Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 
26 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

อดอาหารทำให้อ้วน ความจริงที่โลกลืม

 

หลายๆคนอาจทราบแล้วว่าการอดอาหารเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการลดความอ้วน และ ทำให้สุขภาพย่ำแย่ด้วย แต่สาเหตุที่เขียนขึ้นเพราะน่าต้กกะใจมากๆที่ยังมีคนที่ลดความอ้วนด้วยการอดอาหารอีกมากมายนับไม่ถ้วนรวมถึงลูกค้าส่วนใหญ่ของผมในสมัยก่อนด้วย เพราะหน้าที่การงานทำให้ได้ฟังเรื่องราวของคนที่พยายาม
ลดความอ้วนมากมายที่บอกเล่าประสบการณ์การลดความอ้วนของตน จากเรื่องราวทั้งหมดนั้นมีหลายอย่างที่
ทุกคนเคยประสบมาเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก วัยรุ่น คนแก่ สวย ไม่สวย โสด หรือ แต่งงาน
แล้วก็ตามที สิ่งที่เหมือนกันนั้นคือ..... คนที่เคยลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร ตอนแรกๆก็ลดได้แต่สุดท้ายทน
ไม่ไหว และทุกวันนี้มันไม่ลดแล้ว ตอนนี้มันอ้วนเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมอีก
บางคนอดอาหารเช้า บางคนอดอาหารเย็น ผมหมายถึงอาจมีทานอะไรบ้างเล็กๆน้อยๆเช่น ผลไม้ แต่ไม่ได้ทาน
อาหารมื้อหลัก หลายๆคนงดทานอาหารบางมื้อทุกวันมาเป็นระยะเวลานานหลายปี บางคนเพิ่งเริ่มลองอดอาหาร
โดยเฉพาะคนที่อายุน้อยๆหรือพยายามลดน้ำหนักเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเวลาผ่านไปอายุมากขึ้น
คนเหล่านั้นยังอ้วนอยู่ หรือ ยังมีสัดส่วนเกินที่ไม่น่ามองเหมือนเดิม ส่วนใหญ่แล้วคนที่ผมเคยคุยด้วยจะเริ่มรู้สึกตัวว่า
น้ำหนักตัวมันไม่ลดลงเลยแม้จะอดอาหารแค่ไหนเมื่ออายุถึง 30ปี แต่ก็มีบางคนที่เริ่มรู้สึกตัวเมื่ออายุน้อยกว่านั้น
มาไขข้อสงสัยกันว่าทำไมอดอาหารทำให้อ้วน และเพื่อให้หัวข้อนี้หุ่นดี(กระชับ)ผมไม่ขอพูดถึงของว่าง ขนม
เครื่องดื่มต่างๆ หรือยาลดน้ำหนัก
เมื่อคุณอดอาหารไม่ว่าจะมื้อใดก็ตามจะทำให้
1.ขาดสารอาหาร 5หมู่(โปรตีน,คาร์โบไฮเดรต,วิตามิน,แร่ธาตุ,ไขมัน) ร่างกายทุกส่วนจะอ่อนแอลง เพราะไม่มีวัตถุดิบ
ในการซ่อมแซม เสริมสร้างตัวเอง ขอย้ำว่าทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่เส้นผม หัว ผิวหน้า หน้าอก ปอด หัวใจ ตับไต
ไส้พุง เล็บ จุดซ่อนเร้น อ่อนแอลงทั้งหมด
2.ขาดพลังงานจากอาหาร(มาจากคาร์โบไฮเดรต,ไขมันเป็นหลัก) คุณจะเป็นโรคขี้เกียจทันที จะรู้สึกไม่มีแรงเพราะ
ร่างกายไม่มีพลังงานที่จะทำอะไร ร่างกายจะลดระดับการเผาผลาญลงโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นหลายๆครั้งเข้าร่างกาย
จะชินจนระดับการเผาผลาญที่ต่ำลงนั้นกลายเป็นเรื่องปกติของร่างกายคุณ เรียกว่าอาการขี้เกียจเป็นปกติ แล้ว
แบบนี้จะหายอ้วนได้รึ?
3.ไม่มีอาหารตกถึงท้องทำให้น้ำย่อยในกระเพาะย่อยผิวกระเพาะ เป็นการประชดที่คุณไม่ยอมให้อาหารกับเค้า
เป็นสาเหตุให้เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือ โรคกระเพาะนั่นเอง จากที่ตอนแรกคุณเป็นแค่คนอยากลดความอ้วน
ตอนนี้คุณกลายเป็น คนไม่สบายที่อยากลดความอ้วนซะแล้ว
4.ไม่มีอาหารและเส้นใยอาหารเคลื่อนตัวผ่านระบบทางเดินอาหาร(ลำไส้เล็ก,ลำไส้ใหญ่) ทำให้ไม่มีการบีบตัวของ
ลำไส้ซึ่งทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านระบบทางเดินอาหารได้ดี นานๆเข้าก็จะทำให้สุขภาพระบบย่อยอาหารอ่อนแอ
และพลังในการขับถ่ายน้อยลง จะพาลทำให้ท้องผูก ทีนี้ล่ะระหว่างที่คุณอดอาหารไม่ทานอาหารใหม่เข้าปากแล้ว
ยังไม่ยอมเอาของเก่าออกอีกแน่ะ
5.ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เพราะไม่มีคาร์โบไฮเดรต (แป้ง,น้ำตาล) นอกจากทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรงแล้วยัง
ทำให้สมองกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกหิวอีกเพื่อเตือนให้คุณทานอาหารได้แล้วจะหมดแรงแล้วนะ นั่นคือคุณจะยิ่งรู้สึก
หิวเป็นพิเศษหลังจากอดอาหาร และคุณจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ หากปกติคุณเป็นสาวหวานมารยาทเรียบร้อย
คุณจะเปลี่ยนไปทันที สวาปามอย่างขาดจิตสำนึกไปหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแป้ง น้ำตาล ไขมัน ขนม คุกกี้ เค้ก
ของหวาน ข้าวเหนียว น้ำหวาน เครื่องดื่มหวานๆต่างๆ จากที่อ้วนแต่สุภาพกลายเป็นอ้วนแบบหมดสภาพ
อาจมีอีกหลายอย่างที่เป็นผลไม่ดีจากการอดอาหารอีก แต่แค่นี้ก็แย่พอแล้วละเนอะ
ทีนี้ มาดูกรณีถ้าคุณอดอาหารมื้อเช้ากันบ้าง
1.คุณจะได้รับรางวัลการเผาผลาญที่ต่ำที่สุดไปครอง เมื่อคุณตื่นนอน ลองย้อนนึกดูว่าคุณทานอาหารมื้อสุดท้ายเมื่อไร?
นั่นคือมื้อเย็นเมื่อวานนี้ใช่มั้ย? ถ้าคุณทานอาหารเย็นตอน 20.00น. และตื่นนอนตอน 8.00น. นั่นคือระยะเวลา 12ชม.
ที่ร่างกายคุณยังไม่ได้รับอาหารอะไรเลย ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมตอนเช้าคือเวลาที่ร่างกายต้องการอาหารมากที่สุด
ถ้าหากคุณไม่ทานมื้อเช้าอีก(แม้คุณจะดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆเพื่อให้ตื่นตัวนั่นก็ไม่ใช่มื้ออาหารนะ) และไปทาน
อาหารอีกทีตอนเที่ยง นั่นเท่ากับ 16ชม.ที่ร่างกายไม่ได้รับอาหารเลยไม่มีพลังงานเข้าปากเลย ขาดอีกแค่ 8ชม.ก็
ครบ 1วันแล้ว! ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำสุดๆ ร่างกายคุณจะมีระดับการเผาผลาญที่ต่ำที่สุดเท่าที่กรรมพันธ์จะเป็นได้
แล้วมันจะผอมได้ยังไง?
2.กลายเป็นคนเอธิโอเปียชั่วคราว คืออดอยากชั่วคราว คุณจะไม่ได้รับสารอาหารนานถึง 16ชม. เป็น 16ชม.ที่ร่างกาย
ของคุณต้องเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขับของเสีย สารพิษ สารอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย เพราะคุณยัง
ต้องทำงานทำการ คุยเม้าท์กับเพื่อน นินทาเจ้านาย หรือก่นด่าลูกน้อง(ถ้าคุณเป็นเจ้านาย) คิดแผนการนัดคนรู้ใจไป
เที่ยวเย็นนี้ ฯลฯ ซึ่งก็ต้องใช้พลังงาน ใช้ความคิด ทำให้เกิดอนุมูลอิสระสาเหตุของความเสื่อมของร่างกายมากขึ้น
ในช่วงเวลานี้ร่างกายคุณกลับไม่มีสารอาหารเลย หากคุณเป็นคนมีวินัยในการอดมื้อเช้าอย่างดีก็จะทำให้ร่างกาย
โทรมลงทุกวันๆ คุณจะเป็นคนที่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น คือแก่ก่อนวัย
3.คุณจะเป็นคนคาดเดายาก เอาใจยาก เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่กำหนดนิสัยการบริโภคของคุณทั้งวัน ว่าจะหิวอีกทีเมื่อไร
จะขับถ่ายอีกทีเมื่อไร จะมีพลังงานเพียงพอมั้ยในวันนี้ หากคุณอดมื้อเช้า คุณจะคาดเดาไม่ได้เลยว่าคุณจะทนความหิว
ได้นานแค่ไหน และความหิวจัดจะทำให้คุณสวาปามอะไรบ้างในมื้อถัดไป ร่างกายคุณจะงงว่าคุณจะเอาไงกันแน่
ถึงเวลากินแล้วก็ไม่กิน ร่างกายเตือนคุณแล้วว่าต้องการอาหารดีๆก็ไม่กิน ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องทำให้หิวตลอดเวลาเลยแล้วกัน
ถ้าอดอาหารมื้อเย็น
แม้ว่ามื้อเย็นเป็นมื้อที่หลายคนคิดว่าป้อปปูล่าที่สุดแล้วและถือได้ว่าเป็นมื้อที่คุณอดอาหารได้อย่างดีต่อสุขภาพ???
อย่างไรก็ตามอดอาหารก็คืออดอาหารครับ มันอาจทำให้เกิดอุปสรรคต่อการลดความอ้วนดังต่อไปนี้(นอกจากผล
เสียจากการอดอาหารตามปกติ)
1.คุณจะนอนแบบโทรมๆ เพราะตอนเรานอนคือเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณอดมื้อเย็นร่างกายก็ไม่มีสาร
อาหารที่เพียงพอมาซ่อมแซมตัวเองในตอนนอน ยิ่งบางคนนอนดึก อีก นอนไม่พออีกก็ยิ่งโทรมไปกันใหญ่
2.กรดไหลย้อนถามหา ถึงเวลามื้อเย็นแล้ว หิว ไม่ยอมกิน กินน้ำลูบท้อง แล้วก็รีบเข้านอนจะได้ไม่นึกถึงความหิวแต่
กรดในกระเพาะอาหารยังอยู่ พอนอนมันก็ไหลย้อนมาตามคอและหลอดลม กลายเป็นว่าแทนที่จะเป็นแผลแค่ในกระเพาะ
อาหารกลับได้ของแถมเป็นแผลตั้งแต่ช่องคอเลย
3.เป็นจุดกำเนิดของมื้อดึก เมื่ออดมื้อเย็น นอนก็แล้วแต่ทนหิวไม่ไหว หรือมีเสียงทำให้ตื่นแล้วนอนไม่หลับ ทำให้ลุกขึ้น
มาหาของกินอีก! ก่อเกิดเป็นนิสัย ทีนี้ล่ะการนอนก็จะเพี้ยนไปด้วยจากนอนดึกปกติ ก็กลายเป็นนอนตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น
ไปเลย ก็แล้วทำไมไม่กินซะตั้งแต่ตอนเย็น แล้วเลือกทานอาหารที่ช่วยสนับสนุนการลดความอ้วนแทนล่ะ?
คุณต้องเข้าใจว่าร่างกายของมนุษย์ถูกวิวัฒนาการมานับหมื่นปีเพื่อให้อยู่รอดผ่านยุคสมัยต่างๆมาได้จนถึงทุกวันนี้
มันถูกออกแบบมาอย่างดีให้ทานอาหารได้หลากหลายชนิด เมื่อทานอาหารก็จะย่อยอาหารเพื่อนำสารอาหารมา
ใช้ซ่อมแซม ฟื้นฟู ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และเปลี่ยนพลังงานจากอาหารมาเก็บสำรองไว้ในร่างกายในรูปของ
ไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ และ ไขมัน ซึ่งจะสะสมไว้ที่ตับ กล้ามเนื้อ และชั้นไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อให้ร่างกาย
มีพลังงานไว้ใช้เพียงพอ เพราะในสมัยก่อนคนเราไม่ได้มีอาหารทานง่ายดายอย่างทุกวันนี้ที่เมื่อหิวก็แค่ไปซื้อของกินที่ร้าน
สมัยก่อนเรายังต้องล่าสัตว์ กินพืชผัก ต่างๆ นั่นคือมนุษย์สมัยก่อนไม่ได้มีอาหารกินทุกมื้ออย่างทุกวันนี้รวมถึงต้องใช้
พลังงานมากในการดำรงชีพด้วย ไขมันจึงเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมากเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานมีแรงที่จะอยู่ต่อไปได้
แม้ขาดอาหารบางมื้อ หรือ หลายๆมื้อ
แต่ในทุกวันนี้ เรามีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ และใช้พลังงานในการดำรงชีพน้อยลงเพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวก
ต่างๆมากมาย ความสามารถอันยอดเยี่ยมในการกักเก็บพลังงานของร่างกายไว้ในรูปของไขมันกลับกลายเป็นความ
สามารถที่ดีเกินไปสำหรับหลายๆคน




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2556
1 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2556 14:21:31 น.
Counter : 1519 Pageviews.

 

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 25 กรกฎาคม 2557 23:20:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ying_pul501
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ying_pul501's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.