คู่มือการปลูกแตงโม (แบบนายยักษ์เขียว)
พันธุ์แตงโม ที่นิยมปลูกมี 2 พันธุ์ คือ พันธุ์เบา ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ พันธุ์ชูการ์เบบี้ ผลกลมสีเขียวคล้ำ อายุเก็บเกี่ยว 65 วัน นับจากวันงอก อีกพันธุ์หนึ่ง ได้แก่ พันธุ์หนัก คือ พันธุ์ชาร์ลสตันเกรย์ ผลสีเขียวอ่อน มีลายที่ผิวผล ผลกลมยาวขนาดใหญ่ อายุเก็บเกี่ยว 85 วัน นับจากวันงอก พันธุ์แตงโมเหลือง เป็นพันธุ์ลูกผสม เนื้อสีเหลือง ผลกลมสีเขียวอ่อนลายเขียวเข้ม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 70-75 วัน 2. ดินและการเตรียมดิน แตงโมเป็นพืชที่หยั่งรากลึกมากกว่า 100 เซนติเมตร และต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์ มีความชุ่มชื้นมากพอ ฉะนั้นถ้ามีการไถพรวนหรือขุดย่อยดินให้มีหน้าดินร่วนโปร่ง และลึกก็จะช่วยป้องกันการขาดน้ำได้เป็นอย่างดีในระยะที่ต้นแตงโมกำลังเจริญเติบโต การเตรียมดินให้หน้าดินลึกร่วนโปร่งจะช่วยทำให้ดินนั้นยึดและอุ้มความชื้นได้มากขึ้น และเป็นทางเปิดให้รากแตงโมแทรกตัวเองลึกลงไปใต้ดินซึ่งจะช่วยให้รากหาอาหารและน้ำได้กว้างไกลยิ่งขึ้นและเป็นการช่วยทำให้พืชสามารถใช้น้ำใต้ดินมาเป็นประโยชน์ได้อย่างดีอีกด้วย ถ้าจำเป็นต้องปลูกแตงโมในหน้าฝน ควรเลือกปลูกในดินที่มีการระบายน้ำดี คือ เป็นดินเบา หรือดินทราย แต่ถ้ามีที่ปลูกเป็นดินหนักหรือค่อนข้างหนักควรปลูกแตงโมในหน้าแล้ง และขุดดิน หรือไถดินให้ลึกมากที่สุดจะเหมาะกว่า 3. การปลูก ใช้เมล็ดพันธุ์ชูการ์เบบี้ อัตรา 40-50 กรัม/ไร่ เมล็ดพันธุ์ชาร์ลสตันเกรย์ และพันธุ์เหลือง อัตรา 250-500 กรัม/ไร่ โดยหยอดเป็นหลุมให้แต่ละหลุมในแถวห่างกัน 90 เซนติเมตร ส่วนแถวของแตงนั้นควรให้ห่างจากกันเท่ากับความยาวของเถาแตงโม หรือประมาณ 2-3 เมตร ในดินทรายขุดหลุมให้มีความกว้างยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนในดินเหนียวขุดหลุมให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกที่ละเอียดคลุกเคล้ากับดินบน ใส่รองก้นหลุม ๆ ละ 4-5 ลิตร เตรียมหลุมทิ้งไว้ 1 วัน แล้วจึงลงมือปลูก หยอดหลุมละ 5 เมล็ด เมื่อหยอดเมล็ดแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่มเมื่อแตงโมขึ้นมา มีใบจริง 2-3 ใบ ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 2-3 ต้น โดยคัดเลือกเอาแต่ต้นแข็งแรงไว้ แต่ถ้าปลูกให้ต้นห่างกัน 90 เซนติเมตร และแถวห่างกัน 3 เมตรแล้ว ก็เหลือหลุมละ 3 ต้นได้ รวมแล้วในเนื้อที่ 1 ไร่ จะมีต้นแตงโมอยู่ประมาณ 1,700 ต้น สำหรับผู้ที่หยอดเมล็ดแตงโมในฤดูหนาว แตงโมงอกช้า หรือไม่งอกเลย ดังนั้นในฤดูหนาวควรทำการหุ้มเมล็ดด้วยผ้าแล้วโดยแช่เมล็ดแตงโมในน้ำอุ่น(ประมาณมือเราทนได้) ทิ้งไว้ 1 วันกับ 1 คืน แล้วเอาผ้าที่ห่อวางไว้ในร่ม จะช่วยทำให้เมล็ดแตงโมงอกได้เร็วขึ้น และงอกได้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อรากเริ่มโผล่ออกมาจากเมล็ด ก็เอาไปเพาะในถุง รอจนกล้ามีใบจริงแล้ว 2-3 ใบ จึงนำลงปลูกในไร่ หรือหากไม่สะดวกเพราะต้องการประหยัดแรงงาน ก็อาจนำเมล็ดที่งอกนั้นไปปลูกในแปลงได้เลย โดยหยอดลงในหลุมแบบเดียวกับหยอดเมล็ดที่ยังไม่งอก แต่ต้องให้น้ำในหลุมที่จะหยอดล่วงหน้าไว้ 1 วัน เพื่อให้ดินในหลุมชื้นพอเหมาะ หยอดเมล็ดที่งอกแล้วกลบดินทับหนาไม่เกิน 1 เซนติเมตร แล้วรดน้ำ ต้นแตงโมจะขึ้นมาสม่ำเสมอกันทั้งไร่ ปุ๋ยอินทรีย์ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่แตงโมก็มีความสำคัญมาก เพราะปุ๋ยจะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ,ช่วยลดการสูญเสียและลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้กว่า 50% และยังทำให้ดินมีธาตุอาหารมากขึ้น โดยในช่วงเตรียมดินควรใส่ปุ๋ยอินทรย์แท้ เกรด AAA ยักษ์เขียว สูตร 2 (แถบเขียว)ในพื้นที่ปลูกจริง อัตราไร่ละ 40-50 กิโลกรัม ปุ๋ยวิทยาศาสตร์หรือปุ๋ยเคมี ควรใช้ปุ๋ยเคมีอัตราส่วน 1 : 1 : 2 ซึ่งได้แก่ปุ๋ยเคมี สูตร 10-10-20 เป็นต้น หรือใช้ปุ๋ยสูตรใกล้เคียงได้ เช่น ปุ๋ยสูตร 13-13-21 โดยปกติอาจต้องใส่ในอัตราไร่ละ 100-150 กิโลกรัมต่อรอบการปลูก แต่สามารถใช้เทคนิคการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้ อินทรีย์แท้ เกรด AAA ยักษ์เขียว สูตร 2 (แถบเขียว) ผสมก่อนหว่านในอัตรา ยักษ์เขียว 2 ส่วน ปุ๋ยเคมี 1 ส่วน สามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีลงได้ การใช้ปุ๋ยเคมีจะลดลงเหลือประมาณ 30-40 กิโลกรัมต่อรอบการปลูก การใส่ปุ๋ย..... เนื่องจากมีข้อจำกัดในการลงจำนวนตัวอักษร ท่านทีสนใจรบกวน อ่านต่อเรื่องการใส่ปุ๋ย การดูแล เก็บเกี่ยว โรคและแมลง ได้ที่นี่ครับ
Free TextEditor
Create Date : 04 ธันวาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 9:19:31 น. |
Counter : 4933 Pageviews. |
|
|
|