|
|||||
ลองเป็นควาญช้าง @ ปางช้างแม่สา ++ วันที่สอง ++ เช้านี้ ตื่นแต่เช้า คิดว่าน่าจะมีหมอกในสภาพอากาศแบบนี้ อุตส่าห์ตั้งปลุกในโทรศัพท์กันเลยทีเดียว 6 โมงเช้า อากาศดีจนไม่อยากลุก สิ่งแรกที่ทำคือถลาไปหาหน้าต่างด้านหลังห้อง หูยยย หมอกกกก รีบคว้าโทรศัพท์กับกล้องวิ่งออกมา ฝนตกนิด ๆ แต่มีหมอกจาง ๆ กระจายอยู่ทั่วปาง อยากร้องกรี๊ดดัง ๆ แต่เกรงใจคนที่หลับนอนกันอยู่ เกรงใจวันเพ็ญ กับ ขุนศึก ด้วย เดี๋ยวจะตกใจกันไปเปล่า ๆ ทำได้แค่หายใจเข้าลึก ๆ ให้เต็มปอดเย็น สดชื่น
เรายังไม่ได้บอกใช่มั้ยว่า nursery ที่นี่คือ อืมมม... เอาตามจากที่ facebook page ของ Maesa Elephant Nursery บอกไว้เลยดีกว่านะคะ... เนื่องด้วยสถิติจำนวนช้างที่น้อยลง ปางช้างแม่สาจึงได้ทุ่มเทความรู้และความเชี่ยวชาญของเราเพื่อช่วยเพิ่มจำนวนช้างในประเทศ ความสำเร็จในการสืบพันธุ์ช้างของเราถูกถ่ายทอดผ่านเนอสเซอรี่ช้างแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ที่ลูกช้างตัวน้อยอาศัยและใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กอยู่กับแม่ของตนและควาญช้างซึ่งให้การดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เรายังส่งเสริมสืบสานสายพันธุ์ช้างไทยโดยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในการศึกษาและพัฒนาการสืบพันธุ์ของช้าง ทั้งแบบตามธรรมชาติและการผสมเทียม...
เริ่มเห็นควาญช้างมาดูแลช้างในปกครองกันแล้วค่ะ เห็นว่าตื่นกันตั้งแต่ตี 5 มาทำความสะอาดคอก ดูความเรียบร้อย แล้วก็ให้อาหาร หญ้าน่ะค่ะ ที่นี่เค้าจะมีรถวนส่งหญ้ากับกล้วยให้กับทุกคอก มาเต็มรถกันเลยทีเดียว เราไม่แน่ใจว่าเค้าเอามาให้ตอนไหนกันบ้าง แต่ตอนบ่าย ๆ เราก็เห็นนะคะ
ได้ยินเสียงอะไรไกล ๆ อ้าว ช้างวิ่งแข่งกับควาญไปที่ลำธารเพื่ออาบน้ำ เรายืนขำ คือช้างวิ่งน่ะ วิ่งจริงจังด้วยนะ เออ ชีวิต จะชิวและแฮปปี้อะไรกันขนาดนั้นที่นี่
รีบอาบน้ำสระผม เพื่อไปเล่นกับ ขุนศึก วันนี้โปรแกรมเริ่ม 9 โมง แต่นัดกับน้องแม็กซ์ (ผู้นำโปรแกรม) 8 โมงเพราะเป็นเวลาอาหารเช้า เกรงใจน้องมาก ต้องมาเป็นธุระทุกสิ่งอย่างเลย ถ้าน้องนำโปรแกรมอื่นน่าจะเบากว่า ขอพื้นที่เพื่อกล่าวขอโทษไว้ ณ ที่นี่ หากเราทำอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือรบกวนไป เราไม่ได้เจตนาค่ะ ขุนศึกนี่ เช่นเคย เห็นเราหรือใคร ๆ มายืนที่คอกต้องวิ่งเข้าหา วิ่งเลยนะ ต้องมาชวนเล่นนี่นั่น แล้วดูความซน บางทีน้องเล่นจนขานี่ติดเชือก คือน้องพยายามจะออกมา เราก็เผลอเนอะ ตอนแรกตกใจ เอ้ย... ขาน้องติดเชือก พยายามจะดันขาน้องกลับไป ไม่ขยับ!! น้องแม็กซ์บอกว่าเห็นแบบนี้นี่ 200 กิโลเลยทีเดียวโอ้ว พระเจ้า ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ขออวดความน่ารักของ ขุนศึกอีกซักนิด
อ้อๆๆๆ... ก่อนจะกลายเป็นบล็อกไม่มีสาระ มีอะไรจะบอกแหละเกี่ยวกับลักษณะนามของช้าง ช้างเลี้ยง เราจะเรียกว่า เชือก ช้างป่า เราจะเรียกว่า ตัว และจะมีช้างสำหรับพระราชพิธี อันนั้นเรียกว่า ช้าง นะคะ
ใกล้ 8 โมง เราเลยมานั่งรอน้องอยู่หน้าบ้านพัก น้องก็ออกมาตรงเวลา ที่นี่ชิว ๆ แต่เค้ามีวินัยกันมากนะคะ ไม่ว่านัดอะไรจะตรงเวลา ไม่ต้องให้รอ เราชอบมาก ทานอาหารเช้า... สำหรับ 4 คนอีกแล้ว เริ่มคุ้นเคย เลยบอกว่าขอน้อยกว่านี้เถอะ มันเสียดายเวลาทานไม่หมด อย่างวันนี้ทานแค่ข้าวต้มกับ omelette แล้วก็ชาร้อน อิ่มมาก
ทานเสร็จ กลับมาที่ห้อง เริ่มรู้สึกตัวว่ามึน ๆ อาจจะเพราะตากฝนแต่เช้าเมื่อวานนี้ เลยทานไทลินอลกันไว้ก่อน ก็กะว่าจะเอายาติดตัวไปด้วยแต่ลืม กลัวปวดหัว กลัวอาเจียน แล้วจะเป็นภาระคนอื่น แต่ที่รู้แน่ ๆ อย่างนึงคือวันนี้ยกขาไม่ขึ้นแล้ว เข้าใจที่น้องต่อบอกไว้เมื่อวานละว่าจะปวดต้นขา เราก็ยังชิวนะเมื่อวาน ไม่เห็นจะปวด ฉันเก่ง ที่ไหนได้ วันนี้แหละยกขาไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว และฝ่ามือก็ยังเจ็บอยู่ น้องต่อพาปางขวัญจากป่าที่มัดไว้เมื่อคืนมาอาบน้ำ แล้วก็มาที่ nursery และเราได้รับรู้ว่าเช้านี้จะไปที่ลานโชว์ที่อยู่ห่างออกไปนี้ดเดียว เดินไม่ถึง 3 นาที และต้องนั่งช้างไป ฮะ?? ไม่ถึง 3 นาทีเนี่ยนะ เลยแกล้ง ๆ อ้อนน้อง ๆ ต่อรองว่าจะไปลานโชว์นี่เดินไปได้มั้ย มันใกล้แค่นี้ พี่เป็นคนเดินเร็ว แป๊บเดียวถึง น้องแม็กซ์บอก ไม่ได้ (เริ่มมีเสียงโหด ) เดี๋ยวพี่ต้องเดินขบวนด้วย เดี๋ยว ๆ นะ ใจเย็น ๆ เดินขบวนอะไร ไม่มีในโปรแกรม จะอิดออด แต่เริ่มมีนักท่องเที่ยวคนอื่นเดินมาเยอะขึ้น เลยไม่กล้างอแง จำเป็นต้องตะกายขึ้นช้างอย่างยากลำบาก เพราะอย่างที่บอกขายกไม่ขึ้นอย่างแรง และเมื่อเห็นท่าว่าจะไม่รอดที่ลานโชว์แน่ ๆ แล้ว เลยหันไปบอกน้องต่อที่นั่งอยู่ด้านหลังว่าเอาเดินธรรมดา ไม่เอายกงวงงกงา ไม่เอาท่าน่ารักนั่งพนมมือไหว้นักท่องเที่ยวอะไรทั้งสิ้นสิ่งนะ ต่อถึงกับหัวเราะ
วันนี้ปางขวัญก็มีกลิ่นของปางขวัญ... แต่เรารู้สึกว่าปางขวัญหอมที่สุด
วันนี้วันอาทิตย์ค่ะ นักท่องเที่ยวเลยค่อนข้างเยอะ ตอนเช้าก่อนแสดงโชว์ที่ลาน ควาญจะพาช้างไปอาบน้ำก่อน และช่วงรออาบน้ำ ก็จะให้นักท่องเที่ยวได้ชมและป้อนอาหาร การอาบน้ำช้างจะทำกันตอนเช้าและเย็น ตอนเช้าเป็นการทำความสะอาดเค้าเพราะเวลาเค้านอน เค้านอนเอนกายลงไปที่พื้นดินเลยค่ะ ส่วนตอนเย็นนี่เป็นการทำความสะอาดด้วย แต่ที่สำคัญกว่าคือเป็นการลดความร้อนในตัวช้างค่ะ และการอาบน้ำทำได้ 2 แบบเลยนะคะ จะใช้สายยางฉีด หรือจะให้เค้าอาบที่ลำธารก็ได้ค่ะ วันนี้มีเงินติดตัวบ้างเล็กน้อย เลยไปซื้อกล้วยมาให้ปางขวัญ เป็นกล้วยที่อวบอิ่มมาก เลยแอบเด็ดทาน หวานนนน เลยทานอร่อยเลย คุณพยาบาลของปางหันมาถามด้วยความเป็นห่วงว่าหิวเหรอ ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเหรอ มือสั่นเลย อ่า... ที่มือสั่นนี่คือนั่งช้างมา ยกมือขึ้นมาแล้วมือสั่นเพราะเกร็ง balance ตัวบนหลังช้างง่ะ เปล่าตะกละนะ ส่งรูปให้น้องชายดู น้องเริ่มปลง แย่งกล้วยช้างทานได้อีก ดูพี่คนขายสิคะ น่ารักมาก ซื้อกล้วย ให้อ้อยแถมมาอี๊กก มิสามารถแทะอ้อยได้ ไม่งั้นคงไม่เหลืออะไรให้ปางขวัญฮ่าๆๆ
ภาพตอนอาบน้ำช้างนี้คือเราชอบมาก ช้างอาบน้ำที่ลำธาร ช้างเค้าก็ชอบนะ นอนแช่น้ำสบายใจ ความเสียดายไม่ได้หอบกล้องมาเกิดขึ้นเลยทีเดียว
เมื่อวานเราอาบน้ำปางขวัญโดยใช้สายยาง เพราะน้องเค้ากลัวว่าฝนตกทั้งเช้าแล้วน้ำในลำธารจะไหลแรง วันนี้เราเลยขอ อาบน้ำปางขวัญที่ลำธารนะะะ น้องก็อือ ๆ ถ้าน้ำไม่เชี่ยวนะ... ง่ะ ขัดใจ ... สาธุ ลุ้นขอให้น้ำไม่เชี่ยว เราว่าที่นี่เค้าเซฟนักท่องเที่ยวดีจัง อะไรที่อันตรายเค้าก็ไม่ให้เสี่ยงดีกว่า อย่างเมื่อวานน่ะค่ะ หลังอาบน้ำช้างเสร็จ จริง ๆ ควาญจะต้องพาช้างไปมัดไว้ในป่า แต่น้อง ๆ เค้าไม่ให้เราไป เพราะฝนตกตอนเช้า ทางเดินจะเต็มไปด้วยโคลน เค้าก็เกรงว่าจะไม่สะดวกกับเรา (คงกลัวลื่นจมโคลนละจะฉุดขึ้นมาไม่ได้แน่ ๆ อ่ะ )
เราเคยดูการแสดงช้างที่สวนอะไรซักที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ เรามีความรู้สึกว่ามันก็แค่เอาช้างมาฝึกเพื่อให้รับแขก แต่เรามาที่นี่ เราเห็นว่าช้างที่แสดงโชว์ดูเค้าน่ารักจัง ดูร่าเริง เหมือนเค้าก็ดีใจที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวมาดูเค้าน่ะค่ะ ปางขวัญเราเตะฟุตบอลด้วยนะ เก่งที่สุด เรานั่งดูไปเรื่อย ๆ จะมีโชว์ต่าง ๆ พอมาถึงช้างวาดรูป เราก็ เอ๊ะ ทำไมมีแต่ช้างอายุน้อยลงมาหน่อย น้องบอกว่าเพราะช้างอายุน้อย เค้ายังสนุกกับการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเป็นช้างที่อายุเยอะแล้ว เค้าก็ดูไม่แฮปปี้แล้วที่จะทำ เราก็ เอ้ยย ดีอ่ะ ไม่บังคับช้างด้วย ปลื้ม ๆ (คือวาดรูปนี่ จริง ๆ ก็ควาญแหละ ที่เป็นคนสั่งเป็นคนผสมสีให้ น้องหันมาถามว่าจริง ๆ ช้างตาบอดสีหรือเปล่า เลยต้องให้ควาญผสม เอ่อ... เดี๋ยวนะ ถามพี่แล้วพี่จะถามใคร แต่ตอบไปว่าถ้าช้างผสมสีได้เอง ก็คงเก่งเกินช้างละจ้ะ )
วาดเสร็จปุ๊บ ติดราคาปั๊บ
จบโชว์ น้องบอก พี่ขึ้นช้างเลยครับ เราจะไปบ้านโต้งหลวง... ฮะ?? ขึ้นช้างอีกละ อ่า นักท่องเที่ยวเยอะ จ้ะ พี่ไม่กล้างอแง
บ้านโต้งหลวง ที่ ๆ เรามางานบุญกันเมื่อวานนี้แหละ เป็นหมู่บ้านที่จะมีชาวเขาอยู่ 7 หรือ 8 เผ่านี่แหละค่ะ มีเผ่าอะไรบ้างน้องเค้าบอกนะ แต่เราจำได้ไม่หมด แล้วเราจะไม่หาข้อมูลตรงนี้ด้วยว่ามีอะไรยังไง เพราะบล็อกของเราเป็นบล็อกประสบการณ์การท่องเที่ยว เราจะเขียนตามที่เราเห็น รับรู้ สัมผัส และเท่าที่สมองอันน้อยนิดของเราจะจำได้ เช่นเคย... no การเมืองและความขัดแย้งนะจ๊ะ จริง ๆ ก่อนที่จะมางานบุญเมื่อวาน น้องแม็กซ์บอกไว้ว่าไม่อยากให้มองเป็น Human Zoo หรืออะไร เมื่อวานหนึ่งในหัวข้อที่เราคุยกับน้องอันนึง คือ เรื่องการค้ามนุษย์ เพราะด้วยงานของเรา และงานของน้องที่เคยได้ทำมา มันมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และสาเหตุที่คุย ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ปางช้างนะคะ แต่เกี่ยวกับว่าเคยทำงาน หรือ project อะไรกันมาบ้าง และเอาความรู้ ประสบการณ์ต่าง ๆ มาแชร์กัน แล้วเรา หรือแม้แต่น้องแอนตี้เรื่องนี้มาก เราไม่อยากออกตัวแรง เอาเป็นว่านี่เป็นสิ่งที่เราได้สัมผัส ลองไปเที่ยวบ้านโต้งหลวงในแบบของเรากันเถอะ
ถึงบ้านโต้งหลวง นักท่องเที่ยวคนอื่นเค้าเข้ากันหน้าประตูหมู่บ้านสวย ๆ นี่นั่งช้างมาค่ะ สภาพย่ำแย่มาก เพราะขายกไม่ขึ้น มอมแต่เช้าเพราะใส่ชุดเมื่อวาน ไม่เหม็นนะ ดมแล้ว แหะๆๆ (คือจริง ๆ น้องแม่บ้านเค้าจะเอามาให้เปลี่ยนแหละแต่เราบอกไม่ต้องละ เพราะใส่ไปแล้ว เมื่อวานเราล็อคห้องก่อนไปด้วยอ่ะค่ะ น้องเค้าเลยเอาไปวางไว้ให้ในห้องไม่ได้) เดินเข้าไปก็ได้เวลาอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารในหมู่บ้านก่อนเลย อากาศดี เย็นสบาย ได้กลิ่นธรรมชาติ และสงบ เราชอบมาก อาหารเที่ยง มาแบบ 4 คนทานอีกละ นี่เป็นปัญหาของเราอย่างเดียวที่นี่จริง ๆ นะ อาหารเยอะมาก อร่อยด้วย แต่เราทานไม่เคยหมดเลย
ทานเสร็จก็เดินชมหมู่บ้าน มีนักท่องเที่ยวมาเรื่อย ๆ นะคะ ที่บ้านโต้งหลวงมีแปลงนาสาธิตให้กับชาวบ้าน จริง ๆ ข้าวที่ปลูกนี่ไม่พอสำหรับชาวบ้านทั้งหมดหรอก ก็จะมีข้าวมาให้ แถว ๆ นี้มีร้านค้าที่ขายของสดนะคะ เราถามน้อง น้องเค้าเลยชี้ให้เราดูเมื่อวานตอนแว้นมากันน่ะค่ะ เราสังเกตว่ามีแต่ผู้หญิง น้องบอกว่า ผู้ชายไปทำงาน ซึ่งก็เป็นควาญนั่นล่ะ คุณคนที่เรามานั่งคุยด้วยตอนรองานบุญเมื่อวานเป็นชาวเขาเผ่ากะยอ เผ่านี้จะใส่ตุ้มหูใหญ่ ๆ ใส่ห่วงที่ขาค่ะ ถามว่าถอดออกบ้างมั้ยเค้าบอกว่ายังไม่ถอด แต่ถ้าใส่นานไป แก่กว่านี้ ถ้ามันเจ็บก็ต้องถอด เดินไปอีกนิดก็เป็นบ้านชาว Kayan Lahwi หรือที่เราเรียกกันว่า กะเหรี่ยงคอยาว เค้าเป็นจุดสนใจที่สุดเลยนะเราว่า เราเฉย ๆ นะ แต่ที่เราสนใจคือวัฒนธรรมของกลุ่มคนทั้งหมู่บ้านนี้ที่ต่างไปจากวัฒนธรรมของเรามากกว่า มีบ้านดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง เค้าจะนอนกันข้างกองไฟ เราแบบ... เสียวไฟจะไหม้จริงจริ๊งงง น้องบอกว่าเค้าจะดับไฟก่อนนอน อันนี้เป็นบ้านใต้ถุนสูง เราบอกไม่ใช่บ้านชั้นเดียวติดดินเหรอ น้องบอกอันนั้นอีกเผ่านึง จะว่าไป เราชอบน้องสาวคนนี้มาก น้องอายุ 10 ปี น้องไม่แค่หน้าตาน่ารัก น้องยังฉลาดอีกด้วย น้องแม็กซ์ถามว่ารู้ตัวมั้ยว่าน่ารัก น้องตอบว่า รู้ค่ะ ส่องกระจกก็รู้ น้องแม็กซ์ถึงกับเงียบ ชอบ ๆ อ่ะ ที่นี่เค้าจะทอผ้าขายค่ะ เราว่าสวยนะ แต่ผ้าเค้าผืนเล็ก เราไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็เลยไม่ได้ซื้อมา ของที่พวกเค้าขายส่วนมากจะเหมือน ๆ กันทุกร้านค่ะ เราไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย การทอผ้าของคนที่นี่ค่ะ น้องคนนี้เป็นคนที่สวยที่สุดของเผ่า สวยจริง ๆ นะ สวยแบบเรามองค้าง น้องแอบมีสร้อยคอชิค ๆ เก๋ ๆ ด้วยนะคะ
แต่ๆๆ มีเผ่านึงขายของต่างออกไปนะคะ เป็นเผ่า เดี๋ยวนะจำไม่ได้ อาข่า หรือเปล่า ไม่แน่ใจ นั่นล่ะค่ะ เค้าจะทำผ้าย้อมครามขายแล้วก็จะมีเครื่องเงิน มีแหวน มีกำไล ชอบน่ะ สวยแต่เราไม่ได้เอาเงินติดตัวไปเยอะนัก อดค่ะ มีครบเลย มีทั้ง silver และ sterling silver (silver 925 น่ะค่ะ)
ที่นี่ เราสังเกตเห็นมีเด็ก ๆ และเด็กที่นี่เค้าไปเรียนกันนะคะ ก็จะไปเรียนที่โรงเรียน ด้านล่าง รวมกับเด็กในจังหวัดคนอื่น ๆ เราเห็นนะตอนขากลับจากปางช้าง เราถามว่าแล้วพวกกลุ่ม Kayan Lahwi ล่ะเค้าก็เรียนรวมกับเด็กคนอื่น ๆ เหรอ น้องบอกว่ามีโรงเรียนข้างบน อืมม...เราไม่แน่ใจนะว่าโรงเรียนนี้ถูกใช้บ่อยไหม ฟังจากน้องแม็กซ์ ผู้ซึ่งเห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิต กล่าวไว้ว่าถ้าเป็นเด็กที่มาอยู่ที่นี่ พวกเค้าก็พยายามจะผลักดันให้เด็ก ๆ ทุกคนมีการศึกษา ขอบคุณจริง ๆ ถ้าทำแบบนั้น
รูปที่มีทุกโรงเรียน... ใจหวิว ๆ อีกแล้ว...คิดถึง...
ข้างบนใกล้กับโรงเรียนมีโบสถ์สำหรับคนที่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยค่ะ เราชอบนะ การที่อยู่ร่วมกันได้โดยไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งชนเผ่า ไม่แบ่งศาสนา ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็อยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกัน คุยกับพวกเค้า พวกเค้าก็บอกว่าเค้าแฮปปี้ และอยากลงมาอยู่ที่นี่ เพราะเค้ายังมีรายได้จากการขายของให้กับนักท่องเที่ยวบ้าง คุณภาพชีวิตเค้าก็ดีขึ้น อยากสนับสนุนเค้านะ แต่เราไม่ใช่สายช้อปน่ะ แถมไม่ชอบหอบของเยอะด้วย
ตอนบ่าย ยาเริ่มหมดฤทธิ์ บวกกับที่เดินไปนู่นนี่โดยไม่มีน้ำตาลเข้าตัว เราเริ่มรู้สึกปวดหัว แต่เพราะไม่มากเราเลยไม่ได้บอกอะไรใคร แต่น้องต่อเหมือนสังเกตเห็น แต่เราไหว เราบอกว่าถ้าเราไม่ไหวแล้วเราจะบอก น้อง ๆ ย้ำว่าถ้าไม่ไหวให้บอกนะ เรารับปาก ไม่ใช่อะไร เริ่มสนุกกับการนั่งหลังช้าง แหะๆๆ และมันทำให้เรารู้สึกว่าน้อง ๆ เค้าเซฟคนที่เค้าต้องดูแลเต็มที่มาก ๆ สังเกตอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ทำโปรแกรม น้อง ๆ จะได้รับโทรศัพท์จากทางปางช้างตลอด สอบถามความเรียบร้อย คือเหมือนเค้า coordinate กันตลอดเลยน่ะค่ะ เอาใจใส่นักท่องเที่ยวดีมาก ๆ เราต้องขอขอบคุณมาก ๆ ไว้ ณ ที่นี้ กลับมาถึง nursery ทีแรกก็ว่าจะพักตามที่น้อง ๆ บอกแหละ แต่พอมาในที่ที่ร่มรื่นและลมพัดเย็นก็ดีขึ้น อยากอยู่กับปางขวัญด้วย เริ่มติดปางขวัญ ถามน้องต่อว่าเอากลับบ้านได้มั้ย น้องต่อซึ่งปกติจะเงียบ ไม่ค่อยพูด ตอบยิ้ม ๆ ว่าได้ รูปนะ... พระเจ้า น้องต่อใจร้าย ไม่พัก ก็เลยเล่นกับขุนศึก (อีกแล้ว) คุณศึก ผู้ดูแลอีกคนของที่นี่ก็ยืนอยู่ด้วย อ่อ ๆ นี่ก็นามสมมติอีกแล้วนะ สมมติหมดอ่ะชื่อคนที่ปาง ซึ่งขณะที่กำลังเล่นกับขุนศึกอยู่มีสัตวแพทย์ที่ประจำปางช้างมาพอดี เลยได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้นอีก สุดจะคุ้มอ่ะทริปนี้
กำลังเล่นอยู่ น้องต้นพา รุ่งฟ้า กับ แม่เพิ่มพูน กลับมาจากอาบน้ำ รุ่งฟ้า กับ ขุนศึก ก็เลยได้เจอกัน ซนเหมือนกัน เมื่อมาเจอกัน ก็นะ เป็นอย่างที่เห็น คุณศึกบอกว่าคิดว่าจะทำคอกให้เค้าได้วิ่งเล่นด้วยกันเหมือนกัน รอให้โตกว่านี้ก่อน อ๊า... แค่คิดภาพตามก็ฟินละ รีบทำเร็ว ๆ สิ จะมาเล่นด้วย ฮ่าๆๆ และจากรูปนี้ทำให้รู้ว่า...รุ่งฟ้ากำลังจะกลายเป็นหมูแล้วจริง ๆ ดูคอดิ กี่ชั้นกันนั่น
วันนี้น้อง ๆ ตามใจให้อาบน้ำปางขวัญที่ลำธารได้ น้ำเย็นจนอยากลงไปแช่แทนปางขวัญ
อาบน้ำปางขวัญเสร็จ ขอต่อรองไปส่งปางขวัญในป่า ติดปางขวัญแล้ว แต่โคลนยังมีเต็ม เละอยู่ น้อง ๆ เลยให้ส่งแค่ครึ่งทาง เพราะเริ่มเดินได้ยาก ลื่นตลอด กลับมาอาบน้ำ สภาพวันนี้นอกจากมอมแมมแล้วยังเปียกปอนอีก น้องแม็กซ์ทนไม่ไหว ต้องบอกว่าพรุ่งนี้เปลี่ยนชุดเหอะ แหะๆๆ บ้าาา... พี่ไม่เหม็นนะ ชิ!! ทานอาหารเย็นที่ nursery ค่ะวันนี้ อาหารเยอะโอเว่อร์อีกเช่นเคย กับข้าวเหมือนกับที่ทานตอนกลางวันเลย บังเอิญมาก ฮ่าๆๆ เราง่าย ๆ อะไรก็ทานได้อยู่แล้วนะเอาจริง ๆ ไม่ค่อยเลือก แค่ไม่ทานแครอท ไม่ทานเผ้ด แค่นั้นแหละค่ะ เข้านอนคืนนี้ไม่ต้องพูดถึง ร่างพัง พลิกตัวไม่ได้เลยยยยย วันนี้เราได้คิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เราเริ่มลืมตามองรอบตัวมากขึ้น โลกของเราเริ่มไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ และโต๊ะทำงาน และโลกในการเที่ยวพักผ่อนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ ของเราก็เริ่มใบใหญ่ขึ้นโดยไม่ต้องไปไหนไกล ๆ เหมือนที่ผ่าน ๆ มาเลย รักที่นี่... รักประเทศไทย... รักปางช้างแม่สา... รักน้ำใจและความเป็นกันเองของทีม nursery ทุก ๆ คน... และที่สำคัญ... รักปางขวัญ... รักช้างไทย...
วันนี้แอบเห็นน้องต่อนั่งหลังช้าง เราถือว่าเย้ย ซักวันพี่จะนั่งให้ได้แบบต่อ ฮ่าๆๆ
วันนี้ได้เรียนรู้ว่า...
ความเห็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครคิดแทนใครค่ะ เราไม่รู้หรอกว่าช้างรู้สึกยังไง อย่าคิดแทนช้าง ช้างเจ็บปวด ช้างไม่มีอิสระ ช้างอยากอยู่ในป่า บลาๆๆ จริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะคะ และ คน ก็เช่นกันค่ะ
หมายเหตุ - อัตราค่าเข้าชมหมู่บ้านโต้งหลวง ราคา 500 บาทค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 31 กรกฎาคม 2560 เวลา:3:38:08 น.
ทำบล็อกได้ดี เก็บรายละเอีดได้มา สำนวนสบายๆเป็นธรรมชาติ
ทำบล็อกท่องเที่ยวไทย เป็นอย่างนี้แหละครับ ทำแล้วสบายใจ ไม่ไปขัดแย้งกับใครเหมือนบางบล็อก ที่ทำแล้ว เครียดครับ โดย: พายุสุริยะ วันที่: 31 กรกฎาคม 2560 เวลา:21:19:09 น.
|
melody_bangkok
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีโลกส่วนตัวสูงมากมาย แต่ในบางครั้งก็พยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้าไปในโลกส่วนตัวของคนอื่น... :P ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... ^^ All Blog
Friends Blog
Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |