"ตลาดน้ำวัดสมหวัง" ตลาดน้ำเปิดใหม่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สวัสดีค่ะพื่อน ๆ ชาวบล็อกทุกคน ช่วงนี้บล็อกฝากเธอชวนเพื่อน ๆเที่ยวกันบ่อยหน่อยนะคะ สำหรับบล็อกนี้ก็เช่นกัน จ.ข.บ. จะพาไปเดินเล่นสบาย ๆที่ตลาดน้ำเพิ่งเปิดใหม่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ ซึ่งตลาดน้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากบ้านของ จ.ข.บ.ไปประมาณ 5 ก.ม. นั่นคือ "ตลาดน้ำวัดสมหวัง" ที่เพิ่งเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2555 โดยท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็นประธานในพิธีเปิดค่ะ ลานจอดรถกว้างขวาง ร่มรื่นค่ะ จอดนานแค่ไหนก็ไม่ร้อน ตลาดน้ำวัดสมหวัง อยู่ภายในบริเวณวัดสมหวังวณาราม หมู่ที่ 8 ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดตั้งขึ้นโดยเทศบาลตำบลวัดประดู่ จุดประสงค์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลายอย่างค่ะ เช่นล่องเรือสัมผัสธรรมชาติรอบบึงขุนทะเล ชมนก ใหอาหารลิง ให้อาหารปลาฯ ในส่วนของตลาดน้ำจะเปิดให้มีการค้าขายในวันเสาร์ และ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 19.00 น. โปรแกรมการท่องเที่ยวและอัตราค่าบริการของทัวร์ประเภทต่าง ๆ ของตลาดน้ำวัดสมหวังก็อย่างที่เห็นในภาพนี้นะคะ จ.ข.บ. ไปเที่ยวมาสองครั้งแล้วเฉพาะในส่วนของตลาดน้ำ แต่ยังไม่เคยไปทัวร์ในโปรแกรมอื่น ๆ โดยส่วนตัวแล้วชอบค่ะแม้ว่าตลาดจะเล็กไปหน่อย แต่บรรยากาศโดยรวมก็ตื่นตาตื่นใจดี ภายในบริเวณวัดร่มรื่น สะอาดสะอ้าน มีที่จอดรถกว้างขวางเป็นสัดส่วน ในตลาดเน้นขายอาหารพื้นบ้านที่หากินยาก ส่วนของจุกจิกอย่างเสื้อผ้า ของประดับตกแต่ง ของที่ระลึก ฯลฯ ยังมีน้อย ส่วนหนึ่งก็คงเพราะเป็นตลาดเพิ่งเปิดใหม่ หากต่อไปตลาดน้ำวัดสมหวังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็คงมีพ่อค้าแม่ขายมากขึ้น ปล่อยภาพให้ดูกันเพลิน ๆค่ะ คำขวัญของตลาดน้ำวัดสมหวังค่ะ แลนด์มาร์คงาม ๆให้ถ่ายรูป หลานสาวตัวน้อย "น้องต้นข้าว" เป็นนางแบบให้ แต่นางแบบยิ้มแห้งไปหน่อย คงจะเหนื่อยเพราะช่วงเช้าไปเดินเที่ยวที่ห้างเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานีกันมา(เพิ่งเปิดใหม่เหมือนกัน) พอตกบ่ายป้าพามาเที่ยวตลาดน้ำอีก นายแบบตัวน้อย น้องเจเจ หลานชายค่ะ มีที่ให้นั่งพักใต้ต้นไม้ มีกิจกรรมสันทนาการ การละเล่นแบบนี้แถวบ้านเรียกว่า "หมากขุม" ค่ะ (บางที่เรียกว่า หมากหลุม) มีบริการวาดภาพเหมือนในแบบการ์ตูนด้วย ถ้าจะให้อาหารปลาก็ซื้อขนมปังถุงละ 10 บาท ปลาที่ จ.ข.บ. เห็นก็เป็นปลาสวายซะส่วนใหญ่ค่ะ แผงขายของลอยน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ตลาดน้ำ" ตรงนี้ขัดใจ จ.ข.บ. นิดหน่อยเพราะมีอยู่นิดเดียว เป็นทางเดินยาวไม่น่าจะเกิน 30 เมตร และมีอยู่แถวเดียว เรือที่มาลอยลำขายของก็มีอยู่ไม่กี่ลำ แต่ก็ยอมรับได้นะคะ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเพิ่งเปิดใหม่ และสองแม่ค้าที่พายเรือเป็น หรือแม่ค้าที่ที่บ้านมีเรือใช้ อาจจะมีน้อย ที่เห็นส่วนใหญ่จะตั้งแผงขายกันบนบก ซึ่งก็หวังว่าจะมีการพัฒนาและขยายตัวขึ้นในอนาคตค่ะ ลงไปเดินดูของข้างล่างกันค่ะ ร้านแรกขายขาวข้าวคลุกกะปิ ประทับใจเครื่องแต่งกายของแม่ค้าที่นี่ค่ะ ทุกคนจะใส่เสื้อผ้าลายบาติกสีชมพูเหมือนกันหมด ลุงนั่งย่างปลา กับ ขนมจาก (ขนมเอกลักษณ์ของปักษ์ใต้ ทำด้วยแป้งข้าวเหนียวผสมกับเนื้อมะพร้าวทึนทึกขูด น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนด ใส่เกลือเล็กน้อย ตักใส่ใบจากแล้วกลัดด้วยไม้กลัด เอาไปย่างบนไฟอ่อน ๆจนขนมสุก รสชาติหวาน หอม กินเพลินจนหยุดไม่ค่อยได้ แม่ค้าส้มตำ ไก่ย้าง สั่งแล้วก็นั่งกินกันตรงนั้นเลย เป็นกันเองดีค่ะ ขนมจำพวกคลุกมะพร้าวทั้งหลาย ที่เห็นก็มีครองแครงคลุกมะพร้าว ข้าวเม่าคลุกมะพร้าว และข้าวโพดคลุกมะพร้าว สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่ "รวยมะพร้าว" ค่ะ เมื่อก่อนคนเฒ่าคนแก่ท่านว่าอย่างนั้น กับข้าวจำพวกแกงที่ใส่กะทิของที่นี่จึงมีมากมายหลายอย่างและจะมัน เข้มข้นด้วยกะทิเป็นพิเศษ แคะขนมครกกันใหญ่เลย มีเรือพายให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากลงไปพายเรือเล่นด้วยค่ะ ค่าเช่าครั้งละเท่าไหร่ก็ไม่ได้ถามมา หลานสาวขอให้อาหารปลาค่ะ วันนั้นไปถึงก็ตอนบ่ายแก่ๆ แล้ว ปลาคงอิ่มเพราะมีคนไปเที่ยวตั้งแต่เช้าเลยไม่ค่อยขึ้นมากินอาหารกันเท่าไหร่ นี่คงเป็นเรือนำเที่ยวรอบ ๆบึงขุนทะเล และดูชีวิตริมน้ำในละแวกนั้นค่ะ เดินดูของที่ขายกันในเรือจนพอใจแล้วขึ้นไปดูแผงขายของบนบกกันบ้างค่ะ ในถาดนี้คือ "ปลาแนม" ค่ะ สมัยนี้หาทานยากแล้ว ทำจากข้าวสารที่เอาไปคั่วให้เหลืองแล้วเอามาบดให้ละเอียด จากนั้นเอามาคลุกกับเครื่องปรุงอื่น ๆ แต่ที่ขาดไม่ได้คือน้ำกระเทียมดอง ซึ่งทำให้ปลาแนมมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว "ปลาแนม" เวลาจะกินก็ห่อด้วยใบทองหลางอ่อน ๆ รสชาติจะหวาน ๆ เปรี้ยวๆ หอมข้าวคั่วกับน้ำกระเทียมดอง และได้รสมันๆจากใบทองหลาง อร่อยนักแล เจ้านี้ขายข้าวหลาม กับ ขนมทองม้วน ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ กับ ขนมเทียนใส้เค็ม "ขนมจาก" แบบชัดๆ วันนั้นซื้อมา 1 มัดค่ะ กินแล้วนึกเสียดาย น่าจะซื้อมาสัก 2 อ่ะ เขียนไว้ว่า "ชาลาเปาทอดน้ำ" งงเหมือนกันว่าทำยังไง แต่ก็ไม่ถามนะ ก็เลยยังสงสัยอยู่จนเท่าทุกวันนี้ นี่ล่ะน๊า ! ที่เขาว่า "คนโง่ที่รู้จักถาม จะเป็นคนโง่อยู่แค่ไม่กี่นาที แต่ถ้าโง่แล้วไม่รู้จักถาม จะโง่ไปตลอดชีวิต" ขนมเบื้องยวน ของหากินยากอีกอย่างหนึ่งค่ะ สมัยเป็นเด็กชอบกินมากแต่ไม่ได้เห็นมาเป็นสิบๆปีแล้ว พอเห็นปุ๊บก็ปรี่เข้าใส่เลย แล้วก็สอยมา 3 ห่อ บ๊ะจ่าง ข้าวต้มมัด หอยกรอบ หอยสามรสของเจ้านี้อร่อยค่ะ ที่ตลาดนัดใกล้บ้านอุดหนุนกันประจำ นี่ก็ของแปลกอีกอย่างค่ะ แถวบ้านเรียกว่า "ข้าวเหนียวอุบ" คือเอาข้าวเหนียวมานึ่งให้สุกแล้วมูลด้วยหัวกะทิผสมน้ำตาลทราย จากนั้นเอากระทะตั้งไฟ เอาใบตองวางบนกระทะหลายๆชั้น เอาเหนียวมูลใส่ลงไปกดให้เป็นแผ่นบางๆ จากนั้นเอาใบตองปิดทับลงไปอีกหลายๆชั้น ย่างบนกระทะด้วยไฟอ่อนๆ คอยพลิกกลับไว้บ่อย ๆ จนข้าวเหนียวแห้งและเกรียมเหมือนในภาพค่ะ นั่นเป็นวิธีทำสมัยก่อน สมัยนี้เขาทำกันอย่างที่เห็นในภาพข้างล่าง แม่ค้าท่านนี้อัทธยาศัยดีมากค่ะ พอยกกล้องเล็งปุ๊บ เธอโพสยิ้มปั๊บให้ถ่ายภาพทันที ถึงบล็อกนี้จะเอาภาพมาลงเยอะแล้วแต่ภาพนี้ยังไงก็ต้องลงค่ะ ประทับใจนางแบบ มาถึงตรงนี้ก็ขอจบทริปตลาดน้ำวัดสมหวังไว้เพียงเท่านี้นะคะ ก่อนจากกันทิ้งท้ายด้วยภาพขนมเบื้องยวนที่ซื้อมา เปิดให้เห็นกันชัดๆ แต่ที่ใส้มันมากขนาดนี้เพราะหลานสาวตักในห่อของตัวเองมาใส่ค่ะ บอกว่า "ป้าตุ๊กเอานี่ไป น้องข้าวไม่ชอบกิน แต่ห้ามเอาเต้าหู้ไปนะ" กรรมล่ะชั้น!! ต้องนั่งเขี่ยเลือกเต้าหู้ออกให้คุณนายอีก !! ลากันไปก่อนค่ะ แล้วกลับมาพบกันใหม่บล็อกหน้า ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 11:52:04 น. |
|
56 comments
|
Counter : 22261 Pageviews. |
|
|
เอนทรี่นี้ทำให้เนยอยากมีตังค์ไปไทยเร็วๆ จัง คิดถึงอาหาร-ขนมไทยๆ มากค่ะ
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ
โดย: ^^ (จุดตะเกียงสว่างถึงตะวัน ) 2 พฤศจิกายน 2555 2:10:50 น.