์ดเพียง 15 นาทีก็เสร็จ คือเรารู้แล้วว่า ผมพี่เขาจะต้องไดร์ยังไง
เรื่องผมหงอกสำหรับพี่เบิร์ด ก็พอจะมีบ้าง แหม! อายุขนาดนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถือว่าไม่เยอะนะ ของเราเองยังเยอะกว่า"
"เคยมีเหมือนกันที่เราใส่แวกซ์ให้พี่เบิร์ดเยอะเกินไป จนต้องไปสระผมออกก่อน เพื่อกลับมาเซตผมใหม่ จำได้ว่าเป็นช่วงก่อนขึ้นคอนเสิร์ตที่เมืองทองธานี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ต้องรีบไปสระผมแล้วรีบกลับมาไดร์ผมกันใหม่ อุ๊ย! ลุ้นมากๆ แต่เราต้องรีบทำให้ทันเวลา อารมณ์เราวันนั้นก็คือ ต้องขอโทษพี่เบิร์ด แต่พี่เบิร์ดพูดกับเราว่า ไม่เป็นไร คือทุกอย่างมันต้องรันคิวแล้วไง"
"มีคอนเสิร์ตทุกครั้ง เราก็จะอยู่หลังเวทีตลอด จะตื่นเต้นแทนพี่เบิร์ดทุกครั้ง บางทีมีความรู้สึกว่าพี่เบิร์ดเป็นอีกคนหนึ่งเลยเวลาที่ต้องขึ้นเวที เหมือนกับว่าเขามีพลังมาจากไหนก็ไม่รู้ เหมือนแกเป็นศิลปิน มีครู อะไรประมาณนั้น
เท่าที่เราเห็นนะ คือพี่เบิร์ดจะมีตารางการรับประทานอาหาร ว่าช่วงไหนควรทานอะไร บางช่วงก็จะปล่อยให้กินแป้งได้บ้าง กินเนื้อได้บ้าง หรือช่วงไหนควรจะหยุดอาหารประเภทไหน ซึ่งเรื่องนี้พี่น้อย(ผู้จัดการส่วนตัว)จะเป็นคนกำกับ ก็ถือว่าเป็นการสอนเราไปด้วยในตัว คือเวลาไหนที่เราจะกินเนื้อเยอะ แล้วก็ควรจะมีช่วงเบรกบ้าง
ขนาดว่า ต้องออกอัลบั้มกับเสก โลโซ พี่เบิร์ดรู้ว่าต้องร้องเพลงร็อก ก็จะดูแลเสียงตัวเองเพื่อให้เข้ากับโทนร็อกเกอร์ จะดื่มน้ำอุ่นตลอด เตรียมความพร้อมตลอด"
"พี่เบิร์ดเป็นคนที่น่านับถือ เป็นคนที่น่ารักมากๆ ตัวเลข 49 ใกล้ 50 สำหรับพี่เบิร์ดดูธรรมดา แต่สำหรับอายุ 38 ของเรา รู้สึกเลยว่าตัวเองแก่มากๆ คือพี่เบิร์ดเขาจะเป็นคนดูแลตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดูแลตัวเองตลอด เพื่อเป็นการดูแลแฟนเพลงด้วย ใกล้จะแฮปปี้เบิร์ธเดย์พี่เบิร์ด ก็จะขอให้พี่เบิร์ด มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงนะครับ"