หลังจากฝ้าเสร็จเรียบร้อย เราก้อเรียกช่างกระเบื้องเข้ามาทำพื้นต่อทันที กระเบื้องพื้นที่ใช้เราเลือกเป็นแกรนิตโต้นอก ราคาค่อนข้างสูง แต่กัดฟันเอาค่ะ เพราะพื้นเป็นอะไรที่ต้องรับภาระหนักหน่วงที่สุด อีกอย่างแพกเกจของกระเบื้องนอกนี่จะแข็งแรงมากนะคะ เราไม่เจอกระเบื้องแต่เลยซักแผ่นสำหรับกระเบื้องพื้นนี่ เราเลือกขนาด 60x60 ซม. ผิวไม่ขัดมัน แต่มีลายเหลือบๆ ในเนื้อกระเบื้องนิดหน่อย ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติดีค่ะ สีก้อเลือกให้ใกล้เคียงกับผนังที่สุดเพราะจะได้ดูเหมือนมึการต่อเนื่องของผนังและพื้นค่ะ

เริ่มต้นปูพื้นแล้วค่ะ

เพื่อน ๆ จะเห็นว่ามีการเทปูนที่พื้นสูงขึ้นมามากพอสมควร เหตุผลก้อคือว่าเราไม่ต้องการให้กระเบื้องผนังต้องมีการตัด เวลาเห็นกระเบื้องเล็ก ๆ ไม่เต็มแผ่นดูมันไม่ค่อยสวยยังไงก้อไม่รู้สิคะ อันนี้แล้วแต่ความชอบของบุคคลนะคะ อีกอย่างห้องครัวเราค่อนข้างสูง มีพื้นที่ให้เล่นได้พอสมควรค่ะ ช่างจึงต้องคำนวญหาพื้นที่ว่าทำอย่างไรจะปูให้ลงตัว สุดท้ายเลยต้องหนุนพื้นสูงขึ้นมาถึง 7 ซม.ค่ะ

ปูกระเบื้องพื้นเสร็จแล้ว สวยไหมคะ

ที่เห็น 2 รูนั่น เป็นท่อสำหรับน้ำทิ้ง (เผื่อมีการล้างพื้น เค้าทำไว้แต่แรกแล้ว ไม่อยากไปปิดมันอะค่ะ ส่วนอีก 1 รู เป็นท่อสำหรับดูด ส้ ว ม ค่ะ ไม่รู้ว่าเอามาไว้ในครัวทำไม  ) แต่เราให้ช่างเค้าตัดกระเบื้องให้พอดีปิดรู ไม่น่าเกลียดแน่นอนค่ะ

พื้นทางเข้าห้องครัวค่ะ

สาเหตุที่เราต้องทำพื้นให้เฉียง ๆ แบบนี้ มีเหตุผลนะคะ เนื่องจากข้างนอกเป็นพื้นหินขัดเดิม (บริเวณของโฮมออฟฟิศ) หากเราทำตัดตรง ๆ ไปเลย เวลาเดินเข้าออก อาจมีการสะดุดได้ค่ะเนื่องจากพื้นครัวที่เรายกสูงถึง 7 ซม. ต้องยกความดีให้กับคุณสามีค่ะ เค้าออกแบบให้การเดินเข้าออกสบายที่สุด เรียกได้ว่าไม่ต้องยกเท้าขึ้นสูงมากจนผิดปกติ และก้อไม่สะดุดด้วยค่ะ (เก่งจริงๆ แอบชมเล็กน้อย อิอิ )

หลังจากนั้นก้อรอเวลาค่ะ เพราะว่าติดปีใหม่ ออฟฟิศเราก้อหยุดยาว ช่างก้อเลยต้องหยุดไปด้วยค่ะ ระหว่างนี้เราได้ไปตรวจงานของช่างไม้ที่โรงงานเค้าว่าได้กี่เปอร์เซนต์แล้ว แล้วเสร็จกว่า 60% แล้วค่ะ ลืมบอกไปค่ะว่าเราต้องการหน้าบานสีขาวมันวาวแบบไฮกลอส (แบบเดียวกับงานพ่นสีรถยนต์) ต้องมีห้องอบสี ซึ่งช่างไม้เราเขาก้อยอมรับค่ะว่ามันเกินความสามารถเค้า เค้าจึงแนะนำให้ใช้เป็นแผ่นลามิเนตสีขาวเงาแทน ตอนแรกเราก้อทำใจไม่ได้หรอกนะคะเพราะอยากได้ไฮกลอสมากๆ ไปดูที่โชว์รูมของบุญ.... สวยจับจิตจับใจ แต่ราคาก้อแพงจับจิตจับใจเหมือนกัน หลังจากดูตัวอย่างแผ่นลามิเนต รวมถึงได้เข้ามาหาข้อมูลในบล็อกต่าง ๆ ของเพื่อน ๆ แล้ว ก้อทราบว่าแผ่นลามิเนตก้อไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย อาจจะไม่เงาไม่เนียนเท่าสีอบ แต่เพื่อให้งบประมาณไม่บานปลายไปกว่านี้เราจึงต้องทำใจค่ะ แต่ช่างเค้าก้อละเอียดดีนะคะ เค้าไม่ทำแผ่นลามิเนตจนสุดขอบบานตู้แต่เลือกที่จะลบขอบตู้ให้มน ๆ เล็กน้อย แล้วพ่นสีขาวให้ใกล้เคียงกับลามิเนตที่สุด เหตุผลก้อคือ หากเราติดแผ่นลามิเนตจนสุดบานตู้เวลาเราเปิดปิด อาจมีการทำให้มุมหรือขอบแผ่นลามิเนตมีการกระเทาะหรือหลุดแตกออกได้ค่ะ ไปเริ่มดูเค้าติดตั้งตู้กันดีกว่าค่ะ

ด้านหลังตู้ทำโครงให้มั่นคงแข็งแรงเช่นนี้ค่ะ

เริ่มประกอบติดตั้งแล้วค่ะ

ไม่ลืมที่จะเอาลังกล่องกระดาษหนา ๆ รองพื้นก่อนนะคะ กลัวเป็นรอยจนจะเป็นโรคจิตแล้ววว

ประกอบกันเป็นครัวตัว L แล้วค่ะ

อุปกรณ์ภายในเราใช้ของพี่เฮ..ทั้งหมดค่ะ ราคาแพงซักหน่อย แต่เพื่อการใช้งานที่ยาวนานคงทนก้อต้องทุ่มทุนกันบ้าง ที่เห็นสติ๊กเกอร์ดำ ๆ หน้าบานนั่น เค้ายังไม่ได้ลอกกันรอยออกจากแผ่นลามิเนตค่ะ ส่วนขอบตู้ยังเป็นสีไม้อยู่เพราะยังไม่ได้พ่นสี ช่างเค้าจะทำการประกอบแล้วก้อรื้อออกค่ะ เพราะเค้าต้องการทราบว่าที่เค้าทำมาจากโรงงานนั้นติดตั้งกับพื้นที่จริงแล้ว เข้าที่เข้าทางพอดิบพอดีหรือไม่ แล้วค่อยถอดออกมาพ่นสีอีกทีค่ะ (ทำไมยุ่งยากจังเนอะ) อีกอย่างบ้านเราเอียงด้วยค่ะ แบบว่า มุมตรงตัวแอลที่เพื่อน ๆ เห็นอยู่ตอนนี้มันไม่ได้ฉาก มุมมันหุบเข้าประมาณ 3 ซม. เห็นแบบนี้อาจดูไม่เยอะนะคะ แต่ช้าก่อนค่ะ มีปัญหาน่าปวดหัวตามมาอีกเพียบ ค่อยดูกันต่อไปค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกัน

เริ่มลองติดอุปกรณ์ตะแกรงเข้าไปในตู้แล้วค่ะ

เริ่มประกอบตู้บนแล้ว

ตู้ของเราจะสูงจนติดฝ้าเลยนะคะ เพราะเรามีประสบการณ์จากครัวเก่าแล้วว่าข้างบนสุด หากเปิดโล่งไว้ เราจะไม่ได้ไว้เก็บของอย่างเดียว แต่จะได้เก็บขี้ฝุ่นอีกด้วยค่ะ ตอนแรกเราก้อกลัวอึดอัดนะคะ เพราะครัวเราก้อเล็ก ๆ แต่เสี่ยงเป็นเสี่ยงกันค่ะ เพราะเราเป็นโรคแพ้ฝุ่นมาก ๆ อย่างน้อย ๆ มีบานตู้ปิดไว้บ้างขึ้ฝุ่นคงน้อยลงเยอะค่ะ เอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้หยิบใช้บ่อยเท่าไรค่ะ

ติดขึ้นไปหมดแล้วค่ะ เริ่มเห็นเค้าความสวยบ้างหรือยังเนี่ย

เพื่อน ๆ จะเห็นช่องว่างระหว่างตู้กับฝ้าอยู่เล็กน้อย เดี๋ยวช่างไม้เค้าจะเอาไม้มาตีปิดให้ค่ะ รับประกันความเนียน เค้าว่างั้น ^^

เริ่มเก็บรายละเอียดสีในตู้ค่ะ

ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ ปัญหาต่าง ๆ จะรวมอยู่ใน episode 5 นี่ล่ะค่ะ อย่าลืมไปติดตามดูกันนะคะ

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2553 18:11:24 น.		0 comments
Counter : 3890 Pageviews.
Share Tweet