Group Blog All Blog
|
เมื่อรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง มีหลายคนถามว่าทำไมถึงมีความคิดไม่เหมือนคนอื่น มีโอกาสแต่ไม่เคยคว้า ผิดกับคนทั่วไปที่แสวงหาโอกาสนี้ ยัยพี่ก็ตอบมาเสมอว่า "ไม่รู้สิก็ไม่อยากได้โอกาสนี้นี่นา" และทุกครั้งก็จะโดนว่ากลับมาว่า "โง่" ตอนนี้ยัยพี่อยากถามกลับไปบ้าง ว่ายัยพี่ผิดตรงไหนที่ไม่อยากไปอยู่ต่างบ้านต้างเมือง ยัยพี่ผิดตรงไหนที่อยากใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน ยัยพี่ผิดตรงไหนที่ไม่อยากหาเงินไว้เก็บให้มันทับจนตัวตายโดยที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ครอบครัวของยัยพี่ตอนนี้เค้าอยู่ที่ต่างประเทศกันหมด เค้าอยากให้ยัยพี่มาอยู่ด้วยกันมากๆ เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ที่นี่ค่าแรงในการทำงานข้อนข้างสูงถ้าเทียบกับเมืองไทย เค้าบอกว่าถ้าไม่อยากอยู่ตลอดไปก็ทำงานเก็บเงินแล้วค่อยกลับบ้าน แน่นอนว่ายัยพี่บ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะไม่อยากไป บอกตรงๆ ว่ารักเมืองไทยมากกว่า แม้จะมีเรื่องวุ่นวายหลายเรื่องเกิดขึ้นแต่ไม่ว่าเราจะไปอยู่ส่วนไหนของประเทศ ก็จะมีรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้ได้ยินอยู่เสมอ สังคมไทยไม่ใช่สังคมดัวใครตัวมัน น้ำใจของคนบ้านเรามีอยู่ทุกที่ และที่สำคัญที่สุดมันเป็นที่ที่อยู่แล้วสบายใจ แต่แล้วยัยพี่ก็ต้องมาอยู่ที่ต่างแดจนได้ เข้ามาครั้งแรกไม่ได้ตื่นเต้นกับประเทศมหาอำนาจเลย ก็ทีแม่น้ำ ภูเขา ถนน เหมือนบ้านเรา มีสังคมเมือง สังคมชนบทเหมือนกัน ยิ่งเราตามมาทีหลัง ต้องมีคนคอยดูแล แบบแผนชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้ความเข้มแข็งที่มีเริ่มถดถอย ทำไมใครๆถึงอยากมากันนัก แน่ใจเหรอว่ามาแล้วจะได้ทองกลับไปดังใจหวัง บางคนมาอยู่ที่นี่ก็ปากกัดตีนถีบกันทั้งนั้น ห้องเช่าหนึ่งห้องนอนอยู่กันเจ็ด แปดคน ไม่อยากอยู่ก็ต้องอยู่ แยกออกไปก็ตายเพราะค่าเช่าที่นี่สูงมาก บางคนมาเพื่อหาสามีเป็นอเมริกันโดยเฉเพาะ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอเมริกันนะ แค่ซิติเซ่น ก็พอ เป็นไทย จีน ฝรั่ง ลาว เวียดนาม ได้หมด เพื่อจะได้อาศัยอยู่นะที่แห่งนี้ ส่วนของยัยพี่ไม่ต้องหาบ้านเช่า ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใครหรอก แต่เมื่อมาถึงจากความรู้สึกว่าเราเป็นนกในป่าไปไหนมาไหนได้ตามใจฉัน หากินเองมีกินก็ดี ไม่มีก็พยามยามต่อไปเพื่อปาก เพื่อท้องของตัวเอง มีความภาคภูมิใจในตัวของตัวเอง แต่ตอนนี้กลับมีควาวรู้สึกว่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบแผ่นดินนี้เราได้กลายเป็นนกในกรง แรกๆก็รู้สึกอึดอัดบ้างที่ไปไหนมาไหนเองไม่ได้ แต่ก็ดีว่ามีคนคอยเอาใจใส่ แต่พอนานเข้าคนที่คอยเอาใจใส่เรากลับพยายามให้เราหัดแสดงโชว์ซะอย่างนั้นให้หัดบินโดยที่มีหินถ่วงที่ปีกทั้งสองข้าง (เปรียบกับการบังคับให้เรียนภาษา) หัดให้ทำท่าดีใจเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ (พยายามให้รู้จักคนที่นี่เพื่อศึกษาชีวิตแต่ละคนลำบากแค่ไหนกว่าจะได้มา ได้อยู่ที่นี่ ผิดกับเราลิบลับ ที่คิดจะมาก็มา) ให้ฝึกต่างๆนาๆ โดยไม่ถามซักคำว่านกน้อยตัวนี้พร้อมหรือไม่ พอใจหรือไม่ ยิ่งนานจากความอึดอัด เริ่มกลายเป็นอัดอั้น พูดให้ใครฟังเค้าก็บอกว่าดีแล้ว อยู่ที่นี่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะแยะ ใช่ยอมรับนะว่ามีสิ่งใหม่ๆให้เรียนรู้ แต่มันไม่มีอะไรหน้าตื่นเต้นสำหรับยัยพี่ ตั้งแต่มาที่นี่ยัยพี่ยิ้มโดยที่ไม่ต้องฝืนใจนับครั้งได้ ตั้งแต่มาที่นี่ยัยพี่ต้องแอบร้องให้คนเดียวบ่อยครั้ง อยากทำอะไรอย่างที่ตัวเองหวังแต่ก็ทำไม่ได้ ทุกครั้งที่ขอกลับบ้านเมื่อครบหกเดือนก็จะโดนว่าตลอด ทะเลาะกันทุกครั้ง กับคำถามว่าทำไม อยากตอบเหลือเกินว่าเพราะมันไม่มีความสุขไง เพราะมันต้องคอยพึ่งพาอาศัยคนอื่นตลอดเวลาอย่างนี้ไง ต้องให้คนที่เด็กกว่ามาคอยดูแคลนอย่างนี้ไง ต้องมาเป็นเบี้ยล่างให้คนอื่นไง ต้องคอยเกรงใจคนอื่นไง ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจไง ต้องมาให้คนอื่นคอยกำหนดชีวิตไง สิ่งไหนที่ทำมันจะผิดจะถูก มันก็ชีวิตใคร ชีวิตมัน บุคคลอื่นจะมากำหนดให้เราไม่ได้หรอกว่าผิดหรือถูก อยู่ที่นี่แล้วไม่สบายใจ ใช้ชีวิตเหมือนหุ่นกระบอกจะไปไหนจะทำอะไรก็ต้องมีคนคอยจับจูง หน้าม่านไม่มีใครรู้หรอกว่ากำลังเศร้า จะเศร้าได้ก็ต่อเมื่อเค้าวางทิ้งไว้แล้วไม่ต้องแกล้งยิ้มนั่นแหละ ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ของเราเองมันสูญเสียการควบคุมไปซะหมด จนครั้งนึงเคยถามแม่ว่า ถ้ายัยพี่ต้องไปอยู่ศรีธัญญาแม่จะไปเยี่ยมมั้ย แม่ตอบทันทีว่าไป ที่ถามไม่ได้ถามเล่นๆ นะ เพราะรู้ตัวว่าถ้ายังเครียดขนาดนี้ แล้วหาทางออกไม่ได้ อีกไม่นานคงหนีไม่พ้นแน่ๆ แต่เหตุผลเดียวที่ทนก็เพื่อแม่นี่แหละ เพราะแม่คำเดียวจริงๆนะ
Free TextEditor เวลาค่ะ จะช่วยเราได้ ปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้าเรายิ่งต่อต้าน เราจะยิ่งไม่มีความสุขนะคะ
โดย: magic-women วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:17:15:52 น.
หวัดดีค่ะ เป็นไงบ้าง ปรับตัวได้บ้างหรือยังคะ
โดย: magic-women วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:31:52 น.
|
พณณกร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ไม่ได้อยากจำ แต่มันไม่ลืม Link |
สติยังอยู่ เพราะยังรู้ตัว. ไม่ต้องเข้าศรีธัญญาหรอกค่ะ
สู้ๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ