Group Blog
 
 
เมษายน 2556
 
21 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
เจาะลึกการ "ดื่มน้ำ" (3) : น้ำเย็น

สวัสดีค่ะจากเมื่อวานที่ทิ้งท้ายไว้ว่าวันนี้จะพูดต่อในเรื่องของน้ำเย็น กับถ้ากินข้าวคำกินน้ำคำ จะเป็นยังไง แต่ด้วยเวลาที่มีน้อยเอาเป็นว่าวันนี้หญิงขอพูดถึงเรื่องน้ำเย็นก่อนละกันนะคะ ^^


ไม่ว่าจะอากาศร้อนๆ รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย หิวกระหายน้ำดื่มประเภทแรกที่ทุกท่านนึกถึงก็คงจะเป็น “น้ำเย็นๆ” สักแก้วหรือซักขวดนึงใช่มั้ยล่ะคะ? ทุกอย่างย่อมมีด้านดีและด้านเสียค่ะหญิงจะสรุปทั้งสองด้านของมันให้ฟังกันนะคะ

เคยมีบทความหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ดื่มน้ำเย็นหลังกินข้าวจะทำให้ไขมันที่อยู่ในอาหารจับตัวเป็นก้อน และแตกตัวออกมาลงสู่กระเพาะอาหารแล้วไปจับเกาะแน่นตามผนังลำไส้ ทำให้เกิดการอุดตัน และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้” บทความอันนี้ไม่เป็นความจริงทั้งหมดเริ่มจากเหตุผลแรกก่อนเลยนะคะ

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชิตได้อธิบายชี้แจงเหตุผลเอาไว้ค่ะว่าการดื่มน้ำเย็นหลังอาหารนั้นไม่เป็นอันตรายถึงขั้นนั้นอุณหภูมิปกติของร่างกายจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียสน้ำเย็นที่เราดื่มเข้าไป ก็เปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นอยู่ดีและถ้าหากไขมันจะจับตัวเป็นก้อน ก็ต้องมีอุณหภูมิ 3-4 องศาเซลเซียส และน้ำเย็นจะถูกดูดซึมได้ดีกว่าน้ำอุ่นด้วยซ้ำไปนะคะ


จากข้อมูลของสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐได้กล่าวไว้ว่าถ้าต้องการออกกำลังกายได้นานขึ้น ก็ควรดื่มน้ำที่มีอุณภูมิต่ำกว่าร่างกายที่ 15-22 องศาเซลเซียส

พอกล่าวถึงตรงนี้แล้ว ถ้าบางท่านสงสัยหรือเคยได้ยินมาว่า “การดื่มน้ำเย็นขณะออกกำลังกายก็เหมือนเอาน้ำไปสาดถ่านแดง หรือไปสาดเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนจัด” เมื่อสงสัยเช่นนั้นหญิงก็ขอเอาข้อมูลวิจัยจาก University of Sydneyมาเป็นเครื่องยืนยันให้อีกทีละกันนะคะ ก็คือนักวิทยาศาสตร์ของที่นี่ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับอุณหภูมิของร่างกายในระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายผลทดลองทำให้พบว่า ผู้ออกกำลังกายควรดื่มน้ำมากกว่าปกติถึง 50% และน้ำที่ดื่มนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะอยู่ที่22 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า ซึ่งผลการทดลองชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร International Journal ofSport Nutrition and Exercise Metabolism เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน2012 ด้วยล่ะค่ะนอกจากนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ในปี 2010 ก็มีการทดลองในลักษณะเช่นนี้ด้วยเหมือนกันซึ่งผลการทดลองในครั้งนั้นทำให้พบว่า การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆในขณะที่กำลังออกกำลังกาย จะช่วยให้ลดอุณหภูมิบนผิวหนังลงช่วยป้องกันร่างกายจากการขาดน้ำ แล้วทำให้การออกกำลังกายดีขึ้นแล้วน้ำที่ดื่มก็ควรจะเป็นน้ำเปล่านะคะ ถ้าเป็นน้ำหวานนอกจากจะไม่ค่อยช่วยในเรื่องของการแก้กระหายแล้วกลูโคสจะไปขัดขวางและถ่วงการดูดซึมน้ำเข้าสู่ร่างกายทำให้ร่างกายได้รับน้ำมาทดแทนเหงื่อที่เสียไปช้าลง หรือถ้ายังสงสัยต่อว่าดื่มน้ำเข้าไปเยอะ ก็ไม่หายอ้วนล่ะสิ? ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ น้ำไม่มีแคลอรี่จะอย่างไรก็ออกทางปัสสาวะแน่นอนค่ะ ^^

แต่ก็ไม่มีรายงานผลวิจัยฉบับไหนที่ระบุว่าการดื่มน้ำเย็นจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง


“ดื่มน้ำเย็นแล้วท้องอืด?”
อันนี้ไม่จริงหรอกค่ะ หญิงบอกได้เลยว่าอาการท้องอืดไม่ได้เกิดจากการดื่มน้ำเย็น จะเกิดการรับประทานอาหารค่ะ เช่นกินของเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด หรือดื่มน้ำอัดลมเข้าไปนั่นเองค่ะ ^^

สรุปแล้ว น้ำเย็น ก็ควรจะดื่มเวลาออกกำลังกายเพราะการดูดซึมเร็วจะทำให้ทดแทนเหงื่อได้เร็วแต่น้ำเย็นก็ยังเป็นข้อห้ามสำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนนะคะเพราะจะยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้น ซึ่งน้ำเย็นจะส่งผลเสียต่อร่างกายต่อเมื่อดื่มน้ำเย็น 10 ลิตร ซึ่งก็คงไม่มีใครดื่มเยอะถึงขนาดนั้นแน่นอนเพียงแต่ถ้าเป็นน้ำเย็นที่เย็นจัด ก็อาจจะทำให้หลอดเลือดหดตัวอาจทำให้เกิดอาการจุกหน้าอกได้ค่ะ ส่วนน้ำอุ่น ก็ควรจะดื่มเพื่อกระตุ้นลำไส้เพื่อให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น



โอ้โห... แค่ “น้ำเย็น” ก็ทำให้มีเรื่องราวมากมายขนาดนี้เลยน้ำเย็นและน้ำอุ่นต่างก็มีคุณประโยชน์ไม่แพ้กัน นั่นขึ้นอยู่กับว่าใช้ในเวลาไหนเท่านั้นเอง แล้วครั้งหน้า หญิงจะนำเรื่องราวของ “น้ำดื่ม”มาเล่าให้ฟังต่อนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ ^^



Create Date : 21 เมษายน 2556
Last Update : 21 เมษายน 2556 0:11:20 น. 1 comments
Counter : 11658 Pageviews.

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 25 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:12:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ying_pul501
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ying_pul501's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.