หมวด3 การผลิตยา
ข้อ10 ให้มีการบริหารงานด้านคุณภาพในการผลิตยาดังต่อไปนี้ - ให้มีระบบคุณภาพซึ่งครอบคลุมถึงนโยบายคุณภาพ โครงสร้างขององค์กร วิธีปฏิบัติ กระบวนการและทรัพยากร
- ดำเนินการตามแผนงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ายาที่ผลิตขึ้นเป็นไปตามข้อกำหนดด้านคุณภาพที่ระบุไว้ซึ่งเรียกว่า การประกันคุณภาพยา
ข้อ11 ให้มีระบบประกันคุณภาพยา ดังต่อไปนี้ - มีการออกแบบและพัฒนายา โดยคำนึงถึงข้อกำหนดต่างๆ ที่กำหนดในประกาศนี้และตามหลักปฏิบัติที่ดีในห้องปฏิบัติการ หลักปฏิบัติที่ดีทางคลินิกและหรือหลักปฏิบัติอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด
- กำหนดการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการผลิตและการควบคุมคุณภาพยาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นไปตามข้อกำหนดตามที่กำหนดในประกาศนี้
- กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการอย่างชัดเจนตามลักษณะงาน
- จัดการเกี่ยวกับการผลิต การจัดหาและการใช้วัตถุดิบและวัสดุสำหรับการบรรจุที่ถูกต้อง
- มีการควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิตและยารอการบรรจุ รวมทั้งการควบคุมระหว่างผลิต
- ดำเนินการผลิตตามกระบวนการผลิตและตรวจสอบตามวิธีการที่กำหนดไว้
- ยาทุกรุ่นที่ผลิตต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพยาก่อนนำไปจำหน่าย
- กำหนดวิธีจัดการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการเก็บรักษายาในสถานที่ผลิตยา ในระหว่างการขนส่งและในสถานที่จำหน่ายยา เพื่อรักษาคุณภาพยาตลอดอายุการใช้
- กำหนดให้มีวิธีการปฏิบัติสำหรับการตรวจสอบตนเอง หรือการตรวจสอบคุณภาพเพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบประกันคุณภาพยาอย่างสม่ำเสมอ
ข้อ 12 ให้มีพนักงานในการผลิตยาดังต่อไปนี้ - หัวหน้าฝ่ายดำเนินการผลิตและหัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพยาซึ่งเป็นเภสัชกรชั้นหนึ่งฝ่ายละหนึ่งคนและมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินการผลิตหรือการประกันคุณภาพยา แล้วแต่กรณี
- พนักงานซึ่งมีความรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น
- พนักงานซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการดำเนินการผลิตและการควบคุมคุณภาพยา ซึ่งมีพื้นฐานการศึกษาที่เหมาะสม มีความรู้พื้นฐานในการผลิตยาตามที่กำหนดในประกาศนี้ มีความสามารถตัดสินใจดำเนินการตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มีความเข้าใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติงานให้ลุล่วงไปด้วยดีและต้องมีจำนวนที่เพียงพอ
- พนักงานตาม(1),(2) และ (3) ต้องมีสุขภาพอนามัยที่ดี
ข้อ13 ให้มีการกำหนดโครงสร้างการบริหารงาน หน้าที่ และ ความรับผิดชอบของพนักงานในการผลิตยาในแต่ละระดับเป็นลายลักษณ์อักษร หัวหน้าฝ่ายดำเนินการผลิตและหัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพยาต้องแยกความรับผิดชอบในการทำงานเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อกัน
ข้อ14 ให้หัวหน้าฝ่ายดำเนินการผลิตยามีหน้าที่ดังต่อไปนี้ - ควบคุมการดำเนินการผลิตและการเก็บรักษายาที่ผลิตขึ้นตามที่ระบุไว้ในเอกสารการผลิตยา เพื่อให้ได้คุณภาพตามที่กำหนด
- อนุมัติวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการผลิตและควบคุมระหว่างการผลิตและควบคุมให้เป็นไปตามวิธีการปฏิบัติดังกล่าวทุกขั้นตอน
- ควบคุมดูแลให้พนักงานตรวจสอบบันทึการดำเนินการผลิตและลงลายมือชื่อก่อนส่งให้ฝ่ายควบคุมคุณภาพยา
- ควบคุมให้มีการบำรุงรักษาอาคารสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ของฝ่ายดำเนินการผลิต
- ควบคุมให้มีการดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการผลิตยาและการสอบเทียบเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้อง และบันทึกรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร
- ควบคุมให้มีการอบรมพนักงานใหม่ในฝ่ายดำเนินการผลิตก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และให้มีการอบรมพนักงานฝ่ายดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม
ข้อ15 ให้หัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพยามีหน้าที่ดังต่อไปนี้ - อนุมัติวิธีสุ่มตัวอย่าง ข้อกำหนด วิธีวิเคราะห์ทดสอบ และวิธีการอื่นในการควบคุมคุณภาพยา
- ควบคุมให้มีการวิเคราะห์ทดสอบที่จำเป็น
- ตรวจสอบบันทึกการดำเนินการผลิต และควบคุมคุณภาพยา เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติให้ผ่านยาสำเร็จรูป
- อนุมัติให้ผ่านหรือไม่ผ่านสำหรับการตรวจสอบวัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิต ยารอการบรรจุ และยาสำเร็จรูป
- ควบคุมให้มีการดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการควบคุมคุณภาพยา และการสอบเทียบเครื่องมือและอุปกรณ์วิเคราะห์ และบันทึกรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร
- ควบคุมดูแลการใช้ และเก็บรักษาสารมาตรฐาน
- จัดให้มีการตรวจสอบความคงสภาพของยาสำเร็จรูป
- ควบคุมให้มีการบำรุงรักษาอาคารสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ของฝ่ายควบคุมคุณภาพยา
- จัดให้มีส่วนร่วมในการสืบสวนข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับคุณภาพยาและร่วมในการตรวจสอบสภาวะแวดล้อม
- ควบคุมให้มีการอบรมพนักงานใหม่ในฝ่ายควบคุมคุณภาพยาก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และให้มีการอบรมพนักงานฝ่ายควบคุมคุณภาพยาอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม
ข้อ16 ให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการผลิตและการควบคุมคุณภาพยาดังต่อไปนี้ - จัดฝึกอบรมตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแก่พนักงานทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการผลิตและการควบคุมคุณภาพยา รวมทั้งที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ การทำความสะอาด และงานด้านอื่นๆ ที่จะมีผลต่อคุณภาพยา และให้บันทึกการฝึกอบรมไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
- จัดฝึกอบรมพนักงานใหม่เกี่ยวกับความรู้ขั้นพื้นฐานในการผลิตยาตามที่กำหนดในประกาศนี้ ทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมายจนสามารถปฏิบัติงานได้ดี และต้องจัดให้มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ พร้อมทั้งประเมินผลเป็นระยะๆ ทั้งนี้หัวข้อการฝึกอบรมต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายดำเนินการผลิตหรือฝ่ายควบคุมคุณภาพยา แล้วแต่กรณี
- จัดฝึกอบรมเป็นพิเศษแก่พนักงานซึ่งปฏิบัติงานในบริเวณที่สะอาด และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับสารที่มีฤทธิ์แรง สารพิษ สารที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ และสารที่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้หากมีการปนเปื้อน
- จัดฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะพนักงานที่ปฏิบัติงานในฝ่ายดำเนินการผลิต
ข้อ17 ให้มีการกำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับสุขอนามัยของพนักงานดังต่อไปนี้ - ตรวจสุขภาพพนักงานก่อนรับเข้าทำงาน และในระหว่างปฏิบัติงานอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
- ให้พนักงานสวมชุดปฏิบัติงานที่สะอาดและเหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งการสวมหมวกคลุมผม ผ้าปิดปากและถุงมือ ตามความจำเป็น
- ห้ามมิให้พนักงานใช้มือสัมผัสกับยาโดยตรงขณะปฏิบัติงาน
- ห้ามมิให้พนักงานที่มีโรคติดต่อร้ายแรงหรือมีบาดแผลเปิดบริเวณผิวหนังของร่างกายปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการดำเนินการผลิต
- ห้ามมิให้พนักงานรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ สูบบุหรี่ และเก็บอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ และยารักษาโรคประจำตัวภายในบริเวณที่ใช้ในการผลิตยา บริเวณที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพยา และบริเวณที่ใช้ในการเก็บยา เก็บวัตถุดิบและวัสดุอื่นๆ รวมทั้งบริเวณอื่นที่ซึ่งสิ่งดังกล่าวอาจมีผลต่อคุณภาพของยาที่ผลิต
ข้อ18 เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ - ต้องจัดให้มีการสอบเทียบเครื่องชั่ง ตวง วัด และเครื่องมืออื่นๆ ตามความจำเป็น และบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
- อุปกรณ์การผลิตต้องมีการทำความสะอาดภายหลังการใช้แต่ละครั้ง
- เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
- ในกรณีที่เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ ต้องเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณผลิตยา หรือบริเวณควบคุมคุณภาพยา สำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ชำรุดรอการซ่อมแซม ต้องจัดให้มีฉลากติดแสดงให้เห็นชัดเจนว่า "ชะรุด รอการซ่อมแซม"
ข้อ19 ให้มีสุขลักษณะของสถานที่ผลิตยาดังต่อไปนี้ - มีการดูแลรักษาสถานที่ผลิตยาให้เป็นระเบียบ สะอาด และปราศจากสัตว์และแมลง
- มีระบบการรักษาความสะอาด โดยกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลรักษาความสะอาดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น กำหนดระยะเวลาการทำความสะอาด วิธีทำความสะอาด เครื่องมือและวัสดุที่ใช้ในการทำความสะอาดอาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งมีภาชนะรองรับขยะมูลฝอย
- จัดเก็บและกำจัดขยะมูลฝอยและวัสดุที่เหลือใช้ที่เป็นวัตถุอันตรายตามหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรการตามที่กำหนดขึ้นตามกฏหมายว่าด้วยการสาธารณสุขและกฏหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย หรือกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้ากฏหมายดังกล่าวไม่ได้กำหนดไว้ จะต้องแยกเก็บในภาชนะปิดแล้วรวบรวมนำไปเก็บกักไว้นอกอาคารผลิตยาและกำจัดให้ถูกสุขลักษณะ และอนามัยตามระยะเวลาที่เหมาะสม
- ดูแลซ่อมแซมสถานที่ผลิตยาและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ระบบท่อน้ำ ดวงไฟ พัดลมเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในสภาพดี และการซ่อมแซมต้องระมัดระวังป้องกันมิให้ปนเปื้อนยาที่ผลิต
- มีแนวทางปฏิบัติหรือคำแนะนำ สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชนสถานที่ผลิตยา หรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาหรือการควบคุมคุณภาพยา เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ข้อ20 ให้มีวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับวัตถุดิบดังต่อไปนี้ - ตรวจสอบวัตถุดิบที่รับเข้ามาแต่ละรุ่นให้ตรงกับใบสั่งซื้อ ทำความสะอาดภาชนะบรรจุหรือหีบห่อของวัตถุดิบตามความจำเป็น และต้องปิดฉลากและกักกันวัตถุดิบไว้เพื่อรอการตรวจสอบจากฝ่ายควบคุมคุณภาพยา
- ถ้าพบว่าภาชนะบรรจุหรือหีบห่อของวัตถุดิบได้รับความเสียหาย หรือมีปัญหาที่อาจมีผลต่อคุณภาพของวัตถุดิบ ต้องบันทึกไว้และรายงานให้ฝ่ายควบคุมคุณภาพยาทราบเพื่อทำการตรวจสอบ
- การรับมอบวัตถุดิบแต่ละครั้งที่มีหลายครั้งที่ผลิต ให้แยกเก็บวัตถุดิบแต่ละครั้งที่ผลิตให้เป็นสัดส่วนเพื่อสะดวกในการเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์และอนุมัติการใช้วัตถุดิบนั้น
- ฉลากบนภาชนะบรรจุวัตถุดิบแต่ละชนิด ต้องระบุชื่อวัตถุดิบ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิตจากแหล่งวัตถุดิบหรือที่กำหนดขึ้นเอง สถานภาพของวัตถุดิบ เช่น อยู่ระหว่างกักกัน รอผลตรวจวิเคราะห์ ไม่ได้มาตรฐาน ได้รับอนุมัติแล้ว เป็นต้น วันที่ต้องการทดสอบซ้ำตามความจำเป็น ถ้ามีรหัสอ้างอิงและวันสิ้นอายุให้ระบุไว้ด้วย
- มีวิธีการที่เหมาะสมในการจำแนกชนิดของวัตถุดิบ และทำเครื่องหมายให้ชัดเจนบนภาชนะบรรจุที่มีการเก็บตัวอย่างวัตถุดิบเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์
- วัตถุดิบที่ได้รับอนุมัติจากฝ่ายควบคุมคุณภาพยาแล้ว ให้นำไปใช้ภายในอายุการใช้ตามที่ระบุไว้ และวัตถุดิบที่รับเข้าก่อนต้องนำไปผลิตก่อน
- ให้พนักงานซึ่งผ่านการฝึกอบรมและได้รับมอบหมาย เป็นผู้ชั่งวัตถุดิบตามวิธีการที่กำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้แน่ใจว่าชั่งวัตถุดิบแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง แล้วบรรจุวัตถุดิบนั้นในภาชนะที่สะอาดและปิดฉลากให้ชัดเจน
- ให้มีพนักงานทำการตรวจสอบชนิดและปริมาณวัตถุดิบที่ชั่งแล้วแต่ละครั้งและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน และวัตถุดิบที่ตรวจสอบแล้วสำหรับผลิตยาในแต่ละรุ่น ให้นำมาเก็บรวมกันและปิดฉลากให้เห็นชัดเจน
- วัตถุดิบที่ผลการตรวจสอบไม่ได้มาตรฐาน ให้แยกเก็บไว้ต่างหากและปิดฉลากให้ชัดเจนและอาจส่งวัตถุดิบดังกล่าวคืนผู้จำหน่ายหรือนำไปทำลาย โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้รับผิดชอบและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ 21 ให้มีวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับวัสดุสำหรับการบรรจุดังต่อไปนี้ - จัดการควบคุมวัสดุสำหรับการบรรจุในแนวทางเดียวกับการปฏิบัติเกี่ยวกับวัตถุดิบตามที่กำหนดในข้อ 20 เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้อง
- ต้องเก็บวัสดุสำหรับการบรรจุที่พิมพ์ข้อความแล้วไว้ในที่ปลอดภัย ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าไปในบริเวณดังกล่าว และวัสดุสำหรับการบรรจุที่ระบุข้อความ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิตหรือวิเคราะห์ยา วันที่ผลิต และวันสิ้นอายุของแต่ละตำรับให้แยกเก็บเป็นสัดส่วนเพื่อป้องกันการสับสน
- วัสดุสำหรับการบรรจุที่ส่งไปยังฝ่ายบรรจุเพื่อนำไปใช้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องทั้งจำนวนและชนิดให้ตรงตามที่เบิกไว้ พร้อมบันทึกและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
- วัสดุสำหรับการบรรจุตามข้อ 2 ที่เหลือจากการใช้และวัสดุสำหรับการบรรจุอื่นที่ไม่ประสงค์จะใช้แล้วรวมทั้งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อไป ให้นำไปทำลายและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ22 ให้มีวิธีปฏิบัติเกี่่ยวกับสารเคมี น้ำยาทดสอบ และอาหารเลี้ยงเชื้อ ดังต่อไปนี้ - บันทึกหลักฐานการรับสารเคมี น้ำยาทดสอบและอาหารเลี้ยงเชื้อ รวมทั้งบันทึกการเตรียมน้ำยาทดสอบและอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใช้ในการทดสอบทุกครั้ง
- น้ำยาทดสอบต้องเตรียมตามวิธีการที่กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และปิดฉลากแสดงความเข้มข้น ค่ามาตรฐาน อายุของน้ำยาทดสอบ วันที่ต้องวิเคราะห์ค่ามาตรฐานซ้ำ และสภาวะการเก็บรักษา รวมทั้งลายมือชื่อผู้เตรียมและวัน เดือน ปี ที่เตรียม
- ต้องทดสอบอาหารเลี้ยงเชื้อก่อนนำไปใช้ โดยเปรียบเทียบอาหารเลี้ยงเชื้อที่ปราศจากเชื้อกับอาหารเลี้ยงเชื้อที่ใส่เชื้อที่ใช้ทดสอบ ซึ่งเชื้อที่ใส่ลงไปต้องมีปริมาณพอเหมาะที่จะแสดงความไวต่อการทดสอบตามที่กำหนด
ข้อ23 ให้มีวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสารมาตรฐานดังต่อไปนี้ - สารมาตรฐานที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ ต้องเป็นสารมาตรฐานอ้างอิงตามตำรายา หรือสารมาตรฐานอ้างอิงที่ผู้ผลิตเตรียมขึ้น ซึ่งต้องผ่านการทดสอบมาตรฐาน อนุมัติให้ผ่านและเก็บรักษาในบริเวณที่ปลอดภัยในความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกับสารมารฐานอ้างอิงตามตำรายา
- สารมาตรฐานทุติยภูมิซึ่งเป็นสารมาตรฐานที่ได้จากการสอบเทียบกับสารมาตรฐานอ้างอิงตามตำรายาหรือสารมาตรฐานอ้างอิงที่ผู้ผลิตเตรียมขึ้น ต้องวิเคราะห์ทดสอบตามความเหมาะสมและตรวจสอบเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐาน
- สารมาตรฐานทั้งหมด ให้เก็บรักษาและใช้ในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อคุณภาพของสารมาตรฐาน
ข้อ24 ให้มีการควบคุมการดำเนินการผลิตดังต่อไปนี้ - กระบวนการผลิต
- ควบคุมให้พนักงานในฝ่ายดำเนินการผลิตปฏิบัติตามกระบวนการผลิตที่่ระบุไว้ทุกขั้นตอน การเปลี่ยนแปลงใดๆ จากกระบวนการผลิตที่ระบุไว้ ต้องได้รับอนุมัติจากผู้รับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษร
- ก่อนที่จะเริ่มการผลิต ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่เกี่ยวกับการผลิตยาเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตมีความสะอาด และไม่มีวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ วัสดุสำหรับการบรรจุและเอกสารต่างๆ จากการผลิตครั้งก่อนหลงเหลืออยู่
- ต้องดำเนินการควบคุมระหว่างการผลิต และควบคุมสภาวะแวดล้อมที่จำเป็น พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
- การควบคุมระหว่างการผลิตในบริเวณที่เกี่ยวกับการผลิตยา ต้องไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อคุณภาพยาที่ผลิต
- ในระหว่างการผลิตต้องติดป้ายหรือฉลากที่่แสดงชื่อยา ความแรง เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต และขั้นตอนการผลิตตามความจำเป็นไว้ที่ภาชนะบรรจุ วัตถุดิบ ยาระหว่างผลิต ยารอการบรรจุ และอุปกรณ์การผลิตที่สำคัญ
- มีมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันการปนเปื้อนในระหว่างการผลิต
- ตรวจสอบผลผลิตที่ได้ตามความเป็นจริงในขั้นตอนการผลิตที่สำคัญ และที่ผลิตได้ในขั้นตอนสุดท้ายเทียบกับผลผลิตที่ควรได้ตามทฤษฏีในแต่ละขั้นตอน ถ้ามีความแตกต่างไปจากเกณฑ์ที่ยอมรับได้ต้องหยุดดำเนินการผลิตจนกว่าจะหาสาเหตุได้
ข้อ25 ให้ฝ่ายควบคุมคุณภาพยามีการควบคุมคุณภาพยาดังต่อไปนี้ - ฝ่ายควบคุมคุณภาพยาต้องแยกเป็นอิสระจากฝ่ายดำเนินการผลิตและฝ่ายอื่นๆ โดยอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีประสบการณ์บริหารงานห้องปฏิบัติการรวมทั้งบุคลากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ต้องมีเพียงพอที่จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีวิธีปฏิบัติที่ได้รับการอนุมัติแล้วในด้านการสุ่มตัวอย่าง การตรวจวิเคราะห์ ทดสอบ วัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิต ยารอการบรรจุ และยาสำเร็จรูป รวมทั้งมีการควบคุมดูแลสภาวะแวดล้อมของสถานที่ผลิตยาให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประกาศนี้
- การสุ่มตัวอย่างทุกขั้นตอน ต้องปฏิบัติตามวิธีที่กำหนดโดยพนักงาน ซึ่งได้รับมอบหมายจากฝ่ายควบคุมคุณภาพยา
- ใช้วิธีวิเคราะห์ทดสอบที่ตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
- ให้มีบันทึกการสุ่มตัวอย่าง การตรวจสอบ และการวิเคราะห์ทดสอบซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการปฏิบัติจริงตามวิธีการที่กำหนด รวมทั้งบันทึกข้อเบี่ยงเบนจากวิธีที่กำหนดพร้อมทั้งเหตุผล
- ให้มีการควบคุมคุณภาพยาสำเร็จรูปให้มีมาตรฐานตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ วัตถุดิบที่ใช้ต้องมีความบริสุทธิ์ตามมาตรฐานที่กำหนด และยาสำเร็จรูปต้องบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม พร้อมทั้งปิดฉลากที่มีรายละเอียดอย่างถูกต้อง
- ให้มีบันทึกผลการตรวจสอบ การวิเคราะห์ทดสอบวัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิต ยารอการบรรจุและยาสำเร็จรูปตามข้อกำหนด และการประเมินคุณภาพของยาสำเร็จรูปให้รวมถึงการทบทวนและการประเมินเอกสารการผลิต ตลอดจนข้อเบี่ยงเบนจากวิธีการที่กำหนด
- ยาสำเร็จรูปทุกรุ่นที่ปล่อยหรือผ่านเพื่อจำหน่าย ต้องได้รับการอนุม้ติจากผู้รับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ26 ในกรณีที่มีความจำเป็นที่ผู้ผลิตมีความประสงค์จะใช้ห้องปฏิบัติการภายนอกในการตรวจวิเคราะห์ทดสอบยาและวัสดุสำหรับการบรรจุ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในการว่าจ้างห้องปฏิบัติการนั้น โดยจะต้องมีสัญญาว่าจ้างที่จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรที่แสดงถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ส่วนการตรวจวิเคราะห์ทดสอบยาและวัสดุดังกล่าวนั้นต้องดำเนินการตามวิธีที่ขี้นทะเบียนไว้
ข้อ 27 ให้มีการประเมินคุณภาพของยาสำเร็จรูปโดยพิจารณาจากสภาวะการผลิต เอกสารที่เกี่ยวกับการผลิต ผลการทดสอบยาระหว่างผลิต การได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของยาสำเร็จรูปและการตรวจสอลยาที่บรรจุหีบห่อแล้ว รวมทั้งปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อ28 ให้มีการควบคุมวัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิต ยารอการบรรจุและยาสำเร็จรูปดังต่อไปนี้
ข้อ29 การวิเคราะห์ทดสอบวัตถุดิบ วัสดุสำหรับการบรรจุ ยาระหว่างผลิต และยาสำเร็จรูป ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
ข้อ30 ให้มีการทบทวนบันทึการดำเนินการผลิตและบันทึการควบคุมคุณภาพยาที่ผลิตและในกรณียาที่ผลิตรุ่นใดมีคุณภาพแตกต่างหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของยาสำเร็จรูป ต้องสืบสวนหาสาเหตุซึ่งอาจรวมถึงบันทึการดำเนินการผลิตของยารุ่นอื่นของยาชนิดเดียวกันและยาอื่นที่อาจมีผลกระทบตามความจำเป็น ผลการสืบสวนให้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งต้องสรุปผลและการดำเนินงานติดตามผล
ข้อ31 ให้ดำเนินการเกี่ยวกับตัวอย่างยาที่เก็บดังต่อไปนี้
ข้อ32 ให้มีการตรวจสอบความคงสภาพของยาแต่ละชนิดตามความจำเป็นดังต่อไปนี้
ข้อ33 ให้มีวิธีดำเนินการและจัดทำเอกสาร ดังต่อไปนี้
ข้อ34 การบันทึกข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ การถ่ายภาพหรือวิธีการอื่น ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลดังกล่าว และต้องกำหนดผู้มีหน้าที่รับผิดชอบที่สามารถใช้หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตยาด้วยระบบดังกล่าวต้องทำสำเนาข้อมูล และเก็บบันทึกไว้อย่างน้อย 5 ปี
ข้อ35 การจัดทำป้ายหรือฉลาก ต้องปฏิบัติดังนี้
ข้อ36 การจัดทำข้อกำหนดและวิธีทดสอบต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
ข้อ37 ข้อกำหนดเกี่ยวกับวัตถุดิบและวัสดุสำหรับการบรรจุต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ38 ข้อกำหนดเกี่ยวกับยาระหว่างผลิตและยารอการบรรจุ ต้องมีรายละเอียดังต่อไปนี้
ข้อ39 ข้อกำหนดเกี่ยวกับยาสำเร็จรูปต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 40 ให้มีการจัดทำเอกสารแม่บทของยาทุกตำรับ โดยมีรายละเอียดังต่อไปนี้
ข้อ41 ให้มีการจัดทำบันทึกกระบวนการผลิตของยาทุกรุ่น ที่สอดคล้องกับเอกสารแม่บท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ42 ให้มีการทำบันทึกการบรรจุของยาทุกรุ่น ที่สอดคล้องกับเอกสารแม่บท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ43 ในกรณีที่มีปัญหาในระหว่างการผลิตหรือการบรรจุยาของแต่ละครั้งที่ผลิต ให้บันทึกรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขวิธีการผลิตหรือการบรรจุไปจากเอกสารแม่บทหรือเอกสารวิธีการบรรจุ แล้วแต่กรณีต้องได้รับอนุมัติจากผู้รับผิดชอบในกระบวนการนั้น
ข้อ44 ให้จัดทำมาตรฐานสำหรับวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
ข้อ45 ให้มีการบันทึกการวิเคราะห์ทดสอบซึ่งต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ46 ให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการผลิต การวิเคราะห์ทดสอบและวิธีการทำความสะอาดโดยดำเนินการตามแบบแผนปฏิบัติและวิธีการที่กำหนดไว้และต้องจัดให้มีการรายงานการตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษร และให้ทำการตรวจสอบความถูกต้องซ้ำเป็นระยะๆ
ข้อ47 การตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการผลิตให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
ข้อ48 ให้มีการตรวจสอบตนเองโดยจัดตั้งทีมงานรับผิดชอบในการตรวจสอบ ประเมินผล และจัดทำรายงานโดยต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ49 การเรียกเก็บยาคืนต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
ข้อ50 ให้จัดทำบันทึกการจัดจำหน่ายยาทุกครั้งที่ผลิตซึ่งมีข้อมูลรายละเอียดของลูกค้าอย่างเพียงพอที่จะทำให้สามารถติดตามได้ง่ายและรวดเร็วเมื่อต้องการเรียกเก็บยาคืนจากท้องตลาด
ข้อ51 ให้ปฏิบัติเกี่ยวกับข้อร้องเรียนของผู้เกี่ยวข้องกับการใช้ยาดังต่อไปนี้
ข้อ52 การดำเนินการเกี่ยวกับยาคืนต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
Create Date : 08 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 22 กันยายน 2556 17:44:50 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2220 Pageviews. |
|
|
เพราะมีตัวยาบางตัว คือGLUTAOVERWHITE BY NANNY ได้ระบุว่ายาไม่มีอันตรายใดๆ
ซึ่งผ่านการจดแจ้งทางGMPแล้ว เพราะที่จด อย.ไทยไม่ได้นั้นคือ เป็นยาเม็ดซอฟเจล ซึ่ง อย.ไทยให้ส่วนผสม
กลูต้าแค่250ml แต่ตัวยานี้มีกลูต้าถึง10000-20000ml. อันนี้ทางเจ้าของระบุ ซึ่งดิฉันขอดูเอกสารการจดแจ้ง
ทางเจ้สของ บอกว่า " หลักฐานทุกอย่างอยู่ที่บริษัทค่ะ" เค้าดำเนินการให้ส่วนซอฟเจลขึ้นอย.ไม่ได้...ไม่ได้นำมาลงค่ะเพราะมันเปนลิขสิทของทางเค้า นอกจากจะมีปัญหาจิงๆ ถึงจะนำตรงนี้มาใช้ได้" อันนี้คือคำกล่าวจากเจ้าของ ซึ่งดิฉันมาสอบถามเพราะ ดิฉันนำสินค้าตัวยานั้นมาจำหน่าย และบริโภค ซึ่งกลัวเกิดอันตรายกับตัวเองและผู้บริโภคต่อจากดิฉัน ซึ่งทางถูกต้องตามกฏหมายดิฉันจะได้ไม่กังวล แต่ถ้าไม่ดิฉันจะได้จัดการคุยกับเจ้าของตามกฏหมาย
และอีกหนึ่งที่มาสอบถามคือกลัวเสียโง่ให้กับเจ้าของ เพราะตอนนี้ ตัวแทนของGLUTAOVERWHITE BY NANNYมีเยอะมาก ผู้ได้เปรียบคือเจ้าของที่ มีตัวแทนทำรายได้ให้ทางเจ้าของ ทั้งนี้ทั้งนั้นตอบกลับแบบชัดเจนด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ