Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 4 หุ้นเด่น ดัชนีมีแนวโน้่มอ่อนตัว หนี้ยุโีีรปยังยืดเยื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.44 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.96 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบหลังจากปัญหายุโรปกลับมารุนแรงเพิ่มขึ้น หลังจากดอกเบี้ยพันธบัตรของสเปนล่าสุดสูงเกือบ 7% และฝรั่งเศสก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ แนะนำเก็งกำไร 4 หุ้นเด่น ได้แก่ BGH, DTAC,KCE,APCS



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนอิงทางลง คาดตลาดผันผวนอิงทางลงจากแรงกดดันเรื่องปัญหาหนี้ยุโรปที่ส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมากทั้งในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ โดยนักลงทุนบางส่วนเริ่มหันกลับไปถือครองเงินสดมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายในของไทยยังมีเรื่องประเด็นร้อนทางการเมืองเกี่ยวกับ พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษให้ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ต่อไป โดยรวมมองขาดปัจจัยบวกที่เด่นชัดมาผลักดันการฟื้นตัว จึงคาด SETI จะผันผวนอิงทางลงได้มากกว่า

กลยุทธ์การลงทุน: ยังคงเน้นการทยอยขายทำกำไรในช่วงดีดตัวต่อไป แนวต้าน : 1002-1010 แนวรับ : 985-980

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-50% : เงินสด 75-50%

ถือต่อในพอร์ต: BGH, DTAC

หุ้นที่ปรับออก : GFPT, AP, SCC

หุ้นที่ปรับเข้า :

1. KCE เทรดดิ้งระยะสั้น แม้ได้รับผลลบจากน้ำท่วมที่นิคมฯ ไฮเทค แต่ที่ลาดกระบังและบางปูไม่มีปัญหา และคาดที่ไฮเทคจะเริ่มผลิตได้ในเดือน ม.ค.ราคาพื้นฐาน 5.30 บาท ต้าน 5.25 รับ 4.96 Cut loss 4.90 บาท

2. APCS เทรดดิ้งหลังดีดตัวเหนือราคา IPO ได้สำเร็จเป็นวันแรก ต้าน 6.10 รับ 5.50-5.40 Cut loss 5.25 บาท

KGI คาดว่าหุ้นไทยวันศุกร์อ่อนตัวลง เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งแย่กว่าที่เราประเมินไว้ว่าสถานการณ์ยุโรปจะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยความกังวลในขณะนี้เปลี่ยนจากอิตาลีไปที่สเปน หลังจากสเปนประมูลพันธบัตรได้ด้วยดอกเบี้ยที่สูงมาก (ดอกเบี้ย 10 ปีขึ้นไปเกือบถึง 7.0%) ในขณะที่ดอกเบี้ยพันธบัตรของฝรั่งเศสก็ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ในระยะสั้นพบว่านักลงทุนมองดอกเบี้ยพันธบัตรของประเทศในกลุ่มยุโรปเป็นเครื่องชี้ทิศตลาด ทิศทาง SET ในช่วงสั้นจึงยังถูกกดดันต่อไป ส่วนแรงซื้อในประเทศและกองทุนจะเป็นตัวพยุงให้ตลาดลงน้อยกว่าเพื่อนบ้าน

ส่วนปัจจัยในสหรัฐฯ เชิงพื้นฐานยังดีหลังจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 7 เดือนที่ 3.88 แสนราย และลดมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.95 แสนราย อย่างไรก็ดีในเชิงข่าวสารเป็นลบเล็กน้อยเนื่องจาก ณ ขณะนี้เข้าใกล้เส้นตายในวันที่ 23 พ.ย. ที่คณะกรรมการที่เรียกว่า Super Committee จะสรุปวิธีการลดยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหากไม่ทันกำหนดการ ตามข้อตกลงจะมีการลดรายจ่ายรัฐบาลโดยอัตโนมัติซึ่งจะไม่ดีต่อเศรษฐกิจในปี 2555 อย่างไรก็ดี เราคิดว่าท้ายที่สุดสหรัฐฯ จะมีทางออก คล้ายกับตอนที่ผ่าน Debt ceiling ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเส้นตาย

กลยุทธ์: พอร์ตมีหุ้นแล้วแนะนำให้ถือไว้ เนื่องจากเราคงมุมมองเชิงบวกต่อ SET ในเดือน ธ.ค. ส่วนพอร์ตไม่มีหุ้นให้รอดูสถานการณ์ยุโรปก่อน เนื่องจากปัจจัยในยุโรปไม่เปลี่ยนมาดีได้เร็วอย่างที่เราคาด และเราจะ update ประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ มุมมองต่อตลาดยังคงเหมือนเดิม คือระยะสั้นยังคงเน้นเก็งกำไรเท่านั้น โดยเรายังคงเป้าหมาย SET index สิ้นปีนี้ไว้ที่ 1020 ซึ่งเหลือ Upside ไม่มาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ตลาดอาจมีแรงเก็งกำไรเรื่องการลดดอกเบี้ยของธปท.สิ้นเดือนนี้หรือความคาดหวังถึงรายละเอียดแผนแก้หนี้ยุโรป รวมถึงการผ่านแผนลดงบขาดดุลของสหรัฐฯ ในวันที่ 23 พ.ย. อย่างไรก็ตามเรายังคงกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงในระยะกลาง โดยเฉพาะในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งประกอบไปด้วย 1) มีหนี้สินของรัฐบาลอิตาลีจำนวนมากจะครบกำหนดชำระหนี้ และต้อง re-finance ตั้งแต่เดือนก.พ. 55 เป็นต้นไป 2) กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสที่ 4 (ประกาศเดือนก.พ.) คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และ 3) ปัญหาการเมืองไทยที่อาจกลับมาใหม่หลังครม. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ

กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเน้นเก็งกำไร ตลาดเหลือ upside อีกไม่มาก เรายังคงเป้าSET index ปีนี้ที่ 1020 จุด เน้น 1) หุ้นที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม เช่น CPF HMPRO GLOBAL SCCC DCC STEC HEMRAJ TASCO VNG TPC และTTCL 2) หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรงและคาดว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว เช่น SAT TICON LPN AP SPALI รวมถึง 3) หุ้นกลุ่มพลังงาน PTT TOP PTTGC ที่คาดว่าราคาน้ำมันในช่วงปลายปีจะได้รับผลดีจากการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของสหรัฐฯ

สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ คาดว่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้าอาจเห็น SET ต่ำกว่า 900 อีกครั้งหนึ่ง ส่วนท่านที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต ยังคงแนะนำให้ทยอยลดพอร์ตเมื่อมีกำไร

ข่าวหุ้นดอทคอม


Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2554 10:10:05 น. 0 comments
Counter : 490 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yungbin
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add yungbin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.