"การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าให้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น
จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง"

พระราชดำริเรื่องการถ่ายภาพ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
YesIdo.BlogGang.com : Live to Learn to Live
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
4 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Sharing project : : พื้นฐานการถ่ายรูปต้นไม้และดอกไม้ - องค์ประกอบศิลป์












สวัสดีครับนักเรียนอนุบาลภาคค่ำทุกคน

ได้เห็นผลงานกันไปบ้างแล้ว สำหรับนักเรียนอนุบาลภาคค่ำ (สาขาการถ่ายภาพดอกไม้) ต้องขอบอกว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานและทักษะการถ่ายภาพที่ดีอยู่แล้วพอสมควร... ยอดเยี่ยมมากจ้า (โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจทำงานมาส่ง อิอิอิ) ก็ต้องขอชื่นชมป้าจายด้วยครับที่ช่วยตั้งกระทู้ให้เด็กๆ ส่งงานกันได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยจ้า.. ขอบคุณครับ




ขออนุญาตแนะนำเฉพาะข้อบกพร่องจากงานที่ส่งในกระทู้ป้าจายนะครับ ซึ่งมีปัญหากันอยู่นิดหน่อยในเรื่องการโฟกัสภาพ ถ่ายมาแล้วเบลอเล็กน้อย และบางคนมีปัญหาในเรื่องของแสงและสีของภาพ ซึ่งวันนี้เอาจะมาคุยกันในเรื่องนี้ครับ ว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

คราวที่แล้วเราได้อธิบายในเรื่องของ กฏเก้าช่อง rule of the thirds ไปแล้ว ขอทบทวนนิดหน่อยนะครับ ว่าเจ้ากฏเก้าช่องนี้แหละเป็นหัวใจหลักที่ถือปฏิบัติกันเลยสำหรับการวาดภาพ และถ่ายภาพ รวมถึงศิลปะอีกหลายๆ แขนงด้วยครับ และนอกจากจุดตัดทั้งสี่จุดบนภาพของการแบ่งภาพออกเป็นสามส่วนทั้งแนวนอนและแนวตั้งที่ได้อธิบายไปแล้วนั้น การจัดวางตำแหน่งพื้นที่สัดส่วนของภาพเป็น 3:1 หรือ 1:3 ก็ใช้ได้ดีสำหรับการถ่ายภาพเช่นกันครับ



ก่อนอื่นเรามาแก้ปัญหาภาพเบลอ ภาพไม่ชัดกันก่อนนะครับ ปัญหาส่วนใหญ่เท่าที่เคยผ่านประสบการณ์มาก็คือ
โฟกัสไม่ได้ตามตำแหน่งที่ต้องการ สาเหตุน่าจะมาจากการที่เราเอากล้องถ่ายรูปไปจ่อใกล้กับดอกไม้มากเกินกว่าความสามารถของกล้องนะครับ ซึ่งกล้องบางรุ่นสามารถจ่อใกล้ๆ ได้ในระยะห่าง 1 ซ.ม. แต่บางรุ่นก็ไม่สามารถนะครับ เพราะฉะนั้นดูความสามารถของกล้องตนเองด้วยครับว่า ทำได้แค่ไหน ถ้าถ่ายใกล้มากเกินไปแล้วเบลอ เราก็ถอยห่างออกมาสักนิด แล้วลองถ่ายดูใหม่ในระยะห่างตามความสามารถของกล้องครับ อะ เกือบลืมบอกไปว่าการถ่ายใกล้ๆ แบบนี้ต้องตั้งกล้องเป็นการถ่ายภาพดอกไม้นะครับครับ โดยกดปุ่มที่เป็นรูปดอกไม้ ที่ไว้ใช้ถ่ายมาโครนั่นแหละครับ กล้องทุกรุ่นต้องมีแน่นอนครับ จากนั้นก็ลองถ่ายดูครับ ....ถ้าถอยออกมาถ่ายแล้วยังไม่ดีขึ้น เรามาดูสาเหตุต่อไป



มือไม่นิ่ง ถ่ายยังงัยก็เบลอ...
เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนที่เริ่มถ่ายภาพ จะด้วยน้ำหนักของกล้อง หรือขนาดที่เล็กเกินไป ก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นกันครับ เคยมีประสบการณ์มั้ยครับ ที่เวลาไปเที่ยวแล้วเห็นป้าๆ เค้าบ่นๆ ว่าถ่ายไม่ชัด มือไม่นิ่ง รูปเลยเบลอตลอด ... พอหันไปดูป้าเค้าจับกล้องแล้ว สมควรอยู่ครับที่มันจะไม่ชัด..เพราะคุณป้าจับกล้องคอมแพ็คด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้เพียงสองนิ้ว โดยนิ้วที่เหลืออีกสามนิ้วกรีดกรายอย่างสวยงามตามแบบฉบับรำวงมาตรฐาน อิอิอิ... ลองเปลี่ยนวิธีการจับกล้องดูใหม่นะครับ เผื่อจะช่วยได้นิสนึง จับให้แน่น กระชับมือครับ แล้วก็ลองถ่ายดู ถ้ามันยังแกว่งได้อีก สองมือเลยคับ ตามสุภาษิต จับปลาสองมือนั่นแล (เกี่ยวกันม่ะนั่น 555) แต่ถ้ามีอุปกรณ์เสริม ขาตั้งกล้องก็ช่วยแก้ปัญหามือไม่นิ่งได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ยิ่งเป็นการถ่ายภาพมาโครด้วยเลนส์ที่มีกำลังขยายมากๆ ด้วยแล้ว ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งที่จำเป็นครับ แต่ถ้าหาอุปกรณ์เสริมไม่ได้ หันซ้ายหันขวาดูว่าจะเอาอะไรมาตั้งกล้องให้ฐานมั่นมันคงได้บ้าง โต๊ะ เก้าอี้แถวนั้นมีมั้ย บางทีโขดหิน หรือกำแพงปูนก็ช่วยได้เหมือนกันครับ ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องฝึกยกน้ำหนักเป็นประจำนะครับ ช่วยได้ ...อิอิ ( ฝึกยกจานเสิร์ฟในร้านอาหารมันก็ช่วยเรื่องการถ่ายรูปด้วยเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ เด็กเสิร์ฟเก่าคับ แฮะๆๆ)



ขอแนะนำการโฟกัสภาพนะครับ
ปัจจุบันคิดว่ากล้องทุกรุ่นน่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันหมดในการล็อกโฟกัสตำแหน่งที่ต้องการถ่ายให้ชัดที่สุดนะครับ ปกติแล้วมันจะมีช่องบอกอยู่ในช่องมองภาพ ซึ่งพอเราได้เป้าหมายที่แน่นอนแล้ว ค่อยๆ กดชัตเตอร์ลงไปครึ่งนึงก่อนครับเพื่อที่ระบบของกล้องจะได้ทำการประมวลผลและล็อกเป้าหมายที่ถูกต้องโดยมันจะมีเสียงหรือไม่ก็เป็นไฟกระพริบบอกเรานะครับว่าพร้อมแล้ว ดูสิว่ามันล็อกโฟกัสในตำแหน่งที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็กดชัตเตอร์ลงไปเต็มๆ ได้เลยครับ ลองเช็คภาพดูครับว่าใช้ได้หรือไม



ส่วนเนื้อหาของวันนี้ เราจะมาดูกันในเรื่องของ องค์ประกอบศิลป์ และทฤษฏีสี กันครับ

องค์ประกอบศิลป์ เป็นสิ่งแรกที่ผู้ที่เรียนด้านศิลปะจำเป็นต้องศึกษาเป็นอย่างแรกนะครับ เพราะเป็นหัวใจและหลักปฏิบัติในการสร้างผลงานศิลปะในทุกๆ แขนง ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ การถ่ายภาพ งานประติมากรรม รวมถึงงานด้านสถาปัตยกรรมด้วยครับ .. ซึ่งถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว ผิดครับ ศิลปะไม่ได้ไกลตัวเลยสักนิด ในแต่ละวันเราได้ใช้ศิลปะด้านต่างๆ ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ทั้งการทำอาหาร การจัดดอกไม้ การจัดสวน และการถ่ายภาพ ล้วนเกี่ยวข้องกับศิลปะแทบทุกด้าน

องค์ประกอบของศิลปะ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า composition ซึ่งมาจากรากศัพท์ภาษาละติน comp - เข้าด้วยกัน และ post – จัดวาง ซึ่งคำว่าองค์ประกอบศิลป์ ก็น่าจะมีความหมายว่า การจัดวางส่วนประกอบต่างๆ ของศิลปะเข้าร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น จุด เส้น รูปร่าง สัดส่วน แสง เงา สีสัน ที่รวมกันสร้างขึ้นอย่างลงตัวเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก ความคิดและความงาม


(นอกเรื่องนิดนึง รูปนี้ถ่ายจากงานบุปผชาติที่เจียงใหม่ เมื่อหลายปีก่อน ปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่ 5 - 7 กพ. พรุ่งนี้แล้วนะ ใครสะดวกก็แวะมาแอ่วกันได้เน้อ โดยเช้าวันเสาร์ที่ 6 กพ. เวลา 08.00 น. จะมีขบวนรถบุปผาชาติตั้งแต่สะพานนวรัฐ ถึงสวนสาธารณะหนองบวกหาด ใครว่างแวะไปชมนะครับ สวยมากกก ผมเองก็จาลงดอยไปแอ่วเหมือนกัน อิอิอิ)



องค์ประกอบของศิลปะนั้นมีอยู่มากมายหลายอย่าง แต่วันนี้เรานำมาคุยกันแค่เรื่องเส้นกันก่อนนะครับ ... ใครไม่กินเส้นกะใครก็ผ่านไปก่อนเน้อ (ไม่เกี่ยวแระ 555) เส้นที่จะพูดถึงสำหรับการถ่ายภาพนี้ก็คือ เส้นนำสายตา ครับ

เส้นนำสายตา เป็นการสร้างความน่าสนใจให้แก่ภาพ และยังช่วยสร้างมิติให้แก่ภาพได้ดีอีกทางหนึ่งด้วยนะ เส้นนำสายตานี้เราไม่จำเป็นต้องเอาดินสอไปขีดนะครับ สามารถใช้เส้นของก้านดอก ก้านใบ ขอบกระถาง แนวรั้ว ขอบประตู แนวแปลงดอกไม้ อะไรก็ตามที่ดูแล้วเป็นเส้น เป็นแนว เราสามารถจับมาเป็นเส้นนำสายตาได้ทั้งหมดครับ โดยจัดวางเส้นเหล่านี้ไปสู่จุดที่เราต้องการโฟกัสหรือจุดที่น่าสนใจที่สุด ที่เราอยากถ่ายทอดออกมาสู่ภาพนะครับ ... ลองดูไม่ยาก



สี ก็เป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งสำหรับงานศิลปะ การทำความรู้จักทฤษฏีของสีก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้มากในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะครับ สีหลักๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 5 สีนะครับ เป็นแม่สี แดง เหลือง น้ำเงิน สามสีส่วนอีกสองสีคือ ขาวและดำครับ ซึ่งเมื่อผสมสีออกมาแล้ว เราจะได้โทนสีสองโทนครับ คือโทนสีเย็น และโทนสีร้อน ซึ่งสีต่างๆ ยังช่วยถ่ายทอดอารมณ์ของศิลปะออกมาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถ้าเราได้ทำความเข้าใจรู้จักทฤษฎีสีในระดับเบื้องต้นดีแล้ว การจัดวางองค์ประกอบศิลป์ ก็คงไม่ใช้เรื่องยากเท่าไร ... รู้จักคร่าวๆ ก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าเราค่อยมาละเลงสีกัน ... บนภาพถ่าย


ขอบคุณภาพวงจรสี จาก //www.arraystudio.com



หนักสมองกันหรือยังจ๊ะ กับเนื้อหาในวันนี้ ... เอาเป็นว่าพอก่อนดีกว่า ไม่งั้นเด่วคนจะเบลอ ตามภาพถ่ายไปด้วย 555 ... มาถึงงานสำหรับอาทิตย์นี้บ้างดีฟ่า

มีโจทย์ที่ต้องปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัดก็คือ
ถ่ายให้ชัด ไม่ว่าจะต้องใช้วิทยายุทธสูงส่งสักแค่ไหน ขอให้ถ่ายออกมาแล้วชัดที่สุดจ้า
ขอให้ยึดกฏเก้าช่องไว้ก่อน แล้วค่อยๆ เอาเส้นนำสายตามาร่วมด้วย (ยากไปป่าว) คงไม่เกินความสามารถนักเรียนอนุบาลภาคค่ำแน่ๆ มั่นใจคร๊าบ
เรื่องของสี ... ถ่ายดอกไม้สีอะไร ยังงัยมาก็ได้ (แค่อยากรู้ว่าแต่ละคนมีทักษะเรื่องสีกันมากน้อยแค่ไหนนะครับ)
ข้อสุดท้าย แอบสังเกตุเห็น บางคนตัดรูปมาบางส่วน (crop) แล้วนำมาส่ง ถือว่าเป็นการดีนะครับ เพราะอย่างน้อยๆ ก็คงเข้าใจในกฏเก้าช่องบ้างแล้ว คิดว่าภาพต้นฉบับที่ถ่ายมาทั้งหมดอาจจะมีบางส่วนรกอยู่บ้าง เลยตัดมาส่งแค่เฉพาะบางส่วน ... รูปจากกล้องดิจิตอลปกติแล้วจะมีขนาดภาพสัดส่วน 2:3 หรือ 3:4 นะครับ ใครนัวมา...ก็ทำให้เนียนด้วยนะจ๊ะ ...อิอิอิ
ปรับความเข้าใจกันนิดนึงก่อนนะครับ ว่าตอนนี้เรากำลังฝึกการถ่ายรูปกันอยู่ ไม่ได้ต้องการนำเสนอแค่ภาพสวยๆ ก็คงต้องขอให้ช่วยส่งงานในไฟล์ต้นฉบับที่ถ่ายมาโดยย่อขนาดภาพให้สะดวกในการโพสต์เท่านั้นพอครับ ไม่ต้อง crop หรือ ปรับแต่งอะไรให้วุ่นวายเลยครับ.. (ส่วนเรื่องการนำเสนอ หรือ publishing ผลงาน คิดว่าจะพูดตอนท้ายๆ หลักสูตรดีกว่าเนาะ) จะได้ช่วยๆ กันดูว่าตรงไหนที่น่าจะปรับปรุงแก้ไขบ้าง เพื่อทักษะที่ดีขึ้นครับ อย่างที่เคยนำข้อความดีๆ ของตากล้องระดับมืออาชีพมาให้ได้อ่านกัน เค้าว่า Shoot it right from the start... การถ่ายภาพที่ดีควรเริ่มถ่ายจากด้านขวา.......(มุขเดิมอีกแระ 555) การถ่ายภาพที่ดีควรเริ่มจากพื้นฐานที่ถูกต้องครับ

และมีเรื่องรบกวนอีกนิสนึงนะครับ ... ขอให้ส่งงานคนละหนึ่งรูปพอครับ โดยใครตั้งกระทู้ก่อน ก็เข้าไปส่งงานที่ในกระทู้เดียวกันได้เลยครับ ส่วนใครที่ถ่ายไว้หลายภาพ จะตั้งเป็นกระทู้ส่วนตัวต่างหากก็ไม่ผิดนะครับ ... แต่ในกระทู้ส่งงานขอแค่คนละภาพพอครับ เพื่อง่ายในการตรวจงานและ สงสารคนที่ใช้เน็ตเต่าๆ อย่างคนบนดอยแบบผมด้วยนะครับ กว่าจะโหลดครบทุกคน ดึกเลย...หุหุหุ ใครตั้งกระทู้ก่อนช่วยหลังไมค์มาแจ้งหน่อยนะครับ จะได้กระจายเสียงให้เพื่อนๆ ตามไปส่งได้ถูก.. อย่าลืมนะครับวันจันทร์หน้า เรามีนัดส่งงานกันที่ห้องต้นไม้

ขอบคุณครับ

ขอบคุณแหล่งความรู้ดีๆ จาก
//photography.nationalgeographic.com
//www.itemstudio.org/phpbb3/viewtopic.php?p=52999
//www.vcharkarn.com/vblog/39984/10






หาอ่านบทเรียนก่อนหน้านี้ได้ที่นี้ครับ


//www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8823924/J8823924.html
และข้อมูลสำรองเผื่อกระทู้หมดอายุ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yesido&month=01-2010&date=28&group=9&gblog=1


ส่งการบ้านสัปดาห์ที่แล้ว//www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8829607/J8829607.html



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2553 22:51:19 น. 11 comments
Counter : 2592 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาชม รับความรู้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: ดอกสารภี IP: 118.172.16.205 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:15:06 น.  

 
ว่างๆจะแว๊บเข้ามานะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ เพื่อนๆพันทิพกล่าวขานกันหนาหู 555 มีอาจารย์มาสอนถ่ายรูปแว้ว เย้


โดย: radiergummi วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:34:18 น.  

 
รอส่งการบ้านนะคะ


โดย: มุฉานะ IP: 118.174.121.106 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:35:57 น.  

 
มาเพิ่มพูนความรู้ มั่นใจขึ้นเยอะครับ


โดย: Patteera วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:55:26 น.  

 
ภาพสวยจังค่ะ

แวะมาอ่านเทคนิค
สำหรับเรา ภาพสวยมั๊ยสวยนี่ มาจากอารมณ์ก่อนเลยค่ะ
ถ้ากำลังอยู่ในโหมดเครียด ถ่ายภาพไม่สวยเลย
ทฤษฎีอะไรก็เอาไม่อยู่..


โดย: VELEZ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:10:09 น.  

 
ตามมาชมบล๊อกค่ะคุณครู ^ ^


โดย: ดอกไม้หน้าฝน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:31:28 น.  

 
จะพยายามเข้าใจครับ สมองซีกขวาผมฝ่อซะด้วยสิ


โดย: endless man วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:53:57 น.  

 
มาลงชื่อ class ที่สองครับ


โดย: มะโรง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:10:50 น.  

 
ตามเข้าคลาสที่นี่ กลับขึ้นดอยหรือยังก้าบบบบ


โดย: puipom วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:53:13 น.  

 
รับทราบค่ะ
ปัญหาของหนูอย่างแรงๆ เลยค่ะ
มือมันสั่นนนนนน ไม่หายซักทีอ่ะ
สงสัยต้องไปหาขาตั้งกล้องเป็นตัวช่วยจริงๆ ค่ะ


โดย: Ann_shinchang IP: 125.25.236.188 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:41:17 น.  

 
สวยจริงๆ


โดย: Jeab IP: 203.146.16.3 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:42:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

canx
Location :
แม่ฮ่องสอน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




พลเมืองปาย
Friends' blogs
[Add canx's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.