Trip เฉียดคาน : วันที่ 5 เที่ยวก่อนกลับกรุงเทพ
วันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ ก็ตื่นแต่เช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนเคย แต่ครั้งนี้ตื่นประมาณ 6 โมงก็พอ เพราะว่าที่กางเต๊นท์กับยอดภูทับเบิก เดินขึ้นไปนิดเดียวไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง ตามคาดหมายเลย ว่าหมอกจะหนาจนไม่เห็นคุณพระอาทิตย์อีกแล้ว ทริปนี้คุณพระอาทิตย์ขี้อายตลอดเลยวันนี้ได้ต่อคิวถ่ายกับป้ายเป็นอย่างดีมีความสุข อิอิ อุณหภูมิวันนี้ 15 องศานิดๆค่ะวันสุดท้ายแล้ว ถ่ายสปอนเซอร์ที่พักเราซะหน่อยจากนั้นก็เก็บเต๊นท์ เก็บข้าวเก็บของ เตรียมตัวเที่ยวไปเรื่อยๆ แล้วก็กลับกรุงเทพฯค่ะที่แรกที่เราแวะเที่ยวคือ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษกยอดเจดีย์สูงเด่นเป็นสง่า เราไม่ได้ถ่ายข้างในนะคะ เนื่องจากคนมากราบไหว้เยอะ เราไม่ค่อยอยากหยุดยืนถ่ายรูปนานๆจากนั้นก็มาแวะที่นี่ค่ะ ฐานยิงสนับสนุปอิทธิประวัติความเป็นมาเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาทนะคะ ค่าเข้าชมก็ไม่แพงนะ ถือว่าช่วยรัฐบาล จ่ายเงินเป็นค่าบำรุงรักษาให้คนไทยมีที่เที่ยวไปนานๆเถอะค่ะ เราเห็นบางคนเนียนเดินเข้าไปเลย คุณทหารที่ขายตั๋วก็ไม่กล้าเรียก ข้างในก็เป็นการจัดแสดงอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในสมัยนั้นค่ะพวกปืนใหญ่แบบต่างๆ ยานพาหนะ ฯลฯระหว่างถ่ายรูป กลางแดดร้อนเปรี้ยง คุณชายของเราก็อารมณ์ดีค่ะคุณชาย : เธอนี่ น่าจะไปเป็นนางแบบนะเรา : จริงเหรอ (แอบดีใจ ร้อยวันพันปีไม่เคยชม)คุณชาย : อืมม นางแบบอาวุธสงครามนะเรา : ^^%@!$! ตบตีกันเสร็จ เดินไปเรื่อยๆ จะมีจุดชมวิวให้ถ่ายค่ะ นี่รูปถ่ายจากจุดชมวิวข้างบนมีห้องฉายประวัติความเป็นมา สมัยปราบปรามยุคคอมมิวนิสต์ด้วยค่ะ จากนั้นเราก็ขึ้นรถมาแวะที่อนุสรณ์สถานผู้เสียสละประวัติความเป็นมานะคะภายใต้อนุสรณ์สถานมีประวัติเล็กน้อย และรายชื่อผู้เสียสละในแต่ละปีสลักอยู่รอบด้านตรงข้ามอนุสรณ์สถาน เป็นฐานกรุงเทพ ซึ่งเรายังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร หมายถึงอะไร ไม่มีป้ายบอกอ่ะ แล้วก็ไม่ถามเค้า - -" เค้าจะมียุวมัคคุเทศน์อยู่ค่ะระหว่างทางปลูกดอกไม้ไว้เต็มเลยค่ะดอกเฟื่องฟ้าเป็นช่อแบบนี้ไม่เคยเห็น แปลกดีค่ะดอกอะไรไม่รู้ ไม่มีป้ายบอก แล้วก็ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะพอเดินเข้าไปในฐานกรุงเทพ จะเป็นเหมือนหลุมหลบภัยต่างๆจากนั้นก็มาแวะต่อที่พระตำหนักเขาค้อค่ะมีทิวลิปสีม่วงบานพอดี ไม่ต้องไปดูไกลถึงเชียงราย อิอิข้อมูลการสร้างพระตำหนักทางขึ้นยอดเขาย่า ครั้งนี้เราไมได้เดินขึ้นยอดเขาย่าค่ะ เราเคยมาเที่ยวเพชรบูรณ์มาก่อน เมื่อ 4 ปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นได้เคยเดินขึ้นยอดเขาย่าไปแล้ว เพราะป้ายบอกว่าระยะทาง(แค่) 700 เมตร เราก็นะ...ตอนนั้นเพิ่งไปภูกระดึงมา แค่ 700 เมตรเอง จิ๊บๆ ที่ไหนได้ ป้ายมันโกหกกกกกกกก 700 แม้ว อ่ะดิ ทางขึ้นมันชันตลอดเลยค่ะ แถมกลางๆท้ายๆ มีแต่บันได โหยยยยย เหนื่อยอ่ะ เหนื่อยชิบ เหนื่อย..าด เหนื่อยมากกกกกกก ชาตินี้ไม่คิดจะปีนอีกแล้วหล่ะ - * -แถมตอนนั้นที่เราไปก็ไม่มีให้ประกาศณียบัตรแบบนี้ด้วยนะ เจ็บใจ โกดดดดดดดดดดดจากนั้นก็ตีรถกลับกรุงเทพฯเลยค่ะ แต่ก็แวะหาไก่ย่างวิเชียรบุรีกินก่อนลงเอยแวะที่ร้านนี้ เพราะเพื่อนร่วมทางบอกว่ามันดัง (แต่เราไม่รู้จักอ่ะ - -") เนื่องจากมื้อนี้จัดว่าเป็นมื้อเที่ยง แต่กว่าเราจะมาถึงก็บ่าย 3 แล้ว (หิวได้อีก) อาหารของทางร้านก็เหลือไม่มาก สั่งอะไรไปก็หมด (แล้วจะเปิดร้านถึงตอนนี้ทำไมฟระ เหลือแต่ไก่เนี่ย - * -)สภาพเลยเป็นแบบนี้อย่างรวดเร็ว มัวแต่กิน ลืมถ่ายอ่ะแวะถ่ายกับรูปเจ้าของร้านก่อนกลับ (เพื่อ ???)จากนั้นก็ตีรถยาวเลยค่ะ เราก็อยากรีบกลับบ้านมา count down กับที่บ้าน คุณชายก็เหยียบ 140 มาเกือบตลอดทางสุดท้ายก็ถึงบ้านประมาณทุ่มครึ่งค่ะ ฮ้าาาาา.... ถึงบ้านซะทีสรุปว่าทริปนี้สนุกดีค่ะ ชอบหลายๆอย่าง แล้วก็ชอบบรรยากาศที่เชียงคานมากด้วย (ดูได้ที่นี่ค่ะ)ถ้ายังบรรยากาศดีอย่างนี้อยู่ ก็อยากไปอีกอ่ะ สบายๆดี ชิวๆเสียดายอย่างเดียวที่อากาศไม่หนาวสะใจเลยเดือนเม.ย.วางแผนไว้ว่าจะไปไต้หวันหล่ะ ถ้ามีโอกาสจะมา review ทริปหน้าอีกนะคะ Trip เฉียดคาน : วันที่ 1 มุ่งหน้าไปเลยยยยยTrip เฉียดคาน : วันที่ 2 ไปขึ้นคานกันนนนTrip เฉียดคาน : วันที่ 3 กะว่าจะไปหนาวที่ภูเรือTrip เฉียดคาน : วันที่ 4 คืนสุดท้ายที่ ภูทับเบิก