จบจากกินกุ้ง ก็เริ่มคลำทางไปนครสวรรค์กัน ...ดูแผนที่ผิดพลาดกันเล็กน้อย เลยเสียเวลาไปร่วมชั่วโมง กว่าจะไปถึงนครสวรรค์ก็ล่อไปซัก 3 โมงกว่าๆได้มั้ง (แอบนานละ จำไมไ่ด้ ^^')

หลงทางที่อยุธยาไม่พอ ดันมาหลงอีกที่นครสวรค์อีก (--') แบบว่าเี้ลี้ยวเข้าถนนเส้นที่ไปบึงบอระเพ็ดถูก แต่แอบมองข้ามป้ายทางเข้าบึงบอระเพ็ดไป ... ขอร้อง ป้ายเล็กมาก ไม่เห็นคำว่าบึงบอระเพ็ด แต่เห็นป้าย Otop ที่ติดอยู่ด้วยกัน .... แบบว่าบึงปรับปรุงใหม่ตั้งเยอะ น่าจะมาลงทุนกับป้ายให้นักท่องเที่ยวเห็นชัดกว่านี้หน่อยเน้อ~~~~

ตอนแรกที่นึกภาพบึงบอระเพ็ดไว้ คือสระบัวใหญ่ๆ แบบว่าน้ำเต็ม ใบบัวเต็ม ร่มรื่นๆ ไปถึงแอบผิดคาดเล้กน้อย เพราะว่าไม่เห็นวี่แววบึงเลย (Y_Y) เจ้าหน้าที่บอกว่า ตอนนี้น้ำน้อย ถ้าจะดูใบบัวแอบต้องนั่งเรือออกไปไกลหน่อย แต่แดดแรงมาก ถึงมากที่สุด ก็เลยขอบาย เข้าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ดีกว่า ดูดีเหมือนกันนะ


ค่าเข้า บาท ... เข้าไปถึงเค้าก็ประกาศว่าเจ้าหน้าที่กำลังให้อาหารปลากระเบน ...รีบเข้าไปดูทันที

พอจบจาั้กชั้น 1 ก็ขึ้นไปชั้นสอง ... ข้างบนนี้เหมือนพวกเพาะพันธ์พืชน้ำมากกว่า มีแต่แบบพืชๆในตู้ปลาให้ดู แล้วก็พวกิวัฒนาการเครื่องมือจับสัตว์น้ำ มีปลาเล็กๆน้อย ไม่เยอะเท่าชั้น 1

ในบรรดาปลาเล็กปลาน้อย มีอยู่ตัวนึงที่เค้าแปะป้ายไว้ว่าเป็นปลาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ... แอบตลกหน้า เพราะปากมันเจ่อๆ (เห็นแล้วนึกถึงเด็กสมัยนี้ที่ชอบทำปากเจ่อ ปากจู๋ตอนถ่ายรูป (--')) จำชื่อปลาไม่ได้แฮะ (โง่ไม่ยอมถ่ายป้ายมาอีก ..พอไม่ได้กลับมาเขียนทันที ตอนนี้ก็เลยลืมไปแล้วเรียบร้อย เหอๆๆๆๆ)

นอกจากพิพธภัณฑ์แล้ว ยังมีอีกหลายที่ให้ไป เช่น หาดทรายเทียม ฟาร์มจระเข้ แล้วก็ละครลิง ... พี่จุ๊อยากดูละครลิง ก็เลยขับรถไปตรงที่เค้าเล่นกัน ..แต่ว่าตอนไปถึงยังไม่ถึงรอบเล่น ก็เลยไปเดินเที่ยวหาดทรายเทียมต่อ

หาดทรายดูแล้งมากอ่ะ แต่ว่าลมเย็นเกินคาด แค่ไปยืนซักพัก ยังคิดเลยว่าถ้ามีเสื้อมาปูนอนนี่หลับชัวร์

เดินเล่นแถวนั้นซักพัก ก็ไปดูละครลิง ... เมื่อก่อนท่าทางจะรุ่ง แต่เดี๋ยวนี้คนดูน้อยจัง (แอบสงสาร ทั้งคน ทั้งลิง)

จบแล้วววว ไม่มีอะไรไปดูต่อ เลยไปเดินตลาด หาข้าวกิน แล้วก็กลับกรุงเทพ ... กว่าจะออกจากนครสวรรค์ก้เกือบ 6 โมงเย็น แวะกินข้างกลางทาง แล็วก็มุ่งหน้ากลับบ้านเลย ... ถึงบ้านดึกเหมือนกัน ...แอบเหนื่อย แต่ก็สนุกไปอีกแบบเน้อ~~~