Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
ย้อนอดีต - สวนโมกข์ ๒

วันที่สอง


๐๕.๐๐ น
หลวงพ่อโพธิ์อบรมสมาธิภาวนา เรื่องอานาปาณสติ

จิตกับอารมณ์ กำหนดอยู่ด้วยกันในร่างกาย จับจิตให้อยู่กับกายด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก
เข้าที่ปลาย (รู)จมูก ปลายทางของลมคือสะดือ ช่วงหน้าอกเหนือสะดือเป็นทางผ่าน

การกำหนดคือ รู้ว่าลมเข้าเมื่อไร ออกเมื่อไร เป็นการฝึกจิตให้อยู่นิ่ง
แต่ก็มีความยากลำบากในการขัดเกลาจิตให้ผ่องใสเป็นประภัสสร
เพราะจิตมีนิวรณ์คอยรบกวนอยู่ตลอดเวลา



ณ โรงปั้น กับหลวงตาไสว (ท่านมาอยู่สวนโมกข์ตั้งแต่ ๒๕๐๓)
รู้จักสัตว์ต่างๆ
นกฮูก คือนกนักปราชญ์ มีหู มีตาโต ปากแหลม (พหุสูตรและ มีวาทะดี)
เสือ เกิดเป็นเสือต้องพึ่งป่าสวนโมกข์ (ความโกรธ กัดคนทุกที่)
ม้าเร็ว กับ ม้าหมากรุก (เราเป็นม้าอะไรเวลาพ่อแม่เรียกใช้งาน)
กวาง๔ตัวหัวเดียว คือ สามัคคีในหมู่เหล่า และพอดีในตัวเอง

พ่อแม่ ครูอาจารย์และตัวเรา(ลูก)
พ่อแม่ดึง ครูดัน ลูกดื้อ
พ่อแม่ ยังเป็นธนาคารโง่ของลูก เบิกจ่ายได้ทุกเวลา



ณ ศาลานางงาม – หลวงพี่วชิระ
เตือนว่า สิ่งที่เราหวังคือปริญญา อ.บ. อักษรศาสตร์บัณฑิตนะ ไม่ใช่ อุ้มบุตร


โครงกระดูกนางงาม
“ข้าพเจ้าเคยเป็นอย่างท่านมาแล้ว ท่านก็จะเป็นอย่างข้าพเจ้า”

งาม อยู่ที่ ซากผี
ดี อยู่ที่ละ
พระ อยู่ที่ จริง
นิพพาน อยู่ที่ ตายก่อนตาย

นิพพาน คือ ทำถูกต้อง ตายก็ไม่เน่า ตดก็ไม่เหม็น – ชีวิตไม่ไร้ค่า



ความหวัง
ความหวังเป็นเครื่องทรมานใจ มิใช่เรื่องบำรุงจิตดังที่คนเราคิดกันและสอนให้อยู่ในความหวัง
ลักษณะของไสยศาสตร์ทำให้คนหวังพึ่ง ไสย แปลว่าหลับ สำหรับคนที่พึ่งตนเองไม่ได้
เราควรทำสิ่งที่ควรทำ ไม่ต้องยึดอุปาทาน
ทำด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีสติ อย่าหมายมั่นให้ทรมาน
หวังนั้นทำให้คิด ถ้าทำแล้ว ดีแล้ว ก็ไม่ทุกข์


ทุกข์
มีทุกข์ที่บ้าน มีทุกข์ที่กรุงเทพฯ
วิ่งมาดับทุกข์ที่สวนโมกข์
มันโง่หรือฉลาดกันแน่



สระนาฬิเกร์

“ต้นนิพพาน ยืนโด่เด่อยู่ท่ามกลางห้วงวัฏสงสาร”


ที่มาสระนาฬิเกร์ --เพลงกล่อมเด็กของภาคใต้
น้องเอยมะพร้าวนาฬิเกร์
ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง
ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง
กลางทะเลขี้ผึ้ง ต้นเดียวเปลี่ยวลิงโลดเอย.
บทท้ายนี้ว่า : "ต้นเดียวเปลี่ยวลิงโลดเอย" ก็มี, "ถึงได้แต่ผู้พ้นบุญ" ก็มี,
"คงจะถึงสักวันหนึ่งเอย" ก็มี
อ่านเรื่อง มะพร้าวนาฬิเกร์

//www.buddhadasa.org/html/life-work/dhammakot/37-dhammabutra/15.html

มีบทกวีของกวีชื่อ จู พเนจร เขียนไว้เมื่อ จู พเนจรมาสวนโมกข์ นำมาฝากด้วยอีกบท

“นาฬิเกร์”
เมื่อมามีไรมาด้วยเล่า
หนักเบามีแค่เพียงแต่ขันธ์
จากมาไปเปล่าก็เท่ากัน
แล้วมีสิ่งใดอันเล่ามี
แดดลาก็ลับลบเลือนหาย
อยู่กลางสระเดียวดายทุกวันวี่
บอกวันเวลาบอกนาที
ยอดชี้เดโด่คอยโห่ยาม
น้ำกระเพื่อมเลื่อมไหวไม่ยึดติด
ต้อยตีวิดส่งเสียงเพียงจะถาม
โดดเดี่ยวบ้างไหมในเขตคาม จึงตอบตามที่เห็นเช่นนั้นเออ
เมื่อตะวันส่องฉายระบายแสง ฉันก็แจ้งกายฉันมั่นเสมอ
ต่อตะวันเคลื่อนคล้อยค่อยเจอะเจอ
ไม่เผยอขีดเส้นเข่นกับใคร
มีเพียงน้ำสระจ้อยคอยรองรับ รูปเงาทับฉันก็ทอดตลอดสมัย
เหมือนลูกตุ้มเห่ช้าเวลาไกว ย่ำย่ำครรไลแล้วอัสดง


(อ้างอิงจาก สวนโมกข์สมัยใหม่ บันทึกจากกวีพเนจร
//www.focuspaktai.com/index.php?file=news&obj=news.view(id=4131)&PHPSESSID=6d074fe3fa48596773223051e8f1c893)






ธรรมะคืออะไร มีธรรมะเพื่ออะไร

ธรรมะคือหน้าที่ๆถูกต้อง ในชีวิตคนเราขากธรรมะไม่ได้
ธรรมะคือระบบการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อความรอดทั้งทางกายและทางจิต
ทุกขั้นตอนชีวิตแห่งวิวัฒนาการมนุษย์ ทั้งตนเองและสังคม
ไม่เบียดเบียนผู้อื่นคือหน้าที่ๆถูกต้อง อยู่รอดกาย-ใจ พอมีพออยู่ สุขกายเย็นใจ

พุทธศาสนาเป็นทั้งจิตนิยมและวัตถุนิยม รวมกันได้ธรรมนิยม ถูกต้องทั้งสองฝ่าย ไปทางดีถูกต้อง
คู่ชีวิตของทุกคนคือธรรมะ “ขาดเธอไม่ร้ายเท่าขาดธรรมะ”
คนโบราณภาคใต้กล่าวว่า “งามเหมือนอินทร์ ล้างกินไม่ได้”



มีธรรมะได้ เมื่อ
๑. รู้จักตนเอง รู้หน้าที่ตนเองต่อ พ่อแม่ ครู เพื่อน ประเทศ เป็นพุทธบริษัทคือเชื่อตนเอง
๒. มีความเชื่อที่ถูกต้อง เชื่อการกระทำดี
๓. บังคับตัวเอง บังคับกิเลส
๔. มีความอดทนอดกลั้น ทนทุกขเวทนา ทนเจ็บใจ ทนต่อสิ่งยั่วยวน ทนต่ออารมณ์
๕. มีความพอใจในตนเอง – ฉันทะ
๖. เคารพตัวเอง ยกมือไหว้ตัวเองได้






Create Date : 09 สิงหาคม 2550
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 16:51:49 น. 0 comments
Counter : 810 Pageviews.

woodchippath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add woodchippath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.