สิ่งที่ฉันไม่เคยรู้สึก สิ่งที่ฉันไม่เคยจะนึกว่ามี แต่แล้วฉันก็พบจาก ได้พบจากเธอ เธอคนนี้ โวโว... แค่เธอก็พอ โอว..ฉันจะไม่ขอมากกว่านี้ แค่เธอก็พอ อู้วว..ฉันจะไม่ขออะไรอีก
Google
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

Thriller Story : ปริศนาแห่งคำสาป (Enigma of Curses) บทที่1

ตอนที่1 เงื่อนงำแห่งทราย

12.34 น. 22 กรกฎาคม 2553

อากาศยามบ่ายที่ไร่องุ่น แถวโคราช ในปลายฤดูฝน ฝนเม็ดเล็กละเอียดโปรยลงมาจากฟ้าทะลุแสงแดดจัดจ้า ลงมากระทบใบองุ่นสีเขียวจัดเม็ดแล้วเม็ดเล่า ไร่องุ่นนี้แบ่งเป็นแนวเป็นแถวยาวสุดลูกหูลูกตา ประมาณได้หลายร้อยไร่ ไม่มีคนงานสักคนในไร่ตอนนี้ มันคงเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบก่อนที่จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น

“นายๆ คนงานท้ายไร่ ตกลงไปในหลุมหลังไร่หลังเราครับ!” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาแต่ไกล ผู้ร้องอายุไม่น่าจะเกินเบญจเพส ผิวดำแดง ตัวเตี้ย รูปร่างล่ำสัน ผมสั้นเกรียน วิ่งเหงื่อกาฬไหลหน้าตื่นมาหานายของมัน

“หลุมอะไรของมึงวะ ไอ้สันติ ” เสียงเรียบๆแต่มีพลังถามกลับ

“ไม่รู้เหมือนกันครับ ไอ้ศรีมันว่า ไอ้ชายผัวมันตกลงไปหนะครับ”

ชายหนุ่มในชุดนอนสีฟ้า บนรถเข็น ตอบกลับมาว่า “งั้นแกไปเรียกพวกเราที่ไร่ติดกันกลับมาช่วยเร็ว ข้าให้ไปช่วยไร่คุณสรรชัย ถางหญ้าหนะ ไปเร็ว”

สิ้นเสียงสั่งการ สันติก็วิ่งพรวดไปยังไร่ที่อยู่ติดกัน ชายหนุ่มบนรถเข็นถอนหายใจ พลันใช้มือหมุนล้อรถเข็นของตัวเองให้เลื่อนออกไปยังชานนอกที่พัก ชนะชัย ชายหนุ่มบนรถเข็น เขาประสบอุบัติเหตุทางเรือขณะนั่ง speed boat เมื่อครั้งไปท่องเที่ยวกับพิชนาถ แฟนเก่าที่เคยคบหากัน อุบัติเหตุครั้งนั้นนอกจากชนะชัยจะเสียความสามารถในการเดินแล้ว ยังต้องสูญเสียคนรักไปด้วย พิชนาถเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น

“สวัสดีครับพี่สรร พอดีคนงานผมตกลงไปในหลุมด้านหลังไร่หนะครับ ผมจะขอแรงคนงานที่ส่งไปช่วยถางหญ้าที่ไร่พี่ กลับมาช่วยกันสักครู่นะครับ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะให้คนงานฝั่งผมไปช่วยด้วยครับ” สรรชัย นายใหญ่ของไร่ที่ติดกับชนะชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย เกือบ 1 ปีแล้วที่สรรชัยย้ายเข้ามาเป็นเพื่อนบ้านไร่ติดกัน ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกันกับที่เขาประสบอุบัติเหตุและต้องมาพักฟื้นที่นี่ สรรชัยซื้อต่อไร่องุ่นจากพี่สาวของชนะชัยที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตอันหรูหราที่เมืองไทยไปเป็นแพทย์อาสาในแถบแอฟริกา แม้ว่าทั้งสองไร่จะเพาะปลูกองุ่นเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยที่จะมีปัญหาใดๆเลย หากแต่คอยเกื้อหนุนกันเสียมากกว่า ชนะชัยจึงนับถือสรรชัยเสมือนญาติคนหนึ่งเลยทีเดียว

ชนะชัย ใช้ไม้ค้ำยันประคองตัวเองยืนอย่างทุลักทุเล เพื่อพาตัวเองลงไปอีกด้านของบ้าน ที่สามารถมองเห็นไปถึงท้ายไร่ เพื่อดูความเป็นไปของการช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันที่จะถึงอีกด้านของบ้าน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“นายๆ ไอ้ชาย ไอ้ชาย..” เสียงตะกุกตะกักของสันติ ทำให้ชนะชัยตั้งใจฟังเป็นพิเศษ

“ไอ้ชายเป็นอะไรวะ ใจเย็นๆ”

“ไอ้ชาย หายไปแล้วครับ..เหลือแต่หมวกกับขวดน้ำที่ตกอยู่ก้นบ่อ ผีๆแน่ๆเลยครับ” สันติพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและตระหนกตกใจ

“เฮ้ย แกอย่าไร้สาระ หาดูดีๆ บางทีมันอาจจะออกมาก่อนที่มึงจะไปถึงก็ได้นะ หาดูดีๆ” เขาพูดพลางขบคิดถึงคำพูดของสันติ แต่ไม่ทันไรสันติก็โพล่งออกมาว่า

“มันกลับมาแล้วนาย มันกลับมาแล้ว” สันติเสียงสั่นอย่างชัดเจน

“ใครมาวะสันติ ใครกลับมา”

“ผีครับ ปีศาจมันกลับมาแล้ว ลุงนวลว่าเป็นปีศาจที่เคยสาปแช่งครอบครัวนาย ให้มีอันเป็นไป ให้ประสบเคราะห์กรรม” สันติพูดด้วยเสียงสั่นอย่างชัดเจน

“เหลวไหล ผีเผอที่ไหน เอ็ง..พาพวกคนงานหาดูให้ทั่วทั้งในไร่เราและที่ข้างๆด้วย ได้เรื่องยังไงบอกข้าโดยด่วนเข้าใจมั้ย” ชนะชัยสั่งการเสียบเฉียบ จนสันติเงียบและคลายอาการสั่นไปได้

11.00 น. 23 กรกฎาคม 2553

บรรยากาศที่เคยเงียบสนิทของไร่องุ่นที่โอบล้อมด้วยป่าและขุนเขา ตอนนี้เต็มไปด้วยตำรวจและกลิ่ยไอของความสับสน

“คุณเป็นเจ้าของไร่ใช่มั้ย?”

“ครับ”

“นายชายหายไปกี่ชั่วโมงแล้วครับ”

“เกือบวันแล้วครับ”

นายตำรวจจดข้อมูลลงไปในสมุดจดบันทึกสีดำ แม้ว่าจะเป็นตำรวจแต่นาฬิกาที่เค้าใส่กลับเรือนเฉียดล้าน แถมยังใส่ออกปฏิบัติการภาคสนามอีก

“ผมไปที่เกิดเหตุและสอบถามพยานแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่นายชายจะขึ้นมาจากหลุมลึกกว่า 10 เมตรด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ไม่บาดเจ็บจากการตกจากที่สูงขนาดนั้น ปากหลุมกว้างแค่ 80 ซม.แถมมีหญ้าขึ้นปกคลุมอีกต่างหาก หนำซ้ำพยานที่เห็นเหตุการณ์ยังบอกว่านายชายตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเสียงก็หายไป”

“แล้วมันหายไปไหนได้” ชนะชัยพูดพลางหันไปหานางศรี เมียของไอ้ชาย “ศรี ตอนแกได้ยินผัวแกเรียก ได้มองลงไปในหลุมมั้ยว่า เค้าอยู่ดีหรือบาดเจ็บมั้ย”

“มะมะมะไม่เห็นอะไรเลยคะ มืดคะ มองอะไรไม่เห็นเลย ไม่จะเป็นยังไงบ้างนะตอนนี้” ศรีตอบด้วยน้ำตานองหน้า

“คงเพราะหลุมลึกมากทำให้แสงตกลงไปไม่ถึงก้นหลุม” นายตำรวจสันนิษฐาน

“แต่นั่นมันเลยเที่ยงมานิดเดียวนะครับ ตะวันตรงหัวอย่างนั้น ระยะสิบเมตรน่าจะมองเห็น” ชนะชัยให้ความเห็น

“คุณชนะชัย แต่ที่แปลกที่สุดคือ ผมให้เจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปก้นหลุม ด้านข้างหลุมไม่มีรอยปีนป่าย หรือตะกุยใดๆเลย และที่ตกใจที่สุด ก้นหลุมเป็นทราย”

“แล้วมันน่าตกใจยังไงกันครับ”

“มันเป็นทรายที่เรียบ ไม่มีรอยเท้าใดๆปรากฏ ไม่มีแม้แต่รอยใดๆบนทราย คุณดูจากรูปนี่ มีแค่หมวกและขวดน้ำตกอยู่ แน่นอน มันเป็นหมวกนายชาย” พลางยื่นรูปที่ถ่ายไว้ออกมา

“อีกอย่างที่คุณศรี คนงานคุณพูดหนะถูกต้อง ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แสงถึงทะลุไปไม่ถึงก้นบ่อ มันเหมือนถูกอะไรดูดกลืนเอาไว้..ผมคงต้องขอสอบปากคำทุกคนนะครับ”

“มันกลับมาแล้ว มันกลับมาแล้ว...ปีศาจมันมาแล้ว” ลุงนวล ชายชราอายุเกือบ 80 ปี พูดเสียงสั่น นัยตาแฝงความหวาดกลัวภายใน แม้ผมจะขาวโพลนแต่สภาพร่างกายยังจัดว่าดีสำหรับคนอายุขนาดนี้

“ใครกลับมาเหรอลุง ใครกลับมา” นายตำรวจถามกลับ แต่ยังไม่ทันที่ลุงนวลจะตอบ เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากไร่ข้างๆ ทุกคนเหมือนถูกสะกดหยุดนิ่งอยู่กับที่ และเหมือนกับฉากในหนัง เปลวไฟโหมกระหน่ำจากไรของสรรชัยจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งในเวลารวดเร็วราวกับน้ำมันติดไฟ

“ทุกคนไปช่วยกันดับไฟเร็ว!!!” เสียงชนะชัยสั่งดังลั่น คนงานไม่ต่ำกว่า 10 คนวิ่งตรงไปยังไร่สรรชัยที่อยู่ติดกัน นายตำรวจเรียกวิทยุขอกำลังสนับสนุน


18.35 น. 23 กรกฎาคม 2554

เปลวเพลิงสงบไปแล้ว ไร่ของสรรชัยหายไปเกือบทั้งหมด เปลวไฟกลืนกินต้นไม้ใบหญ้า โรงเรือนเลี้ยงม้า บ้าน รวมถึงชีวิตคุณสรรชัย

“ตำรวจกำลังสอบสวนและหาหลักฐานต้นเพลิงอยู่ครับ ระหว่างนี้ขอให้ทุกคนในไร่ของคุณสรรชัยและไร่ของคุณ ห้ามเดินออกนอกพื้นที่” นายตำรวจบอกต่อชนะชัยและคนงานที่มาฟังข่าวคราว “ส่วนคดีนายชาย เราจะเร่งสืบหาโดยด่วน ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง”

“หมวดครับ เราพบอีกศพนึงในกองเพลิงครับ” จ่านิด ตำรวจคนสนิทรายงานต่อนายตำรวจคนนั้น แท้จริงนายตำรวจผู้นี้เป็นรต.อ.กรนันท์ ที่โด่งดังในการคลี่คลายคดีใหญ่ๆมานักต่อนัก

“ผู้ตายเป็นชาย อายุราวๆ 40 ปี ศพไหม้เกรียม แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดคือ...”

“คืออะไร จ่า..”

“บริเวณที่พบศพผู้ตาย มีทรายตกเกลื่อนไปหมด ทั้งๆที่รอบๆไม่มีทรายเลยแม้แต่เม็ดเดียว” จ่านิดเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดที่พบ

“จ่า..มีตำหนิอะไรบ้างมั้ยที่ศพ” รต.อ.กรนันท์ถามต่อ

“เราพบนาฬิกาข้อมือโลหะที่ข้อมือขวา ด้านหลังนาฬิกาสลักตัว L ไว้”

“พี่ชาย…ไม่ พี่เป็นอะไร ทำไมทิ้งกันไปอย่างนี้ ไม่จริง!!!” สมศรีร้องไห้ พลางหวีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง เพื่อนคนงานวิ่งกรูเข้ามาประคองร่างที่หมดสติเพื่อพาไปปฐมพยาบาล ตัวอักษร L ที่สลักไว้แทนนามสกุลของทั้งคู่

“ผมว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลนะครับ เพราะคุณสรรชัยเอง ดูผิวเผินเหมือนเสียชีวิตจากกองเพลิง แต่จากการชันสูตรเบื้องต้นในปอดเต็มไปด้วยทราย เหมือนกับนายชายไม่มีผิด” จ่านิดให้ข้อมูลเพิ่ม

“เราเจอคดีที่แปลกประหลาดแล้วหละจ่า...จ่าช่วยเก็บตัวอย่างทรายจากศพทั้งสอง และทรายจากหลุมท้ายไร่ที่ว่ากันว่านายชายตกลงไปที ผมต้องการทดสอบอะไรบางอย่าง ส่วนคุณ คุณชนะชัยและที่เหลือกรุณาอย่าออกจากพื้นที่ไปไหนจนกว่าทางเราจะติดต่อมา ผมยังไม่แน่ใจว่านี่เป็นการฆาตกรรมหรือไม่” รต.อ.กรนันท์พูดกับชนะชัยพลัน หันไปบอกจ่านิดให้วิทยุขอกำลังตำรวจมาเฝ้าที่ไร่ในคืนนี้

“แล้วทางผมจะรอความคืบหน้าจากทางคุณครับ”ชนะชัยกล่าว แล้วเรียกสันติให้เข็นรถกลับไปห้องนอน เพราะเวลาก็ล่วงเลยมากว่าห้าทุ่มแล้ว พลางกำชับให้สันติเรียกลุงนวลมาพบในเช้าวันรุ่งขึ้น

7.12 น. 24 กรกฎาคม 2554

ฟ้าสีครามมีเมฆเพียงเล็กน้อย อากาศที่สดชื่นกว่ากรุงเทพเป็นเท่าตัว คนงานทยอยกันลงมาทำงานในไร่ ยกเว้นแต่ลุงนวล คนเก่าคนแก่ที่ชนะชัยให้มาพบตอนเช้า

“ไอ้สันๆ ลุงนวลแกมารึยังวะ” ชนะชัยถาม ก่อนจิบกาแฟอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ลงเหตุการณ์เมื่อวาน

“ยังเลยครับ ปกติแกตื่นเช้าที่สุดนะครับ สงสัยวันนี้นอนเพลินไปหน่อย หรือไม่สบายก็ไม่รู้ เมื่อวานขากลับที่ผมแวะไปบอกแกว่านายอยากเจอ แกยังบ่นๆหายใจไม่ค่อยออก เจ็บตามตัวอยู่เลย”

“งั้นแกไปดูหน่อยสิว่าแกเป็นอะไรมากมั้ย แล้วชั้นมีเรื่องจะถามแกด้วย”ชนะชัยพูดแต่สายตาไม่ได้ละจากหนังสือพิมพ์

สันติขี่จักรยานจากบ้านของชนะชัยมายังบ้านพักคนงานใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที สันติคุ้นเคยกับที่นี่มากเพราะอยู่มากันตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ จนพ่อและแม่ตายไป พ่อของชนะชัยจึงให้ขึ้นมาอยู่ที่ห้องเล็กในบ้าน เพื่อเป็นเพื่อนและดูแลชนะชัยที่อายุไม่ต่างกันมากนัก

“ลุงนวลๆ ตื่นรึยัง อยู่มั้ยครับ” สันติเคาะประตูสองที แต่ทุกอย่างเงียบ ไม่มีเสียงขานรับ สันติจึงตัดสินใจดันประตูเข้าไป แต่ล็อกจากด้านในแถมบ้านพักแบบห้องแถวนี้มีทางเข้าออกทางเดียว ไม่มีหน้าต่าง จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไป

สิ่งที่สันติเห็นเป็นสิ่งที่สันติจะต้องจำไปติดตาไปนาน ลุงนวลนอนหงายบนที่นอน รอบตัวมีทรายตกเต็มไปหมด และที่สร้างความสยองที่สุดให้สันติคือ มีทรายอยู่เต็มปากลุงนวล ท้องป่องออกอย่างเห็นได้ชัด ตาเหลือกขึ้นด้านบน เท่านั้นสันติก็วิ่งเต็มฝีเท้าออกมาไปหาชนะชัย พร้อมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานนับสิบคนก็มาอยู่ที่ไร่ของชนะชัย

“สามคนในสองวัน ทุกศพมีทรายตกอยู่ใกล้ๆ แถมในร่างกายก็เต็มไปด้วยทราย” รต.อ.กรนันท์ทวนเหตุการณ์

“ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมมันต้องฆ่า ทำไม ชีวิตคนทั้งคนเชียวนะ” ชนะชัยพูดพลางถอนหายใจ สภาพบนรถเข็นตอนนี้ทำให้ นายตำรวจหนุ่มอดที่จะตบบนไหล่เบาๆไม่ได้

“ปัญหาคือห้องถูกล็อกจากด้านใน”

“ห้องปิดตาย!!” จ่านิดอุทานออกมา

“แล้วอีกอย่างทรายตั้งมากมายเข้าไปในตัวลุงแกได้ยังไง ทำไม ผมไม่เข้าใจจริงๆ” รต.อ.กรนันท์ครุ่นคิด “และที่สำคัญที่สุดทรายของศพคุณสรรชัยและนายชายมาจากแหล่งเดียวกัน ที่ตกใจกว่านั้น ทรายในหลุมนั้นก็เช่นกัน”

“มันเกี่ยวกันได้ไงเนี่ย ผมไม่เข้าใจ” สันติทำท่าปวดหัว

“ทั้งสามรายมีทรายเป็นจุดเชื่อมโยง ผมเห็นลุงท่าทางแกแปลกๆเมื่อคืน บอกแต่ว่าผีกลับมา ปีศาจ อะไรทำนองนี้ เลยอยากจะถามตอนเช้านี้ แต่...” ชนะชัยพูด

“เกิดเหตุเสียก่อน..ผมคงต้องให้คุณและสันติให้ปากคำที่สถานีตำรวจนะครับ” รต.อ.กรนันท์พูด

“และมีอีกเรื่องที่พวกคุณควรรู้ ทรายพวกนี้ไม่ได้มีตามป่าเขา มันเป็นทรายทะเล เนื้อที่ละเอียดเพราะผ่านการกัดกร่อนมา อีกทั้งยังพบเกลือในทรายพวกนี้ด้วย แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันมาได้อย่างไร และทำไมถึงเลือกการใช้ทรายในการฆาตกรรม” รต.อ.กรนันท์พูดทิ้งท้าย ก่อนจะลากลับไปเพื่อวิเคราะห์คดีต่อ



จบบทที่1




XabiRider
Copyright@2007 by Nattapol Pongpaothai




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2550
1 comments
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 15:49:41 น.
Counter : 738 Pageviews.

 

แน๊ะๆ แอบมาแปะไว้ไม่ชวนมาอ่านเลยนะคะ

เย็นๆ เข้ามาอ่านอีกรอบดีกว่า หนุกดี

 

โดย: d.. diary 22 สิงหาคม 2550 16:38:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


XabiRider
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อย่ากลัวว่าวันเวลาจะทำให้เธอต้องเสียใจ หรือความห่างไกลจะทำให้ใจฉันไหวหวั่น ข้อความเหล่านี้...ทุกคำ จะคอยแทนคำสัญญา ให้เธอได้รู้ ว่าไม่ว่ามันจะนานสักเท่าไหร่ จะไม่มีใครมีความสำคัญและสูงค่า ให้คำพูดฉันแทนคำสัญญาให้รู้ว่า..."ฉันรักเธอ"
Guestbook
Friends' blogs
[Add XabiRider's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.