ปัญหาโลกแตก... (ญี่ปุ่น)ถามอย่าง (พี่ไทย) ตอบอย่าง... จะล่ามยังไงละเนี่ยยย
วันนี้บังเอิญไปเจอกระทู้กลุ่มล่ามหัวข้อนึง... ซึ่งกระทู้นั้นมีการระบายความกลัดกลุ้มของล่ามอ่านไปอ่านมาเลยรู้ว่า... ปัญหาบทสนทนาแบบ ไปไหนมา...สามวาสองศอกเป็นปัญหาที่ล่ามทุกคนต้องเจอ
ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเป็นญี่ปุ่นถาม ไทยตอบ แต่ไม่ใช่ว่าคนญี่ปุ่นเป็นพวกตอบตรงคำถามทุกคนนะคะ บางทีอิฉันแปลคนญี่ปุ่นพรรณนาไปสามหน้ากระดาษแล้ว.. อิฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเธอต้องการสื่ออะไร... แอบกระซิบถามคนญี่ปุ่นอีกคนเผื่อว่าเราไม่เข้าใจ... ญี่ปุ่นอีกคนบอกไม่รู้เหมือนกัน...ซะอย่างนั้น ฮ่าๆๆ
อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะตำแหน่งใหญ่กว่าคนไทย คนไทยเลยไม่ค่อยซักไซ้อะไรคนญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นขี้ถาม ขี้สงสัย แล้วมีอะไรก็ถามล่าม..เพราะคุยภาษาเดียวกัน บางทีขี้สงสัยจัดเจอคนไทยตบตูดขวดกระทิงแดงยังถามเลยว่าจะตบไปทำไม... แล้วถามล่ามนะคะ ไม่ได้ถามคนตบตูดขวด เจอแบบนี้ ล่ามก็ไม่ต้องพาซื่อ..เดินไปถามคนกินกระทิงแดงให้นายก็ได้... ตอบเองมั่วๆ ไปเลย...บอกว่า จะได้นัวๆ งี้
คนญี่ปุ่น ขี้ถามเพราะอยากรู้ ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องงานนั่นแหล่ะค่ะ
ส่วนพี่ไทย... ล่าม... เพ่ๆนายเรียกแน่ะ..เห็นว่าอยากถามเรื่องปัญหาxxx พี่ไทย..เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะ..ข้างบนเขาสั่งมาผมก็ทำตาม ผมบ่ฮู้ ผมบ่หัน... (ร้อนตัวจนไอร้อนออก) ล่าม.... เอ่อพี่...นายเขาอยากถามว่าปัญหานี้เป็นบ่อยมั้ย?....(-_-) (ออกตัวแรงจิ๊งง)
หรือ...
ล่าม.. พี่คะเค้าถามว่าปัญหานี้แก้ไขเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย? (แปลว่าหายแล้วนะไม่เกิดปัญหาอีกนะ) คนไทย.. คือน้อง..วันนั้นน่ะพนักงานเค้าลาพักร้อน..ต้องเอาเด็กฝึกงานมาช่วย..พอเกิดปัญหามันก็เลยรู้ตัวช้าแถมยังเป็นกะดึก เอ็นจิเนียร์ก็ไม่อยู่ ต้องรอเช้าก่อน.... บลาบลาบลา ล่ามก็หันไปแปลตามที่ว่า..(พูดยาว ถ้าไม่แปล ญี่ปุ่นจะโมโหว่าเราไม่ทำงาน).... ญี่ปุ่นฟัง...ปุ๊บ ไม่ใช่ฉันไม่ได้ถามแบบนี้ เธอแปลถูกเปล่าเนี่ย?... ล่าม..... แล้วบทสนทนาก็จะวนกลับไปแบบเก่าเป็นวงจรอุบาทว์ที่ปวดหัวและนอยด์ทั้งคนถาม คนแปล คนตอบ ....สรุป..คนไทยชอบมโนไปเองว่า..นายเรียกถามแปลว่าจะโดนสอบสวนหาคนผิด.. เลยตอบปัดความผิดไปก่อน หรือ...ตั้งใจจะตอบให้ตรงคำถาม..แต่รอหน่อย อธิบายอยู่..ข้ามสเต็ปแล้วเดี๋ยวพี่จะลืม... (พี่สรุปใจความไม่เป็น)
เจอสถานการณ์แบบนี้เข้า.... ล่ามบางคน...กดดันโมโห.. อะไรฟะ..เอะอะก็โทษล่าม... ล่ามบางคน..ตีมึน...ก็กุแปลถูกกุจะแปลแบบนี้ ล่ามบางคน...เค้าไม่เก่งเค้าไม่ดี เค้าขอโต๊ดดด...
การแก้ปัญหา... หลายคนบอกเค้าพูดยังไงก็แปลอย่างนั้น เค้าจ้างมาแปลนิคะ... วิธีนี้มันใช้ได้แค่บางกรณีค่ะ แต่วิธีที่จะทำให้ทุกคนแฮปปี้เสียเวลาน้อย แต่ได้งานคือ เราต้องรู้จักเนเจอร์ของคนสองชาติพูดคนละภาษาเดียวกันนี่ก่อน อย่างที่บอก...คนญี่ปุ่นขี้ซัก..เพื่อจะได้รู้ข้อเท็จจริงแล้วนำข้อมูลไปวิเคราะห์... แต่คนไทย มักกลัวความผิด เลยตอบไม่ค่อยตรงคำถาม หรือบางคนอาจจะตอบตรงแต่พูดจายืดเยื้อไป... ถ้าเจอคนไทยสมองไอน์สไตน์... มันจะตอบข้ามไปอีกสามสเต็ปที่เขายังไม่ถาม.. (มันอ่านเกมไว้ก่อนแล้ว...)
เมื่อเนเจอร์คนสองชาติไม่เหมือนกัน.. เราจะล่ามแบบถามมาแปลไป ก็แลจะเหนื่อยและยืดยาว
ล่ามมีความพิเศษกว่าเครื่องแปล..ตรงประมวลผลสรุปข้อมูลได้ เข้าใจนัยยะที่ซ่อนอยู่ได้ เราก็ควรใช้ความสามารถในของการเป็นมนุษย์ด้วยการนำเอาวิจารณญาณพวกนี้มาใช้ ล่ามไม่จำเป็นต้องพูดเหมือนสารต้นทางทุกคำ ไม่จำเป็นต้องพูดได้จำนวนพยางค์เท่ากัน... แต่จำเป็นต้องพูดได้ความหมายเดียวกับสารต้นทาง d(^^)
มันแปลว่าล่ามสามารถบิด ดัดแปลง ประโยคที่ได้ยินมา แล้วสื่อออกไปให้ได้ความหมายเดิม...(อย่าตอกไข่ใส่สีเป็นใช้ได้)
ดังนั้นประโยคที่แปล..มันอาจจะสั้นกว่าต้นทางหรือยาวกว่าต้นทาง.. นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าแปลแบบไหนคนฟังเค้าจะเข้าใจได้ตามที่ต้องการสื่อ อิฉันเคยแปล...ประโยคเดียวสามรูปแบบ...เพราะพี่คนไทยเขาไม่เข้าใจ เราก็เปลี่ยนวิธีพูดไปเรื่อยๆ ..ให้เขาเข้าใจโดยคงความหมายไว้เหมือนเดิม...
เพราะเราต้องเตือนตัวเองไว้ว่าวัตถุประสงค์หลักของการล่ามคือ ทำให้เขาสื่อได้ตรงความต้องการที่สุด แล้วทำให้สองฝ่ายเข้าใจตรงกัน เขาไม่ได้จ้างเฟอร์บี้มาล่าม ไม่ต้องเหมือนเดิมทุกคำพูดก็ได้ค่า
ปอกะลิง... นี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ใช้แล้วได้ผลดี..จึงนำมาบอกต่อ ใครไม่เห็นด้วย หรือมีวิธีที่เจ๋งกว่า ติชมกันได้นะคะ ^^
Create Date : 06 มีนาคม 2556 |
Last Update : 6 มีนาคม 2556 13:55:35 น. |
|
3 comments
|
Counter : 6604 Pageviews. |
|
|
|