เรื่องเล่าเรื่องบ่นของคนกำลังจะแก่

ยักษ์ใจดี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
17 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยักษ์ใจดี's blog to your web]
Links
 

 

สี่วัน สองพันกว่าโล ตอน "บ๊ายบายเมืองกรุง"

ว่าด้วยเรื่องทริปจากปีที่แล้ว ที่มันแห้วแล้วก็แห้วอีก ทริปใหญ่ๆนี่เป็นอันแห้วมันทุกทริป
เมืองกาญจน์ ทีลอซู เชียงใหม่ ทะเล แล้วก่อนสิ้นปีมีแววจะได้ไปเกาะสะเดิ่งซะอีกรอบ แต่แล้วก็แห้วอีก
เพราะด้วยลมปากที่ว่าขอเลื่อนเป็นเดือนมกรา แต่ขอโทษเหอะ ไม่เชื่อแล้วอ่ะ
มาหลอกให้อยากแล้วจากไป มันเซ็งนะเฟ้ยยยย
พอได้โอกาสและเวลาคราวนี้เลยหนีขึ้นเหนือมันซะให้รู้แล้วรู้แร่ดดีกว่า
ไม่ลงไม่รอมันละ

จากวิมานในอากาศ ที่ดูจะล่องลอยไปลอยมาพอถึงวันพฤหัสที่ 8 มกรา
หลังจากที่โดนงัดออกจากเตียงกันตอนสิบโมง เพื่องานด่วนที่ต้องไปรับใช้เจ้านาย
เสร็จเรียบร้อยก็รีบออกจากดอนเมืองไปวงเวียน 22 เปลี่ยนยางซะสองเส้น
เสร็จแล้วก็ข้ามเมืองอีกรอบไปโน่นบางปิ้งสมุทรปราการเพื่อเอาของที่นัดไว้
แล้วถึงรีบแจ้นกลับมาแถวบ้านหาซื้อน้ำมันเครื่องมาเปลี่ยนที่ปั๊มท้ายซอย
แถมโดนน้ำมันเกียร์เข้าไปอีกหกลิตร กรองอากาศกรองน้ำมันเครื่องอีกอย่างละหนึ่ง
เบ็ดเสร็จหลงจ้งทั้งค่ายางทั้งโน่นนี่หมดตังค์ไปหมื่นกว่าๆ เล่นเอาตัวเบากันเลยทีเดียว
เสร็จแล้วก็ได้เวลามาจัดเก็บของเอาตอนหกโมงเย็น สบายไป

ตอนแรกที่ตั้งใจจะจัดเก็บของตอนกลางวัน แล้วนอนตอนเย็นมาตื่นเอาตอนสี่ห้าทุ่ม
กลายเป็นไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนถึงตอนล้อหมุนเอาเมื่อตีหนึ่งพอดิบพอดี
เอาวะ ไปหาที่นอนเอาข้างหน้า ง่วงเมื่อไรก็เสียบหัวเข้าปั๊มมันซะไม่เห็นเป็นไรเลย
สมัยหนุ่มๆทำออกบ่อยไป สมัยนี้ก็ยังหนุ่มอยู่ ทำไมจะทำอีกไม่ได้ ว่างั้น

ออกจากบ้านได้ก็บ่ายหน้าขึ้นทางด่วน แวะซื้อน้ำซื้อของขบเคี้ยวนิดๆหน่อยๆเอาที่บางปะอิน
แล้วยิงยาวไปตามทางหลวงหมายเลข 32 จุดหมายอยู่ที่ไหนยังไม่รู้ เอาเป็นว่าได้แค่ไหนเอาแค่นั้น



แต่พอเอาเข้าจริงๆ หลังจากเลยอยุธยา ผ่านจังหวัดแล้วจังหวัดเล่าในช่วงต้นๆของการเดินทาง
จนมาถึงนครสวรรค์ที่ปกติจะพักซักรอบนึง แต่คราวนี้มันก็ยังไม่ง่วงไม่เมื่อยอะไรนัก
เลยยังคงขับรถฝ่าความมืดไปเรื่อยๆในขณะที่อากาศข้างนอกเริ่มเย็นขึ้นตามลำดับ
ราวตีสี่กว่าๆก็มาจอดพักที่จังหวัดตากแป๊บนึง แล้วมายืดเส้นยืดสายพร้อมอากาศที่หนาวเหน็บอีกที่เอาที่เถิน
จากนั้นมันก็ถูลู่ถูกังมารับตะวันขึ้นพร้อมสายหมอกเอาที่ลำปางจนได้
พักรถนั่งดูละอ่อนหน้าใสใส่เสื้อกันหนาวสีสวย ใบหน้าขาวๆแดงๆเพราะความหนาว
ขี่รถเครื่องมั่งนั่งสองแถวมั่งไปโรงเรียนอยู่ซักพักก็ออกเดินทางต่อ
จนถึงเชียงใหม่เอาตอนแปดโมงกว่าๆ แวะกินโจ๊กแล้วอาศัยห้องน้ำห้องท่าทำธุระปะปัง
เสร็จแล้วมันก็ยังไม่ง่วง เลยไปต่อ ออกจากเชียงใหม่ใช้ถนนสายเชียงใหม่ แม่ริม
วิ่งไปเรื่อยๆจนคราวนี้เริ่มหมดแม๊กเข้าจริงๆเอาแถวๆแม่แตง
หาปั๊มที่ดูเข้าท่า แล้วหาร่มเงาซักหน่อยจากนั้นก็เอนเบาะแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว



ตื่นมาอีกทีประมาณเที่ยงกว่าๆ ล้างหน้าล้างตาแล้วไปแวะหาไรกินแถวๆเชียงดาว
ใจคิดอยากเข้าถ้ำ แต่กลัวเวลาไม่อำนวยเลยยอมเลยดอยหลวงไปก่อน
ขับไปจนถึงแม่งอนก็เลี้ยวซ้ายใช้เส้น 1249 จุดหมายปลายทางอยู่บนดอยอ่างขาง
เป็นอันจบการขับรถที่ยาวไกลเพราะวันนี้จะนอนที่นี่แหล่ะ

ถนนขึ้นอ่างขางยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะขับง่ายสบายๆด้วยถนนลาดยางจนถึงข้างบน
แต่อันตรายก็ยังคงแฝงอยู่ทุกคืบทุกศอกที่รถแล่นไป ยิ่งช่วงหักศอกพับผ้าที่ชันแสนชันนั้น
ขาขึ้นไม่เท่าไร แต่ขาลงมันทรมานใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
สมัยก่อนทางเป็นลูกรัง จะขึ้นไปแต่ละโค้งแต่ละศอกต้องคิดคำนวณแล้วไต่ให้ได้ไปให้ถึง
เพราะถ้าไปจอดคาอยู่บนองศาที่ชันขนาดนั้น
การออกรถขึ้นไปต่อเป็นเรื่องที่อาจทำไม่ได้เลยซะด้วยซ้ำไป



ค่อยเป็นค่อยไปกระดึ๊บไปทีละหน่อย เพิ่มความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ราวๆสี่โมงเย็นก็มาถึงก้นอ่างเข้าจนได้
มาถึงตรงนี้แล้วจะให้นอนห้องพักแถวๆนั้นมันคงไม่ได้บรรยากาศเท่าไร
ไหนๆก็ไหนๆ ปีนกลับไปนอนเต้นท์บนลานยอดเขาดีกว่า ทั้งบรรยากาศ ทั้งประหยัด
อุตส่าห์แบกของมาตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่ได้ใช้เลยก็คงไม่ดี ชิมิ
ว่าแล้วก็ซื้อของเตรียมไปทรมาน อันประกอบไปด้วยน้ำแข็งซักหน่อย โซดาซักนิด
เหล้าไม่ต้องเพราะเอามาด้วยแล้ว มันเผาไว้กินแก้หิว ไข่อีกหน่อยนึง อย่างอื่นไม่ต้องอ่ะ
คงไม่ทำไรกิน เพราะไม่ไหวละ เหนื่อยจังขับรถมาไกลซะขนาดนี้ไม่มีอารมณ์ทำอะไรแระ



อ่างขางเปลี่ยนไปเยอะ เดี๋ยวนี้ห้องพักขึ้นกันให้พรึ่บ ชาวเขาขนลูกจูงหลานมาค้าขายกันให้ไขว่
ห้องพักก็มีราคาตั้งแต่ไม่กี่ตังค์จนถึงหลายพัน แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมคืออากาศที่หนาวสะใจ
แบบที่ใครๆขึ้นมาก็ไม่เคยผิดหวัง

เดินวนไปวนมาอยู่สองสามรอบซื้อของเสร็จสรรพก็กลับขึ้นรถ ขับย้อนขึ้นไปบนยอดเขาอีกรอบ
อ่างขางเป็นอ่าง มันไม่มีน้ำ เพราะไม่ใช่อ่างเก็บน้ำ แต่เพราะชัยภูมิเป็นอ่างในหุบเขา
แบบนี้ละมังเค้าเลยเรียกอ่างขาง แต่อ่างขางแปลก ในอ่างซึ่งอยู่ต่ำกว่ารอบเขาโดยรอบนั้นจะหนาว
และเย็นกว่าข้างบนยอดเขา สิบกว่าปีที่แล้วสมัยมาที่นี่ครั้งแรก นอนที่บ้านพักดอกเหมย
ซึ่งเป็นหนึ่งในสองที่ของบ้านพักสมัยนั้น จำได้ว่าทริปนั้นหนาวเย็นขนาดน้ำแข็งเกาะหลังคารถกันเลยทีเดียว
ดังนั้นการตัดสินใจกลับขึ้นไปนอนบนเขาน่าจะดีกว่านอนหนาวๆในอ่างแน่ๆ
แต่หารู้ไม่ ไอ้ยอดเขาคืนนี้น่ะ มันก็ทรมานไม่ต่างจากข้างล่างเท่าไรนักหรอก

ขับรถย้อนขึ้นมาซักห้ากิโลได้ก็ถึงยอดเขา ตรงนี้เป็นฐานปฏิบัติการของทหาร
มีลานโล่ง วิวด้านหน้ามองลงไปเป็นที่ราบ ขวามือคืออำเภอชัยปราการ ซ้ายมือคืออำเภอฝาง
นับว่าทิวทัศน์สวยงามใช้ได้เลยทีเดียว ทหารให้เข้าไปกางเต้นท์ได้ฟรีๆ มีห้องน้ำที่พอได้อาศัย
บริการประชาชนได้ระดับประทับใจจริงๆ กางเต้นท์สร้างบ้านเสร็จสรรพ เดินออกไปหาฟืนมาไว้กันหนาว
หอบฟืนมาได้หอบใหญ่ก็ได้เวลาเย็นย่ำพอดิบพอดี คืนนี้มีเพื่อนนอนบนลานสามสี่กลุ่ม
เอาน่ะ ไม่เหงาดี แล้วก็ไม่เบียดเสียดยัดเยียดกันดีด้วย ค่ำลงความมืดคืบคลาน
แต่ด้วยความที่เป็นคืนพระจันทร์ดวงโต บนลานเลยสว่างไสวจนแทบไม่ต้องใช้ไฟฉาย
และแล้วความเย็นเยียบก็เริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว



ทนนั่งผิงไฟฟังเสียงพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกของหนุ่มสาวกลุ่มอื่นๆอยู่ได้จนถึงสองทุ่ม
อากาศที่เย็นลงอย่างมากนั้นก็เริ่มทำให้อาการปวดหัวมันกำเริบหนักขึ้นทีละน้อย
ฟืนไฟที่ใส่ลงเตาก็ดูว่าจะไม่ค่อยได้ให้ไออุ่นกันซักกี่มากน้อย แถมลมที่พัดขึ้นมาจากหน้าผา
มันทำให้อากาศที่เย็นอยู่แล้วเริ่มทรมานมากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ จนสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้
ราไฟในเตาลงแล้วมุดหัวเข้าไปนอนในเต้นท์ซะที





รูปครับรูป >>> //cid-7bc0be444e576152.spaces.live.com




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552
3 comments
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2552 22:16:20 น.
Counter : 614 Pageviews.

 

ไปคนเดียวด้วย เก่งจังค่ะ

 

โดย: คุณนายทหารเรือ 17 กุมภาพันธ์ 2552 14:55:38 น.  

 

ภาพสวยจังค่ะ

 

โดย: phety talon 18 กุมภาพันธ์ 2552 10:48:12 น.  

 

ไปคนเดียวด้วย เก่งจังค่ะ โดย:คุณนายทหารเรือ
..... แห่ะ ไปคนเดียว แล้วใครจะถ่ายรูปให้ผมล่ะครับ



ภาพสวยจังค่ะ โดย: phety talon
...... ขอบคุณครับ ชมภาพเพิ่มได้ที่ลิงค์ทางขวาเลยครับผม >>>

 

โดย: ยักษ์ใจดี 19 กุมภาพันธ์ 2552 12:55:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.