โบรกแนะเก็งกำไร 11 หุ้นหนีตลาดผันผวน ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัว กังวลสเปน ค้าปลีก-สื่อสาร-ที่ดินรุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31.79 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลังนักลงทุนกังวลสเปนถูกปรับลดอันดับเครดิต ทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น และค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหนักวานนี้ ล่าสุดอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนมากขึ้น และยังมีความเสี่ยงทางลง เน้นขายตามแนวต้าน โดยกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และที่ดิน น่าจะโดดเด่นจนกว่าถึงช่วงกลางเดือน มิ.ย.เก็งกำไร 11 หุ้นเด่น ได้แก่ ROBINS, INTUCH, SIRI, SCC, MALEE, TCAP, CPF, BGH, SF, CFRESH, SINGER บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : ผันผวนท่ามกลางความเสี่ยงทางลง กลยุทธ์การลงทุน : ยังเน้นข้างขายแถวแนวต้าน แม้ SETI จะดีดตัวได้ดีกว่า 40 จุด ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา หากแต่ภาพความไม่แน่นอนของปัจจัยเรื่องหนี้ยุโรปยังคงเป็นกรอบทางลงที่ล้อมกรอบตลาดอยู่ ล่าสุดแม้มีความหวังเรื่องที่พรรคที่สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดอาจชนะการเลือกตั้งและทำให้กรีซยังอยู่ในยูโรโซนต่อไปจะผลักดันการดีดตัวของดัชนีดาวโจนส์ หากแต่ต้นทุนทางการเงินของสเปนที่พุ่งขึ้น และการที่บ.อีแกน-โจน เรทติงส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสเปนเป็นครั้งที่ 3 ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ยังสะท้อนภาพที่น่าวิตก เมื่อพิจารณาร่วมกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในเพื่อต่อต้านการออกกฎหมายปรองดอง โดยกลุ่มพันธมิตรฯ นัดชุมนุมวันนี้เวลาบ่ายโมงที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ดังนั้น คาดว่า SETI ยังฝ่าแนวต้านสำคัญๆ ไปได้ยาก กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงเน้นทยอยขายแถวแนวต้านหลัก 1155 หรือ 1165 แนวต้าน : 1155-1165 แนวรับ : 1147-1140 การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-30% : เงินสด 75-70% ถือต่อในพอร์ต : CPF, BGH, SF, CFRESH, SINGER KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพุธปรับลดลงแต่จะไม่มาก คาดว่าหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่บวกแรงและหนุน SET เมื่อวานนี้จะมีช่วงลงตามจิตวิทยาของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่แย่ลง เรามองว่าตลาดหุ้นได้รับรู้การเก็งกำไรว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่แล้ว และน่าจะรับรู้ตัวเลขโพลล์ในกรีซที่ว่าพรรค New Democracy ที่สนับสนุนการรัดเข็มขัดนั้นกลับมามีคะแนนนำพรรค SYRIZA เล็กน้อย คาดว่า SET น่าจะตอบสนองเชิงลบต่อค่าเงินยูโร/ดอลล่าร์ฯ ที่ร่วงต่ำกว่า 1.25 (ต่ำสุดครั้งใหม่รอบ 11 เดือน) และต่อการปรับขึ้นต่อเนื่องของดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสเปนที่ขึ้นมาที่ 6.54% หลังจากบริษัทจัดเรทติ้งท้องถิ่น อีกาน-โจนส์ ปรับลดเครดิตของสเปนเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 เดือน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่บวกแรงเมื่อคืนไม่น่าจะหนุนตลาดหุ้นเอเชีย เพราะว่าคงเป็นการบวกรับรู้ปัจจัยการเมืองในกรีซเท่านั้น (ตลาดสหรัฐฯ หยุดทำการไปเมื่อวันจันทร์) ฝ่ายวิจัยคงมุมมองว่า SET จะแกว่งตัวรอบๆ ค่า PE band 13 เท่าที่ 1,120 จุด บวกหรือลบไปจากจุดดังกล่าวไม่เกิน 30 จุด เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้าเลือกทางใดทางหนึ่งก่อนที่กรีซจะเลือกตั้งเรียบร้อยและรู้ผลว่ากรีซจะอยู่หรือออกจากยูโรโซน ด้วยมุมมองดังกล่าว หุ้นกลุ่มหลักโดยเฉพาะพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์จึงยังไม่น่าสนใจในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และที่ดิน น่าจะโดดเด่นจนกว่าถึงช่วงกลางเดือน มิ.ย. กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้งลงซื้อ-ขึ้นขายหุ้นหลักๆ ส่วนพอร์ตลงทุนให้ถือเงินสดส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งให้เน้นลงทุนหุ้น 3 กลุ่มข้างต้น เช่น ROBINS*, INTUCH และ SIRI และซื้อเก็งกำไร SCC* ด้วยประเด็นของการเข้าดัชนี MSCI Thailand เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 มิ.ย. นี้ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: ยุโรปและสหรัฐฯ ปิดบวกเกิน 1% ด้วยความคาดหวังเชิงบวกว่าปัญหาของกรีซจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งนักลงทุนจะเริ่มพบว่าการคาดการณ์ตลาดหุ้นกับ ข่าวเศรษฐกิจ เริ่มไม่ไปด้วยกัน เมื่อพบว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนทั้งราคาบ้าน (ดีขึ้นแต่ต่ำกว่าที่คาด) และความเชื่อมั่นผู้บริโภค(ลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน) ออกมาในทิศทางที่ไม่สนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดนัก อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนเชื่อว่าตลาดหุ้นมีเหตุมีผล เราคาดว่าเหตุผลนั้นคือ Valuation ของหุ้นโลกที่ต่ำเกินไปสนับสนุนให้เกิดการฟื้นตัวขึ้น ดังนั้นภายใต้ความยากลำบากขึ้นของการคาดการณ์ทิศทางตลาด โดยเฉพาะเมื่อ SET Index ได้ดีดขึ้นมาถึงเป้าหมายของเราที่ 1150-1160 จุด แล้ว แม้ตลาดมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับที่สูงกว่า (1180+/-) แต่การต่อยอดจากระดับปัจจุบันนักลงทุนต้องพร้อมยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน: SET อาจเริ่มเหวี่ยงในกรอบ 1144-1162 ซึ่งหากโชคดีอาจไปได้ถึง 1180+/- แต่ในเชิงกลยุทธ์ต่างกันดังนี้ 1) คนที่มีของในทุน 1100+/- แบ่งทำกำไรบ้าง โดยยังสามารถถือต่อเพื่อรอ update ตลาดอีกระยะ 2) คนที่ไม่มีของและต้องการเข้าเก็งกำไร ให้ใช้บริเวณ 1144-1140 เป็นจุดรับเลือกหุ้น ซึ่งอาจเน้นอาหาร หรือพลังงาน พร้อมตั้ง stop loss ซึ่งพิจารณาเป็นหุ้นรายตัว (อย่าตั้ง stop จาก SET) หุ้นแนะนำ MALEE TCAP PTT สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: ตั้งแต่ 25 พ.ค. เราได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นจาก 25% เป็น 40% หลังหุ้นปรับลงมาถึง 1100 จุด และเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นสู่ระดับเต็มที่หาก SET ยังปรับลงถึงระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK EGCO RATCH PS SIRI PTTGC และธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ KTB บล.ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้เรายังไม่ปรับมุมมองตลาดในสัปดาห์นี้ที่ยังมองว่าแนวโน้มตลาดมีโอกาสที่จะร่วงลงในช่วงปลายสัปดาห์ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้าตามปัจจัยเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนที่ค่อนข้างแย่ในทุกภูมิภาค ในขณะที่การที่ดัชนีปรับขึ้นเหนือ 1,150 จุด ปิดที่ 1,153 จุด เรามองว่าได้แรงหนุนจากการทำ Short Covering ในหุ้นหลายตัว และการซื้อคืนของต่างชาติเล็กน้อย ในขณะที่ภาพข่าวต่างประเทศยังดูว่าไม่มีอะไรที่พัฒนาไปในทางบวก นอกจากนี้แม้ประเด็นเรื่องสเปนตลาดจะยังไม่กังวลในปัจจุบัน แต่เรามองว่าการที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหนักวานนี้ ล่าสุดอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี จะส่งผลต่อ Sentiment ตลาดโดยรวม และมองว่าตลาดหลังจากที่ปรับขึ้นมาตอนนี้จะค่อนข้างเปราะบางกับข่าวลบที่จะเข้ามามากขึ้น แต่สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวรายวัน เรามองที่ระดับ 1,140-1,162 จุด โดยในดัชนีขาขึ้นเราคาดหวังตัวช่วยจากหุ้นในกลุ่มธนาคารมากกว่านี้ แต่หากยังไม่มีแรงซื้อคืนเข้ามาเรามองว่าแนวโน้มตลาดคงไปไม่ไหว และโดนขายในท้ายที่สุด นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่องการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ทำให้ดูเหมือนว่าหุ้นในกลุ่ม Commodities กลับมาเสี่ยงจากการขายอีกครั้งในระยะนี้
Create Date : 30 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 11:54:51 น. |
Counter : 886 Pageviews. |
|
|
|