บันทึกการดูหนังในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 1 งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯครั้งที่ 3 ที่จัดระหว่าง 17-28 กุมภาพันธ์ 2549 ขอนำมาเล่าสู่กันฟังตามที่ไปดูมาครับ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 (เข้าชมวันแถลงข่าว) Go West หนังสัญชาติ บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา จากผู้กำกับหน้าใหม่ ของผู้กำกับ อะห์เมด อิมาโมวิค ที่ว่าด้วยการหนีจากสงครามของคู่รักเกย์สองคน ที่น่าตกใจก็คือ มิลานเป็นชาวเซิร์บ นักถือคริสต์ ขณะที่อีกคนคือ เคนานเป็นมุสลิม เพื่อไปอยู่บ้านเกิดของอีกฝ่าย เคนานจำใจต้องปลอมตัวเป็นหญิง หนังมีฉากที่เหมือนทำสงครามกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสงครามจริงๆ หรือสงครามภายในหมู่บ้าน ทุกคนอยู่ในบรรยากาศสงครามแม้แต่งานแต่งงาน เรียกว่าเป็นตลกร้ายกาจชนิดขำไม่ออก มีฉากที่ดูขำบ้างแต่ก็หมิ่นเหม่ศีลธรรมตลอดทั้งเรื่อง แต่แท้จริงหนังต้องการให้เห็นผลกระทบของสงครามที่ทำลายชีวิตคนทุกคนไม่เว้นกับคนที่ไม่ต้องออกไปรบ ก็ยังถูกกัดกร่อนชีวิตจนไม่เหลือดี คนที่ถูกกีดกันและดูถูกจนกลายเป็นคนเลว ตัวเอกของเรื่องเคนาน ต้องอยู่ระหว่างศาสนา, ความเป็นชาย-หญิง-เกย์ ของตน รวมถึงเครื่องมือแห่งสันติภาพที่เขามีอย่างเชลโล ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ ดูจบแล้วก็ไม่แปลกใจที่ผู้กำกับถูกขู่ฆ่าตามข่าวที่หาอ่าน แต่ผมก็ประทับใจกับหนังเรื่องนี้มาก มันเป็นหนังที่กล้าเล่นกับหลายอย่าง จนตอนจบสูตรสำเร็จของหนังชวนขนลุกได้จริงๆ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2549(น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปงานเปิด และ วันที่ 18 เนื่องจากติดสอบ) Hi-Bi : Days of Fire ผลงานของ บันเมอิ ทาคาฮาชิ(อ่านผิดขออภัย) สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับช่างปั้นเครื่องปั้นดินเผาหญิง คิโยโกะ ซึ่งสู้ชีวิตแม้จะโดนสามีทิ้ง คนสมาคมกีดกันช่างปั้นผู้หญิงตามความเชื่อ แต่เธอก็ฟันฝ่าสร้างงานศิลปะที่เธอใฝ่ฝัน เลี้ยงลูกสองคนด้วยลำแข้ง โดยลูกสาวคนหนึ่งเลือกทางเดินชีวิตเรียนต่อ ขณะที่เคนอิจิลูกชายเลือกเรียนเกี่ยวกับเซรามิคเพื่อเป็นนักปั้นเหมือนแม่ แต่แล้วเขากลับเป็นลูคีเมียขึ้นมา จุดเด่นอยู่ที่การแสดงของนางเอกยูโกะ ทานากะ และหนังก็เป็นเฟมินิสต์เอาเรื่อง เพราะเน้นการตัดสินชีวิต และสอนลูกให้รู้จักคุณค่าชีวิตแบบของเธอ จนทำให้เกิดการเรียกร้องผลักดันให้มีธนาคารไขกระดูกแห่งแรกของญี่ปุ่น หนังได้รางวัลพิเศษ และรางวัล NETPAC จากเทศกาลหนังนานาชาติเมืองเคราล่า ประเทศอินเดีย ดูจบผมไม่ชอบเท่าไหร่ครับ หนังมันฟูมฟายไปหน่อย แม้จะมีตอนจบที่จบได้น่าประทับใจสมชื่อเรื่องก็ตาม แต่ก็สมใจแฟนผมครับ ห้ามไม่ได้ต่างจิตต่างใจ เพราะเธอเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกัน Stolen Life หากใครยังไม่เบื่อ โจซวิ่น ดาราสาวชาวจีนที่เล่นหนังถี่เหลือเกิน ในเทศกาลนี้คุณจะได้ชมอีกเรื่องคือ Perhap Love สำหรับงานชิ้นนี้เป็นการกลับไปร่วมงานอีกครั้งกับ หลี่เจ้าหง ผู้กำกับหนังดังในจีนคือ Baober in Love ว่าด้วยชีวิตของ หย่านหนี หญิงสาวที่เปลี่ยวเหงาในชีวิต เธอถูกทิ้งจากพ่อแม่ ให้ญาติมาเลี้ยง สุดท้ายพอได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยก็หนีออกจากบ้าน ไปเจอกับคนขับรถที่เอาอกเอาใจ ก็เลยตกหลุมรัก และใช้ชีวิตอยู่กินจนท้อง ต้องออกจากที่เรียน ตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเข้าใจบางอย่างในชีวิตจริงๆ ว่าใครกันเล่าที่ขโมยชีวิตเธอไป หนังได้รับรางวัล Best Narrative Film จากเทศกาลไทรเบก้าฟิล์ม และหนังยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังนานาชาติเมืองเคราล่า ปีเดียวกับเรื่องข้างบน โดยรวมผมชอบกว่าเรื่องแรกเพราะหนังเล่าเรื่อง และนำเสนอออกมาได้ในเกณฑ์ดี ทั้งที่เนื้อหาไม่ได้มีอะไรมากมาย มีดนตรี และเสียงประกอบแบบรถไฟที่เข้าภาพหม่นๆ ในหนังดี (แต่ถ้าใครอยากรู้สึกดีๆ แบบเศร้าๆ คงต้องไปดูเรื่องข้างบน) ขัดใจนิดหน่อยเพราะจริงๆ เธออายุปาเข้าไป 30 แล้ว ยังจะมาเล่นเป็นเด็กอายุ 14 ปี แต่ก็ไม่แปลกครับหน้าเด็ก ตัวเล็กซะอย่าง วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 Salted Water หนังสเปน ว่าด้วยชีวิตสองสาวที่อยู่คนละชั้น คนหนึ่งเป็นสาวคิวบาที่มากับทุนเรียนหนังสือ แต่กลับต้องดิ้นรนหาทางเลี้ยงชีวิต ส่วนอีกคนเป็นสาวสเปนในเมืองบาเลนเซีย ที่มีชีวิตคู่ขนานกับเธอเพราะเดินทางทำงานในเส้นทางคล้ายกัน แต่เลือกใช้ชีวิตที่มืดมนกว่า ทั้งการเป็นโสเภณี, เป็นชู้กับคนอื่นจนท้อง และต้องดูแลแม่ที่ติดคุก ทั้งคู่ได้รู้จักสนิทสนมกัน และต่างได้ความเข้าใจในชีวิตที่เพิ่มขึ้นแก่ชีวิต ชอบบทบาทสาวคิวบามากครับ เพราะเธอสู้ชีวิตเหลือเกิน แต่ตัวหนังธรรมดามากๆ ครับ เป็นหนังสะท้อนสังคมที่ดูง่ายๆ ไม่โดดเด่นอะไร Sophie Sholl : The Final Days น่าเสียดายที่หนังดีๆ อย่างนี้เข้าฉายโรงคนน้อยแค่ 70 กว่าที่นั่งอย่าง Ultra Screen ว่าด้วยชีวิต 6 วันสุดท้ายของกลุ่มนักศึกษาชาวเยอรมันนามกลุ่มกุหลาบขาว ที่ต่อต้านการปกครองของท่านผู้นำฮิตเลอร์ ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวหนังเน้นที่ โซฟี โชล ที่แสดงโดย จูเลีย เจนตซ์ ซึ่งคว้ารางวัลนำหญิงมาทั้งเบอร์ลิน และรางวัลยูโรเปี้ยน ซึ่งต้องปรบมือให้การรับอารมณ์หลากหลายจากการไต่สวน ตัวหนังเน้นการพูดที่โต้แย้งกันตลอด จากเดิมที่พยายามปกปิดให้ตัวเองรอดชีวิต จนกล้าแสดงความรู้สึกกล้าต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ตอนจบแปลกดี แต่โดยรวมเป็นการจบที่ตัดอารมณ์สะเทือนใจได้ดีครับ Ring Finger หนังของไดแอน เบอร์ทรันด์ ที่ผมว่าเซอร์ที่สุดในงานเทศกาลนี้ เนื้อหาดัดแปลงจากนิยายของ ยูโกะ โอกาว่า ว่าด้วยชีวิตของ ไอริส สาวโรงงานน้ำมะนาวที่เกิดอุบัติเหตุนิ้วขาด จนเธอออกจากงานไปทำงานในห้องแล็บประหลาดที่รับสร้าง specieman หรือการเก็บปมปัญหาในชีวิตของผู้คนเอาไว้ ยิ่งนานวันที่เธอพบสิ่งประหลาดต่างๆ ก็ทำให้เธอตกบ่วงอยู่ในที่แห่งนี้มากขึ้น ดนตรีประกอบสุดหลอน เนื้อหาสุดเพี้ยน และมีฉากประหลาดเต็มไปหมด แถมโป๊อีกต่างหาก ตอนจบเล่นเอาหลายคนงง มึนตึ้บ จนต้องถามความเห็นผู้กำกับ โดยส่วนตัวนี่คือหนังที่พูดถึงจินตนาการในโลกของหญิงสาวผู้จมกับห้วงทุกข์และไม่อาจหนีมันไปได้ ผู้กำกับได้ตัดประเด็นเฟมินิสต์ และอำนาจของเพศชายซึ่งน่าจะปรากฎมากในนิยายญี่ปุ่นออกไป และทำให้หนังมีอารมณ์เฉพาะตัวของมัน วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549(ไม่ได้ไปเนื่องจากเกิดไม่สบายขึ้นมา เฮ้อ...)   Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2549 7 comments Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2549 11:40:58 น. Counter : 1174 Pageviews. Share Tweet

เท่าที่นำมารีวิวนี่ชอบเรื่องไหนมากสุดคะ? เราเองคงไม่ได้ไปดูเลยซักเรื่องกระมังเนี่ย   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2549 14:43:17 น.

แนะนำ Paradise Now ครับ ส่วน Ringfinger และ Go West ชอบเช่นกัน แต่ไม่เหมาะกับคนรับอะไรงงๆ หรือแรงๆ ไม่ได้   โดย: yuttipung IP: 61.91.121.117 23 กุมภาพันธ์ 2549 9:50:46 น.

อยากดู Go West จัง สงสัยกะลังงงๆ กะโบรคแบ็คอยู่อ่ะค่ะ   โดย: กี๋พกแป้ง 24 กุมภาพันธ์ 2549 12:26:51 น.

งงยังไงครับ ไปคุยกันได้ที่นี่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yuttipung&month=02-2006&date=16&group=1&blog=1   โดย: โก๋พกแปรง (yuttipung ) 24 กุมภาพันธ์ 2549 14:07:08 น.

^ ^ 5555555 เพิ่งเคยเห็นคุณท้อปมีอารมณ์ขันก็วันนี้ เดี๋ยวตามไปคุยค่ะ ว่าแต่ท่าทางอารมณ์ดี...ต้องมีอะไรดีๆ แน่ๆ เลย   โดย: กี๋พกแป้ง 24 กุมภาพันธ์ 2549 15:46:17 น.

ทุกวันนี้คงต้องอารมณ์ดีมากๆๆๆๆๆ ขึ้นครับ ไม่อย่างนั้นคงเครียดตาย   โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 25 กุมภาพันธ์ 2549 23:15:17 น.

Paradise Now อยากดูมากนะครับ แต่ยอมตัดใจเพื่อไปเลือกเรื่องอื่นแทนที่คิดว่า คงไม่มีโอกาสเข้ามาฉายแล้วแทนพราะผมได้ข่าวว่า หนังมีโอกาสจะเข้ามาฉายอีกรอบตามโรงปรกติ The Ringfinger ผมว่า หลอน ลึกลับ ซ่อนอะไรอยู่ดี ส่วน Go west ผมโอเคในระดับหนึ่งนะแต่บทหนังสำหรับผมยังดูเบาๆไปน่ะ...ไม่รู้ซิ (คืออยากให้มันเข้มข้นกว่านี้อีกหน่อย...เอ๊ะ หรือเราตั้งความหวังมากไปหรือเปล่า)   โดย: ตี๋หล่อมีเสน่ห์ 4 มีนาคม 2549 17:58:41 น.