สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวบล็อกทุกคน

    ได้เวลาเที่ยวกันอีกแล้วนะคะ วันนี้จะพาเพื่อนๆ ร่วมทริปไปปัจฉิมนิเทศและเลี้ยงส่งนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ที่จบการศึกษาในเดือนมีนาคม ปี 2554 ค่ะ  ทริปนี้ที่โรงเรียนจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน กับ 1 คืน  โดยพานักเรียนชั้น ป.6 ไปเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต  นอนค้างที่หาดไม้งาม จ.พังงา 1 คืนแล้วเดินทางกลับ ระหว่างทางก็จะแวะเที่ยวจังหวัดพังงาแบบไม่ได้วางแผนตายตัวค่ะ  มีเวลาเที่ยวก็เที่ยวกันไปเรื่อย ๆ  เราเดินทางออกจากโรงเรียนตอน ตี 5 ของวันที่ 10 มีนาคม 54  ถึงจังหวัดภูเก็ตราว ๆ 8.30 น.  พานักเรียนไปเที่ยวที่แรกคือ ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติถลางค่ะ

      พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติถลาง ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร ห่างจากอนุสาวรีย์ไปทางถนนสายป่าคลอก ประมาณ 200 เมตร  ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนขัตฤกษ์  ค่าเข้าชม  คนไทย  20  บาท  ชาวต่างชาติ  100  บาทค่ะ   พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติถลาง  ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง  มีรูปทรงเป็นแบบบ้านท้องถิ่นของชาวภูเก็ต  อาคารหลังแรกจัดแสดงเรื่องก่อนประวัติศาสตร์ชายฝั่งทะเลตะวันตก สมัยแรกเริ่มประวัติศาสร์เมื่ออารยธรรมอินเดียเผยแพร่เข้ามา  ประวัติและวิธีการทำเหมืองแร่ดีบุก และสวนยางพารา ศิลปะพื้นบ้านและชาติพันธุ์วิทยาของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่บริเวณคาบสมุทรมลายู 

      สำหรับอาคารหลังที่สองจัดแสดงฉากและเรื่องราวของศึกถลาง ชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีที่น่าสนใจของชาวจีนในภูเก็ต และเรื่องราวความเป็นมาและถิ่นอาศัยของชาวเลในภูเก็ต  เป็นที่น่าเสียดายนะคะที่นี่ห้ามถ่ายภาพด้านในของพิพิธภัณฑ์  จึงเก็บมาได้เฉพาะภาพด้านนอกเล็กน้อยค่ะ

       ออกจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติถลาง  เราพานักเรียนไปเที่ยวต่อที่สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ จังหวัดภูเก็ต  ซึ่งคงไม่กล่าวถึงรายละเอียดในบล็อกนี้นะคะ เพราะเพิ่งเล่าเกี่ยวกับสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำภูเก็ต ไปเมื่อบล็อกที่แล้ว  สำหรับเพื่อนท่านใดที่ยังไม่ได้ไม่ได้อ่านบล็อกที่แล้วและสนใจรายละเอียดของสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำภูเก็ต  สามารถเข้าชมได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ  //www.bloggang.com/mainblog.php?id=youaremyworld&month=19-10-2012&group=17&gblog=6 

      จากสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ จังหวัดภูเก็ต  เราพาเด็ก ๆไปเที่ยวกันต่อต่อที่สวนสัตว์จังหวัดภูเก็ต  ตั้งอยู่ที่เลขที่ 23/2  ซ.ป่าหล่าย ถ.เจ้าฟ้า ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000  ที่นี่เป็นสวนสัตว์ของเอกชน เนื้อที่ 62 ไร่  เปิดให้เข้าชมทุกวันค่ะ  โดยจะเก็บค่าเข้าชมดังนี้  ชาวไทย ผู้ใหญ่  80  บาท   เด็ก 30 บาท   ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500  บาท  เด็ก  300  บาท   ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่นเดินชมสัตว์  ชมสวนกล้วยไม้  มีอวอเรี่ยมด้วย(แต่เราไม่ได้เข้าไปดู)  มีกิจกรรมถ่ายภาพกับสัตว์  และมีการแสดงของสัตว์ เช่นลิง ช้าง จรเข้ค่ะ  ดูภาพกันนะคะ

ภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ  จากเว็บไซต์ของสวนสัตว์ภูเก็ตเอง  ขอบคุณมากค่ะ

ที่นั่งเล่นแบบน่ารัก ๆ ในสวนสัตว์ค่ะ

บรรยากาศในสวนสัตว์ภูเก็ตร่มรื่นมากค่ะ ตลอดทางเดินรอบสวนสัตว์ไม่ร้อนเลย  ถ้าจะไปเที่ยวที่นั่นน่าจะมีเวลาอยู่ในสวนสัตว์อย่างน้อยสักครึ่งวันค่ะ จึงจะเดินเที่ยวได้ทั่ว  เสียดายวันนั้นเรามีเวลาอยู่ที่นั่นแค่ประมาณ  2 ชั่วโมง

การแสดงของช้างค่ะ ที่นี่จะมีการแสดงของสัตว์เป็นรอบ ๆค่ะ  ตารางการแสดงของสัตว์ก็สามารถหาดูได้ในเว็บไซต์ของสวนสัตว์  ตามลิ้งนี้ค่ะ  //www.phuketzoo.com/

    จากสวนสัตว์ก็เข้าวัดเข้าวา ไปไหว้พระนมัสการหลวงพ่อแช่ม อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดฉลอง  เมื่อปี 2419 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5  ซึ่งท่านมีกิตติศัพท์ในเรื่องการปรุงยาสมุนไพรรักษาโรค  มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก   วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราม  ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 8 กิโลเมตร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ตและเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ  ซึ่งเป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา  เจ้าของบล็อกไม่ได้ถ่ายภาพภายในวัดมากมากนักค่ะ  ไปถึงที่นั่นตอนบ่ายโมงกว่า แดดร้อนมากๆ ลงจากรถได้ก็เก็บภาพพระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ มาสองภาพแล้วก็ขอนั่งพักใต้ร่มไม้ดีกว่า  ไปต่อไม่ไหวค่ะ ไขมันละลาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า  

นั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ เหลือบไปเห็นดอกชบาสวย ๆ  อดใจไม่ไหวเด็ดมาซะเลย

       หายเหนื่อยแล้วเราก็ไปกันต่อที่แหลมพรหมเทพค่ะ  แหลมพรหมเทพเดิมเรียกว่า "แหลมเจ้า" ถูกจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของจังหวัภูเก็ต  เนื่องจากในเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินจะมีทัศนียภาพที่สวยงามมาก  แหลมพรหมเทพมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และประภาคารกาญจนาภิเษก  สร้างขึ้นในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9  ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีด้วย   อาจกล่าวได้ว่า"ถ้าไปจังหวัดภูเก็ตแล้วไม่ไปที่แหลมพรหมเทพถือว่ายังไม่ถึงภูเก็ต "

ซูมสุดกำลังกล้องแล้ว ได้แค่นี้ล่ะค่ะ

วิวพานอราม่า ของแหลมพรหมเทพค่ะ

       สำหรับวันที่ 10 มีนา 54  คณะของเราเที่ยวกันได้เท่านี้ล่ะค่ะ  กลางคืนเราพักกันที่อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ใกล้กับหาดอะไรสักอย่างจำซื่อไม่ได้จริงๆ ค่ะ   มันผิดแผนไปนิดนึงคือเราตั้งใจจะไปพักกันที่หาดไม้งาม จังหวัดพังงา  แต่โทรเช็คกับเจ้าของพื้นที่แล้วปรากฏว่าแถวนั้นฝนตกหนักไม่เหมาะที่เราจะไปกางเต้นท์นอนกัน  ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่   ช่วงค่ำก็มีการเลี้ยงฉลองให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  6  เราทำอาหารจำพวกปิ้งๆ ย่างๆ เลี้ยงนักเรียนกัน  มีการเล่นเกมส์ และมีพิธีอำลากันเล็กน้อยพอให้ซาบซึ้งก่อนเข้านอน   ตื่นเช้ามาก็พาเด็ก ๆลงไปเดินเล่นที่ชายหาดกันค่ะ

เล่นเกมส์ก่อกองทรายกันค่ะ กลุ่มไหนทำได้สวยถูกใจคณะครูมากที่สุดมีรางวัลให้ด้วย

ผักบุ้งทะเล

หาดทรายขาว ๆ

กับสาวงาม ที่คงนั่งคิดถึงหวานใจอยู่ ^_^

เก็บ "ดอกรัก" ริมชายหาดมาฝากค่ะ

      เราปล่อยให้เด็กเล่นน้ำทะเลกันจนพอใจก็ไล่ให้ไปอาบน้ำแต่งตัว  ทานมื้อเช้าแล้วก็ไล่ต้อนขึ้นรถเตรียมเดินทางต่อ  วันนี้เราไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนเพราะไม่ได้วางแผนไว้  แต่จะแวะเที่ยวระหว่างทางไปเรื่อย ๆ   โดยต้องกลับให้ถึงโรงเรียนในเวลา 14.00 น. เพราะนัดผู้ปกครองมารับเด็กเวลานั้น  ระหว่างทางคณะของแวะเที่ยวที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ น้ำตกลำปี  อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี - ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา  น้ำตกลำปี อยู่ที่ หมู่ที่ 6 ริมถนนสายเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) บริเวณกม.ที่ 32-33  จะมีทางแยกเข้าไปอีก 1.5 กม. เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีประมาณ 6 ชั้น มีน้ำตลอดปี 

เข้าไปแล้วก็ได้เที่ยวกันอยู่แค่บริเวณที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ น้ำตกลำปี และบริเวณน้ำตกเท่านั้นค่ะ  ไม่ได้เดินเข้าไปเที่ยวชมป่าต้นน้ำด้านในเนื่องจากมีเวลาจำกัด   มาถึงตรงนี้กล้องของเจ้าของบล็อกก็เป็นอันต้องอำลาทริปนี้ไปก่อน เพราะว่าเบตเตอร์รี่หมดซะแล้ว  เสียดายและเจ็บใจมาก ๆ ก็ตรงที่เขาแวะเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาหลักฯด้วยนี่สิคะ  เป็นที่ที่งดงามมากแต่ดันไม่ได้ภาพมาเลยสักภาพ และเพราะเห็นว่าไม่มีภาพมาก็เลยยังไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับที่นี่นะคะ  ไว้มีโอกาสไปอีกครั้งเมื่อไหร่ จะรีวิวให้ละเอียดเลย  

      สำหรับทริปนี้ก็คงต้องจบไว้เพียงเท่านี้ค่ะ  และต้องขออภัยอย่างมากถ้าหากภาพที่เอามาลงไม่คมชัดเท่าที่ควร  เนื่องจากบล็อกก่อนหน้านี้ใช้วิธีย่อภาพไปฝากไฟล์ไว้ที่ photobucket  แล้วเอาลิ้งค์มาใช้  แต่มีเพื่อนๆหลายคนบ่นเข้ามาว่าภาพไม่ค่อยขึ้น  บล็อกนี้ก็เลยใช้วิธีย่อภาพให้มีขนาดไฟล์ไม่เกิน 150 kb ตามที่ทางบล็อกแก็งค์กำหนดไว้  คุณภาพของภาพเเลยไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ แถมขนาดของภาพไม่เท่ากันอีกต่างหาก  หวังว่าคงให้อภัยกันนะคะ  ก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆอย่างสูงที่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมทริปด้วยกันค่ะ  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะให้ความสุข  ความเพลิดเพลินบ้างไม่มากก็น้อย  แล้วพบกันใหม่บล็อหน้านะคะ  สวัสดีค่ะ

Create Date : 25 ตุลาคม 2555
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2555 11:53:12 น.		46 comments
Counter : 6515 Pageviews.
Share Tweet