Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
2 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
กาญ-สังขละบุรี

หลังจากที่แมกซ์กับเพื่อนๆ MBA คร่ำเคร่งกับการทำ IS มานาน (สมัยเราเรียก project จบ ตอนนี้เรียก IS เผลอนึกว่าเป้นวิชา IS บ่อยๆ) ตอนนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวผ่อนคลายกันละ ...ทริปนี้ไปเที่ยวกันที่กาญ แล้วเลยไปสังขละต่อกันเล็กน้อย มีเฮียเอกซ์กับโนจิคอยจัดการให้ทุกอย่าง ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ (^^)

งานนี้ไปกับเพื่อนแมกซ์ ไม่ค่อยกล้าออกอาการมาก (ยังเขินอยู่) เลยถ่ายรูปคนอื่นซะเยอะ เพื่อนๆแมกซ์ก็เฮฮากันใช่ย่อย..หนุกดีๆๆ (ตอนแรกว่าจะเอาแต่รูปที่ถ่ายเองมาโพส แต่สลับกล้องกะแมกซ์เป็นระยะๆ กับจำไม่ได้ว่าอันไหนถ่ายเองมั่ง เลยโพสมันรวมๆแหละนะ 555)

ไปกาญทั้งที ที่แรกก็ต้องแวะไปสะพานข้ามแม่น้ำแควตามระเบียบ
รอบนี้ไปถึงตอนรถไฟกำลังมาพอดี ...คนเยอะเลย~~

ปู้นๆๆๆ ใครอยู่บนรางรีบหลบเร็ว


รถไฟแล่นอย่างช้า มีเวลาให้ถ่ายชัดๆเต็มๆ

หลังจากรถไฟไปก็ถ่ายบนรางกันหน่อย
แมกซ์นั่งอีท่าไหนไม่รู้ กางเกงเปือน เราไม่เห็นเปื้อนเลย!!

สามนางแบบประจำทริป

นายแบบจำเป็น เวลาอยากลองกล้อง

แดดร้อนมากๆ เดินไปซักพักก็หลบไปชอปปิ้งละ

แต่จริงๆตอนนี้คนน้อย ถ่ายรูปออกมาเห็น back ground สวยเชียว

อีกรูป...รูปนี้น่ารักดี

เอ้า โพสสส

เท่ห์ได้อีก (แต่ป่านมันทำท่าไรของมันเนี่ย~~~~)


จบจากที่นี่ก็ไปต่อกันที่พร้อมมิตรสตูดิโอที่ถ่ายละครเรื่องพระนเรศวร
ค่าเข้าคนละ 100 ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยไม่จำกัดเวลา ... ใครอยากมาถ่ายรูปก็มีอะไรให้ถ่ายเยอะมากๆๆ แต่เตรียมพร้อมรับแดดไปให้ดีๆ แดดแรงมาก + ต้องเดินไกลกันพอสมควร ....ส่วนเรื่องน้ำนี่มีขายเป็นระยะๆไม่ต้องแบกไปก็ได้

ตรงแถวๆที่ขายบัตรมี cut out รูปพระเอกนางเอกให้เล่น ... ไม่มีใครไปเล่นรูปพระเอก แต่มาเล่นรูปนางเอกกันกระจาย

อันนี้ถ่ายออกมาแล้วดูสวยดี ....

แต่อันนี้มันช่าง .......
(ย้ำ !!! ไม่มีใครบอกให้ไปทำ ...เฮียแกวิ่งเข้าไปเอง)

เพื่อไม่ให้เป้นการเสียเวลา ..รีบเข้าไปอย่างด่วนเพื่อให้คุ้่มกับค่าตั๋วที่เสียไป
ปล. โบรชัวร์ที่เก็บมาหาย (Y_Y) ไม่รู้จะจำได้หมดมั๊ยอ่ะ

แดดแรง + ไร้ที่กำบัง

ที่แรก..หมู่บ้านโยเดีย

ได้ยินคนบรรยายแวบๆๆว่าคำว่า "โยเดีย" คือคำที่พม่าใช้เรียกคนไทยที่จับมาได้ ... หรือจะพูดอีกนัยนึงว่าหมู่บ้านโยเดียก็คือหมู่บ้านเชลยชาวไทยนั่นเอง!!!

มองไปจากโยเดียจะเห็นวังเมืองหงสา
แต่เราจะอ้อมไปดูอีกทางก่อนจะไปเข้าเมืองกัน

เอารูปทางเข้าวังมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน

ระหว่างทางมีเสบียงให้เติมพลังเป็นระยะๆ

ถัดจากหมู่บ้านโยเดียมาเป็นวัดของมหาเถรคันฉ่อง


ข้างๆเป็นบริเวณกุฏิ

ลืมถ่ายรูปข้างในมา ...ข้างในของสถานที่แต่ละที่จะมีทีวีแล้วตัวเอกของแต่ละสถานที่จะมาบรรยายความสำคัญของแต่ละที่ๆ ... อย่างตรงนี้ก็จะมีสรพงษ์ (มหาเถร)บรรยาย ..ถ้าสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ก็พอจะเรียนรู้ได้ (แต่ก็พูดเรื่องการถ่ายทำหนังอีกเยอะเหมือนกัน)


ถัดออกไปก็จะเริ่มเห็นกำแพงเมืองหงสาวดี


วันนี้แดดแรงมาก เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง


จากกุฏิของมหาเถรฯ ต้องเดินเลาะกำแพงเมืองไปเรื่อยๆจนถึงทางเข้า

จากประตูมองมองเข้าไปจะเห็น สีหาสนบัลลังก์ หรือว่าเป็นที่ว่าราชการของพม่านั่นแหละ

มุมนี้ก็สวยมากอีกแล้่ว สีตัดกันอย่างแรง

ข้างในก็มุมสวยนะ แสงกำลังดีเลย

ข้างในก็จะเหมือนปราสาททั่วๆไป คือมีบัลลังก์พระราชาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง แล้วนอกนั้นก็โล่งๆ ให้ทหารก้มกราบได้สบายๆ

ตอนนี้ใครอยากเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นชาวไทย ชาวพม่าโบราณ เค้าก็มีบริการเช่าชุดแล้วก็ทำผมให้ ถ่ายได้คนละ 5 แอ๊ค ราคา 150 บาท แต่ต้องซื้อบัตรเข้าไป ตากล้องเข้าไม่ได้เน้อ~~~

มีคนเข้าไปถ่ายกันเยอะพอควร ...เราไมไ่ด้ไปด้วย ก็เดินมาก้นก่อน

อ้อ ลืมบอก มีคุกใต้ดินจำลองด้วยนะ บรรยากาศอย่างมืดเลย!!!

บรรยากาศรอบๆสีหาสนบัลลังก์

จุดหมายต่อไปคือสรรเพชรปราสาท (อันนี้เหมือนจะเป็นวังฝั่งไทยนะ ...แต่แอบไม่แน่ใจ)

กำแพงข้างปราสาท

ข้างในอย่างทอง



จบจากตรงนี้แล้วอีกไกลมากกกกก กว่าจะถึงเป้าหมายต่อไป ...ใครไม่อึดอย่าได้เดิน 555 นั่งรถรางไปได้เลย เค้าจะไปส่งที่ตำหนักบุเรงนอง (สถานที่ระหว่าง 2 จุดนี้ก็จะมีหมู่บ้านอโยธยา- เห็นปักป้ายไว้เฉยๆ แต่เข้าใจว่าเป็นฉากหมู่บ้านฝั่งไทย)

cut out ชนเผ่านาคาที่พม่าไปจ้างให้ทำไรซักอย่าง
เฮียวิ่งไปโดยไม่มีใครบังคับอีกแล้ว!

ข้างในตำหนักนี่อย่างทอง...ขนาดที่ว่านึกไม่ออกว่าทองกว่านี้จะเป็นไง
(แอบคิดว่าทองขนาดนี้มันไม่แยงตาตอนนอนหรอ ??)


รอบๆตำหนักจะมีจำลองวิวบ้่านเมืองเอาไว้ ถ่ายออกไปก็จะเป็นประมาณนี้

มีปืนอยู่ + ไม่มีป้ายห้ามจับ..จะช้าอยู่ใย

จบ high light ของสถานที่ถ่ายทำละ... จุดถัดไปที่สร้างความสนุกสนานได้เอาการอยู่ก็คือห้องอุปกรณ์ประกอบฉาก

มีที่นั่ง + ไม่มีป้่ายห้ามขึ้น...ก็เลย...

ต่อมาเป็นห้องเก็บศาสตราวุธ มีืั้งดาบ โล่ ปืน หมวก บลาๆๆๆ
เล่นกันได้เต็มที่

หุ่นแสดง costume (แต่มีวัตถุประหลาดแปลกปลอม)
แต่เฮียแกวิ่งไปโดยไม่มีใครบังคับอีกแล้วครับท่าน
ปล. ตั้งแต่ตรูซื้อกล้องมาเองเนี่ย รูปตรูลดอย่างฮวบ แต่รูปเฮียเพิ่มขึ้นโฮก
(คิดถูกรึเปล่าก้ไม่รู้ที่ซื้อกล้อง)

กว่าจะออกจากที่นี่ก็ล่อไปสี่โมงเย็น
ตอนสายๆเนี่ย มีแวะกินข้าวที่ที่พักรถข้างทางนิดนึง ...บอกกันว่า ไม่ต้องกินเยอะ เดี๋ยวก็ได้กินข้างเที่ยงแล้ว .. พอตอนเที่ยงเพิ่งได้เข้าที่สตูดิโอนี่ ...ใช้เวลาไปเยอะมาก (ตอนถ่ายรูปกันไม่รู้สึก แต่พอเดินพ้นเขตถ่ายรูปนี่ื้ท้องร้องกันทันที) ...คราวนี้สั่งข้าวเย็นที่ที่พักเอาไว้ จะกินตอนนี้ก็กระไร เลยซื้อข้าวเหนียวหมูฝอยรองท้องกันก่อน แล้วไปกินที่ทีพัีกทีเดียวเลยละกันเนอะ ~~~
(แต่รู้สึกว่าคิดผิดอ่ะ เพราะ้เวลานาน + ข้่าวเย็นไม่อร่อยเลย Y_Y)


เราพักกันที่เขื่อนวชิราลงกรณ์กัน ...ที่พักใช้ได้เลยนะ (แต่กับข้่าวไม่ค่อยถูกปากเรา)

บรรยากาศยามเย็น

จบไปแล้ว 1 วัน



วันที่ 2 เราจะไปสังขละบุรีกัน

ปล. พูดถึงสังขละ คนมักจะนึกถึงสะพานมอญตอนเช้าๆที่มีพระมอญมาบิณฑบาท เด็กกระโดดจากสะพาน แล้วก็มีชาวบ้านมอญมาซื้อของไทยไปขายกัน ... แต่รอบนี้เราไปดูไม่ทันล่ะ เพราะว่ามันต้องไปเช้าพอสมควร แล้วระยะทางจากกาญ ไปที่นั่นค่อยข้างไกล ขับรถตอนมืดๆอันตราย กว่าเราจะปถึงที่นั่น คนก็เริ่มน้อยละล่ะ


บรรยากาศที่พักยามเช้า
(รูปนี้โมเมเอารูปที่ถ่ายตอนสายๆของเช้าวันที่ 2 มา)

แวะกินข้าวที่ตลาดกันก่อน

ก่อนจะถึงสะพานมอญนิดนึงมีวัดชื่อวัดสมเด็จ ข้างทางมีพระพุทธรูป 6 องค์ ปางแปลกๆ
ไม่ได้เข้าไปถามในวัด แต่ถามชาวบ้านตรงสะพานมอญว่ามีความหมายอะไรรึเปล่า เค้าบอกไม่รู้

องค์ขวาสุดลักษณะเหมือนหญิงท้อง ...แปลกไปกันใหญ่

บรรยากาศในรถตู้

มาถึงสะพานมอญแล้ว ...ดูความยาวของสะพานก่อน

ดูใกล้ๆ ให้เห็นกันไปเลยว่าไม่มีคน!!!

โพสกันได้เต็มที่มากๆ

รูปหมู่ๆๆ

ตั้งค่านานเหลือเกิน...จัดไปให้ 1 แช๊ะ

ถามลุงแถวนั้นเค้่าบอกว่า ถ้ามาก็มาซัก 6 โมงเช้า เดินข้ามสะพานชิวๆไปถึงฝั่งนั้นก็ราวๆ 6.30 ใส่บาตรพอดี แล้วก็เที่ยวตลาดมอญต่อไป (ฝั่งนั้นเป็นชาวมอญที่มาตั้งรกรากในเขตไทย)

ว่างๆก้เลยนั่งเรือเที่ยว ไปดูเมืองบาดาล กับวัดใต้น้ำ
เดิมทีพื้นที่ตรงนี้จะเป็นหมู่บ้านชาวมอญ มีวัดสำคัญคือวัดวังวิเวการามที่หลวงพ่ออุตตะมะเป็นคนสร้าง(ร่วมกกับชางกะเหรี่ยงและชาวมอญ) แต่ว่าตอนปี 2527 มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ (หรือว่าเขื่อนเขาแหลม) บริเวณตรงนี้ก้เลยท่วม ชาวมอญกับวัดเลยต้องอพยพไป

แต่ว่าพอช่วงน้ำลด ก็จะยังเห็นวัดกับบริเวณเมืองเก่าอยู่ คนก้เลยเรียกกันว่าวัดใต้น้ำ หรือว่าเมืองบาดาล


หอระฆังเดิม

อุโบสถเดิม
ปล. ต้องบอกก่อนว่า หน้านี้น้ำลดไม่เยอะพอ ถ้ามาตอนช่วงมีนาจะสามารถพายเรือเข้าไปได้
หรือว่าถ้ามาเมษา จะเดินเข้าไปได้เลย ..เห็นรูปนี่แล้วอย่าเพิ่งไม่อยากมาเที่ยวที่นี่นะ (^^)

เกือบลืม ..คนเรืออุตส่าห์บรรยาย ...ขอเขียนซะหน่อย บริเวณที่เรานั่งเรือเที่ยวเนี่ย เป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สามสายมาตัดกัน (ที่เค้าเรียกว่าสามประสบ) คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ กับแม่น้ำรันตี (รู็สึกว่า 2 อันจะไหลมาจากพม่าหรือไงเนี่ยแหละ)

ขึ้นเรือมาแ่ล้ว

เดินข้ามสะพานจากไทยไปมอญ

แสงดีมากๆๆ

ถัดไปเราจะไปวัดวังวิเวการามใหม่ที่ย้ายมาจากที่เดิมที่จมน้ำ
จุดเด่นของที่นี่เลยคือเจดีย์พุทธคยา (จำลองมาจากของจริงในอินเดีย) ซึ่่งเป้นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ (1 ใน 4 ของสังเวชนียสถานที่ชาวพุทธควรจะต้องไปกราบไหว้) ...ไปถึุงอินเดียไม่ไ้ด้ ก็ตั้งใจนมัสการที่นี่ละกันนะ

เจดีย์พุทธคยาแบบแขกผสมกับสิงห์ของพม่า

ขึ้นไปแล้วจะเจอพระประธานตรงกลาง แล้วก็พระประจำวันเกิดรอบๆ
(แต่ที่นี่เรียงแปลกๆ วันพฤ แล้วก้ไปวันเสาร์ แล้วก็วันราหู ศุกร์ อาทิตย์ ...)

พักกันที่นี่นานหน่อย ก่อนไปกินข้าวเที่ยง ...จำชื่อร้่านไมไ่ด้ แต่มีป่ายเขียนว่าเป้นร้านอาหารเจ้าแรกของสังขละ .. อร่อยมากกกกกก .... ใครได้ไปแฃ้วอย่าพลาดเป็นอันขาด!!!

จุดเที่ยวต่อมาคือด่านเจดีย์สามองค์
ไม่รู้ประวัติ ... คร่าวก็คือด่านที่ข้ามจากไทยไปพม่า (แต่วันนี้ด่านปิด เพราะมีปัยหาผู็ก่อการร้าย) เจดีย์เล็กกว่าที่คิดไว้มาก เลยไม่ได้ถ่ายอะไรมาให้ดู... สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือเด็กชาวมอญ ...

ตอนเราไปมีเด็ก 2 คน กับแม่ เดินตามติดมาตลอด แม่เค้าบอกให้ถ่ายรุปกับเด็กได้ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรก็ถ่ายไปเพราะว่าแปลกดี ...อยากหาขนมให้แต่ตอนนั้นไม่ได้เอาอะไรติดตัวลงมา ..ใจอยากให้เงิน แต่กลัวว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นอาชีพเค้าไป (อันนี้มีพี่ชาวบ้านคนนึงเคยบอกเลยนะ ... ไม่ได้คิดเอง ว่าอย่าไปให้เงินชาวบ้านเยอะ เดี๋ยวเค้าจะยึดเป็นอาชีพ แล้วคนอื่นจะมาทำตามเหมือนกันหมด)

ไปๆมาๆน้องเค้าเดินตามกลุ่มเราตลอดเลย ... (เพิ่งมาเห็นในรูป) แอบสงสารยังไงไม่รู้อ่ะ

เด็กๆชาวมอญ

กำแพงข้างหลังเขียนว่า "สุขภาพดี ไม่มีพรมแดน"

เป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ คือ น้ำตกเกริงกระเวีย (ชื่อจำโคตรยาก)
ใครใคร่เล่นน้ำเล่น ... แต่เราใคร่ถ่ายรูป ก็กดไป~~~~







ตอนช่วงขึ้น-ลงน้ำตกปลาตอดอย่างเยอะ (ฟังเค้ามา)
เจ๊โบกลัวจัดเลยขี่หลังปาหนันขึ้นฝั่ง

.........








จบจากน้ำตกก็เข้าที่พักโลด ... คนที่ไปเล่นน้ำไปอาบน้ำกันก่อน ที่เหลือก็ถ่ายรูปกันต่อ

แมกซ์เห็นรูปนี้แล้วบอกว่า ..เข้าใจแล่วว่าทำไมเราขนลุกเวลาแมกซ์พยายามจะทำตาโรแมนติกใส่
(มัีนน่ามั๊ยล่ะ ดูดิ !!!)

พยายามจับพระจันทร์

ราหูอมจันทร์



คืนนี้คาราโอเกะกัน หนุกหนานมาก

Dancer ทำงานตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย

"เํธอจะมีใจรึเปล่า ~~~"
เพื่อน... กูรักมึงว่ะ !!!

จบแล้ว สำหรับวันที่ 2



เช้าวันนี้จะกลับกันแล้ว ~~~
เมื่อคืนบางคนปาร์ตี้กันต่อไม่รู้ถึงกี่โมง ... เ้ช้านี้ใครตื่นก่อนก้ไปเที่ยวสันเขื่อนวชิราลงกรณ์ ..ส่วนใครอยากนอนก็ตามสบายเลย


สิ่งแรกที่เห็นคือน้องลิง
ลงรถมาลืมปิดประตู ...น้องลิงก็วิ่งไปคว้่าถึงขนมไป 1 ถุงทันที (อย่างไว)

ถ่ายจากสันเขื่อน

ถ่ายรูปวิวแล้วรู้สึกไม่ได้ดัี่งใจ เลยแอบถ่ายเพื่อนไปเรื่อยๆ



ควันหลงจากเมือคืน !!!
(เคลิ้่มกว่าตอนอยู่กับตรูอีก)


เสร็จแล้วก็ไปกินข้างเช้า แล้วก้ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนหินดาดกัีน .. แช่น้ำร้อนจนพองเลย (^^)

จบแล่วจ้า สำหรับทริปนี้ สนุกมากๆ ...ขอบคุณเฮียเอกซ์ กับโนจิอีกทีสำหรับการจัดการอย่างดีเยี่ยม
แล้วก็ขอบคุณ entertainer ทั้งหลายในคืนคาราโอเกะด้วย หนุกมากๆๆๆๆ!!!


Create Date : 02 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 0:00:21 น. 5 comments
Counter : 1898 Pageviews.

 
ก๊าซซซซซ อยากไปอ่ะ อยากไป
ภาพหนุกหนานมากมายเลยอ่ะ


โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:57:45 น.  

 
ไปกันเยอะเลย ดูสนุกจังคะ

...

ถ่ายรูปสวยจังคะ

อยากไปphoto trip แบบนี้บ้างจัง




โดย: Rabbit_Filter วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:48:05 น.  

 
สังขละบุรี ไม่ลืมค่ะ แล้วต้องกลับไปอีก
สามประสบรีสอร์ท เปงที่พักที่สุดยอด


โดย: Sasi_chon วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:17:07 น.  

 
ไปกันหลายคนก็สนุกนะสิ


โดย: faisai วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:32:45 น.  

 
ผมเคยไปกาญจนบุรีมาแล้วครับผมไปป้อมปี่และไปบ่อน้ำพุร้อนหินดาดครับสวยมากๆเลยครับอยากให้ทุกคนได้ไปมากๆเลยครับเพราะมีที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมากๆครับและสวยๆทุกที่เลยครับ


โดย: คนไปมาแล้ว IP: 124.121.206.123 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:48:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เด็กข้างหน้าต่าง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพใน blog นะคะ

Friends' blogs
[Add เด็กข้างหน้าต่าง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.