|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ก๊อกๆ ก๊อกๆ เลสิกร้อนๆมาส่งแล้วจ้า
หลังจากที่เรามาตรวจว่าสามารถทำเลสิกได้หรือไม่ได้ หมอที่ TRSC ตรวจละเอียดมาเลย จนพ่อที่ไปกับเราด้วยนั่งหลับเลย พ่อคงจะมีความสุขกับเครื่องนวดที่เค้าบริการให้กับคนที่มาเป็นเพื่อนด้วย เราก็รู้ผลในวันนั้นเลยแหละว่าเราทำเลสิกได้ มีพี่คนนึงเขาเป็นคนดูแลประจำตัวเราด้วย ดีจังไม่เคยเห็นที่ไหนมี
แล้วไม่นานนัก ก็มีพนักงานที่นี่ โทรมานัดหมายวันผ่าตัดให้ วันที่ 5 กรกฏาคม ตรงกะวันพุธ เวลา 11.00 พอรู้ว่าจะต้องผ่าตัดตาอันแสนสวยของเรา นอนไม่หลับเลยทั้งคืน ตอนเช้าเราก็จูงมือมากับพ่อมาที่ตึกอื้อจื่อเหลียง ชั้น 6 ตอนแรกตื่นเต้นมากเลยอ่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่ลงไปสัมผัสกับคำว่า " ผ่าตัด " (เกิดมาไม่เคยเลยล่ะ.........น้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ก็กลัวนี่น่า) ตื่นเต้นมากมาย ทำอะไรไม่ถูก 555+ ขำตัวเอง มาถึงที่นี่ก็อึ้ง ไปพักนึงว่าทำไมคนมารักษาด้วยการผ่าตัดเลสิก เยอาะมากขนาดนี้ เยอาะจนเรารู้สึกว่าความตื่นเต้นที่มีอยู่ค่อยๆ หายไป เรามาก่อนเวลาน่ะจะประมาณ 20 นาทีได้ ระหว่างที่รอก็นั่งเล่นเกม ที่นี่มีตู้เกม มีน้ำให้กดด้วยไม่อั้น และที่สำคัญเลยน่ะเค้ามีพิพิธภัณฑ์แว่นตา ที่มีแต่คนวงการบันเทิง ไม่ก็นักการเมือง นักธุรกิจ มาทำที่นี่แล้วมีแว่นที่เค้าเคยใส่กันอยู่ในตู้กระจก เดินดูทั่วศูนย์เลย 55+ เพลินดีตลกตัวเองเลยว่าความตื่นเต้นเราหายไปแล้วล่ะ
11.00 น.เปะก็มีคนเดินเข้ามาทักเราว่าให้ไปหยอดตาอะไรไม่รู้จำไม่ได้ เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยแหละ ที่นี่ให้ความสำคัญกับความสะอาดมากเลยอ่ะ ขนาดน้ำที่ให้ทานยังมีซีนปิดไว้เลย ซึ่งเราไปที่รพ.ส่วนใหญ่ไม่มีน่ะ ระหว่างเปลี่ยนเสื้อก็มองกระจก " ว้าว ชุดที่ใส่เหมือนหมอผ่าตัดเลยเท่มากๆๆๆ มีใส่หมวกด้วย." แอบอมยิ้มที่กระจกเล็กน้อยแล้วก็บอกว่า " สู้....สู้ " หันกลับไปบอกลาแว่นคู่ใจที่เก็บไว้ในกระเป๋า ด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ว่า " ลาก่อน เพื่อนรัก " แล้วเราก็เดินออกจากห้อง มีคนใจดีคนนึงมารับเราหน้าห้อง ระหว่างที่ก้าวขาเดินไปตามทางนั้นมือเราเย็นมากเลย เหมือนรู้สึกว่าถ้าเอาแครอบมาวางไว้คงมีเกร็ดน้ำแข็งขึ้นแน่ ก่อนที่จะถึงกระบวนการก็ต้องมีการทำความสะอาดล้างมือ ให้เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็พามาที่หยอดตา เป็นการหยอดยาชา แล้วก็นอนบนเก้าอี้นวดอีกแล้วดีจัง ชอบมากเลย มันทำให้เราลืมความกลัวไปได้เพราะระหว่างที่หลับตานั้นมีเสียงเพลงไพเราะมาไว้ที่หู บริการที่นี่ดีมากเลยน่ะเราชอบ แต่มือก็ยังเย็นอยู่เหมือนเคย สักพัก ก็มีคุณหมอ คนสวยชื่อ คุณหมอสุกานดา มาจับมือแล้วบอกว่าไม่ต้องกลัวน่ะค่ะ ทำตัวตามสาบายเลยค่ะ เสียงหมอนิ่มมากใจดีอ่ะ หัวใจเต้นแรงมากเลยคราวนี้ อย่างกับว่ากำลังตีกลองเชียร์รีดเดอร์ยังงั้นน่ะ เพราะมีมือนิ่มๆมาสัมผัสมือเราแล้วจูงมาที่ห้องผ่าตัด เรานอนที่เค้าเตรียมให้ที่ห้องผ่าตัดมีจอโทรทัศน์ด้วยแหละ แล้วคุณหมอก็มือนิ่มมาก มีคนนึงมาจับที่มือให้กำลังใจตลอดเวลาเลย คุณหมอทำความสะอาดรอบดวงตาเราเย็นจังอะไรไม่รู้ หลังจากนั้นก็ทำการผ่าตัดเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเร็วมากๆๆๆไม่เจ็บเลย แต่รู้สึกตึงๆที่ตานิดนึง จากนั้นก็ออกจากห้องผ่าตัดแล้วครอบตาด้วยฝาครอบตา มีรูมองเห็นด้วยค่ะ และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน พี่กับน้อง ถ่ายรูปกันใหญ่เลย แล้วก็แซวกันอย่างเมามัน 555+
นี่ก็เป็นความรู้สึกที่เราได้เข้าห้องผ่าตัดเป็นครั้งแรกในชีวิต สุดยอดเลย อยากจะเก็บเป็นไดอารี่ให้เพื่อนได้รับรู้ บอกเล่าประสบการณ์แห่งความประทับใจหลายๆอย่างในไดอารี่ออนไลน์ของเราที่ไม่มีวันหายไปแม้กาลเวลานั้นจะผ่านไปเท่าไหร่ แต่เหมือนว่ามันพึ่งเกิดมาเมื่อวานนี้เอง
ขอบคุณค่ะที่อ่านมาถึงตอนนี้ ...................
Create Date : 02 ตุลาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 18:21:24 น. |
Counter : 602 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: benji2 2 ตุลาคม 2552 19:48:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: fordear 2 ตุลาคม 2552 21:39:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเคยทำเลสิก IP: 125.24.157.72 3 ตุลาคม 2552 23:18:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
" รูปเธอยังยิ้ม ข้างเธอคือฉัน เพ่งมองดูนานๆ น้ำตาก็มาคลอๆ กี่ปีมาแล้ว เธอเป็นยังไงบ้างหนอ ค่อยๆลืมเลือนกันไป ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เรื่องราวเหล่านั้นจึงจบลง "
|
|
|
|
|
|
|
|
|