Ninja!
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Do you believe in destiny ?





Shodow In My Heart







เมื่อตอนที่ผมเรียนชั้น ปวช.ปีสอง ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงกับที่บ้าน เพราะตอนนั้นพ่อผมจะต้องซื้อของที่นู่นมาลงทุนบ่อย จำได้ว่าเป็นช่วงที่ไปเที่ยวสองสามวันแรก ช่วงเช้า ก้อได้ไปถ่ายรูปบนเขา และที่นั่นเองผมได้เจอเธอสะดุดตาที่เธอชุดแซกสายเดี่ยว (เขียนงี้หรือเปล่าหว่า) สีขาวบริสุทธิ์ถือกระเป๋าสีฟ้า รองเท้าส้นสูงสีชมพู มีสร้อยเส้นเล็ก ๆ ผูกที่ข้อเท้า ที่ลำคอมีสร้อยทอง พร้อมจี้รูปไม้กางเขนห้อยอยู่ ส่วนสูงประมาณ 160 Cm เธอกำลังยืนให้ผู้ชายคนนึงถ่ายรูปอยู่ ผมได้เห็นเธอครั้งแรก ก้อต้องหยุดอึ้งในความน่ารักสดใสของเธอ และหยุดมองอยู่นานทีเดียว (จริง ๆ ผมเองเป็นคนไม่ค่อยกล้ามองใครอยู่แล้ว ครั้งแรกที่ขอหน้าด้าน ) จนพ่อต้องมาถามว่า พ่อพาเข้าไปขอถ่ายรูปไหมผมถึงได้สติ และปฏิเสธทันทีทันใดแต่ในใจก้อยังเถียงตัวเองอยู่นาน อยากไปแต่ก็อาย คิดจับจด จนหมดเวลาถ่ายรูป รถทัวร์ของเราสองคันก้อแยกจากกันไป

ผมก้อไปเที่ยวต่อ ผมก็แอบคิดแอบหวังอยู่ในใจว่า อาจจะได้เจอกันอีก ผมไปต่อที่ไปวัดเจ้าแม่กวนอิม แต่ไม่เจอเธอที่วัด ผมเลยสวดขอว่าขอให้ได้เจอกันอีก จนตอนบ่ายก็

ไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง







ผมก็ได้เจอเธออีกที เธอเดินมากับผู้ชายคนเดิม มากันสองคน ผมดีใจนะที่ได้เจออีกครั้ง ในความรู้สึกของผมเป็นครั้งแรกเลยที่อยากจะรู้จักอยากจะเข้าไปทำความรู้จักกับ

ผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่เคยคุยหรือรู้จักกันมาก่อน แต่ยังไงผมก็ไม่กล้าอยู่ดี ก็ได้แต่แอบมองไป.... แต่ก็สังเกตุเห็นเธอมอง ๆ มาฝั่งผมเหมือนกัน มองเหมือนคนเคย

รู้จักกันเลย ( สารภาพเลยว่ายังแอบเข้าข้างตัวเองเหมือนกันนะ 555 ((ไม่เจียมตัวเลย)) )


เธอเดินออกไปก่อน ผมก็เข้าไปอยู่ในรถด้วยความเสียดาย(ที่ไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จัก)บวกกับความปลื้ม( นี่ขนาดแค่เธอมองเฉย ๆ นะ ) และเราก้อไม่ได้เจอกันอีกเลย...........


หลังจากวันนั้นผมก้อกลับมาไทย เรื่องราวที่ผมอยากให้เป็นคือเราสองคนได้เจอกันอีกครั้ง ทีประเทศไทย และได้ทำความรู้กจักกัน และกลายเป็นเพื่อนกัน แต่.... ก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย.....






พอขึ้นปี 4 เรียนมหาลัย ตอนนั้นผมยังคบกับแฟนอยู่ เราคบกันปีนี้เป็นปีที่สอง ชีวิตคู่ราบรื่นและมีความสุขดีนะ น้อยครั้งที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราว แฟนผมทำงานไปด้วย

เรียนไปด้วย(เรียนวันเสาร์-อาทิตย์) ส่วนผมตอนนั้นมีหน้าที่เรียนให้จบอย่างเดียว เทอมสุดท้ายที่ผมเรียน ผมลง 8 วิชา ซึ่งเทอมสุดท้ายผมเรียนหนักมาก จำได้ว่า

เทอมนั้นไม่มีวันหยุดสำหรับผมเลย เทอมนั้นผมต้องลงวิชาเลือกหนึ่งตัว ซึ่งวิชานั้นผมต้องลงเรียนภาคค่ำ ( ผมเรียนรอบปกติ )

วันที่ผมจำได้ไม่มีวันลืม คือ วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ของปี 41 ซึ่งเป็นวันปิดคอรส์ก่อนที่จะสอบปลายภาค ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ผมเรียนวิชาเลือกรอบค่ำ เป็นคาบสุดท้าย





ก่อนที่จะสอบปลายภาคใหญ่ แล้วรับปริญญาตอนปลายปี ผมได้เจอเธอครับ เธอคนนั้น คนที่ทำให้ใจผมเต้นตึกตักเมื่อหลายปีก่อน เจอโดยไม่คาดคิด เธอเข้ามานั่งข้าง ๆ ผม

โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเธอมานั่งตอนไหน ไม่คิดฝันว่าเราจะได้เจอคนที่เราไม่ได้คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอกันอีก ในเวลาและสถานที่ที่เราไม่มีทางคาดคิด ผมดีใจมาก เธอก็ยังมองผมเหมือนคนเคยรู้จักกันมาก่อนเหมือนเดิม....เธอแต่งชุดไปรเวท เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ และยังใส่จี้รูปกางเขนเหมือนเดิม..

ผมตัดสินใจรวบรวมความกล้ากล่าวสวัสดีกับเธอ ทันทีที่เราคุยกัน ผมถามเธอทันทีว่า ใช่เธอหรือไม่ คนที่ไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อนในช่วงเดือนเมษา คุยไปคุยมา ก็

ได้คำตอบที่คาดไม่ถึง คือ เธอจำได้และที่สำคัญเธอจำผมได้ !!!


หลังจากคุยกันผมทราบว่า เธอชื่อ หญิง เป็นคนกทม. เธอทำงานด้วยเรียนไปด้วย(เธอเรียนเอกโฆษณาแต่ดันเลือกวิชาเลือกตรงกับผม)และ เธอมีแฟนแล้ว แฟนเธอเรียนต่อที่ต่างประเทศอยู่ แต่ไม่ใช่คนที่ไปเที่ยวด้วยนะ (คนนั้นเป็นน้องชาย) และก็รู้มาอีกว่า บ้านเธออยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเลย - -" บ้านผมอยู่

หน้าถนนสายหลัก แต่บ้านเธออยู่ในซอยถัดไปอีก 2 ซอย เธอยังบอกว่า เมื่อตอนเด็ก ๆ เธอเคยมาซื้อยากับแม่เธอที่บ้านผมบ่อย เธอจำผมกับพ่อผมได้ (ทำไมผมจำไม่ได้หรือไม่ได้สะดุดตาเธอตอนมาซื้อยาหว่า ???? ) และที่สำคัญเธอเป็นน้องสาว(เป็นลูกน้องชายพ่อเพื่อน คือเป็นลูกพี่ลูกน้อง )เพื่อนร่วมสมัยเรียนชั้น ปวช. ซึ่งเพื่อนคนนี้ผมก็สนิทพอสมควรเลย (แต่ทำไมตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่า เพื่อนมีน้องสาวที่น่ารักอย่างนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็เคยมานั่งเล่นที่บ้านเพื่อนคนนี้บ่อยนะ )


หญิงเป็นคนคุยง่าย ง่ายกว่าที่ผมเคยคิดไว้เยอะ เป็นคนที่ Friendly มาก ๆ เลย ผิดจากที่ผมเคยมองเธอจากภายนอกมากเลย บรรยากาศการเรียนคาบสุดท้าย





ก่อนปิดคอรส์ ตอนนั้น เป็นไปอย่างราบรื่น สนุก ประทับใจ คุยกับเธอตลอดคาบเลย และเป็นเพราะอาจารย์ในวิชานั้นได้สอนเนื้อหาและบอกแนวข้อสอบตั้งแต่คาบก่อนหน้านั้นแล้ว คาบนั้นอาจารย์ท่านอู้ไปไหนผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน และเป็นครั้งแรกที่ผมคุยกับเพื่อนผู้หญิง ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เราคุยกันได้เข้ากันดีมากเลย ลูกรับลูกส่งทันกันหมด รู้ทันเดาใจได้เดี๋ยวนั้น นี่ละมั้งที่ความรู้สึกที่เด็กแนวสมัยนี้เรียกกันว่า "คลิก" กัน (สมัยก่อนไม่มีใครบัญญัติคำศัพท์นี้ขึ้นมา) วันนั้นผมไม่มีนัดกับแฟนผม(ขนาดวันวาเลน์ไทน์นะ) เพราะแฟนผมก็ติดเรียนภาคค่ำเหมือนกัน ผมได้มีโอกาสนั่งแท็กซี่กลับบ้านกับเธอเพราะบ้านผมกับเธอไปทางเดียวกัน โดยแท็กซี่ก็มาถึงบ้านผมก่อน ก่อนบอกกล่าวกับหญิงทิ้งท้ายก่อนจากว่า "ไว้เจอกัน"( ผมคิดว่าไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอกันหรือเปล่า )เธอก็ยิ้มตอบกลับมาว่า "เช่นกันจ้า นอนหลับฝันดีนะ"

ผมยังจำรอยยิ้มเธอตอนสุดท้ายก่อนที่ผมจะปิดประตูรถแท็กซี่อย่างช้า ๆ แล้วหญิงก็นั่งก็แท็กซี่ต่อไปอีกนิดเพื่อเข้าซอยบ้านเธอต่อไป .......

สุดท้ายผมไม่ได้จีบเธอ (ไม่กล้ามากกว่า - -") เพราะดูเธอก้อไม่ได้สนใจอะไรผมมากนัก เรารู้จักกันในฐานะเพื่อนเท่านั้น..... (ยังแอบเสียดายเลย ผมไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์เธอมาด้วยสิ ((ไม่กล้าขอ ถึงจะขอก็ไม่รู้จะขอด้วยเหตุผลอะไร))ผมเลยไม่รู้จะติดต่อเธอยังไง ถึงแม้บ้านอยู่ใกล้กันแต่ผมก็ไม่รู้จักบ้านเธอ((ไม่เคยมานี่)) และเราก้อขาดการติดต่อกันไปอีกครั้ง ) ยอมรับนะ ว่าความรู้สึกของผมในวันนั้น แอบหวั่นไหวเหมือนกัน (อย่างนี้เรียกว่าแอบนอกใจหรือเปล่า )

แล้วเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่นั้นมา (ถึงจะอยู่บ้านละแวกเดียวกันก็เถอะ!!!)






หลายปีต่อมา........(จขบ.อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย - -)


ที่ หมู่บ้านคอนเน็ค ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ผมได้มีโอกาสสังสรรค์กับเพื่อนผม เพราะเพื่อนผมคนนี้เรียนจบจากญี่ปุ่น ได้งานทำที่ดี (เป็นเลขาฯ ของเจ้านายคนญี่ปุ่น) และที่สำคัญเพื่อนผมได้มีบ้านเป็นของตัวเอง ก็เลยถือโอกาสมาดูบ้านและเยี่ยมเพื่อนไปในตัวหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน 2-3 ปีแล้ว


ตอนที่ผมมาถึงบ้านเพื่อน เพื่อนผมบอกว่า"เดี๋ยวจะมีเพื่อนอีกคนตามมาด้วยนะ" (อารมณ์ผมตอนนั้นก็หมดสนุกไปครึ่งเลย กลัวบรรยากาศจะไม่เป็นกันเอง) ผมก็นั่งทานเบียร์ นั่งคุยสารทุกข์สุขดิบกับเพื่อนผมสักพักนึง ก็มีเสียงแท็กซี่จอดหน้าบ้านเพื่อนผม แล้วเพื่อนของเพื่อนก็เดินเข้าบ้านมา โดยที่ตัวผมเองก็กำลังนั่งหันหลังกับประตูทางเข้า


"ม้อ"(ชื่อไม่จริงของผม) เสียงผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยเรียกผม
ผมเงยหน้าขึ้นไป ไม่ต้องทบทวนความจำเลย คุณหญิงนั่นเอง (เวลาผมเรียกเธอต้องมีคำว่า"คุณ"นำเสมอ เป็นการเรียกแซวไปในตัว เพราะบุคลิกภายนอกเธอมันดูให้จริง ๆ )
ผมเจอเธออีกครั้ง เธอสวยขึ้นมากๆๆ แต่เหมือนไม่เปลี่ยนไปเลย





เพื่อนของผมเซอร์ไพสมากเลย "ผมรู้จักกับเพื่อนเธอได้ยังไง" (จริง ๆ ผมน่าจะเป็นฝ่ายเซอร์ไพสมากกว่านะ ว่า เธอรู้จักกับเพื่อนผมได้ยังไง )
คุยกันไป ก็ได้ความมาว่า เธอรู้จักกับเพื่อนผมตอนที่ทำโครงการกองทุนหมู่บ้าน ๆ ละ 1 ล้านบาท เมื่อ 3-4 ปีก่อน โดยเธอเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเพื่อนผม เราสามคนก็ได้นั่งสังสรรค์กันพักใหญ่ จนได้รู้มาว่า เธอทำงานเป็น AE อยู่ใกล้ ๆ กับอาคารทิปโก้ถนนพระราม 6และก็รู้มาว่า เธอเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นานเมื่อต้นปี เพราะอยู่ดี ๆ แฟนเธอโทรศัพท์มาบอกเธอว่า "มีแฟนใหม่แล้วนะ"(เออ เลิกง่ายดีวุ้ย ) หลังจากที่คบหาดูใจกันมาหลายปี .......ส่วนผมเองตอนนั้น ก็มีคนที่คบหาดูใจกันอยู่





เธอได้ชวนผมไปดูหนังที่เซ็นทรัลบางนาด้วย ซึ่งผมก็ว่างพอดี ส่วนเพื่อนผมก็ติดธุระพาแม่เค้าไปถอนฟัน (สาธุ ขอบคุณมาก)
ผมจำได้เลย ตอนนั้นเราดูหนังเรื่อง ไชยา (หนังก็ใช้ได้นะ แต่ทำไมหนังมันถึงไม่บูมก็ไม่รู้เนอะ) ดูหนังเสร็จแล้วเราก็ได้ทานข้าวด้วยกันมื้อดึก ทานที่ร้านอาหารตามสั่งข้างนอกข้างทาง ทานกันอยู่ดี ๆ ก็มีเซลล์เด็กขายดอกไม้เข้ามา ผมก็ซื้อดอกไม้ให้เธอ จำได้ว่าเป็นดอกกุหลาบสีเหลือง ตอนที่ให้เธอ ผมยังพูดว่า
"ไม่ว่าผมจะให้ในฐานะไหน ขอให้คุณหญิงได้โปรดรับไว้นะ ถ้าผมไม่เคยฆ่าญาติเธอมาก่อน...."
เธอก็ตกลงรับ ทางกลับผมเดินคุยกะเธอพักนึง คุยกันเรื่อยเปื่อย จนได้รู้มาว่า เธอเองก็บ้าวีดีโอเกมส์เหมือนผมเลย ยังติดตามข่าวสารเกมส์คอนโซลอยู่ เธอยังบอกว่า โบนัสออกเมื่อไหร่จะถอยเครื่อง PS3 มาเล่น (ตอนนั้นเครื่องยังราคาแพงกว่าตอนนี้มากเลย) จะว่าไปเธอเป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกนะที่ผมคุยเรื่องเกมส์ได้อย่างเต็มที่และไม่เคอะเขิน (ผมไม่เคยเจอเพื่อนผู้หญิงคนไหนที่คุยเรื่องเกมส์กับผม แม้กระทั่งแฟนตัวเองที่ผ่านมาก็เถอะ) ผมก็เรียกแท็กซี่กลับบ้าน และเธอก็ได้ส่งผมเข้าบ้านก่อนตามเคย(ก็แท็กซี่ผ่านบ้านผมก่อน) และผมก้ได้

กล่าวลาเธอครั้งสุดท้าย "โชคดีนะ ดูแลตัวเองมาก ๆ นะ" เธอก็ยิ้มตอบมาสั้น ๆ "เช่นกันจ้า"


นั่นเป็นภาพรอยยิ้มของเธอที่ผมเห็นและเป็นการเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะไปรับภาระกิจอันยิ่งใหญ่และสานฝันสร้างอนาคตที่ กรุงเอเธนส์ ต่อไป....






Fin









ภาพนี้คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา

Kae Nee...Gor Por - Pele Tanyarat






Create Date : 04 กันยายน 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2552 0:17:11 น. 23 comments
Counter : 1056 Pageviews.

 
โรแมนติคดีอะพี่ แต่ถ้าแฟนตอนนั้นรู้เข้าจะเป็นยังไงนี่ ส่วนตัวหนูไม่เคยเจออะไรแบบนี้อะ มีแต่บบแฟนเก่าไม่อยากจะเห็นหน้าบนโลกนี้ก็ดันมาเจอในห้างจนได้


โดย: น้องผิง วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:14:45:02 น.  

 

เดี๋ยวอีกซักสาม สี่ ห้า หก เจ็ด ปีก็อาจจะได้เจอกันอีกซักครั้งนะคะ ... ตอนนั้นก็ได้รู้ว่า destiny รึเปล่า ....


โดย: yourstarlight (yourstarlight ) วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:17:53:00 น.  

 
หนูก็อยากลองไปเป็นครูเด็กอนุบาลอีกนะพี่ แต่ตอนนี้หนูทำงานแล้วนะจิ ไม่มีเวลาอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:10:48:23 น.  

 
อ่านแล้วยิ้มค่ะ
โรแมนติกและน่าประทับใจแบบไม่ทำร้ายใคร

ไม่ได้มาทักทายนานเลย คุณโพสต์สบายดีนะคะ


โดย: Hobbit วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:22:41:13 น.  

 






หวัดดีค่ะ คุณโพส

แวะมาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ

ว้าวว บีจีสวยมากค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:23:50:54 น.  

 
มาดู bg ใหม่ ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:10:43:09 น.  

 
พี่โพส อย่าบอกนะว่าขาหมูที่ มาบุญครอง เจ้านั้นนะของโปรดพ่อหนูเลยอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:11:40:44 น.  

 
โลกมันกลมดีจริงๆ

ป.ล. ดูแลสุขภาพเช่นกันครับ ช่วงนี้ผมเป็นหวัดซะแล้ว


โดย: นายต่อ Ver. ต่างแดน (toor36 ) วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:13:17:03 น.  

 
ไม่มีคำบรรยายมากไปกว่า คำว่า ขอบคุณ


โดย: 9domengi วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:22:18:19 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะคุณโพสต์


โดย: Hobbit วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:17:16:34 น.  

 



หวัดดีค่ะ คุณโพส

วันหยุดแล้ว
พักผ่อนให้มากนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:5:25:22 น.  

 
อ่านแล้วขออนุญาตไปเช็คเรตติ้งแถวนี้ก่อนนะคะ
ว่ามีใครน่ารัก น่าถูกชะตาบ้าง -.,-

นู๋อ้อมอัพบล็อกเป็นที่เรียบร้อยค่ะ ดองมานานเลย


โดย: verdancy วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:15:27:35 น.  

 
เรื่องน่ารักมากๆๆๆๆ เลยค่ะ โรแมนติกสุดๆเลย


โดย: ป่ามป๊าม วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:16:52:52 น.  

 



หวัดดีค่ะ คุณโพส

สุขสดชื่นกับวันหยุดนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:4:32:45 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:12:45:13 น.  

 



หวัดดีค่ะ คุณโพส

ขอบคุณนะคะ ที่ไปอวยพรวันเกิดให้

ขอให้มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:19:19:17 น.  

 
up blog แย้ว ^^

เมื่อวานหนูเอารูปไปลงจะเอาไป hbd ให้พี่อรไม่ได้ไป up blog หรอก สงสัยมันจะไปโชว์ว่าเป็น last update อีกแน่เลยอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:11:30:54 น.  

 
มาทักทายค่ะคุณโพสต์
ชอบเพลงนี้จังค่ะ แต่ก่อนชอบเปเล่มากเลย ^^


โดย: Hobbit วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:23:27:42 น.  

 
แวะมาปัดฝุ่นอะ ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:10:24:30 น.  

 
ช่วยน้องผิงปัด


โดย: Hobbit วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:10:34:35 น.  

 


สปาเกตตี้น่าทานมากเลยค่ะคุณโพสต์
ชอบสปาเกตตี้เหมือนกัน ^^
สูตรนี้น่าลองดีนะคะ ให้อารมณ์เหมือนของอิตาเลียนที่ผัดใส่พริกแห้งกะโหระพาเลยค่ะ


โดย: Hobbit วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:14:42:44 น.  

 
ข้างบนลืมบอกค่ะว่าเอาเค้กมาฝาก


โดย: Hobbit วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:14:43:24 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดนะคะ ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:15:16:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MaThilDra
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add MaThilDra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.