หลายคนคงเคยเจอปัญหาหนักอกหนักใจของหมู่คนลดน้ำหนัก ที่มักจะเกิดอาการเเช่เเช็งน้ำหนักเป็นเวลานาน ลดเท่าไหร่ก็ไม่ลงซักที เเม้จะทานเท่าเดิมออกกำลังกายเท่าเดิม อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายลดน้ำหนักลงได้ซักระยะนึง จนร่างกายชินชาเเละปรับสภาพให้ดำรงค์ชีวิตกับการรับประทานน้อยเเละออกกำลังกายหนักๆได้ น้ำหนักตัวจึงหยุดเเละนิ่ง เราเรียกสภาวะนี้ว่า Hit the Plateau หรือคนวงการเรียกว่า สภาวะ “หิดปลาทู”

อาการของ hit the plateau (หิดปลาทู) เกิดจากการที่น้ำหนักตัวของคุณลดลงแต่คุณไม่ยอมปรับการกินลดลงตามน้ำหนักตัวหิดปลาทูแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ

1. หิดปลาทูปลอม
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เริ่มแรกน้ำหนักยายหนูอยู่ที่ 80กิโลและกินอยู่ที่ประมาณ 2000 แคลอรี่ พอเข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก ก็ลดปริมาณอาหารลงมาคือกินประมาณ 1800 – 1600 ตามลำดับ… 4เดือนผ่านไป น้ำหนักลดลง 8กิโล แต่ยายหนูก็ยังกิน1600เท่าเดิม 2เดือนถัดมาน้ำหนักไม่ลดลงอีกเลย เพราะร่างกายชินกับอาหารปริมาณเท่านี้
ฉะนั้นยายหนูจะต้องเริ่มต้นใหม่ ที่น้ำหนัก 72 กิโล จากกิน 1600 ก็ต้องลดลงมากินแค่ 1200 – 1400 จึงจะทำให้น้ำหนักลดลงมาได้อีก ซึ่งยายหนูก็ทำแล้วโดยกินอยู่ที่ 1400 เท่ากับค่าของ BMR แต่ไม่สามารถกินต่ำกว่านี้ได้ เพราะจะทำให้ร่างกายอยู่ในขั้น”ขาดอาหาร” แต่มีวิธีแก้อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ว่า ไม่เกิน 1 ชม/วัน และ สูงสุด 6 วัน/สัปดาห์ ก็ดันมาป่วยเป็นหวัดซะนี่

2. หิดปลาทูแท้
คือเกิดจากการที่ร่างกายปรับ Metabolism ให้ต่ำลง เนื่องจากการกินน้อย ๆ ในช่วงที่อยู่ในโปรแกรมลดความอ้วนที่ผ่านมา ทั้งที่พยายามลดการกินลงไปแค่ไหน หรือ ออกกำลังกายหนักขนาดไหนก็ไม่สามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้
กล่าวคือ คุณไม่สามารถลดการกินลงไปได้อีกแล้วเนื่องจากมันจะกลายเป็นการ”อดอาหาร” และในขณะเดียวกันคุณก็ไม่สามารถหักโหมกับการออกกำลังกายได้อีก
ทั้งนี้เพราะว่าหากคุณหักโหมกับการออกกำลังกายมากไป ผลที่ตามมาคือร่างกายจะละลาย “กล้ามเนื้อ” มาเป็นพลังงานเสริม ผลที่ได้ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม

การแก้ไขปัญหาทำได้หลายๆ หนึ่งในวิธีการเเก้ไขคือการทำ Zig Zag Diet หรือจะใช้วิธีการ ขั้นตอนตามด้านล่างนี้

•หยุดโปรแกรมการลดน้ำหนักทุกรูปแบบ แล้วก็กิน ๆๆๆ โดยพยายามเน้น Carb เยอะ ๆ ในการนี้ควรให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาสัก 1-2 กก. (จิตตกหน่อยนะ แต่ก็ต้องทำ ถือเป็นการถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้าใหม่อีกครั้ง)
•เปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย เพื่อหวังผล After Burn ที่ยาวนานขึ้น วิธีการนี้ช่วยป้องกันมิให้คุณสูญเสียกล้ามเนื้อไปกับการออกกำลังกายในระยะเวลาที่ยาวนาน การออกกำลังกายแบบ HIIT ช่วยคุณได้ แต่ถ้าไม่ไหวก็ออกกำลังกายแบบเดิมก็ได้ เพียงเพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้นอีกหน่อย หรืออาจจะเน้นการออกกำลังกายแบบ Weight Training เพิ่มก็ได้
•หลังจากกลับมาเข้าโปรแกรมลดความอ้วนใหม่อีกครั้งควรทำ Overfeeding สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยวันดังกล่าวควรเน้นอาหารประเภทแป้ง ทั้งนี้เพื่อปรับฮอร์โมน Leptin ให้เพิ่มสูงขึ้น
การป้องกัน หิดปลาทู โดยการทำ Overfeeding ที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับ คนที่ไม่ได้อยู่ในขั้น Overweight ฉะนั้นคนที่อยู่ในขึ้น Overweight ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะสร้างปัญหามากกว่า Overfeeding ควรจะทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเน้นอาหารประเภท Carb เป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ Leptin ไม่ลดต่ำลงจนเกินไป ผลที่ได้ก็ คือ เป็นการรักษาระดับ Metabolism ไม่ให้ลดต่ำลง สำหรับคนที่อยู่ในระดับ Overweight ยังไม่ควรทำ เพราะโดยปกติแล้วคนอ้วนจะมีอาการ “ดื้อ” Leptin ปรากฎอยู่ (Leptin มีมากอยู่แล้วแต่มันไม่ทำงาน) หากทำ Overfeeding ผลที่ได้จะยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม สาเหตุอีกประการของคนอ้วน คือ ตะบะยังไม่แกร่ง ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะเกี่ยวข้องกับ Insulin ด้วย หากเผลอไปทำ Overfeeding ผลที่ได้ คือ “หลุดยาว” แทนที่ตอนแรกกะว่าจะทำ Overfeeding แค่วันเดียว แต่สุดท้ายผลที่ได้อาจจะหลุดทั้งสัปดาห์เลยก็ได้ค่ะ

 
Credit: trymythai.multiply.com
Credit: lovefitt

Create Date : 13 กันยายน 2556
Last Update : 13 กันยายน 2556 8:29:35 น.		0 comments
Counter : 2102 Pageviews.
Share Tweet