Boogeyman 2 : รสชาติที่เปลี่ยนไป
Rating: 5.2/10 (1,151 votes), ส่วนตัว 7/10
(ไม่สปอยล์)
ผมเป็นคนที่กลัวแมลงสาบมากๆ เป็นความกลัวที่ฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ เวลาไปเข้าห้องน้ำเก่าๆโทรมๆที่อื่นล่ะก็ ภาพแมลงสาบบินใส่หัวในวัยเด็กต้องตามมาหลอกหลอนตลอด (คิดแล้วขนลุก) เป็นแบบนี้แล้วผมต้องได้รับการบำบัดรึเปล่าครับเนี่ย??
ผมเชื่อว่า "ความกลัว" มีอยู่ในคนเราทุกคน แต่มันก็มีประโยชน์นะ อย่างการที่ผมเป็นคนกลัวแมลงสาบ มันทำให้ผมเป็นคนรักสะอาดไปในตัว ผมจะกวาด-ถูบ้านทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ขนมขบเคี้ยวก็จะไม่นำมากินในห้อง ข้าวของต่างๆจะจัดเป็นระเบียบอยู่เสมอ มันเหมือนเป็นการจัดระเบียบตัวเองไปในตัวเลย
Boogeyman 2 เป็นเรื่องราวของ 2 พี่น้อง "ลอร่า" และ"เฮนรี่" ที่ครั้นในวัยเด็กได้เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมที่ บิดา-มารดาของตัวเองถูก Boogeyman ฆ่าตายอย่างสยดสยอง ทำให้เมื่อโตขึ้นต้องเข้ารับการรักษาในสถานบำบัดทางจิตแห่งหนึ่ง ที่นั่นพวกเขาได้พบกับ "ดร.เอลเลน" (Tobin Bell) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวทย์ ที่นำเรื่อง Boogeyman มาพูดให้คนไข้กลัวอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่ออยู่ไปซักพักคนที่เข้ารับการรักษากลับต้องตายไปทีละคนๆ และจากหลักฐานต่างมันฟ้องว่าต้องเป็นฝีมือจากมนุษย์แน่ๆ ฉะนั้นผู้ต้องสงสัยต้องก็คือทุกคนที่อยู่ในสถานที่นั้นอย่างแน่นอน
ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องนี้: เมื่อเปลี่ยนผู้กำกับ มันก็เลยคนละฟิลกับภาคแรกอย่างสิ้นเชิง มันกลายเป็นหนังฆาตกรรมหักมุมไปซะงั้น ดูไปแล้วนึกถึง SAW มากๆ สีสันต์คงอยู่ที่นักแสดงอย่าง Tobin Bell (จาก SAW) เขาเป็นคนที่มีบุคลิกที่น่าสนใจมากๆ ทั้งมาดและการพูดจา รวมไปถึงน้ำเสียง แทบไม่ต่างไปกับบทจิ๊กซอว์ที่เขาโด่งดัง
ฉากต่างๆ ค่อนข้างโหด และเลือดสาด ลบภาพลักษณ์ต่างๆในภาคแรกไปอย่างสิ้นเชิง ความตกใจที่เป็นจุดเด่นในภาคแรกถูกลดลงไป ทำให้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะเหมือนดูหนังกันคนละเรื่องเลย
สรุป: ชอบภาคแรกมากกว่า เพราะภาคแรกมีความน่ากลัว และดำเนินเรื่องได้ชวนลึกลับมากกว่า (แม้จะผิดหวังตอนที่ Boogeyman ออกมา) แต่ถ้าคิดซะว่าดูหนังคนละเรื่องกัน Boogeyman 2 ก็ถือว่าดูสนุกไม่น้อยเหมือนกัน แต่การหักมุมนั้นคล้ายเรื่อง SAW มาก ต้องดูครับว่าคล้ายยังไง ขืนเล่าก็ไม่สนุกสิครับ..
Create Date : 21 เมษายน 2551 |
Last Update : 21 เมษายน 2551 13:09:40 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2751 Pageviews. |
|
|
|